แชร์

บทที่ 2

ผู้เขียน: จิ้งซิง
พิธีปักปิ่นอันใด?

พิธีปักปิ่นของยางผ่านไปนานแล้วไม่ใช่หรือ?

ความอัปยศที่ได้รับในพิธีปักปิ่นเวลานั้น นางยังคงได้จำได้จนถึงทุกวันนี้

เสียงหัวเราะเยาะของแขกทั้งหลาย การเยาะเย้ยถากถางของพี่ชาย การถอนหมั้นของคู่หมั้น รวมไปถึงการตำหนิของบิดามารดา...

นางเคยผ่านสถานการณ์เช่นนั้นมาแล้วครั้งหนึ่ง

ทว่าตอนนี้ เหตุใดถึงเป็นพิธีปักปิ่นอีกเล่า?

หรือว่าเวินเยวี่ยจะเล่นปาหี่ใหม่อะไรอีก อยากให้นางอับอายขายหน้าอีกครั้งแล้วค่อยส่งนางไปตายหรือ?!

เวินซื่อหายใจถี่กระชั้นขึ้นในพริบตา

แต่ในตอนที่นางกำลังจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ สายตาของนางกลับหยุดชะงักไปทันที

เดี๋ยวก่อน!

นางเบิกตาโต จ้องมองมือสองข้างที่สมบูรณ์ไร้บาดแผลของตัวเอง แล้วก้มหน้ามองขาเท้าสองข้างของตัวเองทันที ใบหน้าค่อย ๆ ฉายแววเหมือนไม่อยากจะเชื่อ

มือและเท้าของนางถูกทำลายจนพิการไปแล้วไม่ใช่หรือ?

เหตุใดตอนนี้กลับหายดีหมดแล้ว?

นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?

ควรรู้เอาไว้ว่าเอ็นมือเอ็นเท้าของนางถูกตัดจนขาดหมดแล้ว ไม่มีทางฟื้นฟูกลับมาได้อีก!

เวินซื่อที่ตระหนักได้ถึงความผิดปกติจึงค่อย ๆ หันหน้ากลับมามองห้องนี้อีกครั้ง

เป็นการตกแต่งทั้งหมดที่ค่อย ๆ ผสานเข้ากับในความทรงจำ

นางเบนสายตาไปยังโต๊ะเครื่องแป้งที่อยู่ด้านหนึ่งของห้อง

เดินเข้าไปทีละก้าว เรือนร่างเพรียวบางค่อย ๆ สะท้อนอยู่บนกระจกทองแดง

ดวงหน้าอ่อนเยาว์ หน้าตาที่สมบูรณ์ดี และเครื่องแต่งกายที่อ่อนวัย...

นี่เห็นได้ชัดว่าเป็นรูปลักษณ์ของนางก่อนที่จะโดยเวินเยวี่ยทำลายใบหน้า และเป็นรูปลักษณ์ของนางก่อนพิธีปักปิ่น!

มือเท้าที่สมบูรณ์ ห้องที่คุ้นเคย และใบหน้าที่ไม่มีรอยแผลเป็นสักนิดเดียว...

เวินซื่อพลันผุดการคาดเดาอันน่าเหลือเชื่อขึ้นในก้นบึ้งของจิตใจ...

...หรือว่านางกลับมาเกิดใหม่แล้ว?

ย้อนกลับมาวันพิธีปักปิ่นของนาง?

เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ เวินซื่อก็เอามือทั้งสองข้างปิดหน้าตัวเอง เผยให้เห็นสีหน้าคลุ้มคลั่ง

ใช่แล้ว ใช่แล้ว...

นางตายไปนานแล้ว!

ตายภายใต้ดาบของเวินจื่อเยวี่ย!

น่าเสียดาย นายไม่ได้ตายไปเลย

นางเกิดใหม่แล้ว?!

เหอะ!

สวรรค์ช่างชอบกลั่นแกล้งนางเสียจริง

ทั้ง ๆ ที่นางไม่อยากมีความเกี่ยวพันใด ๆ กับตระกูลเวินอีกต่อไปแล้ว แต่สวรรค์กลับอยากให้นางกลายเป็นบุตรสาวของตระกูลเวินอีกครั้ง!

