Share

บทที่ 3

ตอนนี้หลินเฟิงกําลังหลับตาพักผ่อนอยู่บนรถ

เสียงโทรศัพท์ปลุกให้เขาตื่น

คาดไม่ถึงว่าหลี่ฮุ่ยหรานจะโทรมา

เขารับสายก็ได้ยินเสียงที่เย็นชาชองเธอ “หลินเฟิง คุณกำลังอยู่กับประธานจ้าวเหรอ”

“หลินเฟิงมองไปที่จ้าวเทียนหวาที่อยู่ข้างๆเขา “ใช่”

หลี่ฮุ่ยหรานหายใจเข้าลึกๆ ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นรวดเร็ว

หลี่เหวินเชาไม่ได้โกหก

“หลินเฟิง คุณทำให้ฉันผิดหวังมาก คุณมีอะไรไม่พอใจสามารถพูดกับฉันตรงๆได้”

“ทำไหมถึงต้องใส่ร้ายตระกูลหลี่ลับหลังแบบนี้หรอ”

หลินเฟิงนวดขมับและพูดว่า “ถ้าผมบอกว่าผมไม่ได้ใส่ร้ายตระกูลหลี่ คุณจะเชื่อผมไหม”

หลี่ฮุ่ยหราน “งั้นทำไมประธานจ้าวมาถึงที่ตระกูลหลี่แล้วจู่ๆก็ออกไปล่ะ แถมยังต้องการยุติความร่วมมือกับตระกูลหลี่ด้วย”

“จ้าวเทียนหวาจะเลือกทำอะไรเป็นเรื่องของเขา ไม่เกี่ยวกับผม”

หลี่ฮุ่ยหรานโกรธมาก คิดว่าหลินเฟิงกล้าทำแต่ไม่กล้ายอมรับ

เธอกัดฟันแล้วพูดทีละคำว่า “ฉันดูคุณผิดไปจริงๆ”

น้ำเสียงของหลินเฟิงเย็นลง “คุณเชื่อแต่ตัวเองอยู่ตลอด ไม่เคยคิดจะเข้าใจความจริง”

“ผมไม่รู้ว่าหลี่เหวินเชาได้พูดอะไรกับคุณ และก็ไม่อยากอธิบายเรื่องนี้ด้วย”

“ต่อไปอย่าเอาเรื่องแบบนี้มายุ่งผม”

พูดจบ เขาก็วางสาย

เส้นเลือดสีเขียวที่แขนโปนยกขึ้น สายตาเต็มไปด้วยความเย็นชา

สามปีที่ผ่านมา คาดไม่ถึงเลยว่าตัวเองไม่เคยได้รับความไว้วางใจจากหลี่ฮุ่ยหรานเลย

แค่ความสงสัยเล็กน้อยก็โทษเขาทั้งหมด

ในใจเธอคงคิดว่าเขาเป็นคนกากๆที่เกาะผู้หญิงกินมั้ง

จากบทสนทนาเมื่อกี้ จ้าวเทียนหวาก็เดาได้เลยว่าคือตระกูลหลี่โทรมา

เขาถามอย่างระมัดระวังว่า “คุณหลิน ต้องให้บทเรียนกับตระกูลหลี่บ้างไหม”

หลินเฟิงถอนหายใจและโบกมือ “ช่างเถอะ ต่อไปอยู่ให้ห่างจากตระกูลหลี่ก็พอแล้ว”

เขาไม่ได้อยากทำร้ายตระกูลหลี่ ที่เหลือก็ปล่อยให้พวกเขาทำเองรับเองไปเถอะ

รถยนต์โรลส์-รอยซ์ขับเข้ายังมิด-เลเวลวิลล่าอย่างช้าๆ

ดูเหมือนว่าคนรับใช้จะได้รับแจ้งมาแล้ว จึงต้อนรับทั้งสองคนเข้าไปห้องรับแขกทันที

“ท่านทั้งสองรออยู่ที่นี่สักพักนะคะ ฉันจะไปแจ้งคุณปู่ว่าพวกท่านมาแล้ว”

หลังจากเทชาให้เขาทั้งสองเสร็จ คนรับใช้ก็หันหลังขึ้นไปชั้นบน

หลินเฟิงมองไปรอบๆแล้วพูดเบาๆว่า “ตระกูลถังดูเหมือนไม่ค่อยมีคนนะ”

จ้าวเทียนหวา: “คุณหลินอย่าดูถูกตระกูลหลินมาก ถังว่านหลี่เป็นเพียงตัวแทนของตระกูลถังในเจียงโจวเท่านั้น”

“ครอบครัวของเขามีอำนาจยิ่งใหญ่ในเมืองกลาง”

“คุณหนูของตระกูลถัง ถังหว่าน ก็มีความสามารถมากเหมือนกัน ก่อตั้งการค้าข้ามชาติด้วยตัวคนเดียวเมื่อห้าปีก่อน มีสินทรัพย์หลายหมื่นล้าน”

“ยิ่งเป็นลูกศิษย์คนสุดท้ายของหัวหน้าเจียงโจว ศิลปะการต่อสู้ยอดเยี่ยมเกินคนทั่วไป ถ้าไม่ใช่เพราะป่วยหนัก คงจะเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ของเจียงโจว” หลินเฟิง จิบชาแล้วยิ้ม:“คุณชื่นชมคุณหนูตระกูลถังมากเลยนะ”

“หลี่ฮุ่ยหรานเป็นอย่างไรเมื่อเปรียบเทียบกับเธอ”

“ฮ่าๆๆ...”

