Share

บทที่ 160

Auteur: เบลล่า
มุมมองของแซนดร้า

ฉันเดินออกจากลิฟต์อย่างรวดเร็ว โดยส้นสูงกระทบกับพื้นตามจังหวะการแกว่งไกวของสะโพก เมื่อฉันก้าวเท้าไปตามโถงทางเดินเพื่อไปยังห้องทำงานของพ่อ ซึ่งในขณะเดียวกันฉันก็รู้สึกได้ว่ามีผู้คนมากมายจับจ้องฉันอยู่ทุกย่างก้าว มีพนักงานบางคนที่เดินผ่านมาได้ทักทายฉัน แต่ฉันไม่ได้หันไปมองหรือตอบโต้อะไร เพราะเอาแต่เดินผ่านพวกเขาไป

เมื่อฉันไปถึงประตูห้องทำงานของพ่อ ฉันก็เดินเข้าไปข้างในโดยไม่บอกกล่าวอะไร ซึ่งข้างในนั้นพ่อของฉันนั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงานพร้อมกับผู้ชายอีกสองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขา พวกเขาทั้งหมดหันมามองตอนฉันเดินเข้าไป

พ่อเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเห็นฉันปรากฏตัว ก่อนจะสรุปการพูดคุยกับแขกพวกนั้น

“ผมจะจัดการในส่วนที่เหลือเอง พวกคุณสองคนไปเถอะ"

ผู้ชายสองคนนั้นพยักหน้าแล้วเดินออกจากห้องไป ในขณะฉันมองดูพวกเขาเดินจากไป จากนั้นฉันก็หันกลับมาเผชิญหน้ากับพ่อ เดินไปหย่อนก้นลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่งที่ตั้งอยู่ตรงหน้าเขา แล้วกระแทกกระเป๋าสตางค์ลงโต๊ะอย่างเหนื่อยอ่อน เจมส์ เฮนเดอร์สัน พ่อของฉันเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาหลายสมัย เขาเป็นที่รู้จักในฐานะนักการเมืองที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งของประเทศ

เข
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé

Related chapter

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 161

    ผู้ชายไร้ค่าแบบมาร์ค คงไม่มีวันเติมเต็มความต้องการอันเร่าร้อนของฉันได้หรอก ฉันรู้ดีเพราะว่าเคยผ่านผู้ชายมาตั้งกี่คน แต่พวกเขาก็ไม่เคยทำให้ฉันถึงใจได้สักทีทว่าผู้ชายที่ต้องแต่งงานด้วยกลับต้องมานั่งรถเข็น? ฉันต้องกลายเป็นคนดูแลเขาเหมือนพี่เลี้ยงเด็กงั้นเหรอ? ตลกสิ้นดี ฉันจะไม่มีวันยอมให้เป็นแบบนั้นเด็ดขาด แค่คิดว่าต้องผูกติดกับเขาไปตลอดชีวิตฉันก็แทบจะสำรอกออกมา ถ้าฉันแข็งใจปฏิเสธตั้งแต่แรก เรื่องน่ารังเกียจนี้ก็คงไม่เกิดขึ้นยิ่งคิดถึงสายตาเยาะเย้ยและเสียงซุบซิบนินทาจากเพื่อนๆ ในแวดวงไฮโซเมื่อข่าวแพร่สะพัดออกไปว่า “แซนดรา เฮนเดอร์สัน คุณหนูผู้เพียบพร้อม” ต้องมาลงเอยกับสามีพิการไร้น้ำยา คงกลายเป็นเรื่องตลกให้คนพวกนั้นหัวเราะเยาะไปอีกนานมันเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้! ฉันต้องทำให้พ่อเข้าใจให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ฉันต้องทำให้พ่อเห็นถึงความไร้ค่าของมาร์คที่โรงพยาบาล พยาบาลช่วยกันพยุงร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงของเขามานั่งบนเตียง ก่อนจะยกตัวเขาขึ้นราวกับตุ๊กตาวางลงบนรถเข็นที่จอดรออยู่ ฉันแทบจะอาเจียนออกมาเมื่อเห็นภาพน่าสมเพชนั้นดูเอาเถอะ"เรียบร้อยแล้วค่ะ" พยาบาลสาวเอ่ยด้วยรอยยิ้มจืด