เวินซื่อกัดริมฝีปากแน่นจนเลือดเกือบจะไหลออกมา

หลังจากที่ได้ลิ้มรสชาติคาวเลือด นางถึงใจเย็นลงในที่สุด ก่อนจะทำสีหน้าเฉยเมย

แม้สวรรค์จะเล่นตลกกับนาง แต่ดูเหมือนว่าการเล่นตลกนี้ก็ไม่ใช่ว่าไม่อาจใช้ประโยชน์ได้เหมือนกัน

ถึงอย่างไรแม้แต่ความตายนางก็ยังไม่กลัว แล้วนางยังจะกลัวการมีชีวิตอยู่หรือไร?

ชาติที่แล้ว

นางเป็นบุตรสาวภรรยาเอกที่ได้รับความรักความเอ็นดูที่สุดของจวนเจิ้นกั๋วกง ตั้งแต่เล็กก็เป็นน้องห้าที่พี่ชายทั้งสี่คนโปรดปรานที่สุด เป็นบุตรสาวคนเล็กที่บิดาปกป้องมากที่สุด

กล่าวได้ว่าก่อนอายุสิบห้านางเป็นไข่มุกในมือของทั้งจวนเจิ้นกั๋วกง

ทว่าจนกระทั่งเวินซื่ออายุสิบห้า บิดาพาเด็กสาวคนหนึ่งมาจากข้างนอก บิดาบอกว่านั่นเป็นบุตรสาวอีกคนที่เขาทิ้งไว้ข้างนอก เป็นน้องสาวของพวกเขา ชื่อว่าเวินเยวี่ย

และตั้งแต่นั้นมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

ท่านพ่อให้ความสนใจเวินซื่อน้อยลงเรื่อย ๆ และเอาใจใส่น้องสาวมากขึ้นเรื่อย ๆ

พี่ชายทั้งสี่คนก็พากันเก็บความรักความเอ็นดูที่เคยมอบให้นางคืนกลับไป แล้วเปลี่ยนไปมอบสิ่งเหล่านี้ให้กับเวินเยวี่ยทั้งหมด

ชาติก่อนนางไม่รู้เลยว่าตนเองทำความผิดอันใด

นางพยายามคิดหาทางกู้กลับคืนมา แต่สิ่งที่แลกมาคืออะไร?

ขอเพียงเวินเยวี่ยร้องไห้

พี่ใหญ่บังคับให้นางคุกเข่าต่อหน้าผู้คน

พี่รองตัดมือเท้าทั้งสองข้างของนาง

พี่สามทรมานนางอย่างหนัก

พี่สี่ทำลายโฉมหน้าและชื่อเสียงของนาง

แม้แต่บิดาก็ขับนางออกจากวงศ์ตระกูล ไล่ออกจากบ้านเพื่อเวินเยวี่ยด้วยคำพูดประโยคเดียวว่า “ไม่คู่ควรกับแซ่เวิน” ตั้งแต่นั้นมานางก็กลายเป็นที่จงเกลียดจงชังที่ทุกคนในเมืองหลวง

เวลาสามปีสั้น ๆ บุตรสาวภรรยาเอกของจวนกั๋วกงที่สูงส่งอย่างนางก็มีจุดจบด้วยการสูญเสียทั้งฐานะและชื่อเสียงเกียรติยศ

นางสิ้นหวังหมดกำลังใจ เดิมทีเตรียมตัวจะออกจากสถานที่แห่งความโศกเศร้าเสียใจอย่างเมืองหลวง คิดจะหาสถานที่เริ่มต้นชีวิตใหม่ใช้ชีวิตอย่างเงียบ ๆ ปิดบังตัวตน

ทว่าจู่ ๆ เวินเยวี่ยกลับใส่ความว่านางขโมยหยกแขวน สกุลเวินจึงส่งคนไปจับตัวนางกลับมาทันที บีบบังคับให้นางมอบหยกแขวนออกมา

เรื่องที่น่าขันคือ จนกระทั่งตอนสุดท้าย นางยังคาดหวังว่าพวกเวินเฉวียนเซิ่งจะเห็นแก่ความรักความผูกพันที่มีต่อนางอยู่บ้างหรือไม่

แต่ผลสรุปของการเอาชีวิตมาเดิมพันก็คือความผิดเพ้อฝัน!

เวินซื่อสูดลมหายใจลึก หลับตาตัดขาดจากความทรงจำอันแสนทุกข์ทรมานในชาติที่แล้วของตน

บางทีของพวกนั้นอาจไม่ใช่ของนางเลย

ดังนั้นนางไม่ควรฝืนมาตั้งแต่แรกแล้ว

ไม่เป็นไร ชาติที่แล้วเลือกผิด ชาตินี้นางจะเปลี่ยน!

