ใช้เวลานานพอสมควรกว่า เวเดน ครูซัส แมททริก คูดัส และซันดรู จะประชุมเสร็จ เรียกได้ว่ากว่าจะลงตัวต้องดึงไขสมองอันชาญฉลาดมาเป็นยุทธศาสตร์กันเลยทีเดียว ต่างฝ่ายต่างมีความคิดที่แตกต่าง และการคัดค้านก็เช่นกันที่ทำให้สมาชิกในกลุ่มแข็งแกร่งมากขึ้น เพราะนั่นคือเส้นทางเดินของแผนที่ดีที่สุด ชนิดละเอียดยิบ ไม่มีผิดพลาด ทว่า ก่อนหน้านั้น มิใช่หลังกระทบกระทั่งกันเพราะผู้หญิงคนหนึ่งในตอนนี้ เวเดโน่ไม่เถลไถลดั่งแต่ก่อน เมื่อสรุปวาระการประชุมจบ เขาก็แยกตัวออกมาหาเธอทันที
แต่แล้ว...
กลับพบว่าหญิงสาวกำลังหลับ ชายหนุ่มจึงถอนหายใจโล่งอก เนื่องจากไม่ต้องเห็นหน้าเรียบเฉย ก้มงุนราวกับตุ๊กตาไขลานอีก
เขายอมรับการมีปัญหากับซันดรู เพื่อนที่เคยรบเคียงบ่าเคียงไหล่นั้นทำให้เขาเจ็บสุด ทรวงอกแสบร้อน ในท้องปั่นป่วนปานคนหิวข้าว ทว่า หากต้องแลก หรือให้ถอยห่างจากสาวชาวไทยคนนี้ มันคงลำบากใจไม่แพ้กัน
" ฟู่ววว"
ชายหนุ่มถอดหายใจอีกระลอก พร้อมฝ่ามือหนากุมขมับ หากตบกบาลตัวเองแล้วหายมึนได้ป่านนี้คงทำไปนานแล้ว เขาก้มลงมองไปยังร่างบางที่นอนหงายไร้ความรู้สึก เริ่มต้นตั้งแต่ปลายเท้าส้นเล็กผิวขาวอมชมพูลากยาวมายังมือคู่บางผสานกันบนหน้าตัก พลางทำปากอมลมเสมือนใช้ความคิด เมื่อหยุดอยู่ตรงใบหน้าจืดชืด ทว่าเต็มไปด้วยเสน่ห์มัดใจชาย แพ่งมองไปยังดวงตาคมโตคู่นั้น แล้วหยุดอยู่ตรงนั้น ก่อนนึกย้อนกลับไปยังความทรงจำเดิมๆ ซึ่งผ่านมาได้ไม่นาน
ดวงตานี้ใช่ไหม ที่ถ่างกว้างพยศต่อเขายามไม่พอใจหลายครั้ง บัดนี้เมื่อมันปิดสนิทลง ช่างสง่าเหลือเกิน ขนตายาวงอนเป็นแพสีดำสนิท ลับกับขนคิ้วสีเดียวกัน มันกำลังจะทำให้เขาหวั่นไหว ยิ่งเห็นหยดน้ำตาเกาะค้างอยู่ ก็ยิ่งทำให้หวนกลับมาถามตัวเอง มาเฟียที่จัดว่าร้ายที่สุดกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ บ่งบอกถึงความกล้ำกลืน แสนจะขมขื่นที่ไม่เคยได้รับมาก่อน เขาแหงนหน้าจนลำคอขึ้นสันปูด ก่อนจะโน้มลงไปใกล้ เพื่อจะมองหน้าเธอให้ชัด และช้อนร่างนั้นขึ้นมา
" มันจะต้องไม่มีการสูญเสีย ไม่ว่าจะเป็นเธอหรือ ซันดรู "
แล้วจึงจะพาไปที่รถ เดินโทงๆราวกับสิ่งที่เขาอุ้มอยู่นั้นคือหมอนใยนุ่นเบาหวิวไร้น้ำหนัก ท่ามกลางการแอบมองของเอมิเลีย ที่ลอบอมยิ้มตื้นตันใจแทน
แผ่นหลังขาวเนียนภายใต้เสื้อสีขาว ยามกระทบเบาะพนัก แม้ไม่แรงมาก ทว่ากลับทำให้ตื่นมากกว่าตอนถูกอุ้มออกมาจากรถเสียอีก
.... ช่างเป็นเรื่องที่แปลก
