ตึก ตึก ตึก!!!
เด็กสาวกลับมาถึงบ้านก็รีบเปิดประตูลงจากรถแล้ววิ่งขึ้นไปบนห้องนอน มือเล็กหยิบกระเป๋ามาเปิดเอาสมุดโน้ตที่พกติดตัวไปโรงเรียนทุกวัน เพราะตั้งแต่ปิดเทอมก็ยังไม่ได้หยิบออกจากกระเป๋า เนื่องจากไม่มีเหตุการณ์ประทับใจอะไรให้เขียนลงไป
เธอเปิดสมุดไปยังหน้าที่ว่างจรดปลายดินสอวาดรูปการ์ตูนผู้ชายด้วยใบหน้าแย้มยิ้ม วาดเสร็จก็หยิบสีมาระบายตามสไตล์มินิมอลที่เธอชอบ แล้วเขียนพยัญชนะภาษาอังกฤษลงไปข้างรูปภาพ
SEA
(ซี แปลว่าทะเล)
ดวงตาคู่สวยจ้องมองภาพการ์ตูนที่วาดด้วยมืออยู่นาน มือเล็กทั้งสองข้างก็ยกขึ้นทาบอกข้างซ้ายที่ก้อนเนื้อในนั้นดันเต้นแรงไม่หยุด
แล้วมันก็มีประโยคหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว ไม่อยากให้เป็นแค่พี่ชาย
ปลาดาวเอาแต่คิดถึงใบหน้าของเพื่อนฉลาม หรือว่าเธอจะชอบพี่ทะเลขึ้นมาแล้วจริง ๆ แต่เธอเพิ่งจะอายุสิบหกปีเองนะ
ความคิดของเด็กสาวกำลังเริ่มก่อตัวขึ้น พร้อมกับอาการประหลาดที่เกิดขึ้นกับหัวใจนับตั้งแต่เจอกับหนุ่มรุ่นพี่
เธอนั่งเล่นอยู่บนห้องประมาณสองชั่วโมง พ่อแม่ก็กลับเข้าบ้านหลังประชุมเสร็จ และท่านก็ได้ทำตามสัญญาซื้อกล่องสุ่มมาให้ลูกสาว
“รักแม่ที่สุดเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ”
ปลาดาวเข้าสวมกอดผู้เป็นแม่ ก่อนจะรับกล่องสุ่มนำมาแกะในห้องนั่งเล่นที่ตอนนี้พี่ชายนั่งเล่นเกมอยู่หน้าทีวี
“กรี๊ด… ซีเครต”
ปลาดาวส่งเสียงดีใจดังลั่น จนพี่ชายที่นั่งใกล้หันมาขมวดคิ้วจ้อง พร้อมกับยกมือขึ้นแคะหู
“โอ๊ย ปลาดาว กรี๊ดจนหูพี่แทบแตก จะดีใจอะไรหนักหนา ก็แค่ตุ๊กตา”
“พี่ไม่เข้าใจหรอก นี่มันตัวละครหายากในคอลเล็กชันนี้เลยนะ งุ้ย น่ารัก”
ปลาดาวทำหน้าบึ้งใส่พี่ชาย ก่อนจะหันมายิ้มให้กับตุ๊กตาตัวใหม่ แล้วลุกออกจากห้องนั่งเล่น นำตุ๊กตาหายากขึ้นไปเก็บไว้บนห้อง ก่อนจะลงมาเป็นลูกมือช่วยแม่ทำมื้อเย็นในครัว
“วันนี้นึกยังไงถึงได้เข้าครัว” นภาถามลูกสาวที่วันนี้มาแปลก
“หนูอยากช่วยแบ่งเบาภาระแม่ค่ะ”
เด็กสาวส่งยิ้มให้ แต่มารดาที่เลี้ยงดูมาสิบกว่าปีมีหรือที่จะไม่รู้ว่าลูกมีเรื่องอะไรอยากเอ่ย แต่คงหาโอกาสอยู่
ทำอาหารเสร็จทุกคนก็พร้อมหน้ากันที่โต๊ะอาหาร และระหว่างที่กำลังกินมื้อเย็น ปลาดาวก็ได้เอ่ยประโยคที่ทำเอาทุกคนแปลกใจ
“แม่คะ หนูอยากเรียนพิเศษ”
ปลาดาวนั่งคิดถึงเรื่องนี้มาตลอดทางกลับบ้าน จนกระทั่งนั่งวาดรูปใครบางคนก็ยังคิดถึงแต่ประโยคที่ว่า ตั้งใจเรียนล่ะ อีกสามปีไว้เจอกัน ของเพื่อนพี่ชาย มันทำให้เธอมีแรงบันดาลใจที่อยากจะตั้งใจเรียน เพื่อที่จะได้สอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับเขาได้