“แกรก”

ในตอนนี้เอง หยกแขวนที่คุ้นเคยพลันร่วงลงมาจากร่างของเวินซื่อ

เมื่อเวินซื่อที่ได้สติกลับมาเพราะความเคลื่อนไหวมองไป นางก็ดีอกดีใจไม่หยุดทันที “เป็นหยกแขวนของท่านแม่นี่นา!”

นางรีบหยิบหยกแขวนขึ้นมา เช็ดฝุ่นบนนั้นอย่างระมัดระวัง

แต่การเช็ดครั้งนี้กลับทำให้นางพบความผิดปกติ “หยกแขวนหักแล้ว?”

นางจำได้ว่าหยกแขวนที่มารดาให้นางคือหยกทรงวงกลมคู่ ทว่าตอนนี้หยกแขวนชิ้นนี้กลับหักไปครึ่งหนึ่ง เหลือเพียงชิ้นตรงกลางเท่านั้น

นางค้นหาไปทั่ว แต่ก็ยังหาไม่เจอ

สุดท้ายนางทอดสายตาไปที่หยกแขวนอีกครั้ง มองรอยหักที่เรียบเสมอกันนั้นแล้วสงสัยเล็กน้อย

“หรือว่าอีกครึ่งหนึ่งของหยกแขวนนี้ไม่ได้ร่วงลงมา?”

นางยื่นมือไปลูบจุดที่หัก ใครจะรู้ว่าวินาทีต่อมา นางจะหายตัวไปจากที่เดิมในพริบตา

หลังจากที่วิงเวียนอยู่ชั่วครู่ เวินซื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง กลับพบว่าตนเองไม่ได้อยู่ในห้องเดิมแล้ว แต่ว่าอยู่ในพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลปกคลุมด้วยหมอกขาว

ที่นี่คือที่ใด?

เวินซื่อนั่งยองลงมาสัมผัสทุ่งหญ้าข้างใต้เท้าที่ให้ความรู้สึกสมจริงอย่างยิ่ง การคาดคะเนอย่างกล้าหาญพรั่งพรูขึ้นมาในความคิดของนาง

ที่นี่คงไม่ได้อยู่ในหยกแขวนกระมัง?

นอกจากนี้ยังมีเรื่องการเกิดใหม่ของนางอีก หรือว่าจะเกี่ยวข้องกับหยกแขวนนี้ด้วย?

เวินซื่อข่มกลั้นความสงสัยในใจ มองไปรอบด้าน มิติแห่งนี้ไม่ได้ซับซ้อนเลย มีทุ่งราบ ลำธารใสกระจ่าง นอกจากนี้ยังมีกระท่อมฟางที่สร้างอย่างเรียบง่ายมาก

นางเดินเข้าไปดู น่าเสียดายที่ไม่มีคนอยู่ข้างใน ดูไม่เหมือนว่าเคยมีคนอาศัยมาก่อน

นางออกจากระท่อมฟางแล้วเดินไปข้างหน้า ถึงค่อยพบว่าปลายอีกฝั่งของลำธารเหมือนจะปลูกพืชพรรณดอกไม้ไว้มากมาย

ผิดแล้ว ไม่พืชพรรณดอกไม้

เวินซื่อรีบเดินเข้าไปใกล้ เบิกตาโตมองให้ละเอียด

นี่มันโสมคน?

เห็ดหลิงจือ?

โสมทะเลทราย?

สือหูผิวเหล็ก?

ยังมีถังเช่าด้วย?

นอกจากพวกนี้แล้ว ยังมีพืชสมุนไพรอีกมากมายที่เวินซื่อแทบไม่รู้จัก

ทว่าแค่นางจำออกมาได้หลายชนิดนั้นก็คาดเดาได้ว่าทั้งหมดที่ปลูกในนี้ล้วนเป็นสมุนไพร

นอกจากนี้มีหลายชนิดยังเป็นสมุนไพรมายากยิ่ง

แต่สมุนไพรเหล่านี้เติบโตในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน บางชนิดอยู่บนหน้าผา บางชนิดอยู่ในป่าลึก บางชนิดต้องการสภาพแวดล้อมที่หนาวเย็นสุดขีด หรือว่ามีความร้อนสูงจัด...

