Home / วัยรุ่น / หวานใจพี่หมอ / บทที่ 3 ช่วยได้แต่ไม่ฟรี

Share

บทที่ 3 ช่วยได้แต่ไม่ฟรี

Author: plernwalee
last update Last Updated: 2025-12-01 12:47:39

“แล้วซีจะช่วยอะไรได้คะทุกวันนี้ยังเอาตัวเองไม่รอดเลย” เด็กสาวถามขึ้นทันทีแล้วหันไปมองหน้าคนที่บอกว่ามาขอความช่วยเหลืองง ๆ ทั้งคิดในใจว่าเธอจะสามารถช่วยอะไรเขาได้นอกจากทำกับข้าวให้กินและคิดว่าถ้าหิวก็น่าจะบอกแม่บ้านไปก่อนหน้าที่เธอจะมาแล้ว

“พี่อยากขอยืมชื่อน้องซีไปอ้างคุณย่า” เจเดนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังไม่มีวี่แววว่ากำลังล้อเล่น

“อ้างเพื่อ?” คนสงสัยยกแขนขึ้นเท้าคางมองหน้าเหมือนตั้งใจฟังเต็มที่

“เพื่อไม่ให้คุณย่าหาแฟนให้เหมือนพี่จา” ชายหนุ่มพยายามพูดง่าย ๆ ให้น้องสาวคนเล็กของกลุ่มเข้าใจง่ายที่สุด

“อ้างยังไง”

“ก็... (อึกอัก) ถ้าคุณย่าถามเรื่องแฟนพี่ก็จะบอกว่าพี่มีคนคุยแล้ว กำลังคุยอยู่”

“งั้นพี่ก็ไม่ได้บอกชื่อซีอยู่แล้วจะมาขอทำไมล่ะ” เด็กสาวสวนขึ้นพลางหันไปมองหน้าพ่อกับแม่

“เอ้อ... ก็เผื่อคุณย่าถามชื่อว่าคุยกับใครไง พี่จะได้บอกชื่อซีไปแต่จะบอกลอย ๆ ก็กลัวซีโกรธเลยมาบอกให้รู้กันก่อนว่าจะขอยืมชื่อไปอ้างคุณย่า แต่ถ้าท่านไม่ถามชื่อพี่ก็แค่จะบอกว่ามีคนคุยแล้วแค่นั้นจบ”

“แล้วถ้าบอกว่าพี่เจคุยกับซี ย่าหญิงจะเชื่อเหรอ” สีหน้าจริงจังของลูกสาวที่กำลังเจรจากับคุณหมอหนุ่มทำเอาคุณพ่อกับคุณแม่มองหน้ากันแล้วพากันกลั้นขำเพราะตอนนี้ดูเหมือนทั้งคู่กำลังเจรจางานอะไรที่สำคัญเอามาก ๆ

“ก็... พี่ว่าคุณย่าต้องเชื่อบ้างแหละ ก็เรารู้จักกันมาตั้งแต่เกิดแล้วนี่ นะ...พี่ขอยืมหน่อยแค่เผื่อแค่นั้น แต่จะพยายามเบี่ยงประเด็นบอกแค่ว่ามีคนคุยก็พอ ไม่จำเป็นจะไม่พูดชื่อซีเด็ดขาดเลย” ชายหนุ่มอ้อนน้องสาวพลางปรายตาขอความช่วยเหลือจากเจ้าของบ้านทั้ง 2 เพื่อให้ช่วยพูดกับลูกสาวท่านให้ เพราะถึงท่านจะอนุญาตแต่ถ้าน้องซีปฏิเสธแล้วเอ่ยชื่อเธอออกมา แน่นอนว่าเธอต้องโกรธและตอนนี้นอกจากน้องซีกับน้องน้ำหนึ่งที่สนิทที่สุดเขาก็มองหาคนอื่นที่จะช่วยเหลือไม่ได้แล้ว เพราะถ้าขอให้เพื่อนร่วมรุ่นช่วยก็กลัวว่าคุณย่าจะอยากให้แต่งงานกันจริงจัง ซึ่งเขาก็ยังไม่พร้อมขนาดนั้น

“แล้วถ้าย่าหญิงถามว่าคุยมานานหรือยังล่ะ” เด็กขี้สงสัยถามมาอีกประโยคทำให้คนพี่ยิ้มขึ้นมาทันทีเพราะคิดว่าเธอยอมให้เขายืมชื่อได้แล้ว

