ดวงตาทั้งสองข้างเลือนลาง เธอรู้สึกอึดอัดอย่างมากหวังข่ายรีบข่มขู่ นักศึกษากลุ่มนี้ยังจะกล้าต่อต้านตัวเองอีกที่ไหนกันล่ะ?เขายื่นมือออกไปจะถอดเสื้อคลุมของหลินเสวี่ยฮุ่ยต่อหน้าทุกคนมืออีกข้างหนึ่งของหลินเสวี่ยฮุยจับเสื้อคลุมไว้สุดแรง“คุณจะทำอะไรน่ะ?”ในตอนนี้เพื่อนร่วมห้องคนอื่น ๆ ไม่ปริปากพูดจา ถึงขั้นที่ไม่กล้าเข้าไปมีเพียงโจวเสี่ยวหางที่คว้าขวดเบียร์บนโต๊ะขึ้นมาโยนไปทางหวังข่ายเพล้งขวดเบียร์กระแทกศรีษะของหวังข่ายจนแตกศีรษะของหวังข่ายมีเลือดไหลออกมาทันที“แม่งเอ้ย…ฉันใจดีกับพวกแกเกินไปแล้ว” หวังข่ายมองดูรอยเลือดที่ไหลลงจากหน้าผากก็โกรธจนระงับอารมณ์ไม่อยู่จากนั้นก็ชี้หน้าโจวเสี่ยวหาง “ผู้หญิงคนนี้ยกให้พวกนาย”พวกลูกสมุนได้ยินคำพูดนี้ก็รู้สึกดีใจอย่างมาก จากนั้นก็พากันมุ่งหน้ามาทางโจวเสี่ยวหาง“พอแล้ว”ในตอนนั้นเอง หลินเฟิงลุกขึ้นยืนช้า ๆ และตวาดเสียงดังก้องทั่วทั้งห้องส่วนตัวสายตาของทุกคนพากันมองไปทางหลินเฟิงสายตาเฉียบคมของหลินเฟิงจ้องมองหวังข่ายแล้วพูดขึ้น “ปล่อยคน และไสหัวออกไปซะ แล้วฉันจะไว้ชีวิตพวกนาย”“เชี่ย ยังมีคนกล้าทำเก่งต่อหน้าฉันอีกเหรอ?” หวังข่าย
หวังข่ายจ่อมีดพกไปที่ลำคอของหลินเสวี่ยฮุ่ย และมองหลินเฟิงอย่างระแวงหลินเสวี่ยฮุ่ยตัวแข็งทื่อ เธอไม่คิดเลยว่าเธอที่เป็นแค่นักศึกษายากจนอยู่มาวันหนึ่งจะถูกจับเป็นตัวประกันตอนนี้เธอไม่กล้าขยับเขยื้อนหลินเฟิงเห็นแบบนี้ ดวงตาที่เฉียบคมหรี่ตาลงและหยุดเดินหวังข่ายยิ้มมุมปาก “หึหึ ไอ้หนุ่ม ดูท่าความสัมพันธ์กับนังหนูคนนี้ไม่ธรรมดาเลยนะ”หลินเฟิงสีหน้าอึมครึมดวงตาแฝงไปด้วยความดุดัน “ฉันเกลียดที่คนอื่นข่มขู่ฉันที่สุด ตอนนี้ปล่อยเธอไปซะ แล้วฉันจะไว้ชีวิตแก”“เชี่ย แกขู่ใครวะ?” หวังข่ายเห็นเขาแต่งกายไม่เหมือนกับบุคคลใหญ่โตอะไรต่อให้ตัวเองปล่อยให้เขาฆ่าจริง ๆ เขามีความกล้านั้นไหมล่ะ?“ไอ้หนุ่ม แกเจ๋งมากเหรอวะ? ถ้าหากอยากให้คนสวยคนนี้รอดชีวิต แกก็หักแขนข้างหนึ่งของแกซะ” หวังข่ายพูดข่มขู่เสียงเย็นชาหลินเฟิงสองมือกำหมัดแน่นหวังข่ายเห็นแบบนั้นมีดพกในมือก็ขยับเข้าใกล้หลินเสวี่ยฮุ่ยอีกสองสามเซนติเมตรหลินเสวี่ยฮุ่ยชูคอ เธอไม่กล้าขยับเขยื้อนซี้ซั้วแม้แต่นิด ถึงขั้นที่สามารถสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิเย็นเฉียบที่ส่งมาจากมีดพก“ไอ้หนุ่ม แม่งอย่าเล่นตุกติก เร็ว ๆ เลย ไม่อย่างนั้นฉันจะให้เธอตายต่อห
