“กรีดร้องเข้าไป กูชอบ อืม”
เขาโยนร่างบางลงบนเตียงนอนที่เขานั้นเคยมานอนร้องไห้คิดถึงคนเป็นแม่เมื่อสิบปีก่อนหลังจากแม่ของเขาจากไปแล้ว
แล้วตามขึ้นทาบทับร่างบางนั้นด้วยร่างกำยำของเขา ไม่ให้เธอดีดดิ้นหนีไปจากเงื้อมมือของเขาได้
โน้มร่างกำยำเข้าหาร่างบางนั้น ส่งปลายจมูกโด่งเข้าซุกไซร้ลำคอระหงของเธออย่างจงใจเพื่อให้เธอกรีดร้องออกมาอีก
“กรี๊ด”
แล้วมันก็ได้ผล หญิงสาวใต้ร่างกำยำของเขากรีดร้องออกมาดังสุดเสียง
“อืม”
แต่เขาก็ไม่สนใจเสียงของเธอนั้น กลับขยับใบหน้าเลื่อนลงต่ำหาคอเสื้อของเธอ
ซุกไซร้ปลายจมูกไปกับกลิ่นหอมอ่อนๆ บนร่างกายของเธอ ที่ก็คงเป็นพวกบริสุทธิ์ผุดผ่องเพราะเตรียมตัวเอาไว้จับผู้ชายรวยๆ สักคนเมื่อเรียนจบ เหมือนกับที่แม่ของเธอทำนั่นแหละ
“ไม่นะ ออกไปให้พ้นนะ กรี๊ด”
สองมือเล็กๆ ยกขึ้นผลักไสคนตัวโตที่กำลังรุกล้ำเรือนกายของเธอทั้งที่เธอไม่ได้เต็มใจ ออกแรงผลักออกไปเต็มที่ แต่อีกฝ่ายกลับไม่ขยับและเข้าหาเธอหนักขึ้นไปอีก
คนตัวโตขยับตัวออกจากคนตัวเล็กเพียงเล็กน้อยราวกับจะเลิกรังแกเธอ ก่อนจะใช้มือหนาจับเสื้อของเธอเลิกขึ้นไปสูงจนถึงหน้าอกของเธอ
“กรี๊ด”
หญิงสาวกรีดร้องเสียงหลงด้วยความตกใจและความหวาดกลัว สองมือเล็กพยายามไล่คว้าเอาชายเสื้อของตัวเองเพื่อที่จะดึงมันลงมา
“อยู่เฉยๆ อย่าทำกูเสียอารมณ์”
จับสองมือบางที่กำลังจะทำเขาเสียอารมณ์ที่มันกำลังเริ่มพลุ่งพล่านกับเรือนกายของเธอขึ้นมาไปตรึงไว้ด้านบน
สายตาคมจ้องมองดูเธอด้วยแววเย็นชาอยู่ชั่วครู่ก่อนจะละลงมามองหน้าอกของเธอที่มันโตกว่าหน้าอกของเด็กเล็กน้อย
แล้วส่งปลายจมูกโด่งเข้าไปเตะเบาๆ สูดกลิ่นหอมๆ ที่มันโชยออกมา ก่อนจะใช้ริมฝีปากกัดเนินนมของเธอที่มันมีเสื้อชั้นในบดบังอยู่เกินครึ่งเข้าให้เต็มคำ
“อ้าย”
เข็มขาวส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ไม่เคยมาก่อนเลยที่จะถูกกัดมาแบบนี้
หยดน้ำตาที่มันไม่เคยแห้งไปจากใบหน้าของเธอนับตั้งแต่เจอหน้าเขา ไหลรินออกมาอีกระลอกใหญ่เมื่อถูกเขารังแกเข้ามาแบบนั้น
“อืม”
แล้วเขาก็กัดผิวเนื้อเนียนๆ ของคนตัวเล็กเข้าให้อีกด้วยความสะใจ สร้างรอยฟันไปทั่วลำตัวของเธอที่เขานั้นเปิดเสื้อขึ้นเอาไว้
ก่อนจะจ้องมองดูด้วยความสาแก่ใจที่ได้สร้างความเจ็บปวดให้อีกฝ่ายได้มากมายขนาดนี้
พร้อมกับอารมณ์ที่มันพลุ่งพล่านจนทำให้เป้ากางเกงของเขาโป่งนูนขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแม้กางเกงจะเป็นสีดำก็ตาม
“ออกไปนะ อย่านะ กรี๊ด”
