แชร์

บทที่ 618

ผู้เขียน: จิ้งซิง
ตอนที่เวินจื่อเยวี่ยเดินทางจากเมืองหลวงกลับถึงภูเขาหนานอีกครั้ง ก็ดึกมากแล้ว

แต่สิ่งที่เขาคิดไม่ถึงคือ คืนนี้ในกระท่อมฟางของพี่ชายรองยังมีแสงไฟส่องสว่างอยู่

เมื่อผลักประตูเข้าไป เห็นเวินจื่อเฉินนั่งอยู่ที่ข้างเตียง และบนโต๊ะยังมีอาหารที่เย็นแล้ววางอยู่

“พี่รอง เหตุใดท่านยังไม่พักผ่อน? ท่านคงไม่ได้กำลังรอข้ากับน้องหกกลับมากระมัง?”

เวินจื่อเยวี่ยเดินไปที่ข้างโต๊ะ มองดูอาหารที่จืดชืดไม่ค่อยน่ากินนัก แล้วถามด้วยความประหลาดใจ

เหมือนว่าเวินจื่อเฉินกอดของบางอย่างไว้ในอก หลังจากได้ยินเสียงเวินจื่อเยวี่ยกลับมา เขามองไปที่เวินจื่อเยวี่ยด้วยสายตาแข็งทื่อเล็กน้อย จากนั้นก็มองไปที่ประตูอีกครั้ง

“เวินเยวี่ยล่ะ? นางไปไหนแล้ว?”

เสียงของเวินจื่อเฉินแหบเล็กน้อย ฟังแล้วเหมือนกำลังพยายามข่มอารมณ์

เวินจื่อเยวี่ยที่ไม่รู้สึกถึงความผิดปกติหยิบตะเกียบขึ้นมา ลองชิมอาหารไปสองคำ แต่วินาทีต่อมาก็ขมวดคิ้วโยนตะเกียบลงบนโต๊ะ

“อาหารนี่เรียบง่ายเกินไปกระมัง? รสชาติก็แย่เช่นนี้ พี่รอง ท่านจะหาของที่มันอร่อยหน่อยไม่ได้เลยหรือ? เนื้อผัดผักสักจานก็ยังดี มีแต่ผักเช่นนี้จะกินอย่างไร?”

เวินจื่อเยวี่ยไม่ได้ตอบคำถามข
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1022

    “เจิ้นกั๋วกงรับราชโองการ...”“ด้วยโองการแห่งฟ้า ฮ่องเต้จึงทรงมีพระบัญชา เนื่องจากไทเฮาทรงประชวรเรื้อรัง รักษามานานยังไม่หายขาด ข้าได้ยินว่าซากปรักหักพังในหมู่บ้านเซียน อาจมียาดีต่ออายุขัย จึงให้เจิ้นกั๋วกงทำงานไถ่โทษ เจ็ดวันนับจากนี้ให้นำผู้คนออกค้นหายา จวนผู้ว่าการระหว่างทางต้องให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ภายในระยะเวลาครึ่งปี จงเร่งค้นหาเคล็ดวิชาลับกลับมายังราชสำนัก มิฉะนั้นจะต้องโทษประหารชีวิต! สิ้นสุดราชโองการ!”“กระหม่อมรับราชโองการ!”เวินเฉวียนเซิ่งยกมือทั้งสองขึ้น รับราชโองการจากมือของเต๋อกงกงเต๋อกงกงสังเกตเห็นขาของเขาอยู่นานแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่ได้พูดอะไร แต่ตอนนี้เมื่ออ่านราชโองการจบแล้ว ถึงได้กวาดสายตามองอย่างยิ้มแย้ม“ท่านเจิ้นกั๋วกงเป็นอะไรไปหรือ? วันเดินทางก็ใกล้เข้ามาแล้ว ท่านต้องดูแลตัวเองให้ดี อย่าให้งานที่ฝ่าบาทมอบหมายมาเสียหายก็แล้วกัน”น้ำเสียงของเต๋อกงกงแฝงไปด้วยการข่มขู่เห็นได้ชัดว่าหากเวินเฉวียนเซิ่งกล้าใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างเพื่อบอกว่าไปไม่ได้แล้วล่ะก็ เกรงว่าตอนนี้คงจะรักษาชีวิตของเขาไว้ไม่ได้แล้วแน่นอนว่าเวินเฉวียนเซิ่งไม่ได้พูดเช่นนี้“กงกงโปรดอภัย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1021

