ทันใดนั้นก็เหมือนมีกระแสน้ำอุ่นหลอมละลายอยู่ ภายในกระเพราะของเธอ เธอที่เพิ่งจะแสดงคอนเสิร์ตจบรู้สึกเหนื่อยล้าไปหมดทั้งตัวไม่คาดคิดเลยจริง ๆ ว่า หลังจากที่ทานยาปรับประสานพลังตัวนี้เข้าไปแล้ว ความเหนื่อยล้าของร่างกายก็หายไปทันทีเพียงแต่ผิวหนังมีสารสกปรกสีดำซึมออกมาอิ่นนั่วเจียตกตะลึง: “นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะ?”หลินเฟิงพูดอธิบาย “นี่เป็นเพียงแค่สารสกปรกในร่างกายของคุณอิ่น ทำการชะล้างก็เพียงพอ”จริง ๆ แล้ว ยาปรับประสานพลังนี้ ก็เป็นยาที่คนทั่วไปใช้ในการก้าวเข้าสู่การเป็นนักบู๊ ยาเม็ดที่ใช้ในการชะล้างร่างกายแน่นอนว่าจึงขับสิ่งสกปรกในร่างกายของคนทั่วไปออกมา“ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง ฉันขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ” อิ่นนั่วเจียรีบเดินไปเข้าห้องน้ำเมื่อล้างสิ่งสกปรกออกจากร่างกายแล้ว เธอมองดูตัวเองในกระจกผิวขาวกระจ่างใส ดูเนียนนุ่ม เหมือนเด็กเกิดใหม่คนที่ไม่รู้ อาจจะคิดว่าเธอทาแป้งบนตัว“แม่เจ้า” อิ่นนั่วเจียลูบแก้มของเธอเองนี่มันยามหัศจรรย์ชัด ๆอิ่นนั่วเจียสวมใส่เสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย ก็รีบเดินออกมาแล้วพูดขึ้นทันที “คุณหลิน พรีเซ็นเตอร์ยาปรับประสานพลังไม่มีปัญหาสักนิดค่ะ”หล
อิ่นนั่วเจียไม่พอใจกับท่าทางของพวกเขาอย่างมาก เธอจึงตะโกนเสียงดังบอกให้พวกเขารีบออกไปทันทีชายร่างกำยำดูเหมือนจะไม่ยอมออกไป แต่กลับไปนั่งลงที่บนโซฟาแทนลูกน้องสองคนยืนนิ่งอยู่ที่ด้านหลังชายร่างกำยำคนนั้นล้วงผลิตภัณฑ์ยาออกมาจากหน้าอก แล้วพูดว่า “คุณอิ่นอย่าเพิ่งรีบปฏิเสธ”“พวกเราเซียงซื่อเมดดิซีนพอใจในตัวคุณอิ่น นั่นก็คือวาสนาของคุณเลย”“นี่คือยาบำรุงสตรีที่พัฒนาโดยเซี่ยงซื่อเมดดิซีน เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกมาเพื่อการดูแลผิวและความงามของผู้หญิงโดยเฉพาะ”“คุณอิ่นสามารถลองดูก่อนได้ ถ้าไม่ได้ผล พวกเราจะไม่ตามตื๊อคุณอิ่นอย่างแน่นอน”อิ่นนั่วเจียตกตะลึง และมองไปที่ยาขวดเล็กที่วางอยู่บนโต๊ะ ทำไมถึงได้เป็นผลิตภัณฑ์ความงามทั้งหมดนะ?”“ขอโทษด้วย ฉันรับเป็นพรีเซ็นเตอร์ตัวอื่นแล้ว และช่วงนี้ก็ยังไม่มีเวลาว่างแล้ว”“ปึง”ชายร่างกำยำได้ยินแบบนี้ก็ทุบโต๊ะกาแฟทำเอาอิ่นนั่วเจียอุทานออกมาเสียงดังเสียงของชายร่างกำยำเริ่มเย็งลง “คุณอิ่น ผมคิดว่ากำลังของเซี่ยงซื่อเมดดิซีนของพวกเรา คุณคงไม่รู้จักมากเท่าไหร่”“ถ้าหากพวกเราต้องการแบนคุณอิ่น ก็จะใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่นาที”“พวกคุณ….”อิ่นนั่วเจียกัดฟ
