Share

บทที่ 483

Author: จิ้งซิง
เป่ยเฉินหยวนเห็นนางดูเหมือนจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง จึงเอ่ยปากขึ้น “แค่พวกโจรไม่กี่คนเท่านั้นเอง กวาดล้างหมดสิ้นแล้ว”

ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

นึกไม่ถึงเลยว่านางจะไม่สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวใด ๆ เลย!

เวินซื่อเบิกตากว้าง การแสดงออกทางสีหน้ามีความตกใจมากทีเดียว

“วางใจได้ ข้าจะไม่ปล่อยให้พวกเขามารบกวนท่าน”

เขาจัดการได้อย่างสะอาดหมดจด ทุกครั้งโจรและนักฆ่าเหล่านั้นยังไม่ทันได้เฉียดข้างกายเวินซื่อ ก็ถูกเป่ยเฉินหยวนกำจัดทั้งหมดแล้ว

หลังจากสังหารจนหมดสิ้น เป่ยเฉินหยวนก็รู้สึกแปลก ๆ

เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย

คนเหล่านั้นดูเหมือนจะไม่ได้เจาะจงที่อู๋โยวเพียงผู้เดียว มีดดาบของสองคนในนั้นวาววับอยู่ข้างลำตัวของเขาอย่างชัดเจน

คนกลุ่มนี้จับจ้องพวกเขาทั้งสองคน

จะเป็นใครกันนะ?

ใครกันที่หาญกล้าเช่นนี้ กล้าพุ่งเป้าไปที่อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนและธิดาศักดิ์สิทธิ์ในเวลาเดียวกัน?

ในเมื่อถูกกำจัดหมดแล้ว เวินซื่อก็ไม่อยากเสียอารมณ์ จึงยังไม่ได้ว่าอะไร พลางยิ้มกล่าวว่า “เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ ใกล้จะถึงริมแม่น้ำแล้วพอดี”

ถนนที่จัดงานเทศกาลโคมไฟอยู่ไม่ไกลจากริมแม่น้ำ

ดังนั้นทุกครั้งที่มีการจัดงานเทศกาลโคมไฟในเมืองหล
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
ต็อกสีรุ้ง
คำอธิษฐานซึ้งมากเลย สั้นๆ ง่ายๆ แต่ปรารถนาดีเต็ใหัวใจ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 484

    “นักฆ่าในงานเทศกาลโคมไฟ ท่านมีใครที่น่าสงสัยบ้างหรือไม่?”ระหว่างทางไปส่งเวินซื่อกลับอารามสุ่ยเยว่ เป่ยเฉินหยวนได้ถามขึ้น“คนที่ต้องการฆ่าข้าก็มีเพียงไม่กี่คน ถ้าไม่ใช่คนของจวนเจิ้นกั๋วกง ก็เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังเวินเยวี่ย ข้าเอนเอียงไปทางผู้ลึกลับกลุ่มนั้นที่อยู่เบื้องหลังเวินเยวี่ยมากกว่า”เวินซื่อนึกถึงที่จู๋เยวี่ยบอกนางไว้ก่อนหน้านี้ ยอดฝีมือลึกลับที่เฝ้าอยู่ในเรือนของเวินเยวี่ยผู้นั้นในเมื่อมีคนลอบสังหาร ก็ต้องเกี่ยวข้องกับยอดฝีมือลึกลับผู้นั้นเป็นแน่แต่ในขณะนี้เป่ยเฉินหยวนได้บอกว่า “ไม่ได้มีแค่กลุ่มเดียว”“หืม?”เวินซื่อมองไปยังเป่ยเฉินหยวนที่อยู่นอกหน้าต่างด้วยความฉงนเป่ยเฉินหยวนอธิบายว่า “คืนนี้ในบรรดาผู้ที่ลอบสังหาร มีสองคนที่มีทักษะแตกต่างจากคนอื่น ๆ”เวินซื่อแปลกใจขึ้นมาทันที “ยังมีคนต้องการฆ่าข้าด้วยหรือ?”“หรือบางทีอาจจะไม่ได้ต้องการฆ่าท่าน”“แล้วคือ…?”เวินซื่อนิ่งไปชั่วครู่ นึกอะไรได้บางอย่างขึ้นมาในหัวอย่างฉับพลัน พลางขมวดคิ้ว “พวกเขามาเพื่อฆ่าท่านหรือ?”นางมีสีหน้าเป็นกังวลทันที “ท่านมีใครที่น่าสงสัยบ้างหรือไม่?”คำพูดนี้ถึงคราวที่เวินซื่อใช้ถามเป่ยเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 485

