LOGINวันเวลาเดือนเศษกับสถานการณ์เสมือนเล่นละคร ไศลาได้บทเรียนตรงนั้นมากกว่าที่คิด เรื่องที่เคยตั้งค่าในสมอง กับการเดินทางด้วยเหตุผลอันแสนพิเศษ บัดนี้กำลังตอกย้ำ ถึงคำว่าเล็กน้อยให้เธอได้รู้รสชาด อะไรก็ตามที่เคยเจอมาเยอะ นับแต่นี้เป็นต้นไปจะยิ่งเยอะกว่า ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เธอเป็นคนเลือกเอง เธอไม่ได้ต้องการเอาชนะอุดมการณ์ และไม่ต้องการอยู่เหนือทิฐิหรอก เพียงแค่เวลานี้สิ่งที่ต้องเลือก ตัวเลือกมันมีน้อยก็เท่านั้น
ใช่ ถ้าเธออยากได้ลูกเสือ แต่ไม่เข้าถ้ำเสือ แล้วจะจับเสือได้ยังไง
... สมมุติต้องรอมันอยู่หน้าถ้ำ รอจับมันด้วยมือเปล่า กับเสือตัวที่ใหญ่มหึมา แถมเป็นพ่อพันธุ์โคขุนชั้นดี แบบนี้เธอจะรอดไหม เฮอะ ตอบแบบไม่ต้องคิด ไม่มีทาง!
หญิงสาวถือว่า.. โอกาสนี้ไม่ได้มีมาบ่อยๆ
" เอาล่ะไศลา อยู่บ้านเขาอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกเขาเล่น ฟู่ว! "
" บ่นอะไรอยู่! "
"....!!! "
" ฮ่าๆๆ "
" โอ้ย คุณสก็อต ตกใจหมดเลย "
ไศลาออกอาการฉุนเฉียว อุตส่าห์หนีมายืนล้างจานช่วยแม่ครัว ก็ยังไม่วายมีคนมาเจออีก
" คราวนี้ จะมาพูดอะไรล่ะ.."
เธอเหลือบตามอง มือชะลอจังหวะขัดกะทะใบสุดท้ายให้ช้าลง
" หืม..พูด? เรื่องอะไร"
" ก็ไม่รู้ นึกว่าคุณสก็อตจะมาซ้ำเติม หรือสั่งสอนอะไรไศ "
" ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะไศลา ทุกครั้งที่พี่พูดมันทำให้ไศลาอึดอัดขนาดนั้นเลยหรือไง"
" ใช่ค่ะ! "
" ห๊ะ! "
" แถมรู้สึกแย่ด้วย "
เธอทำหน้าบึ้ง ก่อนจะกัดปากยิ้มในภายหลัง เมื่อเห็นคนมาใหม่ สีหน้าเริ่มเปลี่ยน
" ไศลาล้อเล่นค่ะ! ฮ่าๆๆ "
" ฟู่ว!! "
" ไม่เห็นต้องเครียดขนาดนั้นเลย ดูทำหน้าเข้าสิ "
" จะไปจริงๆ น่ะหรือ "
สก็อตกอดอกถาม หญิงสาวถึงกับยิ้มเจื่อน กรอกตามองบน รู้สึกเซ็งขึ้นมาเสียเฉยๆ เมื่อย้อนนึกถึงคำถามที่เขาถามแล้วเห็นภาพ
" เลือกได้ด้วยเหรอคะ "
" นั่นน่ะสินะ? "
" อันที่จริงก็ดีแล้วค่ะ "
ก่อนหรี่ตาลงมองคนตรงหน้า ตอบเขาแบบไม่ทันคิด ในขณะชายหนุ่มก็ชอบความตรงไปตรงมาของเธอ ทว่า..
" รู้ใช่ไหม หากเลือกแบบนี้ ชีวิตของเธอกำลังเริ่มต้นเข้าสู่ความตาย ..."
