Share

บทที่ 225

Penulis: เบลล่า
มุมมองของซิดนีย์

"แล้ว" เขาเลิกคิ้ว "เป็นไงบ้าง?"

ฉันยักไหล่ก่อนจะเว้นตอบ "ไม่มีอะไรมาก"

ทันใดนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าเขาก็หายไป แทนที่ด้วยรอยขมวดคิ้ว "ไม่มีอะไรมาก หมายความว่าไง? เล่ามาสิว่าเขาทำอะไรบ้าง ตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่เราคุยกัน เขาไปเจอใคร? เขากินอะไร?..."

เขารัวคำพูดไม่หยุด พลางนับนิ้วแจกแจงสิ่งที่ตัวเองอยากรู้

"อะไรประมาณนั้นคุณก็รู้นี่" จากนั้นเขาก็หรี่ตา "เดี๋ยวก่อน ทำไมคุณถึงอ้ำอึ้ง?"

ฉันยักไหล่ "เปล่านะ แค่ไม่มีอะไรจะรายงานจริงๆ" ฉันรู้สึกผิดนิดหน่อยที่แกล้งโง่ แต่ก็พยายามไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เกินไป ฉันจะเสี่ยงเปิดเผยตัวไม่ได้

"แม้ว่าเขาจะขี้ คุณก็ต้องบอกผม ซิดนี่ย์!" เขาพูด ขบกรามแน่นอย่างสุดจะทน

"ก็ได้ งั้นเขาก็ขี้ อาทิตย์นี้" ฉันพูดเบา ๆ

อดไม่ได้ที่จะพูดเล่น เพื่อลดความตึงเครียดระหว่างเรา

ฉันกลั้นหัวเราะกับคำตอบของตัวเอง แต่ก็หยุดทันที เมื่อเห็นสายตาและสีหน้าบึ้งตึงของเขา อ่า วันนี้เขาคงไม่อยู่ในอารมณ์ขัน ฉันเตือนตัวเองในใจว่าอย่าเล่นมุกอีก

ฉันเม้มปากแน่น ขอโทษด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด "ขอโทษ" ฉันเบะปาก เมื่อเขายังคงจ้องมองฉัน ก่อนจะลูบแขนของเขา "อย่าโกรธเลยนะ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 226

    "ฉันคิดถึงคุณ ถ้าคุณมาเยี่ยมทาวอนบ่อยๆ ก็จะยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ไม่เพียงแต่จะได้เจอฉัน..." ฉันมองเขาอย่างมีเลศนัย"แต่คุณยังจะได้เสริมสร้างตำแหน่งของตัวเองในใจทาวอน ในฐานะทายาท ด้วยการแสดงความมุ่งมั่นต่อครอบครัว"เขาส่ายหัวช้าๆ หันมาเผชิญหน้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"ไม่ล่ะ ตอนนี้มันสายเกินไปแล้ว ซิดนีย์ คุณได้ยินรายละเอียดอะไรบ้างไหม เกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาคุยกันในการประชุมพวกนั้น?" เขาถามด้วยสีหน้าบึ้งตึง ฉันแทบจะได้ยินเสียงเฟืองในหัวเขาหมุน ขณะที่เขากำลังวางแผนอะไรบางอย่าง"ไม่ค่อยนะ" ฉันตอบพร้อมกับส่ายหัว "พวกเขาพูดกันเบาๆ จนฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ฉันคิดว่าทาวอนกำลังเริ่มถ่ายโอนอำนาจให้แอ็กเซล"ฉันยักไหล่ ขณะที่เขามองฉันอย่างระแวดระวัง "ฉันหมายถึง ทำไมเขาถึงเอาแต่อยู่แต่ในคฤหาสน์ ไม่ออกไปไหน? เดาได้ว่าแอ็กเซลกำลังดูแลงานต่างๆ แล้วกลับมารายงานทาวอน และรับคำสั่งจากเขาในทุกเย็น"ดวงตาของดีแลนเย็นชาลงฉันรู้ว่าต้องพยายามเอาใจเขา จึงรีบพูดเสริม "แต่อีกอย่าง มันอาจจะเป็นการทดสอบก็ได้นะ บางทีแอ็กเซลอาจจะแค่รับหน้าที่มากขึ้นชั่วคราว เพื่อให้ทาวอนประเมินว่าเขารับผิดชอบได้ดีแค่ไหน แล

