Share

บทที่ 0004

หลินหลินหันไปมองหญิงอ้วนตรงหน้า แต่ยังไม่ทันทำอะไร ข้อมือบางก็ถูกกระชากดึงไปทันที

"แกรีบมากับข้าเดี๋ยวนี้ จะให้ใครเห็นนางหลานสาวตัวซวยคนนี้ไม่ได้เด็ดขาด"

หลินหลินปล่อยให้ยัยป้าของร่างเดิมนี่ดึงเข้าไปในบ้าน เพราะนี่คือสิ่งที่เธอต้องการ

นึกว่าจะต้องปืนเข้ามาซะอีก

หลินหลินมองสำรวจบ้านหลังนี้ ไม่ต่างจากความทรงจำของร่างเดิม บ้านหลังนี้เป็นบ้านดิน แต่ค่อนข้างคับแคบ ตัวบ้านไม่ใหญ่มาก แต่กลิ่นเหม็นที่โชยมาน่าจะมาจากห้องส้วมหลังบ้าน

จากความทรงจำที่นี่ยังเป็นส้วมหลุมดิน โดยใช้หญ้าแฝกมาปิดปากหลุมคลุมไว้เท่านั้น เธอขมวดคิ้วเป็นปม

แรงกดที่ข้อมือไม่น้อยเลย แต่เธอก็อยากรู้ว่ายัยป้านี่ จะทำอะไร ท่าทางรุรี้รุรน ไม่อยากให้ใครเห็นว่าเป็นเธอมันเพราะอะไรกัน

ปึก..

ร่างของหลินหลินถูกเหวี่ยงไปตรงห้องเก็บฟืน นางชุน ย่าซิน รีบเอามือเช็ดกับกระโปรงอย่างรีบร้อนด้วยท่าทางรังเกียจ

"แกกลับมาทำไม ไม่ตายไปซะ ไสหัวออกไป ที่นี่ไม่มีที่ให้แกอีกแล้ว"

หลินหลินจับข้อมือมานวด นั่งก้มหน้า ไม่โต้ตอบอะไร เพราะยังไง ยัยป้านี่ก็คงบอกจุดประสงค์ของนางออกมาแน่

"แก....นังตัวซวย แกได้ยินที่ข้าบอกไหม? แกน่าจะตายไปซะก็จบ ทำไมต้องกลับมาทำให้ข้าเดือดร้อนอีก "

"แกฟังนะ...แกต้องออกจากที่นี่คืนนี้ อย่าให้ใครเห็นแกเด็ดขาด ข้าแจ้งกับหัวหน้าหมู่บ้านว่าแกตายไปแล้ว ค่าแรงที่แกลงงานไว้กับหัวหน้าหมู่บ้านข้าเบิกมาหมดแล้ว"

" ใช้หมดแล้วไม่มีคืนให้ ทุกคนรู้ว่าแกตายไปแล้ว เพราะฉะนั้น แกต้องหายไปซะจะอยู่ที่นี่ไม่ได้ ไม่งั้นข้านี่แหละที่จะฆ่าแกเอง"

หลินหลินเงยหน้าขึ้นมองไปที่ป้าของร่างเดิม ดวงตาเฉยชาไร้ความรู้สึก แต่สายตานี้กลับน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก นางชุน ถอยหลัง 1 ก้าวอย่างไม่รู้ตัว

แจ้งว่านางตายแล้ว? ถ้างั้นก็ตามนั้น นาม ชุนหลินหลิน ไม่เพราะสักนิด ไม่เหมาะกับข้าเลย คงต้องหาแซ่ใหม่สิน หลินหลินลุกขึ้นยืนปัดฝุ่นที่กระโปรงออก สายตาตะหวัดโทสะออกมาไม่ปิดบังสักนิด

ในใจนึก เห้อ ชุดนี้ก็เก่าเหมือนผ้าขี้ริ้วขนาดนี้ยังจะมาทำให้มันเปื้อนอีก สภาพคงดูไม่ได้ ก่อนไปคงต้องคุยให้รู้เรื่อง

"หลังจากวันนี้ ข้ากับเจ้าคือคนแปลกหน้า บุญคุณความแค้นไม่มี หากเจ้ายังพูดจาร้ายๆ กับข้าแค่อีกหนเดียว.... ระวัง...ปากของเจ้ามันจะพูดไม่ได้อีก อ่อ และก็จริง ชุนหลินหลินนางตายไปแล้ว และข้าไม่ใช่นาง!"

