เข้าสู่ระบบเมื่อขึ้นมานั่งบนรถแท็กซี่ และบอกจุดหมายปลายทางเรียบร้อยแล้ว กมลฉัตรก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก เธอนั่งนิ่งอยู่สักพักจึงล้วงโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าถือออกมา วันหยุดสองวันนี้ เธอยังไม่พร้อมจะพูดคุยกับแสนกล้า ดังนั้นหญิงสาวจึงบล็อกเบอร์โทร. บล็อกแชต บล็อกทุกช่องทางการติดต่อ หวังว่าก่อนถึงวันจันทร์ เธอจะคิดออกว่าควรจะพูดกับเขาอย่างไรดี
กมลฉัตรกำโทรศัพท์ไว้ในสองมือ นึกถึงเมื่อคืนแล้วสองแก้มก็ร้อนผ่าว เธอหลงระเริงไปกับเขา แถมยังขึ้นเองด้วย ทั้งที่เป็นครั้งแรกของเธอแท้ ๆ
กมลฉัตรถอนหายใจอีกครั้ง พอดีกับเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้น เธอหลุบตามองหน้าจอ พอเห็นว่ายายโทร. มา เธอจึงรีบสไลด์นิ้วบนหน้าจอเพื่อรับสาย
“ยายจ๋า... คิดถึงฉัตรเหรอ”
“ฉัตร...” ยายเรียกมาตามสาย แล้วก็เงียบไป
“ยายเป็นอะไรหรือเปล่า”
“ยายไม่เป็นอะไร ฉัตรเอ๊ย! กลับบ้านเรานะลูก กลับมาหายาย ฮึก”
“ยายเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม”
“ฉัตร... ตั้งสติดี ๆ นะลูก พ่อกับแม่ของฉัตรเสียแล้ว กลับมาหายายนะลูก กลับบ้านเรา กลับมาเร็ว ๆ กลับมาหายาย”
พอยายพูดจบ กมลฉัตรก็ได้ยินเสียงผู้คนรอบข้างพากันร้องเรียกยาย แล้วสายก็ตัดไป
ยายล้อเล่นเหรอ? หรือตอนนี้เธอกำลังฝันไป
กมลฉัตรลดมือลงมาวางบนตัก เธอกำโทรศัพท์ไว้ในมือและบีบมันแน่น หญิงสาวนั่งเงียบเพราะตกใจข่าวร้ายจากทางไกล รู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก เจ็บตรงอกข้างซ้ายเหมือนถูกใครเอาค้อนทุบแรง ๆ
เสียงวิทยุในรถแท็กซี่ : ผู้ตายชื่อนายกมลกับนางฉัตรลดา ฝ่ายชายเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมชื่อดัง คนยิงคือนางฉัตรลดาเป็นภรรยาของผู้ตาย เหตุเกิดเมื่อคืน เธอจ่อยิงสามีคาบ้านพัก แล้วยิงตัวตายตาม คาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องชู้สาว เพราะฝ่ายชายมีผู้หญิงมาติดพันหลายคน...
