Share

บทที่ 612

Author: จิ้งซิง
ตะขอเหล็กทะลุหน้าต่าง เกี่ยวกับตัวรถม้าแน่น

หลินเนี่ยนฉือที่เห็นภาพนี้ ม่านตาหดฉับพลัน “แย่แล้ว!”

แทบจะก่อนรถม้าเอียงหนึ่งวินาที นางกระโดดออกจากหน้าต่างรถม้าฉับพลัน

“คุณหนูใหญ่ระวัง!”

หลินเนี่ยนฉือเพิ่งตกลงบนพื้น ก็มีชายปิดหน้าสองคนพุ่งมาทางนาง

โชคดีที่หลินเนี่ยนฉือตอบสนองไว นางเหวี่ยนแส้ม้าในมือออกไปอย่างแรง

“เพียะ!”

เสียงแส้ม้าที่ชัดเจนจุดประกายการต่อสู้ครั้งนี้

คนสะกดรอยตามที่ปิดหน้ามีสามสิบคนจริงๆ

พวกเขาปิดล้อมหลินเนี่ยนฉือกับองครักษ์ทั้งหมดของนางในป่า และเริ่มลงมือโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง

โดยเฉพาะหลินเนี่ยนฉือ ยิ่งถูกหลายคนล้อมโจมตี

ถ้าไม่ใช่เพราะองครักษ์ที่นางพามาด้วยแต่ละคนล้วนเป็นระดับหัวกะทิ ประกอบกับฝีมือของนางยังสามารถสู้หนึ่งต่อสามได้ชั่วคราว เกรงว่าการต่อสู้เพิ่งเริ่มต้นขึ้นก็เกือบจะถูกฆ่าตายหมดแล้ว

แต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ พวกเขาก็ต้านได้อีกไม่นานแล้ว

เพราะคนปิดหน้ากลุ่มนี้ตระหนักถึงความแตกต่างของความแข็งแกร่งระหว่างสองฝ่ายอย่างรวดเร็ว พวกเขาเปลี่ยนกลยุทธ์ทันที ไม่ได้ฝืนใช้กำลัง แต่ใช้ความได้เปรียบจากจำนวนคนผลัดกันโจมตี

เมื่อเป็นเช่นนี้ สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 622

    ฝ่ายหนึ่งเป็นเพราะเรื่องเงินของตน อีกฝ่ายเป็นเพราะใบหน้าของตนแต่เมื่อครึ่งปีก่อน ไม่ว่าจะเป็นเวินเยวี่ยหรือเวินจื่อเฉินก็ตาม ใครจะคาดคิดได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจะมีวันมาถึงจุดนี้ได้พวกบ่าวรับใช้ที่อยู่รอบๆ ต่างก็ถูกพวกเขาสองคนทำให้ตกใจกลัวจนตัวสั่นในขณะนั้นเอง เสียงเคาะประตูก็ดังมาจากด้านนอกประตูที่เวินจื่อเฉินใช้หลังพิงอยู่“ก๊อก ก๊อก!”“เจ้าสอง เช้าตรู่เช่นนี้ เจ้ามาก่อเรื่องวุ่นวายอะไรในเรือนของน้องสาวเจ้า? ยังไม่รีบเปิดประตูอีก!”เมื่อได้ยินเสียงนี้ ดวงตาของเวินเยวี่ยก็พลันเป็นประกาย ร้องตะโกนด้วยความยินดี “ท่านพ่อ! ช่วยข้าด้วย! พี่รองเขาบ้าไปแล้ว เขาจะทำร้ายข้า!”ผู้ที่มาเยือนด้านนอกประตูก็คือเวินเฉวียนเซิ่งตรงกันข้ามกับความยินดีของเวินเยวี่ย คือใบหน้าที่พลันเคร่งขรึมลงของเวินจื่อเฉิน เขายังคงใช้แรงยันประตูไว้แน่น ไม่พูดจาและไม่คิดจะเปิดประตู“ปัง ปัง!”คนที่อยู่ด้านนอกราวกับจะรับรู้ความคิดของเวินจื่อเฉินได้ เสียงเคาะประตูในตอนแรกจึงเปลี่ยนเป็นการทุบประตูอย่างแรงในเวลาอันรวดเร็วเวินเฉวียนเซิ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “เจ้าสอง เปิดประตูเดี๋ยวนี้!”เวินเยวี่ย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 621