“ก็ (คิดนิดนึง) เกือบปีได้แล้ว”

“โห...เกือบปี แสดงว่าซีเพิ่ง 13 เลยนะ ย่าหญิงจะไม่คิดว่าซีแรดหรือคะ” เด็กสาวโพล่งขึ้นทำเอาคุณพ่อคุณแม่ถึงกับเบือนหน้าหนี

“จะแรดอะไร พี่จะบอกว่าคุยแล้วรู้สึกดี ก็มาเรื่อย ๆ ไง เอ้อ” *จะได้เรื่องมั้ยวะเนี่ย...* ชายหนุ่มคิดในใจ

“แต่ซียังไม่มีความคิดว่าจะโตเร็ว ๆ นี้หรอกนะ ทำไมไม่ลองถามหนึ่งมันดูล่ะ เผื่อมันอยากโต” เด็กสาวหันไปมองหน้าคุณแม่และคุณพ่อสลับกัน

“ก็ไอ้หนึ่งมันแมนออกขนาดนั้น คุณย่ายิ่งจะไม่เชื่อใหญ่น่ะสิ แล้วไม่ได้บอกให้โตเว้ย พี่แค่มาขอเผื่อไว้ก่อนแค่นั้นครับ ถ้าซีโอเคก็จะได้ไปคุยกับอาโรมคุณพ่อคุณแม่ท่านจะได้ช่วยพูดให้ไงว่าพี่มีคนคุยแล้ว คุณย่าจะได้ไม่เร้าหรือ” การเจรจาสีหน้าจริงจังของทั้ง 2 ทำเอาผู้ใหญ่มองหน้ากันขำ ๆ

“แล้วจะยืมนานแค่ไหนล่ะ”

“ก็... ใช้ทุนโรงพยาบาล 2-3 ปี ก็น่าจะประมาณนั้นเลย”

“โห...กั๊กนานเลยว่ะ” 

“นานอะไร ซีก็เพิ่งไฮสคูลมั้ย” ชายหนุ่มสวนขึ้นพลางถอนหายใจกับสิ่งที่คิดว่าง่ายกลับมองว่ากำลังจะยากแล้วตอนนี้

“แล้วระหว่างที่ยังไม่บอกชื่อซีกับย่าหญิง พี่เจจะหาแฟนตัวเป็น ๆ มั้ย” เด็กสาวถามขึ้นพร้อมกับหยิบแท็บเล็ตของคุณพ่อมาเปิดแล้วกดพิมพ์อะไรบางอย่างลงไปด้วย

“เฮ้อ... พี่ตั้งใจจะเรียนบริหารด้วยน่ะสิ แล้วต้องเข้าออฟฟิศคุณพ่อด้วย เรื่องนี้ยังไม่คิดว่ะ” ชายหนุ่มตอบตามความคิดตัวเอง

“พี่เจไม่คิดแล้วเผื่อซีคิดล่ะเกิดระหว่างนี้พี่เจบอกชื่อซีกับย่าหญิงไปแล้วแต่มีคนมาจีบซีก็เสียโอกาสน่ะสิ”

“ถ้ามีก็บอก เดี๋ยวพี่บอกคุณย่าเองว่าเราเลิกคุยกันเพราะพี่ไม่มีเวลาให้ แค่นั้นจบ”

“ฟังเหมือนจะเป็นคนดี แต่ก็คือซีขาดผู้ไม่ได้”

“แล้วตกลงจะให้ยืมมั้ย” คุณหมอหนุ่มพิงพนักโซฟากอดอกมองหน้าถามเด็กสาวนิ่ง ๆ *เหมือนจะง่ายแต่เสือกเรื่องมากซะอีก พอจะเป็นการเป็นงานเสือกกวนตีนนะน้องกูนี่...* ชายหนุ่มคิดในใจอย่างมันเขี้ยว

