หนึ่งเดือนต่อมา
เย็นวันศุกร์หลังเลิกเรียน ฉลามก็ได้เตรียมตัวกลับบ้านด้วยรถยนต์ส่วนตัวของทะเล ที่ได้นำมาจอดไว้ที่ลานจอดรถของคณะ เนื่องจากหอพักในมหาวิทยาลัยห้ามนักศึกษานำรถมาใช้
ช่วงแรกของการเปิดภาคเรียนพวกเขาต้องเข้าร่วมกิจกรรมหลายอย่าง ทั้งการปรับพื้นฐาน กิจกรรมรับน้อง กิจกรรมประกวดดาวเดือนของแต่ละคณะ ซึ่งไอ้หน้าหล่ออย่างทะเลก็ได้รับเลือกให้เป็นเดือนของคณะบริหารธุรกิจอย่างไม่ต้องสงสัย
ครืด ครืด…
ขณะที่นั่งอยู่บนรถของเพื่อนที่ขับออกจากมหาวิทยาลัยได้ไม่นาน ก็มีเสียงสั่นเตือนสายเรียกเข้าดังมาจากโทรศัพท์ของฉลาม
“ครับแม่”
(กำลังจะกลับบ้านใช่ไหม แม่ฝากแวะไปรับน้องหน่อย)
“สถาบันสอนพิเศษข้างโรงเรียนใช่ไหมครับ”
(ใช่จ้ะ แม่ฝากหน่อยนะ เดี๋ยวเย็นนี้แม่จะเตรียมของโปรดลูกเอาไว้รอ อ้อ แล้วอย่าลืมชวนเพื่อนที่มาส่งกินข้าวที่บ้านเราด้วยนะ)
“ครับ”
หลังจากวางสายผู้เป็นแม่ ฉลามก็หันไปเอ่ยกับเจ้าของรถ
“ก่อนเข้าบ้าน กูขอแวะรับน้องด้วยนะ”
“อือ”
สถาบันสอนพิเศษอยู่ถัดจากโรงเรียนมัธยมเพียงไม่กี่ก้าว ซึ่งก็เป็นทางผ่านก่อนจะถึงบ้านของพวกเขาอยู่แล้ว และทั้งสองหนุ่มก็ได้เดินทางไปถึงที่นั่นก่อนเวลาเลิกเรียน ก็ได้นั่งเล่นโทรศัพท์รอเวลาอยู่ในรถ
สิบนาทีผ่านไป
“นั่นไง เดินออกมาโน่นละ” ฉลามเอ่ยพลางเปิดประตูลงจากรถแล้วตะโกนเรียกน้องที่กำลังล่ำลากับเพื่อนของเธอ
“ยัยเตี้ย ทางนี้”
ปลาดาวได้ยินเสียงอันคุ้นเคยก็ทำหน้าตกใจ เธอจึงรีบเดินเข้าไปหาที่รถ
“ทำไมเป็นพี่มารับล่ะ แล้วนี่มากับใคร”
หญิงสาวตั้งคำถามกับพี่ชาย ก่อนจะถามหาเจ้าของรถเพราะไม่เคยเห็นรถคันนี้มาก่อน
“มากับไอ้ทะเล แม่บอกให้แวะมารับ”
“พี่ทะเลเหรอคะ”
น้องสาวเปลี่ยนน้ำเสียงทันที ใบหน้าหวานแย้มยิ้มขึ้นกว่าตอนเจอพี่ชายเสียอีก
“อือ รีบขึ้นรถได้แล้ว”
ปลาดาวอมยิ้มเปิดประตูเข้าไปนั่งที่เบาะหลัง คนที่นั่งอยู่ฝั่งคนขับก็เหลียวหน้ามามองแล้วเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงละมุนไม่ต่างจากวันนั้น
“สวัสดีครับปลาดาว เจอกันอีกแล้วนะ”
“สวัสดีค่ะพี่ทะเล”
เด็กสาวทักทายกลับเสียงหวาน หลบสายตาของเขาเล็กน้อย นึกว่าจะไม่ได้เจอกันอีกเสียแล้ว