หลินเฟิงโบกมือขึ้นมากะทันหัน ทำให้ชายทั้งสามหนีไปอย่างบ้าคลั่งอิ่นนั่วเจียก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดขึ้น “คุณหลินรบกวนคุณมากจริง ๆ ”หลินเฟิงส่ายหัว “เป็นสิ่งที่ผมควรทำอยู่แล้ว”ขณะพูด เขาก็ได้ทิ้งหมายเลยโทรศัพท์ไว้ “ถ้าหากคนพวกนี้ยังกล้ามารบกวนคุณอีก คุณโทรหาผมได้ทันทีเลย”อิ่นนั่วเจียเก็บเบอร์โทรศัพท์ของหลินเฟิงเอาไว้อย่างระมัดระวัง และพยักหน้าซ้ำ ๆ เมื่อจัดการเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว หลินเฟิงก็กล่าวลาอิ่นนั่วเจีย......ด้านนอกคอนเสิร์ต คนจำนวนไม่น้อยกำลังทยอยกันกลับกันไปเดิมทีคอนเสิร์ตที่คึกคัก รื่นเริง ก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไปเป็นเงียบเชียบ เปล่าเปลี่ยวหลินเสวี่ยฮุ่ยกับคนอื่นๆกำลังรอรถอยู่ที่ริมถนนเด็กผู้หญิงที่สวมหมวกกันแดด มองดูรูปถ่ายพร้อมลายเซ็นในมือแล้วพูดอย่างตื่นเต้น “โอ้พระเจ้า เสวี่ยฮุ่ย ฉันคิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าเธอจะมีพี่ชายที่เจ๋งขนาดนี้”“ทำไมก่อนหน้านี้ไม่บอกพวกเราเลย”หลินเสวี่ยฮุ่ยเกาหัวตัวเองเบา ๆ ด้วยความเก้กัง เพราะจริง ๆ แล้วเธอก็ไม่รู้จักหลินเฟิงมาก่อนเด็กสาวที่สวมหมวกแก็ปเอ่ยขึ้น “ครั้งหน้ามีคอนเสิร์ตอีก ค่อยเรียกพี่ชายของเธอมาด้วย…”ในตอนนี้เองหลี่ว์เ
หลินเสวี่ยฮุ่ยเห็นหลินเฟิงก็ตกตะลึง เดิมทีใบหน้าที่หดหู่ก็ค่อย ๆ ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาแทน: “เดิมทีพวกเราจะเรียกรถแท็กซี่กลับหอพัก เพียงแต่เวลานี้เรียกแท็กซี่ยากเย็นมากจริง ๆ”หลินเฟิงพยักหน้าด้วยความเข้าใจทันทีจึงพูดขึ้นมา “ถ้าอย่างนั้นผมไปส่งพวกคุณกลับไหม?”หลิงเสวี่ยฮุ่ยตอบตกลงโดยไม่ต้องคิด “ได้สิคะ”ในความคิดของเธอ หลินเฟิงต้องเหมือนกับพี่ใหญ่ของเธอแน่ ๆ และจะไม่มีวันทำร้ายเธอด้วยเธอมองไปที่โจวเสี่ยวหางแล้วพูดขึ้น “เสี่ยวหาง พวกเรานั่งรถของหลินเฟิงกลับมหาลัยด้วยกันเถอะ”“ไม่มีปัญหา มายบัคไม่ดีกว่า BMW เยอะเลยเหรอ?” โจวเสี่ยวหางเห็นด้วยโดยไม่ต้องคิดอย่างน้อยหลินเฟิงก็ต้องไปส่งพวกเธอกลับหอพัก ไม่ได้จะพาพวกเธอไปเปิดห้องที่โรงแรมสาวผมลอนมองรถหรู ตาทั้งสองข้างก็เบิกกว้างขึ้นทันทีเธอรีบคว้าแขนของหลินเสวี่ยฮุ่ยแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เสวี่ยฮุ่ย เธออย่าทิ้งฉันไว้คนเดียวนะ ฉันจะกลับหอพักกับพวกเธอด้วย”หลินเสวี่ยฮุ่ยหันกลับไปมองหลินเฟิง เพื่ออยากจะถามหลินเฟิงว่าเขาตกลงไหมหลินเฟิงยิ้มแล้วพูดว่า “ในเมื่อเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเสวี่ยฮุ่ย ก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว”“ขอบคุณค่ะพี่หลิน” สาวผม