    เมื่อคิดดูแล้วต้องเป็นเรื่องโรคระบาดในลู่โจวก่อนหน้านี้ได้แพร่กระจายออกไปนอกพรมแดนตะวันตกแน่นอน จึงมีผู้สอดแนมต่างเผ่าฉวยโอกาสขณะที่หนิงหย่วนโหวไม่ได้เตรียมตัวแอบข้ามพรมแดนตะวันตก แทรกซึมเข้ามาในหมู่ประชาชน แล้ววิ่งเข้ามาในเมืองหลวงเพียงแต่ก็ไม่รู้ว่าไปปลุกเร้าความกล้ามาจากไหน กล้าลอบสังหารอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนของพวกเขาอย่างไม่น่าเชื่อ!โชคดีที่ท่านอ๋องของพวกเขาตื่นตัวอยู่เสมอ ไม่ยอมให้คนเหล่านั้นเป็นต่อสำหรับเรื่องเสียโฉมนั้นคาดเดาได้ง่าย หน้าตาของต่างเผ่าแตกต่างจากคนในราชวงศ์ต้าหมิง หากไม่ทำให้เสียโฉม มองปราดเดียวก็อาจจะแยกแยะได้แล้วแต่เมื่อเกาเย่าคิดถึงเรื่องนี้ ก็รู้สึกทันใดว่าไม่ปกติทำไมการเตรียมตัวของชาวต่างเผ่าเหล่านี้ดูเหมือนจะรอบคอบ แต่ก็ไม่รอบคอบมากนัก?การลอบสังหารทำได้อย่างน่าประหลาดไม่พอ ซ้ำยังกระจอกงอกง่อยเหมือนเด็กเล่นเช่นนี้อีกยังไม่ต้องพูดว่าพวกทำเพื่อจุดประสงค์ใดกันแน่ แต่ในเมื่อใช้ความพยายามอย่างสุดกำลังถึงมาที่เมืองหลวงได้ หากต้องการลอบสังหารก็ควรจะวางแผนดี ๆ ถึงจะถูกแต่เห็นสภาพพวกเขาเช่นนี้ที่ส่งคนมาเพียงไม่กี่คนสามารถทำให้ท่านอ๋องของพวกเขาผิวถลอกไ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 486

    เป่ยเฉินหยวนรีบบอกเรื่องนี้กับเวินซื่อเขาไม่ได้พูดเรื่องอันปี่เค่อและอันหลันซินเลย แค่พูดถึงคนจากต่างเผ่าเท่านั้น เพื่อให้เวินซื่อระวังตัว“พูดเช่นนี้ ก่อนหน้านี้จินซือถูก็เคยพาคนจากต่างเผ่าอีกคนหนึ่งมาหาข้าด้วย”เวินซื่อแตะใต้คางด้วยมือข้างหนึ่ง นึกถึงช่วงเวลาที่ผ่านมา“ใครหรือ?”เป่ยเฉินหยวนมองไปที่นางทันที“ชายมีเคราคนหนึ่ง นามว่าเก๋อเอ่อร์ เขาเป็นคนบอกข้าเกี่ยวกับเรื่องที่แม่ของเวินเยวี่ยทำกับแม่ของข้า เพียงแต่ไม่ได้ให้หลักฐานใด ๆ”เรื่องนี้เวินซื่อไม่ได้ปิดบังอะไรจากเขา“ท่านคิดอย่างไรกับคนผู้นั้น?”เป่ยเฉินหยวนครุ่นคิดสักครู่พลางเอ่ยถามนางเวินซื่อกล่าวว่า “สิ่งที่เขาพูดกับข้าน่าจะเป็นความจริง เพียงแต่อย่างอื่นข้าก็ไม่รู้แล้ว”คนผู้นั้นถูกแม่ของเวินเยวี่ยใช้พิษควบคุมเช่นเดียวกับจินซือถูเรื่องนี้นางได้ตรวจสอบด้วยตัวเองแล้ว ไม่มีข้อสงสัยใด ๆเวลานี้อีกฝ่ายต้องการถอนพิษ จำเป็นต้องพึ่งพานาง ถ้าอย่างนั้นก็มีความเป็นไปได้สูงว่าสิ่งที่พูดกับนางจะไม่เป็นความเท็จยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่ไป๋ชูโหรวทำกับแม่ของนางก็สมควรแล้วจริง ๆเวินซื่อยังบอกเป่ยเฉินหยวนเกี่ยวกับพิษในร่างกายข

