Theory ล้อมรัก ละลายใจ

Theory ล้อมรัก ละลายใจ

last updateLast Updated : 2025-04-30
By:  สิรี&EVAVYCompleted
Language: Thai
goodnovel16goodnovel
Not enough ratings
62Chapters
342views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

"ดาวเคียงเดือน หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าพระจันทร์ยิ้มไง ปืนรู้จักใช่ไหม เมื่อกี้เค้าอ่านเจอในเฟซบุ๊ก บอกว่าค่ำวันนี้จะมี เค้าอยากดูมากกกก" ผมพยักหน้า ร้องอ๋อ แล้วเอนตัวไปข้างหน้ามองดูท้องฟ้าที่เริ่มถูกความมืดกลืนกินด้วยความสนใจ "แล้วเราจะเห็นปรากฏการณ์นั้นได้ตอนกี่โมงอะดื้อ" "ตามที่ข่าวบอก เราจะเห็นกันช่วงหัวค่ำ กินเวลาไม่นาน" "งั้นก็ต้องจับตาดูให้ดี" "ใช่ แต่ปืนจ๋า ช่วยพาเค้าไปส่งที่หอเลยได้ไหมอะ เค้าไม่อยากแวะที่ไหนอีกแล้ว" เสียงอ้อนอ่อนหวานเรียกปืนจ๋าของสาวตาใสแจ๋วและปากจู๋ ๆ ของเธอเรียกรอยยิ้มจากผม อดใจไม่ไหวต้องยื่นมือออกไปประคองซีกแก้มเนียนนุ่มไม่ต่างจากผิวเด็กทารกแรกเกิด ผมเกลี่ยคลึงเบา ๆ ด้วยปลายนิ้วหัวแม่มือ เล่นนุ่มนิ่มซะขนาดนี้จะไม่ให้อยากทะนุถนอมได้ยังไง "แต่ปืนยังไม่อยากแยกกับดื้อเลย ทำไงดีล่ะ" ผมพูดเสียงเบา ก้มหน้าลงไล้ปลายจมูกเชิดรั้นอย่างหยอกล้อ ขณะเดียวกันก็ซึมซับกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากร่างบางไปด้วย พอได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันผมก็เกิดความโลภ อยากยืดเวลาออกไปอีก อยากให้วันนึงมีมากกว่า 24 ชั่วโมงด้วยซ้ำ

View More

Chapter 1

Intro

“สวัสดี...เราชื่อปืน”

ฉันขมวดคิ้ว ร้องหืมในลำคอแล้วรีบเงยหน้า ละสายตาจากหนังสือที่เปิดกางทิ้งไว้ด้วยความงงงวยถึงขีดสุด คือที่เงยหน้าเนี่ยต้องการจะมองให้แน่ใจว่าตัวเองคือคนที่ถูกใครก็ไม่รู้พูดสวัสดี

ใส่พร้อมทั้งบอกชื่อที่เดาว่าคงเป็นชื่อเล่นของเขาคนนั้นจริง ๆ ใช่ไหม ผลปรากฏว่าใช่จริง ๆ นั่นแหละ

เขาพูดกับฉันว่ะ

 เพราะตรงนี้นอกจากฉันกับผู้ชายที่บอกว่าตัวเองชื่อปืนก็ไม่มีใครแล้วล่ะ แต่ก็ใช่ว่าจะร้างผู้คนไปซะทีเดียว เพื่อนนักศึกษาร่วมสถาบันคนอื่น ๆ ที่มาอาศัยนั่งอ่านตำรา ค้นข้อมูล ประกอบการทำการบ้าน ทำรายงาน ใช้บริการหอสมุด ณ บริเวณโซนชั้นสามเวลานี้ต่างเลือกที่จะนั่งโต๊ะที่อยู่ห่างกันออกไปเพื่อความเป็นส่วนตัวกันแทบทั้งนั้น รวมถึงตัวฉันเองด้วยที่ต้องการความสงบในการค้นตำราเปิดหาข้อมูลทำรายงานส่งอาจารย์อิทตย์หน้า ซึ่งถ้าเป็นช่วงตอนพีคอย่างตอนกลางวันน่ะเหรอ แค่มีที่ว่างให้อาศัยนั่งหลบร้อนระหว่างรอเรียนช่วงบ่ายบ้างก็นับว่าดีแล้ว

และคำถามแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวหลังลอบสำรวจอยู่เงียบ ๆ คือ

เราเคยรู้จักกันไหมนะ ?