" อยู่ที่ไหนๆ ก็ตายเหมือนกัน "
ความเป็นห่วงของเขาคงมีค่าเฉพาะกับคนบางคน กับสาวเอเชีย คนที่มีใจเด็ดเดี่ยว เอาแต่มุ่งหน้าทำตามความต้องการของตัวเอง ประโยคสั้นๆ แค่ไม่กี่คำ เธอคงไม่ฟังหรอก
" ก็..โอเค" ร่างสูงจึงจำใจต้องยักไหล่ ตบบ่าเธอ แล้วเดินออกมา " สู้ๆ ล่ะ แม่สาวใจเทอร์นาโด"
"^_^"
บ้านสวนในป่าใหญ่ เปี่ยมไปด้วยบริเวณกว้าง พื้นที่รอบกินไปถึงเนินเขา เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาชนิด เขียวขจี ไศลารู้สึกตื่นตาตื่นใจนับตั้งแต่ทางเข้า ถนนเรียบสลับชัน ทอดยาวไกลกว่ายี่สิบกิโลเห็นจะได้ กว่าจะเห็นตัวบ้าน
" ไม่ได้จะพาฉันไปขายใช่ไหมคะ? "
เพราะอยู่ดีๆเธอก็โพล่งขึ้นมาทำลายความเงียบ นั่นเลยทำให้คนขับรถถึงกับงง
" ครับ?! "
" คุณผู้หญิงหมายถึง..ผม...น่ะหรือครับ "
" แหม~... เรียกซะเต็มยศเลยนะคะ ฉันเป็นแค่ลูกจ้างเองค่ะ ไม่ต้องให้เกียรติขนาดนั้นก็ได้ "
ในขณะคนขับรถเริ่มประหม่า กับนิสัยค่อนข้างกล้าแสดงออกของเธอ ทว่า เธอกลับเขินเขาซะงั้น ร่างบางม้วนไปม้วนมา ก่อนจะตลึงตาขึ้น
" ว้าว นั่นอะไรคะ?! "
ชี้ไกลออกไปนอกเส้นทาง กับสวนดอกไม้หลากสีและนานาชนิด
" ตรงนั้น...เอ่อ เป็นสถานที่ต้องห้ามครับ "
" เอ๋...ต้องห้าม? คือยังไง ฉันขอเปิดกระจกได้มั้ย "
ไม่รอให้เขาอนุญาต สาวน้อยก็ทำการกดกระจกลง ก่อนจะโผล่หน้าออกไปเมื่อเห็นวิวข้างทาง
" ร่มรื่นดีจังค่ะ ยังมีหมอกอยู่เลย ขนาดสายมากแล้วนะเนี่ย "
แต่แล้ว อารมณ์เยี่ยงนางเอกมิวสิคของเธอกลับถูกคุกคามพังยับเยินลง เมื่อคนขับเริ่มไม่พอใจขึ้นมานิดๆ แล้ว
" คุณผู้หญิง เอาหัวกลับเข้ามาเถอะครับ ผมขอร้อง "
" ทำไมคะ? "
และหน้าแปลก ที่สีหน้านั้นก็ทำให้เธอทำตามอย่างว่าง่าย ไศลาดึงตัวกลับเข้ามาแล้วปิดกระจก พร้อมสีหน้าฉงน
เขาไม่ตอบ แต่เลือกที่จะใช้ล็อคนิรภัย ห้ามเธอทำซ้ำอีกแทน ดูก็รู้เธอเป็นคนดื้อ
" ว่าแต่ ตะกี้ที่บอกว่าสถานที่ต้องห้าม คืออะไรหรือคะ ไศลาเข้าไปได้ไหม "
ก่อนจะหันขวับชำเลืองมองผ่านกระจกหลัง ทบทวนคำถามของเธอ ถึงกับงง ความชาญฉลาดที่ว่าเป๊ะแล้ว เจอผู้หญิงคนนี้เข้าไปถึงกับรวนกันเลยทีเดียว
" เขตหวงห้าม ... ไม่ได้หมายความว่า ใครที่คิดจะเข้าไปต้องได้รับอนุญาตจากผู้ที่มีสิทธิ์ก่อน ไม่ใช่หรือครับ"
" อ้อ... ใช่ค่ะ ^^ แฮร่.."