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 487

    “งานเลี้ยงในวัง?”“ใช่แล้วธิดาศักดิ์สิทธิ์ ฝ่าบาททรงรับสั่งมาเป็นพิเศษว่า พรุ่งนี้ท่านต้องเข้าร่วมงานเลี้ยง เพื่อร่วมเฉลิมฉลองกับพสกนิกรทั้งหลาย”เสี่ยวเต๋อจื่อกล่าวกับเวินซื่อด้วยรอยยิ้มเบิกบาน“ตกลง ขอบคุณกงกง อุตส่าห์วิ่งมาที่นี่ด้วยตัวเอง”เวินซื่อมองข้างหลังแวบหนึ่ง “เสี่ยวหาน”ฉางเสี่ยวหานหยิบห่อสัมภาระที่บรรจุเงินอยู่จากห้องของเวินซื่อเข้ามา แล้วยื่นให้ด้วยความเคารพ “นี่คือน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ของธิดาศักดิ์สิทธิ์ของเรา เชิญกงกงดื่มชา หวังว่ากงกงจะไม่ปฏิเสธ"เสี่ยวเต๋อจื่อรับมาด้วยหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสทันที “อุ๊ย เช่นนั้นบ่าวก็ขอขอบคุณธิดาศักดิ์สิทธิ์ที่ประทานรางวัลให้”หลังจากเต๋อกงกงกลับไปแล้ว เวินซื่อหันหน้ามาก็เห็นคนคนหนึ่ง“อาจารย์?”ม่อโฉวซือไท่ก้าวไปหานาง เห็นไรผมยุ่ง ๆ ที่ข้างหูของนาง ก็ยกมือขึ้นช่วยนางลูบให้เรียบ“พรุ่งนี้เจ้าไปกับจู๋เยวี่ยเท่านั้น ระวังตัวด้วย นำยาจำนวนหนึ่งที่ข้าเตรียมไว้ให้เจ้าตามปกติไปด้วย หากมีอะไรเกิดขึ้นก็อาจจะได้ใช้มัน”เวินซื่อเลิกคิ้วขึ้น “ฟังจากคำพูดของอาจารย์ ทำไมรู้สึกว่าเหมือนจะต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นในงานเลี้ยงของวันพรุ่งนี้แน่นอนเจ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 488

    ดังนั้นเวินซื่อจึงไม่ได้นำบัวหิมะออกมาจากมิติในทันทีพรุ่งนี้ลองเข้าไปดูสถานการณ์ในวังก่อน หากสามารถได้บัวหิมะมาโดยตรงก็จะดีที่สุด ไม่ต้องชี้แจงด้วยแต่หากเอามาไม่ได้ก็ไม่เป็นไรถึงเวลานั้นนางค่อยจัดการกับบัวหิมะในมิติก่อน แล้วจึงนำไปมอบให้อาจารย์ก็ยังไม่สายเกินไป“อาจารย์ไม่ต้องกังวล พรุ่งนี้ศิษย์จะไม่ลืมเรื่องนี้เจ้าค่ะ”เวินซื่อรับปากม่อโฉวซือไท่ไว้แล้วม่อโฉวซือไท่พยักหน้าเล็กน้อย แล้วกำชับอีกว่า “หากสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย ก็อย่าฝืน ปล่อยดอกนี้ไป วันหลังยังสามารถหาร่องรอยของบัวหิมะดอกอื่นได้เสมอ”เวินซื่อพยักหน้าให้ม่อโฉวซือไท่วางใจ“ใช่แล้วอาจารย์ ศพที่ข้ามอบให้ท่านก่อนหน้านี้เป็นอย่างไรบ้าง พบอะไรในนั้นหรือไม่เจ้าคะ?”เวินซื่อนึกขึ้นได้ว่าหลังคืนส่งท้ายปีเก่า องครักษ์ของจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนส่งศพของนักฆ่ามาให้อย่างรวดเร็วใบหน้าของนักฆ่าถูกทำให้เสียโฉมแล้วเช่นกันเห็นได้ชัดว่าคนที่อยู่เบื้องหลังคนเหล่านี้ก็มีความระมัดระวังเช่นกันเมื่อได้ยินคำพูดของนางสีหน้าของม่อโฉวซือไท่ก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที “ว่าแต่ว่าเรื่องนี้ เจ้าบอกอาจารย์มาก่อนว่า ศพนี้เจ้าได้มาจากไหน?”เว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 489

    เมื่อวานนี้อาจารย์เพิ่งบอกให้นางระวังหนอนกู่ ที่แสดงอำนาจต่อนางตลอดมาหากนางดื่มน้ำทิพย์แล้ว ดวงตาเห็นได้ชัดเจนขึ้นกว่าเมื่อก่อน ก็ไม่แน่ว่าจะสามารถสังเกตเห็นหนอนตัวนี้ได้จริง ๆนางกำนัลตกตะลึงไปชั่วขณะ ก้มศีรษะลงมองไปที่ตั่งตัวนั้น มองดูอย่างถี่ถ้วนสักพักถึงจะสังเกตเห็นว่ามีหนอนสีดำตัวเล็ก ๆ อยู่จริงนางกำนัลรีบคุกเข่าลงขออภัยโทษ “บ่าวละเลยหน้าที่ ธิดาศักดิ์สิทธิ์โปรดลงโทษ”การทำความสะอาดในงานเลี้ยงของวังนั้นเข้มงวดมาก อย่าว่าแต่หนอนตัวเดียว แม้แต่ฝุ่นสักเม็ดก็ไม่อนุญาตให้ปรากฏขึ้นแต่ตอนนี้บนที่นั่งของธิดาศักดิ์สิทธิ์ได้มีหนอนตัวหนึ่งปรากฏขึ้น หากเจอเจ้านายที่มีอารมณ์ร้าย ศีรษะของพวกนางคงต้องหลุดจากบ่าดังนั้นทันทีที่นางกำนัลผู้นั้นคุกเข่าลง ก็เริ่มตัวสั่นงันงก หวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง“จัดการเก็บกวาดที่นี่ให้สะอาด แล้วประเดี๋ยวเจ้ามาอยู่ข้างตัวข้า”“เจ้าค่ะ”ในเมื่อเป็นการแสดงอำนาจ เช่นนั้นนางก็มารับคำท้าเวินซื่อมองนางกำนัลแวบหนึ่ง หลังจากให้นางเก็บกวาดสถานที่แล้ว กลับไม่ได้ปล่อยนางไปต่อมานางก็นั่งลงในตำแหน่งเดิม เอื้อมมือไปใต้โต๊ะ แล้วปล่อยแมงมุมสีดำตัวหนึ่งออกมาแมงมุมต

