บทนำ
เธอเป็นภรรยาถังเจี่ยหยางมา 3 ปี อยู่ในบ้านถังด้วยความทุกข์ใจ ในเมื่อตอนนี้เธอไม่ใช่โม่เสี่ยวถงคนเดิม แต่เป็นหานเฟยเยี่ยมาจากยุคทศวรรษ 2023 เธอจะไม่ยอมทนอีกต่อไป ไม่รัก ไม่สนใจทำร้ายน้ำใจด้วยคำพูดแถมยังเชื่อหญิงอื่นมากกว่าภรรยาที่นอนด้วยกันทุกคืน เธอจะหย่ากับเขาให้มันจบ ๆ ไป เขาจะได้ไปครองรักกับเซียวซินอี๋ สตรีดอกบัวขาวที่ทำตัวเหมือนผู้หญิงอ่อนแออ่อนต่อโลกแท้ที่จริงร้ายยิ่งกว่าอสรพิษเสียอีก
แต่ทว่าความตั้งใจของเธอต้องจบลงเมื่อเขาไม่ยอมหย่าและยังให้เธออยู่ในบ้านของเขาต่อไปเพื่อทุกข์ทรมานใจ
ความตั้งใจของเธอต้องจบลงเมื่อเขาไม่ยอมหย่าและยังให้เธออยู่ในบ้านของเขาต่อไปเพื่อทุกข์ทรมานเธอ เพราะเขาถูกหญิงที่เป็นรักแรกเป่าหูและใส่ร้ายว่าโม่เสี่ยงถงทำร้ายจนเธอได้รับบาดเจ็บ แท้ที่จริงเขาเป็นหล่อนต่างหากที่ทำตนเอง ในเมื่อไม่ยอมหย่าง่าย ๆ เธอเองก็จะไม่ยอมให้ด่าและทำร้ายจิตใจอีกต่อไป เธอจะลุกสู้เพื่อปกป้องตัวเอง จากอ่อนแอจะกลายเป็นนางร้ายให้มากกว่าที่เซียวซินอี๋เป็นเสียอีกเตรียมรับมือจากเธอได้เลย
**นิยายเรื่องนี้แต่งตามความเข้าใจและจินตนาการของนักเขียนเท่านั้น ทุกอย่างเป็นเรื่องสมมุติขึ้นมาอาจจะไม่ถูกต้องเป๊ะ ๆ ขอให้อ่านเพื่อความบันเทิง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ตอนที่ 1 เจ็บปวด
ร้านขายเสื้อผ้าแบรนด์ในห้างใหญ่ หญิงสาวตั้งอกตั้งใจรีบเก็บของเมื่อหมดเวลาทำงานของเธอ เธอทำอย่างนี้ในทุก ๆ วันจนเพื่อนที่ทำงานต่างพากันชื่นชมในความขยันของเธอ ที่เร่งรีบแบบนี้มีงานพิเศษอีกที่ต้องทำต่อ
“หานเฟยเยี่ย เธอนี่ขยันจริง ๆ จนฉันที่มีครอบครัวต้องอายเธอเลย ทำงานเหมือนติดหนี้หลายพันล้านหยวนอย่างไงอย่างนั้น” รุ่นพี่พูดขึ้นระหว่างที่เธอกำลังสะพายกระเป๋าเดินออกจากร้าน เธอคลี่ยิ้มบาง ๆ ก่อนจะตอบกับรุ่นพี่อย่างภาคภูมิใจและมีความสุข
“ฉันไม่ได้มีหนี้แต่ว่าฉันมีเรื่องที่จะต้องใช้เงินนะสิ อี้หนานแฟนของฉันบอกว่าสิ้นปีจะพาไปเที่ยวปารีส ไปดูหอไอเฟลที่เขาร่ำลือกันว่าสวยงามและโรแมนติก” ดวงตาของผู้ฟังลุกวาวพร้อมพูดต่อ
“หอไอเฟลเหรอ ว๊าวอย่าบอกนะว่าเขาตั้งใจพาเธอไปที่นั่นเพื่อขอเธอแต่งงาน ฉันขอแสดงความยินดีล่วงหน้านะเฟยเยี่ย ”
“ฉันไม่ได้หวังอะไรขนาดนั้นหรอกนะพี่ คิดว่าได้ไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาและพักผ่อนช่วงสิ้นปีแค่นั้นเอง ” แม้ปากจะพูดไปอย่างนั้นแต่ในใจของเธอก็มีความหวังเล็ก ๆ ในใจเช่นกัน เธอคบกับแฟนหนุ่มมาหลายปี แม้เขาจะเป็นคนไม่ค่อยขยันมักจะเปลี่ยนงานบ่อย ๆ แต่เขาเป็นคนที่เอาใจใส่และรักเธอมากกว่าสิ่งใด
