องค์หญิงใหญ่ดวงใจท่านแม่ทัพทมิฬ

องค์หญิงใหญ่ดวงใจท่านแม่ทัพทมิฬ

last updateLast Updated : 2025-07-05
By:  sanvittayamOngoing
Language: Thai
goodnovel16goodnovel
10
1 rating. 1 review
60Chapters
2.1Kviews
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

เมื่อใจผูกพันกลับกลายเป็นรักต้องห้าม สุดท้ายหลินซูมี่ทำได้เพียงมอบกายแล้วหายไป อย่างนี้แล้วแม่ทัพใหญ่จะทำอย่างไร เมื่อต้องเลือกระหว่างหน้าที่กับดวงใจที่หนีไป

View More

Chapter 1

บทนำ

บทนำ

ณ แคว้นหลินอันรุ่งเรือง

ยามนี้ภายในวังหลวงของแคว้นหลิน กำลังเฉลิมฉลองการถือกำเนิดขึ้นขององค์หญิงตัวน้อยซึ่งเกิดจากฮองเฮา

“อุแว้!! อุแว้!! อุแว้!!”

“โอ๋ เด็กดี ไม่ร้องนะ ดูมารดาของเจ้าสิ นางเหนื่อยขนาดไหนเพื่อคลอดเจ้าออกมา เจ้าก็อย่าส่งเสียงดังรบกวนนางเลยนะ”

ผู้เป็นฮ่องเต้และเป็นพระบิดาขององค์หญิงน้อย กำลังปลอบประโลมทารกน้อยในอ้อมกอดอย่างอ่อนโยน พลางมองไปทางฮองเฮาด้วยแววตาที่หวานชื่นและแฝงไปด้วยความอ่อนโยน

“ไป! อี้กงกง เจ้าจงรีบไปประกาศให้ทั่วทั้งเมืองหลวงรับรู้ถึงการถือกำเนิดของบุตรสาวเรา”

เมื่อกล่อมจนทารกน้อยเงียบเสียงลง ฮ่องเต้ก็หันไปรับสั่งกับกงกงทันที

“น้อมรับพระบัญชา พ่ะย่ะค่ะ”

ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้นอี้กงกงก็ก้มศีรษะรับคำสั่ง รีบวิ่งไปป่าวประกาศให้ทั่วทั้งวังหลวงตามพระประสงค์ของฝ่าบาท

เมื่อข้าราชบริพารและทางวังหลวงทราบเรื่องนี้ พวกเขาต่างก็กระจายข่าวอันน่ายินดีนี้ออกไปนอกวัง จนเวลานี้ชาวบ้านทุกคนได้รับรู้กันไปทั่วทั้งแคว้นแล้ว

ขณะเดียวกันก็มีชายร่างสูงใหญ่ รูปร่างกำยำและดูภูมิฐานได้เดินเข้ามาอย่างรีบร้อนและเอ่ยถามขึ้นมา

“ถวายบังคมฝ่าบาท ฮองเฮาทรงเป็นเช่นไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ?”

“อ้าว เจ้ามาแล้วหรือเยวียนสือ ไม่ต้องมากพิธีไปหรอก ข้าบอกแล้วมิใช่หรือไงว่า เมื่ออยู่กันแค่พวกเรา เจ้าก็สนทนากับข้าตามปกติเถิด ศิษย์น้อง”

ฮ่องเต้ตอบด้วยท่าทางสนิทสนม ใบหน้าเปื้อนยิ้มพร้อมกับยื่นทารกน้อยในอ้อมแขนให้ชายตรงหน้าได้ชื่นชม ก่อนจะกล่าวออกมาอีกครั้งอย่างภาคภูมิใจ

“พี่สะใภ้ของเจ้าปลอดภัยดี นางกำลังพักผ่อนน่ะ เรื่องนั้นก็ช่างก่อนเถอะ เจ้ามาดูหลานสาวของเจ้าสิ นางหน้าตาน่ารักน่าชัง จ้ำม่ำยิ่งนัก”

เสวี่ยเยวียนสือชะโงกหน้ามองไปยังทารกน้อยอย่างชื่นชม ก่อนจะถามขึ้นด้วยน้ำเสียงและสีหน้าอ่อนโยน อย่างที่ไม่ค่อยมีใครพบเห็นมาก่อน

