“สวัสดีค่ะหนูอรุณนารี เรียกแมงปอก็ได้ค่ะ เอ่อ คือแมงปอมาทำงานแทนเพื่อนน่ะค่ะ”
“อ๋อ มาแทนเพื่อนคนที่ประสบอุบัติเหตุน่ะเหรอลูกโถแม่คุณพอมาถึงก็เป็นลมเป็นแล้ง แล้วกินอะไรมารึยัง ตื่นมาคงหิว ไปๆ กินข้าวเย็นกันนี่ก็ได้เวลาแล้วไปลูกมาร์ค เจ้าคอบร้าแกอย่าสร้างปัญหาอีกล่ะ” นายหญิงวารินเอ่ยปลอบลูบหลังหญิงสาวที่นางเองก็พอใจจนอยากจะได้มาเป็นลูกสาวเพราะนางมีแต่ลูกชายและหันมาปรามเจ้าหมาน้อยแต่ตัวไม่น้อยที่กำลังจะเดินหน้าเป็นมาข้างๆ หญิงสาวที่ทำท่าหวาดหวั่นทันทีที่เห็นเจ้าหมาน้อยขยับตัวและทำท่าว่าจะเดินมาหาเธอ และพอมันเจอนายหญิงว่ามันก็ทำหน้าม่อย ทำท่าแสนจะน่าสงสารพลางร้องหงิงๆ เดินไปคลอเคลียขาแกร่งของ เหมันต์ผู้เป็นนายอย่างขอความเห็นใจ
“ไม่ต้องไปอ้อนเจ้านายแกเลยนะ เพราะแกทำให้หนูแมงปอตกใจจนเป็นลมเพราะฉะนั้นจงทำตัวดีๆ มีความผิดติดตัวนะเราน่ะ ไปลูกไม่ต้องสนใจ ปล่อยไว้นี่แหละทั้งคนทั้งหมาเจ้าปัญหาพอๆ กัน”
ว่าแล้วนางก็จับจูงมือเล็กบางของอรุณนารีออกจากห้องไป ปล่อยให้ทั้งสุนัขและเจ้านายหน้าดุ หันมามองหน้ากันอย่างเซ็งๆ
“เพราะแกเจ้าคอบร้า เห็นไหมฉันโดนคุณแม่ดุเลยเจ้าปัญหานะเราน่ะ”
เวลาใกล้พลบค่ำที่ตอนนี้แสงสุดท้ายของพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า อรุณนารีมองภาพของดวงตะวันที่มองเห็นเพียงครึ่งวงกลมที่ใกล้จะจมหายไปในมหาสมุทรที่กำลังจะเปลี่ยนเป็นดำมืดอย่างตื่นตาตื่นใจ ภาพท้องฟ้าหลากสีและนกนางนวลที่บินกลับรังเหมือนภาพวาดที่บรรจงแต่งแต้มสีสันงดงาม สายลมที่หอบเอากลิ่นอายของน้ำทะเลปะทะจมูกเล็กๆ ทำให้เธอสูดหายใจลึกๆ เก็บมันไว้ในปอด โอที่นี่ช่างเหมือนเกาะในฝันเหลือเกิน
พอมาถึงห้องโถงกว้างที่ตกแต่งอย่างงดงามทว่าสบายตาด้วยเครื่องเรือน ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นโต๊ะเก้าอี้ ภาพวาดที่ตกแต่งอยู่บนผนังหรือกระดิ่งลมที่ส่งเสียงกังวานก็ทำจากเปลือกหอยหลากสี ที่แขวนหมวก ระเบียงบ้าน สระว่ายน้ำที่มองราวกับจะเป็นผืนเดียวกับน้ำทะเล ทุกๆ อย่างถูกออกแบบงดงามลงตัวและเป็นธรรมชาติอย่างน่าทึ่ง
“มาทางนี้จ๊ะเดี๋ยวแม่จะแนะนำให้รู้จักกับอีกสองคน วันนี้คงทานข้าวอร่อยและเจริญอาหารเพราะมีสาวน้อยน่ารักๆ มานั่งทานด้วย”
นายหญิงจูงมือบางมาที่ห้องอาหารที่มีชายอีกสองคนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว พร้อมกับพูดคุยกับเธออย่างเป็นกันเอง
“นี่คือนายใหญ่นิคลอส สามีสุดที่รักของแม่จ๊ะ เรียกพ่อนิคก็ได้ง่ายดี ส่วนนี่คุณหมอเก่ง ธวัชพล หมอคนเก่งสมชื่อของเกาะนี้ วันนี้เขามาช่วยตรวจร่างกายหนูและยังให้ยาแก้แพ้ไว้ด้วย”