ไศลาตกใจเผลอผลักอกเขา วินาทีนั้นคงไม่แปลกหากเวเดนจะหน้าเสีย หมดราศีความเป็นผู้นำ เพราะต่อหน้าลูกที่มักจะเห็นแต่ตอนเลือดชุ่มตัว หลังสงครามจบและแบกมาทำแผลกับตอนตะเพิดคู่นอนที่ไม่มีความจริงใจเท่านั้น ...นอกนั้นคือความแข็งแกร่ง ที่บริวารต่างพากันเกรงขาม
" พวกมึงออกไปก่อน"
นั่นจึงทำให้เขาจำเป็นต้องไล่ออกไป
" ครับนาย "
เพื่อจะอยู่กับเธอแค่สองคน จนกระทั่งความเงียบเข้าปกคลุม เธอเอาแต่นั่งนิ่งไม่ไหวติง แต่ถ้าเผลอไปโดนตัวเข้าล่ะก็ มีหวังได้เจ็บตัวอีกแน่
"ไหน บอกฉันทีสิ ฉันต้องทำยังไง "
แต่กระนั้นเขาก็ยังมีความกล้าพอที่เปิดประเด็น ทว่า หญิงสาวกลับไม่พูดด้วย
" ไศลา เธอทำแบบนี้ คนอึดอัดจะเป็นฉันนะ "
ในขณะเขายังไม่ยอมแพ้ ยังพูดต่อ พร้อมลอบมองมือบางสลับกับใบหน้าไปด้วย สายตาที่เบือนหนีไปทางอื่นของเธอ ทำเขาลอบถอนใจหลายครั้ง ก่อนจะปะล่อมๆ เลื่อนไปใกล้ เตรียมจะจับมือบาง
แต่แล้ว...
" อย่ามายุ่งกับฉัน! "
เธอกลับหันมากัดฟันกรอด ตะเพิดเขา เวเดนถ่างตามองนิ่ง จะว่าสะดุ้งตกใจก็คงไม่ใช่ เพราะใจเขามันเจออะไรมาเยอะเกินกว่าจะมาหวั่นไหวกับเรื่องแค่นี้ แต่หากเสียใจล่ะก็...คงไม่แน่
" ฉันน่ะ " เขาก้มหน้านิ่ง ราวกับกำลังข่มอารมณ์ตัวเอง ทว่า เหมือนจะไม่อยู่ " เสียใจกับการสูญเสียในครั้งนั้น บอกตัวเองมาตลอดเป็นไปได้จะไม่ให้เกิดซ้ำเดิมอีก เอาแต่โทษตัวเอง...คือคนผิด แต่กลับลืมบางอย่างไปว่า ฉัน..ไม่สามารถลิขิตชะตาใครได้! เข้าใจไหมไศลา!! "
" ....!!! "
พร้อมกับปลายนิ้วจิ้มอกตัวเองและเธอ พลางส่ายหน้า แววตาแดงก่ำดุดัน
" ทั้งเธอ! ทั้งฉัน! อนาคตของชีวิต...ไม่มีใครรู้ " ก่อนคนที่ตกใจจะกลายเป็นเธอเสียเอง
" ฮึก..."
สุดท้ายเสียงสะอื้นราวกับสะอึกนั้นเป็นตัวทำให้เขาใจเย็นลง เวเดนถอนหายใจเฮือก บอกตัวเองให้คุมสติไว้ให้อยู่ อย่าเห็นเธอคือบุคคลอื่นที่เขาสามารถทำอะไรก็ได้ เมื่อคิดจะไม่สานต่อในวันข้างหน้ากันแล้ว
" ไศลา "
" ไม่! อย่ามา.."
" มองหน้าฉัน! "
เขาจึงเปลี่ยนน้ำเสียงตะเพิด เป็นแผ่วเบาแทน เรียกชื่อเธอ พร้อมฝ่ามือสากแนบแก้ม บังคับให้หันกลับมาจ้องตาเขา และบังคับให้แน่นิ่ง
" และฟังฉันให้ดี "
"....."
" ชีวิตของเธอ แต่ไหนแต่ไรแขวนอยู่บนเส้นด้าย ถ้าเธอเป็นแบบนี้ ฉันจำเป็นต้องให้เธอรับรู้มัน เพื่อตัวฉันเอง เธอกำลังจะเกลียดฉันใช่ไหม "
เหมือนจะได้ผล การบังคับนั้น มันสามารถหยุดหญิงสาวให้ฟังเขาได้ เวเดนใช้ดวงตาสีอำพันจ้องมองเข้าไปในดวงตาลึก ที่เต็มไปด้วยน้ำสีใสคลอเบ้า ราวกับใช้พลังจิตจากใจควบคุม
" โทมัส ก่อนจะเจอฉัน เขาสำมะเลเทเมา เสเพลและติดยา "
" นี่หยุดนะ! "
" ฟังให้จบไศลา! "
"....."
