“จะเดินทางกันแล้วเหรอวะ”
ภายในบ้านหลังเล็กที่ซึ่งเป็นสถานที่ที่แม่ของเขานั้นมีลมหายใจสุดท้ายอยู่ที่นี่ สายตาคมของมาเฟียหนุ่มอย่างฟีนิกส์กำลังจ้องมองผ่านบานหน้าต่างไปยังบ้านหลังใหญ่ที่กำลังมีกลุ่มคนเดินกันให้วุ่นอยู่บริเวณหน้าบ้านนั้น แม้จะได้ยินเสียงฝีเท้าของลูกน้องย่างกรายเข้ามาใกล้แล้วเขาก็ยังไม่ละสายตาไปจากตรงนั้น
“ครับ กำลังขนของขึ้นรถกันครับ”
เลนินลูกน้องคนสนิทเดินเข้ามารายงานเรื่องที่เจ้านายสั่งให้ไปจับตามองด้วยภาษารัสเซียตามเชื้อชาติที่เขานั้นถืออยู่ ด้วยเขานั้นพูดภาษาไทยไม่ค่อยได้และไม่ถนัดใช้ภาษาอังกฤษอีกตั้งหาก
แต่เขาสามารถรับคำสั่งของเจ้านายได้ทุกภาษา เพราะทำงานรับใช้เจ้านายมาเกือบจะสิบปีแล้ว รู้นิสัยใจคอของเจ้านายเป็นอย่างดี
“มึงไปพาคนมาเพิ่มสักสองสามคน แล้วตามกูไปที่บ้านหลังใหญ่”
ฟีนิกส์พ่อนกตัวร้ายยันกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูง หยิบเอาเสื้อสูทที่แขวนเอาไว้บนโซฟาขึ้นมาใส่ แต่งกายให้เรียบร้อยตามแบบฉบับของเขาเพื่อเตรียมตัวก้าวเท้าออกจากบ้านหลังเล็กที่มันมีแต่ความขมขื่นแห่งนี้
“ครับนาย”
“ในที่สุดวันนี้มันก็มาถึงสักทีสินะ วันที่ฉันจะได้แก้แค้นอย่างสาสม หึ”
ก่อนจะก้าวเท้าออกจากบ้านหลังเล็กที่แม่เขานั้นใช้เป็นสถานที่ปลิดชีพตัวเอง เขานั้นก็ได้กลั้วหัวเราะในลำคอออกมาเบาๆ เมื่อสัมผัสได้ถึงความสุขเพียงเล็กน้อยที่กำลังเกิดขึ้นในหัวใจ หลังจากที่เขาไม่เคยได้สัมผัสกับสิ่งที่เรียกว่าความสุขอีกเลยนับจากแม่ของเขาจากโลกใบนี้ไป
“อ้าว คุณฟีนิกส์มาลาคุณพ่อเหรอคะ”
กุ้งนางหรือคุณนายประจำบ้านหลังใหญ่หลังโตที่เธอเรียกมันว่าคฤหาสน์นั้นหันมาเห็นร่างสูงใหญ่ของลูกชายเจ้าของบ้านเดินมาพอดี เธอนั้นก็หันไปทักทายตามมารยาททั้งที่ไม่ได้อยากจะมีมารยาทมอบให้คนที่กำลังเดินเข้ามาสักเท่าไหร่หรอก
“คุณวิลล์อยู่ในบ้านนะคะ เชิญตามสบายเลยนะคะ”
อีกฝ่ายกลับเงียบไม่พูดไม่จาอะไร คนมีศักดิ์เป็นแม่เลี้ยงอย่างเธอก็เลยพูดต่อ หวังให้อีกฝ่ายให้ความเคารพกลับมาบ้าง หรือเรียกอีกอย่างว่าควรจะรู้ว่าเธอเป็นใครและกำลังมีน้ำใจพูดด้วยก็บุญโขเท่าไหร่แล้วกับลูกของเมียที่ตายไปแล้วของสามีเธอ
“เสือก”
ฟีนิกส์เอ่ยตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบกับคำสั้นๆ เพียงพยางค์เดียว พร้อมส่งสายตาจ้องมองอีกฝ่ายอย่างดุดันที่อีกฝ่ายกล้าดีมาส่งเสียงเน่าๆ แสนทุเรศนั้นคุยกับเขา
