ตอนที่ 9 เจอเพื่อนเก่า
มาถึงโรงพยาบาลเสี่ยวถงเข้าไปพบหมอทำแผลล้างแผลนั่งรอยากลับบ้านระหว่างนั้นเจี่ยหยางเดินไปจ่ายเงินให้เธอ มีชายรูปร่างดีคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเสี่ยวถงพร้อมรอยยิ้มเต็มดวงหน้า ราวกับพบเจอเพชรเม็ดงาม
“โม่เสี่ยวถง นั่นใช่โม่เสี่ยวถงใช่มั้ย?”น้ำเสียงอ่อนนุ่มเอ่ยถามสองเท้ามาหยุดตรงหน้าของร่างบางเธอคิ้วขมวดชนกันด้วยความสงสัยชายคนนี้คือใครกัน แถมยังรู้จักเสี่ยวถงอีกด้วย
“เอ่อ...ขอโทษนะคะฉันจำไม่ได้ว่าเรารู้จักกันด้วยเหรอ”
“ฉันเยี่ยเจี้ยนจื่อไง เพื่อสมัยเด็กของเธอโตมาฉันแทบจำเธอไม่ได้เลยนะ สวยยิ่งกว่าตอนเด็ก ๆ เสียอีกแล้วนี่เกิดอะไรขึ้นทำไมที่แขนของเธอถูกพันด้วยผ้าแบบนั้น” เสี่ยวถงพยายามครุ่นคิดความทรงจำในวัยเด็กของเจ้าของร่างกลับคืนมาอีกครั้ง นี่คือเพื่อนสนิทที่คอยเหลือเธอในตอนเด็ก ๆ ไม่ว่าจะทำอะไรไปที่ไหนหรือมีคนมากลั่นแกล้งจะมีเจี้ยนจื่อคอยช่วยเหลือเสมอ และเขาก็ยังเคยบอกความรู้สึกที่เขามีต่อเธอครั้นก่อนที่เขาจะย้ายไปอยู่มณฑลอื่น หลายปีมากแล้วที่ไม่เคยพบเจอกันเด็กชายคนนั้นคือชายที่รูปหล่อคนนี้ที่ยืนต่อหน้าเธอ เสี่ยวถงยิ้มกว้างเอ่ยทักทายด้วยความดีใจ
“ฉันดีใจจริงที่เจอนายอีกครั้ง ขอโทษด้วยที่จำนายไม่ได้ตั้งแต่ครั้งแรก ส่วนแขนของฉันเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วนายมาที่นี่บาดเจ็บหรือไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า”
“น่าน้อยใจจังทั้ง ๆ ที่ฉันจำเธอได้ไม่เคยลืมเลือน ทุกครั้งที่มองฟ้ามักจะเห็นใบหน้าของเธอเสมอ ตอนนี้หัวใจของฉันไม่เคยมีใครเข้ามาแทนที่ ยังคงมีแต่เธอตลอดมานะเสี่ยวถง ฉันพยายามตามหาเธอ ไม่คิดเลยว่าโลกจะกลมทำให้เรามาพบกันอีกครั้งด้วยความบังเอิญ ฉันเป็นหมออยู่ที่นี่นะ”
“ว้าว นายเป็นหมอเหรอดีจริง ๆ มีหน้าที่การงานที่ดี” เสี่ยวถงว้าวุ่นในใจ ไม่คิดว่าชายที่พบกันครั้งแรกคนนี้จะยังรู้สึกดี ๆ กับเสี่ยวถงแต่เธอไม่อยากจะเชื่อคำพูดของผู้ชายเท่าไหร่นัก เพราะมีบาดแผลในใจที่ยังไม่แห้งสนิทและตอนนี้เธอคือภรรยาของผู้อื่นอีกด้วย จึงไม่อยากจะพูดถึงเรื่องความสัมพันธ์กับเจี้ยนจื่อ