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 490

    “เจ้าเคยเห็นมาก่อนหรือ?”สายตาของฮ่องเต้น้อยหยุดอยู่ที่เวินเยวี่ยแม้ว่าอีกฝ่ายจะสวมผ้าคลุมหน้า แต่ดวงตาของเขายังไม่มืดบอด มองนางไม่ออกแต่จะมองเวินเฉวียนเซิ่งที่นั่งอยู่ข้างกายนางไม่ออกได้หรือ?“เพคะฝ่าบาท มารดาของหม่อมฉันเชี่ยวชาญด้านโอสถ และเคยทิ้งตำราแพทย์และสมุนไพรไว้ให้หม่อมฉัน ในนั้นมีบัวหิมะตากแห้งเก็บรักษาไว้ต้นหนึ่ง เพียงแต่น่าเสียดายที่ต่อมาหม่อมฉันล้มป่วย จำเป็นต้องใช้บัวหิมะต้นนั้นไป แต่หม่อมฉันก็ยังพอมีความทรงจำในเรื่องนี้อยู่บ้างเพคะ”“อย่างนั้นหรือ?”สายตาของฮ่องเต้น้อยกวาดมองเวินเยวี่ยและเวินเฉวียนเซิ่งสองพ่อลูกคู่นี้เวินเฉวียนเซิ่งลุกขึ้นก้าวไปข้างหน้าพลางกล่าวว่า “ฝ่าบาท สิ่งที่นางพูดนั้นเป็นความจริงพ่ะย่ะค่ะ หากฝ่าบาทต้องการวินิจฉัยว่าบัวหิมะต้นนี้ของใต้เท้าอันเป็นของจริงหรือปลอม ให้ลูกสาวของกระหม่อมเป็นธุระแทนพระองค์ก็ได้พ่ะย่ะค่ะ”“ไม่ต้อง ๆ ในเมื่อบัวหิมะนี้ใต้เท้าอันเจาะจงนำถวาย เราย่อมเชื่อมั่นในสายตาของใต้เท้าอันอยู่แล้ว”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ อันปี่เค่อก็เผยสีหน้าน้ำตาคลอเบ้าบ่งบอกว่า “นึกไม่ถึงเลยว่าฝ่าบาทจะไว้วางใจกระหม่อมเช่นนี้”แต่วินาทีต่อมาก็ได้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 491

    เผชิญหน้ากับท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของฮ่องเต้น้อย ชั่วขณะเวินเยวี่ยไม่รู้ว่าควรจะไปต่อหรือไม่นางฟันเบาๆ หันไปมองทางเวินเวินเฉวียนเซิ่ง“ท่านพ่อ…”“ไป”เวินเฉวียนเซิ่งเปิดปากกล่าวเสียงเบา “ทำตามแผนก่อนหน้านี้ หากมีอะไรพ่อจะเตือนเจ้าเอง”เพียงแต่ตอนที่เวินเฉวียนเซิ่งพูดก็ดูไม่แน่ใจนัก“ลูกเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ”เวินเยวี่ย “ฝ่าบาทโปรดรอสักครู่ หม่อมฉันจะวินิจฉัยยาแทนพระองค์เดี๋ยวนี้เพคะ”นางเดินเข้าไปอย่างช้าๆ ไปคุกเข่าลงที่ข้างกายอันปี่เค่อ “ใต้เท้าอัน รบกวนท่านยื่นบัวหิมะให้ข้าดูหน่อยเถิด”อันปี่เค่อยื่นบัวหิมะในมือให้เวินเยวี่ยด้วยสีหน้าที่อยากจะร้องไห้หลังจากเห็นบัวหิมะที่อยู่ในกล่องไม้เป็นของจริง แม้แต่ในแววตาของเวินเยวี่ยก็อดฉายประกายแห่งความโลภไม่ได้คิดไม่ถึงว่าสกุลอันมีของดีเช่นนี้อยู่จริงๆ ด้วยใช่แล้ว นางจำได้ว่าในสูตรยายาถอนพิษของพวกคนที่ควบคุมจินซือถูก็มีบัวหิมะถ้าหากสามารถได้บัวหิมะนี้มา ไม่แน่อาจสามารถนำมาใช้หลอกพวกจินซือถู ให้พวกเขาทำงานให้นางแต่โดยดีต่อไปช่วงนี้เวินเยวี่ยรู้สึกได้รางๆ พวกจินซือถูเริ่มไม่เชื่อฟังแล้วคาดว่าเป็นเพราะนางไม่สามารถเอายาถอนพิษอ

