พูดตามตรง ที่เหยาปินสามารถนั่งในตำแหน่งในทุกวันนี้ได้ ทั้งหมดเป็นเพราะความสามารถของเขาเองแม้แต่สำนักเสินฉือก็ประหลาดใจมากหรือแม้แต่ในสำนักเสินฉือก็ยังมีคนที่หวาดกลัวเหยาปินอยู่ กลัวว่าเขาจะแข็งแกร่งขึ้นมาทั้งสองคนนั่งอยู่ในบาร์จนถึงเช้ามืด หลินเฟิงกับเหยาปินต่างดื่มกันไปไม่น้อย แม้แต่บริกรก็ยังรู้สึกกลัวเล็กน้อย“คุณหลิน เดี๋ยวผมไปส่งคุณครับ”เพราะต้องขอคำแนะนำ ดังนั้นเหยาปินจึงไม่ได้ดื่มมากเท่าหลินเฟิงขนาดนั้น เพราะงั้นจึงยังพอมีสติอยู่บ้าง“ไม่...ไม่ต้อง”หลินเฟิงลิ้นแข็งเล็กน้อย จากนั้นโบกมือก่อนจะพูดว่า:“เดียวผม...เรียกรถสักคันก็ได้แล้ว คุณกลับไปเถอะ อย่าลืมเอาศิลปะการต่อสู้ที่ผมเพิ่งสอนไปฝึกซ้อม และรวบรวมเพื่อปรับใช้งานด้วยล่ะ”“ครับ”เหยาปินรู้สึกซาบซึ้ง ท่าทางที่หลินเฟิงปฏิบัติต่อเขา ดีกว่าสำนักเสินฉือเป็นหมื่นเท่าและในเวลานี้เอง สายตาของเขามองไปไกล ก็เห็นหลี่ซืออวี่ที่หนาวจนตัวสั่นเล็กน้อย และขดตัวอยู่ตรงหน้ารถของหลินเฟิง“เอ๊ะ คุณยังไม่กลับไปอีกเหรอ?”เหยาปินที่กำลังประคองหลินเฟิง หลี่ซืออวี่มองเห็นก็รีบดีดตัวขึ้น ก่อนจะถูหน้าแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ยังค่ะ ย
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”หลินเฟิงลูบคลำตัวเอง พบว่าไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้น อีกทั้งหลี่ซืออวี่ที่อยู่ในอ้อมแขนของตัวเองก็เหมือนกัน ในจุดที่เปิดเผยใต้ผ้าห่มราวกับภาพที่เหมือนจริง“หรือว่าฉัน....”ก่อนจะกุมหน้าผากพยายามนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวานหลินเฟิงจำได้แค่ว่าเขาดื่มเหล้าไปเยอะมาก และให้คำแนะนำวิทยายุทธกับเหยาปิน สุดท้ายตัวเองกับเหยาปินก็ออกจากบาร์ไป...หลังจากนั้นเขาก็จำอะไรไม่ได้แล้ว“พี่หลินเฟิง”หลี่ซืออวี่ที่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับจับผ้าห่มไว้ เธอมองหลินเฟิงด้วยท่าทางน่าสงสาร เธอเพียงแค่เรียกชื่อหลินเฟิงและไม่พูดอะไรอีกสายตานั้น เหมือนกับว่าเมื่อคืนหลินเฟิงดุร้ายมาก และบีบบังคับที่จะมีความอะไรกับเธอ“......”ในใจรู้สึกหงุดหงิด หลินเฟิงก็อดที่จะสงสัยตัวเองไม่ได้ว่า ตัวเองทำเรื่องที่เกินขอบเขตกับเพื่อนน้องสาวของตัวเองจริง ๆเหรอ?แต่ทำไมตัวเองถึงจำไม่ได้เลยล่ะ?“ไม่เป็นไร พี่หลินเฟิง ทั้งหมดเป็นเพราะฉันสมัครใจเอง ส่วนเสวี่ยฮุ่ย ฉันก็จะอธิบายให้เธอฟังเอง คุณไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบฉันหรอก”เมื่อหลี่ซืออวี่เห็นหลินเฟิงครุ่นคิดอยู่เงียบ ๆ ก็รีบเงยหน้าขึ้นพูดด้วยความน่าสงสาร“เ
