หลินเฟิงพบกับคนรู้จักที่เขาไม่ได้เจอมาเป็นเวลานานที่ห้องรับแขกเฝิงไฉ่เซวียนของตระกูลเฝิงเมืองหนิงโจวเธอนั่งอยู่บนโซฟาด้วยท่าทางระมัดระวังตัว ที่ตรงหน้ามีน้ำชาแก้วหนึ่งที่คนรับใช้ยกมา สีหน้าของเธอโศกเศร้าเล็กน้อย“คุณมาหาผม มีธุระอะไรเหรอ?”หลินเฟิงเลือกท่าทางที่สบายที่สุด นั่งลงบนโซฟา มองด้วยความสนใจ ผู้หญิงคนนี้สีหน้าท่าทางแตกต่างไปจากไม่กี่วันก่อนเยอะมากถ้าหากพูดว่าไม่กี่วันก่อนเธอหยิ่งยโสโอหัง ถือว่าตัวเองเป็นลูกสาวของตระกูลเฝิงจึงมีความมั่นใจอย่างมากเช่นนั้นตอนนี้ แทบจะเหมือนกับแม่ไก่ที่ต่อสู้พ่ายแพ้เมื่อเงยหน้าขึ้น ในดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดสีแดง“หลิน…หลินเฟิง ฉันมาขอโทษคุณ”“ขอโทษ?”ได้ยินคำพูดของผู้หญิงคนนี้ หลินเฟิงงุนงงเล็กน้อยเฝิงไฉ่เซวียนมาขอโทษถึงที่ เรื่องแบบนี้เขาไม่เคยคิดมาก่อนด้วยซ้ำหลินเฟิงส่ายหน้ายิ้มพูดว่า:“คำขอโทษของคุณดูไม่จริงใจสักเท่าไหร่นะ!”“คนภายนอกแสดงความคิดเห็นต่อผมหลินเฟิงไม่ดีเท่าไหร่นัก อีกทั้งยังพูดว่า…ผมเป็นขยะสังคมอะไรสักอย่าง”“นั่นเป็นข้ออ้างของคุณพ่อกับพี่ชายของฉัน”เฝิงไฉ่เซวียนร้อนรนเล็กน้อยเธอหยุดชะงัก และมองหลินเฟิงด้
เมื่อได้ยินคำขอร้องอ้อนวอนทั้งน้ำตาของเฝิงไฉ่เซวียนหลินเฟิงสีหน้านิ่งเฉย“ดังนั้นล่ะ? เรื่องของตระกูลเฝิงของพวกคุณ เกี่ยวอะไรกับผมด้วย?”หลินเฟิงหัวเราะเยาะ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงท่าทีของตัวเองด้วยซ้ำหรืออีกอย่างว่า เขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตระกูลเฟิงตัดสินใจฆ่าเขาเพื่อแสดงอำนาจของตนเองจะเป็นเพราะคำขอร้องทั้งน้ำตาของเฝิงไฉ่เซวียน เขาก็กลายเป็นพ่อพระใจบุญ ยืนอยู่เฉยๆ และยื่นคอไปให้เฝิงอวี้อู่ฆ่าทิ้งอีกอย่างเฝิงไฉ่เซวียนหน้าตาธรรมดา ไม่ได้มีเสน่ห์อะไรต่อให้เธอมีเสน่ห์ หลินเฟิงก็ไม่ติดกับเธอ“คุณไม่สู้เก็บข้อแก้ต่างแบบนี้ เกลี้ยกล่อมพ่อกับพี่ชายของคุณให้ดีๆ”หลินเฟิงท่าทางเรียบง่ายอย่างมาก คนอื่นไม่หาเรื่องเขา เขาก็ไม่มีเรื่องกับคนอื่นแต่ทว่าเฝิงไฉ่เซวียนรู้สึกขมขื่นใจไม่สามารถบาดหมางกับหลินเฟิงได้ เขาแข็งแกร่งอย่างมาก เธอได้บอกกับพ่อและพี่ชายของเธอเป็นร้อยรอบแล้วแต่พ่อและพี่ชายยโสโอหัง ไม่เชื่อเธอด้วยซ้ำมักคิดว่าเธอถูกหลินเฟิงหลอกลวงจิตใจในเมื่อวัยรุ่นอายุยี่สิบกว่าๆ คนหนึ่งฆ่ายอดฝีมือระดับเซียนเทียนสามสิบกว่าคนที่ถูกฝึกฝนมาอย่างดีของตระกูลเฝิงตระกูลเฝิงของเขา