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 574

    “ฉางอวิ้น เจ้าต้องเข้าใจถึงความขมขื่นใจของพ่อ”เวินเฉวียนเซิ่งนั่งลงข้างกายเวินฉางอวิ้น พลางถอนหายใจเฮือกใหญ่“ตอนแรกพ่อแค่อยากให้เด็กคนนั้นมีบ้าน อยากจะชดใช้หนี้ทั้งหมดที่มีต่อสองแม่ลูกเท่านั้นเอง”“แต่ไม่เคยคิดเลยว่า เยวี่ยเอ๋อร์จะบาดหมางกับเจ้าห้ามาจนถึงขั้นนี้ ตอนนี้สุขภาพของพ่อก็ไม่ค่อยดีแล้ว บอกไม่ได้ว่าวันไหนจะลงไปพบกับแม่ของพวกเจ้า ถ้าไม่มีใครมาค้ำจุนครอบครัวนี้ จวนเจิ้นกั๋วกงของเราทั้งหมดช้าเร็วก็ต้องแยกทาง ถึงตอนนั้น เจ้าคิดว่าน้อง ๆ ของเจ้าจะยังมีโอกาสกลับมาหรือไม่?”เดิมทีเวินฉางอวิ้นไม่ต้องการโต้ตอบคำพูดของเวินเฉวียนเซิ่งรู้สึกว่าคำพูดก่อนหน้านี้ของเขาค่อนข้างน่าขบขันแต่เมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย หัวใจของเวินฉางอวิ้นก็เต้นแรงขึ้นมาทันทีหากวันหนึ่งจวนเจิ้นกั๋วกงสลายไป น้องรอง น้องห้า...จะกลับมาได้อีกหรือไม่?ร่างกายของเวินฉางอวิ้นสั่นสะท้านครู่หนึ่งคำตอบที่ชัดเจนผุดขึ้นในหัวใจไม่ได้พวกเขาจะกลับมาไม่ได้อีกแล้วไม่ใช่เพราะชื่อเสียงของจวนเจิ้นกั๋วกง แต่เป็นเพราะไม่มีจวนเจิ้นกั๋วกงแล้ว ดังนั้นสายสัมพันธ์สุดท้ายที่เหลืออยู่ระหว่างพี่น้องของพวกเขาก็จะไม่มีอะไรเลยน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 573

    เวินฉางอวิ้นที่รู้แล้วว่าเวินเยวี่ยเป็นใคร ความจริงก็ไม่รู้สึกแปลกใจกับเวินเยวี่ยในมุมนี้เพียงแต่ว่าก่อนหน้านี้นางเผยให้เห็นด้านที่ดูน่าสงสารและอ่อนแอต่อหน้าคนอื่น ด่าทอคนอื่นโดยไม่ยั้งคิดแบบนี้ไม่ได้เห็นบ่อยนักสายตาของเวินฉางอวิ้นเผยความเยาะหยันออกมาดูเหมือนว่านางจะไม่ได้มีความจริงใจต่อเจ้าสามเช่นกันเสียแรงที่เจ้าสามถอนหมั้นกับนังหนูเนี่ยนฉือเพื่อนาง จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตกลับกลอกปลิ้นปล้อนจริง ๆคิด ๆ ดูแล้วก็น่าจะไม่ใช่แค่เจ้าสามเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเจ้าสี่ด้วยเพราะถึงอย่างไรพวกเขาเหล่านี้ก็ขวางทางนางอยู่เวินฉางอวิ้นไตร่ตรองสักครู่ ก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากนอกห้องในเวลานี้เวินฉางอวิ้นยังนึกว่าเป็นเวินเยวี่ยที่กลับมาเล่นละครอีกครั้ง แต่ไม่นึกเลยว่าจะเป็นเวินเฉวียนเซิ่งผู้เป็นพ่อของเขา“ฉางอวิ้น พ่อมาเยี่ยมเจ้า”หลายวันมานี้ ที่แวะเวียนมาที่นี่อยู่เป็นครั้งคราวเช่นกันก็มีเวินเฉวียนเซิ่งด้วยเขาแวะมาเยี่ยมลูกชายคนโต และเพื่อเป็นการชดเชยเวินฉางอวิ้นรู้ว่าเขามาที่นี่เพื่ออะไร และไม่ค่อยอยากพบเขาเช่นกันดังนั้นทันทีที่ได้ยินเสียงของเวินเฉวียนเซิ่ง เขาก็หลับตาลงแกล้งทำเป็น