เขามองหลินเฟิงด้วยความหวาดกลัว ความเร็วของไอ้หมอนี่จะเร็วเกินไปหน่อยไหม?เมื่อเห็นว่าการหลบหนีไร้ความหวัง เขาจึงร้องขอความเมตตาในทันที “พี่ชายท่านนี้ ไว้ชีวิตด้วย ไว้ชีวิตด้วยนะครับ…”“วันนี้เป็นความผิดของผมทั้งหมด ผมขอโทษ ผมจะชดใช้เงินให้…”“ฉันเคยให้โอกาสนายแล้ว น่าเสียดายที่นายไม่ทะนุถนอมเอง” หลินเฟิงเดินไปข้างกายเขาช้า ๆ แล้วพูดขึ้นเสียงเย็นชา“คณจะฆ่าผมตรงนี้ไม่ได้นะ เนี่ย ตรงนี้มีกล้องวงจรปิด…คุณจะติดคุกนะครับ” หวังข่ายอดกลั้นความเจ็บปวดบนร่างกาย และพูดขึ้นด้วยความยากลำบากหลินเฟิงได้ยินแบบนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองกล้องวงจรปิดที่อยู่ตรงทางเดินเลนส์กล้องหันไปทางพวกเขาทั้งสองคนพอดี“ฮ่าฮ่า….ผมพูดได้มีเหตุผลใช่ไหมล่ะ?” หวังข่ายถอนหายใจออกมายาว ๆดูท่าไอ้หมอนี่ยังค่อนข้างกลัวกฎหมายอยู่ขณะเดียวกันหลินเสวี่ยฮุ่ยและคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้โง่รออยู่ในห้องส่วนตัวแต่วิ่งตามออกมาหลี่ว์เจิ้งหยางและคนอื่น ๆ ก็ตามมาอยู่ด้านหลังของเธอ“พี่เฟิง…”หลินเฟิงเหลือบเห็นหลินเสวี่ยฮุ่ย เขาไม่ได้กลัวกล้องวงจรปิด แต่ไม่อยากฆ่าคนต่อหน้าหลินเสวี่ยฮุ่ย“พี่เฟิง พี่ไม่ต้องคิดเล็กคิดน้อยกับเขาแล้ว พวกเร
ศีรษะของหวังข่ายหันไปทางหลินเฟิงด้วยความอืดอาด เหมือนกับหุ่นยนต์ที่ขาดน้ำมัน เขาคิดไม่ถึงเลยว่าไอ้หมอนี่จะรู้จักกับหลินเฟิง และดูท่าทางที่เซียวคุนมีต่อหลินเฟิง จะมีความเคารพนบน้อมขนาดนี้เขาเป็นใครมาจากไหนกันแน่นะหลินเฟิงเอ่ยปากขึ้นช้า ๆ “วันนี้เป็นวันเกิดของน้องสาวของผม เดิมทีฉลองวันเกิดกันอยู่ที่นี่”“ไอ้หมอนี่กลับอยากให้น้องสาวของผมไปดื่มเป็นเพื่อนเขา”“อะไรนะ?” เซียวคุนโมโหอย่างมากไม่ต้องสนว่าน้องสาวคนนี้จะใช่น้องแท้ ๆ หรือไม่เพียงแค่หลินเฟิงเอ่ยปากพูด งั้นก็คือน้องสาวแท้ ๆ ของหลินเฟิงกล้าให้น้องสาวของหลินเฟิงไปดื่มเป็นเพื่อนเขา หวังข่ายรนหายที่ตายเหรอ?ตัวเองเมื่อครู่ไม่ควรคุยกับหวังข่ายจริง ๆดวงตาของเขาจ้องมองไปที่หวังข่าย จากนั้นถีบไปที่ใบหน้าของเขา “แกมีชีวิตอยู่จนเบื่อแล้วใช่ไหม?”“กล้าให้น้องสาวของคุณหลินไปดื่มเหล้าเป็นเพื่อนแก?”“ท่านเซียว ขอโทษครับ ขอโทษครับ ผมผิดไปแล้ว คุณช่วยผมขอความเมตตาหน่อยครับ…”หวังข่ายตัวสั่นไปหมด และตกใจจนตัวกระตุกตอนนี้เขารู้สึกกลัวจริง ๆเซียวคุนหันไปทางหลินเฟิง “คุณหลิน คุณจะจัดการไอ้หมอนี่อย่างไร?”หลินเฟิงสีหน้าเฉยเมย แล
