“ฮือ ๆ ท่านพี่ทำร้ายหม่อมฉัน หม่อมฉันไม่ยอมนะเพคะองค์รัชทายาท”
“โอ๋ ๆ อย่าได้เสียใจไปเลย ข้าย่อมต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าอย่างแน่นอน”
องค์รัชทายาทย่างกรายมาหมายจะตบหน้าเย่ปิงปิงเป็นการสั่งสอน แต่เขากลับถูกกงเฟยหรงซัดฝ่ามือใส่หน้าอกเต็มแรง ร่างของเขาลอยไปไกลจนกระแทกกับผนังห้องดังโครม!!
“อึก!”
องค์รัชทายาทกระอักเลือดออกมาคำโต เขามองจวิ้นอ๋องด้วยความโกรธแค้น
“เข้ามา!!”
สิ้นเสียงขององค์รัชทายาท กลุ่มคนชุดดำที่ตรงปลายแขนเสื้อมีรูปนกอินทรีสีทองเปื้อนเลือดก็ตรงเข้ามาจัดการกับจวิ้นอ๋อง เย่ปิงปิงที่เห็นเช่นนั้นก็รีบร้องตะโกนให้ทุกคนหยุด
“ไม่ ไม่นะ หยุดเดี๋ยวนี้!!”
“หึ เจ้ายังกล้าอีกนะ เสียดายที่ข้าหมายให้เจ้าเป็นพระชายา แต่เจ้ากลับคิดทรยศข้า”
“ไม่ใช่นะเพคะ ไม่ อึก!”
ดาบเล่มยาวที่เขาเอามาจากคนชุดดำแทงไปยังท้องของเย่ปิงปิงเต็มแรง เลือดสีแดงฉานไหลนองเต็มพื้นอาบย้อมอาภรณ์ของนางจนเปียกชุ่ม กลิ่นเลือดลอยคละคลุ้งไปทั่วห้องหนังสือ พร้อมกับการต่อสู้ระหว่างจวิ้นนอ๋องกับคนชุดดำ
เคร้ง เคร้ง ตุ๊บ!!
จวิ้นอ๋องทรงต่อสู้กับคนชุดดำเต็มกำลัง ถึงขาของเขาจะไม่สามารถเดินได้ แต่วรยุทธ์ของเขาก็เป็นเลิศ แค่คนชุดดำกลุ่มนี้ไม่คณนามือของเขาหรอก เว้นเสียแต่เมื่อเขาต้องมาเห็นเย่ปิงปิงที่ถูกแทงจนสติของนางพร่าเลือน การเคลื่อนไหวของเขาพลันสะดุดไป
“ปิงเอ๋อร์ ไม่นะ!!”
กงเฟยหรงเข็นรถเข็นตรงเข้ามาหาร่างของเย่ปิงปิงด้วยความเป็นห่วง ในตอนนั้นเองที่เขาเผลอปล่อยช่องโหว่ ทำให้คนชุดดำแทงดาบมาถูกแขนของเขา
ชายหนุ่มผู้สูงศักดิ์ทรุดลงไปกับพื้น ร่างของเขาตกลงจากรถเข็นมานอนข้างร่างของเย่ปิงปิง นางมองมาทางจวิ้นอ๋องด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง
“มะ หม่อมฉัน ขะ ขอ ขอโทษ เพคะ”
นางกระอักเลือดออกมาคำโต ในวาระสุดท้ายขอชีวิตเย่ปิงปิงรู้สึกเจ็บแค้นจนกระอักเลือดออกมา ดวงตาสีแดงฉานมองจวิ้นอ๋องด้วยความเสียใจ มององค์รัชทายาทกับน้องสาวด้วยความแค้นเคือง
‘ชาตินี้ข้าโง่เขลาเพราะมัวเมาในความรัก หากสวรรค์ยังเห็นความดีของข้าที่เคยทำไว้ โปรดให้ข้ากลับมาแก้แค้นพวกมันด้วยเถิด’
เย่ปิงปิงหลับตาลง พร้อมกับร่างของนางที่ดับสูญ...
