แชร์

บทที่ 3

ผู้เขียน: เสี่ยวฉู่
ตอนนี้หลินเฟิงกําลังหลับตาพักผ่อนอยู่บนรถ

เสียงโทรศัพท์ปลุกให้เขาตื่น

คาดไม่ถึงว่าหลี่ฮุ่ยหรานจะโทรมา

เขารับสายก็ได้ยินเสียงที่เย็นชาชองเธอ “หลินเฟิง คุณกำลังอยู่กับประธานจ้าวเหรอ”

“หลินเฟิงมองไปที่จ้าวเทียนหวาที่อยู่ข้างๆเขา “ใช่”

หลี่ฮุ่ยหรานหายใจเข้าลึกๆ ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นรวดเร็ว

หลี่เหวินเชาไม่ได้โกหก

“หลินเฟิง คุณทำให้ฉันผิดหวังมาก คุณมีอะไรไม่พอใจสามารถพูดกับฉันตรงๆได้”

“ทำไหมถึงต้องใส่ร้ายตระกูลหลี่ลับหลังแบบนี้หรอ”

หลินเฟิงนวดขมับและพูดว่า “ถ้าผมบอกว่าผมไม่ได้ใส่ร้ายตระกูลหลี่ คุณจะเชื่อผมไหม”

หลี่ฮุ่ยหราน “งั้นทำไมประธานจ้าวมาถึงที่ตระกูลหลี่แล้วจู่ๆก็ออกไปล่ะ แถมยังต้องการยุติความร่วมมือกับตระกูลหลี่ด้วย”

“จ้าวเทียนหวาจะเลือกทำอะไรเป็นเรื่องของเขา ไม่เกี่ยวกับผม”

หลี่ฮุ่ยหรานโกรธมาก คิดว่าหลินเฟิงกล้าทำแต่ไม่กล้ายอมรับ

เธอกัดฟันแล้วพูดทีละคำว่า “ฉันดูคุณผิดไปจริงๆ”

น้ำเสียงของหลินเฟิงเย็นลง “คุณเชื่อแต่ตัวเองอยู่ตลอด ไม่เคยคิดจะเข้าใจความจริง”

“ผมไม่รู้ว่าหลี่เหวินเชาได้พูดอะไรกับคุณ และก็ไม่อยากอธิบายเรื่องนี้ด้วย”

“ต่อไปอย่าเอาเรื่องแบบนี้มายุ่งผม”

พูดจบ เขาก็วางสาย

เส้นเลือดสีเขียวที่แขนโปนยกขึ้น สายตาเต็มไปด้วยความเย็นชา

สามปีที่ผ่านมา คาดไม่ถึงเลยว่าตัวเองไม่เคยได้รับความไว้วางใจจากหลี่ฮุ่ยหรานเลย

แค่ความสงสัยเล็กน้อยก็โทษเขาทั้งหมด

ในใจเธอคงคิดว่าเขาเป็นคนกากๆที่เกาะผู้หญิงกินมั้ง

จากบทสนทนาเมื่อกี้ จ้าวเทียนหวาก็เดาได้เลยว่าคือตระกูลหลี่โทรมา

เขาถามอย่างระมัดระวังว่า “คุณหลิน ต้องให้บทเรียนกับตระกูลหลี่บ้างไหม”

หลินเฟิงถอนหายใจและโบกมือ “ช่างเถอะ ต่อไปอยู่ให้ห่างจากตระกูลหลี่ก็พอแล้ว”

เขาไม่ได้อยากทำร้ายตระกูลหลี่ ที่เหลือก็ปล่อยให้พวกเขาทำเองรับเองไปเถอะ

รถยนต์โรลส์-รอยซ์ขับเข้ายังมิด-เลเวลวิลล่าอย่างช้าๆ

ดูเหมือนว่าคนรับใช้จะได้รับแจ้งมาแล้ว จึงต้อนรับทั้งสองคนเข้าไปห้องรับแขกทันที

“ท่านทั้งสองรออยู่ที่นี่สักพักนะคะ ฉันจะไปแจ้งคุณปู่ว่าพวกท่านมาแล้ว”

