Share

หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก
หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก
Author: จิ้งซิง

บทที่ 1

Author: จิ้งซิง
“หม่ำ ๆๆ”

“กินสิ พี่หญิง เหตุใดท่านถึงไม่กินเล่า?”

ภายในห้องลับที่มืดสลัว เวินซื่อบาดเจ็บไปทั่วทั้งร่าง นอนคว่ำอยู่บนพื้นหายใจรวยริน โซ่เหล็กบนตัวนางส่งเสียงดังเคร้ง รัดคอและแขนขาของนางไว้ จนทำให้นางสลัดไม่หลุด

เบื้องหน้าของนางมีดรุณีน้อยสวมชุดสีเหลืองอ่อนถืออาหารสุนัขไว้ในมือ หยอกล้อนางราวกับกำลังหยอกสุนัขก็มิปาน

ส่วนดรุณีน้อยที่ยิ้มแย้มราวกับบุปผาผู้นี้คือน้องสาวของนาง...เวินเยวี่ย

เวินเยวี่ยเอ่ยกับสาวใช้ที่อยู่ข้างหลังอย่างไม่พอใจว่า “ดูสิ พี่หญิงของข้าช่างไร้ประโยชน์เสียจริง แม้แต่สุนัขก็ยังเป็นให้ดีไม่ได้ คุณหนูอย่างข้าป้อนให้นางกินด้วยตัวเอง นางยังกล้าไม่กินอีกหรือ?”

สาวใช้ก้าวเข้ามาเตะคนที่อยู่บนพื้นทันที

เตะจนคนร้องคราง สาวใช้ถึงค่อยเอ่ยเอาใจเวินเยวี่ยว่า “คุณหนูอย่าไปโต้เถียงกับนางเลยเจ้าค่ะ เกรงว่าสุนัขตัวนี้ยังคงคิดว่าตนเองเป็นบุตรสาวภรรยาเอกของจวนกั๋วกง”

เวินเยวี่ยหัวเราะเยาะ “เวินซื่อนับว่าเป็นบุตรสาวภรรยาเอกของประเภทไหน? แม้แต่ท่านพ่อกับพวกท่านพี่ก็ไม่ยอมรับนางแล้ว การได้เป็นสุนัขก็นับว่าเป็นเกียรติที่คุณหนูอย่างข้ามอบให้นาง”

“น่าเสียดายที่ไม่รู้จักเจียมตัว”

หลังจากที่เอ่ยคำพูดประโยคนี้อย่างเย็นชา เวินเยวี่ยก็เอาเท้าข้างหนึ่งเหยียบบนมือของเวินซื่อแล้วขยี้อย่างแรง

บดขยี้จนกระดูกมือดังกรอบแกรบ บดขยี้จนเวินซื่อร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด

“เวินซื่อ คุณหนูอย่างข้าจะให้โอกาสเจ้าครั้งสุดท้าย มอบหยกแขวนชิ้นนั้นมาเสีย!”

“เหอะ...เหอะ ๆ...”

เวินซื่อที่มีสติเลือนรางเล็กน้อยได้ยินคำพูดประโยคนี้ ในที่สุดก็มีปฏิกิริยาเล็กน้อย

นางหัวเราะออกมาอย่างอ่อนแรงสองครั้ง “เวินเยวี่ย เจ้ามันคิดเพ้อฝัน...”

นั่นเป็นของสิ่งเดียวที่ท่านแม่ทิ้งไว้ในนาง ต่อให้ตาย นางก็ไม่มีทางมอบให้เวินเยวี่ยเป็นอันขาด

“นังแพศยา เจ้ามันรนหาที่ตาย!”

เวินเยวี่ยโกรธจนดวงตาแทบลุกเป็นไฟ

ในเวลานี้เอง ประตูห้องลับถูกคนเปิดออกจากด้านนอก ก่อนจะมีหลายร่างเดินเข้ามา

เวินเยวี่ยหันหน้าไปเห็นคนเดินมา นางก็เอาอาหารสุนัขไว้ยัดไว้ในอกของสาวใช้ทันที สีหน้าเหมือนเล่นกลก็ไม่ปาน กลับมาเป็นท่าทางบริสุทธิ์น่ารักในพริบตา ก่อนจะโถมตัวเข้าใส่ผู้ที่มาอย่างมีความสุข...