แค่ก แค่ก
ฉลามได้ยินถึงกับสำลักน้ำ ไม่ต่างจากพ่อแม่ที่มองไปยังน้องสาว ร้อยวันพันปีไม่เห็นจะขยันเรียน เวลาว่างก็เอาแต่อ่านการ์ตูน
“นี่ใช่น้องสาวพี่ปะเนี่ย หรือวิญญาณอะไรเข้าสิง”
“นั่นสิลูก นึกยังไงอยากเรียนพิเศษ เมื่อก่อนแม่ให้เรียนเสริมช่วงเย็นก็บอกไม่อยากเรียน”
“มันก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอคุณ ในเมื่อลูกอยากเรียนก็สนับสนุนไปเถอะ” ปองภพเอ่ยกับภรรยา
“ฉันก็ต้องสนับสนุนลูกอยู่แล้วค่ะ ฉันก็แค่แปลกใจ”
“หนูแค่คิดว่าอีกไม่กี่ปีก็จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ถ้ายังมัวแต่ขี้เกียจ กลัวจะสอบไม่ติดน่ะค่ะ แหะ แหะ”
“ตัวขี้เกียจคงจะผลัดขนแล้วสิท่า”
ฉลามยักคิ้วทำหน้ายียวนใส่น้องสาวที่นั่งเก้าอี้ตรงข้ามกัน เพราะเขานั่งฝั่งเดียวกับพ่อ ส่วนน้องนั่งอยู่ข้างผู้เป็นแม่
“พี่ฉลาม คนอุตส่าห์ปรับปรุงตัวไปในทางที่ดี ไม่ได้ทำตัวแย่เหมือนพี่สักหน่อย”
“พี่ทำตัวแย่ยังไง ไหนบอกมาดิ”
“พอเลยทั้งสองคน ชอบทะเลาะกันอยู่เรื่อย”
ผู้เป็นแม่ส่งสายตาคาดโทษ สองพี่น้องก็รีบเก็บคำพูดที่จะโต้เถียงกลืนลงคอ ส่วนปองภพได้แต่ส่ายหน้า จะว่าชินแล้วก็ได้ เพราะไม่เคยมีวันไหนที่ลูกรักทั้งสองจะไม่หาเรื่องทะเลาะกัน แม้แต่เรื่องขี้ประติ๋วก็สามารถหยิบขึ้นมาถกเถียงกันได้ทั้งวัน
แต่เห็นเถียงกันแบบนี้ก็ยังรักใคร่กันดี เวลาไม่สบายก็ดูแลกันมาโดยตลอด
หลังจากกินข้าวเสร็จปลาดาวก็อยู่ช่วยแม่ล้างจาน ก่อนจะขึ้นไปบนห้องนอน
“ฮึ หายไปไหน”
มือเล็กกะจะถอดสร้อยลูกปัดหน้ายิ้มที่เธอร้อยมันขึ้นมาเอง แต่สร้อยได้หลุดหายไปตอนไหนก็ไม่รู้ ดวงตาคู่สวยสอดส่ายมองไปทั่วห้อง จำได้ว่ากลับเข้าบ้านก็นั่งที่โต๊ะหนังสือ นอนอ่านการ์ตูนบนเตียง แกะกล่องสุ่มตรงโซฟาห้องนั่งเล่น แล้วก็ช่วยงานในครัว
เด็กสาวมองหาไปทั่วห้อง วิ่งลงไปหาชั้นล่างแต่ก็ยังไม่พบ จึงทำหน้าเศร้านั่งถอนหายใจอยู่ปลายเตียง แม้จะเสียดายมากเพราะมันอยู่ติดตัวเธอมาตลอดหนึ่งปีตั้งแต่เรียนมัธยมศึกษาปีที่สาม เพราะซื้อลูกปัดมาร้อยเองและใส่คู่กับเพื่อนสนิท ไม่เคยได้ถอดออกนอกจากเวลาอาบน้ำ แต่ตอนนี้สร้อยข้อมือของเธอมันได้หายไปแล้ว ก็ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าช่างมันเถอะ
*****
ทางด้านหอพักนักศึกษา
“สรุปคืนนี้มีแค่เราสองคนนอนห้องนี้เหรอ”