หญิงสาวทำความเคารพชายทั้งสองพร้อมกับสำรวจไปด้วยในตัว นายใหญ่นิคลอสหรือต่อไปนี้เธอจะต้องเรียกว่าพ่อนิค (แบบยังไม่ค่อยชินปากนัก) นั้นมีใบหน้าและรูปร่างที่ยังคงความหล่อเหลาสง่างามแม้วัยล่วงเลยมาแล้วกว่าหกสิบปีและดวงตาสีน้ำเงินคมกริบแม้จะฝ่าฟางลงไปบ้างตามอายุขัย แต่ยังคงความมีอำนาจและมีเสน่ห์ เหมือนดวงตาของลูกชายที่ตอนนี้นั่งลงข้างชายหนุ่มอีกคนที่รูปร่างเล็กกว่าเล็กน้อย และสีผิวเข้มกว่าตามแบบของคนทางภาคใต้
เขาเป็นชายหนุ่มที่มีรูปลักษณ์ห่างไกลความเป็นหมอที่เธอเคยเห็นมากมายที่ส่วนใหญ่แล้วจะมีคุณลักษณะสูงขาวหน้าตี๋ๆ หรือไม่ก็ตัวเล็กๆ ขาวๆ ใส่แว่นสายตา หน้าตาดูมีมนุษยสัมพันธ์ แต่ดูยังไงชายหนุ่มที่นายหญิงวาริน บอกว่าเป็นหมอมันไม่ใช่เลยสักนิด เพราะไม่ว่าจะเป็นรูปร่างสูงสันทัดไม่ถึงกับผอมแกร็น ใบหน้าเหลี่ยมคมคาย ผมสีดำสนิทยาวถึงบ่าแต่เจ้าตัวมัดรวบเป็นหางม้าไว้ แถมยังไว้หนวดเคราเฟิ้มไม่แพ้ชายหนุ่มอีกคนที่นั่งหน้าเข้มข้างๆ กัน ดีหน่อยตรงที่คนเป็นหมอใบหน้าจะเปื้อนยิ้มมากกว่าอีกคนที่เก๊กหน้าเข้มจนน่าหมั่นไส้
ว่าแต่ว่าคนที่นี่เขาไม่มีที่โกนหนวดกันรึไงนะหรือว่ามันเป็นแฟชั่นของคนที่นี่ อรุณนารีแอบคิดในใจ
“และนี่คือหนูแมงปอ คนที่จะมาตกแต่งรีสอร์ตให้ตามาร์คค่ะคุณ”
“โอจริงหรือนี่ หน้าตาน่ารักดีนี่ มาหนูมานั่งข้างๆ พ่อนี่มา”
นายใหญ่เลื่อนเก้าอี้ข้างกายซึ่งเป็นที่ประจำของภรรยาที่รักให้อย่างไม่เกี่ยงงอน สร้างความประหลาดใจให้ผู้เป็นบุตรชายอย่างมาก อย่างที่รู้ๆ กันในหมู่เกาะว่านายใหญ่ทั้งรักและหวงภรรยา และขี้หึงอย่างร้ายกาจ ขนาดลูกชายที่โตเป็นหนุ่มทั้งสามคนยังไม่ยอมให้เข้าใกล้ และโดยเฉพาะเก้าอี้ที่โต๊ะกินข้าวตัวนี้นายใหญ่ไม่เคยให้ลูกๆ ทั้งสามที่พอโตเป็นหนุ่มแล้วได้เข้าใกล้หรือได้นั่งเลยสักคน แต่วันนี้หญิงสาวผู้มาถึงยังไม่ทันข้ามวันกลับได้นั่งมันด้วยความเต็มใจของนายใหญ่เอง
อาหารมื้อที่แสนอร่อยของนายใหญ่และนายหญิงผ่านไปด้วยความรู้สึกที่เต็มตื้น เหมือนได้ลูกสาวน่ารักๆ คนใหม่มาหนึ่งคนเพราะความช่างพูดช่างคุยและความคิดของหญิงสาวที่มีแตกต่างจากหญิงสาววัยเดียวกัน ในยุคที่โลกหมุนเร็วจนแทบจะหายใจตามไม่ทัน รวมถึง แอนนิต้า รามอส สาวสวยอดีตคนรักที่บุตรชายคนโตของนางพามาแนะนำว่าคือคนรักและคิดจะแต่งงานด้วยเมื่อหกปีก่อน
