นายหญิงวารินอธิบายยืดยาวขณะที่มาส่งเธอที่ห้องของเธอห้องเดียวกับที่เธอฟื้นขึ้นมาพร้อมกับทำเรื่องน่าอายนั่น
“ค่ะขอบคุณมากนะคะที่กรุณาแมงปอ”
“โอ๊ย มันเป็นหน้าที่ของเจ้าบ้านอยู่แล้วจ๊ะ และแม่ก็ถูกใจหนูมาก เอาล่ะอาบน้ำพักผ่อนได้แล้วพรุ่งนี้จะได้ตื่นแต่เช้า ขอบอกว่าพระอาทิตย์ขึ้นที่เกาะพราวแสงจันทร์สวยไม่แพ้ที่ไหนในโลกเชียวนะ”
“จริงเหรอคะ แมงปออยากเห็นจัง”
“อยากเห็นก็ต้องรีบเข้านอนจ๊ะเด็กดี”
“ค่ะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะคุณแม่ ฝันดีนะคะ”
หญิงสาวเอ่ยพร้อมกับถือโอกาสหอมแก้มที่ยังคงความงดงามและหอมกรุ่นของนายหญิงอย่างที่เคยทำกับบิดามารดาของตนเองก่อนเข้าห้องของตนไปด้วยรอยยิ้มน่ารักที่ทำให้บ้านทั้งบ้านของนางสดใส นายหญิงวารินก็ต้องหน้าแดงนิดๆ ด้วยความตื้นตันมือที่เริ่มเหี่ยวย่นกุมซีกแก้มที่ถูกหอมจากหญิงสาวน่ารักที่ชื่อแมงปอ อย่างปลาบปลื้ม โอ นางอยากได้ลูกสาวเหลือเกินอยากได้มากๆ และถ้าได้ลูกสาวชื่อแมงปอ มันจะดีสักแค่ไหนกันหนอ
ชายหนุ่มมองผู้เป็นแม่ที่เดินเอามือกุมแก้มยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มานั่งข้างผู้เป็นพ่ออย่างงงๆ ว่าแม่ของเขายิ้มดีใจอะไรนักหนาจึงอดแซวไม่ได้
“สงสัยนายหญิงวารินกำลังตกหลุมรักใครรึเปล่าถึงได้ยิ้มไม่หุบแบบนี้เห็นทีนายใหญ่ใจสลายแน่ๆคราวนี้”
โฮ่ง โฮ่ง เจ้าคอบร้าเสริมคำพูดเจ้านายพลางเดินไปเอียงคอมองนายหญิงวาริน ท่าทางเหมือนอย่างกับคนที่ช่างสังเกตและสอดรู้สอดเห็น
“ทะลึ่งทั้งหมาทั้งคน มาร์คนี่ปากลูกนี่จริงๆ เลย แม่กำลังดีใจที่กำลังมีลูกสาวต่างหาก”
“ใช่ๆ พ่อก็คิดเหมือนกัน นะแม่นะ หนูแมงปอนี่น่ารักจริงๆ”
สองสามีภรรยาเอ่ยชมและพูดคุยเรื่องแม่สาว เลสเบี้ยน ที่ชื่อแมงปอไม่ขาดปากทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกินจึงเดินกลับห้องตัวเองอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย ที่บิดามารของตน เอาแต่คุยกันกระหนุงกระหนิงถึงอรุณนารีอย่างชื่นชมในห้องโถงอันเป็นสถานที่รวมพลของบ้าน
ชายหนุ่มมองประตูห้องที่ปิดสนิทของหญิงสาวที่เขาคิดว่าเธอเป็นประเภทหญิงรักหญิงอย่างเหยียดนิดๆ นี่คงเป็นเสน่ห์ของพวกนิยมไม้ป่าเดียวกันดูสิเธอมาถึงที่นี่ไม่ทันข้ามวันทั้งนายใหญ่ และนายหญิงแห่งเกาะพราวแสงจันทร์ ก็พาชื่นชมเธอเสียมากมาย เขานึกถึงภาพที่เธอกอดรักฟัดเหวี่ยง กอดหอมกับเนตรนาราในวันที่เขาไปติดต่อว่าจ้างให้เธอมาตกแต่งรีสอร์ตให้เขา แต่เนตรนารามาประสบอุบัติเหตุเสียก่อนด้วยรู้สึกไม่พอใจ และหงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ ทำไมนะผู้หญิงที่น่ารักๆ อย่างเธอถึงไม่ชอบไม่รักผู้ชาย
ผู้หญิงที่น่ารักๆ งั้นหรือ เขาตกใจกับความคิดของตนเอง ที่เห็นเธอน่ารักไปตั้งแต่ตอนไหนกัน แล้วผลุนผลันเข้าห้องไปก่อนจะปิดประตูชายหนุ่มก็หันมามองเจ้าคอบร้าที่นั่งกระดิกหางอยู่หน้าห้องของหญิงสาวที่อยู่ตรงข้ามกับห้องเขาอย่างไม่เข้าใจมันนัก
“อ้าวแล้วแกล่ะคอบร้า ไม่เข้ามานอนกับฉันรึไงวันนี้ รึว่าหลงเสน่ห์แม่แมงปอเลสเบี้ยนนั่นอีกคน”
เจ้าคอบร้าไม่ส่งสัญญาณตอบ มันมองชายหนุ่มเฉยๆ พลางนอนหมอบหลับตาหน้าตาเฉย ทำให้ผู้เป็นนายถึงกับเลือดขึ้นหน้าที่เจ้าคอบร้าตัวดีทำท่าเฉยเมยใส่เขาทั้งๆ ที่เมื่อก่อนมันแคร์และติดเขามาก ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหนก็ต้องเห็นเจ้าคอบร้าติดตามเสมอๆ