    เวินเยวี่ยเพิ่งพูดจบ วินาทีต่อมาเวินจื่อเฉินก็พลันพุ่งพรวดมาอยู่ตรงหน้าของนาง“เพียะ!”ฝ่ามือข้างหนึ่งตบลงมาเสียงดังฟังชัด ฟาดลงบนใบหน้าของเวินเยวี่ยอย่างแรงเวินเยวี่ยถูกตบจนวิงเวียนศีรษะ หน้ามืดตาลายทั้งคนล้มลงไปกองกับพื้นทันที แถมยังกระแทกเข้ากับประตูเสียงดัง “ปึง” ผ่านไปเนิ่นนานก็ยังไม่ได้สติ“ว้ายยย! คุณหนูหก!”“คุณชายรอง โปรดหยุดเถิด!”“เร็วเข้า ห้ามคุณชายรองไว้!”บ่าวรับใช้ในเรือนของเวินเยวี่ยต่างตกตะลึงกับภาพเหตุการณ์ตรงหน้าจนหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นว่าเวินจื่อเฉินตบไปฉาดหนึ่งแล้วยังไม่คิดจะหยุดมือ กลับยกมือขึ้นหมายจะตบซ้ำอีก!พวกบ่าวรับใช้หน้าซีดเผือด รีบพุ่งเข้าไปใช้ร่างกายขวางเขาไว้ต่างคนต่างยื้อยุดฉุดกระชาก พยายามรั้งเขาไว้สุดกำลังหากคุณหนูหกเป็นอะไรไปเพราะถูกคุณชายรองทำร้ายจริงๆ ล่ะก็ เกรงว่าบ่าวรับใช้ทุกคนในเรือนนี้คงต้องจบสิ้นกันหมดแน่ดังนั้น แม้ว่าจะหวาดกลัวเวินจื่อเฉินที่กำลังเดือดดาลอย่างยิ่ง แต่ทุกคนก็ยังคงรีบร้อนเข้าไปขัดขวางเขาอยู่ดีเวินจื่อเฉินถูกพวกเขาออกแรงลากตัวออกห่างจากเวินเยวี่ยเป็นระยะสามเมตรแต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ เขาก็ยังคงจ้องเขม็งไปยัง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 620

    “ขอทานที่ไหนเนี่ย กล้ามาก่อกวนถึงจวนเจิ้นกั๋วกง ยังไม่รีบไสหัวไปอีก!”“แม่เจ้าสิไสหัวไป!”พลันเวินจื่อเฉินกระชากคนเฝ้าประตูออกมา “ลืมตาเจ้าดูให้ดีๆ ว่าข้าเป็นใคร!”หลังจากเข้าไปใกล้ๆ ในที่สุดคนเฝ้าประตูก็รู้แล้วว่าเป็นใคร เขาเบิกตากว้างกล่าว “คุณชายรอง? ท่านคือคุณชายรอง?!”“ในเมื่อรู้ว่าข้าเป็นใคร ยังไม่รีบเปิดประตูให้ข้าอีก!”คนเฝ้าประตูแทบจะไปเปิดประตูโดยไม่รู้ตัว แต่ทันใดนั้นก็นึกอะไรขึ้นได้ การกระทำหยุดชะงัก“คือ…คุณชายรอง ไม่ใช่บ่าวไม่เปิดประตูให้ท่าน แต่ท่านกั๋วกงสั่งไว้ ท่านไม่ใช่คุณชายรองของจวนเจิ้นกั๋วกงแล้ว ดังนั้นห้ามเข้าออกจวนเจิ้นกั๋วกงตามใจชอบ”“ได้”เมื่อเวินจื่อเฉินได้ยินคำพูดนี้ เขาพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม และให้ความร่วมมืออย่างคาดไม่ถึงแต่วินาทีต่อมา คนเฝ้าประตูยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เวินจื่อเฉินก็ยกเท้าถีบใส่ประตูใหญ่จวนเจิ้นกั๋วกงกะทันหัน“เจ้าไม่เปิดให้ข้า ข้าเปิดเองก็ได้!”หลังจากถีบประตู เวินจื่อเฉินก็เดินปรี่เข้าไปในจวนเจิ้นกั๋วกง หลังจากนั้นตรงไปที่เรือนเล็กของเวินเยวี่ยอย่างไม่ลังเลท่าทางที่จะทำร้ายคนทำให้คนเฝ้าประตูตกใจจนตะโกนเสียงดัง “ใครก็ได้! ใค