จ้าวเทียนหวาหัวเราะ “ก็เหมือนกับเอานกกาเหว่าไปเปรียบเทียบกับฟีนิกซ์”

ยังไงหลินเฟิงก็หย่ากับหลี่ฮุ่ยหรานแล้ว เขาก็พูดตรงๆโดยไม่เกรงใจ”

ทันใดนั้นจ้าวเทียนหวาก็กลอกตาแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “คุณหลินหล่อ จิตใจแข็งแกร่งและปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างใจกว้าง เป็นคนยอดเยี่ยมมากคนหนึ่ง”

“คุณหนูตระกูลถังเป็นคนสวยและมีความสามารถ”

“หากคุณทั้งสองได้แต่งงานกัน จะต้องเป็นเรื่องที่ดีและเป็นมงคลมาก”

“คุณหลินถ้าสนใจ ผมยอมเป็นพ่อสื่อ”

“คึกๆ”

หลินเฟิงเกือบจะสําลักน้ำชาตาย จ้องมองเขาแวบหนึ่ง

“เรื่องผมคุณอย่ากังวลเลย สนใจเรื่องตัวเองก็พอ”

จ้าวเทียนหวาเกาหัวอย่างอึดอัดใจ ไม่คิดว่าคุณหลินไม่ได้มีความคิดอะไรเลย

เสียงฝีเท้าที่เร่งรีบดังขึ้น

จ้าวเทียนหวาลุกขึ้นต้อนรับด้วยรอยยิ้มทันที “คุณปู่ถัง”

ถังว่านหลี่จับมือเขาไว้และพูดอย่างตื่นเต้นว่า “พี่จ้าว หมอเทวดาที่คุณพูดอยู่ที่ไหน”

จ้าวเทียนหวารีบแนะนำขึ้น “ท่านผู้นี้คือหลินเฟิง คุณหลิน เคยอาศัยอยู่ที่ทะเลจีนใต้เพื่อหลีกเลี่ยงโลกและปฏิบัติธรรม มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม

ถังว่านหลี่เห็นหลินเฟิงยังหนุ่มขนาดนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าก็หยุดทันที พูดด้วยเสียงเบาๆว่า “พี่จ้าว คุณไม่ได้ล้อเล่นกับผมใช่มั้ย

“คนนี้หนุ่มเกินไปมั้ง”

จ้าวเทียนหวารีบขัดเขา และพูดอย่างจริงจังว่า “คุณปู่ถัง ที่ผมพูดเป็นความจริง ถ้าคุณหลินรักษาโรคของคุณถังไม่ได้”

“ในโลกนี้คงไม่มีใครสามารถรักษาได้อีก”

ในใจถังว่านหลี่ไม่เชื่อเลยว่าหลินเฟิงเป็นหมอเทวดา แต่ในเมื่อจ้าวเทียนหวารับประกัน

เขามีแต่ต้องลองดู

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็ขอเชิญคุณหลินตามผมมาเถอะ”

หลินเฟิงพูดเบาๆ “ขอเชิญคุณปู่ถังนำทางด้วย”

เขาทั้งสองเดินตามถังว่านหลี่

เดินมายังห้องผู้ป่วยชั้นสองห้องหนึ่ง

หลินเฟิงมองไปและเห็นบนเตียงมีผู้หญิงคนหนึ่งนอนอยู่

ผิวขาวเหมือนหิมะไร้ที่ติ

มีดวงตาสดใส สันจมูกสูงและหน้าตาสวยงามมีเสน่ห์

อย่างที่จ้าวเทียนหวาพูดไว้จริงๆ ช่างสวยงามมากๆ

แม้ว่าร่างกายของเธอจะผอมบางและป่วย แต่ก็ยากที่จะปกปิดอารมณ์ที่เย็นชาและสูงส่ง

ตรงกันข้ามกลับมีเพิ่มความสวยงามบางอย่าง

ข้างเตียงยังมีผู้หญิงในชุดสูทคนหนึ่งยืนอยู่ ดูเหมือนบอดี้การ์ด

ถังว่านหลี่รีบเดินมาในข้างๆของลูกสาวและปลอบใจว่า “หว่านเอ๋อ คุณลุงจ้าวได้หาหมอเทวดาคนหนึ่งมา ครั้งนี้โรคของคุณต้องรักษาหายแน่”