ก่อนประโยคที่เธอตอบและรอยยิ้มแฉ่งนั้น จะทำคนขับรถที่มองอยู่ กระพริบตาปริบๆ
ดวงตาคมขยายขึ้นอีกเท่าตัว หลังรถที่นั่งอยู่แล่นผ่านประตูเหล็กเลื่อนเข้ามาจอดในตัวบ้าน ไศลาเอาหน้าแนบกระจก จังหวะรถซัดโค้งแหงนหน้าขึ้นมอง คฤหาสน์ตรงหน้ามีประมาณสองชั้นเห็นจะได้ ทว่าความใหญ่โออ่าไม่น้อยหน้าไปกว่าโรงแรมเลย ผนังขาวนวลถนอมตายามสะท้อนแสงจากดวงอาทิตย์ทำให้หน้ามองเข้าไปอีก วัดจากการมองเห็น หากให้เปรียบเทียบความเก่าคงแก่ราวกับรุ่นปู่ ทว่ายังคงความคลาสสิคไฮโซเอาไว้ เสมือนอยู่ในยุคของคนโบราณ
" ว้าว..นี่บ้านที่ฉันจะมาอยู่เหรอคะ "
หญิงสาวหันมาถามคนขับ หลังเขาพารถจอดสนิทและดับเครื่อง
" ใช่ครับ เชิญคุณผู้หญิงไปแต่ตัวนะครับ ส่วนของผมจะยกไปให้ "
" แหม.."
เพราะตลอดทางที่มา เธอชวนเขาคุยไม่หยุด ผลที่ได้เลยค่อนข้างจะสนิท ไศลาในสายตาของอันโค่บอดี้การ์ดโครทิสเลยเปรียบเสมือนไส้เทียนที่ชุ่มไปด้วยน้ำมัน อย่าได้เผลอไปจุดไฟเชียว มีหวังติดแล้วดับยาก เผลอๆ ลามไปเผาอย่างอื่นด้วย
การวางตัวของเขา จึงทำได้แค่ตอบคำถามที่เธอถาม เธอถามมาเขาก็ตอบแค่นั้น เว้นแต่เรื่องที่ตอบไม่ได้ อย่างเช่น... สถานที่ ที่เธอเพิ่งถามถึงเมื่อกี้นี้...
" มาแล้วเหรอ? "
ไศลาเดินสำรวจรอบบริเวณได้ไม่นานจึงต้องหยุดกะทันหัน หลังเดินเข้าไปในตัวบ้าน และพบกับเจ้าของเสียงทุ้ม เขายืนเต็มความสูงอยู่กลางห้องโถง สวมชุดดำทั้งชุดราวกับกำลังไว้อาลัยให้ใคร จนเธอเริ่มฉงนสงสัย ระดับมาเฟียอย่างโครทิส ไม่มีเงินซื้อสีอื่นมาใส่คงเป็นไปไม่ได้หรอก นอกเสียจากจะมีเหตุผลให้ต้องทำอย่างนั้น และเหตุผลนั้นต้องมีอิทธิผลต่อใจเขามากๆ
" สวัสดีค่ะ "
เธอคำนับ ส่วนเขาแสะยิ้ม เปลี่ยนท่าทางการยืนเป็นกันเองมากขึ้น
" หึ ตัดสินใจเร็วดีนะ "
" ก็ไม่เห็นต้องลีลาเลยนี่คะ ก็แค่มาอยู่กับคุณ ดีกว่าเช่าห้องเองเป็นไหนๆ ถึงการเจอคุณมันไม่ต่างกับการเจอโจรก็เถอะ.."
ประโยคทิ้งท้ายเธอพึมพำเสียงเบา เบ้ปากแสดงถึงความหมั่นไส้
" เธอด่าฉันเรอะ"
" อะไรคะ! " แล้วแสร้งทำตาโต ราวกับตัวเองโดนนั้นรังแกทีหลัง " เปล่าสักหน่อย.."
