“อะไรนะ?!”ในตอนที่หลี่ฟางพูดประโยคนี้จบ คนของตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานต่างก็ตกตะลึงกันทั้งหมด จากนั้นพวกเขาก็เริ่มครุ่นคิดถึงคำพูดประโยคนี้ของหลี่ฟางว่าหมายความว่าอย่างไร“ฟางเอ่อร์ ลูกบอกว่าตระกูลกู้จบแล้วหมายถึง....”หลี่กงเฉิงไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยินในเวลานี้ ดังนั้นเขาเลยรีบเร่งให้ลูกชายของตัวเองบอกข่าวออกมาเพิ่มเติม“จากนี้ไปสี่ตระกูลหลักในเจียงหนาน ไม่สิ...จากนี้ไปจะเป็นสามตระกูลหลักแล้ว ตระกูลกู้จบสิ้นโดยสิ้นเชิงแล้ว” เมื่อเห็นว่าคนตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานเหมือนจะไม่เข้าใจความหมายที่ตัวเองพูด หลี่ฟางจึงดันแว่นตาของตัวเองขึ้น แล้วพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “สมาชิกตระกูลกู้ทั้งหมดสามสิบสองคน ถูกคนฆ่าตายทั้งหมด ไม่รอดสักคน”“เฮือก...”เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ฟาง คนตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานทั้งหมดต่างก็สูดลมหายใจเข้าอย่างแรง“ถูกฆ่าทั้งหมด? ไม่เหลือรอดสักคน?”หลี่กงเฉิงเคลื่อนสายตาไปมองทางหลินเฟิงด้วยความยากลำบาก ก่อนจะพบว่าตอนที่หลินเฟิงได้ยินข่าวนี้ สีหน้าก็ยังนิ่งยิ่งเฉยอยู่ ราวกับว่ารู้มานานแล้ว“ตระกูลหลงล่ะ? คุณชายหลงยวนล่ะ?!”หลี่กงเฉิงคว้าคอเสื้อของลูกชายตัว
ถ้าหากพวกเขาตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานไปยั่วยุเทพหลินเฟิงคนนี้เข้า มันก็คงจะจบลงอย่างสิ้นเชิง!เมื่อหลี่ฟางเห็นคนตระกูลหลี่ที่อยู่โดยรอบต่างมองเขาด้วยความสงสัย หลี่ฟางก็กลืนน้ำลาย และขยับขัยบเข้าไปใกล้หูของพ่อตัวเองแล้วพูดว่า: “พ่อ หลินเฟิงน่ากลัวกว่าที่พ่อคิดไว้นะ!”เขาบอกเรื่องทั้งหมดกับพ่อของตัวเองที่หลินเฟิงทำกับตระกูลกู้ และเมื่อหลี่กงเฉิงฟังจบแววตาก็มืดมน จนเกือบจะสลบล้มลงไปตรงนี้คาดไม่ถึงว่าสิ่งที่หลินเฟิงพูดจะเป็นความจริงทั้งหมด!ไม่ได้คุยโวโอ้อวดด้วยซ้ำคนอย่างพวกเขามองเหตุการณ์ได้ไม่ไกล จนไม่รู้ว่าเบื้องหลังของหลินเฟิงมีพลังแบบไหนด้วยซ้ำถึงขนาดอยากจะไว้ชีวิตหลินเฟิง แต่ตอนนี้เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่น่ากระอักกระอ่วนแบบนี้แล้ว หลินเฟิงปล่อยพวกเขาตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานให้มีชีวิตอยู่ต่อได้ก็ไม่เลวแล้ว!“ตุบ!” หลี่กงเฉิงก็คุกเข่าให้กับหลินเฟิงเช่นกัน“คุณชายหลินเฟิง ผม...ผมหลี่กงเฉิงที่สายตาสั้นมองการณ์ได้ไม่ไกล ถึงขนาดคิดเอาเองฝ่ายเดียวอยากจะวัดความสามารถของคุณชายหลินเฟิ ผมสมควรตาย!”“ตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานของผม มีตาหามีแววไม่!”หลี่กงเฉิง คนสำคัญอันดับสอ