“หน้าตาช่างละไม้คล้ายคลึงกับพี่สะใภ้สมัยยามวัยเยาว์ยิ่งนัก แล้วท่านให้นางชื่ออะไรหรือศิษย์พี่”

“ข้าให้นางมีนามว่า หลินซูมี่ เจ้าคิดว่าอย่างไร” ฮ่องเต้ตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม ในยามที่เอ่ยนามของธิดาออกมา

“ผืนป่าอันงดงาม แต่เต็มไปด้วยความลับเช่นนั้นหรือ” ชายหนุ่มเอ่ยความหมายของชื่อออกมาอย่างผู้รู้ ก่อนจะกล่าวอีกครั้งว่า “เป็นชื่อที่ไพเราะยิ่งนัก แต่ก็แฝงไปด้วยความลึกลับ ข้าคิดว่าเมื่อนางเติบโตขึ้นมา จะต้องทั้งฉลาดและงดงามอย่างมากแน่”

“ฮ่า ๆ ย่อมเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว เชื้อสายของข้าและฮองเฮาดีมากขนาดนี้ ลูกเกิดมาก็ย่อมดีไม่ต่างจากบิดาและมารดาหรอก”

ฮ่องเต้หัวเราะชอบใจพร้อมกับตรัสด้วยความภาคภูมิใจ ก่อนจะกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงที่จริงจังไม่น้อย

“ไม่ว่าอย่างไร เจ้าจะต้องช่วยข้าเลี้ยงเด็กคนนี้ให้ดี เข้าใจหรือไม่”

“เหตุใดข้าจะต้องช่วยท่านเลี้ยงด้วยเล่าศิษย์พี่ ท่านรู้ดีว่าข้าถนัดแต่จับดาบเพื่อรบกับศัตรู ไหนเลยจะถนัดการเลี้ยงเด็กน้อย อีกอย่าง ในวังหลวงก็น่าจะมีแม่นมและเหล่าพระอาจารย์มากมายอยู่แล้ว”

เสวี่ยเยวียนสือถามออกมาอย่างไม่เข้าใจในพระประสงค์ของฮ่องเต้ เนื่องจากในวังมีคนอยู่มากมาย จึงอดสงสัยไม่ได้ว่าเหตุใดจะต้องให้เขาช่วยเลี้ยงดูธิดาคนนี้ด้วย

“เพราะข้าไม่ปรารถนาให้บุตรสาวของข้าอ่อนแอ จนโดนผู้อื่นรังแกได้โดยง่ายอย่างไรละ และข้าไว้ใจเจ้ามากที่สุด”

ฮ่องเต้ตรัสออกมาด้วยสุรเสียงที่จริงจัง ก่อนจะถอนหายใจเล็กน้อยแล้วกล่าวต่อ “ข้าคิดว่าคนในวังหลวงคงไม่มีผู้ใดกล้าสั่งสอนนางอย่างแน่นอน เช่นนั้นแล้วเมื่อนางถึงวัยที่ต้องเรียนรู้ ข้าจะส่งนางให้เจ้า และเจ้าจะต้องสั่งสอนนางให้เชี่ยวชาญทั้งเรื่องการต่อสู้ วิชาความรู้ และกลยุทธ์พิชัยสงคราม ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นเกราะป้องกันนางให้มีชีวิตอยู่ในวังหลวงได้อย่างปลอดภัย เข้าใจหรือไม่”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเสวี่ยเยวียนสือก็ขมวดคิ้วทันที เขารู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี คิดว่าในอนาคตอันใกล้นี้ ปัญหาที่น่าชวนปวดหัวกำลังจะวิ่งเข้ามาหาตนอย่างแน่นอน

แต่ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรออกไป เพราะถึงอย่างไรเสียเด็กน้อยคนนี้ เขาก็มองว่านางเป็นลูกของศิษย์พี่คนหนึ่งเหมือนกัน

“เจ้าลองอุ้มดูสิ เมื่อกี้นางนอนหลับ พอเจ้ามาถึงก็ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้ม นี่คงเพราะมีวาสนาต่อกันแน่นอน”