    หลานซื่อที่เดินไปไกลแล้วย่อมไม่รู้เรื่องราวทั้งหมดนี้แต่การลองเชิงเมื่อคืนนี้ก็ถือว่าได้ผลสำเร็จไม่น้อยไม่เพียงแต่ได้เจอผู้ลึกลับที่ช่วยให้เวินเฉวียนเซิ่งรอดตายมาได้ ถึงแม้อีกฝ่ายไม่ได้พูดชื่อของตัวเองออกมา แต่จากวิธีการของอีกฝ่ายตลอดจนสำเนียงที่ฟังไม่รื่นหู ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะคาดเดาได้ว่า หลวงจีนเฒ่าชั่วช้าผู้นั้นไม่ใช่ชาวต้าหมิงเมื่อนำมาประกอบกับเหตุการณ์ที่เวินเยวี่ยฟื้นจากความตายในตอนแรก เกรงว่าจะเป็นยอดฝีมือชาวต่างเผ่าอีกคนเป็นแน่ซ้ำยังรับมือได้ยากยิ่งกว่าพวกเสอชีและเสอปาที่อยู่ข้างกายเวินเยวี่ยในตอนนั้นเสียอีก หลานซื่อจึงเพิ่มความระแวดระวังต่อหลวงจีนเฒ่าชั่วช้าผู้นี้จนถึงระดับสูงสุดขณะเดียวกันก็ได้ส่งข่าวทางด้านนี้ให้ฟ่านจุ้ยที่ล่าถอยไปอีกทางได้รับรู้แล้วแม้ฟ่านจุ้ยจะออกจากที่ตรงนั้นไปแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ได้ออกจากจวนเจิ้นกั๋วกงที่เรียกว่าเส้นผมบังภูเขานั้น ฟ่านจุ้ยกำลังใช้หลักการนี้อยู่เขาพนันว่าถึงแม้เวินเฉวียนเซิ่งจะสงสัยในตัวเขา แต่ในสถานการณ์ที่บุตรชายของสกุลเวินไม่อยู่สักคนในตอนนี้ ต่อให้เวินเฉวียนเซิ่งคิดจะลงมือกับเขา ก็ไม่มีทางรวดเร็วอย่างนี้แน่นอนอีก

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1020

    “นะโม อมิตตาพุทธ”บนถนนที่มืดมิด เนื่องจากเป็นยามราตรีที่เงียบสงัด และตั้งอยู่ในที่เปลี่ยว รอบๆ ถนนในยามนี้ จึงแทบไม่มีผู้คนเอ้อถานหลัวยืนอยู่ที่อีกด้านหนึ่งของถนน เนื่องจากไม่มีไม้ขักขระอยู่ในมือ เขาจึงพนมมือขึ้น พร้อมกับเอ่ยคำสวด“สาธุชนท่านนี้ ไม่ทราบว่าท่านเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ หรือว่าเป็นปรมาจารย์กู่ข้างกายของธิดาศักดิ์สิทธิ์?”ก่อนหน้านี้เอ้อถานหลัวไม่เคยพบหน้าหลานซื่อมาก่อน ประกอบกับบนร่างกายของนางก็ไม่ได้สวมชุดสีฟ้าทะเล แต่เป็นอาภรณ์ที่เรียบง่ายและสง่างาม ดังนั้นเอ้อถานหลัวจึงจำตัวตนของหลานซื่อไม่ได้แต่หลังจากที่เขารู้เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาก็คาดเดาได้ว่า คนที่จะมาลอบสังหารเวินเฉวียนเซิ่งในยามนี้ เกรงว่าคงจะมีเพียงธิดาศักดิ์สิทธิ์ หรือไม่ก็เป็นลูกน้องที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์ส่งมาและเอ้อถานหลัวกวาดตามองไปรอบๆ ก็พบว่าที่นี่ดูเหมือนจะไม่มีคนอื่นอีกนอกจากหลานซื่อไม่สิ ยังมีอีกคนหนึ่ง“ท่านไต้ซือไม่รู้หรือว่า ก่อนที่จะถามถึงฐานะของผู้อื่น ก็ควรจะบอกชื่อของตนเองก่อน?”หลานซื่อยืนอยู่ที่เดิม ไม่ได้เอ่ยวาจาเบื้องหลังนาง ร่างสูงใหญ่ร่างหนึ่งก้าวเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1019

