Share

บทที่15

ลู่เฉินคาดไม่ถึงจริงๆว่าหลี่ชิงเหยาจะไม่เชื่อใจเขาเลยแม้แต่น้อย

พวกเขาเป็นสามีภรรยากันมาสามปี สุดท้ายเขาก็สู้คนนอกไม่ได้เลยหรอ?

“ใช่... ผมมันก็แค่ไอ้ตัวร้าย หยางเหว่ยเป็นสุภาพบุรุษ ผมเป็นคนที่ใส่ร้ายเขาเอง ตอนนี้คุณพอใจหรือยัง?” ลู่เฉินพูดอย่างเย้ยหยันตัวเอง

เมื่อสูญเสียความเชื่อใจไป ไม่ว่าจะอธิบายเยอะแค่ไหนมันก็ไม่มีประโยชน์

“คุณพูดแบบนี้ทำไม? ฉันเข้าใจคุณผิดหรอ?” หลี่ชิงเหยาขมวดคิ้ว

“คุณไม่ได้เข้าใจผิดหรอก เป็นเพราะผมเองที่ปากร้าย สมแล้ว” ลู่เฉินพูดอย่างเย็นชา

“คุณมันช่างดื้อรั้น!” หลี่ชิงเหยาเริ่มโกรธเล็กน้อย

เธอไม่คาดคิดเลยว่าลู่เฉินจะเป็นคนเช่นนี้

เพราะความหึงหวง เขาถึงขั้นจงใจใส่ร้ายคนอื่น แทนที่จะสำนึกผิดและแก้ตัวใหม่

หรือว่าหลังจากการหย่าร้าง เขาก็ฉีกหน้ากากตัวเองออก แล้วเลิกปลอมต่อแล้วงั้นหรอ?

“เอาล่ะๆ ชิงเหยา คุณอย่าโกรธเกินไปเลย”

ในเวลานี้ หยางเหว่ยทำเป็นคนมีน้ำใจ "ลู่เฉินเห็นว่าผมสนิทกับคุณอย่างนี้ แน่นอนว่าเขาคงรู้สึกรังเกียจผมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว ผมไม่โทษเขาหรอก คนเราทุกคนมีโอกาสทำผิดพลาดกันได้อยู่แล้วน่ะ"

“ดู ดูคุณหยางสิ เขาตอบแทนการใส่ร้ายของคุณด้วยความเมตตา นี่แหละคือความต่าง!” หลี่ชิงเหยาพูดอย่างไม่พอใจ

“ถ้าคุณคิดอย่างนั้นจริงๆ ผมก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว” ลู่เฉินพูดด้วยใบหน้าที่เย็นชา

“ฮึ่ม! ฉันว่าคุณกินปูนร้อนท้องนะ!”

เลขาจางพูดอย่างไม่พอใจ "คนอย่างคุณน่ะ นอกจากจะไร้ความสามารถแล้ว มิหนำซ้ำยังชอบปากแข็ง มันน่าขยะแขยงจริงๆ!"

"ก็แล้วแต่พวกคุณจะคิดก็แล้วกัน"

ลู่เฉินขี้เกียจที่จะพูดมากไปกว่านี้ เขาลุกขึ้นและพร้อมที่จะเดินออกไป

ทันใดนั้น ชายหนุ่มที่มีผมหยิกก็เดินเข้ามาจากประตู

ชายหนุ่มคนนั้นใส่แว่นกันแดดและงับบุหรี่ซิการ์อยู่ ท่าทางเขาดูเย่อหยิ่งมาก

" เฮ้! ที่นี่คึกคักจริงๆ!"

จ้าวเทียนหลงยิ้มและมองไปรอบๆ

แต่แล้ว สายตาของเขาก็หยุดแล้วจับจ้องไปที่หลี่ชิงเหยา เขาตกตะลึงไปในทันที

ดวงตาของเขาดูเหมือนจะพ่นไฟออกมาสะอย่างนั้น มันดูกระตือรือร้นมาก

"จุ๊ๆๆ... ไม่คิดว่าคืนนี้ผมจะโชคดีได้ขนาดนี้ ได้เจอผู้หญิงที่ช่างวิเศษมากขนาดนี้อีกด้วย!"

จ้าวเทียนหลงเลียริมฝีปากของเขา จากนั้นเขาก็เดินตรงไปหาหลี่ชิงเหยา และพูดด้วยรอยยิ้มว่า "คนสวย หน้าคุณดูคุ้นเคยมาก เราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า?"