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 162

    มุมมองของซิดนีย์ฉันมองตามร่างของแซนดร้าที่กำลังเดินจากไปด้วยแววตาขบขัน ผู้หญิงคนนี้ช่างมีพรสวรรค์ในการปรากฏตัวและจากไปอย่างน่าตื่นเต้น แม้ในสถานการณ์ที่ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น ทันทีที่แซนดร้าลับสายตา ฉันก็หันกลับมามองมาร์คที่กำลังหมุนรถเข็นเพื่อรูดซิปกางเกงของเขาอย่างน้อยอาการความจำเสื่อมก็ไม่ได้พรากความรู้สึกตัวตนของเขาไป ฉันคิดเช่นนั้น ใครจะไปรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นไม่กี่วินาทีก่อนที่ฉันจะมาถึงประตู ฉันได้ยินคล้ายเธอโอดครวญว่าเขาไม่ค่อยมีความต้องการทางเพศหรืออะไรสักอย่างมาร์คหันกลับมามองหน้าฉัน คิ้วของเขาเลิกขึ้นราวกับว่าเขากำลังท้าทายให้ฉันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ของเขาอย่างเงียบ ๆ พลันรู้สึกถึงความร้อนที่คืบคลานขึ้นมาที่คอของฉัน ทั้งหมดเป็นเพราะฉันกำลังกลั้นหัวเราะ แม้จะความจำเสื่อม มาร์คก็ยังคงทำตัวแข็งกร้าว เปี่ยมด้วยมั่นใจในตัวเองแบบไหลเวียนอยู่ในเส้นเลือดฉันกอดอกเดินเข้าไปในห้องอย่างไม่ใส่ใจเท่าที่จะทำได้ และจ้องมองสำรวจรูปร่างหน้าตาของเขาตั้งแต่ผมจรดปลายเท้า"รู้ไหม คนส่วนใหญ่คงอับอายขายหน้าถ้ากางเกงหลุดต่อหน้าคนอื่นนะ" ฉันกล่าวประชดประชัน"แต่ก็นั่นแหละ คุณไม่เค

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 163

    หลายสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ช่างเป็นช่วงเวลาอันแสนสุข ฉันรู้สึกราวกับได้ชีวิตของตัวเองกลับคืนมาอีกครั้ง ได้ใช้ชีวิตอย่างที่ใจปรารถนาเสียที หลังจากที่ได้ช่วยเหลือมาร์คเท่าที่ฉันจะทำได้ และมั่นใจแล้วว่าเขาปลอดภัยดี ตำแหน่งประธานบริษัทก็ยังพอจะกอบกู้ไว้ได้ ฉันก็สามารถหันมาโฟกัสกับงานและตัวเองได้อย่างเต็มที่หัวใจของฉันพองโตด้วยความอบอุ่น ท้องไส้ปั่นป่วนด้วยความสุขทุกครั้งที่นึกถึงเดทแสนหวานกับลูคัสที่เรามีโอกาสได้เจอกันบ่อยขึ้น ราวกับว่าเราทั้งสองต่างตกลงกันโดยปริยายว่าจะใช้เวลาอันน้อยนิดที่มีร่วมกันให้คุ้มค่าที่สุดในยามที่เราไม่ได้ทำงาน และทุ่มเทให้กับความสัมพันธ์ของเรามากขึ้นฉันรู้จักลูคัสมานานแสนนาน ตั้งแต่ก่อนที่เราจะแยกจากกัน ฉันรู้ดีว่าเขาเป็นเด็กหนุ่มที่อ่อนโยน และจะเติบโตเป็นผู้ชายที่แสนดี แต่ลูคัสในวันนี้กลับทำให้ฉันประหลาดใจ เขาเผยให้เห็นมุมมองที่อ่อนโยน ซึ่งฉันไม่เคยคาดคิดมาก่อน มุมที่ฉันเคยเชื่อว่ามีแต่ในนิยายรักหวานซึ้งเท่านั้น แม้ว่าบางครั้งจะมีข่าวคราวและความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีของเบลล่าจากทนายความที่ทำให้ฉันกังวลใจอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีวันไหนเลยที่ฉันจะไม่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 164

    ในท้ายที่สุด เบลล่าถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลโรคจิตเพื่อรับการบำบัดรักษาอย่างเหมาะสม แทนที่จะต้องโทษจำคุก แม้กระทั่งก่อนที่ผู้พิพากษาจะเอ่ยปาก ฉันก็ล่วงรู้คำตัดสินของเขาอยู่แล้วฉันถอนหายใจด้วยความโล่งอก นี่เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด บางทีอาจเป็นสิ่งที่ฉันแอบหวังไว้โดยไม่รู้ตัวแม้ว่าเบลล่ากับฉันจะกลายเป็นคนอื่นต่อกันเพราะมาร์ค แต่ฉันรู้สึกว่าฉันได้ลงโทษเธอในแบบของฉันเองแล้วน่าเศร้าที่ความสัมพันธ์ของเบลล่ากับไอแซคนั้นยาวนาน และเธอก็ยังเป็นน้องสาวของฉัน ไอแซคทำให้เธอเป็นคนที่บอบช้ำ และเธอจำเป็นต้องได้รับการเยียวยาอย่างจริงจังดังนั้นการส่งเธอไปโรงพยาบาลโรคจิตจึงเปรียบเสมือนการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวหนึ่งคือฉันสามารถตัดเธอออกไปจากชีวิตได้ระยะหนึ่ง และถือเป็นการลงโทษเธอโดยการพรากอิสรภาพ ข้อสองเธอจะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด และมีโอกาสที่จะเยียวยาตัวเองจนกลายเป็นคนที่ดีขึ้นเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ฉันเดินออกจากห้องครัว โยกตัวไปตามจังหวะเสียงเรียกเข้าขณะที่เดินไปยังห้องนั่งเล่นเพื่อหยิบโทรศัพท์ฉันยิ้มเมื่อเห็นชื่อผู้โทร "ไงคะ เพื่อนสาว ฉันโทรมาถามว่าเธ…"ฉันขัดจังหวะเธอด้วยรอยยิ้ม "นี่มัน

