Share

บทที 2

หลินเฟิงออกจากคฤหาสน์ของตระกูลหลี่ มองสถานที่ที่เขาเคยใช้ชีวิตมาสามปีครั้งสุดท้าย

ตอนมาก็มาอย่างโดดเดี่ยว และจากไปด้วยมือเปล่า

รถโรลส์-รอยซ์คันหนึ่งที่ขับมาแต่ไกลจอดตรงหน้าเขา

เมื่อประตูรถเปิดออก ชายวัยกลางที่สวมสูทคนหนึ่งลงจากรถ

“คุณหลิน....”

ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม วิ่งเหยาะๆไปที่หลินเฟิง

“คุณมาได้อย่างไร” หลินเฟิงมองอย่างตั้งใจ คนที่มานั้นเป็นประธานบริษัทเทียนหัวอินเตอร์เนชั่นแนล

จ้าวเทียนหวากล่าวตามความจริง “ช่วงนี้ผมกำลังวิจัยโครงการพัฒนาของเขตซีเฉิงกับนางหลิน วันนี้ตั้งใจจะมาหานางหลินเพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับเรื่องรายละเอียด

หลินเฟิงพยักหน้า “ไม่ต้องปรึกษาแล้ว”

“หลี่ฮุ่ยหรานมีตระกูลหวางเป็นที่พึ่งแล้ว ต่อไปนี้จะไม่ต้องการความสนับสนุนของเราแล้ว”

“และก็ไม่ใช่นางหลินอีกต่อไป”

“อ๋า

จ้าวเทียนหวาตกใจมาก

“นี่...นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น

หลินเฟิงพูดแบบไม่ได้ปิดบัง “ผมหย่ากับหลี่ฮุ่ยหรานแล้ว”

“ต่อจากนี้ไป ผมจะไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกับตระกูลหลี่อีก”

หลินเฟิงมองไปที่จ้าวเทียนหวา ตบไหล่เขาเบาๆ “จ้าว สามปีมานี้คุณงานหนักแล้วนะ”

ธุรกิจของจ้าวเทียนหวาอยู่ที่ต่างประเทศทั้งหมด เมื่อสามปีก่อนถูกย้ายงานกลับมาประเทศจีนเพื่อสนับสนุนตระกูลหลี่”

รายได้ในช่วงสามปีที่ผ่านมานี้เกือบเป็นศูนย์

จ้าวเทียนหวาโค้งตัวพูดว่า “คุณหลินพูดแบบนี้เกรงใจเกินไปแล้ว”

“เป็นเกียรติของผมอย่างมากที่ได้ทำงานเพื่อคุณหลิน”

“แต่ว่าคุณหนูหลี่ทำไมจู่ๆต้องหย่ากับคุณหลินล่ะ”

“เป็นเพราะคนที่แซ่หวางนั้นจงใจขัดขวางหรือเปล่า”

จ้าวเทียนหวาขมวดคิ้ว ตบหน้าอกและพูดว่า “หากเป็นเช่นนนี้ ผมจะไปหาคุณหนูหลี่พูดให้ชัดเจนด้วยตัวเอง”

สามปีมานี้แม้ว่าตัวเขาเองจะร่วมมือกับตระกูลหลี่มาโดยตลอด

แต่ทั้งหมดเป็นเพราะได้รับคําสั่งจากคุณหลิน

ไม่งั้น ตระกูลหลี่แม้ช่วยเขาถือรองเท้าก็ไม่มีสิทธิ์ ยิ่งไม่ต้องว่าร่วมมือกับเขาเลย

ตอนนี้บริษัทได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ คาดไม่ถึงว่าเธอจะหย่ากับคุณหลินเลย อุปมาว่าวิสัยทัศน์ไม่กว้างไกล

หลินเฟิงส่ายหัว “ช่างเถอะ ผมหย่ากับหลี่ฮุ่ยหรานแล้ว ต่อจากนี้ไปเราไม่เกี่ยวกันอีก”

“ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ผมไปก่อนนะ”

จ้าวเทียนหวาตบหน้าผากตัวเอง พึ่งนึกบางอย่างออก “คุณหลิน ยังมีเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่ง เสวียนหลิงโสมที่เมื่อก่อนคุณให้ผมตามหา ผมได้ข่าวเขามาแล้ว แต่ว่า...”