“คุณแม่กับคุณพ่อว่ายังไงคะ” เมื่อตัดสินใจไม่ได้ก็หันหาผู้ช่วยทันที

“เรื่องนี้พี่เขาขออนุญาตพ่อกับแม่แล้ว แต่พ่อให้คุยกับหนูเองเพราะมันเรื่องส่วนตัวของหนูกับพี่เขา พ่อกับแม่แค่รับรู้ร่วมกันแค่นั้น” คุณพ่อของเด็กสาวตอบพร้อมกับมองหน้าชายหนุ่มปนขำ *เฮ้อ...จะได้เรื่องมั้ยน้อเจ้าเจเอ๊ย พอจะเป็นการเป็นงานกวนตีนเหมือนแม่มันเป๊ะ* คุณศิลาคิดในใจขำ ๆ

“ได้น่ะมันได้ แต่ไม่ฟรีนะเว้ย” เด็กสาวเงยหน้าขึ้นพูดพร้อมกับอมยิ้มอย่างมีเลศนัย ก่อนจะก้มลงกดแท็บเล็ตสีหน้าจริงจังจนคุณพ่อที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ขมวดคิ้วมองสิ่งที่ลูกสาวกำลังทำและแอบอมยิ้มกับความแสบของเธอที่กำลังจะแกล้งคุณหมอหนุ่ม

“อ้าว???” คุณแม่และแขกที่มาร้องอ้าวขึ้นมาพร้อมกัน

“อ้าวอะไรคะ การให้พี่เจยืมชื่อไปอ้างกับย่าหญิงแบบที่ว่ามันคือการที่ซีจะยอมถูกตราหน้าว่าแก่แดด แรด ร่านผู้ ตั้งแต่ก่อนบัตรประชาชนมีคำนำหน้าว่านางสาวเลยนะ ฉะนั้นไม่ฟรีแน่นอนค่ะ” เด็กสาวว่าขึ้นพร้อมกับยักคิ้วให้พี่ชายที่โตมาด้วยกันยิ้ม ๆ

“แต่พี่เขาก็บอกอยู่ว่าถ้าย่าหญิงไม่ถามชื่อก็จะไม่บอก จะบอกแค่ว่ามีคนคุยอยู่แล้วแค่นั้น หนูยังไม่ได้เสียหายอะไรเลยนะคะ” คุณของขวัญพูดพลางสบตากับสามีเพื่อให้ช่วยคุยกับลูกสาว

“แต่ยังไงซะถ้าบอกว่ามีคนคุย ย่าหญิงก็เร้าหรือไม่จบหรอกค่ะ ตามประสบการณ์ขาไพ่ที่คลุกคลีกับย่าหญิงมาตั้งแต่จำความได้ ถ้าพี่เจหลบไม่ได้เหมือนพี่จาซีมั่นใจว่าย่าหญิงจะต้องถามชื่อคนคุยกับพี่เจไม่เกินเดือนหรือ 2  เดือนนี้แน่นอน เพื่อที่จะมั่นใจว่าพี่เจไม่โกหกเพื่อเอาตัวรอดและหลังจากรู้แล้วย่าหญิงก็จะต้องให้พี่เจพาไปแนะนำตัวให้รู้จัก” เด็กสาวพูดขึ้นพร้อมกับเงยหน้าจากแท็บเล็ตมายักคิ้วให้

“โห... มองไกลกว่ากูอีกว่ะ” ชายหนุ่มพึมพำ

“มันก็แน่นอนอยู่แล้วสิ ฉะนั้นยืนยันอีกครั้งว่า ไม่ฟรีค่ะ”

“สมชื่อซีจริง ๆ”

“ความคิดกว้างไกลดั่งมหาสมุทร” เด็กสาวว่าขึ้น

“เค็ม!” “อ้าว? ปากแบบนี้ซีไม่ช่วยนะเว้ย”

“โอ๋... พี่พูดเล่น พี่ตกลงซีว่ามาเลย” คนยอมน้องว่าพร้อมกับยิ้มขำกับความแสบของเด็กสาวตรงหน้า

“ว่าแต่จะอ้างชื่อซีกับย่าหญิงฐานะอะไรนะคะ...