“เชื่อฉันสิ ฉันเคยผ่านมาแล้ว ถ้าผู้ชายเอ่ยปากชวนไปสถานที่โรแมนติกอย่างนั้นคงไม่มีเรื่องอื่นนอกจากเรื่องแต่งงาน ”
“ค่ะ พี่ผู้มีประสบการณ์ ฮ่า ฮ่า ฉันไปก่อนนะคะ ใกล้จะถึงเวลาเริ่มงานอีกที่แล้ว เจ้านายร้านนั้นปากจัดไปสายจะโดนบ่นอีก” เฟยเยี่ยโบกมือลาพี่สาวพรางเดินกึ่งวิ่งออกจากห้างเพื่อไปทำงานที่ร้านอาหารต่อ เธอทำอย่างนี้มาเป็นเวลาห้าเดือนแล้ว แม้จะเหน็ดเหนื่อยแต่เธอก็มีความสุขเมื่อคิดถึงวันที่จะได้ไปเที่ยวกับอี้หนาน ปีนี้เธออายุ 26 ปีแล้ว ถ้าเขาขอเธอแต่งงานเมื่อไหร่เธอพร้อมจะตั้งท้องเพราะเธออยากมีเด็กหญิงตัวน้อยหน้าตาน่ารัก ๆ เป็นของตัวเองจึงตั้งใจทำงานเก็บเงินเอาไว้ใช้หลังคลอดลูก
เฟยเยี่ยเดินข้ามทางม้าลายระหว่างนั้นเองสายตาของเธอได้เหลียวไปเห็นผู้ชายที่คุ้นตา และมั่นใจว่าใช่เขาแน่นอน แต่ว่าเขาไม่ได้มากับเพื่อน ข้างกายของเขามีผู้หญิงอีกคนที่เดินกอดกันแนบแน่นเหมือนเป็นคนรักมากกว่าที่จะบอกว่าเป็นเพื่อนเสียอีก ใจของเฟยเยี่ยเต้นแรงตึกตักอยากรู้ว่านั่นใช่เขาจริง ๆ หรือเปล่าตัดสินใจเดินตามหลังเขาทันที ยิ่งเดินเข้าใกล้ได้ยินเสียงใจของเธอเต้นแรงระรัว ร่างกายสั่นเทาดวงตาร้อนผ่าว เสมือนโลกทั้งใบหยุดหมุนเมื่อได้ยินบทสนทนาของคนที่อยู่ตรงหน้า
“พี่อี้หนานพี่บอกว่าสิ้นปีพี่จะไปเที่ยวกับหานเฟยเยี่ย พี่ไม่รักฉันแล้วเหรอ? ฉันน้อยใจละนะเมื่อไหร่พี่จะเลิกกับมันเสียที อย่าบอกนะว่าพี่โกหกฉันแต่จะพาเฟยเยี่ยไปขอแต่งงานที่ปารีส ฉันไม่ยอมนะ” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงน้อยอกน้อยใจ อี้หนานกอดเธอแน่นมากกว่าเดิมหอมแก้มเธอฟอดใหญ่โดยไม่สนใจสายตาของคนที่เดินผ่านไปมาสักนิด
“พี่บอกแล้วใช่มั้ยว่าผู้หญิงคนเดียวที่พี่รักคือเธอ ส่วนเฟยเยี่ยนะเป็นแค่เครื่องผลิตเงินเท่านั้น เพียงฉันเอ่ยปากอยากได้นั่นอยากได้นี่เธอก็หามาให้เพราะคิดว่าฉันรักเธอมาก การที่จะไปปารีสครั้งนี้ฉันจะขอเฟยเยี่ยแต่งงานจริง ๆ แต่ว่าการแต่งงานกับเธอครั้งนี้ฉันวางแผนไว้หมดแล้ว ฉันจะทำประกันชีวิตให้เธอ หลอกให้เธอตายใจและผลักเธอเข้าสู่ความตาย ไม่ว่าจะเป็นประกันหรือแม้แต่เงินเก็บของเธอจะตกเป็นของฉัน เมื่อนั้นเราสองคนจะได้ใช้เงินประกันของเฟยเยี่ยไปอย่างสุขสบาย เธอช่วยเข้าใจและอดทนรอก่อนได้มั้ย ?” สิ้นคำพูดของอี้หนานเฟยเยี่ยสั่นเทาไปทั้งตัวสมองอื้ออึงไปหมด ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยรักเธอเลยสักครั้ง เขาหลอกลวงเธอมาตลอด เฟยเยี่ยสมเพชตัวเองที่หลงรักเขาจนหมดหัวใจยอมทำงานหนักหาเงินให้เขามาปรนเปรอผู้หญิงอีกคน ในเมื่อเป็นอย่างนี้เธอจะไม่ยอมเป็นคนโง่และให้เขาหลอกใช้ได้อีก เธอเร่งฝีเท้าเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าอีกฝ่าย จนทั้งสองผงะตกใจรีบออกจากกันทันที
“เอ่อ ...เฟยเยี่ยช่างบังเอิญจริง ๆ ที่ได้พบเธอตอนนี้ เธอไม่ได้ไปทำงานที่ร้านอาหารหรอกเหรอ ?” สายตาของอี้หนานเลิ่กลั่กเหงื่อออกพลั่กกลัวถูกจับได้ก่อนจะรีบแนะนำว่าผู้หญิงที่เดินข้าง ๆ ตนเองเป็นใคร “เฟยเยี่ยเธออย่าเข้าใจผิดนะ นี่เพื่อนของฉันเองวันนี้เธอเมานิดหน่อยฉันเลยต้องพยุงนะ แฮะ ๆ ”
“ฮึ ! เพื่อนเหรอ ? น่าแปลกจริง ๆ ตั้งแต่เราคบกันมานายไม่เคยมีเพื่อนเป็นผู้หญิงนี่น่า เลิกโกหกหลอกลวงเสียที คิดว่าฉันโง่เป็นควายให้นายหลอกเหรอ หะ ! เศษสวะ น่าสะอิดสะเอียนสกปรก แผนชั่ว ๆ ของนายฉันได้ยินหมดแล้ว เสียดายเวลาที่ผ่านมาจริง ๆ ที่ฉันโง่รักคนอย่างนายจนหมดหัวใจ พอสักทีเราเลิกกัน” เฟยเยี่ยเปล่งออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ดวงตาเอ่อนองด้วยหยาดน้ำตาหัวใจของเธอปวดร้าวแทบไม่อยากรับรู้สิ่งอะไรต่อไป เธอตัดขาดกับเขา ความรัก ความฝันของเธอพังทลายจนหมดสิ้น
เธอหันหลังวิ่งหนีไม่อยากให้เขาได้เห็นน้ำตาที่กำลังหยดลงอาบแก้ม เขาไม่มีค่าพอที่จะได้เห็นมันด้วยซ้ำและเธอรู้ดีหากอยู่ต่อ เขาต้องขอโทษและขอให้เธอให้อภัย ใจของเธอรักเขามากเสียจนกลัวว่าจะให้อภัยเขาการหนีคือหนทางที่ดีที่สุดตอนนี้ ทว่ายามนั้นเองน้ำตาของเธอล่วงหล่นอาบแก้มทำให้สายตาพร่ามัว เธอรีบยกมือขึ้นมาปาดน้ำตา แสงไฟดวงใหญ่สาดส่องเข้ามาพร้อมได้ยินเสียงร้องเรียกดังก้องกังวานของอี้หนาน เธอไม่ทันหันไปมองเขาด้วยซ้ำความเจ็บปวดเข้ามาแทรกแซงเสียก่อน แรงกระแทกของหน้ารถยนต์ชนเข้าร่างของเธออย่างจัง จนร่างของเธอกระเด็นไปไกลหลายเมตร ความรู้สึกของเธอยามนี้เหมือนกับว่าทุกอย่างในร่างกายชาไปหมด สติค่อย ๆ เลือนรางไปช้า ๆ จนทุกอย่างมืดสนิท