หลังจากเทชาให้เขาทั้งสองเสร็จ คนรับใช้ก็หันหลังขึ้นไปชั้นบน

หลินเฟิงมองไปรอบๆแล้วพูดเบาๆว่า “ตระกูลถังดูเหมือนไม่ค่อยมีคนนะ”

จ้าวเทียนหวา: “คุณหลินอย่าดูถูกตระกูลหลินมาก ถังว่านหลี่เป็นเพียงตัวแทนของตระกูลถังในเจียงโจวเท่านั้น”

“ครอบครัวของเขามีอำนาจยิ่งใหญ่ในเมืองกลาง”

“คุณหนูของตระกูลถัง ถังหว่าน ก็มีความสามารถมากเหมือนกัน ก่อตั้งการค้าข้ามชาติด้วยตัวคนเดียวเมื่อห้าปีก่อน มีสินทรัพย์หลายหมื่นล้าน”

“ยิ่งเป็นลูกศิษย์คนสุดท้ายของหัวหน้าเจียงโจว ศิลปะการต่อสู้ยอดเยี่ยมเกินคนทั่วไป ถ้าไม่ใช่เพราะป่วยหนัก คงจะเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ของเจียงโจว” หลินเฟิง จิบชาแล้วยิ้ม:“คุณชื่นชมคุณหนูตระกูลถังมากเลยนะ”

“หลี่ฮุ่ยหรานเป็นอย่างไรเมื่อเปรียบเทียบกับเธอ”

“ฮ่าๆๆ...”

จ้าวเทียนหวาหัวเราะ “ก็เหมือนกับเอานกกาเหว่าไปเปรียบเทียบกับฟีนิกซ์”

ยังไงหลินเฟิงก็หย่ากับหลี่ฮุ่ยหรานแล้ว เขาก็พูดตรงๆโดยไม่เกรงใจ”

ทันใดนั้นจ้าวเทียนหวาก็กลอกตาแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “คุณหลินหล่อ จิตใจแข็งแกร่งและปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างใจกว้าง เป็นคนยอดเยี่ยมมากคนหนึ่ง”

“คุณหนูตระกูลถังเป็นคนสวยและมีความสามารถ”

“หากคุณทั้งสองได้แต่งงานกัน จะต้องเป็นเรื่องที่ดีและเป็นมงคลมาก”

“คุณหลินถ้าสนใจ ผมยอมเป็นพ่อสื่อ”

“คึกๆ”

หลินเฟิงเกือบจะสําลักน้ำชาตาย จ้องมองเขาแวบหนึ่ง

“เรื่องผมคุณอย่ากังวลเลย สนใจเรื่องตัวเองก็พอ”

จ้าวเทียนหวาเกาหัวอย่างอึดอัดใจ ไม่คิดว่าคุณหลินไม่ได้มีความคิดอะไรเลย

เสียงฝีเท้าที่เร่งรีบดังขึ้น

จ้าวเทียนหวาลุกขึ้นต้อนรับด้วยรอยยิ้มทันที “คุณปู่ถัง”

ถังว่านหลี่จับมือเขาไว้และพูดอย่างตื่นเต้นว่า “พี่จ้าว หมอเทวดาที่คุณพูดอยู่ที่ไหน”

จ้าวเทียนหวารีบแนะนำขึ้น “ท่านผู้นี้คือหลินเฟิง คุณหลิน เคยอาศัยอยู่ที่ทะเลจีนใต้เพื่อหลีกเลี่ยงโลกและปฏิบัติธรรม มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม

ถังว่านหลี่เห็นหลินเฟิงยังหนุ่มขนาดนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าก็หยุดทันที พูดด้วยเสียงเบาๆว่า “พี่จ้าว คุณไม่ได้ล้อเล่นกับผมใช่มั้ย

“คนนี้หนุ่มเกินไปมั้ง”