หญิงสาวยังคงกรีดร้องดังไม่ขาดสายอย่างเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจที่ถูกกระทำย่ำยีจากคนที่เธอเคยคิดว่าเขาคงมีเมตตากับเธอบ้างต่างจากคนอื่นๆ ที่มีแต่จะรังเกียจเธอที่มีชาติกำเนิดมาจากการถูกขืนใจ
ร่างกายยังคงดิ้นขัดขืนหวังให้หลุดพ้นไปจากตรงนี้ ให้รอดไปให้ได้แม้หมดแรงตายก็ยอม
“กูบอกว่าอย่าดิ้นไง อยากเจ็บตัวหรือไง”
ปีศาจร้ายในคราบมาเฟียหนุ่มเงื้อกำปั้นขึ้นมาด้วยความโกรธเกรี้ยวเมื่อคนตัวเล็กที่ควรจะจำยอมเขาได้แล้วกลับดีดดิ้นไม่เลือก
สายตาคมจ้องมองเธออย่างดุดันกำราบให้เธอจำยอมเขาซะเพราะไม่อยากใช้กำลังกับเธอให้เปลืองแรง
“คุณอย่าทำอะไรหนูเลยนะ หนูขอร้องล่ะ ได้โปรดปล่อยหนูไปเถอะนะ”
หญิงสาวส่งเสียงอ้อนวอนขอร้องเขาอย่างสุดเสียง หวังให้เขาปล่อยเธอไปจากตรงนี้
“กรี๊ด”
แต่เขากลับส่งมือหนาเข้าไปใกล้กับขอบกางเกงขายาวของเธอแทน ทำเอาหญิงสาวดิ้นพล่านด้วยความหวาดกลัว
เสียงของเธอยังคงกรีดร้องดังด้วยความเจ็บปวดไม่ขาดสาย แต่ทว่ากลับไม่มีใครเข้ามาช่วยเธอเลย ไม่มีเลยแม้แต่คนเดียวราวกับไม่มีใครได้ยินเสียงของเธอ
“กูบอกว่าอย่าดิ้นไง”
กำปั้นหนาเหวี่ยงด้วยความแรงเข้าไปที่ท้องของหญิงสาวที่เขาสั่งเธอแล้วว่าไม่ให้ดิ้น เธอทำเขาโมโหเองก็ต้องรับผิดชอบไปด้วยตัวเองนั่นแหละสาสมแล้ว
“โอ๊ย”
คนตัวเล็กงอตัวเข้าหากันด้วยความเจ็บปวด หมดทางจะดิ้นหนีแล้วไม่หลงเหลือทางรอดอะไรจากเงื้อมมือของปีศาจในร่างคนตรงหน้านี้อีกแล้ว
เธอทำได้เพียงแต่ปล่อยให้น้ำตามันไหลอาบสองแก้มอย่างไม่ขาดสาย จนแก้มขาวๆ นั้นเปียกแล้วเปียกอีกจนมันบอบช้ำไปหมดแล้ว
“อ้าส์”
เขาจับคนตัวเล็กที่หมดฤทธิ์ได้สักทีถอดเอากางเกงขายาวที่แสนเกะกะนั้นออก ก่อนจะจับท่อนเอ็นยักษ์ของตัวเองออกมาจากในกางเกงขายาวสีดำนั้น
เสียบแทบความใหญ่โตที่มันขยายตัวยาวใหญ่จนแทบจะระเบิดออกมาได้แล้วเข้าไปในตัวหญิงสาว
ยัดแรงเต็มที่ผ่านช่องทางคับแคบที่แสนแห้งผากนั้นจนรวดเดียวมิดลำยาว เยื่อพรหมจรรย์ของเธอขาดดังผึงใหญ่เขานั้นรู้สึกได้
และนั้นทำให้เขาเผยรอยยิ้มออกมาอย่างสะใจที่ได้เป็นผู้ทำลายมัน และทำลายเธอให้แหลกสลายไปด้วย
“กรี๊ด”
หญิงสาวกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ร่างกายเหมือนถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ อย่างไม่ไยดีจากของแข็งที่ร่างกายของเขาส่งเข้ามาในร่างกายของเธอ
