ประธานโจว ประธานโจว! ผมพาคนมาแล้ว!”“รบกวนคุณให้พรรคพวกของคุณลงมือ กำจัดหลินเฟิงคนนี้ซะ!”หลี่เหวินเชาลงจากรถ ตะโกนไปด้วย พร้อมทั้งวิ่งไปในโรงงานร้าง“หึหึ...”แต่ในตอนนี้ ชายแก่ที่ดูอายุประมาณหกสิบปี สวมชุดสูทลายทาง ปากคาบซิการ์เดินออกมาจากภายในโรงงานหลินเฟิงก็จำคนคนนี้ได้เช่นกันตอนนั้นที่งานประมูล เคยพูดคุยกับหลี่ฮุ่ยหรานหลินเฟิงจำได้ว่า คนคนนี้เหมือนจะยังถูกคนนอกเรียกว่าหนึ่งในสามผู้ยิ่งใหญ่แห่งเมืองเจิ้งเต๋อนามสกุลโจวตอนนั้น ข้างกายของเขายังมีฉู่ฮวาจิ่นติดตามอยู่ด้วยเมื่อเห็นหลินเฟิงลงมาจากรถ และเดินเข้ามาด้วยท่าทางสบายใจ ประธานโจวคนนี้ก็สูบซิการ์ พ่นควันออกมา และหัวเราะเบาๆ พูดว่า:“นายคือหลินเฟิง สามีของหลี่ฮุ่ยหราน?”“ถูกต้อง”หลินเฟิงยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าของเขา เหลือบมองหลี่เหวินเชาที่อยู่ข้างๆ ตระกูลโจว และส่ายหน้าด้วยความเหยียดหยาม:“เดิมทีคิดว่าช่วงเวลาที่นายออกจากเมืองเจียงโจว น่าจะมีความคืบหน้าอยู่บ้าง แต่คิดไม่ถึงว่านายจะไร้ยางอายแบบนี้”“หึ ไร้ยางอายก็ต้องดูว่าเป็นใคร!”หลี่เหวินเชาพูดยิ้มเยาะ: “สำหรับขยะแบบนาย ไม่มีคำพูดอะไรที่น่าประนีประนอมด้วย!”“
เถ้าแก่โจวเห็นสองพี่น้องตระกูลหานพูดออกมา เขาก็ขมวดคิ้ว และบ่นพึมพำในใจเขาหันหน้ามองไปทางหลี่เหวินเชา“นายมั่นใจว่าเขาก็คือหลินเฟิง? สามีของหลี่ฮุ่ยหราน?”“ถูกต้อง!”หลี่เหวินเชาจ้องมองหลินเฟิง และแสยะยิ้มพูดว่า: “ประธานโจว คุณวางใจได้ ต่อให้เขากลายเป็นขี้เถ้าผมก็จำได้”“หึ ถ้าหากไม่ใช่ นายรู้จุดจบนะ”ประธานโจวยิ้มเยาะได้ยินคำพูดแบบนี้ หลี่เหวินเชาตัวสั่นไปหมด และก็รีบยิ้มประจบสอพอพูดว่า:“ประธานโจวพูดอะไรกันครับ ผมจะกล้าหลอกคุณได้ยังไงล่ะ?!”“คนผู้นี้ก็คือหลินเฟิงแน่นอน ถ้าหากผมพูดผิด คุณก็ฆ่าผมได้เลย!”“อีกอย่าง ผมยังค้างเงินคุณอยู่อีกสี่ร้อยห้าสิบล้านบาท!”ต่อให้ทำเพื่อเอาหลี่ซื่อกรุ๊ปมาจำนำ ผมก็ไม่สามารถบอกคุณได้ ถูกไหมครับ?”หลินเฟิงที่อยู่กลางวงล้อมรอบถือว่าได้ยินชัดเจนแล้วที่แท้หลี่เหวินเชาติดหนี้ประธานโจวคนนี้ ถูกบีบบังคับให้คิดหาวิธี จึงทำได้แค่เอาพี่สาวของตัวเองออกมาเป็นเกาะกำบัง“ไอ้เวร...”หลินเฟิงสีหน้าดุดัน ครอบครัวของหลี่ฮุ่ยหรานทำไมถึงไร้มนุษยธรรมแบบนี้? เอาเปรียบหลี่ฮุ่ยหรานอย่างถึงที่สุด?“หลี่ฮุ่ยหรานอยู่ที่ไหน?”เมื่อเห็นว่าคนที่ออยู่รอบๆ จะลงมือ