จ้าวเทียนหวารีบขัดเขา และพูดอย่างจริงจังว่า “คุณปู่ถัง ที่ผมพูดเป็นความจริง ถ้าคุณหลินรักษาโรคของคุณถังไม่ได้”

“ในโลกนี้คงไม่มีใครสามารถรักษาได้อีก”

ในใจถังว่านหลี่ไม่เชื่อเลยว่าหลินเฟิงเป็นหมอเทวดา แต่ในเมื่อจ้าวเทียนหวารับประกัน

เขามีแต่ต้องลองดู

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็ขอเชิญคุณหลินตามผมมาเถอะ”

หลินเฟิงพูดเบาๆ “ขอเชิญคุณปู่ถังนำทางด้วย”

เขาทั้งสองเดินตามถังว่านหลี่

เดินมายังห้องผู้ป่วยชั้นสองห้องหนึ่ง

หลินเฟิงมองไปและเห็นบนเตียงมีผู้หญิงคนหนึ่งนอนอยู่

ผิวขาวเหมือนหิมะไร้ที่ติ

มีดวงตาสดใส สันจมูกสูงและหน้าตาสวยงามมีเสน่ห์

อย่างที่จ้าวเทียนหวาพูดไว้จริงๆ ช่างสวยงามมากๆ

แม้ว่าร่างกายของเธอจะผอมบางและป่วย แต่ก็ยากที่จะปกปิดอารมณ์ที่เย็นชาและสูงส่ง

ตรงกันข้ามกลับมีเพิ่มความสวยงามบางอย่าง

ข้างเตียงยังมีผู้หญิงในชุดสูทคนหนึ่งยืนอยู่ ดูเหมือนบอดี้การ์ด

ถังว่านหลี่รีบเดินมาในข้างๆของลูกสาวและปลอบใจว่า “หว่านเอ๋อ คุณลุงจ้าวได้หาหมอเทวดาคนหนึ่งมา ครั้งนี้โรคของคุณต้องรักษาหายแน่”

ถังหว่านมีรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย “ขอบคุณคุณลุงมากค่ะ”

โรคของตัวเธอเองเธอรู้ดีที่สุด ห้าปีมานี้มีหมอเทวดามากมายมารักษาก็ช่วยอะไรไม่ได้

ครั้งนี้เธอก็ไม่ได้มีความคาดหวังอะไร แค่แสดงความขอบคุณในเชิงสัญลักษณ์

“คุณถังเกรงใจมาก”

จ้าวเทียนหวามองไปที่หลินเฟิง “คุณหลิน อาการป่วยของคุณถังฝากให้คุณแล้วนะ"

หลินเฟิงพยักหน้า ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่เกรงใจและวางมือบนข้อมือของถังหว่าน

ถังหว่านอึ้ง ไม่คิดว่าหมอเทวดาที่พวกเขาพูดจะหนุ่มขนาดนี้

หลินเฟิงบางทีก็ขมวดคิ้ว บางทีก็ผ่อนคลาย

หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ถามว่า “คุณถังชอบฝึกศิลปะการต่อสู้”

ถังหว่านเปิดปากตอบเบาๆ “ตอนเด็กได้ฝึกศิลปะการต่อสู้นิดหน่อยกับอาจารย์ แต่ก็เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นเท่านั้น”

“ฝึกถึงระดับพลังไหนแล้วครับ”

ถังหว่านขมวดคิ้วเล็กน้อย “ระดับสูงสุด”

“หมอเทวดาทำไมไม่สอบถามอาการป่วยฉัน แต่กลับถามความสำเร็จของศิลปะการต่อสู้ของฉันล่ะ”

หลินเฟิงยิ้มอย่างมั่นใจ “เพราะโรคของคุณก็เนื่องจากการฝึกศิลปะการต่อสู้จึงป่วย”

“อะไรนะ”ทุกคนตกใจมาก

การฝึกศิลปะการต่อสู้สามารถทำให้คนป่วยด้วยเหรอ

“พูดจาไร้สาระ”