หลินเสวี่ยฮุ่ยหันหลังมาช้า ๆ และมองไปทางชายสูงวัยด้วยความงุนงง เห็นเพียงแค่ชายสูงอายุจ้องมองไปที่หน้าอกของตัวเองเธอรู้สึกลนลานมากยิ่งขึ้น ตัวเองคงไม่ได้เจอกับตาแก่โรคจิตเข้าหรอกนะ?จากนั้นก็กระชับคอเสื้อตรงหน้าอกเอาไว้ด้วยสัญชาตญาณหลินเฟิงได้ยินเสียงก็หันมองไป และเห็นชายสูงอายุทำแบบนี้ เขาก็ขมวดคิ้ว“คุณปู่ตระกูลหลิว คุณเป็นอะไรเหรอครับ?” เซียวคุนรีบเดินเข้ามาถามหลิวหยงหลี่เป็นถึงปรมาจารย์ด้านเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงในเจียงโจว ตอนนี้สายตาจับจ้องไปที่สาวน้อยคนหนึ่ง หากแพร่งพรายออกไปจะไม่ดีนะหลิวหยงหลี่กลับไม่ได้สนใจเซียวคุนเขารีบเดินไปด้านข้างหลินเสวี่ยฮุ่ยแล้วถามขึ้น “แม่หนู หยกชิ้นนี้หนูได้มาจากไหนเหรอ?”หลินเสวี่ยฮุ่ยได้ยินแบบนั้นก็มองหยกตรงหน้าอกของตัวเองจากนั้นพูดขึ้น “นี่เป็นของขวัญวันเกิดที่พี่เฟิงมอบให้ฉัน”พูดจบสายตาก็มองไปทางหลินเฟิงที่ยืนอยู่ด้านข้างเซียวคุนก็พูดแนะนำ “คุณหลิน ผมแนะนำให้คุณได้รู้จักหน่อยครับ ท่านนี้คือคุณท่านรองของตระกูลหลิวเมืองเจียงโจว และก็เป็นปรมาจารย์ด้านเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงของเจียงโจววันนี้เขาก็เพิ่งเจรจาธุรกิจใหญ่กับหลิวหย
“แม่หนูคิดว่าอย่างไร?” หลิวหยงหลี่สายตาคาดหวังมองไปทางหลินเสวี่ยฮุ่ยหลินเสวี่ยฮุ่ยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดด้วยความลังเล “นี่...นี่เป็นของขวัญที่พี่หลินเฟิงมอบให้ฉัน ฉัน...ไม่คิดที่จะขายค่ะ”ถึงแม้จี้หยกชิ้นนี้มูลค่าสิบล้าน แต่เพียงแค่ขายทิ้งเธอก็จะร่ำรวยได้ภายในค่ำคืนแต่เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงไม่คิดที่จะขายทิ้ง ของขวัญชิ้นนี้มีค่ามากเกินไปถ้าหากขายทิ้ง หลินเฟิงจะมองตัวเองอย่างไร?ได้ยินคำพูดนี้ หลินเฟิงรู้สึกปลื้มใจเป็นอย่างมาก อย่างน้อยหลินเสวี่ยฮุ่ยก็ไม่ใช่คนที่เห็นเงินแล้วตาโตหลิวหยงหลี่ได้ยินคำพูดนี้ก็ส่ายหน้าด้วยความรู้สึกเสียดายอย่างมาก “น่าเสียดาย น่าเสียดาย ในเมื่อแม่หนูคนนี้ไม่คิดที่จะขาย ฉันก็ไม่สามารถฝืนบังคับได้ ทำได้แค่พูดว่าจี้หยกชิ้นนี้ไม่มีบุญวาสนากับฉัน”เพียงแต่เขาก็ไม่ได้ยอมแพ้ จากนั้นเขาหันหน้ามองไปทางหลินเฟิง“ไม่ทราบว่าสหายน้อยหลินมีช่องทางไหนที่จะสามารถซื้อจี้หยกที่ปรมาจารย์อู๋เป็นคนแกะสลักเองได้บ้างไหมครับ?”“ถ้าหากมีช่องทางสามารถแนะนำให้ผมหน่อยได้ไหม สหายน้อยวางใจได้ เงินก้อนนี้รวมถึงคุณด้วยแน่นอน”เซียวคุนยิ้มพูด “คุณท่านรองหลิวชอบเครื่อง