แต่จะว่าไปไม่เจอกันหนึ่งเดือน ปลาดาวกลับมองว่าพี่ทะเลของเธอนั้นดูหล่อขึ้นกว่าเดิม พวงแก้มของเด็กสาวเริ่มแดงปลั่งกับความคิดในหัว
สิบห้านาทีต่อมา รถเก๋งสีดำก็ขับมาจอดที่หน้าบ้านของสองพี่น้อง ก่อนจะลงจากรถฉลามก็ได้เอ่ยขอบคุณและชวนเพื่อนเข้าบ้าน
“ขอบใจนะเว้ยที่ให้ติดรถมาด้วย แต่อย่าเพิ่งกลับล่ะ แม่กูชวนกินข้าว”
“อือ” ทะเลขานรับในลำคอ
เด็กสาวที่ลงไปยืนอยู่ข้างรถได้ยินพวกพี่คุยกันก็อมยิ้มเขินที่ทะเลจะได้อยู่ต่อที่บ้านเธออีกหน่อย
ฉลามพาทะเลเข้าไปไหว้สวัสดีพ่อแม่ของตน ก็ชวนเพื่อนขึ้นไปนั่งเล่นบนห้อง พอไปถึงชั้นสองสายตาของทะเลก็หันมองไปที่ประตูห้องที่อยู่ฝั่งซ้ายมือ มีสติกเกอร์ลายแมว ยีราฟ กระต่าย หมีแพนด้า ติดอยู่ทั้งประตูและฝาผนัง ริมฝีปากหยักกระตุกยิ้มขึ้นทันที คงเดาได้ไม่ยากว่านั่นเป็นห้องของใคร
ฉลามพาทะเลเดินไปทางฝั่งขวามือซึ่งเป็นห้องที่อยู่ตรงข้ามกับห้องนั้น และห้องที่อยู่ตรงกลางก็เป็นห้องของพ่อแม่
“ตามสบายเลยนะเพื่อน”
เจ้าของห้องเอ่ยพลางดึงเก้าอี้เกมมิ่งที่โต๊ะคอมพิวเตอร์มานั่ง ส่วนทะเลก็หย่อนก้นนั่งที่ปลายเตียง ระหว่างนี้สองหนุ่มก็ชวนกันเล่นเกมไปพลาง ๆ สักครึ่งชั่วโมงแม่ของฉลามก็ขึ้นมาเรียกให้ทุกคนลงไปกินข้าว รวมทั้งเด็กสาวตัวเล็กที่เปิดประตูออกจากห้องมาพร้อมกัน
ปลาดาวสบสายตากับหนุ่มรุ่นพี่แวบหนึ่ง ก่อนจะก้มหน้าที่เขินอายเดินลงบันไดไปก่อน และทั้งสองหนุ่มก็เดินตามกันลงไปนั่งที่โต๊ะอาหาร
“ตามสบายเลยนะจ๊ะทะเล ไม่ต้องเกรงใจ”
“ขอบคุณคุณลุงคุณป้านะครับที่ชวนผมกินข้าวด้วย”
“ป้าต่างหากที่ต้องขอบคุณที่ทะเลมีน้ำใจให้ฉลามติดรถมาด้วย แล้วยังแวะไปรับปลาดาวให้อีก”
“ผมยินดีครับ มันเป็นทางผ่านไปบ้านอยู่แล้วครับ”
“ได้ยินฉลามพูดถึงมานาน เพิ่งจะย้ายมาปีก่อนใช่ไหมจ๊ะ”
“ใช่ครับ ครอบครัวผมเปิดรีสอร์ตอยู่อีกฝั่งครับ”
นภาถามไถ่เพื่อนลูกชายพอเป็นพิธีให้ได้รู้จักกัน ก็เอ่ยชวนทุกคนกินข้าว
หลังจากกินข้าวเสร็จ ทะเลก็ได้ไหว้ลาพ่อแม่ของเพื่อน แล้วเดินออกไปนอกตัวบ้านพร้อมกับฉลาม
“ปลาดาวอย่าลืมขอบคุณพี่ทะเลด้วยนะลูก”
นภาบอกกับลูกสาว ปลาดาวจึงรีบเดินตามหลังพี่ชายออกไปที่หน้าบ้าน
“พี่ทะเล ขอบคุณนะคะที่แวะไปรับ”
เสียงหวานเอ่ยขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม และเธอก็ได้รับยิ้มหล่อละมุนของเขากลับมาเช่นกัน