“ทุกอย่างที่ฉันทำ เพราะอยากให้ตระกูลเฝิงของเราดำเนินต่อไป…”“ดำเนินต่อไป?”เฝิงไฉ่อิ๋งหัวเราะเยาะดูท่านิสัยของเธอฉุนเฉียวเป็นพิเศษ เธอไม่รอช้า โผเขาไปทางหลินเฟิงโดยตรง“ฉันอยากเห็นดูหน่อย ไอ้หมอนี่มีคุณสมบัติที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของพี่ใหญ่หรือไม่!”เมื่อเห็นว่าเฝิงไฉ่อิ๋งตบมาที่หน้าท้องของเขา หลินเฟิงไม่คิดที่จะหลบด้วยซ้ำ เขายืนอยู่ที่เดิมทั้งแบบนี้เพียงแค่สายตาเยือกเย็นขึ้นยัยเด็กนี่บ้าระห่ำขนาดนี้ แต่ก็เป็นแค่นักบู๊กำลังภายในเท่านั้นถ้าหากเธอคิดที่จะลงมือต่อหลินเฟิง แค่สะท้อนพลังกลับก็ทำให้เธอตายได้แล้ว”หยุดนะ!”เฝิงไฉ่เซวียนขวางหน้าหลินเฟิงทันทีเธอพูดด้วยความโมโห:“เฝิงอิ๋ง เธออย่าถูกพี่สะใภ้ยุยง อย่าลงมือกับคุณหลินเฟิง”“คุณ…หลินเฟิง!”เฝิงไฉ่อิ๋งสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงทางจิตใจของพี่สาวตัวเองด้วยคำเรียกที่สุภาพนี้ ความโมโหของเธอไม่ได้ลดลง กลับยังปล่อยฝ่ามือโจมตีไปทางพี่สาวแท้ๆ ของตัวเอง“ปึง!”เฝิงไฉ่เซวียนสกัดกั้นฝ่ามือนี้เพื่อหลินเฟิง เธอถอยหลังสองก้าว เกือบจะชนกับหลินเฟิง“อุ๊ย ยังรับการโจมตีแทนศัตรูด้วย เฝิงไฉ่เซวียน ฉันดูสิว่ากลับไปเธอจะอธิบายกับพ่อของเธอ
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?”หลินเสวี่ยฮุ่ยเดินเข้ามาดึงแขนเสื้อของหลินเฟิงด้วยความกังวลเล็กน้อย“ไม่มีอะไร”หลินเฟิงส่ายหน้า จากนั้นก็ทำสีหน้าเคร่งขรึมก่อนจะพูดว่า :“ฉันให้เธอเรียนไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงวิ่งออกมาล่ะ?”“ฉัน...ฉันเป็นห่วงพี่”หลินเสวี่ยฮุ่ยพึมพำด้วยความรู้สึกผิดเมื่อหลินเฟิงได้ยินเสียงพึมพำนี้ ความโกรธเคืองทั้งหมดก็หายวับไปทันที ก่อนจะลูบหัวของหลินเสวี่ยฮุ่ย“เอาล่ะ พวกคุณไปเถอะ”“จะถูกจะผิด ค่อยดูกันพรุ่งนี้เถอะ”หลินเฟิงโบกมือไปมาอย่างไม่สนใจแต่ทว่าเฝิงไฉ่อิ๋งยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ยอมกลับไป“เหอะ คนอื่นกลัวนาย แต่ฉันไม่กลัว!”“บอกนายไว้เลย พรุ่งนี้นายจะถูกพี่ใหญ่ของฉันทุบตีจนยับเยิน ฉี่ราดแน่ ๆ!”“พี่ใหญ่ของฉันคือที่สองของอันดับสวรรค์และเป็นอัจฉริยะในยุทธจักรด้วย คนเลวทรามต่ำช้าอย่างนาย ไม่มีทางที่จะได้เข้าใกล้พี่ใหญ่ของฉันไปตลอดชีวิตหรอก!”“ถ้านายฉลาดสักหน่อย ตอนนี้ก็ควรคุกเข่าอ้อนวอนฉันซะ!”“บางทีวันพรุ่งนี้ฉันอาจจะขอให้พี่ใหญ่ของฉันไว้ชีวิตนายก็ได้”ไม่รอให้หลินเฟิงได้พูด สาวอวบอั๋นที่ถือพัดอยู่ก็ยิ้มพร้อมกับเอ่ยว่า :“ใช่แล้ว หากตอนนี้นายคุกเข่าอ้อนว