ฮ่องเต้ตรัสออกมาอย่างยินดี จากนั้นก็ส่งทารกในอ้อมแขนให้กับศิษย์น้องไปอุ้ม

เมื่อได้อุ้มแล้วเสวี่ยเยวียนสือก็รู้สึกแปลก ๆ เขามองทารกน้อยที่กำลังยิ้มให้ ก็พลอยให้เขายกยิ้มที่ริมฝีปากอย่างลืมตัว พร้อมกับคิดอยู่ในใจ ‘เจ้านี่หรือจะมีวาสนาต่อข้า หลินซูมี่’

จวบจนเวลาผ่านไป ยามนี้องค์หญิงหลินซูมี่มีอายุได้ห้าหนาวแล้ว ฮ่องเต้จึงได้ส่งนางให้กับศิษย์น้องที่พระองค์ไว้ใจที่สุด เพื่อให้ช่วยอบรมสั่งสอนนาง ตามที่เคยตรัสไว้ในวันที่นางลืมตามมาดูโลก

โดยที่พระองค์ไม่เคยทรงทราบเลยว่า การตัดสินใจในครั้งนี้ จะเป็นการผูกเงื่อนตายที่ไม่สามารถคลายได้ให้กับศิษย์น้องของตนเอง และจะนำพาความวุ่นวายมาสู่วังหลวงในอนาคต...