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 227

    หลายวันต่อมามุมมองของซิดนีย์ฉันตื่นขึ้นมาในบ้านที่เงียบสงัด แม้คฤหาสน์แห่งนี้จะไม่ได้เสียงดังอยู่ตลอดเวลา แต่ก็มักจะมีเสียงจอแจอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเสียงทุ้มๆ แบบนักธุรกิจของทาวอน (ต่างจากเสียงที่เขาใช้ในห้องนั้น) กำลังคุยโทรศัพท์เรื่องงาน เสียงแส้หวด เสียงจานกระทบกันในครัว หรือเสียงพูดคุยและหัวเราะคิกคักของพนักงาน ขณะที่พวกเขาเม้าท์มอยและเล่นมุกตลกกันฉันคุ้นเคยกับคฤหาสน์ที่เงียบสงบ แต่ก็ไม่เงียบจนเกินไป ทว่าเช้านี้? คฤหาสน์เงียบสนิท หากมีเข็มตกลงพื้น สาบานได้เลยว่าเสียงสะท้อนจะดังไปทั่วคฤหาสน์ มันเงียบจนน่าขนลุก ราวกับว่าแม้แต่กำแพงก็กำลังกลั้นหายใจหลังจากลอบมองออกไปสองสามครั้ง เพื่อฟังบทสนทนา หรือหาคำใบ้ว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันก็ยอมแพ้ แล้วไปอาบน้ำ น้ำร้อนช่วยบรรเทาความรู้สึกหวาดกลัวที่อยู่ในใจฉันได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นฉันแต่งตัวลงไปทานอาหารเช้าคนเดียวตามปกติ เสียงฝีเท้าดังก้องไปทั่วโถงทางเดิน และเป็นเสียงเดียวที่ทำลายความเงียบอันผิดปกตินี้ฉันรู้สึกราวกับว่าตัวเองเป็นคนสุดท้ายบนโลกสการ์เล็ตเป็นคนเสิร์ฟอาหารเช้าให้ฉันการปรากฏตัวของเธอ เกือบจะทำให้ฉันตกใจในความเงียบที่น่าขน

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 228

    มีความดูแคลนแฝงอยู่ในน้ำเสียงของเธอ ราวกับว่าความไม่เชื่อของฉัน เป็นเรื่องโง่เขลาที่ไร้เดียงสา"ไม่ใช่อย่างนั้น..." ฉันลากเสียงจบประโยคแน่นอน ฉันรู้ว่าดีแลนสามารถฆ่าแอ็กเซลได้ แต่ฉันแค่ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้ การฆาตรกรรมอย่างเลือดเย็นเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การสังหารลูกชายของเจ้าพ่อผู้ทรงอิทธิพลอย่างอุกอาจเช่นนี้ มันทำให้ฉันงุนงงแอ็กเซลเป็นลูกชายแท้ ๆ ของเจ้าพ่อมาเฟีย น่าจะทั้งแข็งแกร่งและฉลาดกว่าไม่ใช่เหรอ?แต่แล้วเสียงเล็ก ๆ ในหัวของฉันก็ตอบกลับมา เขาไม่เคยต้องปลอมตัวเป็นคนอื่นอยู่ตั้งหลายปีหรือฆ่าคนมากมายเพื่อปกปิดความลับของเขานี่นาบางทีการหลอกลวงและชีวิตที่เปื้อนเลือดของดีแลน อาจทำให้เขาเตรียมพร้อมสำหรับความโหดร้ายที่เรากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้มากกว่าใช่ แต่แอ็กเซลเติบโตมาในโลกของมาเฟีย โลกที่เต็มไปด้วยอันตราย เขาควรจะรู้ดีว่าต้องมีคนตามล่าตัว เพราะเขาเป็นทายาทเจ้าพ่อเพียงคนเดียว นี่ดูสมเหตุสมผลที่สุดภายนอกที่ดูอ่อนโยนบางทีก็อาจหลอกตาได้ ดูอย่างดีแลนสิ ภายนอกดูอ่อนโยน แต่ภายนั้นโหดเหี้ยมอำมหิต"ฉันว่าแอ็กเซลประมาทเกินไป" สการ์เล็ตพูดขัดความคิดในหัวของฉัน ควันบุหรี่ลอยออกจากปา

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 229

    ฉันรู้ว่าใต้ความแข็งกร้าว ความประชดประชัน และท่าทางที่ดูไม่แยแสของสการ์เล็ตนั้น ยังมีความฉลาด ร่าเริง และใส่ใจซ่อนอยู่ บางทีนี่อาจเป็นเหตุผลที่เธอตกหลุมรักลุยจิผู้เจ้าชู้เข้าอย่างจังในตอนแรก ช่างน่าเศร้าที่ชายที่เธอรักอย่างบ้าคลั่งต้องถูกฆ่าตายช่วงเวลาที่สงบสุขของเราถูกทำลายลงด้วยเสียงเครื่องยนต์ของรถทาวอนที่แล่นเข้ามาในเขตบ้าน ล้อรถบดกับกรวดดังลั่นฉันกับสการ์เล็ตต่างสะดุ้งเฮือกทันทีที่ได้ยินเสียงนั้นเธอลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วและดับบุหรี่ในมือทันควัน“ฉันต้องกลับไปประจำตำแหน่งแล้ว” เธอพูดด้วยน้ำเสียงห้วนๆ ความผ่อนคลายที่เคยมีหายไปจากเสียงของเธอทันที แทบไม่เหลือแม้แต่การเหลียวหลังกลับมา เธอเดินจากไป ปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียวบนระเบียงฉันถอนหายใจหนักๆ และลุกขึ้น เดินเข้าไปในบ้านเพื่อต้อนรับทาวอนกลับมา และบางทีอาจแสดงความเสียใจอีกครั้งสำหรับการสูญเสียที่น่าเศร้าของเขา แม้ว่ามันจะรู้สึกกระอักกระอ่วนในสถานการณ์นี้ก็ตามเมื่อประตูเปิด เบลล่ากับทาวอนเดินเข้ามา ฉันมองดูเบลล่า นิ้วมือของเธอประสานแน่นกับทาวอน ในขณะที่เขานั่งลงบนเก้าอี้ทุกประโยคที่ฉันซ้อมมาหลุดหายไปหมดจากหัว และฉันก็ยืนอยู