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 619

    “ไม่ใช่? พี่รอง ข้าจะไปเรียกน้องหกกลับมาอย่างไร? ข้าบอกท่านไปแล้ว ตอนนี้น้องหกได้รับบาดเจ็บ จำเป็นต้องพักฟื้นในจวน นางมาที่นี่ไม่ได้”เวินจื่อเยวี่ยเริ่มรู้สึกว่าเวินจื่อเฉินไร้เหตุผลขึ้นเรื่อยๆ “ท่านต้องการเงิน ข้าให้ท่านก็สิ้นเรื่องแล้วไม่ใช่หรือ? แม้ตอนนี้ยังให้ไม่ได้ แต่อีกหน่อย ข้าสามารถกลับจวนเจิ้นกั๋วกงแน่นอน ถึงเวลาท่านต้องการเท่าไร? อืม? ห้าร้อยตำลึง? หรือหนึ่งพันตำลึง? ข้าคืนให้ท่านสองเท่าเลย เช่นนี้ท่านน่าจะพอใจแล้วกระมัง?”“ไสหัวไป!”เวินจื่อเฉินถลึงตาใส่เขา “ข้าบอกไปแล้ว ข้าไม่ต้องการเงินของเจ้า สิ่งที่ข้าต้องการคือเงินของข้า! เงินทองแดงที่ข้าเก็บพวกนั้น จึงจะเป็นของข้า! ใครก็แตะต้องไม่ได้!”“เศษเหรียญทองแดงที่ท่านต้องการมีอะไรดีนักหนา? เงินหรือตั๋วเงินมันไม่ดีหรือ?”เวินจื่อเยวี่ยไม่เข้าใจ“เพราะนั่นเป็นเงินที่ข้าหามาด้วยตัวเอง!”เวินจื่อเฉินยืนอยู่ตรงที่เดิม เขากำหมัดแน่น “นั่นเป็นเงินที่ข้าหาให้น้องหญิง เงินทุกแดงล้วนแลกมาด้วยหยาดเหงื่อของข้า ไม่ว่าเท่าไร อย่างน้อยก็ไม่เกี่ยวกับเจ้า ยิ่งไม่เกี่ยวกับจวนเจิ้นกั๋วกง”น้องหญิงรังเกียจจวนเจิ้นกั๋วกง ดังนั้นสิ่งที่เขา

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 618

    ตอนที่เวินจื่อเยวี่ยเดินทางจากเมืองหลวงกลับถึงภูเขาหนานอีกครั้ง ก็ดึกมากแล้วแต่สิ่งที่เขาคิดไม่ถึงคือ คืนนี้ในกระท่อมฟางของพี่ชายรองยังมีแสงไฟส่องสว่างอยู่เมื่อผลักประตูเข้าไป เห็นเวินจื่อเฉินนั่งอยู่ที่ข้างเตียง และบนโต๊ะยังมีอาหารที่เย็นแล้ววางอยู่“พี่รอง เหตุใดท่านยังไม่พักผ่อน? ท่านคงไม่ได้กำลังรอข้ากับน้องหกกลับมากระมัง?”เวินจื่อเยวี่ยเดินไปที่ข้างโต๊ะ มองดูอาหารที่จืดชืดไม่ค่อยน่ากินนัก แล้วถามด้วยความประหลาดใจเหมือนว่าเวินจื่อเฉินกอดของบางอย่างไว้ในอก หลังจากได้ยินเสียงเวินจื่อเยวี่ยกลับมา เขามองไปที่เวินจื่อเยวี่ยด้วยสายตาแข็งทื่อเล็กน้อย จากนั้นก็มองไปที่ประตูอีกครั้ง“เวินเยวี่ยล่ะ? นางไปไหนแล้ว?”เสียงของเวินจื่อเฉินแหบเล็กน้อย ฟังแล้วเหมือนกำลังพยายามข่มอารมณ์เวินจื่อเยวี่ยที่ไม่รู้สึกถึงความผิดปกติหยิบตะเกียบขึ้นมา ลองชิมอาหารไปสองคำ แต่วินาทีต่อมาก็ขมวดคิ้วโยนตะเกียบลงบนโต๊ะ“อาหารนี่เรียบง่ายเกินไปกระมัง? รสชาติก็แย่เช่นนี้ พี่รอง ท่านจะหาของที่มันอร่อยหน่อยไม่ได้เลยหรือ? เนื้อผัดผักสักจานก็ยังดี มีแต่ผักเช่นนี้จะกินอย่างไร?”เวินจื่อเยวี่ยไม่ได้ตอบคำถามข