“มีอะไรขาดเหลือก็เรียกเด็กๆ ได้นะจ๊ะ นี่แม่บานชื่น กับชะเอม แม่บ้านของที่นี่เขาจะคอยดูแลความเรียบร้อยต่างๆ ให้กับที่นี่จะอยู่บ้านหลังเล็กถัดไปจากนี่ แล้วนี่ห้องของหนูแมงปอที่แม่จัดไว้ให้ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่จะได้สะดวก มีข้าวของเครื่องใช้ครบทุกอย่างจ๊ะ ส่วนกระเป๋าและของที่หนูเอามาด้วยแม่ให้คนยกมาไว้ตรงโน้นให้แล้วจ๊ะ”
ตอนที่ 187. ตอนอวสาน ความนุ่มหยุ่นนวลเนียนของผิวสาวทำให้ริคไม่พลาดสักตารางนิ้วที่จะเชยชม จนผิวสีน้ำผึ้งผุดผ่องแดงเห่อไปทั้งร่างและเขาก็ไม่พลาดเช่นกันที่จะฝากรอยรักเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของร่างงามนี้ “ฮื้อ พอก่อนค่ะ เรามีเรื่องต้องคุยกันก่อน” ดรุณนุชเอ่ยห้ามเมื่อสามีผู้เร่าร้อนดื่มชิมร่างงามจนเธอแทบร้อนเป็นไฟ แต่ความที่มีเรื่อร้อนใจใจทำให้เธอไม่อาจปล่อยให้ตนหวามไหวไปกับเขาจนลืมความตั้งใจได้ “อืม เอาไว้ก่อนจ๊ะฮันนี่ ตอนนี้สามีไม่ว่างจะคุยนะจ๊ะ” ริคเอ่ยชิดทรวงอกอวบใหญ่หวานล้ำและยังไม่ยอมเงยหน้าจากทรวงสาวจนดรุณนุชต้องกลั้นใจรวบเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีดึงศีรษะซึ่งกำลังซุกไซ้กับทรวงอกตนออกจนได้แม้จะยังหอบกระเส่าเร่าร้อนเพราะไฟพิษศวาสที่เขาเป็นผู้ก่อขึ้นก็ตามที “อืม ฮันนี่จ๋า มีอะไร” ริคยังไม่วายจะดึงดันก้มลงเชยชิมอกอวบจนดรุณนุชต้องซัดเผี๊ยะเข้าที่แขนแข็งแรงจนชายหนุ่มถึงกับสูดปากด้วยความเจ็บนิดๆ อารมณ์ร้อนแรงเมื่อครู่ก็ลดองศาลงมาเล็กน้อย “คนบ้ากามหื่นที่สุด คุยกันก่อนค่ะน้ำผึ้งซีเรียสนะคะ” ดรุณนุชค้อนสามีฉุนๆ ขึงตามองคนหื่นจัดอย่างขัดเคือง
ตอนที่ 186. งานเลี้ยงที่ไม่หรูหราแต่เรียบง่ายเหมือนงานบายศรีสู่ขวัญ ดำเนินไปด้วยความชื่นมื่นเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขใจ นายใหญ่และนายหญิงวารินซึ่งตอนนี้ชราลงมากแต่ก็ยังดูแข็งแรงกระปรี้กระเปร่า มองดูลูกหลานอย่างมีความสุขใบหน้าและแววตาที่ร่วงโรยตามวัยยิ้มแย้ม ดวงตาเป็นประกายด้วยความปลาบปลื้มใจที่วันนี้เป็นวันดีๆ อีกวันหนึ่ง แล้วเสียงร้องอย่างตื่นเต้นของน้องหนึ่งก็ดังลั่นเรียกความสนใจของทั้งสองให้มองไปยังร่างที่ดูสูงเกินเด็กในวัยเดียวกันวิ่งมาหาอย่างตื่นเต้น จนแก้มขาวใสของเด็กชายแดงปลั่ง “คุณปู่คุณย่าคับ อาวัตสันโทรมาแล้วคับ มาฟังเสียงอาวัตสันเร็วๆ” “จ้าลูก ไปเถอะค่ะคุณพ่อคุณแม่” อรุณนารีเข้ามาประคองร่างของนายหญิงวารินในขณะที่สามีประคองร่างผู้เป็นบิดาเดินไปยังโทรศัพท์ที่ลูกชายจอมซนเปิดเสียงลำโพงอย่างรู้งาน “สุขสันต์วันเกิดนะหลานอา สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่และทุกๆ คนด้วยนะครับ” เสียงของวสันต์ดังอู้อี้ไม่ค่อยชัดนักเหมือนอยู่ในที่อับสัญญาณ “จ๊ะลูก ทุกๆ คนสบายดีแล้ววัตสันล่ะลูกอยู่ไหนกัน” นายหญิงวารินตอบอย่างตื้นตันและรักใคร่บุตรชาย