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

user avatar
Anděl K
สนุกนะ แต่ ให้พระเอกที่เห็นนางเอกตั้งแต่ิยู่ในท้องยันคลอดได้อุ้ม จนค่อยๆเติบโต แล้วเอาทำเมียเนี่ยนะ อุบาทว์ไปรึเปล่า ถ้าไม่ดำเนินความสัมพันธ์แบบนี้ยังพอรับได้นะ
2025-08-16 23:11:01
0
60 Chapters
บทนำ
บทนำณ แคว้นหลินอันรุ่งเรือง ยามนี้ภายในวังหลวงของแคว้นหลิน กำลังเฉลิมฉลองการถือกำเนิดขึ้นขององค์หญิงตัวน้อยซึ่งเกิดจากฮองเฮา“อุแว้!! อุแว้!! อุแว้!!”“โอ๋ เด็กดี ไม่ร้องนะ ดูมารดาของเจ้าสิ นางเหนื่อยขนาดไหนเพื่อคลอดเจ้าออกมา เจ้าก็อย่าส่งเสียงดังรบกวนนางเลยนะ”ผู้เป็นฮ่องเต้และเป็นพระบิดาขององค์หญิงน้อย กำลังปลอบประโลมทารกน้อยในอ้อมกอดอย่างอ่อนโยน พลางมองไปทางฮองเฮาด้วยแววตาที่หวานชื่นและแฝงไปด้วยความอ่อนโยน“ไป! อี้กงกง เจ้าจงรีบไปประกาศให้ทั่วทั้งเมืองหลวงรับรู้ถึงการถือกำเนิดของบุตรสาวเรา”เมื่อกล่อมจนทารกน้อยเงียบเสียงลง ฮ่องเต้ก็หันไปรับสั่งกับกงกงทันที“น้อมรับพระบัญชา พ่ะย่ะค่ะ”ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้นอี้กงกงก็ก้มศีรษะรับคำสั่ง รีบวิ่งไปป่าวประกาศให้ทั่วทั้งวังหลวงตามพระประสงค์ของฝ่าบาทเมื่อข้าราชบริพารและทางวังหลวงทราบเรื่องนี้ พวกเขาต่างก็กระจายข่าวอันน่ายินดีนี้ออกไปนอกวัง จนเวลานี้ชาวบ้านทุกคนได้รับรู้กันไปทั่วทั้งแคว้นแล้วขณะเดียวกันก็มีชายร่างสูงใหญ่ รูปร่างกำยำและดูภูมิฐานได้เดินเข้ามาอย่างรีบร้อนและเอ่ยถามขึ้นมา“ถวายบังคมฝ่าบาท ฮองเฮาทรงเป็นเช่นไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ?”“อ
last updateLast Updated : 2025-07-02
Read more
บทที่ 1 องค์หญิงหลินซูมี่
บทที่ 1 องค์หญิงหลินซูมี่“ท่านแม่ทัพขอรับ องค์หญิงหลินซูมี่เสด็จมาถึงแล้วขอรับ” นายทหารคนหนึ่งวิ่งมารายงานกับผู้เป็นนายทันที“ให้นางเข้ามา จงจำเอาไว้ว่าหลังจากนี้ห้ามจัดขบวนเสด็จให้นางอีก นางมาที่นี่ในฐานะผู้มาศึกษาคนหนึ่งเท่านั้น หาใช่องค์หญิงของแคว้นไม่”แม่ทัพใหญ่เสวี่ยเยวียนสือได้เอ่ยกับนายกองด้วยน้ำเสียงจริงจังและเฉียบขาดเมื่อได้ยินเช่นนั้น นายทหารผู้รับฟังรู้สึกหนักใจ เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นถึงองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ ทว่าคำสั่งของแม่ทัพก็เป็นดั่งกฎอัยการศึก ที่ทหารอย่างเขาไม่สามารถขัดได้เช่นกัน“ขอรับ ข้าจะทำตามที่ท่านแม่ทัพสั่งมา” นายกองมู่ตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น จากนั้นจึงหมุนตัวออกมาทันทีทว่าก่อนที่ร่างของนายกองมู่จะเดินถึงหน้าจวน เสียงถามเล็ก ๆ ของเด็กหญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้นมาอย่างสดใส“ท่านนายกองมู่ ท่านแม่ทัพอยู่ที่ใดหรือ”“คารวะองค์หญิงใหญ่ ท่านแม่ทัพอยู่ที่โถงหลักพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อเห็นว่าเป็นผู้ใด นายกองมู่ก็รีบทำความเคารพทันที พร้อมกับทรุดนั่งก้มหน้าลงแล้วตอบคำถามออกไปอย่างนอบน้อม โดยที่มือยังอยู่ในท่าถวายบังคมเหนือศีรษะ“ลุกขึ้นเถิด หลังจากนี้ก็สนทนากับข้าปกติก็แล้วกัน ที่น