แต่หลังจากที่เธอได้ยินคำพูดของหลินเฟิงที่ให้หลี่หยวนทำตามที่เดิมพันไว้ ก็รู้ว่าการตบตาของเธอไม่สำเร็จ แต่เพื่อลูกชายของเธอ ก็มองไปทางหลี่กงเฉิง“ตาเฒ่า คุณรีบขอร้องคุณชายหลินเฟิงเร็วเข้าเถอะ!”ถ้าหลี่หยวนตายเพราะเรื่องแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานก็คงจะกลายเป็นตัวตลกของทุกคน“คุณชายหลินเฟิง เด็กคนนี้มีนิสัยดื้นรั้นหัวแข็ง เพียงเพื่อให้บรรยากาศคึกคักก็เลยพูดตลกไปแบบนั้น ได้โปรดคุณให้อภัยด้วย....”หลี่กงเฉิงก็ไม่ได้อยากเห็นลูกชายคนเล็กของตัวเองตายอย่างน่าหดหู่ใจเช่นอย่างนี้ ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่เพียงมองหลินเฟิงอย่างอ้อนวอนเมื่อเห็นลูกชายของตัวเองโง่เขลาแบบนี้ หลี่กงเฉิงก็เลยตบหน้าหลี่หยวนลูกชายของตัวเองต่อหน้าทุกคน“ยังไม่รีบกราบขอโทษคุณชายหลินเฟิงอีกเหรอ?!”หลี่หยวนถูกพ่อตบจนได้สติขึ้นมา เขารีบคุกเข่าแล้วกราบลงไป “คุณชายหลินเฟิง เมื่อครู่ผมล้อเล่นกับคุณครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะดูถูกคุณอย่างแน่นอน”“หือ?”หลินเฟิงเอียงศีรษะ ก่อนจะมองไปที่หลี่เยว่หรูที่นั่งตัวสั่นคุกเข่าอยู่ไกล ๆ“ถ้าอย่างนั้นทำไมผมถึงได้ยินคนพูดว่า คุณเป็นคนที่หัวรั้นนะ?”“ถึงขั้นที่ใครบางคนก็ยังอยา
หลังจากนั้นประมานหนึ่งชั่วโมงหลินเฟิงปฏิเสธคำเชิญงานเลี้ยงของตระกูลหลี่เมืองเจียงหนาน ก่อนจะขับรถพาหลี่ฮุ่ยหรานและแม่ลูกจางซินรีบกลับคฤหาสน์ของตระกูลหลี่เมืองเจียงเป่ยรอบนี้ถือว่าเป็นผลสำเร็จไม่น้อยถึงแม้หลินเฟิงจะปฏิเสธค่าชดเชยทรัพย์สินเงินทองจากตระกูลหลี่เมืองเจียงหนาน แต่ตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานก็ยังหาวิธีอื่นเพื่อเอาใจหลินเฟิงนั่นก็คือหลี่ฮุ่ยหรานหลี่กงเฉิงตบหน้าอกเพื่อแสดงให้เห็นว่า ในอนาคตเขาจะร่วมลงทุนอย่างเต็มที่ในหลี่ซื่อกรุ๊ป และช่วยพัฒนากิจการของหลี่ฮุ่ยหรานให้ยิ่งใหญ่และแข็งแรงและนำมรดกทั้งหมดของพ่อหลี่ฮุ่ยหรานส่งมอบให้หลี่ฮุ่ยหรานจัดการส่วนหลี่หยวนนั้นสุดท้ายการเดิมพันที่เขาสร้างขึ้นมา ก็ยังถูกพี่ใหญ่ของตัวเองบังคับให้ปฏิบัติเพียงแต่การลงโทษนั้นเบากขึ้นมาหน่อย นั่นคือการให้เขาผลัดกันจูบก้นสุนัขตัวใหญ่ที่ตัวเองเลี้ยงไว้ถึงแม้หลี่หยวนจะทำหน้ามุ่ยตลอดเวลา แต่สุดท้ายก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำตามหลังจากนั้นเขาก็ไปบ้วนปากและแปรงฟันอย่างบ้าคลั่งไม่กี่วันต่อมา ตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานก็ส่งคนไปย้ายหลุมฝังศพของคุณปู่หลี่ให้กลับไปยังครอบครัวนี่ก็ถือได้ว
ถึงแม้ว่าหลินเฟิงจะพูดแบบนี้ แต่เห็นได้ชัดว่าชายชราคนนี้รู้จักหลินเฟิงดี ถึงขั้นที่ยังรู้จักเธอด้วยเธอรู้นิสัยของหลินเฟิงดี และชายชราคนนี้คงจะมีปัญหาอะไรบางอย่างกับหลินเฟิงแน่ ๆ“ผู้อาวุโสท่านนี้ โปรดอย่าโกรธหลินเฟิงเลย ทำไมถึงไม่เข้าไปนั่งพักในบ้านสักหน่อย ฉันดูแล้วคุณน่าจะรอมานานแล้วสินะคะ?”หลี่ฮุ่ยหรานเหลือบมองไปยังเฮลิคอปเตอร์ที่อยู่ไกลๆเห็นได้ชัดว่า เฮลิคอปเตอร์ลำนี้น่าจะจอดมานานพอสมควรแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่ดึงดูดผู้คนมาล้อมดูกันเยอะขนาดนี้“หึหึ สาวน้อยมีมารยาทอย่างยิ่ง ไม่เลวเลย”อาฝูยิ้มอย่างใจดี กำลังจะเดินเข้าบ้าน แต่ไม่คิดว่าหลินเฟิงจะก้าวมาข้างหน้า ขวางทางชายชราเข้าบ้านเอาไว้“มีเรื่องอะไรก็พูดตอนนี้เถอะ พูดแล้วก็รีบไป”“ไม่จำเป็นต้องเข้าไปในบ้าน ไม่จำเป็นหรอก”เมื่อเห็นหลินเฟิงไม่มีมารยาทขนาดนี้ หลี่ฮุ่ยหรานก็เลิกคิ้วขึ้นแต่เธอคิดดูอีกครั้งหลินเฟิงไม่ใช่คนที่ไม่เคารพผู้อาวุโสถ้าหากหลินเฟิงไม่ได้มีท่าทางที่ดีต่อเขา ถ้างั้นตัวเองก็ยิ่งไม่ควรมองข้ามท่าทางของหลินเฟิงแล้วไปทำเรื่องเกินความจำเป็นดังนั้นหลี่ฮุ่ยหรานจึงหันไปพยักหน้าขอโทษกับอาฝู แล้วเดินเข้าไปใน
ในเวลานี้ จางกุ้ยหลานก็ขยับเข้ามาใกล้ด้วยสีหน้าที่น่าตื้นเต้น“ลูกสาว ดูสิ ดูสิ ทับทิมเม็ดใหญ่ขนาดนี้ คุณภาพดีกว่าเครื่องประดับทั้งหมดที่เคยเห็นในงานจิวเวอรี่อีก! แม่เจ้า จะขายได้เท่าไหร่กันเชียว....”“แม่!”หลี่ฮุ่ยหรานโกรธขึ้นมาเล็กน้อย: “ของล้ำค่าขนาดนี้อย่าแตะต้องซี้ซั้วได้ไหม? พวกเรายังต้องส่งคืนกลับไปอีกนะ!”“อะไรนะ? ส่งกลับคืน?!”จางกุ้ยหลานสะดุ้งโหยง ก่อนจะซ่อนกล่องไว้ในอ้อมแขนของตัวเองอย่างรวดเร็วเธอมองไปทางหลี่ฮุ่ยหรานด้วยความประหลาดใจ: “ลูกสาว ชื่อของลูกถูกเขียนไว้ข้างบนอย่างชัดเจน แสดงว่ามันมอบให้กับลูก แล้วจะส่งสิ่งนี้กลับไปได้อย่างไร?!”“มันมีค่ามากเกินไป หนูรับไว้ไม่ได้”หลี่ฮุ่ยหรานส่ายหน้าราวกับกลองเขย่า“คนเขามีน้ำใจ ลูกจะส่งกลับคืนไปได้ยังไง?”จางกุ้ยหลานกลอกตาไปที่ลูกสาวของตัวเองที่ไม่ได้เรื่องแบบนี้ ยังไงซะทับทิมเม็ดนี้เธอก็ไม่คิดที่จะส่งกลับคืนไปแน่“พี่ พี่รับไว้เถอะ นี่เป็นของขวัญจากความตั้งใจดีของครอบครัวของคุณชายหลินเฟิง เพื่อเฉลิมฉลองการแต่งงานของพี่กับคุณชายหลินเฟิง” จางซินพูดโน้มน้าว“หลินเฟิง คุณส่งคืนกลับไปเถอะ ฉันไม่อยากให้คุณติดหนี้น้ำใจค