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 572

    “หออายุวัฒนะ? นั่นคือที่ใดกัน?”เวินเยวี่ยถามด้วยความงุนงงเวินจื่อเยวี่ยส่ายศีรษะ “ข้าก็ไม่รู้แน่ชัด แต่เพื่อนร่วมสำนักบอกข้าว่า ที่นั่นมียาชนิดหนึ่งที่เรียกว่ายาอายุวัฒนะ สามารถชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นคืน เปลี่ยนเถ้ากระดูกให้กลายเป็นเลือดเนื้อ วิเศษมาก แต่ก็แพงมากเช่นกัน อยากซื้อก็ไม่ใช่ซื้อได้ง่าย ๆ”“พวกเราไปซื้อก็อาจจะซื้อไม่ได้อย่างนั้นหรือ?”เวินเยวี่ยไม่เห็นด้วยกับคำพูดที่ว่า “ไม่ใช่ซื้อได้ง่าย ๆ”เพราะถึงอย่างไรนางก็คือคุณหนูหกแห่งจวนเจิ้นกั๋วกง และเวินจื่อเยวี่ยก็เป็นคุณชายสามแห่งจวนเจิ้นกั๋วกงด้วยตัวตนของพวกเขา ในเมืองหลวงแห่งนี้ยังมีอะไรที่พวกเขาหาซื้อไม่ได้อีก?“เห็นว่าเป็นเพราะมียาน้อยมาก และไม่สามารถปล่อยออกมาได้ ดังนั้นไม่ว่าใครที่ไปซื้อก็ต้องรอ ข้าคิดว่าถ้าวิเศษขนาดนั้นจริง ๆ ก็ซื้อสักเม็ดหนึ่งกลับมาให้พี่ใหญ่ลองกิน หากได้ผลจริง ๆ ล้างพิษในร่างกายของพี่ใหญ่ได้ ท่านพ่อก็จะไม่โกรธอีกต่อไปแน่นอน”อันที่จริงพวกเขาสองคนก็ไม่มีทางอื่นแล้วในตอนนี้หายาถอนพิษไม่ได้ดอกไม้พิษก็หาไม่ได้เช่นกันทำได้เพียงรักษาตามมีตามเกิด ซื้อยาอายุวัฒนะนั่นมาให้พี่ใหญ่ลองกินดูเมื่อเวิน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 571

    แต่ความตื่นเต้นดีใจนี้ดำเนินไปได้ไม่นานครึ่งชั่วยามต่อมา ฤทธิ์ของยาอายุวัฒนะก็สิ้นสุดลงความบ้าคลั่งในดวงตาของอันปี่เค่อหายไปอย่างรวดเร็วเขาเงยหน้าสูดหายใจเข้าลึก ๆ แต่วินาทีต่อมาปิดปากและจมูกด้วยความรังเกียจ“เก็บกวาดทำความสะอาดให้ข้าด้วย!”อันปี่เค่อออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด ก่อนจะสะบัดแขนเสื้อออกไปทันทีเมื่อเขาออกจากหออายุวัฒนะที่อยู่ชั้นใต้ดิน กลับไปที่ห้องหนังสือสกุลอันอีกครั้งหนึ่ง เขาก็กลับไปนั่งที่ด้านหลังโต๊ะหนังสือทันทีก่อนจะคว้ากระดาษที่เขียนชื่อไว้หลายชื่อแผ่นหนึ่งบนโต๊ะขึ้นมาเขากวาดสายตาผ่านรายชื่อเหล่านั้นอย่างไม่วางตา สุดท้ายก็จับจ้องไปที่ชื่อนั้นที่อยู่ด้านล่างสุด…“เวินซื่อ”“ธิดาศักดิ์สิทธิ์...จะเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ตัวจริง หรือว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ตัวปลอม ก็ให้ข้าได้เห็นชัด ๆ สักหน่อยแล้วกัน……จวนเจิ้นกั๋วกงภายในเรือนของเวินฉางอวิ้นหลังจากกินยาต้มบัวหิมะที่เวินซื่อให้มาแล้ว เวินฉางอวิ้นก็ฟื้นขึ้นมาภายในไม่กี่วันจริง ๆเพียงแต่ร่างกายยังอ่อนแอมาก นอกจากลืมตามองไปรอบ ๆ ได้แล้ว เรื่องอื่นเขาก็ยังทำไม่ได้แม้แต่พูดยังพูดไม่ได้เลยทำได้เพียงนอนอย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 570