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 165

    ตอนนั้นเองที่ฉันสังเกตเห็นชุดคนไข้สีเขียวที่เธอสวมอยู่ แต่ฉันยังคงขมวดคิ้วด้วยความสงสัย "แล้วเธอเข้ามาในบ้านฉันได้ยังไง?"เธอยิ้มเยาะอีกครั้ง "นี่แหละ คือเหตุผลที่ทำไมแกถึงควรมีคนหูตาไวอยู่รอบตัว ป้าแก่ๆ เพื่อนบ้านแกตามันฝ้าฟาง จำคนผิดคิดว่าฉันเป็นคนที่อยู่กับแก ฉันก็เลยบอกไปว่าลืมกุญแจ แล้วแกก็ไม่รับโทรศัพท์ นางแก่นั่นก็เลยให้ปีนกำแพงบ้านมันเข้ามาไงล่ะ"โอ้ ฉันจดไว้ในใจว่าต้องไปคุยกับคุณยายคนนั้นให้รู้เรื่องเสียแล้ว "แต่เธอเข้ามาในบ้านได้ยังไง?" ฉันถามต่อ"ถามมากจริงนังนี่" เธอจี้ปืนที่ขมับฉันแน่นขึ้นฉันกลอกตาเมื่อสัมผัสได้ถึงปลายกระบอกปืนที่ขมับ ถ้าเธอจะยิงฉันจริง ๆ เธอก็คงทำไปแล้ว คงไม่มามัวเสียเวลาคุยเรื่องไร้สาระแบบนี้หรอกฉันตัดสินใจเสี่ยง เดินไปนั่งที่โซฟาในห้อง ฉันเหนื่อยเกินกว่าจะมายืนเล่นเกมถามตอบกับน้องสาวจอมโจรคนนี้แล้วเธอดูประหลาดใจกับการกระทำของฉัน ยืนอ้าปากค้างมองฉันอยู่ครู่หนึ่ง ฉันจ้องกลับไป มองเธอเปลี่ยนท่าทาง เล็งปืนมาที่ฉัน มองนิ้วของเธอที่เหนี่ยวไกปืน มองปลายกระบอกปืนแค่เธอออกแรงกดอีกนิดเดียว กระสุนก็จะพุ่งทะลุหัวหรือหัวใจ แล้วแต่ว่าเธอเล็งไปที่จุดไหนฉั

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 166

    ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดหัวตุบ ๆ ที่รุนแรงที่สุดเท่าที่จำได้... อาจจะเกินไปนิด แต่เอาเถอะ มันเจ็บจริง ๆ ฉันนิ่วหน้าเล็กน้อยพลางพลิกตัวไปด้านข้าง เห็นเสา ผ้าม่านสีฟ้า ผนังสีขาว ดูแล้วฉันน่าจะอยู่ในโรงพยาบาลสินะ ภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่พาให้ฉันต้องมานอนอยู่ที่นี่พรั่งพรูเข้ามาในหัวใครพาฉันมาที่นี่นะ? ฉันครุ่นคิดพลางกวาดตามองไปรอบๆ คอมพิวเตอร์ที่ส่งเสียงบี๊บๆ ผ้าม่านสีฟ้าอีกผืน ผนังสีขาว ทางเดิน…"พระเจ้า ซิดนีย์!"ทันใดนั้นก็มีใครบางคนโผเข้ามากอดฉัน ฉันหลับตาแน่นเพราะปวดหัว พอหันไปมองก็เห็นว่าเป็นเกรซ จึงฝืนยิ้มให้ แต่เมื่อเห็นตาบวมๆ ริมฝีปากแดงๆ พร้อมรอยยิ้มทั้งน้ำตา และรอยคล้ำใต้ตาของเธอ รอยยิ้มของฉันก็พลันหายวับไป เกรซไม่เคยมีสภาพแบบนี้มาก่อน ไม่ว่าจะทำงานหนักหรืออดหลับอดนอนแค่ไหน เธอก็ดูสดใสอยู่เสมอ"เกิดอะไรขึ้น? เป็นอะไรรึเปล่า?" ฉันถามด้วยความตกใจ พยายามจะลุกขึ้น แต่เกรซรีบกดไหล่ฉันไว้ นิ้วมือของเธอค่อยๆ นวดคลายกล้ามเนื้อ "ใจเย็น ๆ สาวน้อย ใจเย็น ๆ เธอต้องพักก่อน" เสียงของเธอสั่นเครือ แต่ก็แฝงไปด้วยความดีใจแล้วฉันก็นึกขึ้นได้ ในจังหวะที่ไม่ควรนึกขึ้นได้เอาซะเลย ฉันเงยหน้