“น้าก็แค่ต้อนรับตามหน้าที่นะคะ ถ้าทำให้คุณฟีนิกส์ไม่พอใจต้องขอโทษด้วยนะคะ”
กุ้งนางเธอยังคงทำใจดีสู้เสือยิ้มแย้มตอบกลับออกไป แม้ภายในอกจะลุกเป็นไฟอยากจิกหัวตบอีกฝ่ายเพื่อสั่งสอนให้รู้เสียบางว่าเธอเป็นใครใจจะขาดแล้ว
กับอีกแค่เป็นมาเฟียรับตำแหน่งมาจากพ่อทำมาเป็นวางอำนาจใหญ่โตใส่เธอ ช่างไม่รู้อะไรเลยว่าพ่อของมันก็ก้มหัวให้กับเธอมาแล้ว
“ฉันไม่นับญาติกับพวกปลิง”
น้ำเสียงเจือแววดูถูกถากถางถูกเอ่ยออกมา พร้อมกับสายตาเหยียดมองอีกฝ่ายด้วยความรังเกียจ
“ขอโทษด้วยค่ะ”
กุ้งนางจำต้องสงบปากสงบคำออกไป ไม่คิดต่อกรกับคนตรงหน้าต่อ
เพราะแทนที่จะได้รับชัยชนะได้การถกเถียงกัน เธออาจถูกสาวไส้ออกมาวางแผ่ให้คนทั้งบ้านได้รู้นิสัยใจคอลึกๆ ของเธอก็เป็นได้
ร่างหนาเดินเข้าบ้านไปอย่างสง่าผ่าเผยพร้อมกับลูกน้องอีกสามคนเดินตามเข้าไปภายในนั้น ไม่หันหลังกลับมามองพวกเห็บหมัดหมาที่เพิ่งจะปะทะฝีปากด้วยแม้แต่หางตา
“ถ้าฉันมีลูกชายได้ตั้งแต่สิบปีที่แล้ว ฉันคงไม่ต้องมายอมแกแบบนี้หรอก ไอ้นกอีแร้ง”
เมื่อปราศจากศัตรูคู่อาฆาตกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร กุ้งนางก็พ่นคำด่าออกมาอีกเพื่อระบายความอัดอั้นภายในใจที่เธอจำต้องยอมไอ้คนที่ก็เป็นแค่ลูกชายมีน้ำเชื้อสืบทอดวงศ์ตระกูลนั้น
“มันก็เพราะแกอีมารหัวขน ถ้าไม่มีแกผุดขึ้นมาจากนรกมาเกิดในท้องฉัน ฉันก็คงไม่ต้องเสียมดลูกไป”
ประจวบเหมาะกับอีมารหัวขนลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอเดินมาพอดี ทำให้เธอหันไปด่าอีกฝ่ายต่อ เพื่อให้ความสบายใจมันกลับมาเกิดกับเธอ ประเดี๋ยวสามีของเธอเดินออกมาจากภายในบ้านจะได้มีหน้าตายิ้มแย้มเอาไว้พูดคุยกับเขาได้ต่อ
เข็มขาวที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วยเลย เธอได้แต่มองคนเป็นแม่ตาปริบๆ ด้วยความไม่รู้ในเหตุการณ์ก่อนหน้านี้
และเธอก็ชินชากับคำด่าพวกนั้นของแม่แล้วด้วยจนไม่รู้สึกอะไรเลย ก็ด้วยเธอเป็นมารหัวขนของแม่จริงๆนั่นแหละ มารที่ทำให้แม่ต้องเสียมดลูกหมดโอกาสที่จะมีลูกดีๆ มาเกิด
“ยังจะมาทำหน้าใสซื่อใส่ฉันอีก อีมารหัวขน อีชิงหมามาเกิด”
“ใครโทรมาวะ”ฟีนิกส์ที่กำลังนั่งดื่มเหล้าอย่างออกรสจนเริ่มออกอาการเมามายเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นมองหน้าลูกน้องที่นั่งอยู่ไม่ห่างจากเขานักด้วยความหงุดหงิดเมื่อหูของเขาได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังเข้ามารบกวนในช่วงที่กำลังกินเหล้าอย่างเพลิดเพลินนี้“นายใหญ่ครับ”เลนินรีบหยิบเอาโทรศัพท์มือถือของเจ้านายที่ถูกวางคว่ำหน้าอยู่ไม่ไกลจากมือเขานักขึ้นมาดูว่ามีใครโทรเข้ามา