ตอนที่ 185.“น่านสิค้า อาคิมขาของน้องนาเดียน่าสงสารจังที่โดนเมียทิ้ง ยังหนุ่มยังแน่นและยังหล่อด้วยเอางี้มั้ยคะให้น้าหนูดีช่วยดามอกมั้ยค้าน้าหนูดีของน้องนาเดียสวยน้า นี่ถ้าน้องนาเดียโตกว่านี้ น้องนาเดียจะไม่ทำให้อาคิมขาเสียใจเลย น้องนาเดียจะหาสาวๆ สวยๆ ให้อาคิมขาเอง” หนูน้อยนาเดียเด็กหญิงน่ารักตัวอ้วนกลมผิวขาวแก้มยุ้ยแดงปลั่งพูดฉะฉานเกินวัยพูดและทำท่าราวเด็กสาวริรัก“แต่เรย์ว่า ใครก็สวยสู้น้าหนูดีไม่ได้หรอก เรย์ว่าน้าหนูดีของเรย์เหมาะสมกับอาคิมขาที่สุด แต่เอ...ทำไมเวลาอาคิมมาน้าหนูดีก็ไป แล้วตกลงน้าหนูดีกับอาคิมเป็นอะไรกันแน่คับ คุณอาคิมขากับน้าหนูดีคนสวยเกลียดกันหรือคับ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็แย่ แบบนี้เรย์ก็ได้คนอื่นมาเป็นแฟนน้าหนูดีแน่ๆ เสียดายจัง” เด็กชายเรย์ม่อน ที่มีหน้าตาคมคายน่ารักและมีผิวเช่นเดียวกับผู้เป็นมารดาส่วนความแก่แดดแก่ลมไม่เกินกันเอ่ยขึ้นพลางจ้องหน้าอาคิมขาเขม็งเหมือนต้องการหาคำตอบจนคนที่ถูกเด็กๆ ตัวร้ายทั้งสามคนมองเป็นตาเดียวเริ่มอึดอัด นี่เขาคิดผิดแน่ๆ ที่มาร่วมงานวันเกิดของหลานชาย และอาสามาเป็นพี่เลี้ยงเด็กๆ ให้บทที่พวกผู้ใหญ่ทั้งหลายกำลังวุ่นวายอยู่ในครัว“เอ่อ คือ ฮึ
ตอนที่ 184. “นี่พี่ริคโทรไปข่มหาเรื่องกวนประสาทพี่มาร์คอีกแล้วหรือคะ” ดรุณนุชถามสามีอย่างขุ่นเคืองเมื่อเห็นสามีสุดหล่อนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ท่าทางสะใจ ดูก็รู้ว่าโทรไปคุยข่มเหมันต์เรื่องที่ตัวเองได้ลูกแฝดชายหญิง ยิ่งดีใจยกใหญ่ และชายหนุ่มก็ขยันโทรไปคุยข่มกันจนบางครั้งอรุณนารีโทรมาบ่นกับเธอบ่อยๆ ว่าเบื่อชายหนุ่มทั้งสองที่ทำตัวเหมือนเด็กโข่งทั้งที่ตัวเองอายุเฉียดๆ สี่สิบเข้าไปแล้ว“โธ่ ฮันนี่จ๋าพี่ริคขาก็แค่ดีใจที่จะได้เห็นหน้าลูกเร็วๆ นี้ จนใจมันร้อนรนทนไม่ไหวจึงได้โทรไปเล่าสู่เพื่อนฝูงฟังไงจ๊ะ” ริคพูดกับเธอด้วยภาษาไทยชัดแจ๋ว และมันเป็นเรื่องที่เธอเพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้ว่าริคสามารถฟังและพูดภาษาไทยได้ชัดพอสมควร และมันก็ทำให้เธองอนเขาไปหลายวันเช่นกันที่ถูกเขาหลอกและอับอายนักเมื่อนึกได้ว่าเธอแอบว่าเขาไปหลายอย่างเมื่อก่อนนี้ รวมทั้งที่เคยตั้งชื่อให้เขาว่า ริค เวร ด้วย“ไม่ต้องมาโธ่เลย พวกพี่นี่ทำอะไรเป็นเด็กๆ รู้ไหมคะว่ามันไม่น่ารักเลย พี่มาร์คเขาเสียใจนะคะ”“เมื่อก่อนบทที่แมงปอท้องใหม่ๆ พี่ก็เสียใจเหมือนกัน น้อยใจด้วยที่เราแต่งงานมีเมียก่อนดันมาท้องทีหลังเพราะเมียคิดว่าเราไม่รัก”“ค่ะ มัน