    “โครม!”ฟ่านจุ้ยได้แต่ยืนมองตาค้าง ขณะที่ห้องหนังสือนั้นถูกฝูงตะขาบบุกทะลวงโดยตรง และภายในชั่วอึดใจเดียว ก็พังทลายลงกลายเป็นกองซากปรักหักพังเพียงแต่ก่อนที่ห้องหนังสือจะพังทลายลง ก็มีสองร่างพุ่งทะลุประตูออกมาเสียก่อนเอ้อถานหลัวเหวี่ยงเวินเฉวียนเซิ่งไปด้านหนึ่ง ไม้ขักขระในมือกระแทกลงบนพื้นอย่างแรง พร้อมกับตวาดเสียงกร้าว “บังอาจ! ปีศาจตนใด กล้ามาอาละวาดที่นี่!”ก่อนหน้านี้ เขากระแทกไม้ขักขระเพียงครั้งเดียว ก็สั่นสะเทือนจนสังหารฝูงแมงมุมนับไม่ถ้วนของหลานซื่อได้แต่ครั้งนี้ ก่อนที่นางจะส่งเหล่าแมลงพิษออกมา นางก็ได้เตรียมการมาอย่างเต็มที่แล้วไม่เพียงแต่ให้นำแมลงพิษทั้งหมดไปแช่ในลำธารวิญญาณหนึ่งวันหนึ่งคืน ทั้งยังป้อนอาหารให้อวิ่นซิงอย่างบ้าคลั่ง ทำให้พลังของอวิ่นซิงเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากอีกครั้งในขณะนี้มันซ่อนตัวอยู่ในความมืด เมื่อเห็นอีกฝ่ายลงมือก็กระพือปีกบินขึ้นไป บินไปถึงกลางอากาศ พร้อมกับส่งเสียงร้องของแมลงที่แหลมคมอย่างยิ่งออกมา “…!”แมลงพิษนับไม่ถ้วนต่างส่งเสียงร้องตอบรับถึงกับต้านทานการโจมตีด้วยแรงสั่นสะเทือนของเอ้อถานหลัวไว้ได้เอ้อถานหลัวขมวดคิ้วเล็กน้อย สายตาจับจ้องไป