โครทิสถึงกับส่ายหน้าเอือมระอา แต่กระนั้นในความหนักใจก็ยังมีรอยยิ้มเล็กๆ ซ่อนอยู่ นับแต่วันนี้เป็นต้นไป บ้านของเขาคงไม่ต่างจากผับ คงจะเป็นสถานบันเทิงจำลองแล้วสินะ
" เธออยากพักห้องไหน "
" เอ๋...เลือกได้ด้วยเหรอคะ "
หญิงสาวเบิกตาโตอย่างตื่นเต้น แต่แล้ว...กลับต้องเปลี่ยนไปเป็นเบ้ปากภายหลัง
" ก็ถ้าจะไม่เลือก...ห้องฉันก็ได้ เตียงมันว่างฉันไม่ค่อยได้นอน "
" ชิ! ฝันไปเถอะย่ะ "
เธอทำปากยื่นใส่ เบือนหน้าไปทางอื่น กรอกตามองไปรอบๆ ราวกับหาตัวช่วยตัดสินใจ ในขณะเขาถึงกับกลั้วหัวเราะ ก่อนจะเลิกคิ้วสูง
" เอา...เป็นห้องที่ใกล้กับห้องครัวได้ไหมคะ ฉันชอบหิวตอนดึกๆ "
" หืม... ห้องคนใช้น่ะเหรอ? "
" ห๊ะ! "
" ก็ถ้าเธอจะเอาห้องที่ใกล้ห้องครัวที่สุด ก็คงต้องเป็นห้องคนใช้แล้วล่ะ "
" ชิ ไกลออกมาหน่อยก็ได้ค่ะ "
" ห้องบอดี้การ์ด? "
" โหย.. นี่คุณ ห้องว่างสิคะ จะเอาห้องที่มีคนอยู่แล้วมาให้ฉันทำไม "
ไศลาถึงกับหลับตา นับหนึ่งถึงสิบ และถามทั้งที่เปลือกตายังปิดอยู่ ราวกับกำลังข่มใจ
" เฮ้อ..จริงๆ แล้วคุณจงใจจะแกล้งฉันใช่ไหมคะ "
ทว่า กลับต้องสะดุ้งโหยง หลังลืมตาขึ้นมาและพบว่า หน้าเขากับเธอห่างกันแค่คืบ
"....!!! "
" ฉันก็แค่ตอบคำถามของเธอ "
หมอนี่นอกจากจะชอบทำหน้าตายแล้ว ร่างกายยังคล้ายคนตายอีกด้วยเหรอ เดินเข้ามาตอนไหน ทำไมไม่รับรู้ถึงการเคลื่อนไหวเลย
" อะ เอ่อ..."
ไศลาเตรียมจะถอยหนี
แต่แล้ว..
หมับ
แขนข้างนึงของเขากลับอ้อมมาดักไว้เสียก่อน กลายเป็นว่า การยืนของคนทั้งคู่ ร่างบางกำลังเสียเปรียบ เพราะถูกเขาโอบ
" เธออาจจะยังไม่รู้สถานะของตัวเองในตอนนี้ เพราะมันยังไม่ถึงเวลา ฉันจะบอกเฉพาะเรื่องที่ฉันบอกได้ เรื่องของคนที่เธอตามหาอยู่น่ะ"
"........"
" เพราะเขา..ชีวิตเธอกับครอบครัว เลยกำลังจะสบาย เหล่าอัลฟาจะดูแลเธออย่างดี เสมือนคนในครอบครัว"
" คะ? "
" ห้องของเธอ อยู่ถัดไปจากห้องฉัน ถามอันโค่ คนที่พาเธอมาที่นี่เอา แล้วก็พักซะ ฉันมีประชุมด่วน ตอนเย็นจะเข้ามาอีกที "
"....!!! "
จบคำพูดพาสับสนของเขา แน่นอน เหลือแค่ไศลาที่ยังยืนงงอยู่ เธอชะงักค้าง ใช้สมองทบทวนประโยคเหล่านั้นวนไปวนมา
" หมายความว่ายังไง..."