แสบเกินต้านมากจ้า น้องซีลูกพ่อศิลา ดื้อได้ใครมาเนี่ย

ตามอ่านเรื่องคุณพ่อได้ที่  MY Girl ของขวัญของศิลา นะคะ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หวานใจพี่หมอ   บทที่ 13 ชวนน้องกลับบ้าน

    “ซีไม่เข้าใจว่าพี่เจจะลงเรียน ป.ตรี อีกทำไมในเมื่อจบ ป.โท ไปแล้วรอแค่มหาลัยรับรอง” เด็กสาวเปลี่ยนมาเป็นเรื่องเรียนของชายหนุ่ม“ก็ ป.โท หมอมั้ยครับ ป.ตรี บริหารมันคนละส่วน”“พี่เจมีพ่อโรมลุงรันที่เก่งมากอยู่ที่บ้าน แถมมีพี่ชายที่เก่งกว่าอาจารย์มหาลัยของพี่แฝด ขนาดพวกพี่แฝดยังให้พี่จาติวให้ก่อนสอบเลยบอกว่าเข้าใจกว่าอาจารย์สอนซะอีก แต่ติดตรงพี่จาจะสอนเป็นฝรั่งเศสมากกว่าอังกฤษแค่นั้น ซึ่งมันก็ไม่ใช่ปัญหาของบ้านเราอยู่แล้ว แถมพี่จายังเป็นนักวิเคราะห์การตลาดและนักวางแผนที่เก่งมาก การจัดการเรื่องเวลา วิสัยการลงทุนและการเจรจาเป็นเลิศแบบหาตัวจับยาก จนคุณพ่อ พ่อมาร์ค พ่อโรมแล้วก็ป๊าเทนพากันชมไม่ขาดปาก พ่อโรมถึงวางใจ แม้พี่จาจะไม่เข้าออฟฟิศแต่พี่จาก็ไม่เคยพลาดทุกงาน ซีมองว่าประสบการณ์ตรงเรียนรู้งานกับพี่จาจะง่ายกว่าไปเรียนเอาใบปริญญาอีกนะ ได้มาแล้วก็ไม่เห็นจะเอาไปทำอะไรได้เลย” ว่าพร้อมกับมองหน้าชายหนุ่มเหมือนจับผิดก่อนจะยิ้มที่มุมปากอย่างรู้ทัน “พี่เจลงเรียนไม่ใช่หาความรู้เพิ่มเติมหรอกแต่ถ่วงเวลาเข้าออฟฟิศเหมือนที่พี่ซันบอกว่าที่พี่ทอยลงเ

  • หวานใจพี่หมอ   บทที่ 12 อยากรักแบบเข้าใจ

    ทางด้านหน้าอาคารนั้น...“ย่าว่านครับ เดี๋ยวผมไปส่งนะครับเราแวะทานข้าวกันด้วย วันนี้ผมยังไม่ได้มื้อเช้าเลย” ชายหนุ่มอ้อนคุณย่าพลางพยุงท่านคนละข้างกับเด็กสาว“งานเยอะหรือลูก” ย่าว่านถามชายหนุ่มยิ้ม ๆ“เมื่อคืนมีเคสใหญ่ครับ ลากยาวจนถึงเช้า ผมเลยได้แค่กาแฟแก้วเดียว” ปากตอบคุณย่าแต่ตามองเด็กสาวที่เดินหน้าบึ้งอยู่อีกข้างอย่างเอ็นดู “พรุ่งนี้ผมขึ้นเวรบ่าย เย็นนี้ผมนัดจะไปนอนกับไอ้วนมันด้วยครับ ว่าจะให้มันช่วยติวหนังสือให้หน่อย”“ชิ! ข้ออ้าง” เสียงลอย ๆ ของเด็กสาวน่ามันเขี้ยวยิ่งนัก“อ้างอะไร พี่ตั้งใจจะไปติวจริง ๆ นัดไอ้วนมันไว้แล้วด้วย”“ก็ใครว่าอะไรคุณล่ะ” เด็กสาวสวนขึ้นปล่อยแขนคุณย่าเดินนำไปที่รถของชายหนุ่มที่จอดอยู่ไม่ไกลนัก “ซีนั่งข้างหลังกับคุณย่านะ ไม่นั่งหน้าหรอกใครนั่งมามั่งก็ไม่รู้”“น้องซีไม่น่ารักเลยลูก” คุณย่าดุหลานสาวอีกรอบ“งั้นคุณย่ากลับกับพี่เจนะคะ ซีจะไปกับลุงเติมค่ะ” พูดพร้อมกับเดินไปที่รถที่บ้านตั