เสียงของเจมส์นักศึกษาอีกคนที่มาถึงเมื่อบ่ายสอง หลังจากที่ได้ทำความรู้จักกันก็เอ่ยถามกับทะเล เพราะรู้สึกวังเวงกับการต้องมานอนหอพักที่สร้างไว้บนเนื้อที่ว่างท้ายมหาวิทยาลัยนับร้อยห้องแบบนี้ แต่โชคดีที่ว่าได้รูมเมตที่เรียนอยู่คณะเดียวกัน และยังเป็นสาขาเดียวกันอีกด้วย เลยโล่งใจขึ้นมาหน่อย แต่คนขี้กลัวอย่างเขามันก็ยังไม่วางใจ
“อือ คืนนี้คงต้องนอนกันสองคนไปก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ไอ้ฉลามกับอีกคนก็คงมา”
“ฉลาม เพื่อนนายเหรอ”
“...” ทะเลพยักหน้าให้เป็นคำตอบ ก่อนจะถามต่อ
“จะอาบน้ำก่อนไหม ถ้ายัง ฉันจะได้อาบก่อน”
เห็นว่าเวลาก็เข้าใกล้สองทุ่มแล้ว วันนี้ต่างพากันจัดเก็บข้าวของมาทั้งวัน ช่วงเย็นเลยชวนกันกินเมนูเด็กหออย่างต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปคนละชาม และตอนนี้ก็ควรจะได้เวลาอาบน้ำพักผ่อน
“ฉันขออาบก่อน อาบดึกมันเสียวสันหลังว่ะ”
เจมส์รีบลุกออกจากเตียง คว้าผ้าขนหนูพร้อมเสื้อผ้าเดินตรงไปยังห้องน้ำ สายตาก็กวาดมองไปยังบริเวณหลังห้องที่เป็นที่ซักล้าง ตากเสื้อผ้า ผนังก็เป็นปูนครึ่งตาข่ายครึ่งทำให้มองเห็นบริเวณด้านนอกที่เป็นต้นไม้พริ้วไหวตามแรงลม
“แม่งหน้ากลัวชิบหาย” เจมส์ทำท่าขนลุกแล้วรีบเข้าไปอาบน้ำ
ทะเลกระตุกยิ้มส่ายหน้าให้เพื่อน หลังจากนั้นห้านาทีเจมส์ก็อาบน้ำเสร็จ เขาจึงเข้าไปอาบต่อ และพอออกจากห้องน้ำก็พบว่าคนขี้กลัวได้เสียบหูฟัง นอนตะแคงข้างหันหน้าเข้าฝาผนัง พร้อมกับห่มผ้าเสร็จสรรพ ทั้งที่อากาศก็ไม่ได้หนาวขนาดนั้น สงสัยจะกลัวจริง ๆ
ทะเลหย่อนก้นลงนั่งบนเตียง แต่ไม่ทันจะได้ล้มตัวลงนอน ดวงตาคู่คมก็เหลือบไปเห็นวัตถุบางอย่างตกอยู่ตรงขาเตียงที่อยู่ตรงข้าม คล้ายกับสายอะไรสักอย่างที่มีสีสันสดใส จึงลุกออกจากเตียงอีกครั้งแล้วหยิบขึ้นมาดู ก็พบว่ามันเป็นสร้อยข้อมือของผู้หญิง
ริมฝีปากหยักยกยิ้มขึ้น ผู้หญิงที่เข้ามาในห้องนี้ก็มีเพียงคนเดียวเท่านั้น
“ของปลาดาวสินะ”
ทะเลเอ่ยเสียงเบาพลางนำไปเก็บไว้ใต้หมอนที่ใช้หนุนนอนบนเตียงของตน ไว้ถ้ามีโอกาสได้เจอกันอีก เขาจะคืนให้เองกับมือ
