การเปิดเรียนช่วงแรกของปีสามไม่ได้แย่ไปเสียทีเดียว มันก็แค่เหนื่อยก็เท่านั้น ตั้งแต่วันนั้นที่พี่พีทบอกว่าคิดถึง จู่ ๆ ร่างกายก็เหมือนโดนหยุดเอาไว้ชั่วคราว เกิดอาการสมองเบลอ หูดับ เหมือนโลกทั้งใบกำลังหยุดหมุน และเห็นแต่พี่พีทที่ยืนอยู่ตรงหน้าพร้อมกับรอยยิ้มที่ไม่ได้เห็นมานาน คิดถึงมาก คนตัวเล็กคิดถึงเขามากเขาจะรู้ไหมนะ วันนั้นที่ได้ไปเจอเขา เธอก็ไม่เป็นตัวเองอีกต่อไป อาการเขินจนทำอะไรไม่ถูกจนเขาแซวว่า สงสัยเรียนเยอะจนเบลอไปหมด กว่าจะออกจากร้านมาได้ขาแทบหมดแรงไม่มีแรงยืน เพราะความอ่อนระทวยและใจที่เต้นแรง
ตั้งแต่เปิดเทอมมาได้เกือบเดือน เธอสาวแวะไปหาเขาบ่อยขึ้น แต่ก็เจอเขาบ้างไม่เจอเขาบ้าง แต่อย่างน้อยก็ได้เจอเขาบ่อยกว่าเมื่อปีที่แล้ว ดูเหมือนเขาจะมีท่าทีตอบกลับเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้มีหวังบ้างแล้วจากที่อยากจะถอดใจ วันนี้คนตัวเล็กกลับมาบ้านในช่วงวันหยุด เพราะพี่ชายนั้นโทร.ตามให้กลับบ้าน
“วันนี้พี่ลีให้หนูกลับมาที่บ้าน มีเรื่องอะไรหรือเปล่า” ลัลนามองพี่ชายของตัวเองอย่างสงสัย เพราะหน้าตาของเขาดูเครียดผิดปกติ
“เดี๋ยวรอพ่อกับแม่กลับบ้านมาก่อนเราค่อยคุยกัน” เสียงที่เคยอบอุ่นในตอนนี้ฉายแววความตึงเครียดจนคนตัวเล็กนั้นจะเครียดตามไปด้วย
“พี่ลีมีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ” หญิงสาวถามอีกครั้งด้วยความเป็นห่วง พี่ชายเธอนั้นถ้าไม่ใช่เรื่องซีเรียสจริง ๆ เขาจะไม่มีสีหน้าแบบนี้เด็ดขาด
“งั้นหนูไปเดินเล่นรอนะคะ” คนตัวเล็กบอกกับคนเป็นพี่พร้อมกับเดินออกมาที่สวนเพื่อสูดอากาศให้ผ่อนคลายระหว่างรอรับฟังเรื่องที่คาดว่าน่าจะซีเรียสในอีกไม่กี่ชั่วโมง
ในสวนหลังบ้านยังคงเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจให้กับคนตัวเล็กได้เป็นอย่างดี ทั้งการจัดสวน น้ำพุ หรือไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตาปั้นที่เอาไว้ตกแต่งสวน รวมทั้งตุ๊กตาปั้นที่เธอและพี่ชายเป็นคนปั้นเองกับมือเพื่อเอามาตกแต่งสวนในตอนเด็ก หญิงสาวเดินมานั่งที่ม้านั่งใกล้ ๆ กับน้ำพุ พลางมองไปรอบ ๆ อีกครั้งพร้อมกับสูดอากาศให้ผ่อนคลาย ไม่ว่าเรื่องที่พี่ชายของเธอจะพูดคือเรื่องอะไร เธอจะได้รับมือได้ทัน และต้องรับมันให้ได้
ผ่านไปสักพักใหญ่ ๆ เสียงรถที่คาดว่าน่าจะเป็นของคุณพ่อและคุณแม่น่าก็มาถึงหน้าบ้าน วันนี้เห็นว่าคุณพ่อพาคุณแม่ไปเดินซื้อเสื้อผ้ากับพาไปเที่ยวที่ไหนสักที่ ดูแล้วท่านทั้งคู่คงมีความสุขจนลืมว่าลูกสาวคนนี้กลับบ้านมา ดูสิ มันน่าน้อยใจจริง ๆ คนตัวเล็กจึงลุกเดินเข้าไปในตัวบ้านเพราะมันใกล้มื้อเย็นของวันแล้ว