“เออ ให้มันได้อย่างนี้ เขาไม่สนแกหรอก ไอ้หมาขี้ประจบ”
เหมันต์บ่นให้เจ้าคอบร้าฉุนๆ แล้วก็ปิดประตูใส่หน้าเจ้าหมาน้อยที่ตอนนี้เหลือบตาขึ้นหนึ่งข้างมองตามหลังเจ้านายของมันที่เข้าห้องไปแล้ว หากจะมีใครมีโอกาสได้เห็น ต้องไม่เชื่อแน่ๆ ว่าเจ้าคอบร้ามันแย้มปากนิดๆ อย่างเจ้าเล่ห์ เจ้าคอบร้ามันกำลังยิ้ม แล้วสุนัขยิ้มนี่มันเป็นแบบไหนหนอลองนึกดู
เจ้าคอบร้ามองประตูห้องเจ้านายที่ปิดสนิทด้วยอารมณ์ชื่นมื่น มันไม่รู้สึกผิดสักนิดที่ปล่อยให้เจ้านายนอนคนเดียวในคืนนี้ เพราะตลอดสี่ห้าปีที่ผ่านมานับตั้งแต่วันที่มันช่วยชีวิตเขาวันนั้น เจ้าคอบร้าก็ได้เข้ามานอนในห้องของนายหัวมาร์คนับตั้งแต่นั้นมา ภาพเหตุการณ์ในวันนั้นเจ้าคอบร้าเองก็ไม่เคยลืมเช่นกัน มันหลับตาลง แล้วภาพในวันนั้นก็ฉายเข้ามาในห้วงคำนึงของสุนัขตัวหนึ่งซึ่งมันก็มีชีวิตจิตใจ ไม่ต่างจากมนุษย์เรา แต่ต่างตรงที่มันซื่อสัตย์ และจงรักภักดีและจะคอยปกป้องเจ้าของผู้มีพระคุณของมันอย่างสุดชีวิตยามมีภัย...และไม่คิดทรยศเช่นมนุษย์ผู้ประเสริฐ
“แอนนี่ คุณกลับมาหามาร์คแล้วใช่ไหม แอนนี่ อย่าเพิ่งไปรอมาร์คด้วยแอนนี่”
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มแต่ตอนนี้หนวดเครารุงรังและทรุดโทรมเพราะขาดความเอาใจใส่จากเจ้าตัว กำลังเดินโซซัดโซเซไปตามสะพานไม้สวยงามที่ทอดยาวไปในท้องทะเลสวย เมื่อเขามองเห็นภาพคนรักกำลังเดินจากเขาไปช้าๆ
ร่างที่โงนเงนซมซานด้วยความมึนเมาอยู่บนสะพานนั้นพลันตกตูมลงไปในท้องทะเลที่ตอนนี้กำลังมีพายุฝนลมแรงจัดอย่างบ้าคลั่ง คลื่นลูกใหญ่ถาโถมเข้าหาร่างที่ไร้สติของชายหนุ่มให้จมลงไปสู่ท้องทะเลอันหนาวเหน็บ
ร่างเล็กๆ ปราดเปรียวของสุนัขพันธ์ไทยหลังอานที่ตอนนี้วิ่งเร็วจี๋ไปที่สะพานพลางเห่าเสียงขรมทำให้คนที่เห็นเหตุการณ์ได้สติและวิ่งตามเจ้าสี่ขาไป พอมันไปถึงมันก็กระโจนลงไปในทะเลที่มีคลื่นซัดรุนแรงบ้าคลั่ง ทั้งคนและสุนัขหายไปในท้องทะเลในวันที่พายุโหมกระหน่ำ นายหญิงวารินร่ำไห้กับภาพบุตรชายคนโตที่หายไปในท้องทะเล ร่างบอบบางของนางสั่นระริกอ้อมกอดที่สั่นไหวไม่แพ้กันของนายใหญ่ที่ตอนนี้น้ำตาลูกผู้ชายเอ่อคลอดวงตาสีน้ำเงินคู่เข้มนั้น
ตอนที่ 20.แต่ในขณะนั้นเอง ภาพของสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่ผลุบๆ โผล่ๆ อยู่กลางคลื่นลมที่โหมกระหน่ำ ก็ดึงสายตาของชาวเกาะพราวแสงจันทร์ให้เขม้นมอง และเมื่อเห็นชัดเจนความปลื้มปิติก็เข้ามาท่วมท้นในใจผู้ที่รักและห่วงใยนายหัวของเขา นายหัวมาร์ค เหมันต์ หิรัญวารินทร์ ภาพเจ้าสุนัขตัวน้อยที่พยายามว่ายน้ำฝ่าคลื่นลม อย่างทุลักทุเลพาร่างสูงใหญ่ที่หมดสติของเหมันต์ว่ายเข้าฝั่งในวันทะเลคลั่ง ยังฝังอยู่ในความทรงจำของชาวเกาะพราวแสงจันทร์ ผู้คนในเหตุการณ์วันนั้นต่างสรรเสริญเยินยอในความกล้าหาญของมัน และเมื่อเหมันต์ได้รับการรักษาจนหายดีก็นำมันมาเลี้ยงอย่างถาวรหลังจากที่นำมันไปให้หมอเก่ง ที่เรือนพยาบาลดูแลรักษามันจนขาที่หักและบาดแผลบนตัวมันหายดี และตั้งชื่อให้มันว่า คอบร้า ตามตัวเอกในหนังสือการ์ตูนที่เขาชอบอ่านและเก็บสะสมไว้และหลังจากนั้นเหมันต์ก็ไม่เคยแตะพวกเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์หรือของมึนเมา อีกเลยพร้อมๆ กับภาพรอยยิ้มสดใสและความอบอุ่นอ่อนโยนของเขาก็หายไปด้วย เหลือไว้เพียง นายหัวมาร์คผู้เย็นชา และไร้รอยยิ้มอันแสนอบอุ่นนับตั้งแต่นั้นมา เจ้าคอบร้า ก็เป็นที่รักและขวัญใจของคนทั้งเกาะ และมันก็หวงนายของมันมาก