" ได้โปรด! "
แต่แล้ว...
ต้องตะเบ็งเสียงใส่อีกครั้ง หลังเธอดิ้น และกรีดร้องใส่หน้าเขา มาเฟียร้ายรวบข้อมือเธอแน่นกว่าเก่า พร้อมจ้องเข้าไปในตาลึกนิ่ง แววตาเคร่งขรึมแสร้งเอาเรื่อง ไศลากลัวจนตัวสั่น เปลี่ยนจากการผลักไสเป็นขยุ้มเสื้อเขาแทน ก้มหน้างุนสะอื้น ก่อนจะเป็นลมล้มพับอีกระลอกเพราะประโยคนี้
"เขาถูกจับข้อหาลักขโมย เกือบจะถูกส่งกลับประเทศ ฉันคือคนไปช่วยเขาออกมา พร้อมเปลี่ยนตัวตนของเขา เธอคิดว่า ถ้าโทมัสไม่มีแบล็คดีพอ ครอบครัวเธอจะอยู่อย่างสุขสบายมั้ย?! "
"...."
" ไศลา เราทำงานด้วยมิตรภาพ ฉันไม่เคยมองว่าพี่ชายเธอคือลูกน้อง และไม่เคยสั่งให้ลูกน้องไปตาย! ทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว นี่คือความจริง จำไว้ด้วย "
"....!!! "
ชายหนุ่มส่ายหน้าเอือมระอา ในขณะอ้อมแขนของเขารองรับเอาไว้อัตโนมัติ ก่อนจะช้อนตัวเธอขึ้นมา แล้วพาไปยังห้องนอนของตัวเอง พลางตะโกนเรียกสาวใช้เสียงลั่นบ้าน สร้างความตกใจให้เจ้าของชื่อไม่น้อย
" เดซี่! "
" คะ?! "
เธอยอมทิ้งดอกไม้ในมือ ซึ่งกำลังจะจัดลงแจกัน รนรานมาหา ก่อนจะรู้งานโดยไม่ต้องสั่ง เมื่อมาถึง
" นายหญิงเป็นอะไรไปคะ "
" ไม่ใช่เวลาถาม" ทว่ากลับโดนเอ็ด
"ขอโทษค่ะ "
หล่อนรีบก้มหน้างุน หลังเข้ามาแล้วพลั้งปากผิดจังหวะ ถลารุดหน้าเข้าไปจัดฟูกเลิกลั่ก เพื่อให้นายหญิงของตนได้ล้มนอน หลังจากนั้นจึงจะหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าเช็ดตา พร้อมห่มผ้าหน้าเตอะให้ เนื่องจากช่วงนี้เข้าหน้าหนาวแล้ว ก่อนจะก้มหัวเดินผ่านร่างสูงซึ่งยืนตระหง่านแถวหน้าประตู กลับทำงานที่ค้างไว้ของตัวเองต่อ เนื่องจากเจ้าของห้อง ไม่ชอบให้ใครเข้ามายุ่งย่ามสักเท่าไหร่ เว้นแต่ตอนทำความสะอาด
" ฟู่ววว! "
ซึ่งนั่นเปิดโอกาสให้เขาได้พ่นลมหายใจ เมื่ออยู่ตามลำพัง เขายืนมองเธอคนที่นอนนิ่งอยู่อึดใจหนึ่ง ราวกับกำลังคิด ก่อนละสายตาเดินไปหยิบโทรศัพท์ ในขณะรอสาย ดวงตาสีอำพันหรี่มองไปยังร่างบางนั้นด้วย หลังปลายสายรับ จึงเอ่ยเสียงเบาสูงสุด
" เดริว พรุ่งนี้ไปทำงานให้กูหน่อย "
(รับทราบครับนาย ว่าแต่ที่ไหนครับ)
ก่อนจะเน้นชื่อนั้นเสียงทุ้ม ดวงตาหรี่หน้าตรงเสมอกัน แฝงความเกรี้ยวกราดบ่งบอกถึงความมุ่งมั่น และคิดดีแล้วกับสิ่งที่กำลังจะทำ
" ประเทศไทย "