“ของเยอะเลยนะคะวันนี้” หญิงสาวเดินมาก็พบกับบรรดาสาวใช้ที่กำลังเดินถือของเข้ามาเต็มไม้เต็มมือไปหมด ก่อนเอาไปไว้ที่ชั้นสอง ของบ้าน
“วันนี้พ่อเขารวยอะไรมาก็ไม่รู้พาแม่ไปซื้อของเยอะเลยลูก” คนเป็นแม่เดินเข้ามากอดลูกสาวพลางหอมแก้มเนียนของคนตัวเล็กที่ตอนนี้ยืนแข็งทื่อด้วยท่าทางงอน ๆ จนคนเป็นแม่นั้นสังเกตได้
“อ๋อ โอเคค่ะ” ลัลนาพยักหน้าตอบกลับก่อนจะหันไปมองคนเป็นพ่อที่กำลังยิ้มมาให้
“ลูกสาวงอนอะไรแม่กับพ่ออีกคะเนี่ยคนเก่ง”
“วันนี้พี่ลีเรียกหนูกลับมาด่วน หนูกลับมาไม่มีใครอยู่บ้านสักคน” หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงน้อยใจ พร้อมกับทำหน้างออย่างน่าเอ็นดู
“โอ๋ ๆ แม่ขอโทษนะคะ วันหลังเดี๋ยวแม่รอหนูกลับมาแล้วเราค่อยไปเที่ยวด้วยกันนะ” คนเป็นแม่พูดปลอบใจลูกสาวก่อนจะพากันเดินไปยังห้องนั่งเล่นที่ตอนนี้พี่ลีนั่งอ่านเอกสารอะไรสักอย่างรออยู่
เมื่อทุกคนมากันพร้อมหน้าจึงเลือกที่จะกินข้าวกันก่อนจะได้พูดคุยกันอย่างจริงจัง และพี่ลีเป็นคนเอ่ยขึ้นระหว่างที่กำลังกินข้าวว่าวันนี้มีเรื่องจะมาปรึกษาพ่อกับแม่และถามคนตัวเล็ก เมื่อกินข้าวกันอยู่หญิงสาวรู้สึกไม่ค่อยดี เหมือนกำลังมีสังหรณ์แปลก ๆ คนเป็นพ่อกับแม่ตอบรับกลับอย่างยินดีที่จะฟัง แต่เรื่องบนโต๊ะอาหารของเราจะไม่คุยกันเรื่องซีเรียสหรือเรื่องอะไรที่ทำให้คนอื่นไม่สบายใจและรู้สึกไม่อยากอาหาร และแล้วมื้อเย็นก็จบลง ทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องนั่งเล่นอีกครั้ง
“พ่อครับ เรื่องที่ผมจะปรึกษาคือเรื่องนี้ครับ” คนพี่ยื่นเอกสารบางอย่างให้กับคุณพ่อและคุณแม่
“เอกสารเรียนต่อที่ต่างประเทศ เราจะไปเรียนต่อเหรอเจ้าลี” คนเป็นพ่อเอ่ยขึ้นอย่างสงสัย เพราะพี่ชายนั้นก็เรียนจบแล้วเป็นถึงดอกเตอร์แล้วจะเรียนอะไรเพิ่มอีก แถมไปเรียนถึงต่างประเทศ หรือเขาจะไปหาความรู้เพิ่มเติมเหรอ หรืออาจจะไปศึกษาดูงานที่นั่น
“ผมเปล่าครับ อันนั้นเป็นของน้องนา” คนพี่เอ่ยขึ้นพร้อมกับหันมาทางน้องสาวที่ตอนนี้นั่งทำหน้างอและไม่เข้าใจในสิ่งที่พี่ชายพูด
“พี่จะให้หนูไปเรียนต่างประเทศเหรอ หนูยังเรียนไม่จบเลยนะหนูเพิ่งจะปี 3 เอง” หญิงสาวเอ่ยขึ้นอย่างไม่เข้าใจและไม่อยากไปเรียนที่ต่างประเทศอีกด้วย
“พี่อยากให้เรามาช่วยงานที่บ้านหลังเรียนจบ พี่ไม่ได้ให้เราไปตอนนี้สักหน่อย” คนพี่พูดด้วยน้ำเสียงที่ใจเย็นเพื่อให้คนตัวเล็กได้ใจเย็นลง เพราะดูท่าน้องสาวจะไม่ยอมไปง่าย ๆ
“หนูไม่ไปไหนทั้งนั้น” หญิงสาวยืนกรานที่จะไม่ไปเรียนที่นั่นพร้อมกับนั่งกอดอกอย่างเด็กเอาแต่ใจ ทุกคนรู้ดีว่าท่าทางแบบนี้ของเธอในตอนนี้ใครพูดอะไรก็คงไม่ฟัง