เคยรึเปล่า ?

ฉันมุ่นคิ้วพลางเอียงคอเล็กน้อยเพื่อมองผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งออร่าฟุ้งกระจาย ละสายตาได้ยากยิ่งตรงหน้าอย่างละเอียดถี่ถ้วน

 ไม่ว่าจะเค้าโครงใบหน้าแสนเพอร์เฟค ทรงผม คิ้ว ตา จมูก ปาก ขณะเดียวกันก็พยายามนึกย้อนเรื่องราวความทรงจำในอดีตประกอบไปด้วย แต่คิดเท่าไรก็คิดไม่ออกสักทีว่าคนลักษณะท่าทางแบบนี้ หน้าตาอย่างนี้ฉันเคยเจอที่ไหนมาก่อนหรือไม่ คือมันไม่มีแวบเข้ามาในหัวทั้งชื่อ ทั้งเค้ารางใด ๆ ดังนั้นฉันขอสรุปไปเลยละกันว่าเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

ส่วนคำถามต่อมาก็คือ…

 ทำไมเขาหล่อจัง ?

ซึ่งเอิ่ม...ดูเหมือนว่าคำถามนี้ของฉันมันจะไม่ใช่คำถามที่จะหาคำตอบได้ง่ายเท่าไรเนอะ อาจต้องเจาะลึกไปถึงพ่อแม่ ญาติพี่น้อง กระทั่งเหล่าบรรพบุรุษตั้งแต่สมัยพระเจ้าเหาเขาเลยว่าความหน้าตาดีนี้มีที่มาอย่างไร แต่ช่างคำถามไร้สาระของฉันเถอะ เอาเป็นว่าด้วยความน่าสนใจแบบมึน ๆ ชวนให้เกิดความสับสน และงงงวยชนิดหนักมากของปืนนี่แหละ สองลูกตาของฉันจึงยังคงจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าเนียนใสเขาคล้ายถูกตอกตรึงเอาไว้ด้วยตะปูแน่นหนา กว่าจะขยับปากเปล่งเสียงออกมาเบา ๆ แก้เก้อเมื่อรู้สึกตัวว่าจ้องจน ‘เกินงาม’ ได้ก็นานพอสมควร

“เอ่อ...สวัสดีค่ะ” คือนอกจากฉันจะเริ่มทำตัวไม่ถูก สีหน้าท่าทางค่อนไปทางเลิ่กลั่กเกินเบอร์แล้ว ก็ไม่รู้ว่าทำไมจะต้องรู้สึก

เขินแบบแปลก ๆ กับคนแปลกหน้าที่เพิ่งเคยเจอด้วย งงตัวเองอะ

 เขาเองก็ไม่ได้แสดงท่าทีสนใจอะไรในตัวอะไรสักหน่อย ก็แค่ ‘จ้อง’ หน้ากลับคืน ไม่แน่ใจว่าเขาต้องการความช่วยเหลือจากฉันหรือว่าต้องการอะไรด้วยนะ ณ จุดนี้

และชั่วอึดใจกับการทนต่อสายตาที่จ้องมองมาคล้ายกำลังรออะไรสักอย่างจากฉัน ซึ่งแน่นอนว่าฉันไม่สามารถตีความหมาย หรือนั่งทางนัยหาคำตอบให้ตัวเองได้ว่าที่ปืนจ้องมาเนี่ยต้องการอะไร

มันเลยเป็นเหตุให้ฉันมโนเอาเองแบบมั่นหน้า มั่นโหนก และมั่นใจว่าเขาคงรอให้ฉันแนะนำตัวกลับล่ะมั้ง และในจุดนี้แหละความลังเล

มันเลยบังเกิด

 เอ๊ะนั่น เอ๊ะนี่ คิดว่าจะดีหรือไม่ดี ที่ว่าทักเนี่ยมีจุดประสงค์อะไรแอบแฝงในใจรึเปล่า ถึงจะเป็นคนสถาบันเดียวกันก็ใช่ว่าจะไว้ใจได้ทุกคนนะ คือยิ่งคิดเยอะความคิดมันยิ่งเลอะเทอะไปกันใหญ่

 พอลองหลับตาตั้งสติ สงบจิต สงบใจ และบวก ลบ คูณ หารในใจฉบับรวบรัดเสร็จสรรพก็ได้ผลลัพธ์ตรงกันข้ามกับสิ่งที่คิด คงไม่เสียหายอะไรหรอกก็แค่บอกชื่อเล่นเอง ฉันสบตาปืนแวบหนึ่งก่อนจะขยับปากพูดอีกครั้งหลังทิ้งช่วงไปพักใหญ่

 “เราชื่อพริกหวานนะ”  

 “อืม...พริกหวาน”

ปืนทวนชื่อฉันในลำคอพลางพยักหน้าหงึกหงักเชิงรับรู้ ขณะเดียวกันมือเรียวยาวของเขาก็ทำการยกเก้าอี้ตัวที่อยู่เยื้องกับที่ฉันนั่งออกมาจากใต้โต๊ะแทนการลากด้วยมือเพียงข้างเดียว จากนั้นจึงหย่อนสะโพก ทรุดกายลงนั่ง แล้วก็ล้วงเอาสมาร์ตโฟนเครื่องหรู

สีดำรุ่นใหม่ล่าสุดของแบรนด์ดังออกมาจากกระเป๋าเสื้อช็อปสีกรมอัน

เป็นเอกลักษณ์ และบ่งบอกได้ว่าเจ้าตัวนั้นเรียนอยู่ที่คณะวิศวฯ คิ้วเข้มเห็นเพียงรำไรขมวดเป็นปมหน่อย ๆ ขณะที่นิ้วเรียวสวยของเขากดนั่นกดนี่ไม่ได้หยุด

รอยยิ้มมิตรภาพประหนึ่งตัวเองเป็นมิสแกรนด์ประจำจังหวัดบ้านเกิด (นครปฐม) ที่ฉันตั้งใจมอบให้เขามีอันต้องหุบฉับลงโดยปริยาย เพราะอีกฝ่ายก้มหน้าก้มตาสนใจแต่หน้าจอของเจ้าสิ่งที่อยู่ในมือมากกว่าจะเหลือบแลมาทางฉัน ก็คือพอหลังจากนั่งก็ทำการตัดฉันออกจากวงโคจรไปเลย

เหมือนอยู่คนละโลกอะ

คืออะไร ?

งงมากค่ะแม่

ที่คิดว่าเขาอาจจะมีอะไรแอบแฝงฉันคงมโนมากไปหน่อย แม้แต่หางตาเขายังไม่เหลือบแลฉันเลยจ้ะ เอาจริง ๆ ถ้าอยากนั่งโต๊ะนี้

บอกให้ฉันย้ายไปนั่งที่อื่นก็ได้นะ ง่ายดีด้วย ไม่ต้องลงทุนบอกชื่ออะไรกันหรอก แล้วก็คงไม่ต้องเสียเวลายืนกดดันโดยที่ฉันไม่รู้ตัว

ตั้งหลายนาทีด้วย

เอ๊ะ!

เดี๋ยวนะ...

หรือเขามีปัญหาเรื่องการใช้รูปประโยคที่ถูกต้อง

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
62 Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status