ตอนที่ 21.“อยากได้อะไรอีกล่ะแก มาอ้อนแต่เช้า เอ้านี่ชินสุดท้ายแล้วนะ”ชายหนุ่ม ก้มถามเจ้าคอบร้าที่นัวเนียคลอเคลียอยู่กับลำขาแกร่ง ก่อนหยิบช็อกโกแลตเนยถั่วที่มันชอบมากและเหลือชิ้นเดียวและเป็นชิ้นสุดท้ายแล้วนั้นให้มันก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นเจ้าลิงน้อยแต่ตัวไม่น้อย ซึ่งกำลังมองช็อกโกแลตเนยถั่วที่เป็นของโปรดของมันเหมือนกันนั้นตาละห้อยน่าสงสารนัก“อ้าวน้ำผึ้งกับกุ้งแก้วมาแต่เช้าเลย แต่แกกุ้งแก้วอดกินนะเพราะมันมีแค่อันเดียวและฉันก็ให้คอบร้าไปแล้ว แต่เอะ มันแบ่งได้นี่ คอบร้าแกแบ่งให้กุ้งแก้วด้วยสิ”เหมันต์บอกกับคอบร้าที่ยืนคาบช็อคโกแลตแท่งโต พลางแกว่งหางอย่างอารมณ์ดี ส่วนเจ้ากุ้งแก้วก็นั่งเชิดหน้าทำเป็น วางมาดหยิ่งผยองอยู่บนตักหญิงสาวหน้าใส ใบหน้ารูปหัวใจเล็กๆ นั้นแดงปลั่ง ดวงตาใสแจ๋วนั้นพราวด้วยรอยยิ้ม อรุณนารีหัวเราะกับกิริยาของเจ้าสองตัวที่ทำท่าราวกับเด็กน้อยน่ารักหยอกเย้ากัน เสียงหัวเราะนั้นใสกังวานน่าฟังจนเหมันต์เองยังหยุดที่จะฟังเสียงนั้นราวต้องมนต์เจ้าคอบร้าที่ตอนนี้เป็นต่ออยู่คาบช็อคโกแลตแท่งโตเหวี่ยงไปมาอย่างยั่วเย้าคู่อริ และทำไปเดินเฉียดหญิงสาวที่เจ้ากุ้งแก้วนั่งตักอยู่ ซึ่งเธอ
ตอนที่ 22.ผาแสงจันทร์...เป็นอีกมุมหนึ่งของเกาะพราวแสงจันทร์ ซึ่งเป็นหน้าผาสูงที่สามารถมองเห็นวิวได้รอบเกาะพราวแสงจันทร์ ลักษณะเป็นหน้าผากว้างราบเรียบและที่มีอาคารหลังเล็กที่ออกแบบให้กลมกลืนกับแนวโขดหินทำให้มองดูเหมือนไม่มีสิ่งปลูกสร้าง ที่นี่จะเป็นทั้งอาคารควบคุมระบบไฟฟ้าและระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆ ของเกาะเพื่อป้องกันและรักษาความปลอดภัยแก่ทุกชีวิตบนเกาะนี้ ระบบต่างๆ ล้วนแล้วแต่ทันสมัยจนไม่มีใครคาดคิดว่าเกาะที่แสนสงบและสวยงามเหมือนจะห่างไกลความเจริญจะมีเจ้าเครื่องมือสื่อสารและระบบต่างๆ ที่ทันสมัยเหล่านี้“นายมาตั้งแต่เมื่อไหร่”เหมันต์เอ่ยถามชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ไม่แพ้เขาแต่รูปร่างเพรียวบางกว่าเขาเล็กน้อย ดวงตาคมหวานสีเขียวมรกตวาววามอย่างคนเจ้าสำอางและรักความสำราญ ใบหน้าคมสวยราวอิสตรีหากไม่ติดที่ไรเคราเขียวครึ้มเหมือนเจ้าตัวเพิ่งจะโกนหนวด ริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อแย้มพรายอย่างเคยชิน“มาได้สามสี่วันแล้วแต่ไม่อยากเผยตัวให้เหยื่อตื่นตระหนก” ริค เวลส์ เอ่ยยิ้มๆ พลางจิบกาแฟในมือหนาทว่าเรียวสวย ดวงตาสีมรกตมองไปยังท้องทะเลที่ตอนนี้พราวระยับด้วยแสงแดดยามสายของวัน“หึหึ นายเอาจริงรึไง ขอบอกไว้ก่
ตอนที่23. สาวน้อยแสนสวยเอ่ยบอกเธอขณะพาเดินชมบ้านพักที่มีอยู่ทีละหลัง ซึ่งปลูกสร้างด้วยไม้เสียส่วนใหญ่และหลังคาก็มุงด้วยหญ้าและใบจากอย่างดีในบ้านพักแต่ละหลังจะมีสระว่ายน้ำเล็กๆ อยู่ตรงกลางกลางบ้านพัก เชื่อมระหว่างห้องนอน และห้องนั่งเล่นซึ่งอยู่ตรงข้ามกัน และตรงระเบียงนั่งเล่นก็สามารถชมวิวของทะเลงามได้มุมที่สวยแทบทุกหลัง ดรุณนุชให้เหตุผลว่าการที่ต้องมีสระว่ายน้ำไว้กลางบ้านเพื่อให้ความเย็นของน้ำระบายอากาศที่ร้อนชื้นไปในตัวบ้านพักที่นี่สร้างแบบประตูหน้าต่างเปิดโล่งได้ตลอดบานเพื่อรับลมทะเล และมีแอร์ที่ใช้ระบบเปิดปิดแอร์ด้วยระบบอัตโนมัติคือ ถ้าแขกที่มาพักเปิดแอร์ทิ้งไว้โดยไม่มีคนอยู่หรือเปิดแอร์โดยที่ไม่ปิดประตูหน้าต่างให้เรียบร้อยเกินสิบนาทีแอร์จะปิดเองโดยอัตโนมัติเพื่อเป็นการรักษาสภาพของแอร์และใส่ใจในการประหยัดพลังงาน และมองเห็นความมักง่ายของผู้ที่มาพักซึ่งส่วนใหญ่ไม่ใคร่จะใส่ใจเรื่องนี้มากนัก เพราะคิดว่าตนเองจ่ายเงินเข้าพักแล้วจะเปิดจะใช้อะไรเท่าไหร่ก็ได้ และนั่นมันทำให้คนไทยติดนิสัยฟุ่มเฟือยและไม่เห็นคุณค่าของข้าวของเครื่องใช้ หรือสภาพแวดล้อม ซึ่งนับวันบ้านเมืองเรากำลังประสบปัญหาสภาพแ
ตอนที่24.“ถ้าอิ่มแล้วเดี๋ยวน้ำผึ้งพาไปดูโซนต่างๆ ของที่นี่นะคะ เพราะพี่มาร์คก็อยากให้เพิ่มสวนในส่วนของห้องประชุมและส่วนออฟฟิศที่ทำงานด้วย เดี๋ยวน้ำผึ้งขอไปดูงานที่หน้าเคาน์เตอร์รอนะคะ”“จ๊ะ งั้นพี่ไปช่วยเขาล้างจานละกันเสร็จแล้วจะตามไป”ในขณะที่อรุณนารีกุลีกุจอช่วยล้างจานและคุยอย่างออกรสอยู่กับแม่ปลื้มแม่ครัวคนเก่งของรีสอร์ตนั้น ดรุณนุชก็เดินมาที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ที่ออกแบบอย่างงดงามลงตัวเข้ากับสถานที่และบรรยากาศที่แสนสบาย เพื่อรออรุณนารีนั้น บังเอิญเหลือเกินที่สายตาสวยคม ของสาวน้อยเหลือบไปเห็นร่างคุ้นตาคุ้นใจมาแสนนานนั้น กำลังจะเดินพ้นพุ่มลีลาวดีสีแดงสดไปแวบๆ เธอจึงเดินลิ่วตามร่างนั้นไปอย่างสงสัยระคนอยากรู้ว่าตัวเองแค่ตาฝาดไปหรือเห็น เขาคนนั้น จริงๆ“หายไปไหนของเขานะเร็วจริงๆ หรือว่าเราตาฝาด เขาจะมาทำไมในเมื่อทำร้ายพี่มาร์คแถมยังแย่งแฟนเขาอีก ถ้ากล้ามาเหยียบที่นี่อีกคงหน้าหนาพิลึก” ดรุณนุชพึมพำในอก“น้ำผึ้งไปกันรึยัง”เสียงใสน่ารักของอรุณนารีร้องเรียก ทำให้ร่างบางที่เต็มไปด้วยส่วนโค้งส่วนเว้ายวนตาหันไปยิ้มให้ ก่อนจะวิ่งไปหาหญิงสาวที่ยิ้มสดใสรออยู่พร้อมด้วยจักรยานคันเก่ง โดยที่
ตอนที่ 25.เอวกางเกงยังต่ำได้อีกนะพ่อคุณเอ๋ย ดรุณนุชคิดแล้วก็นึกหวาดเสียว และซ่านไหวจนเลือดกำเดาแทบจะกระฉูด ถ้าเธออยู่นานกว่านี้คงขาดใจตายแน่ๆ เพราะตอนนี้รัศมีความหล่อเหลาของชายหนุ่มตรงหน้ามันเข้าตาจังๆ เขาหล่อมากหล่อกว่าเมื่อหกปีก่อนเสียอีก ดูเด็ดขาดมาดเนี้ยบเหมือน โรเบิร์ต แพตทิสัน พระเอกเรื่องทไวไลท์ ไม่มีผิดโอยๆๆ ใจหวิวๆ เหมือนจะเป็นลม ใครก็ได้ช่วยที ดรุณนุชพยายามตั้งสติไม่ให้กระเจิดกระเจิงไปกับชายหนุ่มที่ฝังอยู่ในใจเสมอมาทั้งที่พยายามไม่คิดและไม่สนใจ“เดี๋ยวสิฉันยังไม่รู้จักชื่อ หนู เลยว่าชื่ออะไร ถ้าครั้งต่อไปเจอกันจะได้เรียกถูก ส่วนฉันชื่อ ริค เวลส์ เรียกริคสั้นๆก็ได้ ฉันไม่ถือ” ริค เรียกสาวน้อยมซึ่งบัดนี้ใบหน้านวลแดงปลั่งราวมะเขือเทศสุกนั้นยิ้มๆ และพยายามซ่อนความต้องการภายในใจของตนให้มิดชิดดรุณนุชฉุนขาดทันทีที่ได้ยิน เขาเรียกเธอว่า หนู และรู้สึกว่าเขาจะเน้น คำๆ นั้นเหลือเกิน ไอ้ความหล่อเหลาและเซ็กซี่แสนร้ายกาจ ของชายหนุ่มที่เธอแอบชื่นชมเมื่อครู่หายวับไปทันที ความโกรธกรุ่นและฉุนจัดเข้ามานั่งประจำที่แทนความรู้สึกตื่นเต้นสั่นหวิวไหวเมื่อครู่ทันทีเชนกันนี่เธอโตเป็นสาวแล้วนะทุกส