สมุนไพรที่มีความต้องการแตกต่างกันมากมายเช่นนี้ล้วนปลูกขึ้นที่นี่ได้ทั้งหมด!

หรือว่าเป็นเพราะมิติแห่งนี้?

ไม่สิ ยังมีน้ำด้วย!

เวินซื่อพบว่ายิ่งเป็นสมุนไพรที่ปลูกยากก็จะยิ่งอยู่ใกล้ลำธาร เกรงว่าน้ำในลำธารก็เป็นหนึ่งในปัจจัยท่ามารถทำให้สมุนไพรเหล่านี้เติบโตขึ้นที่นี่

เวินซื่อมองทุกสิ่งทุกอย่างนี้ แล้วอดพึมพำกับตัวเองไม่ได้ “ท่านแม่ หยกแขวนที่ท่านทิ้งไว้ให้ข้าคืออะไรกันแน่?”

หลังจากที่ตกตะลึง เวินซื่อพลันนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

ชาติที่แล้วจู่ ๆ เวินเยวี่ยบีบบังคับให้นางมอบหยกแขวนออกมา หรือว่าเวลานั้นเป็นเพราะนางค้นพบมิติแห่งนี้?

แต่ก็ไม่ถูกเหมือนกัน หยกแขวนชิ้นนี้ไม่เคยออกห่างจากตัวนางเลย

หากไม่ใช่เพราะวันนี้นางเข้ามาในนี้โดยบังเอิญ นางก็คงไม่สามารถค้นพบมิติแห่งนี้ได้เลย

อีกทั้งดูจากท่าทางก่อนหน้านี้ของเวินเยวี่ย เห็นได้ชัดว่าไม่รู้เรื่องเช่นกัน

ดังนั้นหากไม่มีคนอื่นล่วงรู้ว่าหยกแขวนชิ้นนี้มีมิติอยู่แล้วค่อยบอกเวินเยวี่ย ก็เป็นเวินเยวี่ยไม่ได้ทำเพื่อมิติเลย แต่เป็นเพราะสาเหตุอื่น

ไม่รู้ว่าเหตุใดลางสังหรณ์ในใจของเวินซื่อเอนเอียงไปทางอย่างหลังมากกว่า

แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ตอนนี้นางรู้ความลับนี้แล้วก็ต้องซ่อนหยกแขวนไว้ให้ดี ไม่อาจให้ใครสังเกตเห็นได้เป็นอันขาด!

ตอนนี้มีมิติของหยกแขวนอยู่ในมือเช่นนี้ แผนการที่เวินซื่ออยากจะแก้แค้นเวินเยวี่ยกับคนของสกุลเวินก็ยิ่งมีความมั่นใจขึ้นเล็กน้อยว่าจะประสบความสำเร็จ

หลังจากที่นางทำความเข้าใจวิธีการเข้าออกมิติของหยกแขวน ไม่นานก็กลับมาที่ห้อง

นางไม่อาจอยู่ในมิตินานเกินไป ถึงอย่างไรวันนี้เป็นพิธีปักปิ่นของนาง นางรู้ว่าจะมีคนมาหานาง

แต่สิ่งที่เวินซื่อไม่รู้คือ หลังจากที่นางออกจากมิติของหยกแขวน จวนใหญ่อีกแห่งของเมืองหลวง หรือก็คือภายในจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน ชายหนุ่มรูปงามที่พิงข้างหน้าต่างงีบหลับพลันตื่นขึ้นมาจากฝัน

เขาหยิบหยกแขวนบนโต๊ะขึ้นมา มองหยกแขวนทรงวงกลมคู่ที่ไม่รู้ว่าเหตุใดจู่ ๆ ถึงเหลือเพียงครึ่งเดียว ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย

.....

“ปัง!”

“น้องห้า ไสหัวออกมานะ!”

“อย่าคิดว่าเจ้าหลบอยู่ในห้องแล้ว ข้าจะไม่กล้ามาหาเจ้า!”

ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ท่าทางดุดัน น้ำเสียงดูหัวเสีย ราวกับสิงโตที่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดบุกเข้ามาในห้องของคุณหนูห้าเวินซื่อ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (6)
goodnovel comment avatar
onnalin
กลับมาที่เก่า เริ่มต้นใหม่ เช็ง
goodnovel comment avatar
Suthada
อ่านอย่างทำใจ
goodnovel comment avatar
ฉัตรชนก วงค์สูน
น่าสนใจมาก
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 938

    “บ้าเอ๊ย นางกลับกล้าทำแบบนี้กับจวนจงหย่งโหวของเราเช่นนี้!”หากเป็นแบบนี้ต่อไป เกรงว่าไม่เพียงแค่นางเท่านั้น แต่ท่านโหวและเส้าเจ๋อของนาง จะกลายเป็นหุ่นเชิดที่ถูกควบคุมโดยหญิงชั่วเวินเยวี่ยคนนั้นด้วย!เวินหย่าลี่นึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของหลานซื่อ รีบถามว่า “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ หากท่านล่าช้าไปอีกสิบวันถึงครึ่งเดือนไข่แมลงพวกนี้จะฟักออกมา ถึงตอนนั้นท่านโหวของเราจะหมดทางช่วยเหลือแล้วหรือเปล่า?”หลานซื่อลูบคางพูดว่า “ใช่ว่าจะหมดทางช่วยเหลือโดยสิ้นเชิง แต่ถึงแม้จะรอดมาได้ ก็จะกลายเป็นคนไม่สมประกอบ ไม่โง่เขลาก็พิการ”“อย่างนั้นก็ไม่ได้การ! จำเป็นต้องรีบช่วยท่านโหวและเส้าเจ๋อ!”เวินหย่าลี่ไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ก้าวไปข้างหน้าพลางคุกเข่าลง คุกเข่าลงตรงหน้าหลานซื่อทันที เอ่ยขอร้องอย่างเป็นกังวล “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ หม่อมฉันรู้ว่าท่านต้องมีวิธี ได้โปรดช่วยท่านโหว ช่วยลูกชายของข้าด้วย!”“ใช่แล้ว!”นางพูดไปก็นึกถึงอะไรออกในทันใด รีบล้วงของสิ่งหนึ่งที่ห่อด้วยผ้าเช็ดหน้าออกมาจากแขนเสื้อของตัวเอง “ของสิ่งนี้ เป็นสมบัติของประมุขตระกูลหลานของพวกท่าน”นางเปิดผ้าเช็ดหน้าออก เผยให้เห็นสิ่งของข้างในเป็นตราหยก

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 937

    เวินหย่าลี่มองไปที่ไข่แมลงกองนั้น ไม่อาจเชื่อได้เลยทำไมในร่างกายของนางถึงได้มีสิ่งที่น่ากลัวมากมายเช่นนี้อยู่?!ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?เป็นใคร...ไม่ใช่สิ นางรู้ว่าเป็นใคร!เรื่องราวมาถึงขั้นนี้ นอกจากหญิงชั่วเวินเยวี่ยคนนั้นแล้วจะยังมีใครได้อีกเล่า!และสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ สิ่งที่หลานซื่อพูดกับนางในเวลาต่อมา...“ไข่แมลงเหล่านี้ยังมีชีวิตอยู่ ดูจากขนาดของมันแล้วน่าจะอาศัยอยู่ในร่างกายของท่านมาสักพักแล้ว อืม...ไม่น่าจะน้อยกว่าหนึ่งเดือนกระมัง”กล่าวอีกนัยหนึ่ง ความจริงเวินเยวี่ยได้ลงมือกับผู้คนในจวนจงหย่งโหวไปตั้งนานแล้วเพียงแต่เมื่อไม่นานมานี้ ไข่แมลงในร่างกายของเวินหย่าลี่และคนอื่น ๆ ค่อย ๆ คงที่ ถึงได้เริ่มหยุดอำพรางโฉมหน้าที่แท้จริงของนางแล้ว“ยัง...ยังมีชีวิตอยู่หรือ? อย่าบอกนะว่าสิ่งเหล่านี้ยังฟักออกมาได้?!”เวินหย่าลี่ถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือหลานซื่อพยักหน้า “ถูกต้อง หากท่านล่าช้าไปสิบกว่าวันถึงครึ่งเดือนแล้วล่ะก็ แมลงพวกนี้น่าจะสามารถฟักตัวภายในร่างกายของท่านได้ จากนั้นก็เจาะเข้าไปในอวัยวะภายในของท่าน แขนขาทั้งสี่และกระดูกทั้งหมด เจาะเข้าไปแม้กระทั่งสมองของ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 936