last updateLast Updated : 2025-07-02
Read more
บทที่ 2 พรสวรรค์ขององค์หญิงน้อย
บทที่ 2 พรสวรรค์ขององค์หญิงน้อยระหว่างนั้นเสวี่ยเยวียนสือก็ได้เขียนจดหมายขึ้นมา เขาตั้งใจจะรายงานความคืบหน้าในการเรียนวันนี้ของหลินซูมี่ให้ฮ่องเต้รับรู้ โดยจะฝากไปกับทหารผู้ติดตามทว่าในตอนที่เขานำจดหมายไปส่งให้ทหารผู้ติดตามขององค์หญิง กลับได้รับแจ้งว่า“รายงานท่านแม่ทัพ ฝ่าบาทต้องการให้ท่านไปเข้าเฝ้าเพื่อรายงานเรื่องการเรียนขององค์หญิงใหญ่ด้วยตนเองขอรับ” ทหารติดตามองค์หญิงรายงานทันที ก่อนจะรีบเดินออกไปเมื่อเสวี่ยเยวียนสือได้รับคำสั่งเช่นนั้นก็ถึงกับแสดงสีหน้าเบื่อหน่ายและบ่นออกมาเล็กน้อย“เห้อ...ตั้งแต่ศิษย์พี่มีบุตรสาวคนนี้ ข้ารู้สึกว่าถูกเบียดเบียนเวลาชีวิตไปอย่างมากมายเหลือเกิน”แต่ถึงกระนั้นเขาก็มิอาจขัดพระบัญชาได้ จึงต้องควบม้าตัวโปรดเพื่อเข้าวังหลวงทันทีเมื่อแม่ทัพหนุ่มเดินทางมาถึงวังหลวง ก็ได้ถูกเชิญไปยังห้องทรงพระอักษร โดยที่นั่นมีฮ่องเต้และฮองเฮาประทับรออยู่แล้วหลังจากเข้ามาในห้องทรงพระอักษรตามลำพังแล้ว ชายหนุ่มก็ทำความเคารพอีกฝ่ายอย่างไม่รีรอ“ถวายบังคมฝ่าบาท ถวายบังคมฮองเฮา”“ไม่ต้องมากพิธี รีบมานั่งเสียเถอะ แล้วเล่าให้ข้าฟังว่า บุตรสาวของข้า เรียนเป็นอย่างไรบ้าง” ฮ่อ
last updateLast Updated : 2025-07-02
Read more
บทที่ 3 ฝึกฝนอย่างหนัก
บทที่ 3 ฝึกฝนอย่างหนักหลินซูมี่ได้ยินเช่นนั้นก็ไม่มีท่าทีคัดค้านเลยแม้แต่น้อย กลับกันนางยิ่งรู้สึกกระตือรือร้นที่จะได้ลองทำสิ่งใหม่ ๆ ดังนั้นเมื่อได้รับคำสั่งก็ไม่รอช้า รีบเดินไปยังหุ่นฟางตัวนั้นอย่างตั้งใจทันที นางรวบรวมสมาธิและปล่อยหมัดออกไปอย่างเต็มแรง ตามที่เสวี่ยเยวียนสือได้สอนความรู้สึกแรกที่ได้รับหลังจากปล่อยหมัดออกไปกระทบหุ่นฟาง ก็คือความเจ็บที่มือ แต่ก็ฝืนกัดฟันข่มความเจ็บปวดไว้ แล้วกลั้นใจต่อยออกไปซ้ำ ๆจนผ่านไปครึ่งวันนางก็ต่อยไปถึงสามร้อยครั้ง โดยที่เวลานี้มือของนางมีผ้าพันห้ามเลือดเอาไว้หลายชั้น“ท่านแม่ทัพใหญ่ขอรับ ข้าคิดว่า...” รองแม่ทัพได้เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ แต่เขากล่าวยังไม่จบก็ต้องหยุดลง“ตงตี้ นี่คือการฝึกของนาง หากแค่นี้นางยังผ่านไปไม่ได้ ภายภาคหน้าก็ไร้ซึ่งหนทางจะต่อสู้ การที่ข้าให้นางทำเช่นนี้ ก็เพื่อตัวของนางเอง”เสวี่ยเยวียนสือเอ่ยกับรองแม่ทัพตงตี้ด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง แม้จะกล่าวออกไปเช่นนั้น ทว่าภายในใจกลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่เขาไม่อาจทำอะไรได้ เวลานี้จึงทำได้เพียงกำผ้าเช็ดหน้าในมือ แล้วมองดูองค์หญิงต่อยหุ่นฟางต่อแม้มือเล็กจะถูกเลือ