“นาพี่อยากให้เราคิดดูอีกที คุณพ่อคุณแม่ก็แก่ขึ้นทุกวัน ถึงท่านจะเป็นกรรมการในตอนนี้แต่อีกไม่นานท่านก็จะเกษียณแล้ว พี่อยากได้คนที่พี่ไว้ใจมาทำงานกับพี่” คนพี่ลองพูดด้วยเหตุผลอีกครั้งเผื่อน้องสาวจะยอมฟังเขาบ้าง
ชายหนุ่มยืนมองเธอจนพนักงานในร้านนั้นต้องสะกิดเขาให้กลับร้าน และนั่นคือครั้งแรกที่เขาเจอเธอ แล้วก็มาเจอเธออีกครั้งตอนที่ชนกันที่หน้าร้าน ความน่ารักที่เขาได้เห็นอย่างใกล้ชิดทำหัวใจของเขานั้นเต้นแรงเหมือนกลองรัว แต่ก็ต้องผละออกจากเธอเพราะแถวนั้นคนเยอะและเขาเองนั้นก็มีแฟนอยู่แล้ว เขาเลยทำอะไรไม่ได้นอกจากมองเธออยู่ห่าง ๆ และพยายามทำตัวไม่สนิทสนมกับเธอในตอนที่เธอนั้นมาที่ร้านของเขาบ่อย ๆ “พี่เจอหนูตอนที่หนูเต้น ๆ อยู่เหรอคะ น่าอายจริง ๆ แล้วพี่เขินหนูไหมตอนที่หนูแซวพี่ครั้งแรก” คนตัวเล็กซุกอกเขาอย่างเขินอายก่อนจะเงยหน้ามองเขา“ตอนนั้นพี่ทำตัวไม่ถูกอยู่นะ เพราะไม่เคยมีสาวคนไหนกล้าแซวพี่ ถึงเขาจะมาที่ร้านพี่แบบหนูทุกวัน” ในตอนนั้นเขาเห็นเธอมาร้านเขาทุกวัน พยายามมองหาเขา ในขณะที่เขาพยายามหลบเธอ มันน่าตลกดีเหมือนกัน ในใจเขาก็คิดว่าเธอคนนี้พยายามมากในการมาหาเขา แต่ก็ผิดที่เขาเองไม่ได้บอกเธอว่าเขามีแฟนแล้ว“ก็หนูชอบพี่มาก ๆ เลยนี่คะ ถึงหน้าพี่จะดูโหดแต่มันหล่อมากในสายตาหนู” คนตัวเล็กเงยหน้ามองแฟนหนุ่มพร้อมกับเบ้ปากด้วยหน้าตาน่าเอ็นดู พร้อมกับหอมแก้มชายหนุ่มอีกครั้งเป็นการให้รางวัลกับความหล่อ“พี
การกินอาหารในช่วงบ่ายจบลงพร้อมกับภาพที่บันทึกบรรยากาศรวมทั้งรูปคู่ของทั้งสองคน เมื่อกินเสร็จก็พากันเดินลงมาถ่ายภาพที่สวนด้านล่าง มันตกแต่งไปด้วยไม้ประดับรูปทรงต่าง ๆ และมีบ่อน้ำพุตั้งอยู่ที่กลางสวน อากาศที่ไม่ได้ร้อนมากเหมาะกับถ่ายภาพ ในตอนนี้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาก็มองไปที่คู่รักที่ยืนอยู่ที่ลานน้ำพุด้วยรอยยิ้มที่ชื่นชมและอิจฉา“พี่พีทคะ ขอสวย ๆ เลยนะ จะเอาไปอวดคุณแม่” หญิงสาวเดินนำแฟนหนุ่มมาที่น้ำพุพร้อมกับหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายอีกครั้ง “โอเคครับ” สายตาของชายหนุ่มมองเธอด้วยความสุขใจ ใบหน้าหวานและรอยยิ้มที่เขานั้นจะได้มองมันนับจากนี้และจะเป็นความสุขของเขาตลอดไป“ไปถ่ายตรงนั้นไหมคะ เขามีของตกแต่งให้เราถ่ายรูปด้วย” คนตัวเล็กเดินไปที่โต๊ะตัวหนึ่งที่ทางร้านจัดไว้และมีของน่ารักเต็มโต๊ะไปหมด มันเป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับการถ่ายภาพ เธอหยิบส้มปลอมขึ้นมาพร้อมกับแนบที่แก้มของตัวเองทั้งสองข้างพร้อมกับยิ้มไปที่กล้องที่แฟนหนุ่มนั้นถือรออยู่เพื่อถ่ายภาพบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความสุขและความสนุกของทั้งสองตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนในบริเวณนั้น ทำให้หญิงสาวเริ่มเขินอายขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะบางรูปที่ถ่ายคู่กับแฟน