แล้วก็รีบรายงานออกไป“โทรมาจนได้สินะ”สายตาคมทอดมองไปยังโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูของตัวเองที่แทบไม่เคยใช้งานมันเลย นอกเสียจากสั่งงานลูกน้องแววตาแห่งความคิดถึงถูกฉายออกมาเล็กน้อยก่อนจะถูกเก็บซ่อนไปด้วยแววตาเย็นชาของคนไร้ความรู้สึกอย่างเขา“โทรมาแบบนี้คงอยากเห็นหน้าลูกเลี้ยงสุดที่รักนั้นสินะ”แล้วเขาก็กลบเกลื่อนความรู้สึกของคนเป็นลูกอย่างเขาด้วยคำพูดที่มันแสนประชดประชันนั้น“นายใหญ่วางสายไปแล้วครับ”ลูกก็ทำได้แค่รายงานสถานการณ์ทุกอย่างออกไป ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นใดๆ เพราะต่างร่วงรู้กันดีว่าเจ้านายนั้นแท้จริงแล้วต้องการอะไรกันแน่“มึงไปลากคุณหนูนั้นมา แล้วตามกูไปที่ห้องนั่งเล่น”มาเฟียหนุ่มลุกเดินออกจากตรงที่เขาใช้นั่งกินเหล้าไปอย่างรวดเร็
“เธอหมดลมหายใจแล้วครับนาย”เลนินเห็นร่างนั้นแน่นิ่งไปก็เข้ามาตรวจดูลมหายใจ เพราะเขาก็เห็นกับตามาโดนตลอดว่าเจ้านายเขาจับเธอกดน้ำไปก็ตั้งหลายรอบ รอบละนานสองนาน“มึงว่าอะไรนะ ตายแล้วงั้นเหรอวะ”หันไปมองร่างเล็กๆที่นอนแน่นิ่งอยู่ขอบสระในทันที มองดูไม่วางตาและไม่เชื่อว่าเธอจะตายง่ายขนาดนั้น“ครับนาย”เลนินยืนยันคำตอบของเขาอีกครั้งด้วยการพยักหน้าเบาๆ“ปั๊มหัวใจมันขึ้นมาสิวะ”เสียงหนาสั่งดังลั่นส่วนทางกับท่าทีนิ่งสงบของลูกน้องตรงหน้า“ผมไม่กล้าเตะเธอครับ”แต่ลูกน้องกลับไม่รับคำสั่งนั้น เพราะผู้หญิงที่นอนกับเจ้านายแล้วเขาไม่ควรแตะเนื้อต้องตัวเธอ ลูกน้องอย่างเขาไม่ควรใช้ผู้หญิงร่วมกับเจ้านาย ของเจ้านายก็คือของเจ้านาย ลูกน้องไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว“ไอ้พวกเวร”ฟีนิกส์ด่ากราดลูกน้องหลายคนที่ยืนเรียงหน้ากันอยู่แถวๆนั้นด้วยความโมโห พร้อมกับรีบขยับตัวเข้าไปหาร่างเล็กๆนั้นด้วยความว่องไว “ฟื้นสิวะ ฟื้นขึ้นมาสิ”แล้วเป่าลมจากปากของเขาเข้าไปในปากของเธอ สลับกับปั๊มไปที่หน้าอกของเธอตรงจุดที่มีไว้ช่วยชีวิตทำวนเวียนไปมาด้วยความร้อนรนท่ามกลางสายตาของลูกน้องที่ยืนจ้องเจ้านายอย่างเขาตาไม่กะพริบกันเลยทีเดียว
