Share

บทที่ 902

Author: จิ้งซิง
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ขุนนางทั้งหลายถึงนึกขึ้นได้ว่า ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันเคยได้รับการดูแลจากภรรยาของเจิ้นกั๋วกง ซึ่งก็คือหลานจื่อจวินผู้เป็นบุตรสาวภรรยาเอกของสกุลหลานเมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์

และการผุดขึ้นมาอย่างฉับพลันของจวนเจิ้นกั๋วกง ยังเริ่มต้นขึ้นในเวลานั้นพอดีอีกด้วย

หากไม่ใช่เพราะเหตุนี้ หากไม่ใช่เพราะสกุลหลาน จะมีจวนเจิ้นกั๋วกงในปัจจุบันนี้ได้อย่างไร?

ลืมกำพืดตัวเองไปแล้วจริง ๆ!

เขาผู้เป็นเจิ้นกั๋วกงนั้นได้ดีแล้ว แต่สกุลหลานนั้นสูญสิ้นแล้ว!

บุตรสาวเพียงคนเดียวแต่งงานกับเขาผู้เป็นเจิ้นกั๋วกง ซ้ำยังถูกเขาทรยศอีก

จนกระทั่งตอนนี้มีธิดาศักดิ์สิทธิ์ที่มีสายเลือดครึ่งหนึ่งของสกุลหลาน ต้องการเปลี่ยนมาเป็นสกุลหลาน เพื่อแสดงความกตัญญูต่อมารดา แต่ก็ถูกเขาผู้เป็นเจิ้นกั๋วกงห้ามไว้อย่างคาดไม่ถึง!

สกุลเวินของเขามีบุตรชายภรรยาเอกสี่คนและบุตรสาวภรรยาเอกหนึ่งคน ยังมีบุตรชายหญิงนอกสมรสอีกคู่หนึ่ง แบ่งให้สกุลหลานคนเดียวจะเป็นไรไป?

อันที่จริงธิดาศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสกุลเวินของพวกเขาอีกต่อไป ทำไมจะเปลี่ยนมาเป็นแซ่หลานไม่ได้?!

“เจิ้นกั๋วกง คนเราจะลืมกำพืดตัวเองขนาดนี้ไม่ได้!
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
ต็อกสีรุ้ง
ตอนนี้สนุกมาก เวินซื่อฟากไม่หยุด
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 914

    ท่านเป็นถึงท่านกั๋วกงที่ยิ่งใหญ่ มีสตรีนางใดที่ไม่สามารถเอาเข้าจวนได้โดยตรง?ไฉนจึงต้องมีลูกนอกสมรสอยู่ข้างนอกเต็มไปหมด?ปีก่อนพาบุตรสาวนอกสมรสกลับมา ปีนี้พาบุตรชายนอกสมรสกลับมาอีกก่อนนี้ยังปิดบังซ่อนเร้น พากลับมาในนามบุตรสาวบุญธรรม อย่างไรแรกเริ่มก็ยังไม่มีใครรู้แต่บุตรชายนอกสมรสในปีนี้กลับเป็นที่รู้กันไปทั่วเพียงเวลาแค่หนึ่งเที่ยงวัน ก็รู้กันไปทั่วเมืองหลวงแล้วยามนี้ใครบ้างจะไม่รู้ว่าเจิ้นกั๋วกงที่นึกว่ารักเดียวลึกซึ้ง มีฮูหยินเอกหลานซื่อเป็นภรรยาเพียงคนเดียว อยู่ข้างนอกถึงขนาดมีบุตรชายหญิงนอกสมรสหนึ่งคู่?เดิมทีสามารถเป็นเรื่องที่เปิดเผยมีเกียรติ ทว่ายามนี้กลับอับอายขายหน้ากันหมดนี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?!พ่อบ้านเองก็ถอนหายใจอย่างอดไม่ได้ ตลอดทางที่มาก็มองดูสีหน้าเวินจื่อเยวี่ยอย่างระมัดระวังแค่มองดูก็รู้ ชีวิตในจวนหลังจากนี้เกรงว่าคงไม่สงบแล้วในฐานะบ่าวคนหนึ่ง พ่อบ้านเองก็ไม่กล้าเกลี้ยกล่อมอะไรมาก จึงทำใจแข็งเอ่ยกับฟ่านจุ้ย “คุณชายน้อย สัมภาระของท่านต้องการให้บ่าวสั่งคนไปช่วยท่านนำออกมาหรือไม่?”“ไม่ต้องหรอก ไปทั้งอย่างนี้เถอะ”ฟ่านจุ้ยกระโดดลงมา แล้วเดินผ่านเวินจ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 913

