เพียงแต่ว่าตระกูลเซี่ยงที่อยู่เมืองหยางเฉิง ทำไมถึงได้มีปัญหากับเซียวคุนของเมืองเจียวโจว?เห็นหลินเฟิงสีหน้างุนงง หลิวหย่งกลับถอนหายใจพูดว่า: “คุณหลินคงจะไม่ทราบว่า ตระกูลเซี่ยงมีความร่วมมือกับพวกเรา”“พวกเรารับผิดชอบลงทุนที่ดิน และจัดการเส้นสายด้านต่าง ๆ ของเมืองเจียงโจว พวกเขารับผิดชอบลงทุนจัดตั้งโรงงานผลิตยา”“พูดว่าจะช่วงชิงตลาดยาของเมืองเจียงโจวเลยก็ได้”“ถ้าหากผมจำไม่ผิด เซียวคุนโดนพิษก่อนที่จะเริ่มเรื่องของยาบำรุงสตรี”หลินเฟิงขมวดคิ้ว“ใช่ครับ ตอนนั้นตระกูลเซี่ยงไม่พอใจกับราคาที่พวกเราเสนอ พวกเราจึงแตกหักกัน”หลิวหย่งพูดอย่างจริงจัง:“ผมสงสัยว่าเป็นในตอนนั้นที่พี่ใหญ่ของผมถูกวางยาพิษ”“ผ่านไปช่วงหนึ่ง พวกเขาก็มาเจรจากับพวกเราอีก ครั้งนี้ใจกว้างกว่าเดิมมาก ต่อให้เป็นเพราะความไม่พอใจก่อนหน้าพี่ใหญ่เซียวคุนจึงเสนอราคาเป็นสองเท่า แต่ตระกูลเซี่ยงกลับรับปาก”“แต่ผลลัพธ์คุณก็เห็นแล้ว ยาบำรุงตระกูลเซี่ยงพ่ายแพ้ให้กับตระกูลถัง ดังนั้นพวกตระกูลเซี่ยงไม่คิดที่จะจ่ายเงินงวดสุดท้ายให้พวกเรา”หลิวหย่งจ้องมองหลินเฟิงแล้วพูดขึ้น:“ผมได้ยินมาว่าคุณหลินกับตระกูลเซี่ยงมีความแค้นกัน แล
ในขณะที่ทุกคน รวมทั้งหลิวหย่งกำลังมึนงง หลินเฟิงก็เปลี่ยนหัวข้อพร้อมกับพูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า:“ไม่ใช่แค่เหลือลมหายใจสุดท้าย ต่อให้พวกคุณจะไม่เหลือลมหายใจแล้ว ผมก็สามารถช่วยให้กลับมาได้”“เชี่ย!”“สุดยอด!”“ใจเด็ดมาก!”ในตอนที่ทุกคนต่างคิดว่าหลินเฟิงจะมีการถ่อมตัวเอาไว้ กลับคิดไม่ถึงว่าหลินเฟิงจะพูดด้วยความมั่นใจในตัวเอง และพูดอย่างเต็มที่แบบนี้แม้แต่หลิวหย่งก็คาดไม่ถึงท่าทางที่มั่นใจตัวเองของหลินเฟิง ทำให้ส่งเสริมขวัญกำลังใจของพวกเขาอย่างมากในที่นี้ก็ไม่มีใครที่จะเกรงกลัวว่าตระกูลเซี่ยงจะวางยาพิษพวกเขาอีกทันใดนั้นคนกลุ่มหนึ่งก็เริ่มส่งเสียงร้องตะโกน จะแสดงอำนาจให้ตระกูลเซี่ยงได้เห็น“ถ้าไม่ซ่อนกลอุบายไว้ งั้นฉันก็ไม่กลัวหรอก!”“สหายทุกคน ไป ไปตระกูลเซี่ยงกัน!”“ไป!”คนกลุ่มหนึ่งขึ้นรถไปพร้อมกับส่งเสียงร้องตะโกน ขบวนรถยาวเหยียดสร้างภูมิทัศน์พิเศษสายหนึ่ง ดึงดูดผู้คนที่เดินไปมานับไม่ถ้วนให้หยุดมอง อันที่จริงความกังวลของหลิวหย่งนั้นถูกต้องในเวลานี้ที่โรงงานของที่หยุดทำการของตระกูลเซี่ยง ไป๋จินเต๋อโทรหาเซี่ยงตงเซิงที่ตัวอยู่ที่เมืองหยางเฉิงด้วยสีหน้าที่ลำพองใจ“น่าจ