ตอนที่ 9 เจอเพื่อนเก่ามาถึงโรงพยาบาลเสี่ยวถงเข้าไปพบหมอทำแผลล้างแผลนั่งรอยากลับบ้านระหว่างนั้นเจี่ยหยางเดินไปจ่ายเงินให้เธอ มีชายรูปร่างดีคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเสี่ยวถงพร้อมรอยยิ้มเต็มดวงหน้า ราวกับพบเจอเพชรเม็ดงาม“โม่เสี่ยวถง นั่นใช่โม่เสี่ยวถงใช่มั้ย?”น้ำเสียงอ่อนนุ่มเอ่ยถามสองเท้ามาหยุดตรงหน้าของร่างบางเธอคิ้วขมวดชนกันด้วยความสงสัยชายคนนี้คือใครกัน แถมยังรู้จักเสี่ยวถงอีกด้วย“เอ่อ...ขอโทษนะคะฉันจำไม่ได้ว่าเรารู้จักกันด้วยเหรอ”“ฉันเยี่ยเจี้ยนจื่อไง เพื่อสมัยเด็กของเธอโตมาฉันแทบจำเธอไม่ได้เลยนะ สวยยิ่งกว่าตอนเด็ก ๆ เสียอีกแล้วนี่เกิดอะไรขึ้นทำไมที่แขนของเธอถูกพันด้วยผ้าแบบนั้น” เสี่ยวถงพยายามครุ่นคิดความทรงจำในวัยเด็กของเจ้าของร่างกลับคืนมาอีกครั้ง นี่คือเพื่อนสนิทที่คอยเหลือเธอในตอนเด็ก ๆ ไม่ว่าจะทำอะไรไปที่ไหนหรือมีคนมากลั่นแกล้งจะมีเจี้ยนจื่อคอยช่วยเหลือเสมอ และเขาก็ยังเคยบอกความรู้สึกที่เขามีต่อเธอครั้นก่อนที่เขาจะย้ายไปอยู่มณฑลอื่น หลายปีมากแล้วที่ไม่เคยพบเจอกันเด็กชายคนนั้นคือชายที่รูปหล่อคนนี้ที่ยืนต่อหน้าเธอ เสี่ยวถงยิ้มกว้างเอ่ยทักทายด้วยความดีใจ“ฉันดีใจจริงที่เจอนายอีกครั
ตอนที่ 8 แผนซ้อนแผน“เรื่องอื่นเอาไว้ก่อน ชิงเหมยพาเสี่ยวถงไปที่รถพี่จะพาเธอไปหาหมอเอง” เจี่ยหยางเดินมาถึงรีบสั่งให้น้องสาวพาเสี่ยวถงไปที่รถเขาเองก็รีบเข้ามาประคองช่วยอีกคน ซินอี๋ใบหน้าเศร้าสลดเมื่อเห็นคนรักเข้าไปช่วยเสี่ยวถง จังหวะที่เสี่ยวถงถูกประคองไปเธอหันกลับมามองซินอี๋พร้อมกระตุกยิ้มให้ซินอี๋ได้เห็นว่าเจี่ยหยางก็เป็นห่วงจนรีบวิ่งเข้ามาประคอง ซินอี๋เจ็บใจแค้นมากกว่าเดิมกำมือแน่นเพื่อสงบสติอารมณ์เสี่ยวถงรู้ทันว่าซินอี๋ต้องการทำอะไร เมื่อเห็นซินอี๋กำลังตบตีตนเองเหมือนละครยามเย็นแล้วมาใส่ร้ายว่าเธอเป็นคนตบตี เพื่อให้คนอื่นต่อว่าและด่า มีหรือที่เสี่ยวถงจะยอม เมื่อครู่เธอกำลังปอกลูกท้ออยู่พอดี จึงคว้ามีดมาแทงที่แขนตัวเองยอมเจ็บตัวนิดหน่อยเพื่อแลกกับการทำให้ซินอี๋รู้ว่าไม่ใช่มีแต่เธอที่มีมารยาใช้ลูกไม้ตื้น ๆ แบบนี้และทำให้คนอื่นเห็นว่าซินอี๋เป็นคนนิสัยยังไง และก็เป็นอย่างที่เธอคาดคิดเอาไว้ไม่มีใครเชื่อซินอี๋ว่าเสี่ยวถงจะลงมือทำร้ายตนเอง'แม้จะเจ็บอยู่บ้างแต่ก็ยังดีที่ทำให้คนอื่นเห็นว่าเธอเป็นคนแบบไหน มาสิร้ายมาฉันจะร้ายกลับ' เสี่ยวถงคิดในใจ“พี่สะใภ้เลือดไหลไม่หยุดเลย โชคดีที่โดนแค่แข