กมลฉัตรนั่งนิ่ง น้ำตาไหล ทว่าไร้เสียงสะอื้น เธอกลั้นหายใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ ปาดน้ำตาด้วยหลังมือ แล้วบอกแท็กซี่ว่า
“คุณลุงคะ เปลี่ยนไปสนามบินนะคะ”
แสนกล้าหงุดหงิดและหัวเสียมากที่ติดต่อกมลฉัตรไม่ได้ เขาอยากพูดคุยตกลงกับเธอให้ชัดเจน เขารู้ว่าเมื่อคืนเป็นครั้งแรกของเธอ จึงรู้สึกผิดอยู่ไม่น้อยที่ทำแบบนั้นกับเธอ อยากจะถามเธอว่าจะเอายังไงก็ว่ามา อยากให้รับผิดชอบ เขาก็จะรับผิดชอบ อยากให้บอกพ่อกับแม่ยกขันหมากไปสู่ขอ เขาก็จะทำ แต่ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาบนโซฟาในเช้าวันนั้น กระทั่งวันนี้ที่เขามาทำงาน เขาก็ยังติดต่อเธอไม่ได้ เพราะหญิงสาวลางาน เช้าวันนั้นเขาไปหาเธอที่คอนโดฯ เธอก็ไม่อยู่ แบบนี้เหมือนเธอจงใจหลบหน้าเขาอย่างไรอย่างนั้น
“เป็นอะไรครับพี่แสน หงุดหงิดอะไรหรือเปล่า ทำไมหน้าบูดเหมือนตูดลิง” รุ่นน้องที่ทำงานเอ่ยแซว เมื่อเห็นแสนกล้าหน้าบูดบึ้งตั้งแต่เช้ายันบ่าย
แสนกล้ามองหน้าคนถามแล้วถอนหายใจแรง แต่ไม่ยอมตอบ ไม่ยอมพูดอะไร เขาหันหน้าเข้าจอคอมพิวเตอร์ ทำงานต่อไป พอรุ่นพี่ไม่ตอบ รุ่นน้องก็ไม่ถามต่อ เพราะกลัวจะถูกเตะ
แสนกล้านั่งทำงานด้วยอารมณ์ขุ่นมัว เขาไม่ค่อยมีกะจิตกะใจทำงานเท่าไร ไม่มีสมาธิเลย ถอนหายใจเฮือกใหญ่ หยิบโทรศัพท์มือถือโทร. หากมลฉัตรอีกครั้ง และก็เหมือนเดิม... เขาติดต่อเธอไม่ได้
“หรือว่า แอบหนีกลับบ้านไปแล้ววะ” เป็นสมมุติฐานที่เป็นไปได้น้อยที่สุด แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย
แสนกล้าตัดสินใจโทร. หามารดา แต่ท่านไม่รับสาย เขาจึงโทร. หาบิดา รอสายครู่เดียว ท่านก็รับสาย
“ว่าไงแสน มีธุระอะไรหรือเปล่า”
แสนกล้าขมวดคิ้วเล็กน้อย เพราะเขาได้ยินเสียงคนหลายคนคุยกันดังเข้ามาในสายด้วย
“พ่ออยู่ไหนเนี่ย ทำไมมีเสียงคนคุยกันหลายคน”
“อยู่บ้านแม่ใหญ่นวล มาช่วยงาน แม่เอ็งก็มา ช่วยงานอยู่ในครัวโน่น”
“ช่วยงานอะไรกันครับ ผมไม่เห็นรู้เรื่อง”
พ่อเขาเป็นกำนัน การไปช่วยงานชาวบ้านถือเป็นเรื่องปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็คือท่านไปช่วยงานที่บ้านของแม่ใหญ่นวลซึ่งเป็นยายของกมลฉัตร บ้านของกมลฉัตรจัดงานอะไร เขาไม่เห็นรู้เรื่องเลย
“งานศพลดา แม่ของฉัตรไง นี่เอ็งไม่ดูข่าวเลยเหรอ ข่าวออกดัง”
“น้าลดาเสียแล้วเหรอครับ”
“ไม่ใช่แค่ลดา ผอ.กมล ก็ตายแล้ว ตายวันเดียวกัน แต่แยกจัดงานศพ เพราะฝ่ายญาติพี่น้องของ ผอ.เขาไม่พอใจที่ลดายิง ผอ.เห็นว่าตัดขาดกันไปเลย ไม่นับญาติกันแล้ว”
“ฉัตรอยู่ที่นั่นไหมครับ”