“คิดไม่ถึงว่าตระกูลเซี่ยงยังจะวางกับดักไว้ให้ฉันจริง ๆ หากวันนี้คุณหลินไม่มาที่นี่ด้วย พวกเราเหล่าสหายอาจจะตกหลุมพรางตระกูลเซี่ยงไปแล้ว!”“ขอถามคุณหลิน เส้นไหมพวกนี้....”“เส้นไหมพวกนี้เป็นเพียงแค่ชั้นนอกสุด ปนเปื้อนพิษของหญ้าแมงมุมฟ้าเท่านั้น ทำให้คนที่ไปสัมผัสหมดสติโดยไม่รู้ตัว แต่มันก็ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตหรอก”หลังจากที่หลินเฟิงเข้าไปใกล้เพื่อสังเกตอย่างละเอียด ทันใดนั้นก็หัวเราะเยาะขึ้นมาทันที“มันก็เป็นแค่อุบายเด็ก ๆ เพียงแค่ใช้อาวุธฟาดออกไปข้างหน้า อย่าให้พิษบนเส้นไหมโดนผิวหนัง มันก็ไม่มีผลอะไรแล้ว”“ทุกคนได้ยินกันหมดแล้วนะ อย่าให้พิษเส้นไหมนั้นโดนผิวหนังของตัวเองเด็ดขาด!”หลิวหย่งหันหลังไปตะโกนใส่พวกลูกน้อง จากนั้นก็เขาก็เปิดทาง ยกมีดปังตอขึ้นแล้วโบกไปที่ด้านหน้า ทำให้เส้นไหมที่เดิมทีขึงตึงนั้นขาดออกจากกัน“หืม?”ภายในโรงงานในขณะนี้ ไป๋จินเต๋อที่เพิ่งจะวางสายโทรศัพท์ของเซี่ยงตงเซิงขมวดคิ้วขึ้น เขาสัมผัสได้ว่าตาข่ายป้องกันที่เขาขึงไว้นั้นถูกคนแตะต้อง ก่อนจะหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ดูเหมือนว่าเซียวคุนกับคนอื่น ๆจะมาหาถึงที่แล้วจริง ๆ และคิดจะเอาที่ดินเช่าโรงงานคืนด้วยแต่ใ
“ถอย!”หลิวหย่งรู้ดีว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะอวดดี ในเมื่อคุณหลินพูดแล้ว งั้นก็ควรจะเชื่อใจคุณหลิน ในเมื่อที่ดินอยู่ตรงนี้ ต่อให้หลินเฟิงอยากได้ก็เอาไปไม่ได้ดังนั้นเขาจึงถูกลูกน้องหามขึ้นมา แล้วพาหนีออกไปที่ด้านนอกของโรงงานในเวลานี้ พวกเขาเพิ่งจะมองเห็นหมอกควันสีน้ำเงินจาง ๆที่อยู่บนท้องฟ้า ซึ่งแทบจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า“คุณหลินคนนั้นเป็นเทพจริง ๆด้วย ถึงได้มองเห็นทุกอย่าง”ลูกน้องคนหนึ่งเอาแขนที่ปิดปากปิดดจมูกออก แล้วพูดออกมาด้วยความตกตะลึง“ใช่แล้ว แถมยังมีความสามารถที่น่ากลัวอีกด้วย เมื่อครู่นายเห็นที่เขาเอาชนะพี่หย่งด้วยสองมือไหม เด็ดขาดว่องไว ไม่มีอืดอาดยืดยาดสักนิด”“เอาล่ะ หุบปากให้หมด!”เมื่อหลิวหย่งได้ยินว่าตัวเองเพิ่งจะถูกหลินเฟิงเอาชนะได้ ในใจก็เกิดความกลัวพร้อมกับสีหน้าที่แดงเล็กน้อยเขาเป็นลูกน้องที่เชี่ยวชาญในการรบมากที่สุดของเซียวคุนหลังจากที่เดินทางไปทั่วทุกที่เป็นเวลาหลายปี ก็ได้รับการกล่าวขาน แต่คิดไม่ถึงว่าเพิ่งจะโดนหลินเฟิงเอาชนะด้วยสองมือได้ นี่เป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผลเลยจริง ๆเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ในใจเขาก็รู้สึกอับอายด้วยความโกรธและชื่นชมด้วยความยินด
