หน้าหลัก / วาย / หวนคืนลิขิตรัก [Mpreg] / ตอนที่ 3 จันทราเงาลวง ความทรงจำเร้นใจ

แชร์

ตอนที่ 3 จันทราเงาลวง ความทรงจำเร้นใจ

ผู้เขียน: หลูซื่อเต๋อ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-16 14:24:20

แสงจันทร์นวลทอประกายเหนือเรือนตระกูลเซี่ย กลีบดอกเหมยขาวปลิวล้อลมราวหิมะโปรยปรายยามราตรี เซี่ยเหยียนอวี่ยืนนิ่งอยู่ที่ระเบียง มือบางสัมผัสกับราวระเบียงไม้เย็นเฉียบ ดวงเนตรทอดมองราตรีอันเงียบงัน ทว่าในใจกลับปั่นป่วนราวพายุโหมกระหน่ำ

จดหมายลับเมื่อคืนยังแจ่มชัด รอยอักษรของฉินลี่หรงเปรียบเสมือนกรงเล็บเงามัจจุราชที่ฉีกอดีตให้ร้าวลึก ทุกย่างก้าวในวังหลวงที่รออยู่เบื้องหน้าคือเส้นทางน้ำแข็งบางเบาที่พร้อมแตกหักได้ทุกเมื่อ

เสียงฝีเท้าแผ่วเบาแลตามมาด้วยถ้อยคำอ่อนโยน “นายน้อย ท่านยังไม่พักหรือเจ้าคะ?” ลู่ชิง สาวใช้ผู้ภักดีเดินเข้ามาพร้อมผ้าคลุมไหล่ กลิ่นชาดอกเหมยอ่อนจางลอยคลุ้งมาด้วย “ลมคืนนี้เย็นนัก ข้ากลัวท่านจะมิสบายก่อนออกเดินทาง”

เหยียนอวี่หันมองนางเพียงครู่ แววตานิ่งลึกเสียจนลู่ชิงต้องก้มหน้า เงียบงันจนเขาเองต้องเอ่ยอย่างอ่อนโยน “ข้าสบายดี เจ้ากลับไปพักเถิด”

ลู่ชิงวางผ้าคลุมลง ก่อนกล่าวแผ่วเบา “ขอให้ท่านปลอดภัย... ในวังหลวง”

ความทรงจำเก่าหวนคืนมาอีกครั้ง ทำให้เขายิ่งรู้สึกเจ็บปวด ภาพของลู่ชิงในตำหนักร้าง ผู้ยื่นข้าวต้มร้อนให้ยามเขาไร้ที่พึ่ง คำปลอบใจของเธอยังดังก้อง เขากัดฟันแน่น ดวงตาหลุบต่ำ เขาจะไม่ยอมให้นางต้องแลกชีวิตเพราะความภักดีอีก

เช้าวันใหม่ เขานั่งนิ่งในห้องฝึก ม้วนตำรากลยุทธ์วางอยู่เบื้องหน้า ดวงตาอ่านเรียงบรรทัดดั่งพินิจเส้นทางศึก ขณะจิตใจยังหนักอึ้งด้วยเงาของอดีต

ก๊อก ๆ ๆ

ลู่ชิงเดินเข้ามาในระหว่างนั้น “ท่านหมอจากเมืองหลวงมาเยือนเจ้าค่ะ ท่านพ่อให้มาตรวจร่างกายนายน้อยก่อนเดินทาง”

เหยียนอวี่พยักหน้าเงียบ ๆ ใจกลับเต้นช้าแต่มั่นคง เขาระวังแม้แต่หมอหลวง เพราะในโลกที่อันตรายเช่นนี้ ภัยร้ายอาจแฝงมาในคราบของรอยยิ้ม

ภายในห้องโถงตกแต่งด้วยม่านไหมสีเขียวหยก โต๊ะน้ำชาจัดวางเรียบร้อย ชายหนุ่มในชุดสีเทาอ่อนยืนขึ้นคำนับด้วยท่วงท่าสง่างาม

“ข้าชื่อ ไป๋เหวินเจี๋ย หมอหลวงแห่งเมืองหลวง ขอคารวะนายน้อยเซี่ย”

ใบหน้าของชายผู้นั้นช่างคุ้นตา แววตาลึกดุจบึงน้ำ พาเหยียนอวี่หวนคิดถึงชาติก่อน ในยามเจ็บป่วยรุนแรงในตำหนักร้าง หมอหลวงผู้นั้นคือผู้เดียวที่คุกเข่าเคียงข้างเขา

เหยียนอวี่กล่าวทักทายกลับด้วยสีหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์ ก่อนจะหย่อนตัวนั่งลงไม่ไกลจากที่หมอหลวงนั่ง ไป๋เหวินเจี๋ยเดินถือกล่องอุปกรณ์เข้ามาใกล้ ทั้งคู่สบตากัน แวบหนึ่งนายน้อยของเรือนลอบสังเกตเห็นแววตาของอีกฝ่ายที่ดูเหมือนจะซ่อนอะไรบางอย่างเอาไว้ในนั้น แต่ก็ไม่ได้แน่ใจนัก เพราะบางทีอาจเป็นเขาที่ระแวงไปเองคนเดียว

“ท่านไม่ไว้ใจข้าหรือ? ข้าเพียงมาทำตามคำสั่งของบิดาท่าน ตรวจร่างกายเพื่อความมั่นใจก่อนเข้าสู่วังหลวง” ไป๋เหวินเจี๋ยกล่าวพลางเปิดกล่องยา

“ข้าแข็งแรงดี”

“บางครั้ง... แผลลึกในใจก็เจ็บกว่าบาดแผลที่มองเห็น”

คำพูดนั้นทำให้เหยียนอวี่ชะงัก ดวงตาจับจ้องใบหน้าชายตรงหน้า ความทรงจำเก่าไหลย้อนกลับคืน มือของหมอหลวงผู้อ่อนโยน กลิ่นยาสมุนไพรอุ่น ๆ ในค่ำคืนหนาวเหน็บ และคำบอกกล่าวที่เขาไม่เคยลืม

นายน้อยเซี่ย... ท่านสมควรได้รับความยุติธรรม

เหยียนอวี่สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อสัมผัสจากปลายนิ้วสิ้นสุด เขามองไป๋เหวินเจี๋ยด้วยสายตาครุ่นคิด “ท่าน... รู้จักข้ามาก่อนหรือไม่?”

“ข้าเพียงเคยได้ยินชื่อเสียงของท่าน” ไป๋เหวินเจี๋ยตอบพร้อมรอยยิ้มบาง “และสัมผัสได้ว่า ท่านแบกอะไรบางอย่างไว้ในใจ”

เหยียนอวี่มิกล้าตอบกลับทันที เขาเปลี่ยนเรื่อง “แล้วร่างกายของข้าเล่า?”

“แข็งแรงดี ทว่า... จงระวังเงาที่ไร้เสียง วังหลวงคือที่ที่รอยยิ้มอาจซ่อนคมมีดไว้เบื้องหลัง”

เมื่อไป๋เหวินเจี๋ยลับสายตา เหยียนอวี่ยังคงนั่งนิ่ง ภาพสัมผัสในอดีตยังไม่จางหายไป เขายกมือลูบข้อมือเบา ๆ ความอบอุ่นจากวันวานที่ท่านหมอหลวงมอบให้ยังคงหลงเหลืออยู่

“ข้าจะไม่ไว้ใจใครอีก...” เขากระซิบย้ำเตือนกับตนเอง “...แต่ท่านหมอผู้นี้ดูเหมือนจะมีความลับ ข้าจะต้องค้นหาให้ได้ว่ามันคืออะไร”