ตอนที่ 26.ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียนและเรื่องหญิงสาว หรือแม้แต่เรื่องธุรกิจ ชลเขตจะพยายามทำตัวให้เหนือกว่าเหมันต์ และเพราะด้วยความที่เป็นลูกชายคนเดียวของนายหัวชัชชล นายหัวคนดังของจังหวัด ชลเขตจึงถูกเลี้ยงดูอย่างตามใจ และให้ท้ายจากผู้เป็นบิดา และบรรดาสมุนที่เสนอหน้าเอาความดีความชอบเสมอๆ ทำให้เขาเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเองและชอบข่มเหงรังแกคนอื่นที่ด้อยกว่า นิสัยที่หยาบกระด้าง และคำพูดแต่ละคำ ก็แสดงออกถึงความไร้น้ำใจและเห็นแก่ตัวทำให้ไม่ค่อยมีเพื่อนที่คบหาจริงใจ แม้แต่หญิงสาวทั่วทั้งจังหวัด ก็ไม่มีหญิงสาวคนไหนอยากเข้าใกล้หรือคบหากับเขาจริงจัง หรือหากจะคบหาก็เพียงเพื่อผลประโยชน์จากเงินของเขาเท่านั้น และมักจะมีคำเปรียบเทียบระหว่าง ชลเขต กับเหมันต์ เสมอๆ ไม่ว่าจะเป็นนิสัยใจคอหรือรูปร่างหน้าตา การวางตัวต่อสังคมถ้าหากเหมันต์ เป็น พระเอก เจ้าชาย หรือเทพบุตรรูปงาม ชลเขตก็เป็น ผู้ร้าย มหาโจร และซาตานร้าย...นักโทษที่เด่นดี และเด่นดังพูดถึงตอนนี้ถูกมัดมือไพล่หลังกับเก้าอี้ สภาพไม่ต่างจากเศษผ้าที่ขาดวิ่นตามเนื้อตัวฟกช้ำดำเขียวและหน้าตาก็แตกยับเยิน“พวกนายเป็นพวกของนายหัวชลเขตใช่มั้ย” เหมันต์ถามอย่างใจเ
ตอนที่ 27.เหมันต์หันกลับมามองใบหน้าของแฝดจอมป่วนที่ตอนนี้ไร้แววทะเล้น แต่มันเย็นชาเหมือนนายของมัน“ไอ้เปลวมันตายแล้ว...” เหมันต์เอ่ยเสียงเรียบสั้นๆ แต่ฟังชัดทุกคำพูด ร่างผอมบางของหญิงชายวัยกลางคนที่กอดกันร่ำไห้ทรุดลงกับพื้น ตามด้วยเสียงฮือฮาแสดงความเสียใจและตามด้วยเสียงร่ำไห้ของผองเพื่อนและญาติมิตรชายหนุ่มผินหน้าหนีจากภาพนั้นและสั่งงานให้ลูกน้องจัดการไปรับศพของผู้ที่เสียชีวิตและจัดงานศพรวมไปถึงการดูแลครอบครัวผู้สูญเสียบุตรชาย ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของครอบครัวอย่างดี เห็นทีว่างานนี้คงไม่จบลงง่ายๆ เหมือนที่ผ่านมาเสียแล้ว“ในเมื่อมึงอยากเริ่มกูก็จะเล่นไปตามเกมของมึงไอ้เขต” เหมันต์รำพึงในใจโครมมม เพล้งงง!!! เสียงโต๊ะไม้สักตัวสวยและแก้วจานชามบนโต๊ะกระทบพื้นดังสนั่น เหล่าสมุนที่อยู่บริเวณ บ้าน อัครไพฑูรย์ ต่างตัวสั่นงันงกด้วยความหวาดเกรงผู้เป็นนายซึ่งตอนนี้บ้าคลั่งราวกับสัตว์ป่าได้รับบาดเจ็บจากบ่วงแร้วของนายพราน“โว้ยยย...ไอ้พวกเวร สารเลว มึงทำงานพลาดแล้วยังจะมีหน้ามาขอความเห็นใจจากกูอีกหรือ” ชลเขต อัครไพฑูรย์ นายหัวแห่งอัครไพฑูรย์ตวาดก้อง ดวงตาคมปูดโปนวาวโรจน์แทบถลน ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้
ตอนที่ 173.บรรยากาศบ้านหลังงามย่ำแย่ อึมครึมมากขึ้นทุกวันๆ เจ้ากุ้งแก้วและจัสมินเองก็ไม่ได้มีความสุขไปด้วยมันทั้งสองตัวเองก็เครียดจนล้มป่วยเพราะทั้งอาหารและอากาศที่แตกต่างอีกทั้งความเซื่องซึมและไม่ร่าเริงของดรุณนุชจึงทำให้พวกมันทั้งสองพลอยซึมเศร้าไปด้วย แต่ความเย็นชาหมางหมองดังกล่าวไม่ได้รอดพ้นสายตาผู้อาบน้ำร้อนมาก่อนเช่นนายใหญ่ทั้งสองของคฤหาสน์แห่งเวลส์ไปได้เพราะพวกเขาแอบสังเกตลูกๆ มาได้สักระยะหนึ่ง คุณราเชลจึงต้องเรียกบอดีการ์ดคู่ใจของริคมาไถ่ถาม“พอกันทั้งคู่ ท่ามากปากหนักเฮ้อ ลูกชายคุณก็อายุไม่น้อยแล้วนะคะราฟ ทำไมถึงได้ขี้ขลาด ท่ามากขนาดนี้นะ แล้วเมื่อไหร่เราจะได้อุ้มหลานล่ะคะ” คุณราเชลบ่นให้สามีอย่างฉุนๆ เมื่อนึกถึงความท่ามากของบุตรชายช่างเหมือนบิดาตอนหนุ่มๆ ไม่มีผิด เพราะกว่าจะเอ่ยปากขอนางแต่งงาน นางก็เกือบต้องได้แต่งงงานกับชายหนุ่มที่ทางครอบครัวหาไว้ให้“โธ่ที่รัก จะมาว่าแต่ริคเป็นลูกผมคนเดียวได้ยังไงเล่า ก็ลูกบังเกิดเกล้าของคุณเหมือนกันนั่นแหละน่า” สองสามีภรรยาต่างเง้างอดใส่กันจนไมค์และเจมส์ที่ถูกสั่งให้คอยดูแลความปลอดภัยให้กับดรุณนุชที่บ้านเป็นกรณีพิเศษถึงกับส่ายหัวมองหน้าก