หญิงสาวในชุดสูทตะโกนออกมา “ศิลปะการต่อสู้ที่พี่หว่านเอ๋อฝึกเป็นหัตถ์สายฟ้าของบ้านฉัน ถ้าเป็นเพราะการฝึกศิลปะการต่อสู้แล้วทำไมคุณพ่อของฉันไม่ได้ป่วยล่ะ”

“เทคนิคกังฟูไม่ใช่ใครๆก็สามารถฝึกได้เลย”

หลินเฟิงพูดเบาๆ “ที่ถังหว่านฝึกนั้นเป็นกังฟูที่หยางสุด แต่ร่างกายผู้หญิงเป็นที่หยินสุด ทั้งสองแรงขัดแย้งกัน ก็จะทำให้ชี่และเลือดไหลย้อนและเส้นเลือดอุดตัน”

“และระดับศิลปะการต่อสู้ของคุณถังก็ไม่ต่ำนัก และเธอก็ฝึกถึงระดับสูงสุดแล้ว ทั้งสองแรงไม่สามารถย้อนกลับได้

“ตอนนี้เป็นอัมพาตอยู่บนเตียงก็ถือเป็นอาการเบาแล้ว อาการหนักคือชี่ของตันเถียนหายหมด เส้นลมปราณระเบิด การบำเพ็ญก็สูญเสียหมด และชีวิตก็ตกอยู่ในอันตราย

หลินเฟิงพูดจบก็มองไปที่หญิงสาวในชุดสูท “คุณก็หยุดฝึกต่อดีกว่า ไม่งั้นไม่เกินสามปี จะเป็นอัมพาตแน่นอน

“ไอเหี้ย”

หญิงสาวในชุดสูทตะโกนด้วยความโกรธและตบหน้าหลินเฟิง

เธอเองกับถังหว่านใกล้ชิดกันเหมือนพี่สาว ไม่เพียงฝึกศิลปะการต่อสู้ด้วยกันตามคุณพ่อ แม้ถังหว่านป่วย ตัวเองก็อยู่เคียงข้างเธอเสมอ

เด็กคนนี้จงใจทำร้ายความสัมพันธ์ระหว่างเราแน่นอน

เธอไม่เชื่อคำพูดของหลินเฟิงเลย

เห็นได้ชัดว่าเขาบอกว่าเทคนิคกังฟูของบ้านเธอเป็นกังฟูวิชามาร

ถ้าไม่ให้บทเรียนกับเขาสักหน่อย ก็จะไม่สามารถปลดปล่อยความเกลียดชังภายในใจ

“หยุด” จ้าวเทียนหวาตกใจมาก

ไม่คาดคิดว่าบอดี้การ์ดของถังหว่านจะกล้าลงมือกับหลินเฟิง

เขาไม่ได้เป็นห่วงหลินเฟิง แต่เป็นห่วงเด็กสาวคนนี้ที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 1636

    "หลินเฟิง ในเมื่อฉันก็เป็นภรรยาของหลี่ไห่หง ต่อไปฉันอยากให้ตระกูลหยวนและตระกูลหลี่รวมกัน สองตระกูลไม่แบ่งแยกกัน นายคิดว่ายังไง?""อะไรนะ?!"เมื่อหยวนเยี่ยนเซี่ยพูดคำเหล่านี้ออกมา ไม่เพียงแต่คนในตระกูลหยวนที่ตกตะลึง แม้แต่หลี่ฮุ่ยหรานที่อยู่ข้างๆ ก็มีสีหน้างุนงงนายหญิงหยวนกำลังพูดอะไรกันแน่เนี่ย! รวมกัน? ตอนนี้มีความเป็นไปได้ที่จะรวมกับตระกูลหยวนด้วยเหรอ?!"นายหญิงหยวน คุณเป็นบ้าไปแล้วเหรอ?!"หยวนชางทนไม่ไหว ลุกขึ้นยืนและตะโกนเสียงดังว่า:"ตอนนี้ตัวประกันอยู่ในมือของพวกเรา แถมตระกูลหยวนของพวกเราก็ใหญ่กว่าตระกูลหลี่มาก ถึงแม้ว่าจะยึดตระกูลหลี่และหลี่ซื่อกรุ๊ปไม่ได้ พวกเราก็สามารถกลับไปที่ปินโจวได้!""ทำไมถึงต้องรวมกับตระกูลหลี่เล็กๆ นี่ด้วย?!""ใช่แล้วนายหญิง มันไม่มีเหตุผลเลย!""เท่าที่ฉันเห็น นายหญิงคงจะตกใจกับเรื่องเมื่อครู่ เริ่มพูดจาเพ้อเจ้อแล้วมั้ง""หุบปากให้หมด! ฉันยังไม่บ้านะ!"หยวนเยี่ยนเซี่ยตะคอกและจ้องมองไปที่หยวนชางและคนในตระกูลหยวนคนอื่นๆ"ตอนนี้ฉันก็ยังเป็นนายหญิงของตระกูลหยวน ไม่ว่าพวกแกจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม ต้องฟังคำสั่งของฉัน ไม่งั้นแล้ว...""อย่าโทษฉันถ้าฉ