ยามบ่าย เขากลับไปยังลานฝึก ฟาดดาบไม้ใส่อากาศซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกการเคลื่อนไหวคือการย้ำเตือนตนเอง ยิ่งเวลาผ่านไป ยิ่งทำให้เขารู้สึกถึงความแค้นที่สั่งสมไว้ภายในทรวงอก มันรอวันเอาคืนจนแทบจะทนไม่ไหว

ลู่ชิงมองจากระยะไกล พลางพึมพำ “นายน้อย... ท่านเหมือนแบกโลกทั้งใบไว้บนบ่า”

ยามอาทิตย์ลับฟ้า เหยียนอวี่นั่งอยู่บนม้านั่งหิน ทอดสายตามองฟ้ายามเย็น คำพูดของไป๋เหวินเจี๋ยก้องกังวานในความคิด

“วังหลวงคือที่ที่รอยยิ้มอาจซ่อนคมมีดไว้เบื้องหลัง”

เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ดวงตาทอประกายเด็ดเดี่ยว

“ข้าพร้อมแล้ว... ไม่ว่าข้างหน้าจะเต็มไปด้วยกับดักหรืออันตรายใดก็ตาม ข้าจะก้าวไปฝ่าฟันด้วยตนเอง”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • หวนคืนลิขิตรัก [Mpreg]   ตอนที่ 5 น้ำแข็งแห่งวังหลวง ลวงเล่ห์เงาจันทร์

    ยามเช้าแห่งวังหลวงอาบด้วยแสงแดดอ่อนละมุน ทาบทอลงบนตำหนักทองและหอคอยลอยท่ามกลางกลุ่มหมอกประหนึ่งภาพวาดจากสรวงสวรรค์ กลิ่นกำยานเจือจางลอยแทรกกับเสียงระฆังจากหอสูง เซี่ยเหยียนอวี่ก้าวลงจากเกี้ยว มือบางแตะขอบเบา ๆ ดวงหน้าเรียบสงบ หากแฝงแววคมลึกไว้ในดวงตานั้นนี่คือวันแรกที่เขาก้าวเข้าสู่ราชสำนักอีกครั้ง หลังจากผ่านพิธีการคัดเลือกคู่หมั้นเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่ตอนนี้เขายังคงอยู่ในฐานะว่าที่คู่หมั้นแห่งองค์ชายจวิ้นอี่เท่านั้น และการเข้าสู่วังหลวงครั้งนี้ก็มิใช่เพื่อความรัก แต่เพื่อทวงชะตาที่เคยพ่ายแพ้กลับคืนมาเท่านั้นหลี่กงกง ขันทีชราก้าวนำทาง สองข้างทางมีองครักษ์ยืนเรียงราย ดวงตาของเหยียนอวี่นิ่งสงบราวรูปสลัก ทว่าแฝงแรงกดดันที่อัดแน่นทุกย่างก้าว ราวกับวังหลวงทั้งวังกำลังจับจ้องเขาตำหนักหย่งชิงที่พักชั่วคราวต้อนรับเขาด้วยพิธีรีตองครบครัน ทว่าเบื้องหลังรอยยิ้มและเสียงก้มคารวะ ไม่ได้ทำให้เหยียนอวี่รู้สึกปลอดภัยนัก เขารู้ดีว่าในตำหนักแห่งนี้เต็มไปด้วยสายลับของฉินลี่หรงที่ซ่อนตัวเอาไว้เสี่ยวหลาน สาวใช้ผู้นำกลุ่มเดินเข้ามาหลังจากที่เขาเข้ามานั่งพักในห้องโถงของตำหนัก ก่อนจะเอ่ยวาจาสุภาพด้วยแววต