หลี่ชิงเหยาเหลือบมองเขา เธอขี้เกียจที่จะตอบเขา

“คนสวย การที่เราเจอกันมันก็แสดงว่าเรามีวาสนาต่อกัน เราไปดื่มไวน์กันสักแก้วสองแก้ว ดีไหมครับ?” จ้าวเทียนหลงพูดเชื้อเชิญ

“ฉันไม่อยาก” หลี่ชิงเหยาปฏิเสธ

“ความอยากมันสามารถสร้างกันได้ด้วยเงิน”

จ้าวเทียนหลงลูบคางของเขาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่า "เอางี้ เรามาพูดตรงๆเถอะ ตราบใดที่คุณนอนกับผมคืนหนึ่ง คุณอยากได้เงินเท่าไหร่ก็บอกมาได้เลย "

"ไสหัวไป!" หลี่ชิงเหยากล่าว

" เฮ้! แสบใช่ย่อย แต่ผมชอบ!" จ้าวเทียนหลงยิ้มอย่างตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น

ขณะที่เขาพูด เขาก็กำลังจะยื่นมือไปลูบเธอ

"ปัง!"

หลี่ชิงเหยาที่อารมณ์ไม่ดีตบหน้าเขาไปอย่างไม่ลังเล

รอยนิ้วมือทั้งห้านิ้วนั้นเห็นได้ชัดเจน

“คุณ...คุณกล้ามาตบผมงั้นหรอ?”

จ้าวเทียนหลงลูบใบหน้าที่เจ็บของเขา สีหน้าของเขาก็มืดลงทันที

“แล้วไงล่ะ? คุณมันเป็นคนที่พ่อแม่ไม่ได้สั่งสอนจริงๆ” หลี่ชิงเหยาพูดอย่างเย็นชา

“นังตัวดี! ผมว่าคุณไม่รู้จักชั่วดีจริงๆ!”

จ้าวเทียนหลงโกรธแล้ว ขณะที่เขากำลังจะลงมือ เขาก็ถูกหยางเหว่ยผลักออกไป

“เชี่ย! กล้ามาก่อเรื่องที่นี่ ผมว่าคุณคงเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่แล้วแหละ!” หยางเหว่ยจ้องมองเขา

แต๊ะอั๋งผู้หญิงของเขาต่อหน้าต่อตาเขา นี่มันกำลังรนหาที่ตายสินะ?

“ไอ้หนุ่ม! ผมว่าคุณอย่าเข้าไปยุ่งกับเรื่องของคนอื่นดีกว่า ไม่เช่นนั้นคุณจะได้รับผิดชอบต่อผลที่ตามมาอย่างแน่นอน!” จ้าวเทียนหลงตะโกนด้วยเสียงทุ้ม

“ฮ่าฮ่า คุณแม่งกำลังขู่ผมอยู่เหรอ? อ่ะ มาๆๆ ผมอยากดูว่าคุณมีความสามารถขนาดไหนกัน?” หยางเหว่ยโบกมืออย่างยั่วยุ

“รนหาที่ตาย!”

จ้าวเทียนหลงไม่ได้พูดอะไรมาก เขายกมือขึ้นแล้วก็ตรงเข้าไปสู้

หยางเหว่ยหลบไปได้อย่างง่ายดายและเขาก็ชกกลับด้วยหมัด ชกเข้าหน้าจ้าวเทียนหลงอย่างแรง

จ้าวเทียนหลงถูกชกจนโซเซ แล้วจมูกของเขาก็เริ่มมีเลือดไหลออกมา

“กล้ามาสู้กับกูงั้นเหรอ? กูมันนักชกมือเก่า!” หยางเหว่ยเยาะเย้ย

“คุณหยางสุดยอดเลยค่ะ! ไอ้อันธพาลแบบนี้ก็สมควรที่จะถูกสั่งสอน!” เลขาจางชื่นชมซ้ำๆ

"ใช่! ชกได้หนำใจมาก!"

แขกบางคนที่มุงดูอยู่นั้นก็พากันปรบมือ

นี่ทำให้หยางเหว่ยพึงพอใจอย่างมาก

ในที่สุดเหตุการณ์ฮีโร่ช่วยสาวงามก็ได้เกิดขึ้นกับเขา

สะใจจริงๆ!