“แต่ว่าอะไร” หลินเฟิงหันหน้ากลับไปถามทันที

“แต่ว่าเสวียนหลิงโสมนี้เป็นสมบัติที่สืบทอดของตระกูลถัง ไม่มีขายเลย”

จ้าวเทียนหวาเปลี่ยนคำพูดว่า “แต่ผมได้ข่าวว่า ลูกสาวคนเดียวของถังว่านหลี่ติดโรคที่รักษาได้ยากเมื่อห้าปีก่อน ตอนนี้มีชีวิตอยู่ได้ไม่นานแล้ว และกําลังพักฟื้นที่เจียงโจว”

“ถ้าคุณหลินช่วยรักษา ต้องได้ของนี้แน่”

หลินเฟิงหรี่ตาเล็กน้อย

เสวียนหลิงโสมมีความสําคัญมากสําหรับเขา การต่อสู้ในเมืองหนานไฮ่เมื่อสามปีก่อน ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและความสามารถก็ลดลงมาก

มีแต่สมบัติล้ำค่าจากธรรมชาติของธาตุทั้งห้าเท่านั้น ที่จะสามารถรักษาโรคที่ซ่อนอยู่ให้หายได้

ไม่ว่ายังไงก็ไม่สามารถพลาดเสวียนหลิงโสมได้

“ดูเหมือนว่าคุณได้คุยกับตระกูลถังแล้วใช่ไหม”ดวงตาของหลินเฟิงเหมือนดาบคม

จ้าวเทียนหวากลืนน้ำลายและเหงื่อตกออกมาจากหน้าผาก

พูดอย่างต่ำต้อยว่า “คุณหลินฉลาดมาก ผมไม่กล้าปิดบัง ถังว่านหลี่เคยบอกว่า ขอแค่รักษาลูกสาวของเขาให้หาย”

“เขาสามารถรับเงื่อนไขต่างๆของคุณหลินได้หมด”

หลินเฟิงยืนยืนโดยเอามือไพล่หลัง และไม่ได้เอาผิดเขา “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ไปที่ตระกูลถังกันเถอะ”

จ้าวเทียนหวาดีใจมาก เชิญหลินเฟิงขึ้นรถและปิดประตู

เขาเพิ่งจะขึ้นรถก็เห็นรถยนต์ BMWกำลังขับมาอย่างเร็ว

จอดตรงหน้าคฤหาสน์ของตระกูลหลี

ชายผู้หนึ่งลงรถอย่างเร็ว

“ประธานจ้าว ท่านได้คุยกับพี่สาวผมเสร็จแล้วหรือ ทำไมไม่นั่งอีกสักครู่ล่ะ

คนที่มานี้เป็นน้องชายของหลี่ฮุ่ยหราน หลี่เหวินเชา

“ฮึม”

จ้าวเทียนหวามองเขาและออกเสียง“ฮึม”อย่างดูถูก

จากนั้นก็ขึ้นรถออกไป

ในเมื่อหลินเฟิงหย่ากับหลี่ฮุ่ยหรานแล้ว ก็ไม่ต้องรักษาความสัมพันธ์ตระกูลหลี่อีก

หลี่เหวินเชางงมาก เกิดอะไรขึ้นกับจ้าวเทียนหวา ตัวเขาเองก็ไม่ได้รุกรานอะไรเขาเลย

รถโรลส์รอยซ์ขับผ่านไป

รูม่านตาของหลี่เหวินเชาเบิกกว้างเหมือนกับได้เห็นถึงฉากที่ไม่น่าเชื่อ

ไม่คาดคิดว่าหลินเฟิงจะนั่งยู่ในรถของจ้าวเทียนหวางั้นเหรอ

นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น

ห้องหนังสือของตระกูลหลี่

หลี่ฮุ่ยหรานมองนาฬิกาตลอด

จ้าวเทียนหวาตอนเช้ายังบอกว่าจะมาเยี่ยมที่บ้าน แต่ตอนนี้ก็เที่ยงแล้ว ทําไมยังไม่มีข่าวอะไรเลย

จางกุ้ยฟางก็เป็นกังวลเช่นกัน “ฮุ่ยหราน ฉันว่าคุณควรโทรหาประธานจ้าวด้วยตัวเองดีกว่า”

“ประธานจ้าวก็ไม่ได้บอกเวลาที่แน่นอน เรารอก่อนดีกว่า”

จางกุ้ยฟาง “โครงการซีเฉิงสำคัญมาก เรื่องนี้คุณต้องคิดริเริ่ม คุณควรรีบโทรหาประธานจ้าว”

หลี่ฮุ่ยหรานขมวดคิ้วและครุ่นคิด

จางกุ้ยฟางใจร้อนมาก “ถ้าคุณอายที่จะโทร งั้นฉันโทรให้”

“ช่างเถอะ ฉันจะโทรหาเขาเอง”

หลี่ฮุ่ยหรานกลัวคุณแม่ทำเรื่องพัง

เขาลังเลแล้วลังเลอีก สุดท้ายก็ตัดสินใจโทรหาเขาด้วยตัวเอง

รอสักพักหนึ่ง เขารับสายแล้ว

หลี่ฮุ่ยหรานมีทัศนคติที่เป็นมิตร พูดด้วยเสียงอ่อนโยน “ประธานจ้าว ไม่ทราบว่าคุณจะมาถึงกี่โมงคะ ฉันจะได้เตรียมตัวออกไปต้อนรับท่าน”

เสียงที่เย็นชาของจ้าวเทียนหวาดังขึ้นจากปลายสาย “คุณหนูหลี่ ผมคิดว่าความร่วมมือระหว่างเรายุติลงแล้ว"