“ตอนนี้เธอทำอะไรอยู่ที่ไหนหรือ สบายดีใช่มั้ยแล้วเอ่อ...เอ่อ ตอนนี้เธอแต่งงานมีครอบครัวหรือยัง” ใบหน้าของเจี้ยนจื่อแดงระเรื่ออย่างเขินอาย เอ่ยถามเสี่ยวถงด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักแต่ทว่าไม่ทันที่เสี่ยวถงจะได้ตอบอะไรกลับออกไป เสียงทุ่มต่ำดังขึ้นด้านหลังพร้อมดึงกายของเธอไปแนบชิดกับแผ่นอกของเขาเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ
เจี่ยหยางจ่ายเงินค่ารักษาเสร็จแล้วกำลังเดินกลับไปหาเสี่ยวถงที่นั่งรอรับยาสายตาเหลือบไปเห็นชายหนุ่มยืนคุยกับเสี่ยวถงมองดูผิวเผินแหมือนจะเป็นหมอคุยกับคนไข้ทว่าการพูดคุยดูสนิทสนมแถมเสี่ยวถงยังยิ้มระรื่นให้กับชายผู้นั้นอีกด้วย รอยยิ้มนั้นเขาเองยังไม่เคยได้รับจากเธอด้วยซ้ำ สองเท้าเร่งรีบก้าวไปหาเสี่ยวถงทันที
‘ชายคนนั้นหรือว่าจะเป็นคนรักใหม่ที่เธออยากจะหย่าและออกไปอยู่ด้วย ฮึ ! วางแผนร่วมกันสินะ ถึงได้รู้ว่าเธออยู่ที่โรงพยาบาล ไม่มีทางเสียหรอกที่ฉันจะปล่อยให้เธอไปมีความสุข’ เจี่ยหยางคิดในใจเดินเข้าไปดึงตัวของเสี่ยวถงมาแนบอกตนเองอย่างใกล้ชิด
“ตอนนี้เสี่ยวถงสบายดี เธอเป็นภรรยาของฉัน ของบ้านตระกูลถัง ขอบคุณที่เป็นห่วงและอยากรู้ความเป็นอยู่ของเธอ เสี่ยวถงได้รับยาหรือยังจะได้กลับไปพักผ่อน”
“อะไรของคุณปล่อยฉันนะ” เสี่ยวถงกระซิบบอกให้เขาปล่อยตนเองเพราะเขาไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน และไม่เข้าใจทำไมต้องทำแบบนี้
“ฉันไม่ปล่อยจะทำไม เธอคือภรรยาของฉัน ฉันอยากทำอะไรกับเธอต้องทำได้ทุกอย่าง ทำไมกลัวชายชู้ของเธอจะอกแตกตายหรือไง อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าชายคนนี้คือชายชู้ที่เธอจะไปอยู่ด้วยหลังจากหย่ากับฉัน แผนตื้น ๆ คิดว่าฉันโง่จนมองไม่ออกหรือไง” เจี่ยหยางกระซิบตอบกลับเสี่ยวถงทว่าใบหน้ากลับยิ้มให้เจี้ยนจื่อ เสี่ยวถงถอนหายใจก่อนจะตอบกลับเจี้ยนจื่อในคำตอบเมื่อครู่
“ฉันสบายดี และนี่คือสามีของฉันถังเจี่ยหยาง ฉันดีใจนะที่ได้พบนายอีกครั้ง หวังว่าต่อจากนี้เราจะได้พบกันบ่อย ๆ นายคิดถึงฉันเมื่อไหร่ไปหาฉันที่บ้านถังได้เสมอ ฉันจะต้อนรับเป็นอย่างดี และฉันมีเรื่องมากมายอยากเล่าให้นายฟัง นั่งกินขนมนอนกองฟางเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้กันฟังเพียงนึกถึงก็คิดถึงวันเวลาที่เราเคยใช้ด้วยกันมา ฉันมีความสุขมากจริง ๆ และชอบตอนนั้นมาก หลังจากที่เราแยกจากกันตอนนั้นฉันร้องไห้ตามนายจนกินข้าวไม่ได้ถึง 3 วัน แล้วพบกันนะเจี้ยนจื่อ” เสี่ยวถงดีใจที่เจี้ยนจื่อเข้ามาทักทายในเวลาที่เหมาะเจาะในเมื่อเจี่ยหยางคิดว่าเขาคือชายชู้ที่เธอจะหย่าออกไปอยู่ด้วยและเจี้ยนจื่อเองก็ชอบเธอ การมีเขาอยู่ต่อจากนี้มีประโยชน์ต่อเธอเป็นอย่างมากที่จะทำให้เจี่ยหยางยอมหย่ากับเธอง่าย ๆ