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 1635

    หยวนเยี่ยนเซี่ยพูดคำขอความเมตตาไม่ออกเพราะเมื่อครู่ระหว่างทาง เธอยังพูดคุยกับลูกน้องด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า เกี่ยวกับวิธีแบ่งปันผลประโยชน์และพัฒนาหลังจากที่รับช่วงต่อหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้วแต่ในพริบตา เธอกลับกลายเป็นนักโทษถูกหักหน้าเร็วเกินไปหน่อยถ้าขอความเมตตาหน้าแก่ ๆ ของเธอคงจะขายหน้าไปหมดในวันนี้ นายหญิงของตระกูลหยวนคงจะกลายเป็นเรื่องตลกก็คงจะไม่มีใครในตระกูลหยวนฟังเธออีกต่อไปและการขู่เพิ่งใช้ไปแล้วเมื่อครู่ย่าไท่เป่า ทุนที่ใหญ่ที่สุดของเธอในการขู่หลินเฟิง น่าจะถูกหลินเฟิงจัดการไปแล้วตอนนี้เธอจะเอาอะไรมาขู่หลินเฟิงได้อีก?"นายหญิง พวกเรายังมีไพ่ในมืออยู่! จำตระกูลหลี่ได้ไหม?"หยวนชางที่อยู่ข้างๆ เขย่านายหญิงที่กำลังเหม่อลอยอย่างแรง ลดเสียงลงและพูดว่า:"ตอนนี้ฮ่าวหยางยังอยู่ที่ตระกูลหลี่ไม่ใช่เหรอ? คนเก่งของตระกูลหยวนเรามีมากมาย!""ตอนนี้คนในตระกูลหลี่ก็ยังถูกพวกเรากักบริเวณอยู่ ถ้าหลินเฟิงกล้าลงมือกับพวกเรา พวกเราก็จะยอมตายไปด้วยกัน!"เมื่อได้ยินคำเตือนของหยวนชางที่อยู่ข้างๆในที่สุดหยวนเยี่ยนเซี่ยก็ตั้งสติได้"ใช่แล้ว!""ตอนนี้หลี่กงเฉิง หลี่ไห่เจียงและคนอื่นๆ