“พี่ยินดีครับ ยังไงก็ต้องแวะมาส่งพี่ชายเราอยู่ดี”
“พี่ทะเลใจดี ไม่เหมือนใครบางคน จะกลับบ้านมาเจอน้องสาวไม่เห็นมีของติดไม้ติดมือมาเลย ชิ” ปลาดาวว่าพลางหันไปจิปากใส่พี่ชาย
“อ้าว วกกลับมาหาพี่จนได้”
“ก็มันจริงไหมล่ะ แม้แต่ขนมสักห่อก็ยังไม่ซื้อให้น้อง คนขี้งก”
“เออ ๆ ไว้ครั้งหน้าแล้วกัน”
“ครั้งหน้า แล้วมันเมื่อไหร่”
“เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น กูเข้าบ้านก่อนนะเว้ย มึงก็ขับรถดี ๆ ล่ะ อ้อ อย่าลืมปิดประตูรั้วด้วยล่ะปลาดาว”
“อือ ไว้เจอกันวันอาทิตย์” ทะเลเอ่ยตามหลังเพื่อนที่รีบหนีน้องสาวเข้าบ้าน
“อ้าว ทำไมทิ้งให้ฉันปิดประตูล่ะ” ปลาดาวหันไปต่อว่าพี่ชาย ก่อนจะหันกลับมาเจอใบหน้าหล่อละมุนของหนุ่มรุ่นพี่
“พี่มีอะไรจะให้”
“อะไรเหรอคะ”
เด็กสาวถามออกไปด้วยหัวใจที่เต้นรัว มองดูคนที่เดินไปเปิดกระโปรงท้ายรถแล้วหยิบกล่องสี่เหลี่ยมออกมายื่นให้
“นี่ครับ”
“พี่ยังไม่ลืม?”
ปลาดาวเลื่อนมือออกไปรับด้วยความแปลกใจแต่ก็เผยรอยยิ้มหวานขึ้นมาเช่นกัน เธอก็นึกว่าเขาแค่พูดไปอย่างนั้นที่บอกว่าจะซื้อกล่องสุ่มให้เป็นของขวัญที่ได้รู้จักกัน
“สัญญากันแล้วจะลืมได้ยังไง”
ทะเลเลื่อนมือวางบนศีรษะของคนตัวเล็ก ปลาดาวก็ช้อนสายตาขึ้นมองหนุ่มรุ่นพี่ด้วยความดีใจ ยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
“ขอบคุณนะคะ หนูจะรักษาของที่พี่ให้อย่างดีเลยค่ะ”
“กลับก่อนนะ เดี๋ยวพี่ช่วยปิดประตูให้”
“ขอบคุณค่ะ ขับรถดี ๆ นะคะ”
“ครับ นอนหลับฝันดีนะตัวเล็ก”
“ฝันดีค่ะพี่ทะเล”
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาบอกฝันดี ทำเอาใจดวงน้อยแทบละลายลงไปกองอยู่กับพื้น
ปลาดาวยืนโบกมือให้กับคนที่กำลังจะกลับบ้านด้วยรอยยิ้มเขิน มองรถที่ขับออกไปจนลับสายตาก็รีบถือของที่ได้รับขึ้นไปบนห้องนอน
มือเล็กแกะกล่องลายการ์ตูนที่ด้านในมีซองพลาสติกห่อหุ้มอีกชั้น เมื่อแกะซองออกเธอก็หยิบตุ๊กตาเด็กผู้หญิงที่สวมชุดกระต่ายสีชมพูออกมาเชยชม
“น่ารักเหมือนคนให้เลย”
เสียงหวานเอ่ยกับตุ๊กตาตัวน้อยราวกับมันเป็นตัวแทนของใครบางคน แล้ววางตุ๊กตาลงบนโต๊ะเขียนหนังสือเพื่อเป็นแบบที่จะวาดลงในสมุดโน้ต แล้วเขียนข้อความว่า ของขวัญชิ้นแรกที่ได้รับจาก...