“ไปได้ไกลหรือยัง”ถามกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ กับหน้าตาเรียบเฉยแทบไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรออกมาเลย ก็เพราะพอจะเดาทางผู้หญิงแพศยานั้นออก“ยังครับ อยู่แค่ปากซอยแค่นี้เองครับ”“ส่งคนออกไปวิ่งไล่สักคนสองคน แต่ไม่ต้องจับกลับมา ให้วิ่งจนเหนื่อย”และเขาก็มีแผนสำหรับเรื่องนี้เอาไว้แล้วกับคนที่กล้ามาลองดีกับมาเฟียอย่างเขา เธอจะได้สนุกกับการหนีอย่างเต็มที่แน่นอน“ไอ้เออร์วาน ไปตามคุณหนูกลับบ้านมาสิ”ฟีนิกส์ปล่อยให้คนอยากหนีวิ่งเล่นไปได้สักพัก ก็เรียกหาลูกน้องผู้เป็นมือซ้ายที่หน้าโหดกว่าเลนินไปจัดการกับเธอ“เลนินมึงไปยกเหล้ามา”ส่วนเขานั้นก็เรียกหาเหล้ามาดื่มฆ่าเวลาที่ลูกน้องจะไปพาตัวเธอกลับมารับโทษที่กล้าดีวิ่งหนีคนอย่างเขาไป ทั้งที่เขาสั่งเธอแล้วว่าอย่าคิดทำอะไรแบบนั้นไม่เชื่อฟังก็ต้องเจอดีกลับไปบ้าง ครั้งต่อไปจะได้ไม่คิดลองดีกับมาเฟียอย่างเขาอีก“ครับนาย”ลูกน้องทั้งสองแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองอย่างที่ไม่มีใครเกี่ยงงานกับใคร เพราะถ้าใครกล้าทำแบบนั้นต่อหน้าเจ้านายเท่ากับพร้อมตายไม่พร้อมจะทำงานแล้วเลนินหายไปไม่นานก็กลับมาพร้อมกับเหล้าตามที่เจ้านายสั่ง จัดเสิร์ฟในทันทีเพื่อไม่ให้เจ้านายต้องร
“กินซะ”เสียงเลนินเอ่ยดังมาแต่ไกลพร้อมกับมือข้างที่ว่างเอื้อมมาเปิดประตูออก โดยที่มืออีกข้างถือของกินที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อถุงใหญ่ที่สามารถทำให้คนตัวเล็กอิ่มท้องได้ทั้งวันพอเปิดประตูห้องออกจนกว้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็กวาดสายตามองดูไปรอบๆห้องตามประสามือขวาของมาเฟียที่มีนิสัยชอบสังเกต ว่ามีสิ่งใดผิดปกติหรือไม่ก่อนจะโยนถุงใบนั้นใส่หน้าคนตัวเล็กที่ถูกขังเอาไว้ภายในห้องนอนของเธอแล้วปิดประตูลง กักขังเธอไว้ตามคำสั่งของเจ้านายตามเดิม“คุณคนส่งข้าวยังอยู่ไหมคะ”เข็มขาวเอ่ยเรียกคนด้านนอกที่เพิ่งจะปิดประตูใส่หน้าของเธออย่างไม่รู้จักชื่อแซ่ของเขา เธอไม่เคยกล้าเอ่ยถามชื่อของพวกเขาเลย ไม่ว่าจะก่อนหน้านี้หรือว่าในตอนนี้ ด้วยเกรงว่าพวกเขาอาจไม่พอใจและคิดทำร้ายเธอกลับก็เป็นได้“มีอะไร”เลนินที่มักจะอยู่ตรงบริเวณแถวๆหน้าห้องของหญิงสาวอยู่แล้วเอ่ยถามกลับไป ไม่ใช่เพราะความหวังดีเพราะเขาไม่มีนิสัยข้อนั้นอยู่แล้ว แต่เพราะเป็นหน้าที่ของเขาก็มันไม่ได้มีใครหน้าไหนในบ้านหลังนี้หนิ่ มันก็ต้องเป็นหน้าที่ของเขานั่นแหละถูกแล้ว และมันก็เป็นอะไรที่น่าเบื่อที่สุด“หนูขอออกไปข้างนอกสักสิบนาทีได้ไหม หรือแค่ห