เจี้ยนจื่อใบหน้าพลันเปลี่ยนสีในใจลึก ๆ เสียดายที่เสี่ยวถงแต่งงานมีครอบครัว แต่เขาก็ยินดีหากเธอมีความสุขอย่างน้อยเป็นเพื่อนกับเธอยังได้เจอเธอตลอดชีวิต
“ฉันก็ดีใจที่ได้พบเธออีก สบายดีฉันก็สบายใจ เอาไว้วันหยุดฉันจะไปเยี่ยมเธอที่บ้านถังนะ ผมชื่อว่าเยี่ยเจี้ยนจื่อเป็นหมอประจำการอยู่ที่นี่ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณถังเจี่ยหยาง เสี่ยวถงเป็นคนอ่อนหวานและเป็นคนดีคุณโชคดีที่มีเธอเป็นภรรยา ผมขอฝากดูแลเธอด้วยนะครับ”
“อ่อนหวานหรือ ? เฮอะ ! ฉันไม่เคยเห็นความอ่อนหวานในตัวของเสี่ยวถงสักนิดเลือกปฏิบัติจริง ๆ นะ” เจี่ยหยางคิดในใจก่อนจะตอบกลับไปและพาเสี่ยวถงกลับบ้าน
“นั่นสินะครับ ผมโชคดีจริง ๆ เช่นนั้นขอตัวก่อนนะครับภรรยาของผมต้องกลับไปพักผ่อน” เจี้ยนจื่อยิ้มบาง ๆ โบกมือลาเสี่ยวถงก่อนจะกลับเข้าไปในห้องทำงานของตนเองต่อ
รับยาเสร็จทั้งสองพากันเดินออกมาเสี่ยวถงปัดมือของเขาออกจากการโอบกอด และไม่พอใจในสิ่งที่เขาทำวันนี้สักนิด
“ทำแบบนั้นทำไม ต้องการอะไรกันแน่”
“ฉันต่างหากที่ต้องเป็นคนพูด เธอต้องการอะไรกันแน่ สำนึกตนหรือยังว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว ชักชวนผู้ชายเข้าบ้านสามีมีที่ไหนเขาทำกันห่ะ ! ..”
“แล้วทีคุณพาคนรักเก่าเข้าบ้านฉันเคยต่อว่าหรือไง อย่างนั้นอย่ามาต่อว่าหากฉันจะชักชวนใครไปหาเพราะคุณไม่ยอมหย่าให้ฉันเอง และเจี้ยนจื่อคือเพื่อนสนิทของฉันไม่ใช่ชายชู้หรือคนรักเก่าเหมือนใครบางคน” เสี่ยวถงอดที่จะไม่พูดจาถากถางไม่ได้ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นคนเริ่มก่อน เจี่ยหยางแสดงความไม่พึงพอใจ ในใจเริ่มหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก เดินนำหน้าเธอขึ้นรถและพาเธอกลับบ้านระหว่างทางเต็มไปด้วยความอึดอัดและเงียบขรึมของทั้งสอง
ตอนที่ 9 เจอเพื่อนเก่ามาถึงโรงพยาบาลเสี่ยวถงเข้าไปพบหมอทำแผลล้างแผลนั่งรอยากลับบ้านระหว่างนั้นเจี่ยหยางเดินไปจ่ายเงินให้เธอ มีชายรูปร่างดีคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเสี่ยวถงพร้อมรอยยิ้มเต็มดวงหน้า ราวกับพบเจอเพชรเม็ดงาม“โม่เสี่ยวถง นั่นใช่โม่เสี่ยวถงใช่มั้ย?”