“ท่านพ่อ พี่ใหญ่ พี่รอง พี่สาม พี่สี่!”

“พวกท่านมาได้อย่างไร?”

คนที่เข้ามาทั้งห้าคนคือเจิ้นกั๋วกงแห่งราชวงศ์ต้าหมิงกับบุตรชายทั้งสี่คนของเขา

เนื่องจากเจิ้นกั๋วกงเกิดมามีรูปร่างสูงใหญ่ รูปโฉมโดดเด่น

บุตรชายทั้งสี่คนของเขาก็ได้รับการถ่ายทอดมาจากเขาเช่นเดียวกัน แต่ละคนไม่เพียงมีรูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาก็ยังหล่อเหล่าสง่างามมาก บุคลิกไม่ธรรมดา

อีกทั้งมีนิสัยของเจิ้นกั๋วกงไม่มากก็น้อย แต่ละคนถ้าไม่มีสีหน้าเย็นชา ก็มีสีหน้าชั่วร้าย

แต่สิ่งที่เป็นข้อยกเว้นคือ เมื่อเวินเยวี่ยใช้เสียงออดอ้อนเรียกขานพวกเขา คนที่ดูเหมือนเย็นชาไร้ความรู้สึกเหล่านี้กลับเปลี่ยนสีหน้า

เวินจื่อเฉินผู้เป็นพี่ชายคนรองมองเวินซื่อที่อยู่บนพื้นด้วยสายตาดูแคลน ก่อนจะเอ่ยปากถามว่า “น้องหก เป็นอย่างไรบ้าง นางมอบหยกแขวนที่ขโมยไปจากเจ้าแล้วหรือยัง?”

ไม่ได้ขโมย!

นางไม่ได้ขโมยนะ!

นั่นเป็นหยกแขวนของนาง!

“เฮ้อ ยังเจ้าค่ะ!”

เวินเยวี่ยถอนหายใจโดยใช้น้ำเสียงที่ผิดหวังอย่างยิ่ง แล้วเอ่ยอย่างน้อยอกน้อยใจว่า “พี่ห้ารู้อยู่แก่ใจว่านั่นเป็นของสำคัญที่สุดของข้า เป็นของที่ระลึกเพียงหนึ่งเดียวที่ท่านแม่ของข้าทิ้งไว้ให้ข้า แต่เมื่อครู่นี้ไม่ว่าข้าขอร้องนางอย่างไร นางก็ไม่ยอมคืนให้ข้าเลย”

“ข้าไม่รู้แล้วจริง ๆ ว่าควรทำอย่างไรดี”

เวินเยวี่ยเอ่ยถึงตอนสุดท้าย เสียงก็สั่นเครือเล็กน้อย ราวกับอยากจะร้องไห้

พวกเวินจื่อเฉินฟังแล้วปวดใจอย่างยิ่ง

“เวินซื่อ ข้าผิดหวังในตัวเจ้าเหลือเกินจริง ๆ”

เวินจื่อเฉินเอ่ยอย่างโกรธเกรี้ยว

เวินจื่อเยวี่ยผู้เป็นพี่ชายคนที่สามซึ่งยืนอยู่ตรงหน้าประตูก็ทำหน้าเย็นชาในพริบตา ในมือเผยให้เห็นมีดคมกริบ

“ในเมื่อปากแข็งถึงเพียงนี้ เช่นนั้นก็ตัดมือของนาง ตัดข้างหนึ่ง ถามหนึ่งครั้ง หากไม่ยอมพูดตลอดก็ตัดมือและเท้าของนางให้หมด กล้าขโมยสิ่งของของน้องหก ข้าจะดูว่ากระดูกของเวินซื่อจะแข็งเหมือนปากของนางหรือเปล่า!”