“ครับนาย”ก่อนจะเดินออกจากบ้านไปเพราะไม่อยากอยู่ร่วมบ้านกับคนที่มีส่วนทำให้แม่ของเขาต้องตายเลนินลูกน้องผู้เป็นมือขวาของมาเฟียอย่างฟีนิกส์พอได้รับคำสั่งของเจ้านายมาแล้วทุกข้อ ก็พาตัวหญิงสาวเข้าไปขังเอาไว้ในห้องนอนของแขก ปิดประตูลงกลอนล็อกอย่างแน่นหนา มีคนเฝ้าทั้งด้านในด้านนอก“หนูคิดถึงแม่กับคุณลุงจังเลย หนูอยากตามแม่กับคุณลุงไปอยู่ที่นั่นจังเลย”ร่างเล็กทิ้งตัวลงนั่งบนพื้นห้องภายในห้องที่เธอไม่ได้คุ้นชินหรือรู้จักเลยแม้แต่น้อย เธอไม่เคยมาที่นี่มาก่อนปากก็พร่ำบ่นถึงคนที่เธอนั้นคิดถึงสุดหัวใจของเธอ และอยากเจอพวกเขาอีกสักครั้งถ้ายังมีโอกาสนั้นอยู่กอดตัวเองแล้วร้องไห้เบาๆ ไม่กล้าส่งเสียงดังออกไป กลัวว่าคนที่อยู่ด้านนอกจะได้ยิน กลัวว่าเขาคนนั้นที่เธอเคยหลงคิดว่าใจดีจะเข้ามาทำร้ายเธออีก“หนูจะไม่ยอมแพ้ หนูจะอยู่จนกว่าวันที่เราจะได้พบกันอีกครั้ง”เข็มขาวผล็อยหลับไปด้วยอาการหมดแรงจากการร้องไห้ที่เรียกได้ว่าหนักหนาจนตาบวม เธอตื่นขึ้นมาในช่วงสายของวันหรือคงเป็นเวลาเที่ยงวันได้แล้วมั้งจากการที่เธอนั้นคาดเดาด้วยตัวเองหอบร่างกายที่เต็มไปด้วยความหิวโหยเข้าไปภายในห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอนที่เธอถูก
“ไม่ กรี๊ดดดดดเสียงเล็กๆ กรีดร้องดังลั่นด้วยความหวาดกลัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ร่างเล็กๆ ดิ้นพล่านแทบจะตกลงไปอยู่ด้านล่างของรถ“แหกปากเข้าไป อย่าหยุดร้องล่ะ”มือหนาดึงถึงเสื้อผ้าของเธอที่เหลือติดตัวอยู่ไม่กี่ชิ้นออกอย่างไร้ความปรานี เพียงชั่วอึดใจเดียวของคนเอาแต่ใจอย่างเขา ร่างเล็กๆ นั้นก็เปลือยเปล่าต่อหน้าเขาเปิดเผยเรือนร่างที่ติดว่าผอมไปนิดต่อหน้าเขา อย่างไม่มีอะไรมาขวางกั้นให้เกะกะลูกนัยน์ตาที่เขาก็ไม่ได้สนใจพิศมองนานนัก แต่กลับงัดเอาความใหญ่โตออกมาจากภายในกางเกงแทน“อ้าส์”แล้วเสียบแทงความใหญ่โตคับเต็มกำมือของตัวเองนั้นเข้าไปในช่องทางคับแคบของเธอดันเข้าไปอย่างรุนแรง นำพาความใหญ่โตเข้าไปในตัวเธอจนสุดความยาวอย่างเอาแต่ใจ“ฮืออ ออกไปให้พ้นนะ”เสียงกรีดร้องอันแสนเจ็บปวดของหญิงสาวหายเข้าไปในลำคอ เธอเจ็บจนร้องไม่ออกอีกต่อไปแล้วมีเพียงหยดน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้มขาวเท่านั้นที่ยังคงไหลออกมาต่อสู้กับความเจ็บปวดที่มันถาโถมเข้ามาหาเธอครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่มีวันจบสิ้นนั้น“ถุย”ถ่มน้ำลายใส่ท่อนเอ็นยักษ์ของตัวเองที่เชื่อมติดกับร่างกายของหญิงสาวเพื่อเติมน้ำหล่อลื่นขยับสะโพกแกร่งเข้าหาเธอช้าๆ เพื่