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 1634

    สีหน้าของคุณอู่เปลี่ยนจากรอยยิ้มที่น่ากลัวตอนที่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ค่อยๆ กลายเป็นความงุนงง สุดท้ายจ้องมองไปที่หลินเฟิงด้วยความตกตะลึงและความหวาดกลัว"เป็นยังไง โทรติดไหม?"หลินเฟิงเดินเข้าไปใกล้และถามอย่างจงใจ"คุณอู่ พี่สาวของฉัน เธอ... โทรศัพท์ของย่าไท่เป่า คุณโทรติดไหม?!"หยวนเยี่ยนเซี่ยก็เร่งเร้าถามอยู่ข้างๆรอจนกระทั่งคุณอู่หันหน้ามา หยวนเยี่ยนเซี่ยถึงได้เห็นความตกตะลึงและความสับสนในดวงตาของคุณอู่ต้องรู้ว่าหมายเลขเฉพาะที่ใช้ติดต่อภายในซือไจของพวกเขาเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยส่วนบุคคล!สมาชิกซือไจทุกคน ไม่ว่าจะเป็นระดับสูงหรือต่ำ หากกล้าที่จะไม่รับหมายเลขเฉพาะ จะถูกซือไจและสำนักร้อยพิษลงโทษในฐานะผู้ทรยศทั้งหมดสำหรับผู้ทรยศนั้น มีจุดจบที่เจ็บปวดยิ่งกว่าความตายดังนั้นในอดีตในซือไจและสำนักร้อยพิษจึงมีผู้ทรยศน้อยมาก ดังนั้นหากโทรศัพท์เฉพาะติดต่อไม่ได้ ก็มีคำอธิบายเดียวเท่านั้นนั่นคือเจ้าของโทรศัพท์ ตายไปแล้ว!คุณอู่เป็นคนที่คิดถึงสิ่งนี้เป็นคนแรก และหลังจากที่ได้เห็นสีหน้าของคุณอู่แล้ว หยวนเยี่ยนเซี่ยก็คิดได้เช่นกัน"คุณอู่ หรือว่าพี่สาวของฉัน ตายแล้วจริงๆ..."ในข

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 1633

    "หือ?"ถึงแม้ว่าจะขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นสูงแล้ว แต่ทุกคนในตระกูลหยวนก็ยังได้ยินเสียงดังมาจากข้างล่าง"เกิดอะไรขึ้น?"ในขณะที่หยวนเยี่ยนเซี่ยก็สงสัยเช่นกัน ลิฟต์ก็ส่งเสียงเตือนขึ้น"ติ๊ง"ลิฟต์แสดงว่ามาถึงชั้นบนสุดแล้วหยวนเยี่ยนเซี่ยเคยมาที่หลี่ซื่อกรุ๊ป ย่อมรู้ว่าชั้นบนสุดคือสมองหลักของหลี่ซื่อกรุ๊ป ไม่เพียงแต่หลี่ฮุ่ยหรานและคนอื่นๆ ทำงานอยู่ที่นี่ ห้องประชุมของคณะกรรมการบริหารก็อยู่ที่ชั้นนี้ด้วยแต่ในขณะที่ประตูลิฟต์ค่อยๆ เปิดออก หยวนเยี่ยนเซี่ยเตรียมที่จะพาคนในตระกูลหยวนออกไป เพื่อถามว่าเสียงดังข้างล่างมันเกิดอะไรขึ้นในสายตาของเธอ ก็เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยพอดีหลินเฟิง!หยวนเยี่ยนเซี่ยงุนงงไปหมดเธอมองหลินเฟิงที่ยืนอยู่หน้าประตูลิฟต์อย่างงุนงง ราวกับว่ารอคอยการมาเยือนของพวกเขาอยู่ หัวใจของเธอจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งในทันที"นี่... นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่..."หยวนเยี่ยนเซี่ยถามด้วยเสียงสั่นเครือแต่ในที่เกิดเหตุ คนตระกูลหยวนที่อยู่ข้างหลังเธอไม่มีใครให้คำตอบเพราะในขณะนี้ผู้บริหารระดับสูงของตระกูลหยวนทุกคนรู้ว่า พวกเขาถูกหลอกแล้ว กระโดดเข้าไปในกับดักของหลินเฟิงด้วยความเต็มใจ"ย