ถังหว่านมีรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย “ขอบคุณคุณลุงมากค่ะ”

โรคของตัวเธอเองเธอรู้ดีที่สุด ห้าปีมานี้มีหมอเทวดามากมายมารักษาก็ช่วยอะไรไม่ได้

ครั้งนี้เธอก็ไม่ได้มีความคาดหวังอะไร แค่แสดงความขอบคุณในเชิงสัญลักษณ์

“คุณถังเกรงใจมาก”

จ้าวเทียนหวามองไปที่หลินเฟิง “คุณหลิน อาการป่วยของคุณถังฝากให้คุณแล้วนะ"

หลินเฟิงพยักหน้า ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่เกรงใจและวางมือบนข้อมือของถังหว่าน

ถังหว่านอึ้ง ไม่คิดว่าหมอเทวดาที่พวกเขาพูดจะหนุ่มขนาดนี้

หลินเฟิงบางทีก็ขมวดคิ้ว บางทีก็ผ่อนคลาย

หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ถามว่า “คุณถังชอบฝึกศิลปะการต่อสู้”

ถังหว่านเปิดปากตอบเบาๆ “ตอนเด็กได้ฝึกศิลปะการต่อสู้นิดหน่อยกับอาจารย์ แต่ก็เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นเท่านั้น”

“ฝึกถึงระดับพลังไหนแล้วครับ”

ถังหว่านขมวดคิ้วเล็กน้อย “ระดับสูงสุด”

“หมอเทวดาทำไมไม่สอบถามอาการป่วยฉัน แต่กลับถามความสำเร็จของศิลปะการต่อสู้ของฉันล่ะ”

หลินเฟิงยิ้มอย่างมั่นใจ “เพราะโรคของคุณก็เนื่องจากการฝึกศิลปะการต่อสู้จึงป่วย”

“อะไรนะ”ทุกคนตกใจมาก

การฝึกศิลปะการต่อสู้สามารถทำให้คนป่วยด้วยเหรอ

“พูดจาไร้สาระ”

หญิงสาวในชุดสูทตะโกนออกมา “ศิลปะการต่อสู้ที่พี่หว่านเอ๋อฝึกเป็นหัตถ์สายฟ้าของบ้านฉัน ถ้าเป็นเพราะการฝึกศิลปะการต่อสู้แล้วทำไมคุณพ่อของฉันไม่ได้ป่วยล่ะ”

“เทคนิคกังฟูไม่ใช่ใครๆก็สามารถฝึกได้เลย”

หลินเฟิงพูดเบาๆ “ที่ถังหว่านฝึกนั้นเป็นกังฟูที่หยางสุด แต่ร่างกายผู้หญิงเป็นที่หยินสุด ทั้งสองแรงขัดแย้งกัน ก็จะทำให้ชี่และเลือดไหลย้อนและเส้นเลือดอุดตัน”

“และระดับศิลปะการต่อสู้ของคุณถังก็ไม่ต่ำนัก และเธอก็ฝึกถึงระดับสูงสุดแล้ว ทั้งสองแรงไม่สามารถย้อนกลับได้

“ตอนนี้เป็นอัมพาตอยู่บนเตียงก็ถือเป็นอาการเบาแล้ว อาการหนักคือชี่ของตันเถียนหายหมด เส้นลมปราณระเบิด การบำเพ็ญก็สูญเสียหมด และชีวิตก็ตกอยู่ในอันตราย

หลินเฟิงพูดจบก็มองไปที่หญิงสาวในชุดสูท “คุณก็หยุดฝึกต่อดีกว่า ไม่งั้นไม่เกินสามปี จะเป็นอัมพาตแน่นอน

“ไอเหี้ย”

หญิงสาวในชุดสูทตะโกนด้วยความโกรธและตบหน้าหลินเฟิง

เธอเองกับถังหว่านใกล้ชิดกันเหมือนพี่สาว ไม่เพียงฝึกศิลปะการต่อสู้ด้วยกันตามคุณพ่อ แม้ถังหว่านป่วย ตัวเองก็อยู่เคียงข้างเธอเสมอ

เด็กคนนี้จงใจทำร้ายความสัมพันธ์ระหว่างเราแน่นอน

เธอไม่เชื่อคำพูดของหลินเฟิงเลย

เห็นได้ชัดว่าเขาบอกว่าเทคนิคกังฟูของบ้านเธอเป็นกังฟูวิชามาร

ถ้าไม่ให้บทเรียนกับเขาสักหน่อย ก็จะไม่สามารถปลดปล่อยความเกลียดชังภายในใจ

“หยุด” จ้าวเทียนหวาตกใจมาก

ไม่คาดคิดว่าบอดี้การ์ดของถังหว่านจะกล้าลงมือกับหลินเฟิง

เขาไม่ได้เป็นห่วงหลินเฟิง แต่เป็นห่วงเด็กสาวคนนี้ที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status