“ไม่ ไม่ใช่ความผิดของเจ้า ข้าไม่เคยแค้นเคืองเจ้าเลยปิงเอ๋อร์ของข้า”
จวิ้นอ๋องรู้สึกราวกับชีวิตของเขาพังทลายลงมา เขามองเจ้าหลานชายตัวดีด้วยความโกรธแค้น
“นางไปเยือนปรโลกแล้ว เสด็จอาก็รีบตามนางไปเถิดขอรับ”
จบคำองค์รัชทายาทก็ง้างดาบในมือขึ้นมาหมายจะสังหารจวิ้นอ๋องให้ดับสิ้นลงไปพร้อมกับเย่ปิงปิง...
เฮือก!!
หญิงสาวสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว สีหน้าของนางฉายชัดถึงความหวาดหวั่น ดวงตาคู่สวยกะพริบปริบ ๆ พลางกวาดสายตามองโดยรอบด้วยความฉงน พลันสายตาไปสะดุดกับกล่องไม้ที่วางอยู่ตรงโต๊ะหัวเตียง นางรีบคว้ากล่องไม้ขึ้นมาเปิดออกดูในทันใด
ภายในกล่องมีปิ่นหยกเนื้อดีที่แกะสลักเป็นนกยูงรำแพนหางได้อย่างวิจิตรงดงาม นางลูบคลำที่ปิ่นนกยูงด้วยความคะนึงหา ทั้งอาลัยอาวรณ์และรู้สึกผิดในคราวเดียวกัน หยาดน้ำตาสีใสร่วงเผาะลงมาไม่ขาดสาย
“คุณหนูตื่นแล้วหรือเจ้าคะ บ่าวขอเข้าไปนะเจ้าคะ”
“อือ เข้ามาได้”
นางรีบเช็ดน้ำตาออกไปก่อนที่สาวใช้ข้างกายจะเดินเข้ามาเห็นความผิดปกติ
“ข้าอายุเท่าไหร่หรือซีซี”
“อีกสามเดือนข้างหน้าคุณหนูก็จะอายุครบ 18 หนาวแล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้ฮูหยินกำลังเร่งตระเตรียมจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้คุณหนูอยู่เจ้าค่ะ บ่าวได้ยินมาว่าองค์รัชทายาทจะเสด็จมาร่วมงานด้วยนะเจ้าคะ”
“งั้นหรือ องค์รัชทายาทจะเสด็จมาด้วยสินะ”
ซีซีไม่ได้รับรู้ถึงสายตาที่แข็งกร้าวของผู้เป็นนายเลย นางยังคงส่งเสียงเจื้อยแจ้วบอกเล่าเรื่องราวภายในจวนอย่างออกรส
“ตอนนี้คุณหนูรองก็กำลังหัดเล่นพิณเพื่อใช้บรรเลงในงานวันเกิดของคุณหนูเหมือนกันเจ้าค่ะ ส่วนคุณชายใหญ่ก็ส่งจดหมายกลับมาว่าจะกลับมาทันงานวันเกิดของคุณหนูเจ้าค่ะ”
“อืม...ขอบใจเจ้ามาก เจ้าช่วยไปเตรียมชุดให้ข้าที ข้าจะไปขอพบท่านแม่รอง”
“เจ้าค่ะคุณหนู”
ซีซีแม้จะรู้สึกแปลกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนแปลงไป และใบหน้าที่ไร้ซึ่งความดีใจเมื่อเอ่ยถึงองค์รัชทายาท แต่นางก็คิดว่าคุณหนูคงเพิ่งจะตื่นนอน สติจึงยังมาไม่ครบถ้วนเท่านั้น
สาวใช้ตัวน้อยที่อายุไล่เลี่ยกับเจ้านายสาวเดินจากไปจัดเตรียมอาภรณ์ตามคำสั่งของเจ้านาย
เย่ปิงปิงเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง รอยยิ้มมุมปากกระตุกยิ้มเมื่อความปรารถนาของนางบรรลุผล หญิงสาวหลับตาลงหนึ่งคราก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมามองขอบฟ้าด้วยแววตาแข็งกร้าวเย็นชา
บัดนี้นางรู้แล้วว่าสวรรค์ได้ให้โอกาสนางแก้ตัว และทวงคืนสิ่งที่ควรเป็นของนางจากพวกคนสารเลว และยังกลับมาเพื่อชดใช้ความผิดที่มีให้แก่บุรุษที่เคยพึงใจนางด้วย
เมื่อได้โอกาสกลับมาอีกครั้ง นางจะไม่เดินทางผิดเป็นอันขาด ศัตรูทั้งในที่ลับและที่แจ้งเตรียมตัวรอรับความพินาศได้เลย นางจะทำให้พวกมันอยู่มีสู้ตาย!!