ทั้งคู่จัดการธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยพร้อมกับกินของว่างที่พ่อบ้านเตรียมไว้ให้ และเดินทางออกมาเพื่อเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ สถานที่แรกที่จะไปคือชมไร่องุ่นที่ห่างจากบ้านชายหนุ่มไปไม่ไกล ได้เข้าไปดูการหมักไวน์ และกิจกรรมที่ทางไร่องุ่นจัดขึ้น ทั้งสองคนทำกิจกรรมร่วมกัน พร้อมกับแวะถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน คนตัวเล็กเดินไปที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งพร้อมกับเรียกชายหนุ่มที่เดินจูงจักรยานตามมาอย่างช้า ๆ ก่อนจะมาจอดอยู่ด้านหน้าของเธอโดยที่ตัวของเธอนั้นพิงกับต้นไม้อยู่“พี่พีทจะทำอะไรคะ นาออกไปไม่ได้” คนตัวเล็กถามด้วยความสงสัย“พี่เหนื่อยครับ อยากได้พลัง” ชายหนุ่มยื่นหน้าเข้าไปหาหญิงสาวก่อนจะยิ้มออกมา พร้อมกับมองไปที่ดวงตาสวยอย่างทะเล้น“ก็นึกว่าอะไร” คนตัวเล็กโน้มหน้าไปจุ๊บริมฝีปากหนาเพื่อให้รางวัลและเติมพลัง ก่อนจะยิ้มหวานให้เขาทั้งคู่ออกเดินทางจากไร่องุ่นพร้อมกับไปที่โรงงานขนมหวานแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลกันมากนัก ร่างเล็กเดินไปยังตู้ขนมหวานที่มีขนมวางเรียงรายอย่างน่ากิน เธอเดินไปดูตามตู้ต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่มากมายโดยมีชายหนุ่มนั้นเดินตามหลังมาติด ๆ เพราะมีสายตาจากหนุ่ม ๆ ภายในร้านนั้นมองเธอไม่วางตา“พี่พ
ตลอดเวลาที่ผ่านมาหญิงสาวมีความสุขมากที่ได้มีแฟนหนุ่มคอยเคียงข้าง ไม่ว่าเธอจะทำอะไร หรือไปที่ไหนก็มีเขาไปด้วยทุกที่ และไม่ว่าเธอนั้นต้องการอะไรเขาก็หามาให้หมดทุกอย่างแบบไม่มีขัด ถ้าถามเรื่องของการทะเลาะกันไม่ใช่ว่าไม่มี ก็มีบ้างที่เป็นเธอเองที่งอแงใส่แฟนหนุ่ม แต่เขาก็มักจะใจเย็นกับเธอเสมอ อย่างเช่น ในวันนี้หลังจากที่เธอนั้นสอบปลายภาคเรียนจบแล้วเขาก็พาเธอมาเที่ยวเพื่อพักผ่อน เขาให้เหตุผลว่าเธอนั้นต้องการสิ่งที่เยียวยาจิตใจในตอนนี้เพราะเธอทั้งเรียนหนักและงานเยอะ ทำให้เธอเกิดอาการเครียดจนแฟนหนุ่มสังเกตได้ “พี่พีทคะตอนนี้เราจะไปไหนกันคะ” คนตัวเล็กถามขึ้นเมื่อเห็นว่าทางที่กำลังมุ่งหน้าไปทั้งสองข้างทางนั้นมีแต่ต้นไม้และภูเขาเต็มไปหมด “ไปบ้านของพี่กันค่ะ” ชายหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะขับรถและเปิดเพลงเพื่อสร้างบรรยากาศ โชคดีที่ตอนนี้อากาศไม่ได้ร้อนมากเพราะมันใกล้จะเย็นแล้ว กว่าจะออกจากบ้านมาได้ก็บ่ายแก่ ๆ “พี่มีบ้านกี่หลังกันคะ หนูชักจะสงสัยแล้วนะคะว่าพี่ทำงานถูกกฎหมายไหม พี่ไม่ได้โกหกอยู่ใช่ไหม” หญิงสาวถามอย่างสงสัยพร้อมกับหรี่ตามองเขาเชิงแกล้ง “คิดไปถึ