สายตาอาฆาตมองจ้องไปที่นางชุน แค่นี้นางชุนก็กลัวจนตัวสั่น หลินหลินหยิบมีดออกมาจากความว่างเปล่า

"เฮือก...ผี ผี ผีนางเป็นผี ผีหลอกแล้ว ท่านพี่ ท่านพี่ออกมาเร็ว"

สองเท้ารีบวิ่งไปทางตัวบ้านด้วยความรีบ นางจึงสะดุดล้มหัวกระแทกพื้น

"ฮือ..ฮือ ...ช่วยด้วย ช่วยด้วย อร้าย...เลือด"

นางชุนกระเสือกกระสนยืนขึ้นเตรียมวิ่งอีกครั้ง..

"ท่านพี่ช่วยข้าด้วยยยย"

ปึก....อ่ะ...ร่างของนางชุนล้มลงกับพื้นหมดสติไป

หลินหลินใช้เท้าเขี่ยร่างหมดสติของนางชุน มองซ้ายขวาไม่มีใครก็เดินตรงไปยังโอ่งน้ำเก่าที่ติดกับห้องเก็บฟืน

หลินหลินยกอ่างตะแคงขึ้นเล็กน้อยก็พบกับกล่องไม้ที่ซ่อนอยู่ตรงกลางระหว่างหิน 2 ก้อนที่รองโอ่งอยู่ หลินหลินเปิดกล่องไม้พบกับถุงหอมเก่าๆ ด้านในมีเงินอยู่ 5 อีแปะและจี้หยก 1 อัน

ในความทรงจำ จี้หยกนี้แม่เธอให้ไว้ แต่มันไม่น่าจะใช่อันนี้ !

หลินหลินขมวดคิ้ว จี้หยกนี้อันเท่าฝ่ามือเป็นหยกไร้ที่ติ แกะสลักอักษรคำว่า เว่ยหลินหลิน มุมปากบางยกยิ้มขึ้นทันที เพราะยุคนี้สามารถนำหยกนี้ไปยืนยันตัวตนได้ แค่ต้องหาคนรับรองแค่นั้น แซ่นี้ล่ะกัน

"เว่ยหลินหลิน หลังจากนี้ข้าคือ เว่ยหลินหลิน"

หลินหลินเก็บจี้หยกเข้ามิติ ดูจากแสงตอนนี้คาดว่าน่าจะยามอู่(11.00น) จึงรีบเดินออกจากบ้านหลบผู้คนโดยใช้เส้นทางที่คนในหมู่บ้านไม่ค่อยใช้จากความทรงจำของร่างเดิม

เดินอ้อมอยู่นานจนมาถึงหน้าหมู่บ้าน หลินหลินตัดสินใจหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ทางเข้าหมู่บ้าน ตั้งจิตเข้ามิติไปแปลงโฉมทันที

หลินหลินเอาชุดกันหนาว ที่เป็นเสื้อกั๊กนวม กางเกงขายาวนวมมาสวมใส่ก่อนที่จะใส่ชุดของร่างเดิม ดีที่ชุดนี้เป็นชุดของนางชุนส่งต่อให้หลินหลินมันจึงใหญ่มาก แต่ร่างเดิมใช้เชือกมามัดไว้

เมื่อได้ของที่ต้องการแล้วหลินหลินก็ใช้ผ้านี้โพกปิดหัวปิดปากให้เห็นแค่ดวงตา เมื่อเห็นว่าใกล้เวลาที่เกวียนเข้าเมืองจะออกแล้ว หลินหลินก็เดินออกจากหลังต้นไม้ทันที

"แค่ก แค่ก แค่ก"

เสียงไอและท่าทางป่วยหนักของหญิงวัยกลางคนทำให้ผู้คนที่อยู่ใกล้หลีกหนี รังเกียจกลัวจะติดไข้หรือโรคร้าย นางจ่ายค่าเกวียนไป 3 อีแปะ