และท่านอ๋องผู้ที่หวังดีกับนางเสมอมา นางจะชดใช้ให้เขาด้วยชีวิตของนางเช่นกัน!!
‘ข้ากลับมาแล้ว!!’
ตอนพิเศษ 4 การละเล่นของเด็กน้อย กงซูเจินที่เห็นหน้าของเจียงหนิงเหมยก็รีบตรงเข้าไปดึงแขนของหญิงสาวด้วยความสนิทสนม "พี่สาว เราไปนั่งเล่นกันที่ศาลาด้านนู้นกันเถิดเจ้าค่ะ ข้ามีอะไรสนุก ๆ อยากมาเล่นกับพี่สาวด้วยเจ้าค่ะ" กงซูเจินแย้มยิ้มอย่างน่ารักน่าเอ็นดู นี่จึงทำให้เจียงหนิงเหมยรู้สึกเอ็นดูท่านหญิงน้อยผู้นี้มาก นางทรุดตัวนั่งคุกเข่าเพื่อให้สามารถพูดคุยกับเด็กหญิงได้ "ท่านหญิงน้อยนำทางเลยเพคะ หม่อมฉันจะเป็นเพื่อนเล่นให้ท่านหญิงน้อยเองเพคะ" จบคำหญิงสาวก็จูงมือเด็กหญิงไปทางศาลาด้านนู้น โดยมีหญิงสาวกว่าสามสิบนางติดตามมาด้วย แม้ทั้งคู่จะดูสนิทสนมกันมากจนสร้างความไม่พอใจให้แก่สตรีทั้งหลาย แต่เพราะพวกนางคิดว่าอย่างไรพวกนางก็ยังมีโอกาสอยู่มาก สตรีที่อยู่แต่ในสนามรบจะเข้าใจการเล่นกับท่านหญิงน้อยที่ถูกประคบประหงมได้อย่างไร หวังซิ่วอิงไม่ใคร่จะถูกชะตากับกงซูเจินนัก นางจึงคิดว่าในบรรดาเด็กทั้งสามนั้น กงซีซวนดูน่าเข้าหาที่สุด เพราะใบหน้าของเด็กชายนั้นเปื้อนยิ้มตลอดเวลา ผิดกับกงซีห่าวที
ตอนพิเศษ 3ด่านสุดท้าย ไป๋มู่ตานที่ไม่มีหลานสาวนั้นรู้สึกเอ็นดูบุตรสาว และบุตรชายของชินอ๋องมาก โดยเฉพาะกงซูเจินที่พระนางเอ็นดูมากเป็นพิเศษ คงเป็นเพราะพระนางเองนั้นไม่มีบุตรสาวเลย เมื่อได้มีหลานสาวที่หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู และช่างพูดเช่นนี้ พระนางจึงทั้งรักและหวงแหนท่านหญิงน้อยมากทันทีที่ไทเฮาทรงรู้เรื่องในวันนี้ พระนางก็กริ้วเป็นอย่างมาก มีอย่างที่ไหนกล้ามารังแกผู้อื่นในวังหลัง ทั้งยังกล้ามาขึ้นเสียงและต่อว่าหลานสาวคนโปรดของพระนางอีก"เจินเอ๋อร์หลานป้า เจ้ากลัวหรือไม่""ไม่เพคะ หลานรู้ดีว่าอยู่ที่นี่ไม่มีใครกล้าทำร้ายหลานได้ ก็หลานมีไทเฮาที่ทรงรักหลานอยู่ทั้งคนนี่เพคะ"กงซูเจินเข้าไปออดอ้อนไป๋มู่ตานอย่างน่าเอ็นดู เรียกเสียงหัวเราะที่ดังขึ้นมาจากไทเฮาได้"เด็กดี อย่าได้กลัวไปเลย"ไป๋มู่ตานเรียกกงซูเจินให้เข้าไปหา พระนางลูบศีรษะเล็กด้วยความเอ็นดู ก่อนจะหันไปคุยกับเย่ปิงปิงที่นั่งอยู่ด้านข้าง"ข้าต้องขอโทษเจ้าด้วยที่เกิดเรื่องเช่นนี้ได้ โชคดีที่เจินเอ๋อร์เป็นเด็กกล้าหาญ ไม่เกรงกลัวสิ่งใด มิเช่นน