หลายเดือนต่อมาก๊อก ก๊อกปลาดาวที่กำลังกลับมาถึงห้องได้ไม่นานก็หันมองไปยังประตูที่มีเสียงเคาะดังขึ้นด้วยความแปลกใจ วันนี้เป็นวันพุธจะว่าเป็นแฟนหนุ่มก็คงไม่น่าใช่ แต่เธอก็ไม่ได้นัดเพื่อนให้มาหาที่ห้อง จึงได้ลุกออกจากโซฟาเดินไปที่ประตูเพื่อแอบดูว่าเป็นใคร“ใครคะ”หญิงสาวเอ่ยพลางเพ่งสายตามองไปที่ตาแมวซึ่งติดอยู่ตรงประตู ริมฝีปากอวบอิ่มก็เผยรอยยิ้มขึ้น รีบหมุนลูกบิดเปิดออกไป โผเข้าสวมกอดคนที่กางแขนพร้อมรับ“มาได้ยังไงคะ มีธุระแถวนี้เหรอ”“เปล่าครับ พี่ตั้งใจมาหาเรา”“มาหาหนูเหรอคะ”ปลาดาวผละตัวออกเล็กน้อยช้อนสายตาขึ้นมองแฟนหนุ่ม ก่อนจะก้มลงมองกระเป๋าเสื้อผ้าที่เขานำมาด้วย ซึ่งรอบนี้ก็เป็นใบใหญ่กว่าทุกครั้ง“เข้าไปในห้องกันเถอะครับ”ปลาดาวพยักหน้ารับ ทะเลก็ก้มลงหยิบกระเป๋านำไปเก็บไว้ในห้องนอนโดยที่มีแฟนสาวเดินตามเข้าไปด้วย“พี่ตั้งใจมาอยู่กับเราจนกว่าจะสอบเสร็จ”ทะเลหย่อนก้นลงนั่งที่ปลายเตียง คว้าเอาตัวของแฟนสาวนั่งลงบนตักแล้วเอ่ยกระซิบข้างหู อีกสามอาทิตย์ปลาดาวก็จะสอบปลายภาคและเรียนจบหลักสูตรปริญญาตรีแล้ว เขาจึงรีบเคลียร์งานที่สำคัญแล้วมาอยู่เป็นเพื่อนเธอที่คอนโด“มาอยู่นานแบบนี้ไม่กระทบกั
ระยะเวลาเกือบสามเดือนที่ปลาดาวมาฝึกงานที่รีสอร์ตของแฟนหนุ่ม ก็ทำให้ทั้งสองคนมีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น แต่เวลามันก็ผ่านไปเร็วจนน่าใจหาย เพราะอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันเปิดภาคเรียน ปลาดาวก็ต้องกลับไปเรียนต่ออีกปีหนึ่งก็จะจบการศึกษา ส่วนทะเลก็มีหน้าที่ของตนต้องดูแลธุรกิจอยู่ที่นี่ ทั้งคู่จึงทำได้เพียงโทรคุยกันเหมือนที่ผ่านมา และเจอกันช่วงเย็นวันศุกร์จนถึงวันอาทิตย์เขาก็เดินทางกลับเย็นนี้เหล่าพนักงานจึงร่วมใจกันจัดงานเลี้ยงขึ้นเพื่อเลี้ยงส่งให้กับปลาดาว เธอจึงได้ขออนุญาตพ่อแม่มานอนค้างที่บ้านแฟนหนุ่มหนึ่งคืนหลังจากงานเลี้ยงจบลงในเวลาสามทุ่มกว่าพนักงานก็พากันกลับ ทะเลจึงพาแฟนสาวไปที่บ้านเล็ก ซึ่งปลูกอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับบ้านของพ่อแม่ แต่บ้านหลังนี้เป็นพื้นที่ส่วนตัวของเขาที่พักอาศัยอยู่ตามลำพัง“หน้าเราแดงมากเลยนะ เมารึเปล่าครับ”ทะเลโอบเอวแฟนสาวเข้ามาแนบชิด ยกมือข้างหนึ่งขึ้นลูบพวงแก้มที่แดงปลั่ง ดวงตาหวานหยาดเยิ้มเงยขึ้นมองพร้อมกับรอยยิ้ม“เมาค่ะ เมามากด้วย แต่ว่า…”“แต่ว่าอะไรครับ”“แต่ว่าไม่ได้เมาเหล้า แต่เป็นเมารักพี่ คิกคิก”ปลาดาวส่งเสียงหวานหัวเราะชอบใจ ตอนนี้เธอเมาระดับหนึ่งแต่ก็ยั