“ไม่จำเป็นต้องตัดมือแล้ว”

เวลานี้เอง เวินฉางอวิ้นผู้เป็นพี่ชายคนโตเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “มีคนเห็นเวินซื่อเหมือนรีบร้อนกลืนสิ่งของลงท้องก่อนที่จะโดนจับตัวกลับมา”

เวินซื่อตกใจในพริบตา แววตาดูตื่นตระหนก

พวกเวินจื่อเฉินเห็นฉากนี้ก็พากันเข้าใจทันที

เวินจื่อเฉินด่าทออย่างเกรี้ยวกราดว่า “เวินซื่อ เจ้าบ้าไปแล้วหรือ? เจ้ายอมกลืนลงท้องทั้งเป็น แต่ไม่ยอมนำหยกแขวนของน้องหกคืนให้นาง?!”

นัยน์ตาของเวินซื่อฉายแววความบ้าคลั่งออกมาทันที

ในเมื่อถูกจับได้แล้ว นางก็ไม่มีอะไรต้องซ่อนอีก

“ฮ่า ๆ...ใช่แล้ว ข้าบ้าไปแล้ว!”

“เวินเยวี่ยทำร้ายข้าถึงเพียงนี้ และยังอยากแย่งชิงของสิ่งสุดท้ายที่ท่านแม่ทิ้งไว้ให้ข้า ข้าจะไม่บ้าได้อย่างไร?”

เวินซื่อกระชากโซ่เหล็กหลายเส้นอย่างสะเทือนใจ เสียงเคร้งและเสียงของนางดังไปทั่วห้องลับแห่งนี้

“เป็นอย่างไร? ตอนนี้มีทางเลือกอยู่ตรงหน้าพวกท่านเพียงแค่สองทาง ถอดใจ? หรือว่าคว้านท้องข้า?”

พวกเวินจื่อเฉินมีสีหน้าย่ำแย่อย่างยิ่ง รวมถึงเวินอวี้จือผู้เป็นพี่ชายคนสี่ที่ซึ่งเฝ้าชมอยู่ทางด้านข้างด้วยสายตาเย็นชามาโดยตลอด

พวกเขามองไปทางบิดาของพวกเขาตามจิตใต้สำนึก หรือก็คือเจิ้นกั๋วกงเวินเฉวียนเซิ่ง

เวลานี้มีเพียงเขาที่สามารถตัดสินใจได้

ดวงตาของเวินเยวี่ยฉายแววทะมึน นางเม้มปากแล้วเอ่ยเพียงคำพูดประโยคเดียวว่า “ท่านพ่อ ข้าคิดถึงท่านแม่แล้ว”

เวลานั้น เวินซื่อเห็นเวินเฉวียนเซิ่งมีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

นางรู้ว่านางพ่ายแพ้การเดิมพันแล้ว

เวินเฉวียนเซิ่งถอนหายใจ “เวินซื่อ อย่าโทษพวกพี่ชายของเจ้าเลย จะโทษก็โทษข้าเถิด”

“ชาติหน้า หากเจ้าเป็นบุตรสาวของสกุลเวินอีก สกุลเวินจะชดเชยเจ้าให้มาก”

เวินซื่อมีหน้าคล้ายหัวเราะคล้ายร่ำไห้ คล้ายคลุ้มคลั่งคล้ายสะเทือนใจ

น้ำตาโลหิตสองสายค่อย ๆ ไหลลงมาจากหางตาของนาง

“ไม่ ชาติหน้าข้าจะไม่ขอเป็นบุตรสาวของสกุลเวินเด็ดขาด!”

เมื่อมีดเย็นเยียบกรีดท้องของเวินซื่อ ลมหายใจเฮือกสุดท้ายของนางหายไปจากในห้องลับ หยกแขวนที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับร่างกายของนางมานานแล้วพลันเผยออกมาให้เห็นเล็กน้อย ส่องรัศมีแสงแสบตาออกมาจากในร่างของนาง

.....

ราชวงศ์ต้าหมิง ปีที่เจ็ดสิบหก

ต้นคิมหันตฤดู

จวนเจิ้นกั๋วกง

วันนี้จวนเจิ้นกั๋วกงครึกครื้นมาก

คนทั้งเมืองหลวงล้วนทราบว่าบุตรสาวทั้งสองคนของเจิ้นกั๋วกงจัดพิธีปักปิ่นด้วยกัน

เวลานี้เอง ในห้องนอนแห่งหนึ่งภายในจวน...

“ไม่ อย่านะ...”