    “จริงแท้แน่นอน”เวินเฉวียนเซิ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “แต่หากเจ้าเป็นเช่นพี่ใหญ่ของเจ้า ไม่เชื่อฟังคำพูดของพ่อ ทำเรื่องที่พ่อไม่ชอบใจ เช่นนั้นเจ้าอย่าคิดว่าจะได้สิ่งใดเลย”“พี่ใหญ่ทำเรื่องใดหรือ?”เวินจื่อเยวี่ยถามด้วยความสงสัย จากนั้นหันมองรอบด้าน “ใช่สิ ท่านพ่อพี่ใหญ่กลับมาพร้อมท่านไม่ใช่หรือ ทำไมตอนนี้เห็นแต่ท่านพ่อไม่เห็นพี่ใหญ่ล่ะ? พี่ใหญ่ไปไหนหรือ?”“สำหรับพี่ใหญ่ของเจ้าพ่อจัดการเอง ทางที่ดีเจ้าอย่าถามให้มาก”เวินเฉวียนเซิ่งเอ่ยเตือนเขาด้วยสายตาเย็นชาทำให้เวินจื่อเยวี่ยหุบปากทันทีเขาในยามนี้ยังไม่รู้ว่าพี่ใหญ่ของเขาได้ถูกบิดาจับไปขังไว้ในคุกน้ำแล้วนึกแค่ว่าบิดาจัดแจงให้พี่ใหญ่ไปทำธุระอย่างอื่น ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ถามอีก“ตอนนี้พ่อยังมีธุระอีกสองเรื่องต้องให้เจ้าไปจัดการ”“ท่านพ่อโปรดกล่าว”“เรื่องที่หนึ่ง เจ้าจงพาคนจำนวนหนึ่งไปจับโจรขโมยคนหนึ่งให้พ่อ คนผู้นั้นคือบ่าวรับใช้ข้างกายพี่ใหญ่เจ้า นามว่าอันเซิ่ง”เวินจื่อเยวี่ยย่อมรู้ว่าอันเซิ่งคือใคร อย่างไรคนผู้นั้นคือบ่าวคนสนิทของพี่ใหญ่พวกเขา ยามปกติพี่ใหญ่มีเรื่องใดก็ล้วนมอบให้อันเซิ่งไปจัดการ“เหตุใดจึงต้องจับอันเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 912