น้ำเสียงอ่อนนุ่มเอ่ยถามสองเท้ามาหยุดตรงหน้าของร่างบางเธอคิ้วขมวดชนกันด้วยความสงสัยชายคนนี้คือใครกัน แถมยังรู้จักเสี่ยวถงอีกด้วย“เอ่อ...ขอโทษนะคะฉันจำไม่ได้ว่าเรารู้จักกันด้วยเหรอ”“ฉันเยี่ยเจี้ยนจื่อไง เพื่อสมัยเด็กของเธอโตมาฉันแทบจำเธอไม่ได้เลยนะ สวยยิ่งกว่าตอนเด็ก ๆ เสียอีกแล้วนี่เกิดอะไรขึ้นทำไมที่แขนของเธอถูกพันด้วยผ้าแบบนั้น” เสี่ยวถงพยายามครุ่นคิดความทรงจำในวัยเด็กของเจ้าของร่างกลับคืนมาอีกครั้ง นี่คือเพื่อนสนิทที่คอยเหลือเธอในตอนเด็ก ๆ ไม่ว่าจะทำอะไรไปที่ไหนหรือมีคนมากลั่นแกล้งจะมีเจี้ยนจื่อคอยช่วยเหลือเสมอ และเขาก็ยังเคยบอกความรู้สึกที่เขามีต่อเธอครั้นก่อนที่เขาจะย้ายไปอยู่มณฑลอื่น หลายปีมากแล้วที่ไม่เคยพบเจอกันเด็กชายคนนั้นคือชายที่รูปหล่อคนนี้ที่ยืนต่อหน้าเธอ เสี่ยวถงยิ้มกว้างเอ่ยทักทายด้วยความดีใจ“ฉันดีใจจริงที่เจอนายอีกครั
ตอนที่ 8 แผนซ้อนแผน“เรื่องอื่นเอาไว้ก่อน ชิงเหมยพาเสี่ยวถงไปที่รถพี่จะพาเธอไปหาหมอเอง” เจี่ยหยางเดินมาถึงรีบสั่งให้น้องสาวพาเสี่ยวถงไปที่รถเขาเองก็รีบเข้ามาประคองช่วยอีกคน ซินอี๋ใบหน้าเศร้าสลดเมื่อเห็นคนรักเข้าไปช่วยเสี่ยวถง จังหวะที่เสี่ยวถงถูกประคองไปเธอหันกลับมามองซินอี๋พร้อมกระตุกยิ้มให้ซินอี๋ได้เห็นว่าเจี่ยหยางก็เป็นห่วงจนรีบวิ่งเข้ามาประคอง ซินอี๋เจ็บใจแค้นมากกว่าเดิมกำมือแน่นเพื่อสงบสติอารมณ์เสี่ยวถงรู้ทันว่าซินอี๋ต้องการทำอะไร เมื่อเห็นซินอี๋กำลังตบตีตนเองเหมือนละครยามเย็นแล้วมาใส่ร้ายว่าเธอเป็นคนตบตี เพื่อให้คนอื่นต่อว่าและด่า มีหรือที่เสี่ยวถงจะยอม เมื่อครู่เธอกำลังปอกลูกท้ออยู่พอดี จึงคว้ามีดมาแทงที่แขนตัวเองยอมเจ็บตัวนิดหน่อยเพื่อแลกกับการทำให้ซินอี๋รู้ว่าไม่ใช่มีแต่เธอที่มีมารยาใช้ลูกไม้ตื้น ๆ แบบนี้และทำให้คนอื่นเห็นว่าซินอี๋เป็นคนนิสัยยังไง และก็เป็นอย่างที่เธอคาดคิดเอาไว้ไม่มีใครเชื่อซินอี๋ว่าเสี่ยวถงจะลงมือทำร้ายตนเอง'แม้จะเจ็บอยู่บ้างแต่ก็ยังดีที่ทำให้คนอื่นเห็นว่าเธอเป็นคนแบบไหน มาสิร้ายมาฉันจะร้ายกลับ' เสี่ยวถงคิดในใจ“พี่สะใภ้เลือดไหลไม่หยุดเลย โชคดีที่โดนแค่แข