ก๊อก ก๊อก!!!“พี่ฉลาม”ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!!“พี่ฉลาม ตื่นเร็ว”เสียงของน้องสาวดังรบกวนเวลานอนของเขา วันนี้เป็นวันที่ฉลามจะต้องไปส่งปลาดาวย้ายเข้าไปอยู่หอพักในมหาวิทยาลัย เพราะใกล้จะเปิดเทอมในอีกไม่กี่วัน แต่เปลือกตาของเขาที่ปรือขึ้นอย่างงัวเงีย ยื่นมือไปหยิบนาฬิกาข้างหัวเตียงขึ้นมาดูเวลาก็ทำเอาคิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน พลันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่“ยัยตัวแสบนี่เล่นกูแล้ว”คนถูกรบกวนเอ่ยพึมพำ ยกมือขึ้นขยี้ผมตัวเองเพื่อเรียกสติที่ยังมาไม่ครบ ไม่รู้ว่าน้องสาวจะเอาคืนหรืออย่างไร ที่เมื่อสามปีก่อนเขาให้เธอออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อขนของไปไว้หอพัก เพราะโกหกว่าต้องไปถึงก่อนเก้าโมงแต่นี่มันเพิ่งจะตีห้าครึ่ง อยากจะบ้าตายตั้งแต่จัดกระเป๋าและเตรียมของที่จำเป็นเมื่อวาน ปลาดาวก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก และวันนี้ก็ตั้งนาฬิกาปลุกไว้แต่เช้าตรู่ เพื่อที่จะมาปลุกคนขี้เกียจสันหลังยาวให้ตื่นมาเตรียมตัวครืด ครืด…(ตื่นแล้ว จะโทรมาทำไมอีก)ฉลามดีดตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียง เลื่อนมือไปหยิบโทรศัพท์มากดรับสายของน้องสาวที่โทรมากวน แค่เคาะประตูเรียกก็ทำเอาตื่นกันทั้งบ้านแล้ว ยังจะโทรมาหาอีก“ก็เรียกไม่ตอบ นึกว่าซ้อมตาย”(แล้วจะมา
เจ้าของรถเก๋งสีดำได้แวะไปส่งเพื่อนของปลาดาวก่อน เพราะถึงบ้านของลูกตาลเป็นคนแรก จากนั้นก็แวะมาส่งสองพี่น้องต่อ“ขอบใจมากนะเว้ยที่เลี้ยงหมูจุ่ม แถมน้องกูยังเอาเสื้อมึงมาใส่อีก”“ไม่เป็นไร เรื่องเล็กน้อย” ทะเลตอบกลับเพื่อน“งั้นกูเข้าบ้านก่อนนะ”“...” ทะเลคลี่ยิ้มพยักหน้ารับ“อย่าลืมปิดประตูบ้านด้วยล่ะ”“คนขี้เกียจ หลอกให้ปิดประตูอีกละ”ปลาดาวตะโกนว่าพี่ชายที่สะพายกระเป๋าเป้เดินเข้าบ้าน แล้วยกมืออีกข้างโบกไปมาเพื่อลาเพื่อนของเขา ก่อนเธอจะหันกลับมาพบกับใบหน้าหล่อละมุน ทำให้คิ้วที่ขมวดใส่พี่ชายเมื่อครู่คลายออกจากกันอัตโนมัติ ริมฝีปากสวยอมยิ้มในทันที“รอพี่แป๊บนึงนะครับ”ทะเลหันไปเปิดประตูฝั่งที่ฉลามนั่ง แล้วเปิดช่องเก็บของหยิบเอากล่องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กออกมายื่นให้กับเด็กสาว“สุขสันต์วันเกิดย้อนหลัง”“ขอบคุณนะคะพี่ทะเล”ปลาดาวยื่นมือออกไปรับพร้อมกับรอยยิ้มหวาน หัวใจดวงน้อยพองโตทุกครั้งที่ได้เจอกับเพื่อนพี่ชาย และเขาก็มักจะเป็นผู้ให้ที่ดีอยู่เสมอ“แล้วเสื้อของพี่ล่ะคะ”“เก็บไว้ที่เราได้เลย ไว้เจอกันครั้งหน้าค่อยคืน”หลังจากที่ทะเลได้อาสาปิดประตูบ้านให้เหมือนเช่นเคยและขับรถออกไปแล้ว ปลาดาวก็เ