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 167

    ซิดนีย์พยักหน้า "เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะคุณหมอ"ฉันหันไปมองเกรซ ส่งสายตาแบบ 'แล้วไง' ไปให้ เธอกลอกตา แต่ก่อนที่เธอจะสบตาฉันก็เห็นเธอแอบมองคุณหมออยู่ไม่นานนัก คุณหมอจึงหันไปหาเกรซ "คุณด้วยนะครับ" เขาชี้ปากกาในมือไปทางเธอ ฉันไม่คิดว่าเพื่อนของฉันจะหน้าแดงไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว "คุณต้องดูแลตัวเองด้วยนะครับ ขณะที่ดูแลคนไข้ ดูคุณสิ หน้าแดงหมดแล้ว ตั้งแต่เมื่อคืนไม่ได้นอนเลยใช่ไหมครับ! จะกลายเป็นหมีแพนด้าอยู่แล้วนะครับ"เกรซหัวเราะคิกคัก หน้าแดงก่ำ "ฉัน... ฉันเข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะคุณหมอ" ฉันแทบจะตบหน้าผากตัวเองเมื่อได้ยินเธอพูดตะกุกตะกักคุณหมอยิ้มกว้างให้เธอ ก่อนจะหันมามองฉันแวบหนึ่ง "งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ถ้าต้องการอะไร เรียกผมได้เลยนะครับ"ฉันพยักหน้า "ค่ะ"เกรซถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากคุณหมอออกจากห้องไป แล้วก็เริ่มพัดบริเวรใบหน้าของตัวเอง "พระเจ้า! ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้ชายคนนั้นเห็นฉันตอนมีรอยคล้ำใต้ตา ฉันต้องดูเหมือนคนบ้าแน่ๆ" เธอหันมาหาฉัน "ฉันดูเหมือนคนบ้าไหม?""ไม่ เธอดูไม่เหมือนคนบ้าสักหน่อย"เธอเบะปาก แล้วก็หรี่ตาลงทันที "ยังไงเธอก็ไม่ได้ไปประชุมนั่นหรอก""เอาน่า

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 168

    “เพราะโรสขายหุ้นให้ผมแล้วไง” ลูคัสตอบพร้อมกับยิ้มเหยียดอย่างพอใจฉันผงะถอยหลังด้วยความตกใจ อะไรนะ? ทำไมเธอถึงทำแบบนั้น?ฉันจำได้อย่างชัดเจนว่ามาร์คเคยบอกฉันอย่างมั่นใจว่า เขาถือหุ้นมากกว่าและกลายเป็นหัวหน้ากลุ่มโดยพฤตินัย เพราะหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ของแม่ของเขา เมื่อรวมกับหุ้นสี่สิบหกเปอร์เซ็นต์ของเขา งั้นตอนนี้โรสขายหุ้นให้ลูคัสหมายความว่ายังไง? ไม่มีผู้ถือหุ้นคนไหน โดยเฉพาะพวกโลภมากในห้องนี้จะยอมให้คนที่ป่วยครึ่ง ๆ กลาง ๆ ที่มีหุ้นต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของบริษัททั้งหมดเป็นผู้นำถึงแม้ว่ามาร์คจะไม่ได้สูญเสียความทรงจำ เขาก็ยังคงไม่สามารถควบคุมคณะกรรมการบริหารได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดฉันมองไปรอบ ๆ ห้อง มองไปที่ผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ ขณะที่เรารอเจ้าภาพและมาร์ค บางคนกำลังคุยกันเบาๆ แต่ฉันสามารถมองเห็นความโลภในดวงตาของพวกเขาได้อย่างชัดเจน นี่คือโอกาสที่พวกเขาทุกคนรอคอย โอกาสในการแซงหน้าฉันแค่หวังว่าทั้งหมดนี้จะไม่หนักเกินไปสำหรับเขา เพราะเขายังคงดิ้นรนที่จะเข้าใจทุกอย่างรอบตัวเขาฉันหันกลับไปมองลูคัส ที่จ้องมองใบหน้าของฉัน มุมปากของเขาโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มเล็กน้อย “คุณดูน่าทึ่งมาก”“ฮะ?” ฉันอุทานออ

Latest chapter

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 438

    มุมมองของนักเขียนอาน่าถอนหายใจเสียงดังขณะเดินเข้าไปในห้องพักของเดนนิสและนั่งลงข้าง ๆ เขา เธอหยิบหนังสือออกมาและเริ่มอ่านเป็นครั้งคราว เธอจะเปิดโทรศัพท์เพื่อดูจัสตินนอนหลับหรือเล่นรอบบ้านในขณะที่พี่เลี้ยงยุ่งอยู่ หรือแค่ซุกตัวบนโซฟาตัวหนึ่งเพื่ออ่านหนังสือ โดยคอยจับตาดูจัสตินตอนนี้มันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของอาน่าไปแล้วในวันที่เธอพักค้างคืนที่โรงพยาบาล เธอจะออกจากที่นั่นแต่เช้าเพื่อไปดูแลจัสตินและกลับมา ขณะที่เธอนั่งอยู่ข้างๆ เขา นิ้วอุ่นๆ ของเธอประสานกับนิ้วเย็นๆ ที่ยังคงนิ่งของเขา เธอจะอ่านหนังสือเดนนิสยังคงอยู่ในอาการโคม่า และในแต่ละวัน อาน่ารู้สึกว่าความกลัวกำลังเพิ่มขึ้น... กลัวว่าเขาอาจจะยังคงอยู่ในอาการโคม่าจนถึงแก่ชีวิต ทั้งหมดเป็นเพราะเธอคนเดียวเธอต้องการให้เขาลืมตาขึ้นมามองเธอด้วยความรักที่เขามีให้เธอเสมอ เธอต้องการบอกเขาว่าเธอรักเขามากแค่ไหนและรู้สึกขอบคุณที่มีเขาในชีวิตของเธอ แต่ที่สำคัญที่สุด เธอต้องการขอโทษเขาเธอเห็นแก่ตัวมาก คิดว่าความเจ็บปวดของพวกเขาไม่ยิ่งใหญ่เท่าของเธอ... พวกเขาทุกคนรักเอมี่อย่างสุดซึ้ง และพวกเขาทุกคนเจ็บปวดกับการจากไปของเธอจากชีวิตนี้ ห

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 437

    มุมมองของนักเขียนชารอนถูกตัดสินว่าไม่มีความผิดฐานมีส่วนร่วมโดยตรงในการเสียชีวิตของเอมี่ แต่มีความผิดฐานสมรู้ร่วมคิด เธอโชคดีพอที่จะได้รับการลดหย่อนโทษ จำคุกในระยะเวลาอันสั้น ทนายของเธอทำให้แน่ใจว่ามันจะเป็นเช่นนั้น และทั้งหมดนี้เป็นเพราะพ่อของเธอแม้ว่าพ่อของเธอจะผิดหวังกับทุกสิ่งที่เธอทำ แต่เธอก็เป็นลูกสาวของเขา ทายาทที่น่าเกรงขามเพียงคนเดียวของเขา ไม่มีทางที่เขาจะทอดทิ้งเธอได้ขณะที่เธอรับโทษจำคุก นับถอยหลังสู่วันที่เธอจะได้ออกไปจากที่นั่นในที่สุด เธอได้รับเอกสารหย่าร้างส่งมาให้เธอเธอคิดว่าเช้าวันนั้นหนาวเกินไปสำหรับฤดูกาล ห้องขังเล็กๆ ของเธอรู้สึกเล็กกะทันหัน มันรู้สึกเหมือนมันจะปิดล้อมเธอ และเธอเอามือสอดเข้าไปในช่องประตูเพื่อหายใจเมื่อหนึ่งในผู้คุมมาพาเธอไปเธอนั่งลง ได้รับปากกา และต่อหน้าเธอ บนโต๊ะเหล็ก มีจดหมายหย่าร้างวางอยู่ เหตุผลหลักที่เธอเข้าไปเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมและการกระทำสกปรกเหล่านี้ทั้งหมดคือเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ไอเดนทิ้งเธอ มันน่าเศร้าจริงๆ ที่เธอทำงานอย่างหนักเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ แต่กลับถูกโยนใส่อย่างแรงที่ใบหน้าของเธอในตอนท้ายดวงตาปวดหนึบด้วยน้ำตาขณะที่เธ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 436

    "หยุด!" เสียงของเธอสั่นเครือขณะที่เธอตะโกนบอกคนขับแท็กซี่แค่นั้นก็เพียงพอให้อาน่าหันกลับมา"ฉันทำอะไรลงไป?" ลมหายใจของเธอสั่นเทาขณะที่เธอเปิดประตูและรีบออกจากแท็กซี่ มือของเธอสั่นเทาขณะที่เธอสะดุดลงบนทางเท้า"เดนนิส!" เธอตะโกนขณะที่เข่าของเธอล้มลงบนพื้นคอนกรีตแข็ง "ได้โปรด อย่า" เธอพูดกระซิบ สายตาของเธอจ้องมองไปที่รถที่พังยับเยิน "เดนนิส ต้องรอดให้ได้นะ"เธอคลานไปที่รถ มองเข้าไปข้างในเพื่อดูเขา แต่ข้างในนั้นมืดมิดและเสียงสะอื้นของเธอก็ดังขึ้น "ทำไมฉันถึงออกมา? ทำไมฉันไม่รอเขา?"เธอเช็ดน้ำตา "ฉันสัญญา" เธอสะอื้น "ฉันจะไม่ไปหาเอมี่อีกแล้ว ฉันสัญญา เดนนิส ได้โปรดออกมา" เธอร้องไห้ขณะที่เธอจำได้เลือนรางว่าเขาบอกเธอว่าเอมี่ได้รับความยุติธรรมแล้ว และไม่จำเป็นต้องไปหาเธออีกต่อไปนี่เป็นความผิดของเธอทั้งหมด เธอควรจะฟังเขา เธอควรจะรอเขาก่อนที่เธอจะออกไป"อาน่า!" ไอเดนตะโกนขณะที่เขารีบออกจากรถ เขารู้สึกโล่งใจที่เห็นอาน่า เขาหารถแท็กซี่หลังจากที่เดนนิสขับออกไปสักพัก และตามเขาไป เมื่อเขาสังเกตเห็นฝูงชนและเห็นว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เขาก็กลัวว่าจะเป็นอาน่า"ให้ตายสิ!" เขาพึมพำขณะหยุดอยู่ต่อ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 435

    มุมมองของนักเขียนหลังจากที่ไอเดนได้ยินคำพูดเหล่านั้น เขาไม่ลังเลเลยก่อนที่จะเดินออกจากห้องพิจารณาคดีหัวใจของชารอนแตกสลายเมื่อมองดูไอเดนเดินออกไปอย่างโกรธจัด เขาเกลียดชังเธอมากจนทนดูการพิจารณาคดีของเธอไม่ได้เลยหรือ? น้ำตาไหลลงมาบนใบหน้าของเธอ และเธอรีบเช็ดมันออกก่อนที่พ่อของเธอจะเห็นพ่อของเธอบอกเธอไปก่อนหน้านี้ว่า "พอได้แล้ว ชารอน อย่าร้องไห้เพราะผู้ชายอย่างเขาเลย" แต่นั่นหลังจากที่เขาตำหนิเธอสำหรับทุกสิ่งที่เธอทำ"มีการตัดสินแล้วหรือยัง คุณไอเดน? คุณจะประกันตัวภรรยาของคุณไหม?"คำถามทั้งหมดของพวกเขาไม่ได้เข้าหูไอเดนแม้แต่น้อย เขาไม่ได้สนใจสิ่งใดเลยขณะที่เขาเร่งรีบไปที่รถของเขาและขับออกจากบริเวณศาลระหว่างทางไปโรงพยาบาล เขาโทรหาทีมรักษาความปลอดภัยของเขาที่ตามเขามาทันทีที่เขาขับรถออกไป "อาน่าสตาเซียเพิ่งหนีออกจากโรงพยาบาลบ้า ตามหาเธอ" เขาออกคำสั่ง "ผมจะส่งรูปของเธอให้คุณตอนนี้""ครับ"เขาตัดสาย ขณะที่เขาขับรถ เขาหารูปอาน่าที่ชัดเจนและส่งให้ทีมรักษาความปลอดภัยที่เริ่มตามหาเธอทันทีจากนั้นไอเดนพยายามโทรหาเดนนิส แต่เขาก็ยังไม่รับสายเมื่อมาถึงโรงพยาบาล เขาพบเดนนิสอยู่ข้างนอก เขา

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 434

    ไอเดนเมื่อเวลาผ่านไป คดีของเอมี่ได้รับความสนใจจากสื่อมากมาย ช่องข่าวทุกช่องมีรูปเด็กผู้หญิงน่าสงสารคนนั้นขณะที่พวกเขาพูดถึงการตายที่ไม่ยุติธรรมของเธอ และทุกคนที่รับผิดชอบต้องถูกลงโทษตามนั้นท่ามกลางทุกสิ่งทุกอย่าง จุดสนใจก็เปลี่ยนจากเอมี่มาเป็นชารอนและผม อย่างไรก็ตาม มีข่าวลือเกี่ยวกับชีวิตแต่งงานของเราและการตั้งครรภ์ปลอมของเธอผมเริ่มได้รับโทรศัพท์จากหมายเลขที่ไม่รู้จักหลายหมายเลข โทรมาถามคำถามไร้สาระทั้งหมดเพื่อต้องการข้อมูลโดยตรงจากแหล่งข่าว ผมต้องเปลี่ยนซิมการ์ดในโทรศัพท์ของผมเป็นซิมที่ผู้ช่วยของผมใช้ หากมีข้อมูลใดๆ เขาก็แค่ส่งต่อมา ผมเบื่อที่จะรับมือกับสายเรียกเข้าที่ไม่หยุดหย่อนเหล่านั้นเมื่อชารอนอาการดีขึ้นและเธอต้องถูกส่งตัวกลับไปที่สถานีตำรวจ พวกเขามาถึงสถานีพร้อมกับกลุ่มนักข่าวที่ทางเข้าตำรวจคุ้มกันเธอขณะพาเธอเข้าไปข้างใน แต่นั่นไม่ได้หยุดนักข่าวจากการตะโกนถามคำถามของพวกเขา"คุณเสแสร้งว่าท้องจริง ๆ เหรอ คุณนายไอเดน?""คุณชารอน คุณยังเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้วอยู่ไหม?""สามีของคุณอยู่ที่ไหน? เขายังรักคุณอยู่ไหม?""จะมีการหย่าร้างไหม?""คุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสีย

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 433

    เดนนิสอาน่าถูกส่งตัวไปยังศูนย์บำบัดวิกฤตสุขภาพจิต และผมใช้เวลาส่วนใหญ่ของผมที่นั่น แม้ว่าผมจะพยายามแบ่งเวลาอย่างเท่าเทียมกันระหว่างงาน จัสติน และเอมี่ แต่ผมก็พบว่าตัวเองใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่นี่งานเป็นไปด้วยดีอย่างยิ่ง ตอนนี้ผมทำเงินได้มากกว่าที่เคยทำก่อนที่ผมจะถูกหลอก แต่ผมไม่มีความสุข คนที่ผมรักที่สุดอยู่ในบ้านพักผู้ป่วยทางจิต ทุกวันที่ผมไปที่นั่น ผมหวังว่าอาการของเธอจะเริ่มดีขึ้นในไม่ช้า ครึ่งหนึ่งของเวลา เธอดูปกติดี แค่นั่งอยู่คนเดียวด้วยสีหน้าที่เป็นกลาง เธอจะไม่พูดคุยกับใครเป็นเวลาหลายชั่วโมง อีกครึ่งหนึ่งใช้ไปกับการร้องไห้และขอร้องให้ผมพาพวกเราไปหาเอมี่แพทย์บอกว่าเธอดีขึ้น แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้นสำหรับผมจัสตินทำได้ดีมาก เขาดูเหมือนจะไม่โศกเศร้าอย่างที่ไอเดนแนะนำ มีบางครั้งที่เขาจะร้องไห้และไม่มีอะไรทำให้เขาหยุดได้จนกว่าเขาจะหลับไป แต่ช่วงเวลาเหล่านั้นหายาก และผมคิดว่าเขาแค่คิดถึงแม่ของเขาผมทำให้แน่ใจว่าผมมีเวลาให้เขาเสมอ เหมือนกับที่ผมมีเวลาให้อาน่า ไม่ว่างานจะยุ่งแค่ไหน ผมไม่ต้องการปล่อยเขาไว้กับพี่เลี้ยงทั้งหมด แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่ดี แต่ผมต้องการให้ไอเดนเติ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 432

    ไอเดนนักสืบส่งที่อยู่โรงพยาบาลที่ชารอนถูกนำตัวส่งมาให้กับผมภายในห้อง ชารอนนอนขดตัวอยู่กับตนเองพร้อมกับกุญแจมือที่คล้องอยู่พอจะเอื้อมถึงเธอรีบลุกขึ้นนั่งเมื่อเห็นผมเข้ามาในห้อง "ไอเดน" เธอหายใจออกมา ดวงตาเบิกกว้างด้วยความกลัว"ไม่เพียงแต่คุณจะเป็นอาชญากร แต่ยังเป็นคนโกหกด้วยเหรอ? คนโป้ปด!" ผมพูดออกมาขณะที่สายตาเหลือบไปที่ท้องแบนราบของเธอ ผมหัวเราะเยาะตัวเองขณะทรุดตัวลงบนเก้าอี้ที่หันหน้าเข้าหาเตียงของเธอ ผมรู้สึกหมดแรงจนแทบจะยืนด้วยขาของตัวเองไม่ได้เธอส่ายหัว น้ำตาไหลลงมาบนใบหน้าของเธอ เหมือนกับที่มันไหลลงมาบนใบหน้าของเธอตอนที่เธอถูกจับกุม "มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด ฉันสาบานได้นะ ฉัน…" เธอพูดไม่ออกและไหล่ของเธอก็สั่นเทาขณะที่เธอร้องไห้หนักขึ้นผมเอียงศีรษะไปด้านข้างและมองเธออยู่ครู่หนึ่ง ผมไม่แปลกใจเลยที่ผมไม่รู้สึกสงสารเธอแม้แต่น้อย "ถ้ามันไม่ใช่อย่างที่ผมคิด แล้วมันคืออะไร? บอกมาสิ""คุณแกล้งทำเป็นท้องมาตั้งหลายเดือน!" เสียงหัวเราะขมขื่นหลุดออกจากริมฝีปากขณะที่ผมส่ายหัว มันยังคงรู้สึกเหมือนเรื่องตลก ผมคงไม่เชื่อนักสืบเลย ถ้าไม่มีสัญญาณทั้งหมดที่ผมมองข้ามไปผมโน้มตัวไปข้างหน้

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 431

    ไอเดนผมตกใจกับคำพูดของเขา เดนนิสรู้แล้วเหรอ?เดนนิสก็มีส่วนร่วมในการสอบสวนด้วย เขาแค่ไม่ได้กระตือรือร้นเท่าผม ดังนั้นมันไม่น่าแปลกใจที่เขาจะได้ยินเรื่องนี้ นอกจากนี้ มันเป็นคดีของลูกสาวเขาด้วย เขาจึงมีสิทธิ์ที่จะรู้แต่ผมเลือกที่จะเพิกเฉยต่อคำพูดที่รุนแรงของเขา ผมยังคงสับสนกับข่าวที่ว่าอนาอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชในขณะนี้ มันเป็นไปได้อย่างไร? เขาปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? ผมอยากจะตะโกนใส่เขา แต่ผมก็สงบสติอารมณ์ ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของผมตั้งแต่แรก... และของชารอน"แล้วเธออยู่ที่โรงพยาบาลไหน?" มันฟังดูไม่จริง ผมรู้ว่าเธอรักเอมี่มาก แต่ผมไม่คิดว่ามันจะส่งผลกระทบต่อเธอมากขนาดนี้เดนนิสหันมาหาผม คิ้วของเขาขมวดลึกขณะที่เขาขมวดคิ้ว "อยากรู้ไปทำไม? จะได้เอาไปบอกภรรยานายหรือไง?"ให้ตายสิ! ผมรู้สึกว่ามือกำแน่นโดยอัตโนมัติผมหายใจเข้าลึกๆ "ฉันโทรหาพวกนาย แต่ไม่มีใครรับสาย อาน่าก็ปิดโทรศัพท์อีก ฉันก็แค่เป็นห่วง..." ผมพูดเสียงแผ่วและไหล่สั่น “ฉันก็เลยตัดสินใจมาดูเธอนี่ไง"“ตอนนี้นายก็รู้แล้วนะว่าเธออยู่ไหน งั้นเชิญออกไปได้แล้ว”เขามีสิทธิ์ทุกประการที่จะขอให้ผมออกจากบ้านและชีวิต แต่ผ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 430

    ไอเดน"ไม่เป็นไรแล้วค่ะ" ชารอนพูดขณะที่เธอโอบแขนรอบไหล่ "คุณต้องหยุดโทษตัวเองเรื่องนี้ได้แล้ว ที่รัก มันไม่ใช่ความผิดของคุณ และการทุ่มเทตัวเองให้กับการสอบสวนทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรด้วยเลย""ผมต้องหาตัวคนผิดมาให้ได้ ชารอน ผมต้องหาว่าใครทำเรื่องนี้ นี่เป็นสิ่งเดียวที่ผมทำเพื่อลูกสาวผมได้ ซึ่งจะทำให้ความรู้สึกผิดนี้ทุเลาลง" "ถ้ามันเป็นวิธีเดียว คุณก็ควรทำอยู่แล้ว" เธอให้กำลังใจ "ฉันจะคอยดูแลให้พ่อช่วยในคดีนี้ด้วย ฉันสัญญา"พ่อของเธอโทรหาผมครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความเสียใจกับการจากไปของลูกสาวผม ซึ่งไม่ได้เป็นอะไรกับลูกสาวเขาเลย และเขาฟังดูไม่พอใจนัก ผมประหลาดใจด้วยซ้ำที่เธอจะบอกเรื่องนั้นกับพ่อของเธอ ผมสงสัยว่าเขาอยากจะช่วยเปิดโปงฆาตกรของเด็กที่ไม่ใช่ลูกของเขาในทางใดทางหนึ่งหรือไม่ แต่ผมเก็บเรื่องนั้นไว้กับตัวเอง"ขอบคุณครับ" ผมบอกเธอแทนเธอโอบกอดผมครึ่งหนึ่ง และคราวนี้ไม่ได้ผละออกทันที ในวันแบบนี้เองที่เธอไม่ได้กระโดดหนีจากผมเหมือนผมติดเชื้อเมื่อใดก็ตามที่ผมพยายามสัมผัสเธอ"แล้วคุณจะยิ้มให้ฉันไหม?" เธอยิ้มขณะที่ดึงผิวแก้มของผมเพื่อพยายามทำให้ผมยิ้มเมื่อผมเอามือของเธอออก เธอก็แสร้

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status