  • หวนคืนลิขิตรัก [Mpreg]   ตอนที่ 4 หมากรุกแห่งโชคชะตา

    แสงแดดยามสายสาดลงลานกว้างหน้าตำหนักหลวง โคมแดงร้อยเรียงดังดาราแขวนกลางนภา กลิ่นกำยานหอมจางลอยแทรกสายลมเคล้ากับเสียงพิณแว่วเบา พิธีคัดเลือกคู่หมั้นขององค์ชายจวิ้นอี่เปิดฉากท่ามกลางเหล่าขุนนางตระกูลสูงศักดิ์เซี่ยเหยียนอวี่ในชุดผ้าไหมฟ้าครามปักลายเมฆมังกร ยืนอย่างสงบ สง่างามดุจหยกชั้นดี ดวงเนตรเรียบนิ่งแต่ทอประกายคมลึก เขามิได้มาที่นี่เพื่อค้นหารัก หากแต่มาเพื่อช่วงชิงชะตาที่เคยสูญสิ้นกลับคืนไป๋เหวินเจี๋ยหมอหลวงหนุ่มปรากฏข้างกาย เสียงนุ่มราวสายน้ำเอ่ยเตือน “พิธีนี้มิใช่เพียงแค่การคัดเลือก มันคือการชิงชัยท่ามกลางดวงตานับร้อย”“ข้าย่อมรู้ดี” เหยียนอวี่เอ่ยเบา รอยยิ้มบางประดับมุมปาก หากแววตานั้นเยือกเย็นราวหิมะเสียงกลองสามครั้งดังก้อง บัลลังก์มังกรทองยังว่างเปล่า แต่ทว่าผู้แรกที่ก้าวออกมากลับไม่ใช่เจ้าของพิธี หากแต่เป็นบุรุษที่เคยฝากบาดแผลไว้กลางใจเขาฉินลี่หรง ขุนนางหนุ่มรูปงามภายใต้อาภรณ์สีม่วงเข้ม ปักลายนกยูงด้ายทองก้าวออกมาอย่างองอาจ รอยยิ้มอ่อนโยนของเขาอาบไว้ด้วยพิษร้าย ดวงตาคมกริบดุจงูที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืด เมื่อสายตานั้นสบกับแววตาของเหยียนอวี่ โลกทั้งใบพลันเยียบเย็นลงราวลมหิมะกระห

  • หวนคืนลิขิตรัก [Mpreg]   ตอนที่ 3 จันทราเงาลวง ความทรงจำเร้นใจ

    แสงจันทร์นวลทอประกายเหนือเรือนตระกูลเซี่ย กลีบดอกเหมยขาวปลิวล้อลมราวหิมะโปรยปรายยามราตรี เซี่ยเหยียนอวี่ยืนนิ่งอยู่ที่ระเบียง มือบางสัมผัสกับราวระเบียงไม้เย็นเฉียบ ดวงเนตรทอดมองราตรีอันเงียบงัน ทว่าในใจกลับปั่นป่วนราวพายุโหมกระหน่ำจดหมายลับเมื่อคืนยังแจ่มชัด รอยอักษรของฉินลี่หรงเปรียบเสมือนกรงเล็บเงามัจจุราชที่ฉีกอดีตให้ร้าวลึก ทุกย่างก้าวในวังหลวงที่รออยู่เบื้องหน้าคือเส้นทางน้ำแข็งบางเบาที่พร้อมแตกหักได้ทุกเมื่อเสียงฝีเท้าแผ่วเบาแลตามมาด้วยถ้อยคำอ่อนโยน “นายน้อย ท่านยังไม่พักหรือเจ้าคะ?” ลู่ชิง สาวใช้ผู้ภักดีเดินเข้ามาพร้อมผ้าคลุมไหล่ กลิ่นชาดอกเหมยอ่อนจางลอยคลุ้งมาด้วย “ลมคืนนี้เย็นนัก ข้ากลัวท่านจะมิสบายก่อนออกเดินทาง”เหยียนอวี่หันมองนางเพียงครู่ แววตานิ่งลึกเสียจนลู่ชิงต้องก้มหน้า เงียบงันจนเขาเองต้องเอ่ยอย่างอ่อนโยน “ข้าสบายดี เจ้ากลับไปพักเถิด”ลู่ชิงวางผ้าคลุมลง ก่อนกล่าวแผ่วเบา “ขอให้ท่านปลอดภัย... ในวังหลวง”ความทรงจำเก่าหวนคืนมาอีกครั้ง ทำให้เขายิ่งรู้สึกเจ็บปวด ภาพของลู่ชิงในตำหนักร้าง ผู้ยื่นข้าวต้มร้อนให้ยามเขาไร้ที่พึ่ง คำปลอบใจของเธอยังดังก้อง เขากัดฟันแน่น ดวงตาหลุ