    “ถ้าเป็นเวินเยวี่ยล่ะก็ จริงที่ว่าจะไม่มีทางปล่อยท่านไปง่าย ๆ เพราะอย่างไรตอนแรกที่นางแต่งเข้าไปในจวนจงหย่งโหวของพวกท่าน ก็ได้รับความทนทุกข์มาก”หลานซื่อพูดด้วยแววตาที่แฝงความหยอกล้อเอาไว้ ดูแสร้งยิ้มเวินหย่าลี่เผยความกระดากอายออกมาทางสีหน้าทันที “แต่นางเป็นคนวางแผนคิดร้ายกับเส้าเจ๋อของเราก่อน...”“เอาล่ะ ไม่จำเป็นต้องอธิบายแล้ว”หลานซื่อบอกให้นางหุบปากทันที ขี้เกียจจะฟังคำพูดไร้สาระเหล่านั้นของนาง“ในร่างกายของท่านนอกจากพิษงูที่หลงเหลืออยู่เล็กน้อย ก็ไม่มีพิษอื่นแล้ว แต่กลับมีอย่างอื่นอีกเล็กน้อย”“ข้ารู้อยู่แล้วเชียว!”เวินหย่าลี่เบิกตากว้างในทันใด ตื่นเต้นมากจนไม่สนใจชื่อเรียกของตัวเองด้วยซ้ำ มองหลานซื่อด้วยความร้อนใจ “มันคืออะไร? นางทำอะไรกับร่างกายของข้ากันแน่?!”“ในช่วงเวลานี้ ท่านได้กินหรือดื่มอะไรที่นางให้มาบ้างหรือเปล่า?”หลานซื่อไม่ตอบนางโดยตรง แต่กลับย้อนถามเวินหย่าลี่ยิ่งรู้สึกกระดากอาย “นางไม่เคยนำอาหารอะไรมาให้ข้า...หม่อมฉันกับมือเลย แต่ตอนนี้จวนจงหย่งโหวของเราอยู่ภายใต้การควบคุมของนางแล้ว ของกินดื่มอะไร นางก็ไม่จำเป็นต้องลงมือทำเอง มีคนไปทำให้”ดังนั้นหากเวิ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 935

    “ให้นางเข้ามาสิ”หลานซื่อกลับไปที่ข้างโต๊ะแล้วนั่งลงเมื่อเป่ยเฉินหยวนได้ยินว่ามีคนมา ก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเขาจำฮูหยินจงหย่งโหวท่านนั้นได้ ดูเหมือนจะเป็นน้องสาวของเจิ้นกั๋วกง อดีตน้าหญิงของอู๋โยวกระมัง?ครั้งหนึ่งเคยใส่ความอู๋โยวว่าขโมยของจากครอบครัวของนาง ความสัมพันธ์กับอู๋โยวดูจะแย่ทีเดียวเหตุใดวันนี้ถึงมาหาอู๋โยวได้?ไม่ใช่ว่าเป่ยเฉินหยวนคิดมากเกินไปแต่ที่สำคัญคือวันนี้ หากเวินหย่าลี่มาร่วมงานเลี้ยงในฐานะฮูหยินจงหย่งโหว ก็ไม่เห็นจะต้องมาหาหลานซื่อตามลำพังเมื่อครู่ไม่เห็นนางที่งานเลี้ยง ตอนนี้กลับมาหานางแบบส่วนตัวเห็นได้ชัดว่าผิดปกติเป่ยเฉินหยวนมองไปทางหลานซื่อ “ต้องการให้ข้าช่วยเหลืออะไรไหม?”หลานซื่อส่ายศีรษะ “แค่เรื่องเล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องให้ท่านอ๋องลงมือ”“แล้วต้องให้ข้าหลบไปหรือไม่”“ไม่ต้องเช่นกัน หากท่านอ๋องอยากรู้ก็สามารถอยู่ฟังได้ ถือว่าเป็นเรื่องสนุก ๆ ก็พอ”เมื่อได้ยินคำพูดที่ไร้กังวลและไม่หลบเลี่ยงของหลานซื่อเช่นนี้ เป่ยเฉินหยวนก็อดแย้มมุมปากไม่ได้วินาทีต่อมา เขาก็นั่งลงตรงข้ามกับหลานซื่อเช่นกันไม่นาน ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านนอกประตูเวินหย่าล