ไศลาทำตามที่เอมิเลียว่า คือการแต่งตัวรอ และเก็บข้าวของที่จำเป็นที่สุด เธอไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น นอกเหนือจากการทำตัวอย่าไม่ให้มีพิรุธ เมื่อถึงเวลา...หล่อนจะโทรมาเอง ประโยคเพียงแค่นั้นก็ทำให้พอจะเดาได้แล้วว่า เอมิเลีย มาดามแห่งตระกูลเรกาโด คงใช้ช่วงเวลาการประชุมนัดพิเศษของเหล่าอัลฟาวันนี้ เปิดช่องทางให้เธอหลบหนี ใจจริงก็รู้สึกผิด ไม่ใช่ไม่ย้อนคิดหรอก หากถูกจับได้ว่างานนี้ คนที่ช่วยเธอคือผู้หญิงที่มีอำนาจใหญ่โต แล้วผลจะเป็นยังไงแต่ทว่า เธอ... การเอาตัวรอด และกลับไปในที่ที่ดีที่สุด มีแต่อิสระ รวมทั้งได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา ใครล่ะจะไม่ต้องการ! หากโครทิส เวเดโน่ คือคนที่มีเมตตา รักเธอ และไม่มีความเห็นแก่ตัวจริง ย่อมเข้าใจตรงนี้อยู่แล้ว!ติ๊ด ติ๊ดเสียงข้อความเข้า ไศลาหันขวับ ละสายตาจากสิ่งที่ทำแทบจะตะครุบดู เมื่อเห็นว่าเป็นเอมิเลีย จึงทำการเร่งรีบ รนรานเสียจนมือสั่น เธอเผลอยิ้มกว้าง ก่อนจะเดินออกไปแต่แล้ว....“นายหญิงคะ “เดซี่กลับยืนถือถาดอยู่ตรงหน้า“.....!!!”“จะไปไหนหรือคะ เดซี่ทำของว่างมาให้ค่ะ”“เอ่อ..ฉัน...”หญิงสาวเกิดการตื่นตระหนกอยู่เป็นนิจ เกรงกลัวขึ้นมาเสียเฉยๆ ทั้งที่แต่ก่อนการ
ร่างเปลือยนอนหงาย หน้าอกกระเพื่อม บ่งบอกว่าเจ้าของนั้นแสนจะเหนื่อย ไศลากรอกตาไปมา หลังเสร็จกิจ และเขาคนนั้นออกไปจากตัวเธอแล้ว ความโล่งอกไม่ใช่เป็นการได้ปลดปล่อยธาราในตัวนั่น ทว่า มันคือการที่เธอนั้นผ่านคืนนี้ไปแล้วต่างหากจะทำยังไงต่อไปดี?เธอช้อนตามองร่างใหญ่ที่นอนอยู่เคียงข้าง มีท่อนแขนรองรับศีรษะทุยไว้ ดวงตากล้ำกลอกก่อนจะมีน้ำใสๆ เอ่อล้นออกมา จากนั้นจึงกระปริบถี่ หรี่ลงมาเหมือนเดิม จุดที่เห็นมันคือโคมไฟบนเพดานอันหรู เธอไร้คำตอบในตอนนี้ ไม่มีทางออกราวกับสมองตื้อพาลให้มืดมนไปหมด นั้นเป็นสิ่งที่กำลังร้องบอกเธอว่า...นอนเถอะ" เฮ้อ..."หญิงสาวพลิกตัวกลับไปกอดเขา คนที่หลับสนิท พลางใช้แก้มแนบแผงอกแกร่ง ที่เต็มไปด้วยไรขน ในขณะเธอเองก็สับสน' เวเดโน่... คุณกับฉัน เราช่างต่างกัน ชีวิตของฉันไม่ได้ต้องการแบบนี้ ฉันรู้..ฉันมาเพื่ออะไร 'ใช่ ในเมื่อรู้คำตอบแล้ว จะอยู่ต่อไปทำไมอีก?☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆ฟ้าสาง เวเดนตกใจตื่น พร้อมครึ่งท่อนบนผงกขึ้น ก่อนจะหันซ้ายหันขวา มองหาใครบางคน" ไศลา"ซ่า.. ซ่า...เมื่อได้ยินเสียงน้ำไหลออกมาจากห้องน้ำจึงโล่งใจ ให้ตายเถอะ! เมื่อคืนเขาฝันร้าย เช้านี้ใจคอจึงไม่ค่อยดีนัก
นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ไศลาหลับไป เมื่อรู้สึกตัวอีกที เลยต้องจูลใหม่ทั้งหมด ร่างบางลืมตาตื่น ก่อนเบิกตะลึงเมื่อเห็นว่าห้องนี้ไม่ใช่ห้องของตัวเองแล้ว" ที่นี่มัน..."ริมฝีบางเฉียบขมุบขมิบ ฝ่ามือบางตะปบแก้มเนียนใส ตีแปะๆ สองสามทีจนแดงเป็นรอย ก่อนจะเบิกตากว้างหนักกว่าเดิม แล้วรีบกระโจนลงจากเตียง ไปโผล่อีกทีที่ห้องตัวเอง โชคดีหน่อย ที่เวเดนไม่ได้อยู่ในห้อง หรือบริเวณนั้น" ฟู่ววว"เธอพ่นลมหายใจอย่างโล่งอก หลังปิดประตูลงสนิท และคราวนี้ไม่ลืมที่จะล็อคกลอนอย่างแน่นหนาด้วย ก่อนช้อนตามองไปรอบๆ เพื่อดูเวลา" จะหมดวันแล้วหรือนี่ "เธอห่อปากจู๋พร้อมขมวดคิ้ว ดวงตาคมกลอกไปกลอกมาคิดแผนเอาตัวรอด หลังนึกไปถึงดินเนอร์มื้อเย็น เพราะเดี๋ยวเขาต้องโผล่มา ไม่ก็ให้เดซี่มาตาม" ทำไงดี ทำไงดี คิดสิๆ อ่อ! นึกออกแล้ว ต้องป่วยสินะ โอเคตามนั้น "ว่าแล้วเธอก็ดีดตัวขึ้นบนเตียงทีนที ดึงผ้านวมผืนหนาขึ้นมาปกปิด นอนตะแคงหันหลังให้ประตู โดยไม่คิดแม้จะเปิดไฟหรือแอร์" จงหลับ จงหลับ หลับต่อสิไศลา ตะกี้ยังง่วงอยู่เลย"และเพราะรู้อยู่เต็มอก ว่ามาเฟียอย่างเขาจะหลอกกันคงไม่ง่าย วิธีหลับจนเพลีย คือวิธีที่ดีที่สุด ตัวมันจะร้อนขึ้นม
ใช้เวลานานพอสมควรกว่า เวเดน ครูซัส แมททริก คูดัส และซันดรู จะประชุมเสร็จ เรียกได้ว่ากว่าจะลงตัวต้องดึงไขสมองอันชาญฉลาดมาเป็นยุทธศาสตร์กันเลยทีเดียว ต่างฝ่ายต่างมีความคิดที่แตกต่าง และการคัดค้านก็เช่นกันที่ทำให้สมาชิกในกลุ่มแข็งแกร่งมากขึ้น เพราะนั่นคือเส้นทางเดินของแผนที่ดีที่สุด ชนิดละเอียดยิบ ไม่มีผิดพลาด ทว่า ก่อนหน้านั้น มิใช่หลังกระทบกระทั่งกันเพราะผู้หญิงคนหนึ่งในตอนนี้ เวเดโน่ไม่เถลไถลดั่งแต่ก่อน เมื่อสรุปวาระการประชุมจบ เขาก็แยกตัวออกมาหาเธอทันทีแต่แล้ว...กลับพบว่าหญิงสาวกำลังหลับ ชายหนุ่มจึงถอนหายใจโล่งอก เนื่องจากไม่ต้องเห็นหน้าเรียบเฉย ก้มงุนราวกับตุ๊กตาไขลานอีกเขายอมรับการมีปัญหากับซันดรู เพื่อนที่เคยรบเคียงบ่าเคียงไหล่นั้นทำให้เขาเจ็บสุด ทรวงอกแสบร้อน ในท้องปั่นป่วนปานคนหิวข้าว ทว่า หากต้องแลก หรือให้ถอยห่างจากสาวชาวไทยคนนี้ มันคงลำบากใจไม่แพ้กัน" ฟู่ววว"ชายหนุ่มถอดหายใจอีกระลอก พร้อมฝ่ามือหนากุมขมับ หากตบกบาลตัวเองแล้วหายมึนได้ป่านนี้คงทำไปนานแล้ว เขาก้มลงมองไปยังร่างบางที่นอนหงายไร้ความรู้สึก เริ่มต้นตั้งแต่ปลายเท้าส้นเล็กผิวขาวอมชมพูลากยาวมายังมือคู่บางผสานกัน
หมับ!ผั๊วะ!ทันทีที่หมัดหนักถึงตัวเวเดน บริเวณเบ้าหน้าตรงมุมปากของเขา รอบข้างระแวกใกล้เคียงต่างพากันช็อคราวกับเพิ่งรู้ว่ามีกับระเบิดแล้วกำลังจะแตก รวมถึงไศลาที่ยืนอยู่ข้างหลังด้วย เธอถลาออกไปไกล เพราะถูกผลัก ก่อนคนที่ผลักจะรับกำปั้นนั้นเต็มๆ" ถุ้ย! "เขาถุยเลือดลงพื้น ยกมือลูบเคราแล้วหันไปมองหน้า คนทำเตรียมจะพุ่งเข้ามาใหม่อีกรอบ ทว่าคราวนี้เขาตั้งหลักทัน จึงถูกสวนกลับผั๊วะ!ไม่ใช่หมัด แต่มันคือฝ่าเท้าหุ้มด้วยคอมแบทสีดำ ทั้งหนักและหนา ซันดรูถอยกรูด จุกแทบพูดไม่ออก ในขณะเดียวกัน เรกาโดวิ่งมาถึงพอดี เขาคั่นกลาง ใช้มือทาบอกคนทั้งสองไว้ ท่ามกลางลูกน้องที่ตกใจ และเอมิเลีย ไศลา ยืนเหวอ มีสีหน้าไม่ต่างกัน" มึงจะเอาอย่างนี้ใช่ไหม! จะชกหน้ากูโดยไม่คิดจะถามกันก่อนใช่ไหม! มึงคิดว่ามันง่ายเรอะ!! "เสียงคำรามตวาดลั่นของเวเดน สร้างความตื่นตัวให้แก่กล้ามเนื้อหัวใจของคนในเหตุการณ์เป็นอย่างดี ทว่า นอกจากจะขยับตัวเดินหนีไม่ได้แล้ว แม้แต่หันมองหน้ากันยังอันตราย เหล่าลูกน้องที่ก้มหน้างุนมือกุมต่ำ จึงทำได้แค่เหลือบตามองแทนคำถามกันเท่านั้น และต้องส่ายหัวรัว เพราะไม่มีใครรู้ต้นเหตุกันเลยสักคน" เฮ้! ใจเย
ศึกบนพุงนางสำหรับเวเดนครั้งนี้ กินเวลาไปนานกว่าสองชั่วโมง นั้นเลยไม่แปลกที่เขาจะพากันหมดแรงจนเผลอหลับไปทั้งคู่ กว่าจะสะดุ้งตื่นได้ รอบห้องถึงกับมืดสลัวเงียบกริบกันเลยทีเดียวรวมถึงความอึมครึมที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ เพราะไศลาไม่คุยด้วย เธอเอาแต่นอนหงายนับตั้งแต่ตื่น มีเพียงผ้านวมผืนหนาเท่านั้นที่ปกปิดร่างเปลือยเปล่า ดวงตากลมโตแม้ไม่มีน้ำตาสักหยด ก็ไม่ได้หมายความว่าจะดูไม่ออกในใจเธอเป็นเช่นไรใช่.... มันทั้งหมองหม่น เศร้า และผิดหวังในเวลาเดียวกันทว่า เธอเลือกที่จะไม่โวยวายหรือพูดมากให้ตัวเองต้องเหนื่อย ต่างกับมาเฟียหนุ่มที่เดินไปเดินมารอบห้องหลายรอบ ชวนพาให้เวียนหัว หลังจับโทรศัพท์และพยายามจะโทรกลับ แต่ซันดรูกลับไม่รับสายเขา“ ฟัค! “ทำให้เขานั้นหงุดหงิด และสบถอย่างหัวเสียได้ง่าย ยิ่งนึกถึงตอนเห็นเวลาที่โชว์หราอยู่บนหน้าจอ บ่งบอกให้รู้ว่าเขานั้นได้คุยไปแล้ว แต่ไม่รู้ไปกดรับตั้งแต่เมื่อไหร่ ก็ยิ่งทำให้เครียดหนัก ไศลาที่เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น เมื่อได้ยินเสียงสบถจึงหรี่ตาไปมอง ก่อนจะถอนหายใจ แล้วลุกเดินเข้าห้องน้ำไป เผยร่างเปลือยเปล่าให้เวเดนเห็นเป็นต้องส่ายหัว เขาค่อนข้างจะรู้ตัวเ