บนเตียง ดรุณีน้อยวัยสิบห้าผู้หนึ่งคล้ายกับกำลังฝันเรื่องน่ากลัวอะไรบางอย่าง พึมพำด้วยเสียงสั่นเครือ

วินาทีต่อมานางลืมตาที่เต็มไปด้วยความหวาดหวั่นขึ้นฉับพลัน ร้องด้วยความตกใจแล้วลุกขึ้นมานั่งบนเตียงทันที ก่อนจะยื่นมือไปบังตนเองตามจิตใต้สำนึก

“อ๊า...!”

แต่ความเจ็บปวดจากการโดนผ่าท้องอย่างที่จินตนาการกลับไม่มา

ผ่านไปสักพัก เวินซื่อจึงค่อยลืมตาขึ้นมาอย่างหวาดกลัวและระมัดระวัง

เมื่อมองดูจึงพบว่าสภาพแวดล้อมแปลกไป ไม่ใช่ห้องลับแห่งนั้น

บิดา พี่ใหญ่และพวกเวินเยวี่ยก็ไม่อยู่เลยสักคน

มีเพียงห้องที่เงียบสงบ และการตกแต่งที่คุ้นเคยเล็กน้อย

เวินซื่อใคร่ครวญอยู่พักใหญ่เต็ม ๆ ด้วยสมองที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว แล้วค่อยนึกขึ้นได้ว่านี่คือที่ใด

“นี่เป็นห้องเก่าของข้าไม่ใช่หรือ?”

เป็นห้องที่นางเคยอาศัยอยู่ตอนที่ยังได้รับความรักความโปรดปรานจากบิดามารดาและพี่ชายในจวนกั๋วกง

“ไม่ เหตุใดข้าถึงอยู่ที่นี่ได้?!”

เวินซื่อที่ได้สติกลับมาในที่สุดกลับตกใจจนรีบเด้งตัวลุกขึ้นมาจากเตียง ก่อนจะโซเซล้มลงไปที่พื้น

“เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้? เหตุใดข้าถึงกลับมาที่นี่ได้?!”

นางต้องรีบไป!

จะให้พวกบิดากับพวกพี่ใหญ่จับตัวไม่ได้!

มิฉะนั้นนางจะต้องตายเป็นแน่!

แต่นางยังไม่ทันวิ่งไปถึงหน้าประตู ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังมาจากด้านนอกประตู...

“ก๊อก ๆ”

“คุณหนูห้า ท่านยังจะนอนถึงเมื่อไร วันนี้เป็นพิธีปักปิ่นของท่านกับคุณหนูหก หากสายแล้ว อย่าโทษว่าบ่าวไม่ได้เรียกท่านนะเจ้าคะ”

เสียงที่ไม่มีความเกรงใจแม้แต่น้อยของสาวใช้ดังเข้ามาในหูของเวินซื่อ ทำให้เวินซื่อที่เดิมทีเตรียมตัวจะเปิดประตูตกใจจนเก็บมือกลับมา

แต่คำพูดที่เข้ามาในหูของนางทำให้การเคลื่อนไหวของนางค่อย ๆ หยุดลง สีหน้าแข็งทื่อ

“พะ...พิธีปักปิ่น?”
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (3)
goodnovel comment avatar
rujira
สนุกมากค่ะ
goodnovel comment avatar
Phinnipha Khonhok
อ่านดีโหลดมาอ่านใหม่แต่เสียอย่างเดียวเมื่อก่อนนี้คะแนนรอนานมากแต่ทีนี้อัพเดทใหม่โหลดมาใหม่รู้สึกว่าใช้ line ยิ่งกว่าเดิมค่ะ
goodnovel comment avatar
ไม่มีที่ว่าง สำหรับคนอ่อนแอ
สนุกมากคาะ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1134