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 617

    “ดังนั้นเจ้าไม่ต้องสนใจมันเลย ปกติมันจะซ่อนตัวอยู่เงียบๆ เจ้าแค่ทำเหมือนไม่มีอะไรก็พอ”“ได้ ข้าเข้าใจแล้ว!”เวินซื่อเตรียมการทุกอย่างให้หลินเนี่ยนฉือแต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ นางก็ยังไม่วางใจนั้นก่อนหลินเนี่ยนฉือนอน นางรินน้ำทิพย์ให้อีกฝ่ายดื่มหนึ่งแก้ว“นี่คือยาน้ำบำรุงร่างกายที่ข้าปรุงขึ้นมาเป็นพิเศษ เพราะวัตถุดิบหายากและมีไม่เยอะ เจ้าต้องดื่มให้หมดนะ”“ยาน้ำ?”หลินเนี่ยนฉือรับแก้วมา มองน้ำที่ใสแจ๋วข้างในแก้ว รู้สึกงงงวยเล็กน้อย “เจ้าแน่ใจนะว่านี่ไม่ใช่น้ำเปล่า แต่เป็นยาน้ำ?”“แน่นอนสิ เจ้ารีบดื่มให้หมดเถอะ หลังจากดื่มเสร็จเจ้าก็นอนเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นมาเจ้าก็รู้เอง”เมื่อหลินเนี่ยนฉือได้ยินนางพูดเช่นนี้ ก็แหงนหน้าดื่มไปหลายอึกจริงๆ“อืม…รสชาติเหมือนเย็นสดชื่นเล็กน้อย”หลินเนี่ยนฉือดื่มเสร็จก็ลองสัมผัสดู นางพบว่าเหมือนนี่จะไม่ใช่น้ำเปล่าจริงๆ เป็นความรู้สึกที่ดื่มไปแล้วทำให้ร่างกายสดชื่นในพริบตา แม้แต่บาดแผลตามร่างกายก็บรรเทาลงมาก“เอาล่ะ รีบนอนเถอะ”เวินซื่อตบไหล่นาง “พรุ่งนี้ตื่นมา ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ไม่ต้องประหลาดใจ และยิ่งห้ามพูดออกไป เพราะนี่คือความลับที่ลับที่สุดขอ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 616

    “อะไรนะ?”เร็วเช่นนี้เลย!เวินซื่อตะลึงหลินเนี่ยนฉือยักไหล่ “ไทเฮาทรงรู้สึกว่าถึงเวลาแล้ว”“เช่นนั้นเจ้าล่ะ?”เวินซื่อมองนางด้วยความกังวลหลินเนี่ยนฉือยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ “ข้าเมื่อไรก็ได้”อย่างไรเสียนางก็ได้เตรียมใจไว้ก่อนแล้วเพียงแต่เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อยเวินซื่อมองดูท่าทางที่แสร้งไม่ใส่ใจของนางเงียบๆผ่านไปครู่หนึ่งจึงจะกล่าว “ดังนั้นพวกคนที่ลอบสังหารเจ้า เพราะรู้ข่าวการแต่งตั้งเฮาฮอง ดังนั้นจึงอยากชิงลงมือฆ่าเจ้าก่อน?”ทุกคนรู้ดีว่าตั้งแต่ฮ่องเต้น้อยขึ้นครองบัลลังก์ มีคนเท่าไรในราชสำนักที่กำลังจ้องตำแหน่งฮองเฮาของเขาก่อนหน้านี้มีฮองเฮาอยู่ จึงได้ผัดผ่อนเรื่องนี้มาตลอดโดยอ้างว่าฝ่าบาทยังทรงพระเยาว์ แต่ตอนนี้ฝ่าบาทก็ทรงเจริญพระชนมายุครบยี่สิบปีแล้ว เรื่องการคัดเลือกฮองเฮาจึงไม่อาจผัดผ่อนไปได้อีกต่อไปแต่ว่าหากเปิดการคัดเลือกขึ้นเมื่อใด ไม่ว่าจะในราชสำนักหรือในหมู่ขุนนาง ย่อมต้องเกิดการแย่งชิงแข่งขันกันอย่างดุเดือดแน่นอนดังนั้นในเมื่อจะเลือก ราชวงศ์ก็ต้องถือไพ่ที่เหนือกว่าเท่านั้นและหลินเนี่ยนฉือก็คือฮองเฮาที่ไทเฮาเลือกอย่างลับๆไม่รู้เพราะเหตุใด ข่าวนี้จึง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 615