หลินเฟิงลังเลใจและกำลังจะถามเธอว่าเป็นยังไงบ้าง จู่ ๆก็ได้ยินเสียงด่าเหน็บแนมของจางกุ้ยหลานจากอีกด้านของโทรศัพท์“ฮุ่ยหราน โทรแจ้งให้เขารู้ก็พอแล้ว ยังต้องใช้เวลานานขนาดไหน? คุณชายกู้กำลังรอลูกอยู่ที่ชั้นล่างนะ!”“ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่หน้าคุณปู่ เขาคู่ควรที่จะมาเข้าร่วมพิธีฝังศพเหรอ?“ตู๊ด”หลี่ฮุ่ยหรานวางสายโทรศัพท์หลินเฟิงถือโทรศัพท์ไว้ ก่อนจะส่ายหัวแล้วหัวเราะเยาะตัวเองในตอนนี้เองก็ได้กลิ่นหอมของอาหาร ก่อนที่หลินเฟิงจะเดินออกจากห้องไปที่ห้องรับแขกไม่นาน ทั้งสี่คนก็รวมตัวกันที่ข้างโต๊ะอาหาร บรรยากาศแปลกประหลาดเล็กน้อยจ้าวเฉียวอวิ๋นรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ที่หลินเสวี่ยฮุ่ยมีสีหน้าอึมครึ้มและไม่พูดสักประโยค ไหนจะยังมีหลี่ซืออวี่ที่ยิ้มแป้นอีก“ซืออวี่ เธอมาทำไม?”ในที่สุด ในบรรยากาศที่ตึงเครียด หลินเสวี่ยฮุ่ยก็เงยหน้าขึ้นมองเพื่อนสนิทของตัวเอง ก่อนจะถามอย่างไม่แสดงสีหน้า“พี่หลินเฟิงให้ฉันมาที่นี่”หลี่ซืออวี่ใช้ตะเกียบจิ้มริมฝีปากสีแดง ด้วยสีหน้าที่ไร้เดียงสาวันนี้เธอสวมเพียงแค่เครื่องแบบของมหาวิทยาลัยเจียงโจวเท่านั้น ซึ่งดูไร้เดียงสากว่าภาพลักษณ์ที่สวยฉูดฉาดตามปกติ
หลินเฟิงไม่รู้ว่าที่หลินเสวี่ยฮุ่ยเสียใจเป็นเพราะเพื่อนสนิทขโมยคนที่ตัวเองชอบไปแล้ว เขายังคิดว่ามันเป็นความผิดของตัวเองอยู่เป็นตัวเองที่ดื่มหนักจนมีอะไรไปมั่วและส่งผลให้ความสัมพันธ์ของหลินเสวี่ยฮุ่ยกับเพื่อนของเธอกลายเป็นความอึดอัดเขาไม่รู้ว่าควรจะปลอบใจหลินเสวี่ยฮุ่ยยังไงดีหลี่ซืออวี่ที่อยู่ด้านข้างกำลังคีบอาหารให้หลินเฟิงพร้อมกับคิดแผนการ ก่อนจะมองหลินเสวี่ยผ่านเข้าไปในช่องประตูซึ่งกำลังกอดแม่ร้องไห้อยู่“ช่วยไม่ได้นะเสวี่ยฮุ่ย ใครใช้ให้พี่หลินเฟิงยอดเยี่ยมขนาดนี้ล่ะ?”“ผู้ชายที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ เธอไขว่คว้าไว้ไม่ได้ ก็อย่ามาโทษเพื่อนสนิทที่ช่วยเธอไขว่คว้าเอาไว้ล่ะ”หลินเฟิงที่ได้ยินเสียงร้องไห้ของเสวี่ยฮุ่ย ในใจก็ยิ่งสับสนวุ่นวายมากกว่าเดิมวันต่อมาพิธีฝังศพของคุณปู่ถังหว่านก็โทรมาหาแต่เช้า และขอให้หลินเฟิงแสดงความเสียใจในนามของบริษัทเภสัชกรรมเชิงถังเธอบอกว่าตัวเองมีเรื่องธุระนิดหน่อยไม่สามารถเดินทางไปได้หลินเฟิงไม่ได้คิดอะไรมาก และพาหลี่ซืออวี่ออกไปชอปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้าของเชิงถังกรุ๊ป ให้เธอเลือกเสื้อผ้าสองชุดที่เหมาะสมกับการไปเข้าร่วมพิธีฝังศพหลี่ซืออวี่ยังค