ตอนที่ 172. “ใช่ลูก ถึงแล้วก็ส่งข่าวมาบ้างนะ”นายใหญ่เสริมภรรยาพลางสวมกอดชายหนุ่มและเด็กชายตติยะอย่างรักใคร่เอ็นดูแม้จะได้รู้จักเด็กชายเพียงไม่นานแต่ความเฉลียวฉลาดเกินวัยก็ทำให้เขานึกถึงลูกๆ ในวัยเด็ก“ครับ” ริคตอบสั้นๆ เหมันต์ก็เดินเข้ามาตบบ่าเขาเบาๆ“ฉันคงคิดถึงนายเหมือนกัน ขอให้โชคดีเพื่อน ฝากน้องสาวฉันด้วยดูแลเธอดีๆ ล่ะ”แล้วชายหนุ่มทั้งสองก็กอดกันและตบหลังกันเบาๆ อย่างให้คำมั่นสัญญา ก่อนที่เหมันต์จะผละออกมาโอบกอดร่างบางของดรุณนุชที่เพิ่งผละจากอกของนางดวงดี“เราก็ด้วยนะเด็กดื้อเพลาๆ ลงบ้างไอ้นิสัยรั้นๆ น่ะรู้ไหม” เหมันต์สั่งสอนเด็กดื้ออย่างเอ็นดู“พี่มาร์คก็พูดเหมือนแม่กับพี่ดีเลย น้ำผึ้งไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะคะ”“ใช่ ไม่ใช่เด็กๆ แต่เป็นสาวและมีสามีแล้วด้วย”เหมันต์ต่อให้และสาวน้อยก็ได้แต่พ้ออย่างขัดใจนิดๆ เธอไม่ได้อยากตามริคไปเลย แต่ถ้าเธอไม่ไป เธอเองก็ต้องโหยหาเขา และมารดาของเธอเองก็คงไม่ยอมให้เธออยู่ที่นี่ด้วยเพราะว่าเธอออกเรือนมีสามีแล้ว สามีภรรยาควรจะอยู่ด้วยกันไม่ว่าที่ไหนก็ตามและอีกหลายๆ เทศนาซึ่งมารดาและนายหญิงวารินบอกกล่าวแก่เธอ“พี่น้ำผึ้งกลับมาเยี่ยมหนูดีกับพี่แ
ตอนที่ 171.“ให้มันจริงเถอะ” ก่อนที่สองหนุ่มจะต่อปากต่อคำกันริคก็เดินขึ้นเรือนมาด้วยใบหน้าที่เหมือนคนอกหักรักคุดอย่างไรอย่างนั้น“อ้าวพี่ริคมาแต่เช้าเลย มาครับเรากำลังจะทานข้าวกันพอดี” วสันต์เอ่ยชวนอย่างแช่มชื่น “อ้าวแล้วน้ำผึ้งล่ะครับ” คิมหันต์ถามอย่างแปลกใจ“น้ำผึ้งพาหนูดีไปทานข้าวกับพี่ๆ ที่บ้านน่ะเห็นว่าหนูดีกลัวคิมมากเลยไม่กล้าขึ้นเรือนมา” ริคเล่าเรียบๆ แต่คนฟังถึงกับหน้าเสียไปเล็กน้อยแต่ก็ปรับสีหน้าเป็นเรียบเฉยโดยเร็วจนไม่มีใครทันสังเกต“ว่าแต่ทุกคนอยู่ที่ห้องอาหารใช่ไหม”“ครับ เราไปกันเถอะ” วสันต์ตอบ แล้วสามหนุ่มก็เดินไปที่ห้องอาหารซึ่งตอนนี้นายหญิงวารินและอรุณนารีกำลังลำเลียงอาหารออกมาวางบนโต๊ะตัวสวยโดยมีลูกมือตัวโตคอยช่วยถือนั่นถือนี่ให้ไม่ห่างกายจนนายหญิงรู้สึกเวียนหัวคนติดเมียจนอยากจะเอาตะหลิวฟาดกบาลสักทีด้วยความหมั่นไส้ แต่ทำได้เพียงค้อนลูกชายคนโตปะหลับปะเหลือก“โอ๊ยเห็นทีเช้านี้กับข้าวคงหวานไปหมดนะว่าไหมครับ”“ใช่ไม่หวานอย่างเดียวนะ คงมีมดตกลงไปในกับข้าวบ้างล่ะงานนี้”“นี่นายสองคนไม่ต้องมากินข้าวร่วมกับฉันกับเมียก็ได้นะไปเลยไปๆ กินที่รีสอร์ตโน่นเลย” เหมันต์มองน้องชายอย่า
ตอนที่ 170.“แหมนายหัวคะ มาช้านะคะนี่มัวทำอะไรกันอยู่เอ่ย ว่าไงแกแมงปอเหนื่อยมากจนต้องให้นายหัวเขาอาบน้ำแต่งตัวแล้วประคองมาเลยเหรอแก” เนตรนาราเอ่ยกระเซ้าเพื่อนรักเหมือนรู้เหตุการณ์ก่อนหน้านี้เมื่อเห็นเหมันต์โอบประคองร่างเล็กๆ ของเพื่อนรักไม่ห่าง และเธอก็ได้ค้อนโตๆ จากเพื่อนรักมาแทนคำตอบพร้อมกับทำปากขมุบขมิบคาดโทษ เนตรนาราจึงได้แต่เสหัวเราะเก้อๆ ทั้งที่อยากจะหัวเราะดังๆ แม้ว่าเธอจะยังไม่เคยรักใคร แต่ไอ้อาการหลงเมียแบบเป็นเอามากและรอยแดงๆ บนลำคอขาวๆ ของเพื่อนรักก็เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญว่าเธอคงจะหยอดถูกจุด แล้วยิ่งเห็นใบหน้ายิ้มแฉ่งบานฉ่ำของนายหัวมาร์คซึ่งเธอเคยได้ยินเพื่อนรักบ่นให้ฟังบ่อยๆ ว่าทั้งเคร่งขรึม รกรุงรังและเย็นชาแถมปากร้ายเมื่อคราวแรก ไม่มีให้เห็นแม้แต่น้อย มีเพียงใบหน้าของนายหัวมาร์คผู้ซึ่งกำลังอยู่ในห้วงรักแบบถอนตัวไม่ขึ้น“ไอ้เนตรแกก็ไปว่าไอ้แมงเดี๋ยวแม่คุณก็โกรธ น้อยใจงานเข้าพี่มาร์คอีกหรอก” อโนมาปรามเพื่อนรักแต่ตนเองก็ไม่วายส่งสายตาล้อเลียนไปให้เจ้าภาพทั้งสองเช่นกัน“แกก็ว่าแต่ฉัน ดูแกมองล้อไอ้แมงเหมือนกันล่ะน่า”“แหม ก็คนมันหมั่นไส้นี่หว่า”“อ้อนจ๋า ที่รักดูสิลูกอ้อนจะหาแ