    หลังจากนั้นก็แทบจะเป็นการฆ่าอยู่ฝ่ายเดียว หลินเนี่ยนฉือมองดูคนปิดหน้าสิบกว่าคนที่ล้อมนาง ตายภายใต้เงื้อมมือของร่างเงาที่งดงามสายนั้นอย่างรวดเร็วด้วยความประหลาดใจ“คุณหนูเนี่ยนฉือ นายหญิงให้ข้ามารับท่าน”หลินเนี่ยนฉือที่เพิ่งจะรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ดวงตาลุกวาวทันที “จู๋เยวี่ย? ที่แท้เป็นเจ้านี่เอง!”จู๋เยวี่ยที่ฆ่าคนอย่างเฉียบขาดเสร็จ เดินเข้าไปประคองนาง “คุณหนูเนี่ยนฉือ ยังเดินไหวหรือไม่?”“ยังพอไหว”หลินเนี่ยนฉือกล่าว ทันใดนั้นก็นึกถึงอะไรบางอย่าง…ใช่แล้ว อันหลันซิน!หลินเนี่ยนฉื่อหันไปมองฉับพลัน นางพบว่าตรงจุดที่อันหลานซินยืนอยู่ในตอนแรกไม่มีคนแล้วจู๋เยวี่ยกล่าว “ข้าเพิ่งลงมือ นางก็หนีไปแล้ว”ในน้ำเสียงของนางปนความสงสัยเล็กน้อยเพราะเมื่อครู่อันหลันซินสวมหมวกปิดบังใบหน้า ดังนั้นจู๋เยวี่ยที่ไม่รู้ว่านางเป็นใครรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายรู้จากนางหรืออย่างไร ถึงกับวิ่งหนีอย่างไม่ลังเลเช่นนั้น“เหอะ นางต้องหนีให้ไวอยู่แล้ว”หลินเนี่ยนฉือย่อมรู้ว่าเพราะเหตุใดอันหลันซินถึงวิ่งหนียังไม่พูดถึงว่าจู๋เยวี่ยแข็งแกร่งแค่ไหน เพราะแทบจะทันทีที่ลงมือก็เห็นความแตกต่างชัดเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 614

    “เจ้า?”หลินเนี่ยนฉือมองนางอย่างไม่อยากเชื่อ “เจ้าทำอะไร?”อันหลันซินกล่าวอย่างยิ้มแย้ม “เจ้าไม่รู้หรือ? ข้าคิดว่าคุณหนูใหญ่หลินอย่างเจ้ารู้ทุกเรื่องเสียอีก เพราะหลังจากที่อาซื่อกลายเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ ครั้งแรกที่เดินทางไปขอฝนที่จินโจวจนชื่อเสียงเลื่องลือ มันเป็นฝีมือของข้า”สีหน้าหลินเนี่ยนฉือเต็มไปด้วยความโกรธทันที “ครั้งนั้นเป็นฝีมือของเจ้าจริงๆ ด้วย!”“อันหลันซิน เจ้าไปเอาความหน้าด้านเช่นนี้มาจากไหน ยังกล้ายอมรับว่าเรื่องนั้นเป็นฝีมือของเจ้าอีกหรือ?! เจ้ารู้หรือไม่ว่า เจ้าเกือบฆ่าอาซื่อตาย!”ตอนนั้นพยายามไม่พูดถึงเรื่องที่ถูกลอบสังหารต่อหน้าหลินเนี่ยนฉือ แต่หลินเนี่ยนฉือกลับรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ หลังจากถามอยู่หลายครั้งจึงจะรู้ว่าเวินซื่อถูกลอบสังหารระหว่างทางไปจินโจวหลายครั้ง ถ้าไม่ใช่เพราะอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนคอยปกป้องตลอดทาง เกรงว่าอาซื่อของนางกลับมาไม่ได้แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าชื่อเสียงเลื่องลือหรือไม่!“เจ้าจะไปรู้อะไร? ฐานะและความมั่งคั่งได้มาจากการเสี่ยง ถ้าหากเป็นแค่ธิดาศักดิ์สิทธิ์ที่มีแต่ชื่อ เช่นนั้นสักวันอาซื่อก็จะถูกเวินเยวี่ยเหยียบอยู่ใต้แทบเท้า มีเพียงนางก

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status