ลำพังสงครามนอกฐานวุ่นวายมากพออยู่แล้ว เขาต้องมาจัดการกับสงครามภายในอีกหรือ เรกาโดคิดชีวิตที่ผ่านมาเป็นเช่นไรเขาย่อมรู้ดี การเป็นมาเฟียไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ต้องมีความแกร่งเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ควบคู่กับความอดทนก็จริง ทว่าไม่ได้หมายความว่าจะเพียงพอสำหรับพวกเขายังต้องรับมืออีกเยอะ กับศัตรูรอบด้าน นับร้อยนับพันเรียกได้ว่าเป็นโขยง ไหนจะความโลภ ทรยศหักหลัง และอะไรต่อมิอะไรอีกมากมายแต่แล้ววันนี้กลับต้องมายืนดูในขณะในใจสำเนียกรู้แน่ชัดเป็นอย่างดีว่านั่นคือสหายตนหนึ่ง เพื่อนร่วมสาบานที่ไม่ต่างกับคนอื่นๆเพียงแค่เขามีความผิด ซึ่งวัดระดับความรุนแรงไม่มีใครรู้ปริมาณเทียบเท่าด้วยซ้ำ ถ้าหากจะให้รู้เล่าก็ ที่รู้มันย่อมผ่านไปได้ทุกเมื่อหากมันไม่เหนือคำว่า..อภัยใช่แล้ว! อย่างเวเดโน่ไม่มีวันอ่อนข้อให้ใครหรอกเว้นแต่อีกฝ่ายจะยอมยกธงขาวก่อนเท่านั้นโดยเฉพาะซันดรู!ชายร่างสูงอกผายไหล่ผึ่ง ก้าวฉับๆ จากประตูทางเข้าไปยังบาร์ที่มีไว้สำหรับนักดื่มขวับ!ก่อนจะแย่งของในมือ ไปอย่างแรงจนมันปลิวเพล้ง!เสียงแตกหักจากการกระเด็นกระดอนดังตามหลังผู้คนพากันแตกตื่น บ้างก็นั่งนิ่ง บ้างก็ถอยห่าง ทว่าไม่มีใครเลยที่จะ
เตียงนอนสั่นคลอนถี่ปานแผ่นดินไหว นั่นคงเป็นเรื่องปกติของคู่อื่นทั่วไป ใช่สองคนนี้ คนเจ็บด้วยบาดแผลฉกรรจ์คนนึงซึ่งเพิ่งจะทุเลาลง กับอีกคนไม่ต่างจากหญิงชราเพราะหมดสภาพความแข็งแกร่งไปกว่าครึ่ง หล่อนไม่ใช่หญิงสาวมาดมั่น คิดจะกระโดดตามอำเภอใจอย่างเมื่อก่อนได้อีกแล้ว เพราะภายใต้เนื้อหนังตรงกลางกายมีอีกหนึ่งชีวิตซ่อนอยู่ท้องที่เคยแบนราบดูสวยและเนียนขาว ตอนนี้แปรเปลี่ยนไม่เหลือโครงเดิม ทั้งตึง ทั้งขยายใหญ่โตไศลาหลับตาพริ้ม ย้อนนึกถึงความหลังในครั้งที่เจ็บปวดที่สุด ยามร่างหนาดุนดันเข้ามาแนบชิด สิ่งที่เคยโหยหาถูกแทนที่ด้วยการทับทาบ เธอใช้ฝ่ามือบางลูบไล้ถูไปทั่วแผ่นหลังเบาๆ ราวกับล่องลอยอยู่ในความฝัน กับสีหน้าไม่ต้องบอกก็รู้ จวนจะถึงจุดสูงสุดพร้อมกันทั้งคู่ไม่ต่างกับคนบนตัวหล่อน แม้จะเจ็บหนัก ยามนี้ก็ยังคงเจ็บ ทว่าเพราะความคิดถึงและแรงปราถนากลับหลอมให้เขานั้นลืมความรู้สึกอื่น ดุจคนๆ เดียวกัน เมื่อไศลาเองก็ลืมความเคืองโกรธ และเขาก็ลืมว่าเธอกำลังโกรธเสียงหอบหืดผสมอารมณ์กระสันกระหาย บ่งบอกเป็นอย่างดีถึงความสุข ทั้งคู่ไม่ได้รับมานานมากแล้ว เวลานี้จึงเป็นเวลาที่ดีของพวกเขา"รักไหม? "กับน้ำเสียง