ในวันนี้ของเดือนกรกฎาคมก็จะเป็นวันคล้ายวันเกิดของลูกสาวคนเล็กของบ้าน ตอนนี้ปลาดาวก็อายุครบสิบเจ็ดปีและเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ห้าแล้ว“พ่อขอให้ลูกมีความสุขมาก ๆ นะปลาดาว”“แม่ก็เหมือนกันนะจ๊ะ ขอให้ลูกมีความสุข คิดสิ่งใดก็ขอให้สมหวัง”“แฮปปีเบิร์ดเดย์จ้าเพื่อนรัก ฉันก็ขอให้แกมีความสุข สวยวันสวยคืนนะปลาดาว”“ขอบคุณทุกคนนะคะ”งานวันเกิดได้จัดขึ้นแบบเรียบง่ายที่บ้าน แต่ปีนี้มันกลับเงียบเหงาเพราะพี่ชายดันไปเรียนอยู่ในเมือง เลยมีแต่พ่อแม่และลูกตาลที่แวะมาฉลองเป็นเพื่อนครืด ครืด...ในขณะที่กำลังตัดเค้กแบ่งใส่จาน ก็มีเสียงเตือนของโทรศัพท์ดังขึ้น เจ้าของวันเกิดจึงหยิบขึ้นมาดูแล้วใช้ปลายนิ้วสไลด์หน้าจอเพื่อกดรับสาย(แฮปปีเบิร์ดเดย์ยัยตัวแสบ)ขนาดวันเกิดน้องสาวก็ยังจะกวนประสาทไม่เลิก พี่ชายใครเนี่ย(ทำหน้างอนอีกละ)“ทำไมเพิ่งจะโทรมาล่ะ”เด็กสาวทำหน้าน้อยใจ วันนี้เธอไม่ได้โทรหาพี่ชายเพราะรู้ว่าเขามีเรียน แต่อย่างน้อยก็น่าจะส่งข้อความมาก็ได้ เพราะทุกปีจะมีพี่ชายเป็นคนมากวนให้ตื่นตอนเช้า แล้วบอกอวยพรวันเกิดให้ก่อนใคร(สุขสันต์วันเกิดครับปลาดาว)ฉลามเบี่ยงเลนส์กล้องด้านหน้าของโทรศัพท์หันไปทางทะ
“ผลสอบออกแล้ว แกเข้าไปดูรึยัง” (กำลังเปิดดูเลย กรี๊ด สามจุดสามเจ็ด เกรดดีกว่าเทอมก่อนอีกอะ แล้วของแกล่ะปลาดาว ได้เกรดเท่าไหร่) “ของฉันสามจุดสี่ห้า ถ้าพ่อกับแม่รู้ต้องดีใจมากแน่เลยที่ผลการเรียนของฉันดีขึ้น” วันนี้เป็นวันประกาศผลสอบในเว็บไซต์ของโรงเรียน ริมฝีปากผลิยิ้มจนแก้มแทบปริรู้สึกดีใจจนเนื้อเต้น ไม่รู้จะแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ นี้กับใคร จึงได้โทรคุยกับลูกตาลซึ่งเป็นเพื่อนสนิท เพราะตอนนี้เธออยู่บ้านเพียงลำพัง พ่อกับแม่ออกไปดูแลร้านอาหารริมหาด ส่วนพี่ชายก็ยังสอบไม่เสร็จตลอดสี่เดือนที่ผ่านมาปลาดาวตั้งใจเรียนเป็นอย่างมาก และเกรดเฉลี่ยที่ออกมามันก็ดีกว่าเทอมก่อนที่สอบได้มากสุดก็คงจะเป็นสามจุดหนึ่งศูนย์ ไม่เคยสอบได้เกรดเฉลี่ยเกินกว่านี้เลยสักครั้งแต่ข่าวดีแบบนี้ก็ควรจะบอกให้พี่ชายรับรู้ จะได้ไม่มาล้อว่าเธอสอบได้ที่สิบของห้องอีก เพราะรายชื่อในเทอมนี้อยู่ในลำดับที่เจ็ดหลังจากวางสายจากเพื่อนที่เมาท์มอยกันเกือบยี่สิบนาที ก็ได้โทรไปหาพี่ชายต่อ เพราะตอนนี้เป็นช่วงพักกลางวัน ป่านนี้ก็คงจะนั่งกินข้าวอยู่ที่โรงอาหาร (ว่าไง ทำไมวันนี้โทรมาตั้งแต่กลางวัน) ฉลามกดรับสายของน้องสาวด้วยความแปลกใจ