last updateLast Updated : 2025-07-02
Read more
บทที่ 4 ความรู้สึกบางอย่าง
บทที่ 4 ความรู้สึกบางอย่างนับตั้งแต่วันที่องค์หญิงหลินซูมี่ได้หัดชกหุ่นฟาง วันเวลาก็ได้ล่วงเลยมาหนึ่งสัปดาห์แล้ว ในวันนี้องค์หญิงก็ต้องกลับไปฝึกวิชาการต่อสู้อย่างอื่นอีกครั้ง“มี่เอ๋อร์ วันนี้ข้าจะสอนการใช้กระบี่ ส่วนกระบี่ที่จะให้เจ้าใช้เป็นอาวุธประจำกายนั้น ข้าสั่งทำขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับเจ้าโดยเฉพาะ นี่คือรางวัลสำหรับเจ้าที่ฝึกอย่างหนักโดยไม่ปริปากบ่น ข้าหวังว่าต่อไปเจ้าจะตั้งใจเหมือนที่ผ่านมา”เสวี่ยเยวียนสือกล่าวกับหลินซูมี่อย่างอ่อนโยนเพื่อเป็นรางวัลในความตั้งใจของนาง เมื่อกล่าวจบเขาก็ได้หยิบกระบี่ออกมามอบให้กับคนตรงหน้า“ขอบคุณท่านอาเจ้าค่ะ” หลินซูมี่กล่าวขอบคุณอย่างนอบน้อม และยื่นมือออกไปรับกระบี่ทันทีที่ได้เห็นกระบี่ที่ชักออกจากฝัก หลินซูมี่ก็รู้สึกหลงใหลกระบี่นี้ไม่น้อยเลย และหลังจากวันนั้นที่ได้รับกระบี่จากเสวี่ยเยวียนสือมา นางก็มักจะนำกระบี่เล่มนี้ติดตัวเสมอสองปีผ่านไป…วันเวลาที่เลยผ่าน ทำให้นางสำเร็จวิชาการต่อสู้หลายแขนงจากแม่ทัพใหญ่ผู้นี้ และในยามนี้เสวี่ยเยวียนสือกำลังจะสั่งสอนวิชากลยุทธ์ทางการทหารให้กับนาง“ศาสตร์วิชาบทกวีและศาสตร์วิชาศิลปะการต่อสู้ เจ้าก็ได้เรียนร
last updateLast Updated : 2025-07-02
Read more
บทที่ 5 การตายขององค์ชายสาม
บทที่ 5 การตายขององค์ชายสามตำหนักเจียงฮวา“กรี๊ดดดดดดเจ้าพวกเด็กสารเลวนั่น กล้าดีอย่างไรมาทำลูกข้าบาดเจ็บเช่นนี้!” สตรีนางหนึ่งเอ่ยขึ้นมาอย่างคับแค้นใจ พลางมองไปที่บุตรชาย ที่ยามนี้ร่างกายมีบาดแผลหลายแห่งจนนางแทบไม่กล้าดู“พระสนมโปรดระวังคำกล่าวด้วยเพคะ”นางกำนัลคนสนิทเอ่ยเตือนสติ เนื่องจากคนที่เจ้านายกำลังก่นด่าอยู่นั้น คือโอรสทั้งสามของฮ่องเต้ซึ่งเกิดจากฮองเฮา อีกทั้งเวลานี้องค์รัชทายาทยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรัชทายาทแล้ว ศักดิ์และฐานะขององค์รัชทายาท จึงสูงกว่าพระสนมทุกระดับในวังหลังหากเรื่องที่พระสนมลบหลู่องค์ชายทั้งสาม แพร่งพรายออกไปให้คนนอกรับรู้ มีหวังหัวหลุดจากบ่าโดยไม่ต้องสอบสวน“อาหลิว เจ้าบอกให้ข้าระงับโทสะและระวังคำกล่าวอย่างนั้นหรือ เจ้าไม่เห็นหรือว่าลูกของข้ามีสภาพเป็นเช่นไร! แล้วหากเขาเป็นอะไรไป สถานะของข้าในวังหลังแห่งนี้ มันจะตกต่ำขนาดไหน!” พระสนมเกาต้าผินกล่าวออกมาอย่างโกรธจัด“แม้ข้าจะรู้ดีว่าการที่ไปด่าหรือตำหนิองค์รัชทายาท มันผิดต่อกฎมณเฑียรบาลมากเช่นไร และมีผลเสียมากมายอย่างไร แต่ในฐานะมารดา ข้าไม่สามารถโกรธได้เลยหรือ ที่ลูกของข้าถูกรังแกจนบาดเจ็บทั่วทั้งร่าง