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 230

    มุมมองของซิดนีย์สการ์เล็ตไม่บอกเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนของเรา แม้ว่าเจ้าพ่อทาวอนจะตัดสินใจไว้ชีวิตดีแลนก็ตาม ฉันไม่รู้ว่าเบลล่ารู้เรื่องนี้หรือยัง แม้อยากจะถามเธอ แต่เธอไม่ได้อยู่แถวนี้เพราะมัวแต่ปลอบใจคนรักของเธอไม่รอช้า ฉันเตรียมตัวและรีบออกจากคฤหาสน์ทันที อันที่จริง ฉันยังไม่รู้เลยว่าจะไปบ้านของดีแลนได้อย่างไร ฉันไม่มีทั้งวิธีการสื่อสารหรือพาหนะที่จะไป ฉันยืนอยู่หน้าประตูทางเข้า พลางคิดว่าจะทำอย่างไรดี…โชคดีที่ชายคนหนึ่งในกลุ่มลูกน้องของทาวอนเดินเข้ามาหา เขาชี้ไปที่รถคันหรูด้วยรอยยิ้มที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี"เจ้าพ่อให้ผมพาคุณไปที่คฤหาสน์ของคุณลูคัสครับ"โอ้ เยี่ยมไปเลย!"ได้ค่ะ ขอบคุณมาก" ฉันยิ้มตอบกลับอย่างสดใส ก่อนจะเดินตามเขาไปขึ้นรถเขาขับพาฉันมาที่บ้านของดีแลน ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ประตูก็เปิดออกและรถถูกอนุญาตให้ขับเข้าไปได้ในบริเวณบ้าน มีลูกน้องของดีแลนหลายคนยืนอยู่ เป็นภาพที่ไม่ค่อยเห็นบ่อยนัก ปกติพวกเขามักจะอยู่ลับสายตา แต่วันนี้ ฉันสามารถมองเห็นพวกเขาผ่านกระจกรถที่ติดฟิล์มทึบได้ บางคนยืนเฝ้าระวังอย่างตั้งใจ ขณะที่บางคนก็ยืนคุยกันอย่างเกร็งๆ และหัวเราะออกมาแบบฝืนๆ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 231

    ในรถ ก่อนที่เราจะออกจากคฤหาสน์ของดีแลน เขาพูดขึ้นว่า "ผมจะต้องถูกตรวจค้นตอนเข้าคฤหาสน์แน่ๆ ซ่อนปืนนี้ไว้ และโยนมันให้ผมตอนที่จำเป็น โอเคไหม?"ฉันพยักหน้า จากนั้นเขาก็ส่งปืนในมือให้ฉัน ฉันรับมันมาแล้วมองเขาลงจากรถไปสั่งการลูกน้องหลังจากดีแลนถูกตรวจค้นและได้รับอนุญาตให้เข้าไปในคฤหาสน์ได้ ฉันส่งยิ้มให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก่อนเดินผ่านเข้าไป ฉันถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อมายืนข้างดีแลนโดยไม่มีใครตรวจค้นฉันบรรยากาศในคฤหาสน์ยังคงหนักอึ้งไปด้วยความรู้สึกที่ไม่อาจบรรยายได้ ทุกคนยังคงมีสีหน้าเคร่งเครียดเหมือนที่ฉันเห็นครั้งล่าสุดเมื่ออาหารค่ำถูกเสิร์ฟ เราตรงไปยังห้องอาหาร ฉันค่อยๆ เอาปืนออกจากกระเช้าวิสกี้ แล้วซ่อนมันไว้ในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะวางมันไว้ข้างดีแลนและนั่งลงข้างเขาเรานั่งพูดคุยกันไปเรื่อยๆ ขณะรอทาวอนหลังจากเวลาผ่านไปนาน ทาวอนก็ประกาศการมาถึงของเขาด้วยรอยยิ้มบางๆ "มาแล้วสินะ เจ้าลูกชาย"ฉันได้ยินดีแลนพึมพำเบาๆ ว่า "ในที่สุด" ขณะที่เขาเดินลงบันได โดยมีเบลล่าเดินเคียงข้างดวงตาของทาวอนเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าและความเศร้า ใบหน้าของเขาซีดเซียว ดีแลนพยักหน้าและลุกขึ้น เขา