“ใครเป็นเพื่อนกับพวกเธอกัน ตอนนี้ไม่ใช่อีกแล้ว!”หลี่ซืออวี่มองร่างที่จากไปของโจวเสี่ยวหาง ก่อนจะกรีดร้องออกมาเสียงดัง“หึ” โจวเสี่ยวหางที่เดินไปไกลแล้ว ก็ชูนิ้วกลางขึ้นมาเหนือศีรษะ“เอาล่ะ อย่าดึงดูดความสนใจที่นี่”หลินเฟิงขวางหลี่ซืออวี่ที่โกรธจัด ก่อนจะรีบออกจากห้างสรรพสินค้าของเชิงถังกรุ๊ปท่ามกลางสายตาทุกคนโดยรอบสีหน้าที่ไม่ดีของหลี่ซืออวี่ดีขึ้นไม่น้อย หลังจากที่หลินเฟิงซื้อสร้อยคออัญมณีมูลค่าหลายสิบล้านให้เธอ“ถ้าเสวี่ยฮุ่ยมี ฉันก็ต้องมีเหมือนกัน”จนถึงตอนนี้ หลี่ซืออวี่ก็ยังคงนึกถึงสร้อยคอแบบทำมือที่หลินเฟิงให้กับหลินเสวี่ยฮุ่ยคฤหาสน์ตระกูลหลี่โลงศพของคุณปู่ตระกูลหลี่วางไว้ที่ห้องไว้ทุกข์หลี่ฮุ่ยหรานที่สวมใส่ชุดสีดำและมีดอกไม้สีขาวติดอยู่บนหน้าอก คุกเข่าลงข้างหน้าโลงศพของคุณปู่ด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกจางกุ้ยหลานกับคุณชายกู้และคนอื่น ๆต่างก็มาฉุดดึง แต่เธอก็ไม่ลุกขึ้นมา“ฮุ่ยหราน คุณวางใจเถอะ เพื่อจัดงานพิธีฝังศพที่ยิ่งใหญ่ให้กับคุณปู่ ผมขอให้พ่อของผมเชื้อเชิญคนที่มีชื่อเสียงมาจากเจียงโจว”“มีพวกเขามาเข้าร่วมพิธีงานศพที่นี่ ผมคิดว่าคุณปู่ได้รับการปฏิบัติแบบนี้
“จางเต๋อหลิน ท่านผู้นำสำนักไป๋เกาเมืองเจียงโจวมาถึงแล้ว!”“คุณชายถังอวิ๋นเฟิงของตระกูลถังเมืองเจียงโจวมาถึงแล้ว!”เจ้าของจากบริษัทน้อยใหญ่ที่มาร่วมงานศพคุณปู่หลี่ และคู่ค้าคนอื่น ๆ ของตระกูลหลี่ก็มึนงงไปหมดแล้วเนื่องจากเสียงตะโกนนอกประตูคนใหญ่คนโตทั้งเจียงเป่ยมาถึงที่งานกันเกือบหมดแล้ว“ทำไมฉันไม่เคยรู้เกี่ยวกับตระกูลหลี่เล็ก ๆ นี้ จะรู้จักบุคคลใหญ่โตเยอะแยะขนาดนี้?”“ดูท่าต่อไปจะต้องเกาะแข้งขาของตระกูลหลี่ให้แน่นแล้ว!”“ข่าวล่าช้าไปหน่อยไหม? เพื่อนของฉันทำงานที่หลี่ซื่อกรุ๊ป”“ได้ยินมาว่าเมื่อคืน หลี่ซื่อกรุ๊ปจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นฉุกเฉิน คุณหลี่ฮุ่ยหรานท่านประธานใหญ่ เปลี่ยนเป็นคุณกู้เฉินจากตระกูลกู้เมืองเจียงหนานแล้ว”“ฮะ? งั้นอย่างงี้จะต้องเรียกเป็นหลี่ซื่อกรุ๊ปอีกไหม?”“ใครจะไปรู้ล่ะ?”“บุคคลคนใหญ่คนโตมากมายขนาดนี้ แน่นอนว่าทั้งหมดต้องมาเพราะคุณชายกู้เมืองเจียงหนาน”“ต่อให้หลี่ฮุ่ยหรายจากตระกูลหลี่จะสวยแค่ไหน แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้คนใหญ่คนคนโตมาถึงที่นี้ได้ เพื่อใครกัน พริบตาเดียวก็สามารถมองออกได้แล้ว”“ใช่แล้ว ใช่แล้ว พวกคุณไม่ได้ลืมไปใช่ไหม? คุณหลี่ฮุ่ยหราน