“อ๋า นี่....เป็นเพราะอะไรคะ”

คําพูดนี้เหมือนไม้ตีหัว ซึ่งทำให้หลี่ฮุ่ยหรานรู้สึกเวียนหัว

“เดิมทีผมคิดว่าคุณหนูหลี่เป็นคนที่ให้ความสําคัญกับความรักและความชอบธรรม แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าผมดูผิดไปแล้ว"

"ทัศนคติของคุณหนูหลี่ผมไม่ค่อยเห็นด้วย ต่อจากนี้เราไม่จำเป็นต้องร่วมมือกันอีก”

จ้าวเทียนหวาพูดเยาะเย้ยแล้ววางสาย

หลี่ฮุ่ยหรานนิ่งอยู่

เธอไม่เข้าใจว่าตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ตัวเธอเองเคารพจ้าวเทียนหวามาโดยตลอด ไม่เคยลบหลู่เลยแม้แต่น้อย ทําไมถึงถูกบอกว่าทัศนคติมีปัญหา

จางกุ้ยหลานรีบถามว่า “ยังไง ประธานจ้าวพูดว่าอะไร”

หลี่ฮุ่ยหรานพูดอย่างพึมพําตัวเองว่า "ประธานจ้าวต้องการยุติความร่วมมือกับเรา"

“อะไรนะ ทำไมล่ะ”

“ฉันก็ไม่เข้าใจเหตุผล”หลี่ฮุ่ยหรานเอามือลูบหน้าผากและพูด

หลี่เหวินเชากลับวิลล่าอย่างรีบร้อน

พอเห็นคุณแม่กับพี่สาวอยู่ เขาเลยถามทันทีว่า “พี่ การร่วมมือกับประธานจ้าวนั้นคุยเสร็จแล้วหรือ

จางกุ้ยหลานพูดอย่างอารมณ์ไม่ดี “จะคุยอะไร ประธานจ้าวยังไม่ได้มาเลย ตอนนี้ยังต้องการยุติความร่วมมือกับเราอีก”

หลี่เหวินเชาไม่อยากจะเชื่อ “เป็นไปได้อย่างไร เมื่อกี้ผมยังเห็นประธานจ้าวอยู่ที่หน้าบ้านเราอยู่เลย”

“อะไรนะ”หลี่ฮุ่ยหรานทําหน้าเหลือเชื่อ

คาดไม่ถึงว่าประธานจ้าวมาแล้ว แต่ทำไมมาถึงแล้วไม่เข้ามาล่ะ

หลี่เหวินเชาตบที่ต้นขาของเขาและหายใจเข้าลึกๆ “เฮ้ย....คงเป็นเพราะหลินเฟิงไอ้เหี้ยคนนั้นพูดอะไรกับประธานจ้าวแน่ๆ!”

“เมื่อกี้ผมเห็นหลินเฟิงอยู่นั่งบนรถของประธานจ้าว”

จางกุ้ยหลานเข้าใจทันที “แหม ต้องเป็นแบบนี้แน่นอน”

“หลินเฟิงคนกากๆนี้ ดูเป็นคนซื่อสัตย์ แต่ไม่คิดมาก่อนว่าเขาจะมีจิตใจที่ชั่วร้ายเช่นนี้

“ก่อนไปยังแว้งกัดพวกเราอีก”

หลี่ฮุ่ยหรานขมวดคิ้ว และพูดว่า “ไม่น่าใช่ หลินเฟิงไม่ใช่คนที่ชอบพูดจาไร้สาระ”

อยู่ด้วยกันมาสามปี เธอค่อนข้างเข้าใจนิสัยของหลินเฟิง

ตัวเธอเองไม่เคยเห็นเขาพูดเรื่องคนอื่นลับหลัง

“พี่ รู้หน้าไม่รู้ใจนะ”

หลี่เหวินเชาพูดด้วยความขุ่นเคือง “เขาอยู่ที่ตระกูลหลี่มาสามปี เข้าใจทุกเรื่องของตระกูลหลี่ อยากจะใส่ร้ายตระกูลหลี่มันง่ายมาก”

จางกุ้ยหลาน “เหวินเชาพูดถูก ไม่อย่างงั้นประธานจ้าวทำไมมาถึงแล้วจู่ๆก็ออกไปเลยล่ะ”

“เป็นเพราะเด็กนั้นไปพูดอะไรแน่นอน”

หลี่ฮุ่ยหรานเดินไปเดินมา รู้สึกว่าคำพูดของคุณแม่ค่อนข้างสมเหตุสมผล

ไม่อย่างนั้นพฤติกรรมที่ผิดปกติของประธานจ้าวจะอธิบายได้อย่างไร

มือที่สีชมพูของเธออดไม่ได้กำปั้นแน่น

ตัวเธอเองดีต่อหลินเฟิงมาตลอด เขาทำแบบนี้ได้อย่างไร

Kaugnay na kabanata

Pinakabagong kabanata

DMCA.com Protection Status