    หลังจากคนรับใช้ผู้นั้นจากไป อันปี่เค่อก็นั่งลงบนเก้าอี้ไม้โบราณของเขาทันที หลับตาลง มือข้างหนึ่งงอนิ้วชี้แล้วคาะปลายนิ้วลงบนโต๊ะเป็นจังหวะซ้ำๆ ดัง “ต๊อกๆ ”ท่าทางเช่นนั้นดูเหมือนกำลังรอคอยบางสิ่งบางอย่างอยู่ไม่นานนัก หญิงงามนางหนึ่งที่สวมใส่อาภรณ์น้อยชิ้นก็ถือขวดหยกเขียวเดินเข้ามา ร่างกายอ่อนระทวย นั่งลงบนตักของอันปี่เค่อ แล้วเปิดขวดหยกเขียวนั้นให้เขาและเทยาเม็ดสีดำสนิทสามเม็ดออกมาจากข้างในพอยาเม็ดนั้นออกมา กลิ่นหอมประหลาดก็ฟุ้งกระจายไปทั่วห้องหินนี้ คล้ายคลึงกับกลิ่นหอมรัญจวนใจที่อบอวลอยู่ทั่วทั้งหอใต้ดินที่อยู่ด้านนอกอย่างยิ่งแต่หากนำยาเม็ดนั้นมาใกล้จมูกและปาก ก็ยังสามารถค้นพบได้อีกว่า บนยาเม็ดเหล่านี้ เห็นได้ชัดว่ายังมีกลิ่นคาวเลือดจางๆ ติดอยู่ด้วยหากเป็นคนปกติท เมื่อได้กลิ่นคาวเลือดบนยาเม็ดเหล่านี้ เกรงว่าจะรีบถอยห่างทันทีแต่เวลานี้ ภายในหออายุวัฒนะใต้ดินของสกุลอัน มีคนอยู่ทุกประเภท เว้นแต่เพียงคนปกติธรรมดาเท่านั้นอย่างเช่นอันปี่เค่อในยามนี้เขาปรือตาขึ้นเล็กน้อย เหลือบมองหญิงงามที่นั่งอยู่บนตัก แววตานั้นราวกับกำลังพิจารณาว่าอาหารที่จะกินในวันนี้คืออะไรหลังจากมองจ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 569

    ทางด้านอารามสุ่ยเยว่เงียบสงบสุขยิ่งนักแต่ทางด้านเมืองหลวงกลับมีคลื่นใต้น้ำก่อตัวอย่างรุนแรงห้องหนังสือสกุลอันอันปี่เค่อหยิบพู่กันขึ้น ตวัดพู่กันขีดเส้นหนักๆ ลงบนรายงานข่าวกรองฉบับหนึ่งที่ลูกน้องนำมาส่งให้ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์จากนั้นก็พลันลุกขึ้นเดินไปยังเชิงเทียนไปพลาง ฉีกรายงานข่าวกรองฉบับนั้นเป็นชิ้นๆ ไปพลางสุดท้ายก็อาศัยเปลวไฟจากเชิงเทียนจุดมัน เปลวไฟก็ลุกลามเผากระดาษแผ่นนั้นอย่างรวดเร็ว และลามขึ้นไปด้านบน ลวกนิ้วมือของอันปี่เค่อที่จับมุมกระดาษอยู่เข้าอย่างจังแต่อันปี่เค่อราวกับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย ผ่านไปสองวินาที ถึงค่อยโยนกระดาษที่กำลังลุกไหม้ในมือทิ้งลงไปในอ่างถ่านที่มอดดับไปแล้ว“ใครก็ได้”เงาดำร่างหนึ่งพลันปรากฏขึ้นด้านหลังของอันปี่เค่อ คุกเข่าลงอย่างนอบน้อม“ลูกสาวผู้แสนดีคนนั้นของข้าตายแล้วหรือยัง?”เงาดำกล่าวอย่างระมัดระวัง “เรียนใต้เท้า คุณหนูรอง...ยังไม่ตายขอรับ”คำว่า “ยังไม่ตาย” ก็หมายความว่าการลงมือของคนเหล่านั้นล้มเหลวแล้วบนใบหน้าที่แก่ชราของอันปี่เค่อ พลันปรากฏรอยยิ้มเสแสร้งออกมา “ไอ้พวกไร้ประโยชน์ และหมากตัวหนึ่งที่ยังพอจะใช้งานได้อยู

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 568

    เป่ยเฉินหยวนเห็นสีหน้าของนาง ก็รู้ว่านางเพิ่งจะรู้ตัว ชั่วขณะหนึ่งก็อดขำไม่ได้“หลังจากนี้ไม่ต้องมาที่ภูเขาด้านหลังแล้วก็ได้ อากาศหนาวลมแรง เดี๋ยวจะป่วยเอาได้ง่ายๆ ”เวินซื่อพยักหน้าอย่างกระอักกระอ่วน “ได้”นางก็ลืมเรื่องนี้ไปเหมือนกันนางเงยหน้ามองเป่ยเฉินหยวนด้วยความอึดอัดใจ เอ่ยถามอย่างหยั่งเชิง “หรือว่า ตอนนี้พวกเรากลับไปอีกดี?”เป่ยเฉินหยวนยิ้มพลางเอ่ยขึ้นทันที “ไหนๆ ก็มาแล้ว อีกอย่างวันนี้ข้าก็อยากจะฟังที่นี่จริงๆ ”เหตุผลหลักคือในเรือนยังมีคนอื่นอยู่ เวลานี้ เขาไม่อยากให้คนอื่นมารบกวนเขาและอู๋โยวเป่ยเฉินหยวนหยิบของที่ตนนำมาด้วยออกมา ค้นเอาห่อขนมพุทราอุ่นๆ ออกมาจากข้างในห่อหนึ่ง และเสื้อคลุมลายดอกเหมยตัวใหม่อีกหนึ่งตัวเป่ยเฉินหยวนระงับความคิดที่อยากจะลงมือสวมให้ด้วยตนเอง แล้วยื่นเสื้อคลุมให้เวินซื่อก่อน“สวมเสื้อคลุมเสียเถอะ ตอนนี้ยังพอไหว ไม่ค่อยมีลม แต่ก็ต้องระวังไว้บ้าง”เวินซื่อเหลือบมองเสื้อคลุมตัวหนาที่ยังคงความอบอุ่นนั้น แล้วมองไปที่เป่ยเฉินหยวน สุดท้ายก็รับของขวัญอันใส่ใจชิ้นนี้มาอย่างเงียบๆ“นี่ ขนมพุทราที่ท่านชอบ”เป่ยเฉินหยวนรอจนนางสวมเสื้อคลุมเสร็จ ก็เปิ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 567