last updateLast Updated : 2025-07-02
Read more
บทที่ 6 การตายครั้งนี้มีเงื่อนงำ
บทที่ 6 การตายครั้งนี้มีเงื่อนงำ“เสด็จพ่อ เหตุการณ์เป็นเช่นไรบ้างเพคะ”เมื่อเข้ามาถึงหลินซูมี่ก็เอ่ยถามบิดาทันที และเนื่องจากยามนี้ไม่ได้อยู่ในตำหนักส่วนตัว หรือตำหนักฮ่องเต้และฮองเฮา นางจึงเปลี่ยนถ้อยคำสนทนาอย่างระมัดระวังและให้เป็นทางการมากกว่าปกติ“บาดแผลขององค์ชายสามสาหัสมาก และนี่คือสาเหตุที่ทำให้เขาตาย”ฮ่องเต้ผู้เป็นบิดาถอนหายใจแล้วตอบกลับมา น้ำเสียงของพระองค์หดหู่อย่างเห็นได้ชัด แม้บุตรชายคนนี้จะไม่ได้เกิดจากหญิงที่เขารัก แต่อย่างไรเสียก็เป็นลูก การสูญเสียบุตรเช่นนี้ ทำให้หัวใจของพระองค์หนักอึ้ง จนไม่อาจปิดบังความโศกเศร้าได้ทว่าเมื่อสายตาของฮ่องเต้หันไปเห็นบุตรชายทั้งสาม ที่ยืนก้มหน้าหลบอยู่เบื้องหลังหลินซูมี่ ความโกรธก็ปะทุขึ้นอีกครั้ง“พวกเจ้าเป็นบุรุษเยี่ยงไรหา! ไปยืนหลบอยู่ข้างหลังน้องสาวที่ตัวเล็กแค่นี้ พวกเจ้าไม่ละอายใจบ้างรึ แต่ละวันคอยสร้างเรื่องให้ข้าปวดหัว วันไหนที่พวกเจ้าไม่สร้างเรื่อง มันจะตายหรือยังไง!!” เสียงตวาดของฮ่องเต้ดังก้องไปทั่วทั้งตำหนักเจียงฮวาเมื่อได้ยินเสียงตำหนิเช่นนั้น องค์ชายทั้งสามทำเพียงยืนก้มหน้าอย่างสำนึกผิด ไม่กล้าตอบอะไรแม้แต่คำเดียวหลินซู
last updateLast Updated : 2025-07-02
Read more
บทที่ 7 โดนวางยาพิษจนตาย
บทที่ 7 โดนวางยาพิษจนตายหลังจากตรวจสอบร่างของศพเสร็จแล้ว นางก็ฝังเข็มลงไปที่บริเวณลำคอและจุดเส้นเลือดใหญ่ทั้งหมด จนมั่นใจว่าบุคคลตรงหน้านี้ตายเพราะสาเหตุใด จึงได้ตอบออกไปอย่างมั่นใจ“องค์ชายสามสิ้นใจเพราะได้รับพิษเพคะ”“ได้รับพิษเช่นนั้นหรือ เจ้ารู้ได้อย่างไร” ฮ่องเต้ตรัสถามออกมาอย่างสงสัย “การที่ริมฝีปากของเขาม่วงคล้ำและลิ้นของเขาดำ นั่นย่อมหมายความว่าเขาได้รับพิษทางปาก บริเวณหน้าอกตรงตำแหน่งหัวใจก็มีสีม่วงเข้ม แสดงว่าพิษได้เข้าสู่หัวใจอย่างรวดเร็ว ส่วนดวงตาก็มีสีแดงและเส้นสีม่วงแตกในตา แสดงว่าพิษนี้มีความรุนแรงเป็นอย่างมาก ถึงขนาดที่ว่ากินแล้วตายทันทีเพคะ”หลินซูมี่วิเคราะห์ทุกอย่างออกมาโดยละเอียด พร้อมกับชี้ไปตามร่างของศพในตอนที่กล่าวออกมาด้วยเมื่อฮ่องเต้และทุกคนได้ยินและมองตามนิ้วของนาง ต่างก็ตกตะลึงในความสามารถขององค์หญิงผู้นี้สิ่งนี้ทำให้ฮ่องเต้และฮองเฮาเข้าใจในสิ่งที่เสวี่ยเยวียนสือได้กล่าวไว้ว่า บุตรสาวคนนี้มีพรสวรรค์ขั้นสูง ไม่ว่านางจะเรียนรู้สิ่งใด ไม่นานก็จะชำนาญกับสิ่งที่เรียนรู้ได้อย่างง่ายดาย“นั่นก็หมายความว่าองค์ชายสามไม่ได้ตาย เพราะโดนองค์รัชทายาท องค์ชายรองรวมทั้ง