    เก่อถูโล่งอกที่เกราะป้องกันหัวใจตรงหน้าอกของเขาช่วยต้านไว้ได้ส่วนหนึ่ง จึงทำให้หอกนั้นแทงเฉไปเล็กน้อยแต่ก็แค่ทำให้เขาทนอยู่ได้อีกเพียงครู่หนึ่งเท่านั้นภายใต้การโจมตีขนาบหน้าหลังของกองทัพธงดำและฝูงแมลงพิษ ทหารต่างเผ่าเหล่านั้นก็ไม่อาจต้านทานไว้ได้นานเพียงไม่นาน ในป่าเขาก็เต็มไปด้วยร่างไร้วิญญาณของทหารต่างเผ่าที่ล้มตายเป็นทิวแถวสุดท้ายก็เหลือเพียงเก่อถูผู้เดียวเขาคุกเข่าลงกับพื้น หันกลับไปต้องการมองไปทางที่ตั้งของราชสำนักคราหนึ่งน่าเสียดายที่ยอดไม้อันหนาทึบบดบังทุกสิ่งไว้เขาจึงได้แต่หันกลับมา “ข้า...”“ฉัวะ!”เก่อถูดูเหมือนยังอยากจะพูดสั่งเสียอะไรสักอย่าง แต่เป่ยเฉินหยวนที่เต็มไปด้วยโทสะมานานแล้วย่อมไม่คิดจะให้โอกาสนี้แก่เขา ก้าวขึ้นหน้าไปก้าวหนึ่ง แล้วเชือดคอเขาทันทีเสียง ‘ตุบ’ ดังขึ้น คนล้มลงกับพื้นหลังจากเช็ดคราบเลือดบนมือจนสะอาดแล้ว เป่ยเฉินหยวนจึงกลับมายังข้างกายหลานซื่อ“ตกใจหรือเปล่า?”หลานซื่อยิ้มเล็กน้อย “ท่านคิดว่าข้าตกใจง่ายดายเพียงนี้เชียวหรือ?”เป่ยเฉินหยวนได้ยินดังนั้นก็ยิ้มเช่นกัน “ก็จริง เจ้าใจกล้ามาก กลับเป็นข้าที่เกือบจะขวัญเสียเพราะเจ้าเสียแล้ว”

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1133

    ความเจ็บปวดรุนแรงแล่นเข้ามาจากกลางหน้าอก เก่อถูไม่ทันได้ตั้งตัวแต่เก่อถูก็ยังคงเป็นเก่อถู ถึงจะเป็นเช่นนี้ เขาก็ไม่ได้ล้มลงในทันทีเขาดิ้นรนอย่างไม่ย่อท้อเพื่อให้หลุดพ้นจากปลายหอกของเป่ยเฉินหยวน ก่อนจะกุมบาดแผลที่หน้าอกโซเซถอยหลังไปหลายก้าวเมื่อทหารใต้บัญชาของเขาเข้ามาประคองไว้ หันกลับไปก็มองเห็นชัดเจนว่าศัตรูที่โผล่ออกมาตรงหน้าคือใคร ผมสีเงินอันเป็นเอกลักษณ์ปลิวไสวไปตามลมภูเขา การโจมตีอย่างหนักที่กระหน่ำใส่เก่อถูทำให้เขาตกใจกลัวยิ่งกว่าหอกที่อยู่บนหน้าอกเสียอีก“ท่าน...เป็นไปได้อย่างไร เป็นไปไม่ได้...ท่านจะมาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร?!”เก่อถูมองเป่ยเฉินหยวนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตกตะลึงเขาจับท่อนแขนทหารข้างกายไว้แน่น ถอยหลังไปทีละก้าวอย่างควบคุมไม่ได้ท่าทีอันผิดแผกของแม่ทัพผู้นำทำให้เหล่าทหารต่างเผ่าคนอื่น ๆ ที่อยู่ข้างกายต่างสัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากลเหล่าทหารยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ในใจของเก่อถูนั้นกลับร้อนรุ่มวุ่นวายอยู่นานแล้ว“ท่านคืออ๋องผู้สำเร็จราชการแทนแห่งต้าหมิง! เป็นท่าน! เป็นท่านนั่นเอง!”“เหตุใดท่านถึงมาปรากฏตัวที่นี่?! เป่ยเฉินหยวน พวกท่านชาวต้า