หนึ่งเดือนต่อมาเย็นวันศุกร์หลังเลิกเรียน ฉลามก็ได้เตรียมตัวกลับบ้านด้วยรถยนต์ส่วนตัวของทะเล ที่ได้นำมาจอดไว้ที่ลานจอดรถของคณะ เนื่องจากหอพักในมหาวิทยาลัยห้ามนักศึกษานำรถมาใช้ช่วงแรกของการเปิดภาคเรียนพวกเขาต้องเข้าร่วมกิจกรรมหลายอย่าง ทั้งการปรับพื้นฐาน กิจกรรมรับน้อง กิจกรรมประกวดดาวเดือนของแต่ละคณะ ซึ่งไอ้หน้าหล่ออย่างทะเลก็ได้รับเลือกให้เป็นเดือนของคณะบริหารธุรกิจอย่างไม่ต้องสงสัยครืด ครืด…ขณะที่นั่งอยู่บนรถของเพื่อนที่ขับออกจากมหาวิทยาลัยได้ไม่นาน ก็มีเสียงสั่นเตือนสายเรียกเข้าดังมาจากโทรศัพท์ของฉลาม “ครับแม่” (กำลังจะกลับบ้านใช่ไหม แม่ฝากแวะไปรับน้องหน่อย) “สถาบันสอนพิเศษข้างโรงเรียนใช่ไหมครับ” (ใช่จ้ะ แม่ฝากหน่อยนะ เดี๋ยวเย็นนี้แม่จะเตรียมของโปรดลูกเอาไว้รอ อ้อ แล้วอย่าลืมชวนเพื่อนที่มาส่งกินข้าวที่บ้านเราด้วยนะ) “ครับ” หลังจากวางสายผู้เป็นแม่ ฉลามก็หันไปเอ่ยกับเจ้าของรถ “ก่อนเข้าบ้าน กูขอแวะรับน้องด้วยนะ” “อือ” สถาบันสอนพิเศษอยู่ถัดจากโรงเรียนมัธยมเพียงไม่กี่ก้าว ซึ่งก็เป็นทางผ่านก่อนจะถึงบ้านของพวกเขาอยู่แล้ว และทั้งสองหนุ่มก็ได้เดินทางไปถึงที่นั่นก่อนเวลาเลิก
วันต่อมา“พี่ไปก่อนนะ อย่าแอบร้องไห้เพราะคิดถึงพี่ล่ะ” ฉลามบอกลาน้องสาววันนี้พ่อของเขาจะเป็นคนไปส่งที่หอพัก เพราะในอีกสามวันข้างหน้าก็จะเปิดภาคเรียนแล้ว พ่อแม่มีความเป็นห่วงไม่อยากให้นำรถไปใช้เพราะถึงอย่างไรก็พักอยู่หอใน กลัวออกไปเถลไถลกับกลุ่มเพื่อนแล้วจะเกิดอันตราย เลยเลือกไปส่งแล้วนำรถกลับมาบ้าน แต่ฉลามก็ยังเป็นห่วงยัยตัวแสบกลัวว่าจะเหงาขึ้นมา เพราะปกติจะอยู่ทะเลาะกันทุกวันราวกับเขาเป็นเพื่อนเล่น“...”ปลาดาวสวมใส่เสื้อยืดลายการ์ตูนตัวใหญ่ กางเกงขาสั้นสีขาว ปล่อยผมยาวใส่ที่คาดผมยืนอยู่ตรงประตูพยักหน้าให้พี่ชายด้วยใบหน้าหงอย พอคิดว่าในบ้านจะขาดใครไปสักคนมันก็รู้สึกใจหายขึ้นมา“ถ้าไม่มีใครให้ทะเลาะด้วย ก็โทรไปหาพี่ได้”“ฉันโทรไปได้ใช่ไหม โทรได้ตลอดเวลารึเปล่า”ได้ยินพี่ชายบอกว่าโทรหาได้ ดวงตาที่หลุบต่ำก็รีบช้อนขึ้นมองฉลามที่กำลังเปิดประตูรถ ถ้าอย่างนั้นเธอก็อาจจะได้ยินเสียงของพี่ชายคนนั้นเล็ดลอดเข้ามาในโทรศัพท์บ้าง“เฉพาะช่วงเย็น ถ้าว่างก็จะคุยเป็นเพื่อน”“พูดแล้วห้ามคืนคำ”“รู้แล้วน่ายัยบ๊อง พี่ไปก่อนนะ”ฉลามโบกมือให้น้องสาวก็เข้าไปนั่งที่ฝั่งคนขับ ขาไปเขาจะเป็นคนขับรถให้ผู้เป็นพ่อ