หลินฝานลูบศีรษะของน้องสาวเบา ๆ “วางใจเถอะน้อง แม่ไม่มีทางเป็นอะไร”“พี่ลงทะเบียนคิวผู้เชี่ยวชาญให้กับแม่แล้ว”ผู้หญิงที่แต่งหน้าเข้มจัดพูดขึ้น “นี่เป็นโรคคนแก่ จะต่อคิวผู้เชี่ยวชาญอะไรอีก?”“สิ้นเปลืองเงินจริง ๆ”หลินเฟิงได้ยินคำพูดนี้ ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย สายตากวาดมองไปทางผู้หญิงคนนั้นเมื่อมองไปเขาก็รู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาเล็กน้อยในทันทีนี่เป็นพนักงานขายดีเด่นคนนั้นที่เจอในโชว์รูมรถ ตอนที่เขาจะซื้อรถครั้งที่แล้วไม่ใช่เหรอ?เพียงแต่ว่าตอนนั้นเธอดูถูกเขากับจางเจียหนิง“คนนี้คือ?”หลินฝานถึงได้พูดแนะนำ “ผมแนะนำหน่อยครับ คนนี้คือหวงเสี่ยวม่านแฟนของผม”“คนนี้คือหลินเฟิง เพื่อนของผมครับ”หวงเสี่ยวม่านเหลือบมองหลินเฟิงแล้วชะงักทันที “คุณเองเหรอ?”“คิดไม่ถึงว่าพวกเราจะเจอกันอีกแล้ว” หลินเฟิงสีหน้านิ่งเฉย น้ำเสียงราบเรียบ“เอ่อ...พวกคุณรู้จักกันเหรอ?” หลินฝานถามขึ้นด้วยความประหลาดใจเล็กน้อยหวงเสี่ยวม่านรีบลุกขึ้นพูด “รู้จักค่ะ รู้จักแน่นอน ครั้งที่แล้วหลินเฟิงยังไปซื้อรถที่ฉันอยู่เลย”“พี่เฟิง พี่ไม่บอกแต่แรกว่าพี่เป็นเพื่อนของหลินฝาน ตอนนั้นฉันยังสามารถลดราคาให้พี่ได้อีกนะ”หวงเ
หลินเฟิงเห็นท่าทางหลงระเริงของเธอแบบนี้ เขาก็ถอนหายใจแล้วพูดขึ้น “ถ้าหากเธอคบหากับหลินฝานดี ๆ ฉันสามารถทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปดีขึ้นได้”“อย่างน้อยก็มีสภาพดีกว่าตอนนี้อีก”“ถ้าหากในหัวของเธอคิดแต่จะใช้ร่างกายเพื่อได้ดิบได้ดี งั้นฉันขอเตือนเธอว่าอยู่ห่างจากหลินฝานหน่อย”หวงเสี่ยวม่านชะงักคิดไม่ถึงว่าไอ้หมอนี่จะหลอกล่อยากขนาดนี้ตัวเองเป็นฝ่ายพลีกายแต่เขากลับมองข้ามไปได้“นายแสร้งทำเป็นคนดีมีศีลธรรมอะไรกัน อย่างไรซะเรื่องนี้นายไม่พูด ฉันไม่พูด ใครจะไปรู้ได้?”หลินเฟิงเห็นท่าทางไม่รู้จักสำนึกผิดของเธอจึงพูดเสียงเย็นชา “ไสหัวไป”“ห๊ะ?”หวงเสี่ยวม่านคิดไม่ถึงว่าหลินเฟิงจะกล้าไล่ตัวเองให้ไสหัวไปในตอนนั้นเอง หลินฝานก็ตามมาที่นี่หวงเสี่ยวม่านเห็นแบบนี้ก็ขยับออกจากข้างกายของหลินเฟิง“เสี่ยวม่าน เธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร พี่เซี่ยมาถึงแล้ว”หวงเสี่ยวม่านได้ยิน ความโมโหบนใบหน้าก็หายลับไปและเปลี่ยนไปดีอกดีใจ “พี่เซี่ยมาแล้วเหรอ อยู่ที่ไหนเหรอ?”พูดจบทั้งสองคนก็เดินออกจากห้องบันไดหลินเฟิงเห็นแบบนั้นก็เดินตามออกไปเมื่อกลับไปถึงห้องพักผู้ป่วยใหม่อีกครั้ง ถึงได้พบว่าในห้องมีชายวัยก
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