“ในเมื่อพวกนายหาที่ตาย งั้นฉันก็จะตอบสนองพวกนาย!”หลินเฟิงสายตาเย็นชา พลิกฝ่ามือตบออกไป ทำให้หมัดของหานเวยแตกหักทันที“หือ?!”ความรู้สึกที่กระดูกแตกหักนั้นชัดเจนจนดังเข้ามาในหัวของหลินเฟิงหลังจากเสียงร้องโอดครวญของหานเวย หลินเฟิงกลับยืนอยู่กับที่และมองฝ่ามือของตัวเองด้วยความตกตะลึง เขาจำได้ว่า...ตัวเองน่าจะไม่ได้มีแรงมากมายขนาดนี้หรอกมั้ง?”ตามแผนการย้อนโจมตีที่หลินเฟิงวางแผนเอาไว้เขาจะผลักกำปั้นที่ดุดันของหานเวยออก จากนั้นใช้หมัดอีกข้างหนึ่งโจมตีกลับ ต่อยหน้าผากของหานเวยจนแตก ทำให้เขาตายในทันทีแต่สิ่งที่ทำให้หลินเฟิงประหลานใจเล็กน้อยก็คือ ฝ่ามือที่เขาทำเพื่อป้องกันการโจมตีของหานเวย กลับเป็นเหมือนกับมีดสับเต้าหู้ ที่ตัดทั้งกำปั้นของหานเวยโดยตรงภายใต้ความแอบตกตะลึง หลินเฟิงกลับลืมที่จะโจมตีต่อไปเขายืนนิ่งอึ้งอยู่ที่เดิม มองฝ่ามือของตัวเองด้วยความงุนงง“พลังชี่แท้ภายในร่างกายไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงแม้แต่นิด มีเพียงหนึ่งเดียวที่เปลี่ยนแปลง นั่นก็คือระดับความแข็งแกร่งของร่างกายของฉัน นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”หลินเฟิงตั้งตัวไม่ได้ชั่วขณะ“ไอ้หนุ่ม นายใช้วิธีชั่วร้ายอะไร?!”เห็
ตอนนี้ ทุกคนต่างคิดว่าคนที่พ่ายแพ้และมีเลือดไหลออกมาก็คือหลินเฟิงแต่...“แค่กแค่กแค่ก.พี่ใหญ่ รีบ...รีบหนี”เสียงไอที่อ่อนแรงดังขึ้นมาท่ามกลางหมอกควัน“อะไรกัน?!”หานเวยที่กุมข้อมือที่หักของตัวเอง คุกเข่าอยู่บนพื้นถลึงตาโต เขาได้ยินอะไร?เขาเหมือนกับได้ยินเสียงที่อ่อนแรงของน้องชายตัวเองแถมยังให้เขาหนีไปอีก?ตกลงมันเรื่องอะไรกันแน่?ไม่ถึงสองวินาที ควันฝุ่นหายไปจนหมด ในที่สุดหานเวยก็เห็นภาพตรงหน้าแล้วเห็นเพียงแค่หลินเฟิงยื่นหมัดออกมาอย่างเงียบสงบคิดไม่ถึงว่าจะโจมตีโดนหน้าอกของหานกั๋วโดยตรงแบบนี้!ศพของหานกั๋วห้อยอยู่ที่แขนของหลินเฟิง แขนกับศีรษะตก ไม่มีลมหายใจแล้ว!“อะไร?!”หานเวยตกตะลึงจนหน้าถอดสี น้องชายของเขาถูกหมัดธรรมดาๆ แบบนี้...ฆ่าตายงั้นเหรอ?!”“ฮะ?!”หลี่เหวินเชาก็แสดงความตกตะลึงออกมากับผลลัพธ์แบบนี้เป็นเพราะเขารู้ว่าหลินเฟิงก็เป็นนักบู๊ถึงแม้จจะออกจากเมืองเจียงโจวไประยะหนึ่งแล้ว แต่เขาได้ยินมาจากที่ต่างๆ ว่าความสามารถของหลินเฟิงนั้นแข็งแกร่งมากด้วยเหตุนี้ เขาจึงเตือนประธานโจวโดยเฉพาะและประธานโจวก็ไม่ได้สะเพร่า จ่ายเงินไปก้อนใหญ่ เชิญพี่น้องตระกูลหาน