"ไป ไป ไปนั่นด้านโน้นเลยนะ อย่ามานั่งใกล้ข้า"

หลินหลินที่เดินจะถึงที่นั่งด้านใน กลับมีเสียงไล่ออกมาจากคนที่ขึ้นเกวียนมาก่อนหน้า ทำให้หญิงสาวชะงัก และหมุนตัวกลับออกไปนั่งทางท้ายรถแทน

"แค่ก แค่ก"

ตลอดทางไม่มีใครกล้านั่งใกล้นาง แม้ไม่มีที่นั่งก็เลือกที่จะขอไปนั่งหน้ากับคนขับเกวียน ภายใต้ผ้าคุมยกยิ้มล้า นางนี่ฉลาดใช้ได้

ใช้เวลาไม่ถึง 30 นาที ก็เห็นประตูเมืองอยู่ไกลๆ พอถึงทางเข้าเมือง ตอนแรกนางนึกว่าจะมีการตรวจคนก่อนเข้าเมืองซะอีก

แต่ก็ดีที่ไม่มี นางจะได้ตัดปัญหายืนยันตัวตนไป เกวียนวัวมุ่งหน้าแล่นเข้าไปจอดยังที่ที่มีเกวียนหมู่บ้านอื่นๆ จอดอยู่ ลุงคนขับเกวียนร้องบอก ว่าหากจะกลับให้มารวมตัวที่ยามเซิน(16.30น) เพราะนี่คือรอบสุดท้ายที่จะวิ่งแล้ว

นางลงจากเกวียนเป็นคนแรก ที่นี่ผู้คนคึกคัก มีร้านรวงมากมาย หลินหลินหาซอกมุมร้านค้าที่เป็นมุมอับเพื่อเข้ามิติ ถอดชุดนวมออกและใส่ชุดของร่างเดิมออกมา อย่างแรกที่นางมองหาคือร้านผ้า นางต้องการชุดของคนยุคนี้ที่มันพอดี ทำอะไรจะได้คล่องตัว เรื่องเงินนั้นไม่ใช่ปัญหา เพราะนางนั้นรวยมาก

"เจอแล้ว ... "

หลินหลินมุ่งตรงไปยังร้านค้าผ้าที่ใกล้ที่สุด แต่ยังไม่ทันเข้าไปเลือกผ้าก็พบกับสายตารังเกียจจากหญิงวัยกลางคนผู้ดูแลร้านเสียแล้ว

"มีทุกยุคทุกสมัยจริง"

หลินหลินตัดสินใจหันหลังเดินออกจากร้านทันที เธอไม่ยอมซื้อขายกับคนแบบนี้เด็ดขาด

ถัดไปไม่ไกลมีร้านผ้าอยู่อีกหนึ่งร้าน ร้านนี้ไม่ใหญ่มากแต่มีคนเดินเข้าออกตลอด หลินหลินเดินเข้าไปก็มี หญิงสาวอายุ 17-18 หนาวรีบมาสอบถามว่า

"ต้องการหาสิ่งใดเจ้าคะ"

หลินหลินมองไปที่ผู้ดูแลร้านด้านในที่ยิ้มการค้า ร้านนี้ไม่รังเกียจสภาพอนาถาอย่างนาง

" ดีล่ะ เอาร้านนี้แหละ"

หลินหลินพึมพำก่อนตัดสินใจเดินเข้าไปในร้าน

"ข้าต้องการชุดสัก 2-3 ชุด"

"เชิญทางนี้เจ้าค่ะ ทางร้านมีชุดตัดสำเร็จให้เลือกมากมายเลยเจ้าค่ะ"

หลินหลินเดินตามคนขายเข้าไปข้างในร้านอีกฝั่ง

"อือหือ...ชุดสวยๆ ทั้งนั้นเลย"

เธอพูดกับตัวเอง

เสี่ยวลี่เห็นหลินหลินยังไม่เดินไปจับชุดไหน จึงตัดสินใจเอาชุดผ้าเรียบสีม่วงเข้มลงมาให้ดู เพื่อที่นางจะรู้ว่าหลินหลินชอบแนวไหน