ตอนพิเศษ 2คัดเลือกฮองเฮา สองปีผ่านไปแคว้นลั่วหยางได้ถึงคราวเปลี่ยนรัชสมัยใหม่ เนื่องจากฮ่องเต้กงหนิงเจี้ยนได้ยกราชบัลลังก์ให้กับกงเจียวลู่ขึ้นเป็นฮ่องเต้คนถัดไป โดยพระองค์อยากจะพักผ่อน ออกห่างจากเรื่องวุ่นวายเพื่อไปใช้ชีวิตอันสงบสุขในบั้นปลายของชีวิตถึงแม้กงเจียวลู่จะยังไม่มีฮองเฮาเคียงบัลลังก์ แต่เขาจะใช้โอกาสนี้คัดเลือกสตรีจากทั่วทั้งแคว้น เพื่อเฟ้นหาหญิงสาวที่คู่ควรกับตำแหน่งมารดาแห่งแผ่นดิน โดยการคัดเลือกรอบสุดท้าย เขาจะให้ท่านหญิงน้อยและท่านชายน้อยแห่งจวนชินอ๋อง เป็นด่านสุดท้ายของการคัดเลือก โดยตั้งข้อแม้ไว้เพียงหนึ่งข้อ หากสตรีนางใดสามารถเอาชนะใจเด็กทั้งสามได้ เขาก็จะแต่งตั้งนางให้เป็นฮองเฮา!! "เจ้าได้ยินเรื่องนี้หรือยัง ฮ่องเต้จะให้ท่านหญิงน้อย และท่านชายน้อยช่วยคัดเลือกสตรีที่จะมาเป็นฮองเฮาด้วย"ชายชราเอ่ยถามสหายข้างกาย พวกเขาทั้งสองกำลังพูดคุยเรื่องแปลกประหลาดนี้ด้วยกัน"ปัดโธ่! ผู้ใดไม่รู้บ้าง ฮ่องเต้ทรงโปรดปรานท่านหญิงท่านชายน้อยมากเพียงใด จะกล่าวว่าหลงหลานจนกระทั่งให้คัดเลือกสตรีให้ก
ตอนพิเศษ 1ท่านชายน้อยและท่านหญิงน้อย อากาศอันแสนอบอุ่นของสารทฤดูที่มาเยือนแคว้นลั่วหยางนั้น ภายในจวนของชินอ๋องได้มีเสียงหัวเราะร่าของเด็กน้อยทั้งสามดังก้องกังวานไปทั่วเรือน เมื่อเย่ปิงปิงที่เพิ่งเสร็จจากการตรวจสอบบัญชีของร้านค้า นางได้เดินตรงมาหาลูก ๆ ด้วยความคิดถึง แต่ภาพตรงหน้านั้นกลับทำให้หญิงสาวรู้สึกขบขันยิ่งนัก ดวงตาคู่สวยทอประกายแห่งความเอ็นดูออกมาอย่างเปี่ยมล้นเกากงกงที่นั่งอยู่ด้านหน้าของเด็กน้อยทั้งสามที่อายุได้หนึ่งหนาวนั้น เขาได้ทำท่าทางต่าง ๆ โดยแสดงสีหน้าที่หลากหลาย ทั้งหัวเราะร่า ยิ้มตาหยี คิ้วขมวดมุ่นขึงขัง ดวงตาเบิกกว้างที่ขยายใหญ่กว่าปกติ และเบะปากร้องไห้ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเด็กน้อยทั้งสามจึงส่งเสียงหัวเราะคิกคักออกมาด้วยความชอบใจ "ฮ่ะฮ่าฮ่า"เสียงหัวเราะของเด็กน้อยช่างเป็นการปลอบประโลมให้กับหัวใจของเกากงกงยิ่งนัก ในทุก ๆ วันที่เขารู้สึกเหนื่อยล้าจากการทำงาน เขาก็ได้มาเล่นกับท่านชายและท่านหญิงน้อย การทำท่าทางต่าง ๆ คือสิ่งที่ทำให้เด็กน้อยทั้งสามหัวเราะร่าด้วยความเบิกบานใจ เกากงกงจึงชอบมาเล่นเช่นนี้ในทุ