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1018

    “พี่หญิง!”ฟ่านจุ้ยนึกว่าหลานซื่อมาถึงแล้ว ก็พลันดีใจรีบรับแมงมุมน้อยตัวนั้นไว้แต่เมื่อลองสัมผัสอย่างละเอียด บริเวณรอบๆ นอกจากคนรับใช้สองคนที่ถูกเขาควบคุมไว้ที่นอกประตูแล้ว ก็ไม่มีใครอื่นอีกเลยยังไม่ทันที่ฟ่านจุ้ยจะเผยสีหน้าผิดหวังออกมา แมงมุมน้อยในมือของเขาก็พลันเกาฝ่ามือของเขาเบาๆ ฟ่านจุ้ยมองดูอีกครั้ง ถึงได้พบว่าบนหลังของแมงมุมน้อยตัวนั้น ดูเหมือนจะมีอะไรบางอย่างที่ใช้ใยแมงมุมมัดไว้อยู่?เป็นกระดาษที่พับไว้!ฟ่านจุ้ยรีบวางแมงมุมน้อยลงบนโต๊ะ หลังจากหยิบกระดาษขนาดเท่าเล็บมือออกจากหลังของมันแล้ว พอเปิดออกดู ก็มีเพียงคำใบ้สองสามคำ[หลวงจีนชั่วต่างเผ่า แผนที่สมบัติ ชุยเหลียงเฟิง]ในบรรดาคำเหล่านั้น คำว่าแผนที่สมบัติถูกขีดฆ่าทิ้งเขียนออกมาแล้ว แต่กลับขีดฆ่าทิ้งหากเป็นคนอื่นอาจจะยังดูไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรนัก แต่ฟ่านจุ้ยกลับเข้าใจในทันทีเป็นไปตามที่เขาคาดไว้ หลวงจีนเฒ่าในห้องหนังสือนั่นเป็นคนที่พี่หญิงกำลังตามหาอยู่จริงๆ เพียงแต่ไม่คิดว่า หลวงจีนเฒ่านั่นไม่เพียงแต่มุ่งเป้ามาที่แผนที่สมบัติ แต่ยังมุ่งเป้ามาที่ชุยเหลียงเฟิงด้วยถึงแม้สองวันนี้ฟ่านจุ้ยจะอยู่ในจวนเจิ้นกั๋วกงตล

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1017

    “ฮ่าๆ ฮ่าๆ ”เอ้อถานหลัวพลันหัวเราะเสียงดังลั่นขึ้นมาทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น มือข้างหนึ่งลูบเคราขาวที่ยาวเหยียด ดวงตาทั้งสองข้างเป็นประกาย “ดี ดีมาก ต้นกล้าเช่นนี้เหมาะที่จะเป็นศิษย์ของอตมาอย่างยิ่ง!”ศิษย์หรือ?เวินเฉวียนเซิ่งชะงักไปครู่หนึ่งตอนแรกเขาขมวดคิ้วเล็กน้อย คิดว่าตนเองอาจจะคิดอะไรผิดไป หมากตานี้เดินผิดไปแล้วหรือ?แต่ในวินาทีต่อมา เขาก็พลันนึกถึงศิษย์ทั้งสองคนที่เอ้อถานหลัวกล่าวถึง โดยเฉพาะชุยเส้าเจ๋อที่ทำให้เขาประทับใจอย่างยิ่งหากศิษย์ที่เอ้อถานหลัวพูดถึงล้วนเป็นพวกที่กึ่งเป็นกึ่งตายเช่นนั้น ดูเหมือนว่าจะไม่ได้แตกต่างจากแผนการของเขาสักเท่าไรนัก?“ถึงแม้จะเป็นสตรี แต่ข้าได้ยินมาว่านางได้เข้าสู่ประตูแห่งพุทธศาสนาบำเพ็ญเพียรนานแล้วมิใช่หรือ? เช่นนั้นก็ดีเลย ช่างเป็นวาสนาโดยแท้!”เอ้อถานหลัวไม่รู้ว่าเวินเฉวียนเซิ่งกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ไม่ว่าอย่างไรตอนนี้เขาก็กำลังจมดิ่งอยู่กับความตื่นเต้นของตนเอง“ขอเพียงท่านไต้ซือพอใจก็พอแล้ว”เวินเฉวียนเซิ่งเลิกคิ้ว “ขอเพียงท่านไต้ซือยินดีที่จะคุ้มกันข้าตลอดการเดินทางไกลครั้งนี้ ถึงเวลานั้น ไม่ว่าท่านไต้ซือจะต้องการอะไร ข

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status