"ชุดนี้ราคาไม่แพงและผ้าดีมากเลยนะเจ้าคะ ด้านในเป็นผ้าทอพิเศษ เรียบลื่นไม่ระคายผิวแม้แต่น้อยเจ้าค่ะ"

หลินหลินมองตามเนื้อผ้าก็พอใจชุดนี้เช่นกัน

"ชุดนี้เท่าไรหรือ"

เสี่ยวลี่ไม่ปล่อยโอกาสทอง นางรีบนำเสนอขายทันที

หลินหลินปิดจบชุดไปที่ 4 ชุด ชุดละ 2 ตำลึงเงิน บางชุดก็ 5 ตำลึงเงิน รวมแล้วนางจ่ายค่าชุดไป 14 ตำลึงเงิน หลินหลินทำมือล้วงเข้าอกเสื้อ แต่จริงๆ นางเอาออกจากมิติต่างหาก พอจ่ายเงินเสร็จแล้ว นางขอเข้าไปเปลี่ยนเป็นชุดสีม่วงชุดแรกนั่นเอง

เสี่ยวลี่เข้ามาดูแลหลินหลินและจัดทรงผมให้นางใหม่ ตอนนี้นางดูดีขึ้นมาก แต่ผิวที่แห้งกร้าน ค้ำแดด กับความผอมที่ปลิวลมนี้นางต้องรีบจัดการ ก่อนหน้านี้นางมัวแต่จัดการมิติ

ตอนนี้คงต้องเริ่มหันมาดูแลตัวเองบ้างแล้ว หลินหลินเดินออกจากร้านผ้า เพื่อหาโรงเตี๊ยม

เดินไปไม่นานก็พบโรงเตี๊ยมจันทรา เป็นโรงเตี๊ยมที่น่าจะใหญ่ที่สุดที่นี่แล้วกระมัง เพราะดูจากพื้นที่ที่สร้างกินพื้นที่ไปถึง 5 อาคารเรือน และมีถึง 3 ชั้น ทุกอย่างดูหรูหราและกลับให้ความรู้สึกปลอดภัยไปในคราเดียวกัน

หลินหลินเข้าไปก็มีเสี่ยวเอ้อเข้ามาต้อนรับทันที

"คุณหนูมาทานอาหาร หรือต้องการห้องพักขอรับ"

"ข้าต้องการห้องพัก 2-3 คืนเจ้าค่ะ"

"ถ้า 3 คืน ทางโรงเตี๊ยมเรามีว่างแต่ชั้น 3 ห้องพิเศษ คืนละ 5 ตำลึงขอรับ"

หลินหลินพยักหน้าและส่งตำลึงให้เสี่ยวเอ้อ เสี่ยวเอ้อรีบวิ่งไปด้านข้างที่มีไม้ฉากกั้น คาดว่าเหมือนการทำเรื่องเบิกกุญแจให้นางละมั้ง ระหว่างรอนางกวาดตามอง

ที่นี่ตกแต่งออกมาได้ดีมาก สะอาด บรรยากาศดี ด้านล่างแบ่งโซนชัดเจน มีที่ทานอาหาร 2 แบบ คือการนั่งรวมทั่วไป และมีแบบให้ความเป็นสัดส่วนขึ้นมา โดยที่โซนนี้จะมีฉากกั้นแบ่งกั้นแต่ละโต๊ะ คล้ายโซน VIP ในยุคที่นางอยู่ แบบสามารถมองเห็นกันลางๆ บ่งบอกเป็นนัยๆ ว่าคนระดับเดียวกัน

"เชิญทางนี้ขอรับ"

เสี่ยวเอ้อนำทางขึ้นชั้น 2 และแนะนำว่าชั้น 2 เป็นห้องพัก และห้องทานอาหารส่วนตัวเป็นห้องๆ

ส่วนชั้น 3 จะเป็นห้องพักพิเศษทั้งชั้น นางเดินตามเสี่ยวเอ้อไปเฉยๆ ไม่ได้สอบถามอะไร จนมาหยุดที่ห้องหมายเลข 3 มุมปากบางยกยิ้ม ไม่ว่าชาตินี้ หรือชาติที่แล้ว นางมักจะได้เลข 1 หรือ 3 เสมอ