เย่ม่านที่ได้กลับมารักษาตัวที่จวนตระกูลเย่ อาการของนางเหมือนจะเริ่มดีขึ้น แต่คนรอบตัวรู้ดีว่าชีวิตของเย่ม่านมันช่างริบหรี่ยิ่งนัก ในคืนที่พระจันทร์ส่องแสงเข้ามาทางบานหน้าต่าง เย่ม่านก็ได้จากไป...อย่างน้อยในวาระสุดท้ายของชีวิต นางก็ได้กลับมาสู่อ้อมกอดของคนที่รักนางลู่เมิ่งที่ต้องสูญเสียบุตรสาวอันเป็นที่รัก ชีวิตของนางก็มิอาจมีความหมายอีกต่อไป สุดท้ายลู่เมิ่งก็ได้ตรอมใจตายไปอีกคน... สารทฤดูหลังจากที่เรื่องราวคลี่คลายไปได้ด้วยดี กงซ่างเหว่ยยังต้องคอยจัดการงานที่คั่งค้างเพื่อมาอยู่ใกล้ภรรยาที่จวนจะคลอดเต็มที เขาได้มอบหมายงานทั้งหมดให้กับเสวี่ยไป๋ แล้วปลีกตัวมาอยู่เคียงข้างเย่ปิงปิง ทุกการกระทำของนางล้วนตกอยู่ในสายตาของเขาตลอดเวลา"ท่านพี่...น้องเจ็บท้องเพคะ"ช่วงเวลาที่ทั้งสองกำลังนั่งทานผลไม้อยู่นั้น เย่ปิงปิงพลันรู้สึกปวดหน่วงที่ท้องน้อย ราวกับนางจะคลอดแล้ว ไม่นานก็มีน้ำคร่ำไหลออกมาจากหว่างขาของนาง กงซ่างเหว่ยพลันตื่นตระหนก เขาแทบทำสิ่งใดไม่ถูก นอกจากอุ้มเย่ปิงปิงไปยังห้องคลอด แล้วสั่งให้ซีซีไปตามท่านหมอมาอย่างเร่งด่ว
บทที่ 28สู่จุดจบ กงซ่างเหว่ยโกรธจนเลือดขึ้นหน้า เขารีบสั่งให้เกากงกงไปตามคนมาเดี๋ยวนี้!“ส่งคนไปตามหวังเปามาพบข้าเดี๋ยวนี้!!”“ท่านหวังเปาหรือพ่ะย่ะค่ะ”“ใช่!! ในเมื่อพวกมันอยากรนหาที่ตายดีนัก ข้าก็จะทำให้พวกมันได้รู้ซึ้งถึงการอยู่มิสู้ตาย”กงซ่างเหว่ยเอ่ยสั่งเสียงเหี้ยม คนที่กล้าทำร้ายปิงปิงของเขาจะต้องชดใช้ด้วยชีวิต!!เกากงกงที่ได้ยินชื่อของ ‘หวังเปา’ เขาก็ได้แต่ไว้อาลัยให้กับคนผู้นั้น หวังเปาผู้นี้คือหัวหน้าหน่วยเสือขาว เขาเป็นบุรุษที่มีร่างกายแข็งแรงกำยำ และโหดเหี้ยมที่สุดในหน่วย แต่สิ่งที่ทำให้เขาน่ากลัวคือการล่าศัตรูต่างหากเล่า ไม่มีใครที่จะสามารถหนีพ้นจากการไล่ล่าของเขาไปได้เลย แม้แต่คนเดียว!หวังเปาถูกเรียกตัวกลับมาโดยด่วน คราแรกเขาต้องเตรียมตัวปลอมเป็นชินอ๋อง เพื่อตบตาพวกกบฏว่าได้ออกไปรบที่ชายแดนใต้ แต่เพราะเกิดเรื่องขึ้นกับพระชายา หวังเปาผู้เปรียบดั่งสุนัขล่าเนื้อได้ออกเร่งตามหาพระชายาตามคำสั