สองปีต่อมาตอนนี้เป็นช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อน ทะเลได้ขับรถออกจากบ้านแต่เช้ามุ่งหน้าไปยังบ้านของแฟนสาว พอเปิดประตูลงจากรถก็เจอกับแม่ของเธอที่กำลังเดินออกมาหน้าบ้านก็เอ่ยทักทายอย่างเป็นกันเอง“มาแต่เช้าเลยนะจ๊ะ”“สวัสดีครับ ผมมารับปลาดาวไปฝึกงานครับ”“แล้วนี่กินข้าวกินปลามารึยัง”นภาเอ่ยถามแฟนลูกสาวแต่คิดว่าทะเลคงยังไม่ได้กินอะไรก่อนออกจากบ้านมา เพราะนี่มันก็เพิ่งจะเจ็ดโมง คงจะตื่นเต้นเลยรีบออกจากบ้านมาแต่เช้า“ยังเลยครับ”“รอน้องแป๊บนึงนะ ปลาดาวคงกำลังแต่งตัวอยู่ข้างบน”“ครับ ผมรอได้”ทะเลเดินตามแม่ของแฟนสาวเข้าไปในครัว แล้วอาสาช่วยตักอาหารไปวางไว้บนโต๊ะกินข้าว“ค่อย ๆ เดินก็ได้ปลาดาว ดูยัยลูกสาวคนนี้ ซนไม่เคยเปลี่ยน”ปลาดาววิ่งลงบันไดมาด้วยใบหน้าสดใส นภาเห็นแล้วก็ได้แต่ส่งเสียงเอ็ดพลางยกยิ้มส่ายหน้าไปมา คงดีใจที่ทะเลมารับแต่เช้า ก่อนที่ปลาดาวจะเดินอมยิ้มเข้ามาหาแล้วสวมกอดแขนของผู้เป็นแม่ ก่อนจะส่งยิ้มหวานทักทายแฟนหนุ่มที่ช่วยแม่ของเธอเตรียมมื้อเช้าเสร็จแล้ว ทะเลก็ได้นั่งกินข้าวกับครอบครัวของปลาดาว แต่ก็ขาดเพื่อนรักไปหนึ่งคนสองปีมานี้ฉลามก็ได้ย้ายไปอยู่คอนโดใกล้กับที่ทำงาน เขาทำงานในตำแหน
สองเดือนต่อมาพี่ชายของเธอและแฟนหนุ่มก็ได้ส่งโปรเจกต์ผ่านเรียบร้อยแล้ว หลังจากสอบปลายภาคเสร็จทั้งสามคนก็พากันกลับไปเยี่ยมคนที่บ้านปลาดาวได้นั่งรถไปกับทะเล ปล่อยให้พี่ชายของเธอขับรถไปเอง และพอไปถึงก็เข้าไปหาพ่อกับแม่ที่ร้านอาหาร“สวัสดีค่ะพ่อ สวัสดีค่ะแม่”หญิงสาวเอ่ยทักทายบิดามารดา ก่อนจะเข้าไปสวมกอดแม่ของเธอให้หายคิดถึง“สวัสดีครับ” ฉลามยกมือไหว้พ่อและแม่ของตน“สวัสดีครับคุณลุง คุณป้า”“ทะเลก็มาด้วยกันเหรอจ๊ะ ดีเลย เที่ยงนี้ก็กินข้าวด้วยกันที่ร้านนะ”นภาเอ่ยกับเพื่อนของลูกชาย ฉลามเห็นดังนั้นก็กระตุกยิ้มคิดในใจ ว่าที่แม่กำลังชวนอยู่น่ะคือว่าที่ลูกเขย แต่ว่าเรื่องนี้ได้รับปากน้องสาวเอาไว้แล้วว่าเธอจะเป็นคนบอกด้วยตัวเอง เขาจึงทำได้แค่เงียบหลังจบมื้ออาหารที่วันนี้นภาตั้งใจเข้าครัวที่ร้านเพื่อลงมือทำต้อนรับลูกทั้งสอง รวมทั้งเพื่อนสนิทของลูกชายอย่างสุดฝีมือ ทะเลก็ได้จับมือปลาดาวที่นั่งอยู่เก้าอี้ถัดจากเขาข้างใต้โต๊ะ ก่อนที่ใจดวงน้อยจะเต้นระรัวไปด้วยความลุ้นระทึก“คุณลุงคุณป้าครับ ผมมีเรื่องอยากขออนุญาต”“เรื่องอะไรเหรอจ๊ะ” นภาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง“พ่อคะ แม่คะ หนูกับพี่ทะเลเรากำล