หลินเฟิงก้าวไปข้างหน้า ก่อนจะหรี่ตาลงอย่างข่มขู่“ไม่...ไม่ใช่....”เหงื่อเย็นที่ไหลออกมาจากหน้าผากของไป๋จินเต๋อไม่หยุด เขาล้มเลิกความคิดที่จะเป็นศัตรูกับหลินเฟิงไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว และในตอนนี้ความคิดแรกที่มองเห็นหลินเฟิงก็คือการวิ่งหนีหนีให้ไกลเท่าไหร่ก็ยิ่งดี!“ น่ารังเกียจจริง ๆ ไอ้สารเลวตัวน้อยจากตระกูลกู้คนนั้นไม่ใช่บอกว่าจะไปหาคนของตระกูลหลงให้มาฆ่าหลินเฟิงหรอกเหรอ? ทำไมเวลาผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว ไอ้หนุ่มคนนี้ยังกระโดดโลดเต้นได้อีกล่ะ?!”ไป๋จินเต๋อสาปแช่งอยู่ในใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ใบหน้าก็พยายามอย่างหนักที่จะฉีกรอยยิ้มที่น่าเกลียดยิ่งกว่าการร้องไห้ออกมา“ที่แท้ก็เป็นสหายน้อยหลินเฟิง ไม่ได้เจอกันนานเลย”“คุณไม่ได้เจอกับใครมานาน บัญชีของตระกูลเซี่ยง ผมยังไม่ได้คิดกับพวกคุณเลย!”หลินเฟิงก้าวไปข้างหน้า ด้วยเจตนาฆ่า“ไม่ ไม่ ไม่....”ไป๋จินเต๋อรีบโบกมือก่อนที่กลอกตาแล้วพูดว่า“สหายน้อยหลินเฟิง ตระกูลเซี่ยงของฉันก็กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว ตั้งแต่ที่เซี่ยงหลงตาย ผู้นำตระกูลเซี่ยงตงเซิงก็กลับตัวกลับใจ ในตอนนี้เขาไม่เพียงแต่จะกินเจและสวดมนต์ทุกวัน แต่ย
“หยวนชี่ทั้งห้าของสำนักเสวียนเทียน?”ไป๋จินเต๋อรับรู้ถึงจังหวะการย่างก้าวชี่แท้ของหลินเฟิง“ คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะรู้จักสำนักเสวียนเทียนด้วย”หลินเฟิงก้าวไปข้างหน้าและกำลังจะฆ่าไป๋จินเต๋อ แต่เมื่อเห็นไป๋จินเต๋อโบกมือด้วยความหวาดกลัวแล้วพูดว่า “ไม่ ไม่ ไม่ เพื่อนตัวน้อยหลิน อย่าฆ่าฉัน! ฉัน...ใช่เลย! ฉันสามารถจะบอกความลับของตระกูลเซี่ยงอย่างหนึ่งแลกกับชีวิตของฉัน!”“ความลับของตระกูลเซี่ยง?”หลินเฟิงยกฝ่ามือขึ้นมาเบา ๆด้วยความลังเลเล็กน้อย“ใช่แล้ว ใช่แล้ว”ไป๋จินเต๋อล้มลงไปกับพื้น กระแอมสองครั้งก่อนจะรีบพูดอย่างรวดเร็วว่า “ตระกูลเซี่ยงกำลังมุ่งเป้าไปที่คุณสหายน้อยหลินเฟิง เพียงแค่คุณยกโทษให้ฉัน ฉันก็จะบอกความลับนี้กับคุณ”“พูด” หลินเฟิงมีสีหน้าที่เย็นชาเฉยเมย“สหายน้อยหลินเฟิง คุณจะรับรองชีวิตของฉันใช่ไหม?”“ไม่พูดมาตอนนี้ผมฆ่าคุณแน่ รีบพูดมา!”ลมปราณภายในมือของหลินเฟิงกลายเป็นชี่แท้ แรงกดดันมหาศาลทำให้ตาทั้งสองข้างของไป๋จินเต๋อเบิกกว้างด้วยควงามหวาดกลัว ในขณะที่กำลังขอความเมตตานั้นในใจของไป๋จินเต๋อก็รู้สึกโกรธมากเช่นกัน“ได้ คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะได้พบเจอกับดาวปีศาจคนนี้ ฉัน