“ก็ต้องอยู่สิวะ ฉัตรมาถึงบ้านตั้งแต่วันก่อนแล้ว มาจัดการเรื่องเอาศพออกจากโรงพยาบาล และจัดงานศพให้แม่ ส่วนศพของ ผอ.ก็ยกให้ญาติฝ่ายนั้นเขาจัดการกันเอง ไม่ยุ่งไม่เกี่ยวกัน ฉัตรมันไม่ร้องสักแอะ แต่แววตาเศร้ามาก ใคร ๆ ก็เป็นห่วงมัน ภายนอกมันดูเข้มแข็ง แต่ไม่รู้ข้างในเป็นยังไง”
กำนันไสวพูดไปยืดยาว กว่าจะรู้ตัวว่าลูกชายวางสายไปแล้วก็ผ่านไปเป็นนาที
“ยายใช้อะไรหมักเนื้อเหรอ ทำไมมันเหม็นจัง”“ยายก็ใช้สูตรเดิมนั่นแหละหมักเนื้อ ใช้สูตรนี้มาตั้งแต่เอ็งยังไม่ทันเกิดโน่น เมื่อก่อนเอ็งก็ชอบนี่นา”“ถ้างั้นคงเพราะฉัตรนอนดึกเองแหละ เมื่อคืนดูซีรีส์เกาหลีดึกไปหน่อยจ้ะ”“เอ็งนี่มันน่าตีจริง ๆ งั้นก็หาอะไรกินรองท้องสักหน่อย แล้วก็ไปพักผ่อน”“จ้า… ยาย”กมลฉัตรยิ้มแหย สีหน้าและน้ำเสียงที่แสดงถึงความเป็นห่วงของยายทำให้เธอรู้สึกผิด ก็มีกันอยู่แค่สองคน หากใครสักคนเป็นอะไรไปอีก อีกคนก็ไม่รู้ว่าจะอยู่อย่างไร แม้รู้ว่าไม่มีใครหนีความตายได้ แต่เธอก็อยากขอเวลาให้เธอกับยายได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ไปอีกนาน ๆพอกลับเข้ามาในครัวแล้วได้กลิ่นเนื้อย่างอีกครั้ง กมลฉัตรก็แทบอ้วกพุ่ง หญิงสาวกลั้นหายใจ จกข้าวในกระติ๊บมาปั้น แล้วหยิบเกลือในกระปุกมาโรยใส่ปั้นข้าวเหนียว ก่อนจะวิ่งออกจากห้องครัวกลับเข้าห้องนอนของตัวเองหลังจากกินข้าวเหนียวที่ปั้นติดมือเข้ามาในห้องหมดแล้ว กมลฉัตรก็ถอดผ้าซิ่นออกเปลี่ยนมานุ่งกางเกงขาสั้น หญิงสาวเดินไปหยิบไอแพดที่วางอยู่บนเตียง แล้วมองหาสายชาร์จแบต เธอกวาดสายตามองไปทั่วห้องก็ไม่เห็น จึงวางไอแ
ตอนที่ 3โชคชะตาเล่นตลกทำไมเราไม่ตลกด้วยหรอกนะ2 เดือนผ่านไป“ฉัตรเอ๊ย!”“จ๋า… ยาย”“ยายนึ่งข้าวสุกแล้ว เอาไปรอใส่บาตรได้แล้ว”“จ้า” กมลฉัตรขานรับออกมาจากในห้องนอนของเธอหญิงสาวสำรวจตัวเองที่สะท้อนอยู่ในกระจกเงาตรงหน้า เมื่อเห็นว่าเรียบร้อยดีแล้วเธอจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วออกจากห้อง เดินไปหายายที่ครัวซึ่งต่อเติมออกมาจากตัวบ้านปูนชั้นเดียวห้องครัวกว้างขวาง มีทั้งเตาแก๊สและเตาถ่าน ผนังห้องครัวด้านที่ไม่ติดกับตัวบ้านก่อด้วยปูนสูงประมาณหนึ่งเมตร แล้วต่อด้วยไม้ระแนงจนถึงเพดาน ห้องครัวจึงปลอดโปร่งโล่งตา และมีประตูสำหรับเปิดออกไปหลังบ้านด้วย ที่หลังบ้านมีแปลงผักสวนครัวหลายแปลง ห่างออกไปเป็นทุ่งนาของยาย มีเนื้อที่ราวยี่สิบไร่“กระติ๊บข้าววางอยู่บนโต๊ะนั่นแหละ รีบออกไปรอที่หน้าบ้าน ชักช้าเดี๋ยวก็ไม่ทันพระหรอก”“จ้า…” กมลฉัตรลากเสียงยาวพอแม่ใหญ่นวล… ยายของเธอหันมามองด้วยสายตาดุ หญิงสาวก็ยิ้มกว้าง คว้าเอากระติ๊บข้าวมากอดไว้ แล้วรีบเผ่นออกจากห้องครัวก่อนที่ยายจะเทศนายาวกว่านี้กมลฉัตรสวมเสื้อยืดสีขาวกับผ้าซิ่นไหมสีชมพูลายสวย ผ้าซิ่นที่เธอนุ่งยายของเธอเป็นคนทอเองกับมือ ยายทำ