    เวินเฉวียนเซิ่งรับจดหมายไป แต่กลับไม่ได้เปิดอ่านเนื้อหาในจดหมายตั้งแต่แรก เพียงนำกระดาษแผ่นนั้นเอาไปสูดดมใต้จมูกไม่ใช่หมึกฮุยม่อที่นิยมใช้กันในเมืองหลวง แต่เป็นหมึกซงเยียนของชางโจวต่อมาเวินเฉวียนเซิ่งคลี่กระดาษจดหมายออก เดิมอยากตรวจดูลายมือ ดูว่าจะใช่คนที่เขาคาดเดาหรือไม่ แต่ตัวหนังสือเหมือนไก่เขี่ย น่าเกลียดมากมองดูก็รู้ว่าไม่ใช่ลายมือของคนที่เคยร่ำเรียนมาอย่างดีโดยทั่วไปคนที่เคยร่ำเรียนมาอย่างดี ต่อให้ใช้มือข้างที่ไม่ถนัด ก็ไม่ได้เขียนหนังสือน่าเกลียดเช่นนี้ อย่างไรก็ต้องมีร่องรอยเดิมอยู่บ้างแต่เวินเฉวียนเซิ่งกลับไม่พบเห็นสิ่งใดจากเนื้อหาในจดหมายตรงหน้าฉบับนี้แรกเริ่มเวินจื่อเยวี่ยยังไม่รู้สึกตัว แต่ในไม่ช้าก็คาดเดาได้ว่าเวินเฉวียนเซิ่งค้นหาสิ่งใดอยู่“ท่านพ่อ หรือท่านสงสัยว่าผู้ที่เขียนจดหมายคือเวินซื่อ?”เวินเฉวียนเซิ่งค่อยๆ วางจดหมายลง สายตาจ้องมองตัวอักษรเหมือนเด็กเพิ่งหัดเขียน เอ่ยเสียงเรียบ “ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้”หรืออีกอย่างสำหรับเขา คงมีความเป็นไปได้นี้เท่านั้นลูกสาวของเขาคนนี้ เป็นเฉกเช่นเดียวกันกับเขา ล้วนเป็นคนโหดเหี้ยมอำมหิต“หากเป็นนาง เช่นนั้นคาดว่าสิ่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 911

    “หุบปาก!”เวินเฉวียนเซิ่งขว้างกระบี่ลงพื้นอย่างแรง โกรธจนมือสั่นชี้นิ้วไปที่เวินฉางอวิ้น แล้วพูดอย่างเกรี้ยวกราด “หากเจ้าไม่ใช่ลูกชายของข้า วันนี้ข้าคงจบชีวิตเจ้าในกระบี่เดียวไปตั้งนานแล้ว!”“ข้ายินดีที่จะไม่เป็นลูกชายของท่าน!”ยามนี้สายตาที่เวินฉางอวิ้นมองเขาแฝงไปด้วยความเกลียดชัง ราวกับมองศัตรู “หากท่านไม่สังหารข้าให้ตายโดยตรง เช่นนั้นขอเพียงข้ายังมีชีวิตอยู่ ข้าจะไม่ยอมให้ท่านแตะต้องน้องห้าเด็ดขาด แม้แต่ผมเส้นเดียวก็ตาม!”“บ้าไปแล้ว...เจ้าบ้าไปแล้วจริงๆ!”เส้นเลือดบนหัวเวินเฉวียนเซิ่งปูดบวมลำคอแดงเถือกเพราะอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน อารมณ์ขุ่นเคืองท่วมท้นเต็มสมองของเขาที่ยากจะสงบลงได้ทุกคำพูดของเขาเหมือนบีบออกมาจากซอกฟัน “เจ้าเป็นถึงบุตรชายในภรรยาเอกของจวนเจิ้นกั๋วกง เป็นบุตรชายของข้าเจิ้นกั๋วกง! เหตุใดเจ้าจึงต้องช่วยลูกทรพีนั่นต่อกรกับข้า? เจ้าทำเช่นนี้มีผลดีอย่างไรกับเจ้าหรือ?”“หากข้าล่มจม เจ้านึกว่าเจ้ายังสามารถเป็นรองผู้ตรวจการแผ่นดินที่สง่าผ่าเผยได้อีกหรือ? เพ้อเจ้อ!”เวินฉางอวิ้นกล่าวอย่างโกรธเคือง “คนที่บ้าคือท่านต่างหาก!”“เสือร้ายไม่กินลูก แต่ท่านพ่อ แต่นี่เป็นครั้งท