ท่าทางของกู้เฉินทำให้คนใหญ่คนโตจากเมืองเจียงโจวตกอยู่ในความเงียบขรึม“ไอ้เวร!”ซ่งเฉียนคุนที่เป็นผู้ที่ใช้กำลัง นิสัยตรงไปตรงมาเขารู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างหลินเฟิงและฮุ่ยหรานอยู่แล้วถึงแม้จะหย่าร้างกัน แต่หลินเฟิงนั้นยังคงมีความผูกพันกับอดีตภรรยาอยู่ หมอนี่ที่มาจากตระกูลกู้เข้ามาแทรกแบบนี้ อยากตายเหรอ?!“พวกเราจะเอาเรื่องนี้ไปยืนยันกับสหายน้อยหลินเฟิง คุณชายกู้ ดูแลตัวเองให้ดีเถอะ”พูดจบ ซ่งเฉียนคุนก็สะบัดมือเดินจากไปด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร“นายกรัฐมนตรีฉิน นี่……”กู้เฉินก็คิดไม่ถึงเช่นกัน ว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่คนที่พ่อของตัวเองเชิญมาเหรอ?“เจ้าหนุ่มตระกูลกู้ นายคงไม่คิดว่าพ่อของนายเชิญมา พวกเราถึงมาแสดงความเสียใจในงานศพของคุณปู่ตระกูลหลี่หรอกนะ?”จางเต๋อหลินดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้ และหัวเราะเหยียดหยาม: “พวกนายตระกูลกู้เนี่ยนะ ยังไม่คู่ควรที่จะให้พวกเราเดินทางมาหรอก” “คุณชายกู้ ผมแนะนําให้คุณล้มเลิกความคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของคุณซะ”หลิวกั๋วฮุยไม่อยากจะมองกู้เฉิน เขาหันหลังกลับไปทันที:“คุณควรจะคิดเอาไว้ว่า จะชี้แจงกับสหายน้อยหลินเฟิงด้านนั้นอย่างไร! ตระกูลกู้ของคุณ ดันยั่ว
หลังจากวางสายในที่สุดหลินเฟิงก็มาถึงจุดหมายปลายทางแล้ว และได้ขับรถมาจอดที่ด้านนอกของคฤหาสน์ตระกูลหลี่“ขอโทษครับ คุณหลิน คุณชายกู้ออกคำสั่งเป็นพิเศษ ไม่อนุญาตให้คุณขับรถเข้าไปในคฤหาสน์ของตระกูลหลี่”คนเฝ้าประตูขวางรถของหลินเฟิงไว้ และมีท่าทางที่แข็งกร้าว“อุ๊ยอุ๊ยอุ๊ย ทำไมกันล่ะ? จะดูถูกกันเกินไปรึเปล่า? ”หลี่ซืออวี่กดหน้าต่างและกําลังจะด่าคนเฝ้าประตู แต่ถูกหลินเฟิงห้ามเอาไว้“ช่างเถอะ ยังไงฉันก็ไม่อยากอยู่นาน”จากนั้นก็หาที่จอดรถข้างทาง หลินเฟิงและหลี่ซืออวี่สวมชุดสีดําเข้ามาในคฤหาสน์ของตระกูลหลี่ด้วยกัน ที่นี่ แวบแรกเขาเห็นกู้เฉินกำลังพูดคุยกับเซี่ยงตงเซิงด้วยความดีใจอย่างมากศัตรูเจอหน้ากันก็มีสายตาดุดันเป็นพิเศษในตอนที่เซี่ยงตงเซิงเห็นหลินเฟิงก็สายตาดุดันขึ้นมาทันที“เหอะ”เซี่ยงตงเซิงรู้ว่าหลินเฟิงนั้นไม่ใช่หาเรื่องกันได้ง่าย ๆ จึงไม่ได้หาเรื่องใส่ตัวแต่เผยรอยยิ้มที่ไม่หวังดีให้หลินเฟิงด้วยความอึมครึม และแสยะยิ้มพูด: “ทะนุถนอมช่วงเวลาแห่งความสุขสุดท้ายของคุณเอาไว้เถอะ คุณหลิน”“จัดงานศพให้ลูกชายของคุณเมื่อไหร่? ส่งคนไปแจ้งผมที่อ่าวเทียนสุ่ย มันจะให้เกียรติแน่นอน”
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