แสนกล้าเข้าพบหัวหน้างานเพื่อขอลากิจ โดยขอลาไปร่วมงานศพของแม่ของกมลฉัตร แต่หัวหน้างานไม่อนุมัติ เพราะวันนี้พนักงานในแผนกเกิดอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์ล้มพร้อมกันสองคน อีกอย่างเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์กับคนตาย ไม่ได้เป็นญาติพี่น้องกัน เป็นแค่คนรู้จัก หัวหน้างานจึงไม่ให้ลาแสนกล้าโทร. หาพ่ออีกครั้ง คราวนี้กำนันไสวไม่รับสาย เขาจึงโทร. หาแม่ พอแม่ก้านรับสาย เขาบอกท่านว่าขอคุยกับฉัตรกมล แต่แม่บอกว่าหญิงสาวยุ่งมาก ไม่สะดวกรับสาย ให้เขาโทร. หาเธออีกทีตอนค่ำ ๆ บอกแล้วท่านก็วางสาย เขาโทร. กลับไปอีกตั้งหลายสายท่านก็ไม่รับแสนกล้าอยากจะบ้า เขาติดต่อเธอไม่ได้ แถมตอนนี้เธอยังอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่เขากลับไม่ได้อยู่เคียงข้างเธอ ทั้งที่เธอกับเขาเป็นเพื่อนสนิทกัน ทำได้แค่ฝากความห่วงใยผ่านสายลมไปให้เธอแสนกล้าไม่ได้กลับไปช่วยงานศพของแม่ของกมลฉัตร ไม่ได้พูดคุยแสดงความเสียใจกับเธอ เขามัวแต่ทำงานที่กองสุมหัวตลอดทั้งสัปดาห์ มีโอทีทุกวัน แถมเขายังต้องหอบงานกลับไปทำที่ห้องด้วย แต่ละคืนที่ผ่านมาเขาหลับคางานทุกคืน เขาไม่มีเวลาว่างเลย เวลาจะพักผ่อนยังแทบไม่มีแล้วไอ้พนักงานที่เกิดอุบัติเหตุทั้งสองคนก็ต้องนอนโรงพ
เมื่อขึ้นมานั่งบนรถแท็กซี่ และบอกจุดหมายปลายทางเรียบร้อยแล้ว กมลฉัตรก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก เธอนั่งนิ่งอยู่สักพักจึงล้วงโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าถือออกมา วันหยุดสองวันนี้ เธอยังไม่พร้อมจะพูดคุยกับแสนกล้า ดังนั้นหญิงสาวจึงบล็อกเบอร์โทร. บล็อกแชต บล็อกทุกช่องทางการติดต่อ หวังว่าก่อนถึงวันจันทร์ เธอจะคิดออกว่าควรจะพูดกับเขาอย่างไรดี กมลฉัตรกำโทรศัพท์ไว้ในสองมือ นึกถึงเมื่อคืนแล้วสองแก้มก็ร้อนผ่าว เธอหลงระเริงไปกับเขา แถมยังขึ้นเองด้วย ทั้งที่เป็นครั้งแรกของเธอแท้ ๆ กมลฉัตรถอนหายใจอีกครั้ง พอดีกับเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้น เธอหลุบตามองหน้าจอ พอเห็นว่ายายโทร. มา เธอจึงรีบสไลด์นิ้วบนหน้าจอเพื่อรับสาย “ยายจ๋า... คิดถึงฉัตรเหรอ” “ฉัตร...” ยายเรียกมาตามสาย แล้วก็เงียบไป “ยายเป็นอะไรหรือเปล่า” “ยายไม่เป็นอะไร ฉัตรเอ๊ย! กลับบ้านเรานะลูก กลับมาหายาย ฮึก” “ยายเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม” “ฉัตร... ตั้งสติดี ๆ นะลูก พ่อกับแม่ของฉัตรเสียแล้ว กลับมาหายายนะลูก กลับบ้านเรา กลับมาเร็ว ๆ กลับมาหายาย” พอยายพูดจบ กมลฉัตรก็ได้ยินเสียงผู้คนรอบข้างพากันร้องเรียกยาย แล้วสายก็ตัดไป ยายล้อเล่นเหรอ? หรือตอนนี้เธอ