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 232

    มุมมองของซิดนีย์ดีแลนเหนี่ยวไกปืน แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ใบหน้าของเขาแดงก่ำด้วยความโกรธ เขาบีบปืนแน่นและเหนี่ยวไกซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับคนโง่ ฉันมองภาพนั้นด้วยหัวใจที่เต้นรัว ภาพเหตุการณ์เมื่อตอนอยู่ในรถย้อนกลับมาในหัวฉันอีกครั้งตอนที่ดีแลนลงจากรถเพื่อไปสั่งการลูกน้อง ฉันเป็นคนเดียวที่ถูกทิ้งไว้ในรถ มองซ้ายมองขวาอย่างร้อนรน ก่อนจะหยิบปืนขึ้นมาและเอากระสุนออกด้วยมือที่สั่นเทา ฉันไม่ได้มีแผนการอะไรอยู่ในหัวเลย ณ ตอนนั้น แต่รู้แค่ว่าถ้าเขายิงได้ เขาต้องยิงแน่และตอนนี้มันก็กำลังเกิดขึ้นจริงๆเมื่อทาวอนเข้าใจสถานการณ์ บอดี้การ์ดของเขารีบหยิบอาวุธออกมายิงใส่ดีแลนอย่างไร้ความปรานี กระสุนทะลุผ่านเสื้อและร่างกายของเขา จนร่างของดีแลนทนรับไม่ไหวอีกต่อไป เขาล้มลงไปกับพื้น สายตาที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังและความเจ็บปวดของเขามองมาที่ฉัน ซึ่งซ่อนตัวอยู่หลังเก้าอี้ฉันอยากวิ่งไปบอกเขาเหลือเกินว่าฉันเป็นคนเอากระสุนออกจากปืน ฉันอยากบอกว่าแผนทั้งหมดนี้เป็นของฉันเอง แต่ฉันทำไม่ได้... ไม่ใช่ตอนนี้ ไม่ใช่ในตอนที่บอดี้การ์ดยังคงกราดยิงเขาในที่สุด เมื่อทาวอนสั่งให้หยุดยิง ฉันคลานฝ่าความเสียหายรอบตัวไปหาร่า

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 233

    "ขอบคุณค่ะ" ฉันกระซิบออกมาอย่างแผ่วเบา พร้อมกับปลดปล่อยลมหายใจอย่างโล่งอกชายเหล่านั้นเริ่มเก็บกวาดความวุ่นวาย แต่สิ่งแรกที่พวกเขาทำคือการลากร่างของดีแลนออกไป ฉันมองตามร่างไร้วิญญาณของเขาที่ถูกลากผ่านพื้น เลือดทิ้งรอยไว้เป็นทาง แม้ส่วนหนึ่งฉันจะรู้สึกเสียใจเล็กน้อยกับจุดจบอันโหดร้ายของเขา แต่ก็รีบผลักความรู้สึกนั้นออกไป เป็นเขาที่ก่อมันขึ้นมาเองสายตาของฉันเหลือบไปที่สการ์เล็ต น้ำตาเอ่อล้นในดวงตา ฉันทำสำเร็จแล้ว แต่ชีวิตบริสุทธิ์ก็ต้องสูญเสียไป คนที่ไม่สมควรต้องตาย ภาพร่างกายซีดเผือดของแอ็กเซลแวบเข้ามาในหัว กระเพาะของฉันบิดเป็นเกลียว ฉันหลับตาและกล่าวคำภาวนาเงียบๆ เพื่อสการ์เล็ตและแอ็กเซล หวังว่าดวงวิญญาณของพวกเขาจะพบความสงบสุขเมื่อฉันลืมตาขึ้น ก็รู้สึกเหมือนมีสายตาจับจ้องมาที่ฉัน ทาวอนยืนมองขณะที่ลูกน้องของเขาจัดการความยุ่งเหยิงในห้อง ส่วนเบลล่ายืนมองฉันด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก ฉันได้แต่คาดเดาว่าเธอคิดอะไรอยู่หลังจากได้เห็นเหตุการณ์รุนแรงทั้งหมดนี้ความลับของเธอจะเป็นความลับตลอดไป ฉันคิด และหวังว่าเธอจะเข้าใจ ถึงแม้ทุกอย่างจะเกิดขึ้น แต่สายสัมพันธ์อันจะบิดเบี้ยวที่เรามี ก็ยังมีความ

Bab terbaru

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 438

    มุมมองของนักเขียนอาน่าถอนหายใจเสียงดังขณะเดินเข้าไปในห้องพักของเดนนิสและนั่งลงข้าง ๆ เขา เธอหยิบหนังสือออกมาและเริ่มอ่านเป็นครั้งคราว เธอจะเปิดโทรศัพท์เพื่อดูจัสตินนอนหลับหรือเล่นรอบบ้านในขณะที่พี่เลี้ยงยุ่งอยู่ หรือแค่ซุกตัวบนโซฟาตัวหนึ่งเพื่ออ่านหนังสือ โดยคอยจับตาดูจัสตินตอนนี้มันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของอาน่าไปแล้วในวันที่เธอพักค้างคืนที่โรงพยาบาล เธอจะออกจากที่นั่นแต่เช้าเพื่อไปดูแลจัสตินและกลับมา ขณะที่เธอนั่งอยู่ข้างๆ เขา นิ้วอุ่นๆ ของเธอประสานกับนิ้วเย็นๆ ที่ยังคงนิ่งของเขา เธอจะอ่านหนังสือเดนนิสยังคงอยู่ในอาการโคม่า และในแต่ละวัน อาน่ารู้สึกว่าความกลัวกำลังเพิ่มขึ้น... กลัวว่าเขาอาจจะยังคงอยู่ในอาการโคม่าจนถึงแก่ชีวิต ทั้งหมดเป็นเพราะเธอคนเดียวเธอต้องการให้เขาลืมตาขึ้นมามองเธอด้วยความรักที่เขามีให้เธอเสมอ เธอต้องการบอกเขาว่าเธอรักเขามากแค่ไหนและรู้สึกขอบคุณที่มีเขาในชีวิตของเธอ แต่ที่สำคัญที่สุด เธอต้องการขอโทษเขาเธอเห็นแก่ตัวมาก คิดว่าความเจ็บปวดของพวกเขาไม่ยิ่งใหญ่เท่าของเธอ... พวกเขาทุกคนรักเอมี่อย่างสุดซึ้ง และพวกเขาทุกคนเจ็บปวดกับการจากไปของเธอจากชีวิตนี้ ห

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 437

    มุมมองของนักเขียนชารอนถูกตัดสินว่าไม่มีความผิดฐานมีส่วนร่วมโดยตรงในการเสียชีวิตของเอมี่ แต่มีความผิดฐานสมรู้ร่วมคิด เธอโชคดีพอที่จะได้รับการลดหย่อนโทษ จำคุกในระยะเวลาอันสั้น ทนายของเธอทำให้แน่ใจว่ามันจะเป็นเช่นนั้น และทั้งหมดนี้เป็นเพราะพ่อของเธอแม้ว่าพ่อของเธอจะผิดหวังกับทุกสิ่งที่เธอทำ แต่เธอก็เป็นลูกสาวของเขา ทายาทที่น่าเกรงขามเพียงคนเดียวของเขา ไม่มีทางที่เขาจะทอดทิ้งเธอได้ขณะที่เธอรับโทษจำคุก นับถอยหลังสู่วันที่เธอจะได้ออกไปจากที่นั่นในที่สุด เธอได้รับเอกสารหย่าร้างส่งมาให้เธอเธอคิดว่าเช้าวันนั้นหนาวเกินไปสำหรับฤดูกาล ห้องขังเล็กๆ ของเธอรู้สึกเล็กกะทันหัน มันรู้สึกเหมือนมันจะปิดล้อมเธอ และเธอเอามือสอดเข้าไปในช่องประตูเพื่อหายใจเมื่อหนึ่งในผู้คุมมาพาเธอไปเธอนั่งลง ได้รับปากกา และต่อหน้าเธอ บนโต๊ะเหล็ก มีจดหมายหย่าร้างวางอยู่ เหตุผลหลักที่เธอเข้าไปเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมและการกระทำสกปรกเหล่านี้ทั้งหมดคือเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ไอเดนทิ้งเธอ มันน่าเศร้าจริงๆ ที่เธอทำงานอย่างหนักเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ แต่กลับถูกโยนใส่อย่างแรงที่ใบหน้าของเธอในตอนท้ายดวงตาปวดหนึบด้วยน้ำตาขณะที่เธ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 436