สีหน้าของหลินเฟิงเย็นชา จากนั้นชี่แท้ก็ออกจากร่างกาย คิดไม่ถึงว่ามันจะกลายเป็นค้อนยักษ์โปร่งใสกลางอากาศ แล้วพุ่งเข้าใส่ที่หน้าอกของไป๋จินเต๋อ“คุณ!”เห็นได้ชัดว่าไป๋จินเต๋อไม่อยากที่จะยุ่งกับหลินเฟิง จึงกระโดดขึ้นจากพื้นไปสองฟุตทันที แล้ววิ่งหนีไปทางประตูโรงงานอย่างบ้าคลั่งก่อนจะใช้โอกาสนี้หลบค้อนพลังชี่แท้ของหลินเฟิงฝีมือความสามารถแข็งแกร่งอย่างนี้ ที่แท้อาการเจ็บหนักและท่าทางอ่อนแอเมื่อครู่เขาเสแสร้งออกมาทั้งหมด“คิดหนีเหรอ? สายไปแล้ว!”ถึงแม้ว่าชี่แท้ของหลินเฟิงจะออกจากร่างกาย แต่มันก็ยังคงเชื่อมต่อกับหลินเฟิง และนี่ก็ความละเอียดอ่อนอันเป็นลักษณะพิเศษของหยวนชี่ทั้งห้าหลินเฟิงโบกมือ แล้วค้อนยักษ์พลังชี่แท้ก็พุ่งออกไปด้านข้างไป๋จินเต๋อและเหวี่ยงกลับมาในอากาศทันที“อะไรนะ?!”ไป๋จินเต๋อคิดว่าหลบการเคลื่อนไหวของหลินเฟิงได้แล้วก็จะปลอดภัยแต่คิดไม่ถึงว่าหลินเฟิงยังจะสามารถควบคุมค้อนยักษ์พลังชี่แท้ได้อีก เขาถูกค้อนยักษ์พลังชี่แท้ที่ย้อนกลับมาโจมตีเข้าที่กลางหน้าอก ก่อนจะลอยออกไปพร้อมกับส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าสมเพช“อ้าก!”ที่หน้าอกของไป๋จินเต๋อยุบลง ก่อนที่เขาจะพ่นเลือดขึ้
หลิวหย่งยื่นมือออกไปสั่งการ ลูกน้องสิบกว่าคนที่อยู่ข้างหลังรอจนทนแทบไม่ไหวตั้งนานแล้ว พากันลุกขึ้นยืนในมือของพวกเขามีอาวุธชนิดต่าง ๆ ทุกสายตาดูมีความตื่นเต้นอย่างมาก“คุณหลินได้แก้ปัญหาความกังวลของพวกเราแล้ว พวกขยะของตระกูลเซี่ยงที่เหลือเหล่านั้น พวกเรายังจะมีอะไรให้หวาดกลัวอีก?”“สหายทั้งหลาย บุกเข้าไปให้หมด!”“ลุยกัน!”หลิวหย่งเลียลิ้นสีแดงสด และตะโกนออกมาเสียงดัง จากนั้นก็นำหน้าบุกเข้าไปไปหานักสู้ของตระกูลเซี่ยงที่วิ่งออกมาจากโรงงาน ไม่นานนัก ทั้งสองฝ่ายปะทะเข้าด้วยกัน การต่อสู้ที่รุนแรงก็ได้ปะทุขึ้นหลินเฟิงไม่ได้เข้าร่วมด้วยเช่นกัน ในเมื่อมันเป็นเรื่องของเซียวคุน ไม่ว่าอย่างไรเขาต้องให้โอกาสคนของเซียวคุณได้แสดงฝีมือหน่อยหลินเฟิงหนีไปพร้อมกับร่างของไป๋จินเต๋อไปยังที่ห่างไกลออกไป และค้นพบยาพิษจำนวนมากที่บนตัวของไป๋จินเต๋อ และ "คัมภีร์ร้อยพิษ" เล่มหนึ่ง ยาพิษเหล่านี้ถูกหลินเฟิงเก็บเอาไว้คัมภีร์ร้อยพิษถูกหลินเฟิงเปิดออก เขาถูกยาพิษชนิดต่าง ๆ ที่บันทึกอยู่ด้านบน และวิธีการสกัดแมลงพิษต่าง ๆ ทำให้ตกตะลึงในทันทีถึงขั้นที่มียาพิษบางชนิด เขาแทบจะไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วยซ้ำ
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