ปากของเขาอุ่นร้อน ลิ้นที่พลิกพลิ้วอยู่ในปากของเธอกระตุ้นอารมณ์บางอย่างในกายสาว ยิ่งจูบก็ยิ่งดื่มด่ำ หลงมัวเมา ลืมเลือนไปแล้วว่าสถานะระหว่างเธอกับเขาแค่เพื่อน เมื่อแสนกล้ากระชากสาบเสื้อเชิ้ตของเธอจนกระดุมขาด ทั้งแถว เขาถอนจูบ แล้วก้มลงไปชิมรสชาติความหวานละมุนของผิวเนื้อสาว กมลฉัตรก็เอาคืนเขาด้วยการกระชากสาบเสื้อเชิ้ตของเขาจนกระดุมขาดทั้งแถว และสัมผัสแตะต้องเขาไปทั่ว แสนกล้าครางในลำคออย่างพอใจ เขาปลดเปลื้องอาภรณ์ชิ้นบนสองชิ้นออกจากร่างสาว ใช้ปากและลิ้นปลุกปั่นและเล้าโลมให้กมลฉัตรหลงเพริดไปกับความเสียวซ่าน ความยับยั้งชั่งใจของสองหนุ่มสาวถูกแอลกอฮอล์กดทับไว้ พวกเขาปล่อยให้สิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นดำเนินไปเรื่อย ๆ กระทั่งสองกายเปลือยเปล่า ไฟสวาทลุกโชนไม่อาจมอดดับโดยง่าย คนที่รู้สึกมากกว่าคือกมลฉัตร และเมื่อแสนกล้ายังมัวแต่เล้าโลม หญิงสาวจึงเป็นฝ่ายขึ้นนั่งคร่อมเขา แล้วขย่มลงเต็มแรงโดยหลงลืมไปว่านี่คือครั้งแรกของเธอ “อื้อ... เจ็บ” คนเจ็บนั่งนิ่ง เกาะบ่ากว้างสองข้างไว้แน่น แถมยังจิกเล็บขีดข่วนผิวแน่นตึงจนเลือดไหลซิบด้วย “ฉันก็เจ็บ เธอแน่นมากเลยฉัตร ครั้งแรกใช่ไหม” “อือ...” “เดี๋ยวมันจะด
กว่ากมลฉัตรจะเบียดผู้คนออกมาจากผับได้ แม่ของเธอก็วางสายไปก่อนแล้ว พอเดินออกมาหน้าผับ หญิงสาวจึงโทร. หาท่าน พอแม่กดรับสาย กมลฉัตรยังไม่ทันพูดอะไร แม่ก็พูดขึ้นมาด้วยเสียงสั่น ๆ “ฉัตร… พ่อไปนอนกับอีนั่นอีกแล้ว มันยังแอบไปเอากัน พ่อไม่รักแม่แล้ว แม่จะเลิกกับพ่อ คราวนี้เลิกจริง ๆ แม่จะเก็บของแล้วกลับไปอยู่กับยาย” บ้านพ่อกับบ้านยายอยู่หมู่บ้านติดกัน ระยะทางห่างกันไม่ถึงสามกิโลเมตร “ไว้พรุ่งนี้ค่อยเก็บของนะแม่ คืนนี้ดึกแล้ว อย่าไปกวนยายเลย” “ฉัตรเข้าข้างพ่อเหรอ” กมลฉัตรถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย มันเป็นเรื่องซ้ำซากที่เกิดขึ้นประจำ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่เธอเรียนมัธยมต้น เธอบอกแม่แล้วว่าจะเลิกก็เลิก ไม่ต้องเป็นห่วงเธอ เธอโตพอที่จะเข้าใจเหตุผลของแม่แล้ว แต่แม่ก็ไม่เลิกกับพ่อสักที ยังอยู่บ้านพ่อ ทั้งที่เธอน่ะ… ย้ายไปอยู่กับยายตั้งแต่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ครั้งแรกแล้ว พ่อทำให้เธอหมดศรัทธาในตัวท่าน ยังดีนะที่พ่อกับแม่มีเธอแค่คนเดียว เธอเลยไม่มีพี่น้องที่ต้องมาร่วมทนเห็นความสัมพันธ์ที่เป็นพิษแบบนี้ พ่อของกมลฉัตรเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยม ประจำอยู่อีกจังหวัด นาน ๆ จะกลับมาบ้านสักครั้ง แม