  • หวนคืนลิขิตรัก [Mpreg]   ตอนที่ 2 รากเหง้าแห่งการทรยศ

    ยามรุ่งสางของวันที่สอง แสงสุริยาละมุนแผ่ซ่านผ่านลานฝึกเรือนตระกูลเซี่ย กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกเหมยลอยมากับสายลมเย็น หากแต่ในดวงหทัยของเซี่ยเหยียนอวี่กลับไร้ซึ่งความสงบ เขายืนนิ่งในชุดฝึกสีน้ำเงินเข้ม มือขวากำด้ามดาบไม้แน่น ดวงเนตรซึ่งเคยสดใสดุจประกายหยก บัดนี้กลับแน่วแน่เยือกเย็น ราวกับคมศาสตราที่เพิ่งลับใหม่จนแวววาวอดีตชาติยังคงหลอกหลอนดุจเงาตามตัว ทุกครั้งที่เหยียนอวี่หลับตา ความทรงจำในชาติก่อนยังคงปรากฏชัด ทุกความรู้สึก ทุกสัมผัส ยังจารึกไว้จิตใจของเขาอย่างชัดเจนไม่มีวันลืม...ภาพท้องพระโรงที่เคยโอ่อ่าดั่งสรวงสวรรค์บัดนี้กลายเป็นขุมนรกสำหรับเขาไปเสียแล้ว ไหนจะคำลวงของฉินลี่หรงที่ฉีกหัวใจเขาจนแหลกสลาย และดวงเนตรเย็นชาขององค์ชายจวิ้นอี่ล้วนเป็นเปลวไฟแค้นที่เผาผลาญความไร้เดียงสาของเขาให้กลายเป็นเถ้าถ่านเขาลืมตาตื่นขึ้นมาในยามที่รุ่งอรุณยังไม่ปรากฏพ้นขอบฟ้า มุ่งหน้าสู่ลานฝึกด้วยหัวใจที่เด็ดเดี่ยว เขาฟาดดาบใส่อากาศด้วยพลังแห่งปณิธาน ทุกจังหวะคือคำมั่น ทุกเสียงหวีดของลมคือบันทึกแห่งคำสาบานเสียงฝึกของเขาปลุกให้ลู่ชิงที่อยู่พักอยู่ใกล้ลานฝึกตื่นขึ้น แรกเริ่มนางแปลกใจเล็กน้อยที่ได้ยินเสีย