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 910

    เวินฉางอวิ้นได้ยินคำพูดที่เสียดแทงจิตใจจากบิดาของตัวเอง เขาขบฟันแน่น ไม่โต้แย้งแม้แต่คำเดียวแต่ทันทีที่เวินเฉวียนเซิ่งเอ่ยคำพูดสุดท้ายออกมา เวินฉางอวิ้นก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาข่มความโกรธ พูดด้วยสองตาที่แดงก่ำ “อย่างนั้นหรือ? ท่านพ่อมั่นใจมากขนาดนี้ว่าข้าไม่มีทางข่มขู่ท่านได้หรือ?”เวินเฉวียนเซิ่งได้ยินคำพูดนี้ พลางหรี่ตาลงเล็กน้อยและจ้องมองเขาอยู่หลายวินาที จากนั้นก็ส่งเสียงยิ้มเยาะ เย้ยหยันอย่างไม่ไว้หน้า “ลูกชายที่รัก อย่าหลงตัวเองเกินไป”เวินฉางอวิ้นจ้องมองกลับไปอย่างเย็นชาเช่นกัน สักพักจึงพูดว่า “ท่านพ่อ ท่านต่างหากที่ประเมินตัวเองสูงเกินไป ท่านถึงคิดว่าไม่มีใครหาสมุดบัญชีเล่มนั้นที่ท่านซ่อนไว้เจอหรือ?”ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกไป สายตาของเวินเฉวียนเซิ่งก็เย็นชาลงในทันที สีหน้ามืดทึมจนดูราวกับน้ำหมึกจะหยดลงมาเวินฉางอวิ้นถึงกับมองเห็นเจตนาฆ่าของตัวเองจากใบหน้าของบิดาแต่ถึงกระนั้น เขาก็กำหมัดช้า ๆ ไม่ถอยเลยสักนิดเช่นเคยเขาทำผิดต่อน้องห้ามามากพอแล้ว อย่างน้อย...อย่างน้อยในครั้งสุดท้ายนี้ เขาต้องยืนหยัดเคียงข้างน้องห้า ในฐานะพี่ชายใหญ่ เขาต้องปกป้องน้องสาวของตัวเอง!“ทหาร”เ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 909

    “ทะ...ทหาร”จงหย่งโหวกัดฟันตะโกนเรียก พ่อบ้านที่ได้รับคำสั่งให้รออยู่ข้างนอกก็รีบวิ่งเข้ามาด้วยความตื่นตระหนก“สวรรค์ ท่านโหว! ฮูหยิน! นางกล้าลงมือโหดร้ายเช่นนี้กับพวกท่านได้อย่างไรพ่อบ้านตัวสั่นด้วยความโกรธ ต้องการที่จะเอื้อมมือไปช่วยจงหย่งโหว แต่ก็กลัวที่จะสัมผัสบาดแผลของเขา อยากดูอาการของเวินหย่าลี่ ก็กลัวจะไปกระตุ้นพิษในร่างกายของนางอีกน่าเสียดายที่ตอนนี้เวินเยวี่ยยังคงควบคุมจวนทั้งหลังอยู่ เขาอยากจะออกไปตามหมอก็ทำไม่ได้ด้วยซ้ำโชคดีที่ตอนนี้จงหย่งโหวได้พูดกับเขาว่า “บนพื้น...มียาถอนพิษ นำไปให้ฮูหยิน...กินก่อน แล้วค่อยไปที่ห้องหนังสือ เอายาใส่แผลของข้ามา”เขามักจะฝึกฝนอยู่ในเรือน ดังนั้นในห้องหนังสือจึงมักมียาใส่แผลเตรียมอยู่ทุกวันนี้เรียกหมอมาไม่ได้ จึงทำได้เพียงรักษาอาการบาดเจ็บด้วยตัวเองไม่ใช่ว่าจงหย่งโหวกลัวเวินเยวี่ยจึงไม่กล้าไปเรียก เขารู้ว่าเวินเยวี่ยไม่กล้าฆ่าเขาง่าย ๆ เขาแค่กลัวว่าถ้ามีหมอจากภายนอกเข้ามาก็จะออกไปไม่ได้แล้วพ่อบ้านกับพวกต่างยุ่งอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายทั้งเวินหย่าลี่และจงหยงโหวสามีภรรยาคู่นี้ก็ผ่านพ้นเคราะห์ร้ายครั้งนี้ไปได้และตั้งแต่ต้นจนจบเวินห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status