last updateLast Updated : 2025-07-05
Read more
บทที่ 8 ความรู้สึกที่ซุกซ่อนไว้
บทที่ 8 ความรู้สึกที่ซุกซ่อนไว้หลังจากเหตุการณ์นั้นผ่านพ้นไปได้ไม่นาน ภายในวังหลวงก็ได้รับข่าวดี นั่นคือพระสนมหนานลั่วฟางตั้งครรภ์โดยตัวของนางนับว่าเป็นสตรีโฉมสะคราญคนหนึ่ง ทั้งยังมีรูปลักษณ์ที่อรชรอ่อนช้อย ใครมองเห็นก็ต่างหลงใหล เสน่ห์ปลายจวักของนางก็นับว่าไม่ธรรมดา ใครได้ลิ้มลองอาหารที่นางทำต่างพากันชื่นชมในรสมือสิ่งเหล่านี้ทำให้ฮ่องเต้ลุ่มหลงนางไม่น้อย และในที่สุดนางก็ได้รับการเลื่อนขั้นจากตำแหน่งเดิมพระสนมหนานลั่วฟางให้เป็นอี้เฟย ซึ่งอี้ที่ใช้แปลว่าคุณธรรมสูงส่ง และยังมีพระเมตตาให้นางย้ายไปอยู่ที่ตำหนักเหลียงฮวาอีกด้วยนางสนมทั้งวังหลวงต่างก็อิจฉาริษยานางอยู่ในใจ แต่ก็ไม่มีใครทำอะไรนางได้ เพราะนางกำลังเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ส่วนทางด้านองค์หญิงใหญ่ ยามนี้นางได้กลับไปศึกษาเล่าเรียนศาสตร์วิชากลยุทธ์ที่เหลือกับแม่ทัพใหญ่เสวี่ยเยวียนสือ โดยนางก็ได้ศึกษาเล่าเรียนอย่างยาวนานเป็นเวลากว่าสี่ปีเศษ จึงสำเร็จทุกวิชาที่เล่าเรียนมา“องค์หญิง เจ้าเป็นคนที่เก่งกาจที่สุดเท่าที่ข้าเคยสอนมา ต่อไปก็จงใช้วิชาความรู้ทั้งหมดนี้ให้เกิดประโยชน์ เข้าใจหรือไม่ อย่าทำให้ข้าต้องผิดหวัง”ชายหนุ่มกล่าวออกม
last updateLast Updated : 2025-07-05
Read more
บทที่ 9 งดงามอย่างหาตัวจับยาก
บทที่ 9 งดงามอย่างหาตัวจับยากท่าทางและทุกย่างก้าวที่เสวี่ยเยวียนสือเคลื่อนไหวนั้น ช่างแข็งแกร่งและดุดันแม้จะไม่ได้สวมชุดเกราะอยู่ก็ตาม เมื่อสตรีภายในงานได้เห็น ต่างถูกตรึงสายตาไว้ด้วยความหลงใหล และอยากใกล้ชิดกับบุรุษเปี่ยมเสน่ห์ผู้นี้“มี่เอ๋อร์ หวังว่าอาคงไม่มาสายเกินไปหรอกนะ นี่ของขวัญสำหรับเจ้า”เสียงทุ้มต่ำของเขาดังขึ้นเมื่อก้าวเข้ามา เขายื่นกล่องไม้ฉลุลวดลายงดงามให้หลินซูมี่เมื่อนางได้รับของสิ่งนั้นมาอยู่ในมือ จิตใจก็พลันปั่นป่วนด้วยความลังเล ไม่รู้ว่าควรเปิดดูในยามนี้เลยดีหรือไม่ หรือควรรอจนแขกเหรื่อกลับไปหมดเสียก่อน ค่อยนำไปเปิดในเรือนนอนของตนเอง“ข้าขอเปิดดูเลยนะเจ้าคะ”ทว่าความอยากรู้เกาะกุมใจ จนไม่อาจหักห้ามตนเองได้ สุดท้ายจึงตัดสินใจบอกกับเขาออกไปพร้อมกับเปิดมันออกต่อหน้าคนที่นำมา“นี่มัน...” หลินซูมี่มองสิ่งที่อยู่ในกล่องอย่างตกตะลึงภายในกล่องไม้ฉลุอันประณีต บรรจุอัญมณีเม็ดหนึ่ง ที่รายล้อมด้วยหยกล้ำค่าจำนวนมากไว้อย่างบรรจงตัวอัญมณีนั้นเปล่งประกายสีแดงเจือชมพูระเรื่อ สว่างไสวราวต้องแสงอรุณ เนื้อในบริสุทธิ์สดใสจนยากจะหาคำใดมาบรรยาย ส่วนหยกที่ห้อมล้อมอยู่นั้น ล้วนเป็นหยกจ
last updateLast Updated : 2025-07-05
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status