หลายวันต่อมาหลังจากเรียนเสร็จแฟนหนุ่มใจดีของเธอก็อาสาพาเพื่อน ๆ ไปนั่งเล่นกันที่ร้านคาเฟซึ่งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย ร้านนี้ได้ถูกตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์น ด้านหลังเป็นสวนที่มีน้ำตก มีต้นไม้ให้ความร่มรื่น น่านั่งจิบกาแฟยามบ่ายสุด ๆทั้งห้าคนได้เข้าไปจับจองโต๊ะว่างที่อยู่ข้างน้ำตกให้ฟีลแบบอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ แล้วสั่งอาหารและเครื่องดื่มมานั่งกินกันอย่างเอร็ดอร่อยแต่แล้วก็มีลูกค้าสาวสวยคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน ทำการสั่งขนมเค้กและสตรอว์เบอร์รีสมูททีที่หน้าเคาน์เตอร์ แล้วเดินมานั่งที่โต๊ะว่างเย็นนี้เชอร์รีมีนัดกับหนุ่มนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ที่ร้านนี้ โดยที่เขาบอกให้เธอมาสั่งอาหารรอแล้วจะรีบตามมา และพอเธอได้รับของที่สั่งก็เลื่อนมือไปหยิบแก้วสมูททีขึ้นมาดื่ม แต่แล้วสายตาที่กวาดมองสำรวจไปรอบร้าน ก็สะดุดเข้ากับคนรู้จักมือเล็กจับแก้วน้ำปั่นเอาไว้แน่นราวกับอยากให้แตกละเอียดคามือ เธอได้แต่กัดกรามแน่น จ้องคนกลุ่มนั้นด้วยดวงตาแข็งกร้าวคนที่หันหน้ามาทางเธอนั่นก็คือหนุ่มรุ่นพี่กับปลาดาว แล้วตอนนี้เพื่อนร่วมสาขาก็กำลังตักอาหารป้อนเข้าปากชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มที่ส่งมาให้กัน เห็นแล้วก็รู้สึกโมโหขึ้นมาที่ท
นับตั้งแต่เป็นแฟนกัน ทะเลก็รีบออกจากคอนโดแต่เช้าเพราะได้บอกกับแฟนสาวเอาไว้ว่าจะมากินข้าวด้วยกันที่โรงอาหารของคณะในช่วงเช้า กลางวัน ส่วนตอนเย็นก็จะพาเธอออกไปกินข้าวข้างนอกเพื่อที่จะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น ก่อนจะกลับมาส่งเธอที่หอพักในเวลาสองทุ่มทะเลมักจะมาถึงโรงจอดรถก่อนเวลานัดหมาย แล้วก็รีบเดินเท้าไปนั่งรอปลาดาวที่ม้าหินอ่อนหน้าหอพัก“แฟนใครมาโน่นแล้ว” ลูกตาลเห็นออร่าความหล่อของแฟนเพื่อนตั้งแต่ลงบันไดมาจึงได้เอ่ยแซวปลาดาวระบายยิ้มรีบเดินเข้าไปหาแฟนหนุ่มที่เสมอต้นเสมอปลาย มานั่งรอเธอก่อนเวลาในทุกคราที่เธอมีเรียนในช่วงเช้า ความจริงเขาไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้เลยก็ได้ เธอเข้าใจว่าเวลาเรียนของทั้งสองคนนั้นต่างกัน แต่ทะเลก็อยากมีเวลาให้แฟนสาวของเขาให้ได้มากที่สุด“มารอนานรึยังคะ”“เพิ่งมาถึงได้ไม่นานครับ” ทะเลระบายรอยยิ้มหล่ออย่างคิดถึง ไม่ต่างจากหญิงสาว“จ้องกันนานแบบนี้ เดี๋ยวก็ท้องหรอกค่ะ คิกคิก”ฮารุเอ่ยแซวขัดจังหวะคนทั้งสองที่เอาแต่ส่งยิ้มจ้องเข้าไปในดวงตาของกันและกันอย่างหวานซึ้ง ก่อนที่ทะเลและปลาดาวจะหลุดขำในลำคอ แล้วทุกคนก็พากันเดินไปยังโรงอาหาร โดยที่ทะเลได้อาสาช่วยถือหนังสือที่ปล