  • หวนคืนลิขิตรัก [Mpreg]   ตอนที่ 1 ดั่งใบไม้ที่ย้อนคืนสู่ฤดูใบไม้ผลิ

    อรุณแรกของวันทอดแสงละมุนลอดผ่านหน้าต่างไม้ฉลุลาย วิ่งเล่นบนม่านผ้าไหมบางเบา ก่อนจะตกกระทบพื้นไม้ขัดมันเป็นประกาย ภายในเรือนใหญ่แห่งตระกูลเซี่ย เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วจากสวนเบื้องนอกคล้ายบทเพลงแห่งฤดูใหม่ ทว่าภายในใจของเซี่ยเหยียนอวี่กลับเงียบงัน ดั่งบึงลึกยามไร้ลมสะกิดผิวน้ำเขาทอดกายนอนนิ่งบนเตียงผ้าไหม มือเรียวกุมผ้าห่มแน่น ดวงเนตรงามจ้องมองเพดานไม้ด้วยความเหม่อลอย แววตานั้นแฝงไว้ด้วยเงาแห่งความระแวดระวัง อดีตชาติอันโหดร้ายยังคงติดตรึงดั่งรอยสลักบนดวงวิญญาณเขาวังหลวงที่งดงาม...ท้องพระโรงเย็นเยียบ...สายตาเย้ยหยันของฉินลี่หรง...และ... ดวงตาเย็นชาราวเหมันต์ฤดูขององค์ชายจวิ้นอี่ทุกสิ่งยังคงชัดเจนประหนึ่งภาพสะท้อนในกระจกเงาบานใหญ่ มันยังคงฉายซ้ำอยู่ภายในความทรงจำของเขาตลอดเวลาเหยียนอวี่บรรจงเคลื่อนมือมาสัมผัสใบหน้าตน ผิวเนียนนุ่มปราศจากร่องรอยแห่งความทุกข์ เป็นใบหน้าในยามวัยเยาว์ ช่วงเวลาที่ยังเปี่ยมด้วยความหวังและความฝันอันไร้ขอบเขต เขาก้าวลุกขึ้นด้วยความนิ่งสงบ เดินไปยังตู้กระจกโบราณ เงาสะท้อนตรงหน้าคือบุรุษหนุ่มผู้หล่อเหลาราวหยกขาว ภาพตรงหน้ายังคงเหมือนดังเช่นในอดีต แต่ดวงตาที่ครั

  • หวนคืนลิขิตรัก [Mpreg]   Prologue บทนำ

    สายฝนโปรยปรายดุจม่านหยกหลั่งลงจากฟ้า ฉ่ำเย็นราวน้ำตาสวรรค์ที่ร่ำไห้ให้แก่โชคชะตาของมนุษย์ผู้อาภัพ ภายใต้พรมฝนที่หลั่งริน ตำหนักจันทราอัสดง ที่เคยเป็นสถานที่สำหรับเดินทางไปพักตากอากาศของ องค์ชายจวิ้นอี่ และคู่ครองอย่าง เซี่ยเหยียนอวี่ ตอนนี้ถูกปล่อยทิ้งร้างไว้เขตชานเมืองอันเงียบงันอย่างน่าเศร้าสร้อย เสียงหยดน้ำกระทบหินเย็นดังกังวานไม่ต่างไปจากเสียงหัวใจของเขาที่กำลังแตกสลาย......ปริร้าวและมิอาจประสานคืนเซี่ยเหยียนอวี่ทอดกายนิ่งอยู่บนเก้าอี้ไม้เก่าคร่ำคร่า ม้วนกระดาษคำสั่งเนรเทศในมือถูกกำจนยับย่น ปลายนิ้วซีดเผือดเย็นเฉียบ ดวงหน้าอันหล่อเหลาประดุจหยกขาวกลับซีดเซียว ราวกลีบบุปผาที่โรยราไร้ชีวิต ดวงเนตรที่เคยทอประกายดังดวงดาราบนท้องนภา บัดนี้หม่นมัวประหนึ่งท้องทะเลยามพายุซัด น้ำตาหยาดแล้วหยาดเล่าซึมเปียกชายแขนเสื้อแพรไหมซึ่งครั้งหนึ่งเคยหรูหราดังผู้มีบรรดาศักดิ์วังหลวงอันโอ่อ่าเคยเป็นดังแดนสวรรค์บนพื้นปฐพี ตำหนักทองที่ประดับไปด้วยหยกส่องแสงพร่างพราวใต้โคมระย้า โถงใหญ่ประดับลายมังกรและหงส์บนผืนผ้าไหมวิจิตร เสียงบรรเลงขลุ่ยและพิณดังแว่วมาทุกค่ำคืน สร้างความระเริงใจได้ไม่น้อยเหยียนอวี่เคย

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status