“ไอ้หนุ่ม! แกรู้ไหมว่ากูเป็นใคร? แกกล้าดียังไงมาชกกู?” จ้าวเทียนหลงกัดฟันด้วยสีหน้าที่โกรธ

“กูแม่งไม่สนใจหรอกว่ามึงมันเป็นใคร! ถ้ามึงไม่อยากตายก็รีบออกไปจากที่นี่สะ!” หยางเหว่ยพูดอย่างดุเดือด

“ได้! แกมันกล้า! ถ้าเก่งจริง ก็อย่าหนีก็แล้วกัน!”

หลังจากพูดขู่เสร็จ จ้าวเทียนหลงก็จากไปอย่างรวดเร็ว

“ฮึ่ม! กล้าอวดดีต่อหน้าผมเหรอ? ช่างประเมินความสามารถของตัวเองสูงเกินไปสะแล้ว!” หยางเหว่ยเบ้ปากอย่างเหยียดหยาม

“คุณหยางคะ ไม่คิดว่าคุณจะเก่งขนาดนี้ คุณเอาชนะเขาได้ด้วยหมัดเดียว!” ดวงตาของเลขาจางเป็นประกาย

“ฮ่าฮ่า นักเลงอย่างนี้ มาอีกสักสิบคนผมก็สู้ไหว!” หยางเหว่ยยิ้มอย่างภาคภูมิใจ

การฝึกฝนการต่อสู้เป็นประจำมันจะมีประโยชน์มากในช่วงที่วิกฤติแบบนี้แหละ

“ขอบคุณคุณหยางมากที่ยื่นมือเข้ามาช่วย ไม่เช่นนั้นเราจะต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแน่นอนหากพบกับคนเลวเช่นนี้”

“เป็นเพียงเรื่องเล็กๆเท่านั้นครับ หากเจอปัญหาอีกในอนาคต โทรหาผมได้ตลอดเวลา ผมรับรองว่าพวกคุณจะปลอดภัยครับ!” หยางเหว่ยยืดอกพูดอย่างภูมิใจ

โอกาสแสดงตัวไม่ได้มีมาง่ายๆ แน่นอนว่าเขาจะคว้ามันไว้ ไม่ปล่อยให้มันพลาดไป

“คุณหลี่คะ คุณเห็นไหม? นี่ต่างหาก ที่เรียกว่าลูกผู้ชายของแท้!”

ขณะที่เลขาจางพูด เธอก็หันไปมองลู่เฉินอีก และพูดอย่างประชดว่า "ต่างจากบางคนที่เมื่อเจออะไรบางอย่าง ก็กลัวจนหดตัวเหมือนเต่า ไม่กล้าพูดอะไรเลย เป็นคนขี้ขลาดอย่างเห็นได้ชัด!"

หลี่ชิงเหยาไม่ได้พูดอะไร แต่เธอรู้สึกผิดหวังมากยิ่งขึ้น

เมื่อกี้ตอนที่เธอตกอยู่ในอันตราย ลู่เฉินที่ยืนอยู่ข้างๆกลับไม่คิดที่จะยื่นมือมาช่วยเลยด้วยซ้ำ

ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าพวกเขาเคยเป็นสามีภรรยากัน ถึงจะเป็นคนทั่วไป ถ้าเจอเรื่องนี้ ก็คงไม่เพิกเฉยขนาดนี้มั้ง?

ก่อนหน้านั้นเธอยังไม่เคยรู้สึกแบบนี้ แต่ตอนนี้เธอค้นพบแล้วว่าลู่เฉินนั้นขี้ขลาดแค่ไหน

เมื่อเทียบกับหยางเหว่ยแล้ว ความแตกต่างมันชัดเจนมากเหลือเกิน

“เร็ว! ปิดล้อมที่นี่!”

ขณะนั้นเอง ก็เกิดเสียงหนึ่งดังขึ้น

จ้าวเทียนหลงที่จากไปอย่างโกรธเกรี้ยวในเมื่อกี้ ตอนนี้เขากลับมาอีกครั้ง

“ทำไม? เมื่อกี้แกยังโดนชกไม่พอใช่ไหม? อยากให้กูชกแกอีกครั้งงั้นเหรอ?”

หยางเหว่ยก้าวไปข้างหน้า เหมือนเป็นลูกผู้ชายที่มีความรับผิดชอบมากๆคนหนึ่ง

แต่เมื่อเขาเห็นกลุ่มบอดี้การ์ดล่ำใหญ่ที่อยู่ด้านหลังจ้าวเทียนหลงแล้ว

รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็แข็งทื่อไปในทันที

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status