“พี่เลนินกับพี่เออร์วานเป็นลูกน้องคนสนิทของคุณจะให้มาเป็นพี่เลี้ยงเด็กคงไม่เหมาะ หนูหาพี่เลี้ยงเองจะดีกว่า อีกอย่างหนูก็เรียนจบก็คอยดูแลลูกด้วยตัวเองได้อย่างเต็มที่ได้แล้วคุณจะได้กลับไปทำงานอย่างเต็มตัว”“ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจหนู เดี๋ยวฉันจะช่วยหาอีกแรงก็แล้วกัน ว่าแต่ชุดว่ายน้ำนั้นทิ้งไปหรือยัง”เรื่องลูกคุยกันจบไปแล้ว เขาก็อดไม่ได้ที่จะถามด้วยความหวงเกี่ยวกับชุดว่ายน้ำที่เธอพูดถึงเอาไว้ตั้งแต่เดินทางมาถึงใหม่ๆ“ใครๆเขามาเที่ยวทะเลก็ต้องใส่ชุดว่ายน้ำกันทั้งนั้นไม่เห็นจะแปลกอะไรเลย แต่ทำไมคุณให้หนูเอาชุดไปทิ้งล่ะคะ”ร่างเล็กเอนตัวเข้าไปซบต้นแขนหนาของผู้เป็นสามีอย่างออดอ้อน เอ่ยเสียงเบาๆตอบเขาอย่างน่ารัก“ใครๆที่ไหนก็ช่างหัวมันสิ มันจะใส่อะไรหรือจะแก้ผ้าเดินก็เรื่องของพวกมัน แต่สำหรับเมียฉันแล้วห้ามใส่อะไรพวกนั้น ความสวยงาม เรือนร่าง ร่างกายนุ่มนิ่มนี้ ฟีนิกส์มีสิทธิ์ได้เห็นคนเดียวเท่านั้น”สองมือหนาช่วยกันรวบร่างเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆขึ้นมานั่งบนตักแกร่งของเขาได้อย่างง่ายดาย เมื่อมีโอกาสได้ใช้เวลากันตามลำพัง เขาก็ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือไปง่าย ต้องได้ใกล้ชิดกับเธอจนรู้สึกชุ
“ทาเล๊”เสียงของเด็กชายวัยสองขวบเอ่ยขึ้นเมื่อสายตานั้นมองเห็นผืนน้ำขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้า พร้อมกับท่าทางตื่นตาตื่นใจนี่อาจไม่ใช่การเห็นทะเลเป็นครั้งแรก แต่เป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่อาจนับได้สำหรับเด็กตัวน้อยๆคนนี้ด้วยพ่อของเขานั้นเป็นมาเฟียมีท่าเรือส่วนตัวเอาไว้ขนของติดกับทะเล ทำให้เขานั้นเดินทางไปทำงานกับพ่อและก็เห็นทะเลนับครั้งไม่ถ้วนแล้วตั้งแต่ลืมตาดูโลกได้เพียงไม่กี่เดือนแต่ทุกครั้งที่เด็กชายเห็นทะเลก็จะมีอาการตื่นเต้นแบบนี้ทุกครั้งไป ดูจะเป็นเด็กที่รักธรรมชาติไม่น้อยเลยในสายตาของคนเป็นพ่อกับแม่“ว้าว ทะเล”ส่วนคนเป็นแม่เองก็เก็บอาการดีใจเอาไว้ไม่อยู่ไม่ต่างจากลูกชายตัวน้อยเลยสักนิด เธอนั้นตื่นตาตื่นใจกับผืนน้ำสีฟ้าสดใสและหายทรายสีขาวที่อยู่ตรงหน้าเป็นที่สุดเธอก็เหมือนกับลูกชายนั่นแหละ ได้เห็นทะเลอยู่บ่อยๆเพราะตามผู้เป็นสามีไปทำงานอยู่เป็นประจำแต่ทว่าไม่เคยเห็นทะเลที่เป็นหาดทรายสีขาวสวยแบบนี้มาก่อน ด้วยที่ท่าเรือนั้นมันมีมีหาดทรายมีแต่ผืนน้ำและก็เรือขนส่งเท่านั้น“หวังว่าหนูคงไม่เอาชุดว่ายน้ำแบบนั้นมาใส่นะ”พอเห็นลูกกับเมียดูจะมีความสุขคนเป็นหัวหน้าครอบครัวก็อดไม่ได้ที่จะ