ตอนที่ 169.ชายหนุ่มหลงใหลไปกับรสชาติหวานล้ำที่ได้รับจากร่างเล็กๆ ตรงหน้าที่ไม่น่าเชื่อว่าจะทำให้เขามีความสุขได้มากขนาดนี้ และคอยแต่จะหาโอกาสเชยชิมความหอมหวานจากร่างสาวจนเธอแทบหมดแรง แม้จะนึกสงสารหญิงสาวที่อ่อนด้อยประสบการณ์แต่เธอก็เร่าร้อน ไร้เดียงสาจนน่าสั่งสอนให้เป็นงานเป็นการ ซึ่งเขาก็ไม่รอช้าที่จะสอนสั่งแมงปอตัวน้อยแม้จะต้องคอยข่มความต้องการและค่อยเป็นค่อยไปเหมือนอย่างเช่นตอนนี้ที่เขาต้องคอยสอนสั่งและใจเย็นกับร่างเล็กๆ เปล่าเปลือยให้คล้อยตามและไม่หวาดผวาต่อความรักซึ่งเขามีให้กับเธอล้นปรี่ความหอมหวานของดอกไม้แรกผลิทำให้เขาไม่อาจทนต่อความเย้ายวนนั้นได้ ริมฝีปากร้อนๆ จึงดูดดื่มเชยชิมไปทั่วทุกตารางนิ้วบนร่างขาวผ่องที่เปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อทั้งตัว เสียงครางแผ่วหวานยิ่งกระตุ้นให้เขาเกิดความต้องการมากขึ้น ดวงนวลหน้าใสแดงปลั่งกับริมฝีปากเล็กๆ เห่อบวมเผยอน้อยๆ ยิ่งดูเร้าอารมณ์ให้โหมกระพือจนเขาอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าจากยอดอกสีหวานไปดูดซับความหอมหวานในโพรงปากสาวอย่างเร่าร้อนลิ้นหนาสอดรัดเคล้าคลึงดูดดื่มจนลิ้นเล็กๆ พ่ายแพ้ไม่เป็นท่าและยอมศิโรราบแก่เขา ร่างสาวที่ดูเหมือนร้อนเร่าจนแทบปริร้าวบิ
ตอนที่ 168. พิธีหมั้นและแต่งในวันเดียวกันแบบเรียบง่ายทว่าเต็มไปด้วยกลิ่นไอของความรักและหวานชื่นทั้งสองฝ่าย ทั้งเจ้าสาวเจ้าบ่าวต่างยิ้มแย้มผ่องใส แม้แขกเหรื่อจะมีแค่เพียงญาติๆ ไม่กี่คนแต่ทั้งงานก็สมบูรณ์แบบมีพิธีการที่ครบถ้วน ฝ่ายบิดามารดาเจ้าบ่าวเจ้าสาวต่างก็แย้มยิ้มแก้มปริที่เห็นบุตรสาวหนุ่มของตนเป็นฝั่งเป็นฝา เมื่อได้ไหว้พระรับพรและพิธีการในตอนเช้าสิ้นสุด แล้วก็มาถึงพิธีการในตอนเย็นซึ่งเป็นงานเลี้ยงเล็กๆ แต่บรรยากาศสุดแสนโรแมนติก ที่ได้รับการเนรมิตรจากเนตรนาราเจ้าแม่โปรเจคเช่นเคย เธอเสกสรรงานเลี้ยงแบบดนตรีในสวนมีดนตรีแจ๊สขับกล่อมท่ามกลางสวนน้ำตกจำลองและทุกคนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีสันสดใสงดงามเรียบหรู “ขอบคุณนะคะคุณอารี คุณสินธุ ที่ยกแมงปอให้ลูกชายของเรา” นายหญิงวารินเอ่ยขึ้นในขณะนั่งรับประทานอาหารกันพร้อมหน้าของบรรดาคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวของคุณนายดวงดี เนตรนารา อโนมา และครอบครัวของกันต์เพื่อนรักของอัคคีสามีของเธอ และครอบครัวของพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงแห่งคุ้มอินจำปาญาติสนิทของเนตรนาราที่มาร่วมงานมงคลนี้ด้วย“แหมจะขอบคุณอะไรกันคะ เราต่างหา