เมื่อเห็นว่าหลินเฟิงจะเดินผ่านเธอไปไล่ตามหลินเสวี่ยฮุ่ยถังหว่านก็เอียงตัวไปขวางทางหลินเฟิงไว้ จากนั้นแอ่นอกที่ขาวผ่องของตัวเอง และเค้นถามด้วยหน้าตาหึงหวง“หลินเฟิง ที่นอกประตูคือใครงั้นเหรอ?”ในเวลานี้ หลี่ฮุ่ยหรานสวมชุดนอนและกำลังเดินหาวออกมารอให้เธอเห็นถังหว่านที่อยู่ตรงที่ประตู ก็สะดุ้งตกใจขึ้นมาทันทีสายตาของทั้งสองสาวมองสบกัน ทันใดนั้นก็มีสายฟ้าอันตรายปรากฏขึ้นพร้อมกับเสียงดังเปรี้ยะ “ทำแล้วเหรอ?!”ถังหว่านกัดฟันถาม“ทำแล้ว”หลี่ฮุ่ยหรานยิ้มอย่างภาคภูมิใจ พร้อมกับแอ่นหน้าอก“ฉันไม่เชื่อ!”ถังหว่านกัดฟัน ก่อนที่เธอจะแสดงท่าทางพ่ายแพ้เป็นครั้งแรก“จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่!”หลี่ฮุ่ยหรานเท้าสะโพกและยืนเคียงข้างหลินเฟิง เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ“หลี่ฮุ่ยหราน ฉันคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงอย่างคุณ จะเดินมาถึงขั้นนี้ได้...ต้องบอกว่า คุณมีความสามารถอยู่บ้างนะ”ถังหว่านหายใจอย่างแรงด้วยสีหน้าที่ไม่เป็นมิตร“หึ ขอบคุณสำหรับคำชมนะ”หลี่ฮุ่ยหรานจงใจพิงตัวไปทางหลินเฟิงมากขึ้น และยกริมฝีปากแดงขึ้นเป็นมุม นี่คือรอยยิ้มของผู้ชนะ“หยุด!”ในที่สุด หลินเฟิงที่อยู่ตรงกลางระหว่างทั้
“เสวี่ยฮุ่ย รอฉันก่อน…….”เสียงยิ่งอยู่ยิ่งไกลออกไป สีหน้าของสาวงามทั้งสองจ้องมองไปที่หลินเฟิงค่อยๆ เปลี่ยนไปเย็นชา“เธอคือยอดฝีมือที่ผมพบเจอที่หนานโจวก่อนหน้านี้ ผมจ้างเธอให้เป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของเสวี่ยฮุ่ย”หลินเฟิงตอบโดยไม่มีพิรุธ“บอดี้การ์ดส่วนตัว...เอ๊ะ? ทำไมทุกคนออกไปตั้งแต่เช้าแล้วละ?”ขณะเดียวกัน หมิงอิ่งอิ่งซึ่งมีรอยคล้ำใต้ตาก็เดินออกมาจากในห้อง ทรงผมของเธอยุ่งเหยิงไปหมด เห็นได้ชัดว่ามื่อคืนไม่ได้นอนเห็นการปรากฏตัวของเธอ หลี่ฮุ่ยหรานก็ถลึงตาโต มองไปทางหลินเฟิงอย่างไม่น่าเชื่อ“เธอชื่อหมิงอิ่งอิ่ง เพื่อที่จะซ่อนตัวจากตระกูลซือหม่า ก็เลยมาอยู่ที่นี่ช่วงระยะเวลาหนึ่งก็เท่านั้น”หลินเฟิงฝืนอธิบายออกไป“สวัสดีจ้า ฉันชื่อหมิงอิ่งอิ่ง”ถึงแม้สีหน้าจะไม่ดี แต่หมิงอิ่งอิ่งก็ยังที่จะทักทายกับหลี่ฮุ่ยหรานด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม“หลินเฟิง ที่บ้านของคุณยังมีผู้หญิงอีกกี่คนกัน?” หลี่ฮุ่ยหรานเงียบไม่พูดจา และถามขึ้นอย่างช้า ๆ“ไม่มีแล้ว เธอเป็นคนสุดท้ายแล้ว”หลินเฟิงรีบพูดยืนยัน“คุณถังหว่าน ฉันหายจากอาการบาดเจ็บแล้ว สามารถกลับเข้ากองได้ตั้งแต่วันนี้” ในเวลานี้ หลานเฟยสวมชุ
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