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1132

    เก่อถูมองไม่เห็นทิศทางที่ลูกธนูยิงมา รู้เพียงว่ายิงออกมาจากส่วนลึกของป่าลูกธนูดอกนั้นปักคาอยู่กลางฝ่ามือของเขาพอดีก้านธนูที่คุ้นเคยทำให้หลานซื่อและเกาหยางกับพวกจำได้แทบจะในทันที“อ๋องผู้สำเร็จราชการแทน!”“ท่านอ๋อง!”“ท่านอ๋องกลับมาแล้ว!”เกาหยางกับพวกตื่นเต้นดีใจยิ่งนักหลานซื่อก็อดรู้สึกยินดีอยู่ในใจไม่ได้ในที่สุดก็มาแล้ว!เมื่อเห็นหลานซื่อกับพวกที่ถูกล้อมอยู่ตรงกลางเปลี่ยนสีหน้าไปอย่างฉับพลัน เก่อถูก็รู้ทันทีว่ากำลังเสริมของชาวต้าหมิงเหล่านี้มาถึงแล้วเก่อถูที่กำลังหลงใหลในความงามก็ได้สติขึ้นมาทันทีจะปล่อยให้ชาวต้าหมิงเหล่านี้หนีไปไม่ได้!“สังหารพวกเขาเดี๋ยวนี้! ห้ามปล่อยไว้แม้แต่คนเดียว!”ครั้งนี้เก่อถูไม่คิดที่จะไว้ชีวิตหลานซื่อไว้อีกต่อไป เพราะต่อให้หญิงงามเพียงใด ก็เทียบกับชีวิตของเขาไม่ได้หากครั้งนี้ เขาทำเรื่องนี้ล้มเหลว แม้ว่าเขาจะไม่ถึงตาย แต่องค์ชายใหญ่และองค์ชายรองก็ไม่มีทางยกโทษให้เขาง่าย ๆ เด็ดขาดดังนั้นคนต้าหมิงเหล่านี้ต้องตาย!เก่อถูตัดสินใจหมายจะสังหารในทันทีทว่าตอนนี้มันสายเกินไปแล้ว...ทันทีที่ลูกธนูของเป่ยเฉินหยวนปรากฏขึ้น เกาหยางกับพวกก็เหม

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1131

    จู๋เยวี่ยรีบตรวจดูใบหน้าของหลานซื่อเป็นอย่างแรกแน่นอน หลานซื่อไม่ได้รับบาดเจ็บเพราะนางสวมหน้ากากอยู่บนใบหน้าตลอดเวลาเพียงแต่ถึงแม้ใบหน้าจะไม่ถูกยิงบาดเจ็บ แต่ลูกธนูดอกนั้นกลับปัดหน้ากากบนใบหน้าของนางออกไปใบหน้าที่เย็นชาดุจเทพธิดาถูกเปิดเผยต่อสายตาของทุกคนในป่าเขาทันทีเก่อถูมองจนตะลึงงันอยู่กับที่สตรีต่างเผ่ามีไม่น้อย หญิงต่างเผ่าที่สะสวยก็มีไม่น้อยแต่สตรีที่งดงามราวกับเดินออกมาจากภาพวาด งามดั่งเทพธิดาเช่นนี้ กลับมีน้อยจนเขาไม่เคยเห็นมาก่อนเลย!ไม่ถูก!เก่อถูได้สติกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว เขาเบิกตากว้างมองหญิงงามที่อยู่ตรงหน้า ใบหน้าอวบหนาของเขาเผยรอยยิ้มที่ตื่นเต้นและเหิมเกริมออกมาทันที “ท่านเป็นหญิงหรือ? ไม่สิ ท่านน่ะเป็นหญิง!”“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ไม่นึกเลยว่าต้าหมิงจะมีสตรีที่งดงามเช่นนี้ มิหนำซ้ำยังมาหาถึงที่อีก ดีจริง ดีเหลือเกิน!”เก่อถูหัวเราะลั่น อาจเป็นเพราะคล้อยตามอารมณ์ของเขา หรืออาจเป็นเพราะเสน่ห์ของความงามที่เย้ายวน ทหารต่างเผ่าที่เขาพามาด้านหลังต่างก็อดไม่ได้ที่จะร้อนรนขึ้นมาสายตาหลายคู่จับจ้องหลานซื่อ มีไม่น้อยที่เผยความหยาบโลนอันน่ารังเกียจออกมาแน่นอน เวลานี้ไม