ล้อรถบางครั้งมันก็ตามคนเดินทัน หากคนนั้นคือคนท้องสาวเจ้าน้อยใจสูงสุด ต่อการกระทำของสามี เธอกลายเป็นตัวตลกในสายตาเขา ที่คิดจะทำอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น เพียงแค่รับรู้ว่าหล่อนนั้นรัก ไม่มีวันหมดแม้จะหยดสุดท้ายช่างน่าเวทนา...ท้องแก่จวนใกล้คลอด ฝ่ามือสากกร้านหนึ่งในคู่ของสามี ก็ไม่เคยจรดลงบนหนังตึงๆนูนๆนี้สักครั้งจะไม่ให้คิดมากก็คงจะไม่ใช่ ก่อนหน้าตอนคนึงหา ใช้ความหวังต่อลมหายใจ บอกตัวเองมาโดยตลอด เขานั้นยังคงมีชีวิตอยู่ เพียงแต่เหตุผลบางอย่าง ทำเขาต้องหลอกลวงเธอ ก็ว่าเจ็บปวดมากพอแล้วรองลงมา ซ้ำความระทมหนักยกกำลังสองเข้าไปอีก เมื่อรู้ว่าเขานั้นความจำเสื่อม แม้ก่อนหน้าจะมีคิดนอกกรอบไปบ้าง ว่าคนอย่าง โครทิส เวเดโน่น่ะหรือ จะใจเสาะ อ่อนแอนอนติดเตียงนานหลายเดือนปะถิโถถัง.. แท้จริง คือแผนการทั้งเพ ซึ่งจะไม่เจ็บหนักเลย หากแผนนั้นไม่มีเจตนาเอาเธอเข้าไปเป็นตัวละคร ยัดเยียดบทบาทโง่เง่าเต่าตุ่นให้ด้วย!เวรกรรมอะไรของหล่อน?ไศลาคิด ใจจุก ปากสั่นระริก เอาแต่ร้องไห้ พร้อมอุ้งมือบีบเข้าหากันแน่น เจ็บระบมไปหมด แต่นั่นคงไม่ชาเท่ากับความจริงในใจจะเป็นยังไงเธอก็ยังรักเขา..." ไศลา..."ยิ่งมีเสียงทุ้มตามห
ล้อเลื่อนเคลื่อนไปข้างหน้าของกระเป๋าไร้อุปสรรคต่างจากใจเธอ ไศลาครุ่นคิดตลอดเส้นทางที่เดินนับตั้งแต่ที่นั่นกระทั่งถึงที่หมาย แล้วจึงหยุดปลายทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้ ได้แค่พร่ำปลอบใจตัวเอง ภาวนาขออย่าให้ทุกอย่างเลวร้ายไปมากกว่านี้เลยเพราะ ที่ผ่านมาเป็นทุกข์เกินพอแล้วรู้ดีเต็มอก ไม่มีวันไหนจะไม่โทษตัวเองกับเรื่องที่เกิดขึ้น คนตรงหน้าเป็นแบบนี้..เพราะความดื้อดึงของเธอเองหากไม่จุ้นรนหาที่ในวันนั้น วันนี้จะไม่เป็นบ่อเกิดของความทรมานเลย แม้นคนตรงหน้าจะไม่ตาย ก็ใช่ว่าเธอจะดีใจได้ถึงขีดสุด...การมีชีวิตอยู่ของเขา ที่เอาแต่นอนแน่นิ่ง ทำราวกับเธอเป็นเพียงธาตุอากาศ ความรู้สึกมันดุจมีดคมกริบกรีดอกให้เจ็บปวดเหลือเกิน!เธอจะทำยังไงดี จะทำยังไงดีมีแต่คำนี้ที่วนเวียนใกล้ทำสมองให้เป็นประสาท!" เพราะอะไร? "คำถามที่ออกมาเพียงแค่ลม ทว่าคนได้ยินอย่างเรกาโดรับรู้ดีถึงความเจ็บปวด ดังขึ้นพร้อมสีหน้าสลดไร้เครื่องปรุงแต่งปากเธอซีดเผือดพอๆกับคนบนเตียงที่เอาแต่นอนมองเพดานนิ่ง" เขาจำอะไรไม่ได้ นี่คือเหตุผลที่พวกเราต้องพึ่งพาเธอ "" ทำไมไม่บอกฉันตั้งแต่แรก "ก่อนก้อนน้ำตาที่อัดอั้นอยู่นานพอควร จะ
หลายเดือนต่อมาเสียงระบบช่วยหายใจ มองเห็นเพียงสายไฟแล้วจอคอมที่มีเลเซอร์วิ่ง กระนั้นสามารถช่วยต่อชีวิตคนได้ ดังเตือนเป็นจังหวะบีบหัวใจคนฟังมาหลายต่อหลายวันแล้ววันนี้...มันได้เวลาปลุกเจ้านายบนนั้นร่างใหญ่ค่อยๆขยับแค่ปลายนิ้วก่อน จากนั้นจึงจะตามมาด้วยเปลือกตาที่หนักอึ้ง เขากระพริบตาขึ้นลงช้าๆ กระทั่งถี่และเบิกกว้างได้จึงจะสั่งหยุด" อ่า..."เสียงบ่งบอกถึงความปวดหัว กับต้องปรับตัว ปลุกคนข้างๆให้สะดุ้งตื่น เรกาโดถึงกับสร่างงัวเงียเมื่อเห็นกันเลยทีเดียว" เว้ด! ฟื้นแล้วเรอะ "แต่แล้ว..เขาคนนั้นกลับขมวดคิ้วทำหน้างง ค่อยๆหันมาทางเจ้าของเสียง" ใคร..." เอ่ยเสียงแผ่วซึ่งนั่นทำให้คนได้ยินมันอย่างครูซัสถึงกับนิ่งเงียบไปเขาอึ้ง สร่างง่วงเป็นปลิดทิ้ง" ใคร..."" กูหรือ?? ก็เพื่อนมึงไงพวก เรกาโด "" เพื่อน .." เขาทวนก่อนชี้หน้าอกตัวเองพลางเลิกคิ้ว ทำคนฟังถึงกับดีดตัวขึ้นมานั่งแบบมีสติพลางลูบหน้า ลูบเครา ไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆ทางด้านของไศลาช่วงเวลาเดียวกันแต่คนละขั้วโลกเพล้ง!เสียงแตกหักของจานกระเบื้องดังสะเทือนลั่นบ้าน มือสั่นเทาของหล่อนชะงัก หลังเสียงนั้นปลุกสติให้
ร่างสูงยืนตระหง่านอยู่ในห้องมืด คล้ายกับห้องลับที่เคยบรรจุบุคคลสำคัญในอดีต มือคู่แข็งแลเห็นแต่เส้นเลือด ปูดขึ้นบ่งบอกให้รู้ถึงความหนักของสงครามในแต่ละครั้งที่ผ่านมา พร้อมใจกันล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงในขณะใบหน้าเรียวได้รูปวางตรงเหม่อลอย สายตาพยายามเก็บกักอาการที่กำลังจะออกมาเอาไว้ พลางต่อต้านด้วยความอดทนขั้นสูงสุด ซึ่งสั่งหยุดเอาไว้ชั่วคราวไม่ให้มีโอกาสได้เปิดเผย หวังรอช่วงเวลานี้ให้ผ่านพ้นไป...ประมาณนั้น....มองตรงไปยังตำแหน่งหนึ่ง ที่ไม่ได้พิเศษอะไร หรือน่าสนใจเสียจนต้องให้ความสำคัญทว่า เพียงแค่จุดนั้นสามารถทำให้สมองเขาโลดแล่นต่อไปได้ นั่นคือความจำเป็นที่ต้องการเรกาโด ครูซัส ผู้ครองตำแหน่งคนคิดค้นหนทางการเอาตัวรอดในบางครั้งของแก็งค์รองลงมาจากใครคนหนึ่ง คนที่วิญญาณหายสาบสูญยากที่จะหวนกลับมาในตอนนี้บัดนี้...ไร้แล้วซึ่งศักยภาพตรงนั้นภาพจำวนเวียนมายังโซนสมองของเขา นั่นคือส่วนที่มีความอ่อนแอแฝงอยู่ สลับกับความแค้น และกฏเกณฑ์อีกจิปาถะ ที่รวมหัวกันสร้างขึ้นมาเองแต่แล้ววันนี้กลับต้องเอามาใช้เขาคิดไม่ถึง และถ้าหากเลือกได้...คงไม่ทำมัน!" ฟู่วว.."ในขณะเขากำลังคิด ถอนหายใจเป็นร้อยรอบ พ