“พรวด!”หลินเฟิงไม่ได้ใช้พลังชี่แท้ เขายกเท้าขึ้น เตะร่างกายท่อนบนของหานเวยจนระเบิดออกมองดูเลือดสดและเนื้อที่กระเด็นไปทั่ว สีหน้าของประธานโจวกับหลี่เหวินเชาเปลี่ยนไปซีดขาวโดยสิ้นเชิง“นี่...นี่เขาแม่งใช่คนเหรอ?”ประธานโจวเหลือบมองหลี่เหวินเชา อยากจะตบหน้าเขาต่อหน้าทุกคน เขาแม่งเชิญพญายมมาจากที่ไหนกัน?หรือว่าตั้งใจอยากจะฆ่าเขางั้นเหรอ?“ผม...เป็นไปได้ยังไง...”หลี่เหวินเชาหน้าตาโศกเศร้า สีหน้าของเขาแย่ยิ่งกว่าประธานโจว คนทั้งคนแทบเหมือนกับถูกสูบกระดูกอ่อน ตัวอ่อนทรุดนั่งลงบนพื้นอย่างสั่นเทาถ้าหากหลินเฟิงตามมาจะไม่ฆ่าเขาได้ในทันทีเลยเหรอ?นึกถึงเรื่องเลห่านี้ที่ตัวเองทำ และคำพูดรุนแรงที่เขาพูดกับหลินเฟิงเมื่อครู่นี้ เขาก็อดไม่ได้ที่อยากจะตบหน้าตัวเอง“นี่...ทำยังไงดี?”หลี่เหวินเชางุนงงไปหมด เขาพยายามคิดหาวิธีให้ตัวเองรอดชีวิตไปได้ และในตอนนี้เอง เขาก็เห็นสายตาที่ดุเดือดของประธานโจวที่มีต่อเขาเช่นเดียวกันหลี่เหวินเชาที่กำลังกระวนกระวายในตอนแรก เป็นเหมือนกับหมาป่าที่ถูกต้อนจนสิ้นหวัง กลับเผยสายตาดุดันออกมาใส่ประธานโจว “ทั้งหมดเป็นเพราะแกข่มขู่ฉัน! แม่งเอ๊ย!”หลี่เหวิน
นี่เป็นร่างกายที่เหมือนกับเทพเพียงแต่พลังชี่แท้ของเขายังคงเป็นขั้นเซียนเทียนต้าหยวนหม่าน“ถ้าหากฉันเรียนรู้ที่จะลอยตัวได้ และปล่อยคาถา ก็จะเป็นเทพจริงๆ แล้วใช่ไหม?”“หรือพูดว่า...ขอบเขตเทพ?”หลินเฟิงลังเลเล็กน้อยหรือว่าร่างกายของเขาตอนนี้ได้บรรลุขอบเขตเทพแล้ว?นี่คือระดับขั้นที่อยู่เหนือแดนแปรภาพยอดฝีมือขอบเขตเทพทั่วทั้งประเทศมังกร สามารถใช้นิ้วนับได้หลินเฟิงตั้งสติ กวาดสายตามองลูกสมุนที่คุกเข่ากราบเขาอยู่รอบๆ ก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า:“ไสหัวไป”“ครับครับครับ ท่านเทพผู้ยิ่งใหญ่ พวกเราไสหัวไป จะไปเดี๋ยวนี้ครับ”“รีบไป...ไม่ รีบไสหัวไป ไสหัวไปสิ...”มองดูพวกลูกสมุนหลายสิบคนที่ทิ้งอาวุธหนีไป หลินเฟิงกลับไม่ได้ตามไปโจมตีเขาไม่ใช่คนที่ฆ่าไม่เลือก คนเหล่านี้ถึงแม้จะมีโทษประหาร แต่ไม่มีความท่าทีจะต่อสู้แล้ว แลก็ไม่ได้ขวางทางหลินเฟิงเช่นนั้นหลินเฟิงก็ขี้เกียจจะสนใจ“เอาล่ะ”หลินเฟิงยื่นมือไปจับคอเสื้อของหลี่เหวินเชา เหมือนกับยกลูกไก่ขึ้นมาส่วนประธานโจว ตอนนี้หน้าเละเทะ คนทั้งคนเหลือลมหายใจอยู่แค่เพียงครึ่งเดียวดูท่าเพื่อที่จะรอดชีวิต หลี่เหวินเชาลงมือไดด้อย่างไ