ตอนที่ 167. “พี่ขอโทษถ้าสิ่งที่พี่ทำมันทำให้น้ำผึ้งลำบากใจและเข้าใจผิดตลอดมา” ชายหนุ่มพูดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบซึ่งทั้งสองปล่อยให้ความคิดของตนเองล่องลอย โดยต่างก็เข้าใจไปคนละทิศคนละทาง ริคปล่อยมือจากเอวบางแล้วก้าวถอยหลังออกมาหนึ่งก้าวมองใบหน้าคมสวยอย่างตัดพ้อน้อยๆ ก่อนจะเดินจากไปปล่อยให้ดรุณนุชมองตามแผ่นหลังกว้างด้วยความน้อยใจและเสียใจที่อยู่ๆ เขาก็ปล่อยให้เธอจมอยู่กับความรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้งไว้เพียงลำพัง สิ่งที่เขาทำกับเธอตอนนี้มันบ่งบอกว่ารักเธอตรงไหน สาวน้อยคิดอย่างเจ็บปวดพลางทรุดนั่งลงบนพื้นทรายนุ่มมองท้องทะเลงามเพียงลำพังด้วยดวงใจที่สับสนเจมส์และไมค์ มองดูสองสามีภรรยาที่เดินไปคนละทิศคนละทางแล้วมองหน้ากันก่อนจะส่ายหน้าอย่างระอาจิตเมื่อคนทั้งสองต่างปากหนักและคิดมากกันทั้งคู่ดูก็รู้ว่าทั้งสองรักกันแค่ไหนแต่ต่างคนต่างอมพะนำไม่ยอมเอ่ยปากบอกในสิ่งที่ตนคิดและรู้สึกให้อีกฝ่ายได้รับรู้ แม้เขาทั้งสองจะไม่เคยมีความรักเพราะชีวิตที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเสมือนแขวนอยู่บนเส้นด้าย แต่เท่าที่พวกเขามองดูอาการของคนมีความรักและเรียนรู้จากพฤติกรรมของนายใหญ่และนายหญิงแห่งเวลส์ ก็พอจะรู้ว่
ตอนที่ 166.“แมงปอจ๋า จะไปไหนน่ะ” เหมันต์รั้งมือบางเบาให้เธอหยุดเดิน พลางเดินมาหยุดตรงหน้าเธอ “แมงปอจะไปติดกรอบรูปให้เสร็จเสียทีค่ะ เหลือแค่อีกไม่กี่หลัง พี่มาร์คถามทำไมคะจะไปช่วยหรือ” “ถ้าแมงปอให้พี่ทำอะไรพี่ก็เต็มใจทำจ๊ะ” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างออดอ้อนและก็ได้ค้อนงามๆ จากสาวเจ้า “ถ้างั้นก็เดินไปค่ะงานแมงปอจะได้เสร็จสมบูรณ์เสียที เปิดรีสอร์ตไม่ทันรับนักท่องเที่ยวไม่รู้ด้วย” “ไม่เป็นไรจ๊ะ แมงปอจะได้อยู่ที่นี่นานๆ ไงพี่มาร์คเลี้ยงได้อยู่แล้วเมียแค่คนเดียวสบายมาก” “ใครเป็นเมียพี่มาร์คกันคนบ้าหน้าไม่อายเขายังไม่ได้ยอมเป็นเสียหน่อยขี้ตู่ชะมัด” หญิงสาวเอ่ยเสียงอุบอิบใบหน้าแดงก่ำอย่างน่าดู “ก็อีกไม่กี่วันหรอกน่า ยังไงแมงปอก็บินหนีพี่มาร์คไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าหนีนะพี่มาร์คจะเด็ดปีกเสียให้เข็ด คอยดูสิ” “พี่มาร์คบ้าๆๆ” อรุณนารีทุบแขนแกร่งอย่างขัดเขินเมื่อเจอสายตาหวานฉ่ำล้อเลียนของเขา ชายหนุ่มรวบร่างบางไว้ในวงแขนก่อนจะวางร่างบางให้ยืนบนโขดหินเล็กๆ จนความสูงของเธอเท่ากันกับเขา ใบหน้าทั้งสองจึงอยู่ในระดับเดียวกัน หนุ่มสาวม
ตอนที่ 165. “ไอ้อาการแบบนี้มันเป็นไปได้หรือหมอเก่ง มันเกิดขึ้นบ่อยหรือเปล่าคะ” ดรุณนุชถามบ้าง “มันไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยหรอกนะน้ำผึ้ง เคสนี้นานๆ จะมีเกิดขึ้นกับคนไข้บ้าง แต่มันก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยด้วย แต่กรณีของหนูดีอาจจะเป็นข้อยกเว้น เอ่อผมคิดว่าเธอคงจะมีความทรงจำที่เลวร้ายเกี่ยวกับคิมหันต์มากเกินไปรึเปล่า...” หมอเก่งอ้อมแอ้มพูดเบาๆ ในตอนท้ายพลางชำเลืองมองใบหน้าที่เรียบเฉยของคิมหันต์ ซึ่งใบหน้าเรียบเฉยนั้นเขาไม่อาจคาดเดาได้ว่าชายหนุ่มคิดอะไรหรือรู้สึกอย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น “เอาเป็นว่าหนูดีแค่จำคิมไม่ได้ชั่วคราวใช่ไหม” นางดวงดีเอ่ยขึ้นบ้างและพลธวัชก็พยักหน้าช้าๆ เป็นคำตอบ “แล้วนานแค่ไหนที่เธอจะจำนายคิมได้” “มันก็ขึ้นอยู่กับตัวเธอเองว่าจะเปิดรับคิมหันต์เข้าไปในความทรงจำหรือเปล่า” หมอเก่งให้เหตุผล เท่านั้นเองคิมหันต์ก็เดินลงเรือนไปทันทีทำให้ทุกคนมองตามอย่างแปลกใจและเดาความรู้สึกของชายหนุ่มไม่ออก “สมน้ำหน้ามัน ถูกหนูดีเกลียดจนไม่อยากจดจำ” เหมันต์เอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้และก็ได้ลูกทุบเบาๆ จากอรุณนารีพร้อมกับดวงตาเขียวๆ