ตอนที่ 183.“ก็คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของโรงพยาบาล แต่พี่มาร์คก็จะทำบุญให้เธอตามประเพณีทางศาสนา” เขาบอกภรรยาด้วยใบหน้าที่แฝงไว้ด้วยความเสียใจ มือหนาจับจูงมือเล็กๆ นั้นเดินเรื่อยๆ ไปตามชายหาดขาวสะอาด ลมทะเลกรุ่นกลิ่นหอมยามบ่ายพัดโชยโลมไล้ผิวกายราวจะพัดพาเอาความทุกข์ร้อนของคนให้ลงทะเลไปเสีย“แมงปอก็เห็นด้วยค่ะ อย่างน้อยๆ เธอก็จะได้ไปสู่สุคติ”“พี่ก็คิดแบบนั้น พี่อยากบอกเธอว่าพี่อโหสิให้เธอทุกอย่างและอยากขอให้เธออโหสิให้กับเราทุกๆ คนด้วย” สองสามีภรรยาเดินมาทรุดนั่งบนโขดหินใหญ่โดยมีเจ้าคอบร้า เจ้าลิลลี่และลูกๆ ของมันวิ่งตามมาเป็นพรวนเหมือนเช่นเคย ดูเหมือนลูกๆ ของเจ้าลิลลี่จะรักและเคารพเจ้าคอบร้ามากกว่าแม่ของมันเสียอีก เพราะไม่ว่าเจ้าคอบร้าจะไปที่ไหนหรือทำอะไร เจ้าไซบีเรียนฮัสกี้น้อยๆ สี่ตัวนี้ก็พร้อมจะตามไปและทำตามอย่างแข็งขัน จนผู้ที่พบเห็นมันต่างก็พากันมองดูพวกมันด้วยความชื่นชมเอ็นดู“เจสซี่ มินนี่ ทอฟฟี รินนี่ มานี่เร็วๆ” อรุณนารีร้องเรียกเจ้าสุนัขน้อยสี่ตัวที่เป็นตัวเมียสองตัว ตัวผู้สองตัว และเธอก็ตั้งชื่อให้พวกมันอย่างคล้องจองกัน แต่ตอนนี้พวกมันพากันตัวโตมากขึ้นเพราะได้รับการเลี้ยง
ตอนที่ 182.“คุณคะ คุณว่าสองคนนั่นจะเป็นไรมากไหมคะ เห็นเด็กๆ บอกว่ายังไม่ลงมาจากห้องตั้งแต่เมื่อวาน คุณแม่บ้านบอกว่าริคสั่งให้เอาอาหารไปให้ที่หน้าห้องแล้วสั่งห้ามไม่ให้ใครขึ้นไปวุ่นวายชั้นบนหากไม่เรียก โธ่คืนนั้นสองคนนั่นดูเหมือนจะแรงทั้งคู่นะคะคุณ ป่านนี้หนูฮันนี่ของฉันจะเป็นไงบ้างก็ไม่รู้” คุณราเชลบ่นกับสามีเบาๆ“โธ่คุณ ถ้าริคสั่งให้เอาอาหารไปให้และไม่ให้ใครไปวุ่นวายก็คงจะหมายความว่าเขาอยากใช้เวลาอยู่กับภรรยาเขาสองคนนั่นแหละ เรารอฟังข่าวดีกันดีกว่า ไม่แน่ป่านนี้หนูฮันนี่อาจจะกำลังมีหลานให้เราแล้วก็ได้” นายใหญ่แห่งคฤหาสน์เวลส์มองหน้ากันด้วยความหวังที่เรืองรองทันทีเวลาผ่านไปจากนาทีเป็นชั่วโมง จากชั่วโมงเป็นวันและผ่านผันเป็นเดือน เมื่อความรักความเข้าใจแทรกซึมในหัวใจที่มีรักและครองสติได้มองทุกอย่างด้วยเหตุและผลที่เหมาะสม ทุกชีวิตก็ย่อมถูกใช้ให้หมดไปในแต่ละวันอย่างมีความสุข อันความทุกข์นั้นเราก็เอาไว้ใกล้ตัวเพื่อจะได้มองเห็นและรู้ทันมันนั่นคือสิ่งที่ผู้มีปัญญาควรไตร่ตรองและคิดได้ แต่หากผู้โง่เขลามองและคิดอย่างไร้เหตุผลหลงผิดตกลงไปในบ่วงร้ายที่ตนเองเป็นผู้สร้างขึ้น ไฟแห่งความหลงผิดนั้นก็