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1130

    เก่อถูโกรธจัดถึงขีดสุด สาบานว่าจะต้องสังหารหลานซื่อกับพวกให้ได้ทหารชั้นยอดที่ประตูเมืองตายไปเกือบหมด แต่ในเมืองเขายังมีกำลังคนอยู่หลังจากระดมทหารต่างเผ่าสองร้อยนายอย่างรวดเร็ว เขาก็รีบพาคนไล่ล่าไปตามทิศทางที่หลานซื่อกับพวกหนีไปทันทีเวลานี้หลานซื่อและเกาหยางกับพวกได้หนีออกมาเป็นระยะทางพอสมควรในเวลาอันสั้นแต่ถึงกระนั้น เกาหยางกับพวกก็ยังคงรู้สึกตกใจไม่หายไม่ใช่เพราะทหารที่ไล่ตามมาด้านหลัง แต่เป็นเพราะที่ประตูเมืองเมื่อครู่นี้พวกเขาสามารถรอดชีวิตมาได้อย่างปลอดภัยท่ามกลางผงพิษร้ายแรงเรื่องนี้ช่างน่าตกตะลึง แปลกประหลาด และน่ายำเกรงเกินไปแล้วกองทัพธงดำจำนวนไม่น้อยอดไม่ได้ที่จะแอบมองผีเสื้อสีทองตัวนั้นที่อยู่บนศีรษะของธิดาศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาเมื่อครู่ผีเสื้อตัวเล็ก ๆ เพียงตัวหนึ่ง ใช้ผงเกล็ดพิษร้ายที่กระพือออกจากปีกของมัน ล้มทหารต่างเผ่าไปเป็นจำนวนมากสภาพทหารต่างเผ่าเหล่านั้นที่กลายเป็นกระดูกแห้งในชั่วพริบตา ทำให้พวกเขายังคงจดจำได้ติดตาจนถึงตอนนี้ ไม่มีทางลืมได้เลยอย่าว่าแต่กองทัพธงดำเหล่านี้ แม้แต่เกาหยางก็ยังไม่นึกว่า จะมีแมลงที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้อยู่ข้างกายธิดาศักดิ์

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1129

    ทหารต่างเผ่าหลายสิบคนที่พุ่งเข้ามาล้วนแต่ร่างสูงใหญ่กำยำ มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเป็นขุนพลที่เก่งกาจในการต่อสู้ถึงอย่างไรก็เคยพลาดมาแล้วครั้งหนึ่ง องค์ชายใหญ่และองค์ชายรองสองพี่น้องคู่นี้ตัดสินใจแล้วว่าจะแก้แค้นหลังจากได้ยาถอนพิษ แล้วจะไม่มีการเตรียมตัวเพิ่มได้อย่างไรดังนั้นครั้งนี้พวกเขาจึงตั้งใจคัดเลือกทหารที่แข็งแกร่งที่สุดในมือ ปลอมตัวเป็นทหารลาดตระเวนในวังหลวง ทั้งหมดฟังคำสั่งของเก่อถูคำสั่งขององค์ชายใหญ่ต่อเก่อถูมีเพียงข้อเดียว...หลังจากได้ยาถอนพิษแล้ว ให้สังหารชาวต้าหมิงเหล่านี้ทันที!ไม่ว่าต้องจ่ายด้วยราคาใดก็ตาม เอาเป็นว่าห้ามปล่อยให้หนีไปได้แม้แต่คนเดียว!เขาต้องการให้หลานซื่อกับพวกสิ้นชีพในวังหลวงทั้งหมด!ไม่ว่านางจะมีฐานะอะไรก็ตามหากเก่อถูรู้จักตัวตนที่แท้จริงของหลานซื่อ บางทีเขาอาจทัดทานองค์ชายใหญ่ของพวกเขา เพราะหากธิดาศักดิ์สิทธิ์แห่งต้าหมิงสิ้นชีพในวังหลวงจริง เกรงว่าจะนำความยุ่งยากไม่น้อยมาสู่พวกเขาแต่ตอนนี้เก่อถูไม่รู้ดังนั้นเขาจึงปฏิบัติตามคำสั่งที่องค์ชายใหญ่ของพวกเขามอบหมายให้ด้วยความภักดีเป็นอย่างยิ่งทหารต่างเผ่าคนอื่น ๆ ทั้งหมดกรูเข้าล้อมสังหารเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status