    "หยุด!" เสียงของเธอสั่นเครือขณะที่เธอตะโกนบอกคนขับแท็กซี่แค่นั้นก็เพียงพอให้อาน่าหันกลับมา"ฉันทำอะไรลงไป?" ลมหายใจของเธอสั่นเทาขณะที่เธอเปิดประตูและรีบออกจากแท็กซี่ มือของเธอสั่นเทาขณะที่เธอสะดุดลงบนทางเท้า"เดนนิส!" เธอตะโกนขณะที่เข่าของเธอล้มลงบนพื้นคอนกรีตแข็ง "ได้โปรด อย่า" เธอพูดกระซิบ สายตาของเธอจ้องมองไปที่รถที่พังยับเยิน "เดนนิส ต้องรอดให้ได้นะ"เธอคลานไปที่รถ มองเข้าไปข้างในเพื่อดูเขา แต่ข้างในนั้นมืดมิดและเสียงสะอื้นของเธอก็ดังขึ้น "ทำไมฉันถึงออกมา? ทำไมฉันไม่รอเขา?"เธอเช็ดน้ำตา "ฉันสัญญา" เธอสะอื้น "ฉันจะไม่ไปหาเอมี่อีกแล้ว ฉันสัญญา เดนนิส ได้โปรดออกมา" เธอร้องไห้ขณะที่เธอจำได้เลือนรางว่าเขาบอกเธอว่าเอมี่ได้รับความยุติธรรมแล้ว และไม่จำเป็นต้องไปหาเธออีกต่อไปนี่เป็นความผิดของเธอทั้งหมด เธอควรจะฟังเขา เธอควรจะรอเขาก่อนที่เธอจะออกไป"อาน่า!" ไอเดนตะโกนขณะที่เขารีบออกจากรถ เขารู้สึกโล่งใจที่เห็นอาน่า เขาหารถแท็กซี่หลังจากที่เดนนิสขับออกไปสักพัก และตามเขาไป เมื่อเขาสังเกตเห็นฝูงชนและเห็นว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เขาก็กลัวว่าจะเป็นอาน่า"ให้ตายสิ!" เขาพึมพำขณะหยุดอยู่ต่อ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 435

    มุมมองของนักเขียนหลังจากที่ไอเดนได้ยินคำพูดเหล่านั้น เขาไม่ลังเลเลยก่อนที่จะเดินออกจากห้องพิจารณาคดีหัวใจของชารอนแตกสลายเมื่อมองดูไอเดนเดินออกไปอย่างโกรธจัด เขาเกลียดชังเธอมากจนทนดูการพิจารณาคดีของเธอไม่ได้เลยหรือ? น้ำตาไหลลงมาบนใบหน้าของเธอ และเธอรีบเช็ดมันออกก่อนที่พ่อของเธอจะเห็นพ่อของเธอบอกเธอไปก่อนหน้านี้ว่า "พอได้แล้ว ชารอน อย่าร้องไห้เพราะผู้ชายอย่างเขาเลย" แต่นั่นหลังจากที่เขาตำหนิเธอสำหรับทุกสิ่งที่เธอทำ"มีการตัดสินแล้วหรือยัง คุณไอเดน? คุณจะประกันตัวภรรยาของคุณไหม?"คำถามทั้งหมดของพวกเขาไม่ได้เข้าหูไอเดนแม้แต่น้อย เขาไม่ได้สนใจสิ่งใดเลยขณะที่เขาเร่งรีบไปที่รถของเขาและขับออกจากบริเวณศาลระหว่างทางไปโรงพยาบาล เขาโทรหาทีมรักษาความปลอดภัยของเขาที่ตามเขามาทันทีที่เขาขับรถออกไป "อาน่าสตาเซียเพิ่งหนีออกจากโรงพยาบาลบ้า ตามหาเธอ" เขาออกคำสั่ง "ผมจะส่งรูปของเธอให้คุณตอนนี้""ครับ"เขาตัดสาย ขณะที่เขาขับรถ เขาหารูปอาน่าที่ชัดเจนและส่งให้ทีมรักษาความปลอดภัยที่เริ่มตามหาเธอทันทีจากนั้นไอเดนพยายามโทรหาเดนนิส แต่เขาก็ยังไม่รับสายเมื่อมาถึงโรงพยาบาล เขาพบเดนนิสอยู่ข้างนอก เขา

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 434

    ไอเดนเมื่อเวลาผ่านไป คดีของเอมี่ได้รับความสนใจจากสื่อมากมาย ช่องข่าวทุกช่องมีรูปเด็กผู้หญิงน่าสงสารคนนั้นขณะที่พวกเขาพูดถึงการตายที่ไม่ยุติธรรมของเธอ และทุกคนที่รับผิดชอบต้องถูกลงโทษตามนั้นท่ามกลางทุกสิ่งทุกอย่าง จุดสนใจก็เปลี่ยนจากเอมี่มาเป็นชารอนและผม อย่างไรก็ตาม มีข่าวลือเกี่ยวกับชีวิตแต่งงานของเราและการตั้งครรภ์ปลอมของเธอผมเริ่มได้รับโทรศัพท์จากหมายเลขที่ไม่รู้จักหลายหมายเลข โทรมาถามคำถามไร้สาระทั้งหมดเพื่อต้องการข้อมูลโดยตรงจากแหล่งข่าว ผมต้องเปลี่ยนซิมการ์ดในโทรศัพท์ของผมเป็นซิมที่ผู้ช่วยของผมใช้ หากมีข้อมูลใดๆ เขาก็แค่ส่งต่อมา ผมเบื่อที่จะรับมือกับสายเรียกเข้าที่ไม่หยุดหย่อนเหล่านั้นเมื่อชารอนอาการดีขึ้นและเธอต้องถูกส่งตัวกลับไปที่สถานีตำรวจ พวกเขามาถึงสถานีพร้อมกับกลุ่มนักข่าวที่ทางเข้าตำรวจคุ้มกันเธอขณะพาเธอเข้าไปข้างใน แต่นั่นไม่ได้หยุดนักข่าวจากการตะโกนถามคำถามของพวกเขา"คุณเสแสร้งว่าท้องจริง ๆ เหรอ คุณนายไอเดน?""คุณชารอน คุณยังเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้วอยู่ไหม?""สามีของคุณอยู่ที่ไหน? เขายังรักคุณอยู่ไหม?""จะมีการหย่าร้างไหม?""คุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสีย

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 433

    เดนนิสอาน่าถูกส่งตัวไปยังศูนย์บำบัดวิกฤตสุขภาพจิต และผมใช้เวลาส่วนใหญ่ของผมที่นั่น แม้ว่าผมจะพยายามแบ่งเวลาอย่างเท่าเทียมกันระหว่างงาน จัสติน และเอมี่ แต่ผมก็พบว่าตัวเองใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่นี่งานเป็นไปด้วยดีอย่างยิ่ง ตอนนี้ผมทำเงินได้มากกว่าที่เคยทำก่อนที่ผมจะถูกหลอก แต่ผมไม่มีความสุข คนที่ผมรักที่สุดอยู่ในบ้านพักผู้ป่วยทางจิต ทุกวันที่ผมไปที่นั่น ผมหวังว่าอาการของเธอจะเริ่มดีขึ้นในไม่ช้า ครึ่งหนึ่งของเวลา เธอดูปกติดี แค่นั่งอยู่คนเดียวด้วยสีหน้าที่เป็นกลาง เธอจะไม่พูดคุยกับใครเป็นเวลาหลายชั่วโมง อีกครึ่งหนึ่งใช้ไปกับการร้องไห้และขอร้องให้ผมพาพวกเราไปหาเอมี่แพทย์บอกว่าเธอดีขึ้น แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้นสำหรับผมจัสตินทำได้ดีมาก เขาดูเหมือนจะไม่โศกเศร้าอย่างที่ไอเดนแนะนำ มีบางครั้งที่เขาจะร้องไห้และไม่มีอะไรทำให้เขาหยุดได้จนกว่าเขาจะหลับไป แต่ช่วงเวลาเหล่านั้นหายาก และผมคิดว่าเขาแค่คิดถึงแม่ของเขาผมทำให้แน่ใจว่าผมมีเวลาให้เขาเสมอ เหมือนกับที่ผมมีเวลาให้อาน่า ไม่ว่างานจะยุ่งแค่ไหน ผมไม่ต้องการปล่อยเขาไว้กับพี่เลี้ยงทั้งหมด แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่ดี แต่ผมต้องการให้ไอเดนเติ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 432

    ไอเดนนักสืบส่งที่อยู่โรงพยาบาลที่ชารอนถูกนำตัวส่งมาให้กับผมภายในห้อง ชารอนนอนขดตัวอยู่กับตนเองพร้อมกับกุญแจมือที่คล้องอยู่พอจะเอื้อมถึงเธอรีบลุกขึ้นนั่งเมื่อเห็นผมเข้ามาในห้อง "ไอเดน" เธอหายใจออกมา ดวงตาเบิกกว้างด้วยความกลัว"ไม่เพียงแต่คุณจะเป็นอาชญากร แต่ยังเป็นคนโกหกด้วยเหรอ? คนโป้ปด!" ผมพูดออกมาขณะที่สายตาเหลือบไปที่ท้องแบนราบของเธอ ผมหัวเราะเยาะตัวเองขณะทรุดตัวลงบนเก้าอี้ที่หันหน้าเข้าหาเตียงของเธอ ผมรู้สึกหมดแรงจนแทบจะยืนด้วยขาของตัวเองไม่ได้เธอส่ายหัว น้ำตาไหลลงมาบนใบหน้าของเธอ เหมือนกับที่มันไหลลงมาบนใบหน้าของเธอตอนที่เธอถูกจับกุม "มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด ฉันสาบานได้นะ ฉัน…" เธอพูดไม่ออกและไหล่ของเธอก็สั่นเทาขณะที่เธอร้องไห้หนักขึ้นผมเอียงศีรษะไปด้านข้างและมองเธออยู่ครู่หนึ่ง ผมไม่แปลกใจเลยที่ผมไม่รู้สึกสงสารเธอแม้แต่น้อย "ถ้ามันไม่ใช่อย่างที่ผมคิด แล้วมันคืออะไร? บอกมาสิ""คุณแกล้งทำเป็นท้องมาตั้งหลายเดือน!" เสียงหัวเราะขมขื่นหลุดออกจากริมฝีปากขณะที่ผมส่ายหัว มันยังคงรู้สึกเหมือนเรื่องตลก ผมคงไม่เชื่อนักสืบเลย ถ้าไม่มีสัญญาณทั้งหมดที่ผมมองข้ามไปผมโน้มตัวไปข้างหน้