ตอนที่ 7 ถูกทำร้ายหลังจากเก็บผ้าเสร็จเสี่ยวถงเดินลงมากจากห้องไปหาลี่ไป๋พาเธอเดินดูทั่วบ้านและบอกงานของเธอที่จะต้องทำต่อจากนี้ เวลาล่วงเลยจนดวงอาทิตย์กำลังเคลื่อนค่ำลง เสียงรถประจำทางจอดเทียบหน้าบ้าน ชิงเหมยกลับมาจากเรียบนหนังสือเห็นพี่สะใภ้เดินอยู่หน้าบ้าน เธอรีบเข้าไปทักทายพอดี“ว๊าว ตกใจหมดคิดว่าพี่สาวที่ไหนที่แท้พี่เสี่ยวถงพี่สะใภ้ฉันนี่เอง พี่สวยมากเลย ถ้าพี่แต่งตัวแบบนี้ทุกวันคงจะดีใบหน้าของพี่สวยหวานเพียงแค่แต่งนิดหน่อยทำให้พี่เป็นคนสวยจนละสายตาไม่ได้เลย ว่าแต่วันนี้ทำไมพี่ถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ปกติเวลานี้พี่ต้องอยู่ในห้องครัวมิใช่หรือ”“ชิงเหมยกลับมาแล้วหรือ ? ต่อจากนี้พี่จะไม่ทำงานบ้านอีกพี่จะใช้ชีวิตเป็นสะใภ้บ้านถังอย่างสมเกียรติจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาหยามหน้าอีกแล้ว”“ฉันชอบพี่เสี่ยวถงตอนนี้จริง ๆ เลย อย่างนั้นพี่จะไม่ยอมให้ซินอี๋อะไรนั่นเข้ามาใกล้พี่เจี่ยหยางอีกแล้วใช่มั้ย? ฉันละไม่ชอบขี้หน้าผู้หญิงคนนั้นสักนิด ไม่ถูกชะตาตั้งแต่คราแรกที่พบเจอ”“ไม่เอาน่า ชิงเหมยแม้ฉันจะเปลี่ยนไปแต่ว่ามีสิ่งหนึ่งที่ฉันอยากบอกให้ชิงเหมยรู้เอาไว้ถึงเป้าหมายที่ฉันเปลี่ยนแปลงตัวเอง ฉันไม่อยากอยู่ที
ตอนที่ 6 ต่อต้านลี่ไป๋ถือของช่วยเจ้านายคนใหม่ของตัวเองเดินตามเธอจนมาถึงบ้านหลังใหญ่ ดีใจที่มีที่อยู่ในใจสำนึกบุญคุณจะทำดีและหวังดีตอบแทนที่เสี่ยวถงยอมพาเธอเข้ามาทำงาน“นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว ไปไหนมาคนอย่างเธอทิ้งหน้าที่ของตัวเองแล้วออกไปเที่ยวเล่นอย่างสบายใจได้ยังไง ดูเข้าสิตัดผมใหม่แต่งหน้าอย่างไม่เคยจะทำตลกสิ้นดี แถมยังซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่อีกสิ้นเปลืองเสียจริง แล้วผู้หญิงมอมแมมด้านหลังนั่นเป็นใครอีกอย่าบอกนะว่าเธอไปรับญาติพี่น้องจากชนบทมาอยู่ที่นี่ บ้านตระกูลถังไม่ใช่บ้านรับเลี้ยงคนไร้ที่อยู่ มาทางไหนออกไปทางนั้น” แม่ถังยืนอยู่หน้าบ้านในมือถือพัด พัดไปพัดมาพรางต่อว่าเสี่ยวถงอย่างไม่พอใจ“แม่ถังเด็กคนนี้ไม่ใช่ญาติของฉันและเธอจะไม่ออกไปที่ไหน ต่อจากนี้เธอจะมาอยู่ที่นี่ทำงานบ้านทุกอย่างแทนฉัน”“อะไรกัน !! ใครอนุญาตให้เธอทำแบบนี้ตามใจชอบ ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้”“แม่ถังเป็นคนร่ำรวย บ้านหลังใหญ่โตเมื่อก่อนตอนที่ฉันยังไม่เข้ามาอยู่ที่นี่ ก็มีสาวใช้ถึง 3 คนแต่เมื่อฉันเข้ามาที่นี่แม่ถังกลับขับไล่สาวใช้ทุกคนออก แม่ถังไม่ได้ขี้เหนียวแต่อยากให้ฉันทำงานทุกอย่างในบ้าน ให้ฉันเหน็ดเหนื่อยจนทนไม่ไ