“ผู้หญิงคนนั้นผมบังเอิญเจอตอนกำลังคุยเรื่องธุรกิจที่ประเทศเวน่า เธอ....เธอเป็นฝ่ายยั่วยวนผมและให้ผม...แค่กแค่ก.....”“ให้ผมลงทุนที่ดินสองผืน จนได้กำไรไม่น้อย”ประธานโจวพูดอย่างอ่อนแรงว่า :“ด้วยเหตุนี้ผมก็ตกหลุมพลางของเธอ และไว้ใจเธอมาก”“แต่เมื่อไม่กี่วันก่อน เธอหนีไปจากผมแล้วแถม...แถมยังเอาทรัพย์สินส่วนใหญ่ของบริษัทผมไปด้วย แค่กแค่กแค่ก...”เมื่อพูดถึงตรงนี้ ประธานโจวก็โกรธมากอย่างเห็นได้ชัด“หากไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ ผม...ผมก็คงไม่หวาดกลัวว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปจะดีเด่นขึ้นมา....”“เป็นแบบนี้นี่เอง”หลินเฟิงรู้สึกสะเทือนใจประธานโจวบอกว่าเขาพบกับฉู่ฮวาจิ่นที่ประเทศเวน่าหรือว่าฉู่ฮวาจิ่นคนนี้จะเป็นคนประเทศเวน่า?“ใช่....ใช่แล้ว คุณ...คุณชายหลิน”ประธานโจวที่เห็นว่าหลินเฟิงสนใจผู้หญิงคนนั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงรีบพูดว่า:“ผู้หญิงคนนั้นแพ้ดอกลิลลี่ อีกทั้งแพ้อย่างรุนแรง”“แพ้ดอกลิลลี่?”หลินเฟิงแอบจดจำไว้ในใจ ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้เลือกที่จะฆ่าประธานโจวโดยตรง แต่ถามเขาเกี่ยวกับฉู่ฮวาจิ่น ก็ยังได้ข้อมูลอะไรบางอย่างด้วยแน่นอนว่า เรื่องก็อาจจะเป็นเรื่องที่โกหกขึ้นมาแต่เมื่อ
เห็นได้ชัดว่าเธอรู้ดีว่าถูกใครทำร้ายในเหตุการณ์อันตรายก่อนหน้านี้เมื่อวานหลี่เหวินเชากลับมาพึ่งพาเธอ เดิมทีเธอคิดว่าหลี่เหวินเชาไม่เหมือนกับจางซิน ดังนั้นเธอจึงจัดการตำแหน่งที่ว่างให้หลี่เหวินเชาแต่คิดไม่ถึงเลยว่าต่อมาหลี่เหวินเชาจะหักหลังเธอ“หากแกไม่ใช่น้องชายของฉัน ฉันคงฆ่าแกไปนานแล้ว!”หลี่ฮุ่ยหรานดุด่าเสียงดังลั่นและในตอนที่โดนด่า หลี่เหวินเชาก็ทำได้เพียงหดคอและก้มหน้าลงหลินเฟิงที่ไม่เคยเห็นหลี่ฮุ่ยหรานโกรธมากขนาดนี้มาก่อน รีบเอื้อมมือไปปลอบใจ แต่ก็คิดไม่ถึงว่าหลี่ฮุ่ยหรานจะโถมตัวเข้าหาหลินเฟิงโดยตรงพร้อมกับร้องไห้ในวินาทีถัดมา“หลินเฟิง มันเป็นเพราะอะไร เพราะอะไรกัน....”“คนในครอบครัวของฉันต่างก็เป็นแบบนี้กันหมดได้ยังไง?”“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรนะ ผมอยู่ที่แล้ว”หลินเฟิงตบหลังของหลี่ฮุ่ยหรานเบา ๆ พร้อมกับปลอบโยนเธออย่างระมัดระวัง“พี่ ขอโทษ....ผม....ผมก็ ถูกบังคับไม่มีทางเลือกเหมือนกัน....”หลี่เหวินเชาอธิบายอย่างอึกอักไม่กล้าพูด“ช่างเถอะ ฉันไม่อยากฟังแกอธิบาย”หลี่ฮุ่ยหรานเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งจริง ๆเธอใช้เวลาไม่นานก็จัดการกับความรู้สึกของตัวเองได้แล้ว พร้อมกับ
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