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 934

    “ประมูลตระกูลหลานไม่จำเป็นต้องทักทายพวกเรา แค่เอาเหล้าฮัวเตียวมาสักหน่อย พวกเราก็จัดการกันเองได้แล้ว”เสนาบดีฉีในฝูงชนก็พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มเช่นกันล้วนเป็นคนเฉลียวฉลาดกันทั้งนั้น ย่อมรู้ดีว่าเหตุการณ์คั่นเวลาเมื่อครู่มันเกิดอะไรขึ้นดังนั้นนี่คือการให้หลานซื่อจัดการกับนางก่อน ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าบรรดาแขกเหรื่อจะไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อนเพราะถึงอย่างไรก็ยังมีพ่อตาฮ่องเต้ที่คอยช่วยสนับสนุนนาง และแม้แต่เสนาบดีฉีเองก็เริ่มเอ่ยปากถาม โดยมีใต้เท้าสองคนนี้อยู่ด้วย ยังให้เกียรติกันไม่พออีกหรือ?หลานซื่อที่มองเห็นเจตนาดีของทั้งสองก็ไม่ปฏิเสธ ตอนนี้นางก็ยังมีเรื่องต้องจัดการด้วยจริง ๆ“ขอบคุณทุกท่านที่เข้าใจ ทุกท่านกินดื่มให้เต็มที่ หากมีความต้องการอะไรก็สั่งคนรับใช้ในจวนได้เลย หากดูแลไม่ทั่วถึง ก็ต้องขออภัยด้วย”จนกระทั่งตอนนี้ หลานซื่อก็ยังเกรงใจและสุภาพมากแม้ว่าวันนี้จะมีแขกเหรื่อมามากมาย แต่ก็ไม่มีใครพูดได้ว่าประมูลตระกูลหลานคนใหม่นี้ดูแลไม่ทั่วถึงหรือผิดพลาด”เพราะถึงอย่างไรอีกหนึ่งสถานะของนาง ก็คือธิดาศักดิ์สิทธิ์ที่เทียบเท่าองค์หญิงเมื่อพบนาง ควรเป็นพวกเขามากกว่าที่ต้องคุกเข่า

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 933

    ขณะที่อันหมิงจูกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง อันปี่เค่อก็ชิงพูดก่อนนางหนึ่งก้าวด้วยน้ำเสียงจนปัญญา “เอาล่ะ ลูกสาวแสนดี เจ้าดูสภาพเจ้าในตอนนี้สิ อย่าเสียเวลาอยู่ที่เรือนของธิดาศักดิ์สิทธิ์ต่อไปเลย พ่อจะพาเจ้ากลับไปก่อน มีอะไรเอาไว้วันหลังค่อยคุยกัน เร็วเข้า บอกลาธิดาศักดิ์สิทธิ์สักคำ”เมื่อได้ยินเช่นนี้ อันหมิงจูจะทำอะไรได้อีกนางทำได้เพียงอดทนกับอารมณ์คับข้องใจ เอาเสื้อกันลมที่สาวใช้เอามาให้คลุมไหล่ ปกปิดร่างกายเอาไว้ พร้อมกับทำความเคารพหลานซื่ออย่างไม่เต็มใจนัก“ขออภัยด้วยธิดาศักดิ์สิทธิ์ ข้าน้อยขอลา”หลานซื่อเหลือบมองนางอย่างเฉยชาเดิมทียังไม่อยากปล่อยอันหมิงจูและคนอื่น ๆ ไปง่าย ๆ แบบนี้ แต่ไม่นึกว่าอันปี่เค่อผู้นี้จะตาไวเช่นนี้สังเกตเห็นภัยอันตรายในชั่วพริบตา จากนั้นก็ตัดสินใจถอนตัวโดยไม่ลังเลถ้าเป็นเฒ่าสารพัดพิษอย่างเวินเฉวียนเซิ่งนั่น ต้องกลับมาลองหยั่งเชิงอีกครั้งอย่างแน่นอนยากที่จะรับมือจริง ๆหลานซื่อหรี่ตาลง “คุณหนูใหญ่สกุลอันตกน้ำตื่นตกใจ ทำไมไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าที่สกุลหลาน ดื่มน้ำแกงขิงสักหน่อยแล้วค่อยไปล่ะ? จะได้ไม่เป็นหวัด”“แค่ก ๆ ขอบคุณธิดาศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นห่วง แต่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status