  • หวานใจพี่หมอ   บทที่ 11 ต่อหน้า

    หลังจากที่ส่งเด็กสาวทั้ง 2 เรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มขับรถย้อนกลับมาที่บ้านของดอกเตอร์ศิลาเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและให้คนขับรถพาไปส่งที่สนามบินเพื่อไปดูย่าเพื่อนรักที่เชียงใหม่ และกลับมาทำงานในวันรุ่งขึ้น ในวันหยุดถัดมาเจเดนได้ไปดูรถยนต์คันใหม่มาใช้งานแทนคันเดิมที่ใช้มาตั้งแต่เรียนแพทย์ปี 1 ซึ่งเป็นรถสปอร์ตคันเล็กที่คุณพ่อซื้อให้เป็นรางวัลสอบแพทย์ได้ แต่ตอนนี้ด้วยหน้าที่การงานและบางวันเขาต้องไปมหาวิทยาลัยและอาจต้องไปติดต่องานแทนผู้เป็นพ่อในอนาคต ซึ่งรถคันนี้อาจไม่เหมาะเท่าไหร่และตั้งใจจะเปลี่ยนตั้งแต่ทีแรกอยู่แล้ว แต่ยังคงเก็บคันนี้ไว้ที่บ้านของพี่ชายเพราะเป็นรถคันแรกของตัวเอง ด้วยความที่เขาพักที่หอพักแพทย์เป็นหลักและเพิ่งลงเรียนบริหารเทอมแรกทำให้ชายหนุ่มไม่มีเวลากลับบ้านไปหาคุณย่า จะมีแต่ท่านที่มาพบแพทย์ตามนัดแล้วแวะมาหาหลานชายที่แผนกฉุกเฉิน และอยู่พูดคุยดัวยไม่นานนักก่อนกลับทำให้ชายหนุ่มรู้สึกสบายใจมากขึ้น เพราะท่านไม่เคยพูดถึงเรื่องคู่ควงหรือแฟนของตัวเองเหมือนพี่ชาย ซึ่งเหตุผลหนึ่งน่าจะมาจากตนเองยังอายุไม่มากเท่าพี่ชายซึ่งตอนนี้อายุเกิน 30 ปีไปแล้วนั่นเอง............

  • หวานใจพี่หมอ   บทที่ 10 ช่วยพี่หน่อย...

    วันรุ่งขึ้นรถสปอร์ต 2 ประตูสีดำวิ่งมาจอดหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ของดอกเตอร์ศิลาในตอนเช้าตรู่ คุณหมอหนุ่มถอดแว่นตากรองแสงออกวางไว้ที่คอนโซลหน้ารถก่อนจะเปิดประตูลงมายกมือไหว้เจ้าของบ้านที่เดินออกมาพอดีและยิ้มให้คนที่รับปากว่าจะมารับไปส่งโรงเรียนอย่างยิ้มแย้ม“อาศิ อาขวัญ สวัสดีครับ”“มาแต่เช้าเลย วันนี้ไม่ได้ทำงานหรือลูก”“เพิ่งลงเวรครับอา เมื่อวานอาเทนโทรมาบอกว่าย่าอุ่นเข่าบวมแต่ไม่ยอมไปหาหมอผมเลยขอสลับเวรกับหมออีกคนไปขึ้นดึก ว่าจะไปดูให้ ถ้าผมบอกแล้วยังไม่ยอมไปหาหมอคงต้องไปบอกไอ้ทอยคุยกับย่ามันนั่นแหละ ย่าอุ่นฟังแต่หมอเลยไม่ฟังอาเทน แต่ก่อนไปแวะมารับเด็กบางคนไปส่งโรงเรียนก่อน บ่นเป็นแมวเลยว่าผมลืมน้อง” ชายหนุ่มตอบพลางมองหน้าน้องสาวคนเล็กของบ้านที่ยืนหน้าบึ้งอยู่ข้างคุณแม่ของเธออย่างเอ็นดู“อ๋อ... ถึงว่าวันนี้กินข้าวไปจ้องมือถือไป” คุณศิลาพยักหน้าพลางหันไปมองลูกสาวที่ยืนหน้างอมองรถสปอร์ตคันสวยของคนมารับเหมือนกำลังไม่พอใจ ก่อนจะหันไปมองเพื่อนรักของเธอที่เปิดประตูเล็กเดินเข้ามาเพื่อโรงเรียนด้วยกันเหมือนทุกวั

  • หวานใจพี่หมอ   บทที่ 9 หรือเขาจะกลับไปคบกัน

    2 เดือนต่อมาโรงพยาบาล Hครืด...ครืด....มือถือในกระเป๋ากางเกงของคุณหมอหนุ่มดังขึ้นในขณะที่กำลังเดินออกจากห้องฉุกเฉินหลังจากลงเวรแล้ว ชายหนุ่มได้แต่หยุดถอนหายใจมองบนกับคนที่คิดว่าจะโทรมาชวนไปทานข้าวหลังลงเวรที่เขาแสนเบื่อหน่าย คุณหมอหนุ่มหันหาคนที่จะรับโทรศัพท์แทนแล้วเดินเข้าไปในห้องฉุกเฉินอีกครั้งก่อนจะสะกิดคุณหมอรุ่นพี่ที่เพิ่งรับช่วงเวรต่อกันแล้วล้วงมือถือคว่ำหน้าจอยื่นให้“พี่ก้อง ถ้าเอื้อมจันทร์โทรมาบอกว่าผมติดเคสนะครับ” พูดจบเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเองดึงแฟ้มประวัติผู้ป่วยมาเปิดอ่าน ส่วนคุณหมอรุ่นพี่มองหน้าจอแล้วยิ้มที่มุมปากสะกิดแขนเจ้าของเครื่องชูหน้าจอให้ดูสายเรียกเข้า ซึ่งทันทีที่เห็นคุณหมอหนุ่มก็รีบลุกขึ้นเพื่อจะเอาโทรศัพท์คืนแต่รุ่นพี่รับถอยห่างแล้วกดรับสายแทนทันที‘โห... กว่าจะรับได้แทบจะต้องไปบนเจ้าที่ที่โรงพยาบาลเลยนะคะพี่เจ’ เสียงหวานใสปนความแง่งอนดังขึ้นทันทีที่มีคนกดรับสาย“เอ่อ... ขอโทษด้วยครับ พอดีคุณหมอเจติพัฒน์ติดเคสอยู่ พี่หมอก้องรับสายแทนครับ” คุณหมอก้องตอบพลางชำเลืองมองคุณห

  • หวานใจพี่หมอ   บทที่ 8 คุยไปเรื่อย ๆ

    เย็นวันศุกร์บ้านคุณหญิงรวิดารถตู้สีขาวคันใหญ่วิ่งเข้ามาจอดในที่จอดรถของบ้าน ในเวลาเกือบอาหารเย็น หนุ่มหน้าสวย คิ้วเข้ม ปากสีชมพูเหมือนทาลิปสติกอยู่ตลอดเวลา สวมเสื้อโปโลสีฟ้าอ่อนกับกางเกงขาสามส่วนสีดำ รองเท้าแตะเปิดประตูลงมาจากรถคนแรก“หมอเจ!” “ชู่ อย่าดังครับผมมาเซอร์ไพรส์คุณย่าเลยนะ อาโรมอาเจ้ามาหรือยัง” ชายหนุ่มรีบยกมือขึ้นแตะปากแล้วถามหาคุณอาทั้ง 2 ที่พ่อของเขาโทรหาเมื่อตอนบ่ายบอกว่าเจเดนกลับมาแล้วและคุณหมอหนุ่มยังได้เล่าเรื่องที่ตัวเองไปขอยืมชื่อน้องซีมาอ้างกับคุณย่าถ้าท่านถามหาคนคุยคนคบ ซึ่งเขาจะบอกว่าตอนนี้มีคนแล้วแต่ยังไม่บอกชื่อจนกว่าคุณย่าจะเร้าหรือจึงจะยอมเปิดไปเรื่อย ๆ ซึ่งเรื่องนี้ได้ทำความเข้าใจกับน้องมาแล้วเลยทำให้สบายใจขึ้นเลยจะมาเซอร์ไพรส์คุณย่าก่อนกำหนด เพราะตามกำหนดการเขาต้องกลับมาในวันพรุ่งนี้ ซึ่งคุณย่าตื่นเต้นมากเตรียมชุดสวยเพื่อไปรับหลานชายคนเล็กที่สนามบินไว้เรียบร้อยแล้วตั้งแต่หลายวันก่อน “อันนี้เอาไปแบ่งกันนะ”“มาแล้วค่ะคุณหมอ อุ๊ย! ขอบคุณค่า” แม่บ้านตอบพร้อมกับยกมือไหว้รับถุงของฝาก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status