นี่คือเลขโชคดีที่นางคิดว่าพระเจ้ามอบให้นาง เสี่ยวเอ้อไม่รอช้าเปิดประตูห้องและโค้งตัวให้นางเดินเข้าไปทันที

อืมหืม.....!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่ 0196

    บทพิเศษเสี่ยวเฮย และ เสี่ยวหมี(หมีหิมะ)ภายในมิติ ทันทีที่หลินหลินจากไป เสี่ยวเฮยทรุดตัวลงกับพื้น น้ำตาไหลอาบแก้ม"ฮือๆ นายหญิง... ทำไม... ทำไมถึงทิ้งข้า"เสี่ยวเฮยคร่ำครวญด้วยความเสียใจเสี่ยวหมีเดินเข้ามาใกล้ "เสี่ยวเฮย เจ้าอย่าเสียใจไปเลย นายหญิงคงมีเหตุผลของนาง""เหตุผลอะไรกัน ข้าไม่เข้าใจ!"

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่ 0195

    เสี่ยวหลงยืนยันเสียงแข็งหลินหลินมองภาพสองพ่อลูกโต้เถียงกันด้วยความเอ็นดู นางลูบหัวลูกชายเบาๆ"คืนนี้เสี่ยวหลงนอนกับแม่ก็ได้"เทียนชุนทำหน้ามุ่ย"แล้วข้าล่ะ""ท่านพี่ไปนอนกับไป๋หลิงที่เตียงโน้นก็ได้เจ้าค่ะ" หลินหลินตอบ เทียนชุนถอนหายใจ "ก็ได้"เขาพูดอย่างจำยอมเสี่ยวหลงยิ้มกว้างอย่างมีชัย เขาขยับเ

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่ 0194

    ภายในจวนท่านแม่ทัพ บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความคาดหวัง เสียงร้องโอดโอยของหลินหลินดังเล็ดลอดออกมาจากห้องคลอดเป็นระยะๆ ทำให้เทียนชุนที่ยืนรออยู่ด้านนอกร้อนใจเป็นอย่างยิ่ง เขากำมือแน่น พยายามสะกดกลั้นความกังวลเอาไว้ แต่ก็ไม่อาจหยุดความคิดที่วนเวียนอยู่ในหัวได้"หลินเอ๋อร์ เจ้าต้องปลอดภัยนะ"เ

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่ 0193

    หลินหลินถามเสียงแผ่ว"ไม่หนัก ตัวเจ้าเบาอย่างกับนุ่น""อุ้ม 3 คนไม่หนักหรือเจ้าคะ"เท้าที่กำลังก้าวเดินของเทียนชุนหยุดชะงัก ดวงตาทั้งสองสบกันอย่างมีความหมาย"หลินเอ๋อร์ เจ้าหมายความว่าเช่นไร?" เทียนชุนถามเสียงสั่น หัวใจของเขาเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้นและความหวังหลินหลินยิ้มกว้างเต็มใบหน้า ความสุขเอ

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่ 0192

    ไป๋หูมีเรื่องจะคุยกับข้าหรือ?"นายหญิง เหตุใดจึงยกเลิกพันธะสัญญา"ไป๋หูถามเสียงเครียด เพียงแค่เริ่มนางก็น้ำตาคลอแล้ว นางคิดว่านางเข้มแข็งแล้วซะอีก"ข้าไม่ต้องการให้ใครมาเสียสละเพื่อข้า"หลินหลินตอบเสียงสั่น"พวกเรามีอายุที่ยาวนานกว่ามนุษย์เช่นท่านมากนัก การที่เราตัดสินใจทำพันธะสัญญานั่นแปลว่าเราเลือ

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่ 0191

    หลินหลินค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา พบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมกอดที่คุ้นเคยของเทียนชุน ทันทีที่สติกลับคืนมา ภาพเหตุการณ์สุดท้ายก่อนหมดสติก็ฉายชัดขึ้นในห้วงความคิด เสียงระเบิดดังสนั่น ภาพดวงตาที่ทั้งสองมองมาที่นาง…น้ำตาไหลอาบแก้มหลินหลินอีกครั้ง ความเจ็บปวดของความสูญเสียกัดกินหัวใจของนางอย่างรุนแรง นางพยายามสะก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status