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 431

    ไอเดนผมตกใจกับคำพูดของเขา เดนนิสรู้แล้วเหรอ?เดนนิสก็มีส่วนร่วมในการสอบสวนด้วย เขาแค่ไม่ได้กระตือรือร้นเท่าผม ดังนั้นมันไม่น่าแปลกใจที่เขาจะได้ยินเรื่องนี้ นอกจากนี้ มันเป็นคดีของลูกสาวเขาด้วย เขาจึงมีสิทธิ์ที่จะรู้แต่ผมเลือกที่จะเพิกเฉยต่อคำพูดที่รุนแรงของเขา ผมยังคงสับสนกับข่าวที่ว่าอนาอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชในขณะนี้ มันเป็นไปได้อย่างไร? เขาปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? ผมอยากจะตะโกนใส่เขา แต่ผมก็สงบสติอารมณ์ ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของผมตั้งแต่แรก... และของชารอน"แล้วเธออยู่ที่โรงพยาบาลไหน?" มันฟังดูไม่จริง ผมรู้ว่าเธอรักเอมี่มาก แต่ผมไม่คิดว่ามันจะส่งผลกระทบต่อเธอมากขนาดนี้เดนนิสหันมาหาผม คิ้วของเขาขมวดลึกขณะที่เขาขมวดคิ้ว "อยากรู้ไปทำไม? จะได้เอาไปบอกภรรยานายหรือไง?"ให้ตายสิ! ผมรู้สึกว่ามือกำแน่นโดยอัตโนมัติผมหายใจเข้าลึกๆ "ฉันโทรหาพวกนาย แต่ไม่มีใครรับสาย อาน่าก็ปิดโทรศัพท์อีก ฉันก็แค่เป็นห่วง..." ผมพูดเสียงแผ่วและไหล่สั่น “ฉันก็เลยตัดสินใจมาดูเธอนี่ไง"“ตอนนี้นายก็รู้แล้วนะว่าเธออยู่ไหน งั้นเชิญออกไปได้แล้ว”เขามีสิทธิ์ทุกประการที่จะขอให้ผมออกจากบ้านและชีวิต แต่ผ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 430

    ไอเดน"ไม่เป็นไรแล้วค่ะ" ชารอนพูดขณะที่เธอโอบแขนรอบไหล่ "คุณต้องหยุดโทษตัวเองเรื่องนี้ได้แล้ว ที่รัก มันไม่ใช่ความผิดของคุณ และการทุ่มเทตัวเองให้กับการสอบสวนทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรด้วยเลย""ผมต้องหาตัวคนผิดมาให้ได้ ชารอน ผมต้องหาว่าใครทำเรื่องนี้ นี่เป็นสิ่งเดียวที่ผมทำเพื่อลูกสาวผมได้ ซึ่งจะทำให้ความรู้สึกผิดนี้ทุเลาลง" "ถ้ามันเป็นวิธีเดียว คุณก็ควรทำอยู่แล้ว" เธอให้กำลังใจ "ฉันจะคอยดูแลให้พ่อช่วยในคดีนี้ด้วย ฉันสัญญา"พ่อของเธอโทรหาผมครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความเสียใจกับการจากไปของลูกสาวผม ซึ่งไม่ได้เป็นอะไรกับลูกสาวเขาเลย และเขาฟังดูไม่พอใจนัก ผมประหลาดใจด้วยซ้ำที่เธอจะบอกเรื่องนั้นกับพ่อของเธอ ผมสงสัยว่าเขาอยากจะช่วยเปิดโปงฆาตกรของเด็กที่ไม่ใช่ลูกของเขาในทางใดทางหนึ่งหรือไม่ แต่ผมเก็บเรื่องนั้นไว้กับตัวเอง"ขอบคุณครับ" ผมบอกเธอแทนเธอโอบกอดผมครึ่งหนึ่ง และคราวนี้ไม่ได้ผละออกทันที ในวันแบบนี้เองที่เธอไม่ได้กระโดดหนีจากผมเหมือนผมติดเชื้อเมื่อใดก็ตามที่ผมพยายามสัมผัสเธอ"แล้วคุณจะยิ้มให้ฉันไหม?" เธอยิ้มขณะที่ดึงผิวแก้มของผมเพื่อพยายามทำให้ผมยิ้มเมื่อผมเอามือของเธอออก เธอก็แสร้

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status