ตอนที่ 5 เปลี่ยนแปลงตัวเองเสี่ยวหลงรู้สึกสายตาอาฆาตของเจี่ยหยางที่มองเธออยู่ ตอนนั้นแม่ถังได้เอ่ยขึ้นเพื่อจัดการเรื่องวุ่นวายตอนนี้“เอาล่ะ ๆ อย่าให้เกิดเรื่องวุ่นวายแต่เช้าเลย เสี่ยวถังนำชามน้ำแกงไปเก็บแล้วเปลี่ยนชามใหม่มา อย่าให้เกิดขึ้นอีกครั้งที่สองอีก” แม่ถังกวาดสายตาจ้องมองอย่างตำหนิและเหมือนข่มขู่เสี่ยวถงอีกคน เธอพยักหน้านำชามไปเปลี่ยน ทำไมไม่เหมือนที่เธอคิดเอาไว้เลยล่ะ ทำไมเรื่องที่จบง่ายๆ แบบนี้ แต่เธอก็ไม่ได้ทำอะไรต่อ เปลี่ยนชามและตักน้ำแกงในหม้อให้ซินอี๋อีกครั้ง เสี่ยวถงนั่งมองทุกคนกินข้าวต่อ จนกินอิ่มแม่ถังชวนซินอี้ไปที่ห้องน้ำชาต่อ เสี่ยวถงเก็บชามไปล้างเหมือนหน้าที่ของเธอทุกวันเจี่ยหยางเดินเข้ามากระชากแขนเธอจนชามในมือของเธอหล่นล่วงลงพื้นเพล้ง!!“ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าหย่าทำอะไรซินอี๋็ เธอนี่ร้ายไม่เปลี่ยน ไม่กลัวคำขู่ของฉันเลยใช่มั้ย?”“โอ๊ย !!ฉันเจ็บนะ.. ทำไมคิดว่าเป็นฉันที่เลวร้ายทำเรื่องแบบนั้น หรือเพราะความรักของคุณที่มีต่อซินอี๋มีมากจนมองไม่เห็นความจริง คนที่ร้ายคือซินอี๋ต่างหาก ฉันเหนื่อยเต็มทน ไม่อยากจะอยู่ที่นี่เป็นสาวใช้ของบ้านหลังนี้แล้ว คุณลงชื่อในใบหย่าให้ฉัน
ตอนที่ 4 หย่าให้ฉันสิทั้งสามพากันเดินเข้ามาในบ้านพูดคุยหัวเราะราวกับว่าเป็นครอบครัวเดียวกับ ชิงเหมยยืดกอดอกเบะปากไม่พอใจสิ่งที่แม่กับพี่ชายทำกับดีกับคนที่ไม่เคยทำอะไรให้ครอบครัวด้วยซ้ำ คนที่คุณแม่กับพี่ชายควรจะทำดีด้วยคือพี่สะใภ้ต่างหาก“คิดว่าแขกที่ไหนมา รีบตื่นแต่เช้ามาต้อนรับเหมือนเป็นญาติผู้ใหญ่ที่แท้ก็แค่พี่ซินอี๋ จะมาที่นี่ทำไมบ่อย ๆ พี่ชายของฉันต้องแต่งงานแล้ว เข้าบ้านชายมีภรรยาอย่างนี้สมควรหรือ” ชิงเหมยพูดออกมาอย่างไม่สนใจว่าคนที่ฟังจะรู้สึกอย่างไร จนแม่ถังรีบเดินเข้ามาหยิกแขนของชิงเหมย“ชิงเหมยทำไมลูกถึงพูดกับพี่ซินอี๋แบบนั้น รีบขอโทษเดี๋ยวนี้เลยนะ เสียมารยาทจริง ๆ ”“โอ๊ย คุณแม่ฉันเจ็บนะ ฉันนะมีมารยาทกับคนที่มีมารยาทกับฉันเท่านั้นแหละ ฉันไม่ขอโทษใครทั้งนั้น” ชิงเหมยพูดพร้อมจ้องหน้าของซินอี๋ก่อนจะเดินเข้าไปที่ห้องกินข้าว ใบหน้าของซินอี๋ซีดเซียวแม่ถังรีบเดินเข้าไปจับมือของซินอี้เพื่อปลอบใจ“หนูซินอี๋อย่าใส่ใจชิงเหมยเลยนะ เธอยังเด็กอยู่ยังไม่เข้าใจและอ่อนต่อโลก ไปที่ห้องกินข้าวกันเถอะ หลังกินข้าวเสร็จเราไปที่ห้องนั่งเล่นดื่มน้ำชาพูดคุยกันสักหน่อยวันนี้ป้ามีเครื่องเพชรมาใหม่อยา