หลังจากที่ได้ไปพบครอบครัวของชายหนุ่มเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน เธอนั้นรู้สึกดีใจและอบอุ่นใจมากที่ได้เจอกับครอบครัวของเขา และเพราะได้การต้อนรับอย่างดี วันนี้เธอจึงจะพาเขามาพบกับครอบครัวของเธอบ้าง เธอก็หวังว่าเขาจะสบายใจและไม่อึดอัดกับบ้านของเธอ “พี่พีทตื่นเต้นเหรอคะ” เธอหันไปมองชายหนุ่มที่กำลังขับรถด้วยท่าเกร็ง ๆ และมีสีหน้าที่กังวลเล็กน้อย จนเธอเองก็อดอมยิ้มไม่ได้เพราะเขาก็ไม่ได้ต่างจากเธอที่ไปพบที่บ้านเขาในวันนั้น แต่วันนี้แตกต่างตรงที่ว่าเราไม่ได้ค้างที่บ้านก็เท่านั้น “ก็นิดหน่อยครับ” ชายหนุ่มตอบเพียงสั้น ๆ ก่อนจะเลี้ยวรถเข้ามาจอดภายในบริเวณบ้านของเธอที่มีบรรดาสาวใช้ยืนรออยู่แล้วไม่ต่างจากบ้านของเขาสักเท่าไร แต่บริเวณบ้านนั้นดูอบอุ่นและน่าอยู่มาก ๆ หญิงสาวเดินเข้ามาในตัวบ้านพร้อมกับป้าภาแม่นมที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เด็กที่ยืนรออยู่ เธอเดินเข้าไปโอบกอดพร้อมกับแนะนำชายหนุ่มให้ได้รู้จัก ป้าภาดูชอบพี่พีทมากและเอ่ยชมความหล่อของร่างสูงไม่หยุด และไม่นานนักผู้เป็นประมุขของบ้านทั้งสองก็เดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน “คุณพ่อ คุณแม่” หญิงสาวรีบเดินเข้าไปหาท่านทั
ทางด้านของพ่อลูกที่นั่งคุยกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ดูจากสีหน้าพ่อแล้วชายหนุ่มก็รู้ว่าพ่อพอใจมากแค่ไหนกับแฟนคนนี้ของเขา แค่นี้ก็สบายใจแล้ว เขามองไปที่พ่อเหมือนท่านจะพูดอะไรบางอย่าง จนเป็นเขาเองที่พูดขึ้นมา“พ่อมีอะไรอยากคุยกับผมหรือเปล่าครับ” เขามองไปที่พ่อที่กำลังยิ้มมาให้“แค่รู้สึกว่ารอบนี้แกตัดสินใจได้ดี เธอน่ารักน่าเอ็นดู ดูจากที่แม่แกดีใจจนออกนอกหน้า คงไม่มีเรื่องอะไรอีกแล้วนะ” คนพ่อพูดด้วยความดีใจและเป็นห่วง“รอบนี้ผมมั่นใจมากครับพ่อ เธอเป็นคนดีและน่ารักกับผมเสมอ” ชายหนุ่มพูดด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม“แล้วใครจีบใครก่อนล่ะ ดูแกมีความสุขมาก ดูหลงเขาแบบนี้พ่อก็พลอยดีใจไปด้วย” พ่อพูดด้วยความดีใจที่ได้เห็นลูกชายของเขานั้นกลับมามีความสุขอีกครั้งในรอบปี“ผมไม่บอกพ่อหรอก” เขาพูดก่อนจะเมินคำพูดของพ่อ มีหวังได้โดนล้อแน่นอน เขตแดนยิ่งแล้วใหญ่ พอรู้เรื่องของนาก็ล้อทันทีที่มีคนมาจีบเขาก่อนสองพ่อลูกนั่งมองหน้ากันอย่างรู้ทัน ชายหนุ่มมองพ่อของตัวเองที่กำลังทำอะไรบางอย่างในโทรศัพท์มือถือ พร้อมกับเสียงข้อความแจ้งเตือนธนาคารของตนที่ดังขึ้นเมื่อพ่อของเขานั้นเงยหน้าขึ้นมาพอดี เขารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูท