“ของที่เหลือพี่ไปขนเอาเองแล้วกัน” ปลาดาวบอกกับพี่ชาย
“อ้าว ไหนแม่บอกให้มาช่วยกันไง”
“ฉันเหนื่อยแล้ว แค่เดินขึ้นมาก็ปวดขาจะแย่ เดี๋ยวช่วยจัดของให้”
“เออๆ ขี้เกียจล่ะสิยัยเตี้ย”
“พี่นั่นแหละเตี้ย”
“พี่สูงหนึ่งร้อยเจ็บสิบแปดเซนติเมตร”
“บอกทำไม ไม่ได้อยากรู้สักหน่อย”
ได้ยินสองพี่น้องโต้เถียงกันอย่างน่ารัก ทะเลก็หลุดขำเบา ๆ พร้อมกับรอยยิ้มหล่อ ปลาดาวเห็นหนุ่มรุ่นพี่แอบขำ ใบหน้าหวานก็อมยิ้มรับแล้วเลิกต่อล้อต่อเถียงกับพี่ชาย
ส่วนฉลามพอเห็นน้องสาวเงียบก็เลยเดินออกจากห้องไป เพราะเขาต้องไปขนของที่เหลือจากหลังรถ ดีที่ว่ากล่องไม่หนักมาก เอาซ้อนกันไว้ แล้วหิ้วถุงผ้าอีกถุงจึงไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงอะไรสำหรับผู้ชายตัวโตอย่างเขา
“เตียงพี่อยู่ไหนเหรอคะ” หญิงสาวถามรุ่นพี่อย่างเคอะเขิน ใช้น้ำเสียงต่างจากคุยกับพี่ชายเมื่อครู่
“พี่คนไหนเหรอครับ ถ้าเป็นพี่ทะเลนอนเตียงนี้ ส่วนฉลามนอนเตียงตรงข้าม”
ภายในห้องมีทั้งหมดสี่เตียงด้วยกัน โดยแต่ละเตียงจะถูกคั่นด้วยตู้เสื้อผ้าและโต๊ะสำหรับนั่งเขียนงาน ส่วนเตียงว่างอีกสองเตียง เดี๋ยวก็คงจะมีนักศึกษาอีกสองคนเข้ามาพักร่วมห้อง ซึ่งเขาเองก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร
ปลาดาวก้มหน้าอมยิ้มเดินถือกล่องตรงไปยังเตียงของพี่ชาย ได้รับปากไว้แล้วว่าจะช่วยจัดของก็ต้องทำตามที่พูด เดี๋ยวคนแก่ขี้บ่นขึ้นมาถึงจะมาหาเรื่องทะเลาะกับเธออีก
“พี่ช่วยนะ”
ทะเลอาสาเดินไปหยิบกระเป๋าที่ฉลามวางทิ้งไว้ที่ข้างประตู แล้วนำไปวางไว้ข้างเตียงของเพื่อนที่มีสาวน้อยยืนอยู่
“ขอบคุณค่ะ”
“เรียนอยู่ชั้นอะไรครับ”
“มอสี่ค่ะ”
“อือ ห่างกันแค่สามปี”
“พี่สอบเข้าคณะอะไรเหรอคะ”
“บริหารธุรกิจ”
ทะเลเลือกสอบเข้าคณะบริหารธุรกิจ เขาคิดไว้ว่าถ้าเรียนจบก็อยากไปช่วยดูแลธุรกิจรีสอร์ตของครอบครัว
“เก่งจัง หนูก็อยากเรียนบริหารเหมือนกัน”
“งั้นก็ตั้งใจเรียนล่ะ อีกสามปีไว้เจอกันที่นี่”
“เจอกัน?”
ทะเลเลื่อนมือไปวางบนศีรษะของเด็กสาวที่ย่นคอลงเล็กน้อย เธอช้อนดวงตาคู่หวานขึ้นมองใบหน้าของเขาอย่างต้องการคำตอบ แต่แล้วเพื่อนพี่ชายก็ให้เพียงรอยยิ้มละมุน แล้วเดินกลับไปที่เตียงของเขาเพื่อจัดเก็บข้าวของของเขาต่อ
ผ่านไปไม่นานทั้งสองก็ได้ยินเสียงเคาะประตู ต่างก็หันมองทางนั้นพร้อมกัน และหนุ่มรุ่นพี่ก็เป็นคนเดินไปเปิดประตู
ก๊อก ก๊อก!!
ฉลามเดินขึ้นบันไดมาถึงหน้าห้องด้วยอาการเหนื่อยหอบ มือทั้งสองข้างไม่ว่างที่จะเคาะประตู จึงใช้รองเท้าเคาะแทน
“เฮ้อ เหนื่อยชิบ”
ใบหน้าของฉลามมีเหงื่อผุดซึมเต็มกรอบหน้า เขาวางของลงที่พื้นแล้วลากเก้าอี้มานั่งพักเพราะปวดเมื่อยแขนขา ขณะที่หอบหายใจก็เห็นยัยตัวแสบมองมาแล้วทำปากมุบมิบว่าสมน้ำหน้า ฉลามก็ทำได้แค่ถลึงตาใส่น้องสาวกับถอนหายใจ เพราะมันเหนื่อยจนขี้เกียจทะเลาะด้วย
แต่วันนี้น้องสาวก็ดูแปลกกว่าที่เคย ทำตัวสงบเสงี่ยมผิดปกติ ต่อปากต่อคำกับเขาน้อยลง แทบจะไม่พูดเลยด้วยซ้ำ
“กินน้ำก่อน”
ทะเลยื่นน้ำที่เขาซื้อมาด้วยให้กับฉลาม
“ขอบใจเพื่อน”
ปลาดาวแอบมองการกระทำของหนุ่มหล่อ ใจดี ชอบดูแลผู้อื่น แต่พอปรายตาผ่านไปยังพี่ชาย รอยยิ้มที่มีก็หายวับไปทันที พลันถอนหายใจและส่ายหน้าพร้อมกัน
คนอะไรช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว พี่ทะเลหล่อละมุนราวกับเทพบุตร แต่พี่ชายของเธอนั้นจะว่าหล่อก็หล่ออยู่ เพราะว่าเธอก็ออกจะสวยทั้งยังน่ารักนิสัยดี แต่พี่ชายนั้นชอบทำตัวป่าเถื่อนไม่ต่างจากคนป่า พูดก็ไม่เพราะเหมือนเพื่อนของเขาเลย
“มองอะไรยัยเตี้ย ไหนบอกว่าจะช่วยจัดของ ดูสิของแค่กล่องเดียวก็ยังจัดไม่เสร็จ”
“ก็กำลังทำอยู่นี่ไง” ปลาดาวรีบหันไปหยิบของขึ้นวางบนชั้นต่อ
“คืนนี้กลับไปนอนบ้านเหรอ” ทะเลเอ่ยถามเพื่อนเพราะเห็นว่าพาน้องสาวมาด้วย คงไม่ได้มานอนค้างที่หอแน่
“อือ ฉันต้องกลับไปส่งปลาดาว แล้วนายล่ะ”
“คงนอนที่นี่เลย”
“นอนคนเดียวไม่กลัวผีเหรอคะ” ปลาดาวรีบโพล่งขึ้นมา
“ใครจะไปขี้กลัวเหมือนเธอล่ะ แล้วนี่ผู้ใหญ่คุยกัน เด็กมาเผือกทำไม”
“ฉันไม่ได้คุยกับพี่สักหน่อย ฉันคุยกับพี่ทะเล แล้วฉันก็ไม่ใช่เด็กแล้วนะ อายุน้อยกว่าพี่แค่สามปีเอง”
“สองคนนี้ดูจะสนิทกันมากเลยนะ หยอกล้อกันน่ารักดี”
ทะเลหลุดยิ้มออกมา ดูแล้วบ้านนี้คงจะไม่เหงา ต่างจากเขาที่เป็นลูกชายคนเดียว ตอนอยู่บ้านก็ไม่มีใครเล่นด้วยตั้งแต่เด็ก เวลาว่างนอกจากจะอ่านหนังสือ ฟังเพลง ก็จะติดตามพ่อแม่เข้าไปดูแลรีสอร์ต
“น่าเบื่อจะตาย เด็กอะไรเถียงเก่ง” ฉลามตอบเพื่อน
“ฉันไปเถียงพี่ตอนไหน” ปลาดาวโต้กลับ เธอก็อุตส่าห์อยู่เงียบ ๆ แต่พี่ชายก็ชอบพูดแซะอยู่เรื่อย ทำเหมือนว่าตัวเองเบื่อเป็นคนเดียวอย่างนั้นแหละ
“ก็ตอนนี้ไง เถียงคำไม่ตกฟาก เดี๋ยวจะบอกแม่ว่ามาแล้วก็ไม่ช่วยอะไร อดได้กล่องสุ่มนะบอกไว้ก่อน”
“พี่อะ” ปลาดาวทำหน้าง้ำงอใส่พี่ชายแล้วหยุดโต้เถียง คนอะไรทั้งขี้ฟ้อง แถมยังชอบขู่น้องตลอด
ทะเลได้แต่ยกยิ้มมุมปากมองไปยังสาวน้อยที่ตอนนี้งอนพี่ชายไปเสียแล้ว
“ชอบตุ๊กตาเหรอ”
“ค่ะ ช่วงนี้เขาฮิตเปิดกล่องสุ่มกัน มันลุ้นดีว่าจะได้ตัวไหน หนูชอบสะสมไว้บนหัวเตียง”
“พี่ซื้อให้ดีไหม ถือว่าเป็นของขวัญที่เรารู้จักกัน”
“จริงเหรอคะพี่ทะเล ขอบคุณนะคะ พี่ใจดีจัง ไม่เหมือนใครบางคน”
หญิงสาวส่งยิ้มดีใจให้หนุ่มรุ่นพี่ ก่อนจะเบือนหน้ามองไปทางพี่ชายขี้เกียจที่เอาแต่นั่งพักไม่ลุกมาช่วยกันจัดของสักที แล้วเมื่อไรจะเสร็จ
“อ้าว พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง ไอ้ทะเลมึงไม่ต้องซื้อให้เลย ทีคุยกับกูเรียกฉันทุกคำ คุยกับมึงนี่เรียกหนู”
“พี่ฉลาม คนเขาอุตส่าห์มีน้ำใจ อย่ามาทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลองได้ปะ”
“เพิ่งเจอกันวันเดียวก็ชมไม่ขาดปาก ไอ้ทะเล มึงเอาปลาดาวไปเป็นน้องสาวมึงเลยไป”
ฉลามแสร้งผลักไสน้องสาวไปให้เพื่อน แต่ที่จริงมันก็เป็นเรื่องดีที่ปลาดาวเข้ากับเพื่อนของเขาได้ เวลาไปเที่ยวหรือพาเพื่อนเข้าบ้านจะได้ง่ายหน่อย
“ก็ดี หนูก็ไม่อยากมีพี่ขี้บ่นแถมยังแล้งน้ำใจหรอก ชิ”
“ต่อไปปลาดาวก็มีพี่ชายเพิ่มอีกคนแล้วนะครับ” ทะเลหันไปเอ่ยกับสาวน้อยด้วยรอยยิ้ม
ปลาดาวอมยิ้มมองเขาด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อ แต่พี่ชายคนนี้ช่างอบอุ่นละมุนละม่อม ส่งผลให้หัวใจเธอเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง และเธอมักจะเขินกับสายตาคู่นั้นที่จ้องมองมาอย่างบอกไม่ถูก
ก๊อก ก๊อก!!!“พี่ฉลาม”ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!!“พี่ฉลาม ตื่นเร็ว”เสียงของน้องสาวดังรบกวนเวลานอนของเขา วันนี้เป็นวันที่ฉลามจะต้องไปส่งปลาดาวย้ายเข้าไปอยู่หอพักในมหาวิทยาลัย เพราะใกล้จะเปิดเทอมในอีกไม่กี่วัน แต่เปลือกตาของเขาที่ปรือขึ้นอย่างงัวเงีย ยื่นมือไปหยิบนาฬิกาข้างหัวเตียงขึ้นมาดูเวลาก็ทำเอาคิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน พลันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่“ยัยตัวแสบนี่เล่นกูแล้ว”คนถูกรบกวนเอ่ยพึมพำ ยกมือขึ้นขยี้ผมตัวเองเพื่อเรียกสติที่ยังมาไม่ครบ ไม่รู้ว่าน้องสาวจะเอาคืนหรืออย่างไร ที่เมื่อสามปีก่อนเขาให้เธอออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อขนของไปไว้หอพัก เพราะโกหกว่าต้องไปถึงก่อนเก้าโมงแต่นี่มันเพิ่งจะตีห้าครึ่ง อยากจะบ้าตายตั้งแต่จัดกระเป๋าและเตรียมของที่จำเป็นเมื่อวาน ปลาดาวก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก และวันนี้ก็ตั้งนาฬิกาปลุกไว้แต่เช้าตรู่ เพื่อที่จะมาปลุกคนขี้เกียจสันหลังยาวให้ตื่นมาเตรียมตัวครืด ครืด…(ตื่นแล้ว จะโทรมาทำไมอีก)ฉลามดีดตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียง เลื่อนมือไปหยิบโทรศัพท์มากดรับสายของน้องสาวที่โทรมากวน แค่เคาะประตูเรียกก็ทำเอาตื่นกันทั้งบ้านแล้ว ยังจะโทรมาหาอีก“ก็เรียกไม่ตอบ นึกว่าซ้อมตาย”(แล้วจะมา
เจ้าของรถเก๋งสีดำได้แวะไปส่งเพื่อนของปลาดาวก่อน เพราะถึงบ้านของลูกตาลเป็นคนแรก จากนั้นก็แวะมาส่งสองพี่น้องต่อ“ขอบใจมากนะเว้ยที่เลี้ยงหมูจุ่ม แถมน้องกูยังเอาเสื้อมึงมาใส่อีก”“ไม่เป็นไร เรื่องเล็กน้อย” ทะเลตอบกลับเพื่อน“งั้นกูเข้าบ้านก่อนนะ”“...” ทะเลคลี่ยิ้มพยักหน้ารับ“อย่าลืมปิดประตูบ้านด้วยล่ะ”“คนขี้เกียจ หลอกให้ปิดประตูอีกละ”ปลาดาวตะโกนว่าพี่ชายที่สะพายกระเป๋าเป้เดินเข้าบ้าน แล้วยกมืออีกข้างโบกไปมาเพื่อลาเพื่อนของเขา ก่อนเธอจะหันกลับมาพบกับใบหน้าหล่อละมุน ทำให้คิ้วที่ขมวดใส่พี่ชายเมื่อครู่คลายออกจากกันอัตโนมัติ ริมฝีปากสวยอมยิ้มในทันที“รอพี่แป๊บนึงนะครับ”ทะเลหันไปเปิดประตูฝั่งที่ฉลามนั่ง แล้วเปิดช่องเก็บของหยิบเอากล่องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กออกมายื่นให้กับเด็กสาว“สุขสันต์วันเกิดย้อนหลัง”“ขอบคุณนะคะพี่ทะเล”ปลาดาวยื่นมือออกไปรับพร้อมกับรอยยิ้มหวาน หัวใจดวงน้อยพองโตทุกครั้งที่ได้เจอกับเพื่อนพี่ชาย และเขาก็มักจะเป็นผู้ให้ที่ดีอยู่เสมอ“แล้วเสื้อของพี่ล่ะคะ”“เก็บไว้ที่เราได้เลย ไว้เจอกันครั้งหน้าค่อยคืน”หลังจากที่ทะเลได้อาสาปิดประตูบ้านให้เหมือนเช่นเคยและขับรถออกไปแล้ว ปลาดาวก็เ
ในวันนี้ของเดือนกรกฎาคมก็จะเป็นวันคล้ายวันเกิดของลูกสาวคนเล็กของบ้าน ตอนนี้ปลาดาวก็อายุครบสิบเจ็ดปีและเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ห้าแล้ว“พ่อขอให้ลูกมีความสุขมาก ๆ นะปลาดาว”“แม่ก็เหมือนกันนะจ๊ะ ขอให้ลูกมีความสุข คิดสิ่งใดก็ขอให้สมหวัง”“แฮปปีเบิร์ดเดย์จ้าเพื่อนรัก ฉันก็ขอให้แกมีความสุข สวยวันสวยคืนนะปลาดาว”“ขอบคุณทุกคนนะคะ”งานวันเกิดได้จัดขึ้นแบบเรียบง่ายที่บ้าน แต่ปีนี้มันกลับเงียบเหงาเพราะพี่ชายดันไปเรียนอยู่ในเมือง เลยมีแต่พ่อแม่และลูกตาลที่แวะมาฉลองเป็นเพื่อนครืด ครืด...ในขณะที่กำลังตัดเค้กแบ่งใส่จาน ก็มีเสียงเตือนของโทรศัพท์ดังขึ้น เจ้าของวันเกิดจึงหยิบขึ้นมาดูแล้วใช้ปลายนิ้วสไลด์หน้าจอเพื่อกดรับสาย(แฮปปีเบิร์ดเดย์ยัยตัวแสบ)ขนาดวันเกิดน้องสาวก็ยังจะกวนประสาทไม่เลิก พี่ชายใครเนี่ย(ทำหน้างอนอีกละ)“ทำไมเพิ่งจะโทรมาล่ะ”เด็กสาวทำหน้าน้อยใจ วันนี้เธอไม่ได้โทรหาพี่ชายเพราะรู้ว่าเขามีเรียน แต่อย่างน้อยก็น่าจะส่งข้อความมาก็ได้ เพราะทุกปีจะมีพี่ชายเป็นคนมากวนให้ตื่นตอนเช้า แล้วบอกอวยพรวันเกิดให้ก่อนใคร(สุขสันต์วันเกิดครับปลาดาว)ฉลามเบี่ยงเลนส์กล้องด้านหน้าของโทรศัพท์หันไปทางทะ
“ผลสอบออกแล้ว แกเข้าไปดูรึยัง” (กำลังเปิดดูเลย กรี๊ด สามจุดสามเจ็ด เกรดดีกว่าเทอมก่อนอีกอะ แล้วของแกล่ะปลาดาว ได้เกรดเท่าไหร่) “ของฉันสามจุดสี่ห้า ถ้าพ่อกับแม่รู้ต้องดีใจมากแน่เลยที่ผลการเรียนของฉันดีขึ้น” วันนี้เป็นวันประกาศผลสอบในเว็บไซต์ของโรงเรียน ริมฝีปากผลิยิ้มจนแก้มแทบปริรู้สึกดีใจจนเนื้อเต้น ไม่รู้จะแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ นี้กับใคร จึงได้โทรคุยกับลูกตาลซึ่งเป็นเพื่อนสนิท เพราะตอนนี้เธออยู่บ้านเพียงลำพัง พ่อกับแม่ออกไปดูแลร้านอาหารริมหาด ส่วนพี่ชายก็ยังสอบไม่เสร็จตลอดสี่เดือนที่ผ่านมาปลาดาวตั้งใจเรียนเป็นอย่างมาก และเกรดเฉลี่ยที่ออกมามันก็ดีกว่าเทอมก่อนที่สอบได้มากสุดก็คงจะเป็นสามจุดหนึ่งศูนย์ ไม่เคยสอบได้เกรดเฉลี่ยเกินกว่านี้เลยสักครั้งแต่ข่าวดีแบบนี้ก็ควรจะบอกให้พี่ชายรับรู้ จะได้ไม่มาล้อว่าเธอสอบได้ที่สิบของห้องอีก เพราะรายชื่อในเทอมนี้อยู่ในลำดับที่เจ็ดหลังจากวางสายจากเพื่อนที่เมาท์มอยกันเกือบยี่สิบนาที ก็ได้โทรไปหาพี่ชายต่อ เพราะตอนนี้เป็นช่วงพักกลางวัน ป่านนี้ก็คงจะนั่งกินข้าวอยู่ที่โรงอาหาร (ว่าไง ทำไมวันนี้โทรมาตั้งแต่กลางวัน) ฉลามกดรับสายของน้องสาวด้วยความแปลกใจ