“ทำรายงานอยู่เหรอ”นอกจากวันนี้เมียตัวน้อยจะเลิกเรียนเย็นกว่าทุกวันแล้วพอกลับมาถึงบ้านก็ยังมีรายงานต้องให้ทำต่ออีกนิดหน่อย สามีอย่างเขาก็เลยรับหน้าที่เลี้ยงลูกเป็นหลักสลับกับทำงานไปด้วยพอพาลูกเข้านอนแล้วก็ให้กล้องช่วยเลี้ยงลูกต่อ ไม่ให้ลูกคลาดสายตาแม้แต่นิดแม้จะมีลูกน้องคอยนอนเฝ้าอยู่ใกล้ๆก็ตามส่วนคนเป็นพ่อนั้นก็ได้โอกาสมาดูแลเมียต่อจากลูกบ้าง หลังจากต้องแยกกันทำหน้าที่แทบไม่ได้เจอหน้ากันแบบนานๆเลย“ค่ะ อีกนิดก็ใกล้จะเสร็จแล้ว คุณฟีนิกส์อาบน้ำนอนก่อนได้เลยค่ะ”เข็มขาวกำลังก้มหน้าก้มตาทำรายงานอย่างขะมักเขม้นในช่วงที่สมองกำลังแล่นได้ที่ ไม่ได้เงยหน้ามองคนที่เดินเข้ามาภายในห้องนอนแม้แต่นิด แต่ก็รู้ดีว่าเป็นเขาเพราะกลิ่นกายเขามันหอมฟุ้งมาก่อนตัวเสียอีก เธอจำได้ดี“ฉันอาบน้ำแล้ว เหลือแต่ว่าเมื่อไหร่เมียจะไปกล่อมนอนแค่นั้นเอง”เขาทำทุกอย่างพร้อมเข้านอนมาตั้งแต่อยู่ในห้องนอนที่ชั้นล่างที่เปิดขึ้นมาใหม่ตั้งแต่มีลูกนั้นแล้ว เพื่อไม่ให้เสียเวลาเมื่อเจอหน้ากับเมียเพราะลูกยังเล็กมากๆทิ้งไว้คนเดียวนานก็ไม่ดี มีเวลาแค่รอบกินนมสองถึงสามชั่วโมงเท่านั้นพ่อมือโปรอย่างเขาที่เลี้ยงลูกเป็นห
“ให้ฉันช่วยแต่งตัวไหม”เสียงหนาเอ่ยขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวขึ้นอย่างช้าๆทางด้านหลังของเมียตัวน้อยที่กำลังยืนเช็ดตัวให้แห้งอยู่หน้ากระจกภายในห้องแต่งตัวสายตาคมพิศมองเมียจากทางด้านหลังไม่ห่างเลย แม้เธอจะเพิ่งคลอดลูกได้เพียงสามเดือนเท่านั้น แต่ทว่าทรวงทรงองค์เอวยังคงน่าเอาเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยยกเว้นอวบขึ้นมานิดหน่อย และนั้นทำให้เหมือนว่าจะจับได้ถนัดมือมากขึ้นไปอีก“ว้าย”คนตัวเล็กที่เอาแต่รีบเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้แห้งถึงกับสะดุ้งโหย่งด้วยความตกใจเมื่อถูกทักทายโดยผู้เป็นสามีไม่คิดว่าเขาจะเข้ามาภายในนี้ตอนที่เธอกำลังโป้อยู่ เพราะก่อนหน้านี้เขายังนอนหลับอยู่กับลูกน้อยวัยสามเดือนของเธออยู่เลยหรือว่าเขาจะแกล้งหลับกันแน่ก็ไม่รู้ พ่อมาเฟียคนนี้ยิ่งร้ายๆอยู่จนเมียอย่างเธอตามไม่เคยทันเลย“ลูกยังหลับอยู่ ฉันก็ยังพอจะว่างช่วยหนูแต่งตัวได้นะ”มือหนาหยิบเอาชุดชั้นในของเมียขึ้นมาถือเอาไว้แน่น หมายมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นคนใส่ให้เมีย เพื่อการันรีว่าเขาไม่ใช่แค่จะถนัดเพียงถอดออกเท่านั้นแต่เมื่อเป็นพ่อคนแล้วแต่งตัวให้ลูกน้องมานับครั้งไม่ถ้วนได้แล้ว เขาก็แต่งตัวให้เมียได้ด้วยเช่นก