“หวังว่าพวกคุณเตรียมตัวให้พร้อมที่จะถูกฆ่ายกครัว”หลังจากพูดจบ หญิงสาวก็หันหลังจากไปหลินเฟิงไม่ได้รั้งไว้ แต่กลับยืนนิ่งอยู่ที่เดิมและคิดอะไรบางอย่าง“พี่หลินเฟิง คนพวกนี้จะน่ารังเกียจเกินไปแล้ว!”หลินเสวี่ยฮุ่ยพูดด้วยความโมโห“น่ารังเกียจก็ส่วนน่ารังเกียจ แต่การมาครั้งนี้ของพวกเธอก็ทำให้ฉันนึกถึงเรื่องหนึ่ง”“เรื่องอะไร?”หลินเสวี่ยฮุ่ยหันหน้าไปมองหลินเฟิง“ตระกูลเฝิง ไม่ได้สามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกัน บางทีอาจจะสามารถใช้ประโยชน์จากจุดนี้ได้”หลินเฟิงยิ้มแล้วลูบหัวของหลินเสวี่ยฮุ่ยจากนั้นก็ยิ้มให้กับเธอก่อนจะพูดว่า :“เอาล่ะ เรื่องพวกนี้ไม่ใช่สิ่งที่เธอควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว สิ่งที่เธอต้องทำในตอนนี้ก็คือศึกษาทักษะทางการแพทย์ที่ฉันสอนให้ดี”“รับช่วงโรงพยาบาลเจิ้งเต๋อให้ได้เร็วที่สุด”“อื้อ”หลินเสวี่ยฮุ่ยพยักหน้า ก่อนจะมองหลินเฟิงอย่างอาลัยอาวรณ์ ถึงได้กลับไปที่ห้องหนังสือผ่านไปไม่นานภายในห้องหนังสือก็ได้ยินเสียงเด็กสาวสองคนกระซิบและหัวเราะกันเสียงหัวเราะนี้ทำให้หลินเฟิงรู้สึกจนปัญญาเล็กน้อย แต่ก็ยังทำให้เขายิ้มออกมาได้เกี่ยวกับการจัดการตระกูลเฝิงนั้น เขามีความคิดอย่าง
“จริงด้วยครับคุณชายใหญ่ คุณเป็นอัจฉริยะ อย่าเอาพวกผมที่เป็นตัวประกอบไปเทียบกับคุณสิครับ!”“ผมคิดว่าคุณชายไม่ต้องใช้เวลาหลายปี ก็สามารถแซงหน้าจอมมารสำนักหลงผานคนนั้นได้แล้ว”“พูดไร้สาระอะไรกัน?”“ตระกูลเฝิงของเราอยู่ภายใต้การบัญชาของคุณชายใหญ่ ต่อไปจะต้องเบียดตัวเข้าเมืองจิง กลายเป็นตระกูลร่ำรวยอันดับตระกูลที่ห้าได้อย่างแน่นอน!”เหล่านักบู๊ที่เหนื่อยจนล้มตัวอยู่ข้างๆ ยิ้มชื่นชม“หึ...”เฝิงอวี้อู่แกะผ้าสีดำที่บังตาออก และกระสอบทรายบรรจุลูกตะกั่วที่อยู่บนตัวออกเขาไม่ได้ถูกคำชมของคนเหล่านี้ทำให้เลอะเลือนแต่เงยหน้าขึ้นหลับตา ในใจเกิดความอยากสู้ขึ้นมาดูท่าทั่วทั้งหัวตงมีเพียงแค่จอมมารนั่นที่คู่ควรเทียบกับเขาได้จอมมารนั่นปกติถูกสำนักหลงผานปกป้องได้รอบคอบอย่างมาก อย่าว่าแต่คนเลย แม้แต่ข่าวคราวก็หายไปจนแทบไม่เห็นปรากฏตัวที่ยุทธจักร ก็แค่เมืองสองปีที่แล้วตอนนั้น ถึงแม้เขาอายุน้อย แต่ตอนนั้นกำลังลุ่มหลงอยู่กับความชนะจากรอบทิศ และลำพองใจที่หาคู่ต่อสู้ที่ฝีมือเทียบกันไม่ได้จอมมารนั่นเหมือนพระเจ้าจุติโลกแค่สิบรอบเท่านั้น ก็ทำให้เฝิงอวี้อู่ที่เย่อหยิ่งพ่ายแพ้จนเกิดความสงสัยใน