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 1632

    หน้าอาคาร มีฝูงชนจำนวนมากมาชุมนุมกันเมื่อเห็นฝูงชนที่วุ่นวายเหล่านี้ หยวนเยี่ยนเซี่ยก็ขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย"ใครอนุญาตให้พวกมันมาที่นี่? ไล่พวกมันออกไปให้หมด!""ครับ/ค่ะ!"เมื่อตระกูลหยวนเริ่มไล่ผู้คนออกไป ผู้ชมที่มามุงดูก็พยักหน้าและโค้งคำนับทีละคน ขณะที่ถูกไล่ออกไป แววตาของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความดุร้าย แต่ไม่มีใครมองเห็นเมื่อหยวนเยี่ยนเซี่ยเห็นว่าผู้คนเหล่านี้ถูกไล่ออกไป เธอก็ยิ่งภาคภูมิใจมากขึ้นเธอนำหน้าเข้าไปในอาคารหลี่ซื่อกรุ๊ป เงยหน้าขึ้น ราวกับเป็นแม่ทัพผู้มีชัยในสมัยโบราณ รอให้ศัตรูนำเมืองมาถวายและยอมจำนน"ตงหยางล่ะ?"เมื่อเข้าไปในห้องโถงและเห็นว่าที่นี่ไม่มีใครอยู่ หยวนเยี่ยนเซี่ยก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจดูเหมือนว่าสิ่งที่ตงหยางพูดจะเป็นความจริง เขาได้ควบคุมหลี่ฮุ่ยหรานไว้แล้วจริงๆตอนนี้หลี่ซื่อกรุ๊ปอยู่ในสถานะหยุดชะงัก"คุณ...คุณตงหยางอยู่ที่ห้องประธานค่ะ"หญิงสาวคนหนึ่งที่รับผิดชอบต้อนรับที่ประตู เมื่อเห็นผู้คนมากมายจากตระกูลหยวน ก็ตกใจจนพูดตะกุกตะกัก"ไป ไปที่ห้องประธานกับฉัน"หยวนเยี่ยนเซี่ยโบกมือ จากนั้นเธอก็สั่งให้องครักษ์บางส่วนของตระกูลหยวนอยู่

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 1631

    ขบวนรถที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลหยวนแล่นจากเจียงโจวมายังเมืองเจิ้งเต๋อฉากนั้นอึกทึกครึกโครมเกินไป รถหรูมากกว่ายี่สิบคัน ทั้งหมดมีตราประจำตระกูลหยวนแห่งปินโจว ดึงดูดความสนใจจากผู้คนที่สัญจรไปมาบนท้องถนนอย่างไม่ต้องสงสัยคนเดินเท้าจำนวนน้อยที่รู้จักตระกูลหยวนต่างก็ตกตะลึงทำไมตระกูลหยวนแห่งปินโจวถึงปรากฏตัวขึ้นที่เมืองเจิ้งเต๋อได้? หรือว่าตระกูลหยวนกำลังจะยื่นมือมาที่เมืองเจิ้งเต๋อ?ตามระยะห่างระหว่างปินโจวและเจียงโจวแล้ว เห็นได้ชัดว่ามันไม่สมเหตุสมผล เพราะถึงแม้ว่าระยะห่างระหว่างสองเมืองจะไม่เรียกว่าไกลมากแต่มีหนิงโจวคั่นกลาง จะเรียกว่าใกล้ก็ไม่ได้หากต้องการขยายออกไปภายนอก ควรยึดหนิงโจวที่อยู่ใกล้ที่สุดก่อน ทำไมจู่ๆ ถึงยื่นมือมาที่เมืองเจิ้งเต๋อ?ในขณะที่คนเดินถนนบนท้องถนนคาดเดาและชี้ไปยังขบวนรถที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลหยวน หยวนเยี่ยนเซี่ยที่นั่งอยู่ในรถลีมูซีนลินคอล์นที่ยาวที่สุดซึ่งอยู่ตรงกลางขบวนรถก็หัวเราะออกมาเธอหัวเราะอย่างภาคภูมิใจมากเพราะเธอได้ตรวจสอบล่วงหน้าแล้วว่า เดิมทีเมืองเจิ้งเต๋อมีสามผู้ยิ่งใหญ่ คนภายนอกจึงไม่สามารถเข้ามาแทรกแซงได้แต่ตอนนี้จู่ๆ ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสามคนก็

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status