หลี่ว์เจิ้งหยางพูดอย่างดูถูก: “นั่นแน่นอนอยู่แล้ว ฉันกับหลิวเสวี่ยฮุ่ยอายุเท่ากัน แถมพวกเรายังเป็นนักเรียนทั้งคู่ และมีอนาคตที่ดีกว่า”“คุณอายุเท่าไหร่แล้วล่ะ? แล้วก็อย่าคิดจะเป็นวัวแก่กินหญ้าอ่อน”“สัปดาห์หน้างานวันเกิดของหลินเสวี่ยฮุ่ย ถ้าคุณเจียมตัว ก็อย่าไปเข้าร่วม”หลินเฟิงยิ้ม พูดเรื่องนี้กันมาตั้งนานไอ้หมอนี่เห็นเขาเป็นคู่แข่งของตัวเอง “ไม่ว่าฉันจะไปร่วมงานด้วยหรือไม่ มันก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคุณ ส่วนหลินเสวี่ยฮุ่ยจะอยู่ด้วยกับใคร มันก็เป็นเรื่องของเธอ”“ทั้งคุณและฉันก็ไม่มีสิทธิ์ยื่นมือเข้าไปยุ่ง”หลินเฟิงพูดจบก็โบกมือ “หลีกทาง”หลี่ว์เจิ้งหยางกัดฟันด้วยความโกรธพร้อมกำหมัดแน่น และไม่มีทีท่าที่จะหลีกทางออกหลินเฟิงก็ไม่พูดพล่าม เขาเหยียบคันเร่งพุ่งไปทางหลี่ว์เจิ้งหยางหลี่ว์เจิ้งหยางรีบกระโดดออกด้วยความตกใจ “แม่งคุณอยากจะชนผมให้ตายจริง ๆ?”“ฉันยังคิดนายไม่รู้จักกลับซะอีก” หลินเฟิงหัวเราะเยาะ แล้วขับจากไป“เชี่ย…”หลี่ว์เจิ้งหยางสาปแช่งด้วยความโกรธแต่ก็ทำอะไรไม่ได้......ในเวลาเดียวกันนั้น ภายในวิลล่าตระกูลเซี่ยงชายร่างกำยำรีบพาตัวเองกับลูกน้องสองคนไปพบเซี่ย
“ฮัลโหล หลินเฟิง คุณอยู่ที่ไหน?”“อ่าวเทียนสุ่ย”“มาที่โรงแรมเทียนอวี่ วันนี้ยาปรับประสานพลังของบริษัทเภสัชกรรมเชิงถังจะเปิดแถลงข่าว” ถังหว่านพูดจากปลายสายหลินเฟิงพูดขึ้น “เดาว่าคุณน่าจะเห็นข่าวแล้วใช่ไหม? วันนี้ตระกูลเซี่ยงก็จัดงานแถลงข่าว และดูเหมือนว่าจะจัดที่โรงแรมเทียนอวี่ด้วย”ถังหว่านพยักหน้าแล้วพูดว่า “ใช่ พวกเขาอยู่ที่ชั้น 19 พวกเราอยู่ชั้น 20”หลินเฟิงยิ้ม “ดูท่าคุณอยากจะปะทะกับตระกูลเซี่ยงจริง ๆ นะ”“นั่นแน่นอนอยู่แล้ว ฉันอยากจะฆ่าเขาให้ได้” ถังหว่านกัดฟันพูดสามารถพูดได้เลยว่าตอนนี้เธอไม่มีความประทับใจดี ๆ กับตระกูลเซี่ยงเลยในตอนที่อาจารย์เหลียงถูกฆ่า ทั้งสองฝ่ายก็ได้ขัดแย้งกันแล้ว“ตกลง ผมจะไปเดี๋ยวนี้” หลินเฟิงตอบรับแล้ววางสายทันทีเขารีบขับรถไปโรงแรมเทียนอวี่เมื่อไปถึงงานเลี้ยงชั้นที่ 20 ที่ตอนนี้ยังมีคนไม่มากนัก มีแต่ทายาทสายตรงของตระกูลถังเท่านั้นถังอวิ๋นเฟิงพาคังโหยว่ฝูตามมาอย่างรีบร้อน “ถังหว่าน….เธอบ้าไปแล้วจริง ๆ …วันนี้ตระกูลเซี่ยงก็จัดงานแถลงข่าวเพื่อประกาศเปิดตัวยาบำรุงสตรีนะ”“เธอไม่มีอะไรทำแล้วมาเล่นสนุกอะไร?”ถังหว่านหัวเราะเบา ๆ “เขาเปิดตัว