เฝิงอวี้อู่โมโหจนปอดแทบระเบิดเฝิงอวี้อู่ที่สง่าผ่าเผย ถ้าหากเรื่องการขอความเมตตาถูกแพร่งพรายออกไป เขาจะต้องกลายเป็นเรื่องตลกในสังคมอย่างแน่นอน“เฝิงไฉ่เซวียนล่ะ?”เฝิงอวี้อู่สายตาเย็นชาเคลื่อนไหว มองไปทางน้องเล็กของตัวเองเมื่อเห็นว่าพี่ใหญ่ของเธอโมโหแล้วจริงๆเฝิงไฉ่อิ๋งรีบพูดว่า:“เธอถูกพ่อคุมตัวไว้แล้ว จะถูกลงโทษโดยกฏของตระกูล ห้าสิบแส้” “หึ!”ได้ยินถึงตรงนี้ เฝิงอวี้อู่ส่งเสียงไม่พอใจออกมาและพูดว่า:“ห้าสิบแส้นี้ ค่อยฟาดพรุ่งนี้ก็ยังไม่สาย!”“พี่ใหญ่ หมายความว่ายังไง?”เฝิงไฉ่อิ๋งนิ่งอึ้งเล็กน้อยพี่สาวของเธอมีความผิดฐานกบฏ ฟาดห้าสิบครั้งยังถือว่าน้อยไป“ฉันจะให้เฝิงไฉ่เซวียนได้เห็น วันพรุ่งนี้ฉันจะเหยียบไอ้คนชั้นต่ำไว้ที่ใต้เท้ายังไง!”“ให้เฝิงไฉ่เซวียนยอมรับการถูกฟาดห้าสิบครั้งด้วยความเต็มใจ!”พูดจบ เฝิงอวี้อู่ก็เดินไปยังจุดที่ผู้นำตระกูลเฝิงอยู่”หลังจากเฝิงไฉ่อิ๋งตกตะลึง ในใจเหม่อลอยเล็กน้อยทันทีเป็นเพราะเธอเคยเจอหลินเฟิงเทียบกับพี่ชายของเธอ คนที่ชื่อหลินเฟิงคนนั้นสงบนิ่งอย่างมากสงบนิ่งจนถึงขั้นไม่ปกติ“หรือว่าพี่ไฉ่เซวียนพูดไม่ผิด?”ในหัวเพิ่งเกิดความ
“หึหึ ไม่ต้องห่วง”สยงเทียนคังยิ้มและพูดขึ้นว่า :“แม้จะเป็นการแกแค้นเพื่อหลานชายและลูกชายของผม ผมก็จะไม่ทำให้เรื่องนี้ผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย”หลังจากที่หยุดไปชั่วครู่ สยงเทียนคังก็พูดขึ้นด้วยความเสียดายเล็กน้อยว่า:“เพียงแต่น่าเสียดายที่ ลูกน้อง ดินน้ำลมไฟทั้งสี่ของผม ต่างก็ตกอยู่ในมือของหลินเฟิง คน ๆนี้ต้องมีพลังมากกว่าที่พวกเราคิดไว้”“จริงนั่นแหละ”หลงซวี่จวินก็พยักหน้าเห็นด้วยเดิมทีก็คิดว่าเด็กคนนี้เป็นแค่ขั้นเซียนเทียนต้าหยวนหม่านแต่หลังจากที่ลูกน้องของสยงเทียนคังตายไป หรือแม้แต่หลานชายก็ยังตายด้วยน้ำมือของหลินเฟิง หลงซวี่จวินก็เริ่มรู้สึกหวาดกลัวหลินเฟิงขึ้นมาเล็กน้อยเห็นได้อย่างชัดเจนว่า เขาประเมินหลินเฟิงต่ำไปในเมื่อเป็นอย่างนี้ งั้นก็ลองใช้กลอุบายเล็ก ๆน้อย ๆละกันบังเอิญเกิดขึ้นกับตระกูลเฝิงและหลินเฟิงขึ้นพอดี แล้วเขาก็แค่ใส่ไฟระหว่างพวกเขาได้ยินมาว่าผู้นำของตระกูลเฝิงคนนี้เป็นนักบู๊ที่อยู่ในช่วงปลายของแดนแปรภาพถ้าหากเขารู้ว่าลูกชายของตัวเอง ต่อสู้กับหลินเฟิงอย่างตรงไปตรงมา แต่กลับถูกหลินเฟิงลอบฆ่าตายเขาจะต้องไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอนและพาคนทั้งหมดของตระกูลเฝ
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