หนึ่งเดือนต่อมาเย็นวันศุกร์หลังเลิกเรียน ฉลามก็ได้เตรียมตัวกลับบ้านด้วยรถยนต์ส่วนตัวของทะเล ที่ได้นำมาจอดไว้ที่ลานจอดรถของคณะ เนื่องจากหอพักในมหาวิทยาลัยห้ามนักศึกษานำรถมาใช้ช่วงแรกของการเปิดภาคเรียนพวกเขาต้องเข้าร่วมกิจกรรมหลายอย่าง ทั้งการปรับพื้นฐาน กิจกรรมรับน้อง กิจกรรมประกวดดาวเดือนของแต่ละคณะ ซึ่งไอ้หน้าหล่ออย่างทะเลก็ได้รับเลือกให้เป็นเดือนของคณะบริหารธุรกิจอย่างไม่ต้องสงสัยครืด ครืด…ขณะที่นั่งอยู่บนรถของเพื่อนที่ขับออกจากมหาวิทยาลัยได้ไม่นาน ก็มีเสียงสั่นเตือนสายเรียกเข้าดังมาจากโทรศัพท์ของฉลาม “ครับแม่” (กำลังจะกลับบ้านใช่ไหม แม่ฝากแวะไปรับน้องหน่อย) “สถาบันสอนพิเศษข้างโรงเรียนใช่ไหมครับ” (ใช่จ้ะ แม่ฝากหน่อยนะ เดี๋ยวเย็นนี้แม่จะเตรียมของโปรดลูกเอาไว้รอ อ้อ แล้วอย่าลืมชวนเพื่อนที่มาส่งกินข้าวที่บ้านเราด้วยนะ) “ครับ” หลังจากวางสายผู้เป็นแม่ ฉลามก็หันไปเอ่ยกับเจ้าของรถ “ก่อนเข้าบ้าน กูขอแวะรับน้องด้วยนะ” “อือ” สถาบันสอนพิเศษอยู่ถัดจากโรงเรียนมัธยมเพียงไม่กี่ก้าว ซึ่งก็เป็นทางผ่านก่อนจะถึงบ้านของพวกเขาอยู่แล้ว และทั้งสองหนุ่มก็ได้เดินทางไปถึงที่นั่นก่อนเวลาเลิก
วันต่อมา“พี่ไปก่อนนะ อย่าแอบร้องไห้เพราะคิดถึงพี่ล่ะ” ฉลามบอกลาน้องสาววันนี้พ่อของเขาจะเป็นคนไปส่งที่หอพัก เพราะในอีกสามวันข้างหน้าก็จะเปิดภาคเรียนแล้ว พ่อแม่มีความเป็นห่วงไม่อยากให้นำรถไปใช้เพราะถึงอย่างไรก็พักอยู่หอใน กลัวออกไปเถลไถลกับกลุ่มเพื่อนแล้วจะเกิดอันตราย เลยเลือกไปส่งแล้วนำรถกลับมาบ้าน แต่ฉลามก็ยังเป็นห่วงยัยตัวแสบกลัวว่าจะเหงาขึ้นมา เพราะปกติจะอยู่ทะเลาะกันทุกวันราวกับเขาเป็นเพื่อนเล่น“...”ปลาดาวสวมใส่เสื้อยืดลายการ์ตูนตัวใหญ่ กางเกงขาสั้นสีขาว ปล่อยผมยาวใส่ที่คาดผมยืนอยู่ตรงประตูพยักหน้าให้พี่ชายด้วยใบหน้าหงอย พอคิดว่าในบ้านจะขาดใครไปสักคนมันก็รู้สึกใจหายขึ้นมา“ถ้าไม่มีใครให้ทะเลาะด้วย ก็โทรไปหาพี่ได้”“ฉันโทรไปได้ใช่ไหม โทรได้ตลอดเวลารึเปล่า”ได้ยินพี่ชายบอกว่าโทรหาได้ ดวงตาที่หลุบต่ำก็รีบช้อนขึ้นมองฉลามที่กำลังเปิดประตูรถ ถ้าอย่างนั้นเธอก็อาจจะได้ยินเสียงของพี่ชายคนนั้นเล็ดลอดเข้ามาในโทรศัพท์บ้าง“เฉพาะช่วงเย็น ถ้าว่างก็จะคุยเป็นเพื่อน”“พูดแล้วห้ามคืนคำ”“รู้แล้วน่ายัยบ๊อง พี่ไปก่อนนะ”ฉลามโบกมือให้น้องสาวก็เข้าไปนั่งที่ฝั่งคนขับ ขาไปเขาจะเป็นคนขับรถให้ผู้เป็นพ่อ