    “แล้วแมงมุมพิษนั้นจะส่งผลกระทบต่อท่านหรือไม่?”เป่ยเฉินหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย สิ่งแรกที่เขาเป็นห่วงคือความปลอดภัยของเวินซื่อเวินซื่อพลันยิ้มออกมา “ไม่เป็นไร ไม่ส่งผลกระทบต่อข้า”“แล้วอาซื่อเจ้าแน่ใจได้อย่างไรว่าแมงมุมพิษของเจ้าอยู่บนตัวของหัวหน้าต่างเผ่าผู้นั้น? หากไม่ใช่หัวหน้าต่างเผ่าผู้นั้น แต่เป็นคนต่างเผ่าคนอื่นเล่า?”หลินเนี่ยนฉือถามเช่นนี้ ไม่ใช่การขัดคำพูดของเวินซื่อเพียงแต่นางกำลังกังวลเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างเวินซื่อกับแมงมุมพิษ ตัวอย่างเช่น หากแมงมุมพิษตัวนั้นบาดเจ็บ มันจะส่งผลกระทบต่ออาซื่อหรือไม่ หรือแม้กระทั่งถ้าแมงมุมพิษตัวนั้นตายไป มันจะส่งผลสะท้อนกลับมายังอาซื่อหรือไม่?ถึงแม้พวกเขาจะไม่รู้ว่าแมงมุมพิษของอาซื่อเป็นมาอย่างไรกันแน่ แต่พอฟังดูแล้วกลับคล้ายคลึงกับวิชาแมลงกู่ของคนต่างเผ่าเหล่านั้นมากดังนั้น หลังจากที่เป่ยเฉินหยวนและหลินเนี่ยนฉือฟังคำพูดของเวินซื่อจบแล้ว สิ่งแรกที่ทั้งสองกังวลก็คือตัวเวินซื่อเวินซื่อเห็นสีหน้าของทั้งสองคนก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็เข้าใจบางอย่างขึ้นมาในใจของนางรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา ยิ้มพลางเอ่ยขึ้น “พวกท่านวางใจเถิด ข้าไม่เป็นอ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 566

    หลินเนี่ยนฉือที่นั่งมองทั้งสองคนอยู่ในเรือนเล็กๆ ตั้งแต่เมื่อครู่ มุมปากกระตุกเล็กน้อย“พอแล้วอาซื่อ อย่างไรเสียเขาก็เป็นท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน เจ้าช่างใจกล้าเกินไปแล้ว”ถึงกับกล้าตำหนิท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้มีอำนาจสูงสุดในราชสำนักรองจากฮ่องเต้ แถมยังขึ้นชื่อว่าเป็นเทพสงครามต่อหน้าเช่นนี้ จนเขาแทบเงยหน้าไม่ขึ้นหลินเนี่ยนฉือกลัวว่าเวินซื่อจะยั่วโมโหอีกฝ่ายเข้าจริงๆ นางจึงรีบยื่นมือออกไป ดึงตัวคนกลับมาแต่ไม่รู้ว่าเป็นความเข้าใจผิดของนางหรือไม่ ในขณะที่นางจับมือเล็กๆ ของอาซื่อไว้ สายตาของท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนที่อยู่ตรงข้ามกลับดูน่ากลัวขึ้นมาเล็กน้อย ทั้งยังทิ่มแทงอีกทำเอาหลินเนี่ยนฉือไม่กล้าพูดอะไรต่ออีก“ไม่เป็นไรๆ ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนไม่ใช่คนใจแคบเช่นนั้น”เวินซื่อยังไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของหลินเนี่ยนฉือ ก็ยกมือขึ้นตบไหล่ของอีกฝ่ายเบาๆเป่ยเฉินหยวนเอ่ยขึ้นในตอนนี้ “อู๋โยวพูดถูก ข้าไม่ใช่คนใจแคบจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น อู๋โยวก็ยังเป็นสหายของข้า สหายของนาง ย่อมเป็นสหายของข้าเช่นกัน”มุมปากของหลินเนี่ยนฉือกระตุกอีกครั้งหากไม่ใช่เพราะได้ยินสรรพนาม

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status