“นี่เป็นแหวนที่ฉันตั้งใจเลือกมาเองกับมือและก็สลักชื่อฉันเอาไว้อย่างชัดเจน แหวนวงนี้มันเป็นของหนูแต่เพียงผู้เดียวนะ เหมือนที่ตัวฉันและก็หัวใจของฉันเป็นของหนูแต่เพียงผู้เดียวนั่นแหละ”รับแหวนนั้นมาจากมือลูกน้องแล้วแกะออกมาจากกล่อง มองแหวนที่ตั้งใจสั่งทำมาด้วยตัวเองอีกรอบด้วยความรักที่มีให้กับเธอแต่เพียงผู้เดียวจับมือเล็กๆของเธอข้างซ้ายขึ้นมาแล้วสวมแหวนวงนั้นให้กับนิ้วนางของเธออย่างบรรจงและเบามือที่สุดนี่แหละพิธีแต่งงานของเขาที่เขาตั้งใจจัดขึ้นมาเพื่อประกาศความรักของเขาและก็เธอ และเขาก็มั่นใจว่ามันจะส่งผ่านไปถึงเจ้าตัวน้อยที่อายุได้สามเดือนแล้วในท้องแม่นั้นด้วย“ขอบคุณนะคะ”เอ่ยขอบคุณเขาออกมาจากหัวใจและรอยยิ้มที่มีความสุข คราวนี้เธอไม่ได้ไหว้เขาอีกแล้วแต่ทว่ากลับก้มลงไปหอมแก้มเขาทั้งสองข้างแทน“แต่ว่าหนูไม่มีอะไรจะให้คุณเลย”ถ้าพูดถึงการแลกแหวนแทนใจในวันแต่งงานแบบที่เขาทำกับเธอ เธอก็ไม่มีแหวนแลกกลับไป เพราะไม่ได้เตรียมตัวเอาไว้ก่อนหน้านี้เลย“ไม่เป็นไร ฉันไม่ต้องการอะไรจากหนูทั้งนั้น แค่ฉันเป็นสุดที่รักของหนูก็เพียงพอแล้ว”เขาไม่ได้ต้องการอะไรจากเธอทั้งนั้น เพราะเธอคือหัวใจของเขา เขาไม
“มีที่สำคัญที่เราจะไปต้องกันคืนนี้ และก็เรื่องสำคัญที่เราจะต้องทำด้วยกัน”พอเมียตั้งท้องได้สามเดือนเข้าระยะที่ปลอดภัยดีแล้ว ฟีนิกส์ก็หาเรื่องพาเธอออกไปจากบ้านในทันที นอกเหนือจากที่ให้เธอไปเรียนที่มหาลัยทุกวันโดยเขานั้นทำตัวมีความลับ ไม่ปริปากบอกสถานที่ที่จะพาไปและก็ทำตัวแกมบังคับเธอด้วยหลังจากที่ไม่ได้ทำตัวแบบนี้กับเธอมานานมากแล้ว“อะไรเหรอคะ คุณเปิดตัวโกดังแห่งใหม่อีกเหรอคะ”เข็มขาวที่เพิ่งจะกินมื้อเย็นเสร็จกำลังช่วยแม่บ้านเก็บจานอาหารอยู่หันไปถามเขาด้วยความสงสัยว่าเขาจะพาเธอไปที่ไหนกันในเวลาเริ่มมืดค่ำแบบนี้“หนูปิดตาเอาไว้ก่อน ถึงที่หมายแล้วค่อยเปิดออก”ไม่ตอบคำถามอะไรเมีย แต่กลับเอาผ้ามาปิดตาเธอแทน แล้วพาเธอไปขึ้นรถwx“ให้หนูเห็นทางไม่ได้เหรอคะ”“ไม่ได้”แล้วเขาก็รีบสั่งให้ลูกน้องเคลื่อนขบวนรถโดยเร็วที่สุด เพื่อไปให้ถึงยังโรงแรมแห่งใหม่ที่เขาเพิ่งจะซื้อมาเมื่อไม่กี่วันมานี่เอง โดยที่การซื้อโรงแรมครั้งนี้เมียของเขาก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำเพราะเขาตั้งใจปิดเอาไว้เป็นความลับ“ใกล้ถึงหรือยังคะ”ระหว่างทางเข็มขาวพยายามถามเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็น หวังว่าเขาจะบอกอะไรกับเธอบ้างเพื่อลดความตื่น