ตอนที่ 7 ถูกทำร้ายหลังจากเก็บผ้าเสร็จเสี่ยวถงเดินลงมากจากห้องไปหาลี่ไป๋พาเธอเดินดูทั่วบ้านและบอกงานของเธอที่จะต้องทำต่อจากนี้ เวลาล่วงเลยจนดวงอาทิตย์กำลังเคลื่อนค่ำลง เสียงรถประจำทางจอดเทียบหน้าบ้าน ชิงเหมยกลับมาจากเรียบนหนังสือเห็นพี่สะใภ้เดินอยู่หน้าบ้าน เธอรีบเข้าไปทักทายพอดี“ว๊าว ตกใจหมดคิดว่าพี่สาวที่ไหนที่แท้พี่เสี่ยวถงพี่สะใภ้ฉันนี่เอง พี่สวยมากเลย ถ้าพี่แต่งตัวแบบนี้ทุกวันคงจะดีใบหน้าของพี่สวยหวานเพียงแค่แต่งนิดหน่อยทำให้พี่เป็นคนสวยจนละสายตาไม่ได้เลย ว่าแต่วันนี้ทำไมพี่ถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ปกติเวลานี้พี่ต้องอยู่ในห้องครัวมิใช่หรือ”“ชิงเหมยกลับมาแล้วหรือ ? ต่อจากนี้พี่จะไม่ทำงานบ้านอีกพี่จะใช้ชีวิตเป็นสะใภ้บ้านถังอย่างสมเกียรติจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาหยามหน้าอีกแล้ว”“ฉันชอบพี่เสี่ยวถงตอนนี้จริง ๆ เลย อย่างนั้นพี่จะไม่ยอมให้ซินอี๋อะไรนั่นเข้ามาใกล้พี่เจี่ยหยางอีกแล้วใช่มั้ย? ฉันละไม่ชอบขี้หน้าผู้หญิงคนนั้นสักนิด ไม่ถูกชะตาตั้งแต่คราแรกที่พบเจอ”“ไม่เอาน่า ชิงเหมยแม้ฉันจะเปลี่ยนไปแต่ว่ามีสิ่งหนึ่งที่ฉันอยากบอกให้ชิงเหมยรู้เอาไว้ถึงเป้าหมายที่ฉันเปลี่ยนแปลงตัวเอง ฉันไม่อยากอยู่ที
ตอนที่ 6 ต่อต้านลี่ไป๋ถือของช่วยเจ้านายคนใหม่ของตัวเองเดินตามเธอจนมาถึงบ้านหลังใหญ่ ดีใจที่มีที่อยู่ในใจสำนึกบุญคุณจะทำดีและหวังดีตอบแทนที่เสี่ยวถงยอมพาเธอเข้ามาทำงาน“นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว ไปไหนมาคนอย่างเธอทิ้งหน้าที่ของตัวเองแล้วออกไปเที่ยวเล่นอย่างสบายใจได้ยังไง ดูเข้าสิตัดผมใหม่แต่งหน้าอย่างไม่เคยจะทำตลกสิ้นดี แถมยังซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่อีกสิ้นเปลืองเสียจริง แล้วผู้หญิงมอมแมมด้านหลังนั่นเป็นใครอีกอย่าบอกนะว่าเธอไปรับญาติพี่น้องจากชนบทมาอยู่ที่นี่ บ้านตระกูลถังไม่ใช่บ้านรับเลี้ยงคนไร้ที่อยู่ มาทางไหนออกไปทางนั้น” แม่ถังยืนอยู่หน้าบ้านในมือถือพัด พัดไปพัดมาพรางต่อว่าเสี่ยวถงอย่างไม่พอใจ“แม่ถังเด็กคนนี้ไม่ใช่ญาติของฉันและเธอจะไม่ออกไปที่ไหน ต่อจากนี้เธอจะมาอยู่ที่นี่ทำงานบ้านทุกอย่างแทนฉัน”“อะไรกัน !! ใครอนุญาตให้เธอทำแบบนี้ตามใจชอบ ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้”“แม่ถังเป็นคนร่ำรวย บ้านหลังใหญ่โตเมื่อก่อนตอนที่ฉันยังไม่เข้ามาอยู่ที่นี่ ก็มีสาวใช้ถึง 3 คนแต่เมื่อฉันเข้ามาที่นี่แม่ถังกลับขับไล่สาวใช้ทุกคนออก แม่ถังไม่ได้ขี้เหนียวแต่อยากให้ฉันทำงานทุกอย่างในบ้าน ให้ฉันเหน็ดเหนื่อยจนทนไม่ไ