ถังอวิ๋นเฟิงคิ้วขมวดแน่นเมื่อเห็นแบบนี้ผู้สื่อข่าวจากเมืองเจียงโจวได้เข้าล้อมจางเต๋อหลินอีกครั้ง: “หมอเทวดาจาง คุณมาที่นี่เพื่อเข้าร่วมงานแถลงข่าวเปิดของบริษัทเภสัชกรรมเชิงถังในฐานะอะไร?”“คุณมาเป็นพรีเซ็นเตอร์หรือว่ามาเข้าชม?”จางเต๋อหลินหัวเราะในลำคอแล้วกล่าวว่า: “แน่นอนว่าผมต้องมาเป็นพรีเซ็นเตอร์อยู่แล้ว”ประโยคนี้สร้างความฮือฮาไม่น้อยในทันทีต้องรู้ว่าฐานะของจางเต๋อหลินนั้น ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของผู้มีอำนาจสูงสุดในด้านวิชาแพทย์เจียงโจวเขามาเพื่อเป็นพรีเซ็นเตอร์ในการแถลงข่าวให้กับเชิงถัง งั้นก็มีผลกระทบยิ่งใหญ่กว่าอิ่นนั่วเจียอีกในเมื่อเขาเป็นตัวแทนของอำนาจสูงสุด จางเต๋อหลินไม่ได้อธิบายอะไรมากมาย ก็รีบเข้าไปหลังเวทีหลินเฟิงมองดูถังหว่านยิ้มกล่าวว่า: “แผนของคุณครั้งนี้ปราดเปรื่องมาก”“เชิญจางเต๋อหลินมาด้วย คาดว่าครั้งนี้ก็ไม่มีใครที่จะกล้าพูดว่ายาปรับประสานพลังเป็นยาปลอมอีกแล้วล่ะ!”ถังหว่านกอดอกด้วยใบหน้าที่ภูมิใจและกล่าวว่า: “มันก็ต้องแน่นอน ในเมื่อฉันกล้าที่จะต่อกลอนกับตระกูลเซี่ยง ก็ต้องมีการเตรียมการเป็นธรรมดา”อิ่นนั่วเจียเป็นตัวแทนของดาราที่มีความนิยมสูง ใช้
ในตอนนี้ไป๋จินเต๋อก็ได้เดินเข้ามา และหยิบเอายาปรับประสานพลังขึ้นมาอย่างระมัดระวังชั่วพริบตารูม่านตาก็แข็งทื่อ กล่าวอย่างเหลือเชื่อว่า: “โห……ยาประสานพลังมีการผสมองค์ประกอบที่น่ามหัศจรรย์ ตัวยามีกลิ่นหอม เป็นยาที่วิเศษจริงๆ”เพียงแค่ดมกลิ่นของยาประสานพลังอย่างเดียว ไป๋จินเต๋อก็รู้สึกได้ว่ายาประสานพลังดีกว่าของยาบำรุงสตรีด้วยซ้ำ“เหอะ ยามหัศจรรย์บ้าบออะไร”เซี่ยงตงเซิงส่งเสียงไม่พอใจในลำคอ“บริษัทเภสัชกรรมเชิงถังผลิตยาขยะออกมา มีคุณสมบัติที่จะเทียบเท่ายาบำรุงสตรีด้วยเหรอ?”เขาไม่เชื่อว่าจะเป็นแบบนั้น อยู่ ๆ ก็เอายาปรับประสานพลังกลืนลงปากเข้าไปขณะนี้ไป๋จินเต๋อก็รู้สึกตัวว่าตัวเองพูดผิดไปและรีบกลับคำพูด: “คือว่า คือว่า ยาปรับประสานพลังจะดีแค่ไหน ก็ไม่สามารถเทียบกับยาบำรุงสตรีได้หรอก”“ผู้เฒ่าไป๋ คุณลองทานยาตัวนี้ดูครับ ผมคิดว่าไม่เห็นจะมีดีตรงไหนที่ดีเท่ากับยาบำรุงสตรีของเราเลย”ในตอนนี้เซี่ยงตงเซิงก็พูดขึ้นไป๋จินเต๋อก็ยังสงสัยอย่างมากเกี่ยวกับประสิทธิภาพของยาปรับประสานพลังตัวนี้ จึงหยิบยาเม็ดขึ้นมาแล้วกลืนลงท้องเซี่ยงตงเซิงที่กำลังเอายาปรับประสานพลังกลืนลงปากไป อยู่ ๆ ก็มีก
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