ตอนที่ 5 เปลี่ยนแปลงตัวเองเสี่ยวหลงรู้สึกสายตาอาฆาตของเจี่ยหยางที่มองเธออยู่ ตอนนั้นแม่ถังได้เอ่ยขึ้นเพื่อจัดการเรื่องวุ่นวายตอนนี้“เอาล่ะ ๆ อย่าให้เกิดเรื่องวุ่นวายแต่เช้าเลย เสี่ยวถังนำชามน้ำแกงไปเก็บแล้วเปลี่ยนชามใหม่มา อย่าให้เกิดขึ้นอีกครั้งที่สองอีก” แม่ถังกวาดสายตาจ้องมองอย่างตำหนิและเหมือนข่มขู่เสี่ยวถงอีกคน เธอพยักหน้านำชามไปเปลี่ยน ทำไมไม่เหมือนที่เธอคิดเอาไว้เลยล่ะ ทำไมเรื่องที่จบง่ายๆ แบบนี้ แต่เธอก็ไม่ได้ทำอะไรต่อ เปลี่ยนชามและตักน้ำแกงในหม้อให้ซินอี๋อีกครั้ง เสี่ยวถงนั่งมองทุกคนกินข้าวต่อ จนกินอิ่มแม่ถังชวนซินอี้ไปที่ห้องน้ำชาต่อ เสี่ยวถงเก็บชามไปล้างเหมือนหน้าที่ของเธอทุกวันเจี่ยหยางเดินเข้ามากระชากแขนเธอจนชามในมือของเธอหล่นล่วงลงพื้นเพล้ง!!“ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าหย่าทำอะไรซินอี๋็ เธอนี่ร้ายไม่เปลี่ยน ไม่กลัวคำขู่ของฉันเลยใช่มั้ย?”“โอ๊ย !!ฉันเจ็บนะ.. ทำไมคิดว่าเป็นฉันที่เลวร้ายทำเรื่องแบบนั้น หรือเพราะความรักของคุณที่มีต่อซินอี๋มีมากจนมองไม่เห็นความจริง คนที่ร้ายคือซินอี๋ต่างหาก ฉันเหนื่อยเต็มทน ไม่อยากจะอยู่ที่นี่เป็นสาวใช้ของบ้านหลังนี้แล้ว คุณลงชื่อในใบหย่าให้ฉัน
ตอนที่ 4 หย่าให้ฉันสิทั้งสามพากันเดินเข้ามาในบ้านพูดคุยหัวเราะราวกับว่าเป็นครอบครัวเดียวกับ ชิงเหมยยืดกอดอกเบะปากไม่พอใจสิ่งที่แม่กับพี่ชายทำกับดีกับคนที่ไม่เคยทำอะไรให้ครอบครัวด้วยซ้ำ คนที่คุณแม่กับพี่ชายควรจะทำดีด้วยคือพี่สะใภ้ต่างหาก“คิดว่าแขกที่ไหนมา รีบตื่นแต่เช้ามาต้อนรับเหมือนเป็นญาติผู้ใหญ่ที่แท้ก็แค่พี่ซินอี๋ จะมาที่นี่ทำไมบ่อย ๆ พี่ชายของฉันต้องแต่งงานแล้ว เข้าบ้านชายมีภรรยาอย่างนี้สมควรหรือ” ชิงเหมยพูดออกมาอย่างไม่สนใจว่าคนที่ฟังจะรู้สึกอย่างไร จนแม่ถังรีบเดินเข้ามาหยิกแขนของชิงเหมย“ชิงเหมยทำไมลูกถึงพูดกับพี่ซินอี๋แบบนั้น รีบขอโทษเดี๋ยวนี้เลยนะ เสียมารยาทจริง ๆ ”“โอ๊ย คุณแม่ฉันเจ็บนะ ฉันนะมีมารยาทกับคนที่มีมารยาทกับฉันเท่านั้นแหละ ฉันไม่ขอโทษใครทั้งนั้น” ชิงเหมยพูดพร้อมจ้องหน้าของซินอี๋ก่อนจะเดินเข้าไปที่ห้องกินข้าว ใบหน้าของซินอี๋ซีดเซียวแม่ถังรีบเดินเข้าไปจับมือของซินอี้เพื่อปลอบใจ“หนูซินอี๋อย่าใส่ใจชิงเหมยเลยนะ เธอยังเด็กอยู่ยังไม่เข้าใจและอ่อนต่อโลก ไปที่ห้องกินข้าวกันเถอะ หลังกินข้าวเสร็จเราไปที่ห้องนั่งเล่นดื่มน้ำชาพูดคุยกันสักหน่อยวันนี้ป้ามีเครื่องเพชรมาใหม่อยา