“ไปกันเถอะลิลลี่” พิศลดาลุกขึ้นยืนเดินนำลิลลี่ออกไปจากร้านโดยมีสายตาของมาร์ตินคอยจับจ้องอยู่แล้วรีบลุกตามออกไปโดยไม่สนใจอรนุชอีกเลย
“ยัยอาจารย์นั่นจากที่เชิดๆ หยิ่งๆ ตอนนี้หมดสภาพเลยเนอะ” ลิลลี่พูดขึ้นหลังจากที่ทั้งคู่กำลังเดินไปยังหอประชุม
“นี่ล่ะผู้ชายพอเบื่อแล้วก็เขี่ยทิ้งแต่บางทีอาจารย์อรนุชก็ทำตัวเองรู้ทั้งรู้ว่าเป็นได้แค่ของเล่นก็ยังจะไปเล่นกับเขาอีก”
“เรื่องนั้นช่างมันเถอะตอนนั่งอยู่ในร้านฉันเห็นคุณมาร์ตินมองแกบ่อยมากนะแล้วที่สำคัญตอนที่เขาให้ฉันเรียกแกไปถ่ายรูปให้เขาก็เอาแต่จ้องแกไม่วางตาเลยฉันว่าเขาต้องชอบแกแน่ๆ เลยความสวยของแกคงเข้าตาคุณมาร์ตินเข้าแล้วละ”
“จะบ้าเหรอ อย่างฉันเนี่ยนะ ไม่มีทางหรอกย่ะ แล้วอีกอย่างแกบอกว่าเขาเปลี่ยนผู้หญิงบ่อยขนาดนี้ ก็คงมองฉันเหมือนผู้หญิงที่เขาเคยควงด้วยนั่นแหละแต่เผอิญฉันไม่ได้เหมือนสาวๆ ของเขาฉันไม่ชอบคนเจ้าชู้แกก็รู้ถ้าฉันจะรักใครสักคนคนๆ นั้นต้องรักฉันจริงๆ และที่สำคัญนั่นรุ่นพ่อเลยนะ”
“เว่อร์ แก 18 เขา 30 แค่ห่างกัน 12 ปี เองฮ่าๆ” ลิลลี่พูดอย่างขำๆ ไม่ได้คิดจริงจังอะไรก็จริงอย่างที่เพื่อนเธอพูดถ้าเราจะรักใครสักคน คนนั้นจะต้องรักเราจริงๆ
“ว่าฉันแก่ขนาดเป็นพ่อเธอเลยเหรอสาวน้อย ถ้าจะเป็นพ่อก็ต้องเป็นพ่อทูนหัวของเธอเท่านั้น และฉันก็ยังไม่มีใครนะ” มาร์ตินพึมพำออกมาเบาๆ แล้วเดินตามหลังสองสาวไปเงียบๆ
“อร๊าย! คุณมาร์ตินหล่อมากๆ เลยแกว่าไหมลิลลี่ เฟิร์น” ชมพู่สาวโคราชที่เพิ่งจะมาถึงมหาวิทยาลัยเอ่ยขึ้น
“เบาๆ หน่อยก็ได้มั้งชมพู่ ฉันว่าฉันหนักแล้วนะแกนี่หนักกว่าฉันเยอะเลย” ลิลลี่กระแทกไหล่ชมพู่เบาๆ ชมพู่เป็นเพื่อนอีกคนหนึ่งของเธอและพิศลดา
“ฉันนี่นะเยอะ แกลองดูพวกรุ่นพี่แล้วก็พวกรุ่นเดียวกับเราสิสะดีดสะดิ้งกว่าฉันซะอีก” ชมพู่พยักเพยิดไปยังพวกรุ่นพี่แล้วก็พวกรุ่นเดียวกันที่นั่งยืดคอบ้างก็หยิบเครื่องสำอางค์ขึ้นมาเติมหน้า
“เออว่ะ” ลิลลี่พยักหน้าเห็นด้วย
เสียงอื้ออึงเงียบลงเมื่อมาร์ตินเดินเข้ามา สายตาเขากวาดมองไปจนทั่วห้อง แล้วหยุดมองที่สาวน้อยของเขาที่กำลังมองมาทางเขาพอดี ปากหยักยกขึ้นน้อยๆ ก่อนจะเอ่ยแนะนำตัวอย่างเป็นทางการแต่ก็ต้องสะดุดลง เมื่อสายตาคู่คมเห็นว่ามีผู้ชายหน้าอ่อนมานั่งข้างสาวน้อยของเขา และพูดคุยกันจนทำให้เขาเกิดอาการไม่พอใจแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ในเมื่อเขาและเธอไม่ได้เป็นอะไรกันคุยกันสักคำก็ยังไม่เคย
“คุณมาร์ตินเขาเป็นอะไรทำไมหน้าตาบึ้งตึงขนาดนั้นเหมือนไม่พอใจอะไรเลย” ชายหนุ่มที่นั่งข้างพิศลดาเอ่ยขึ้นอย่างสงสัยแล้วยังสายตาแปลกๆ ที่มาร์ตินส่งมาให้เขาอีกทำเหมือนโกรธอะไรเขางั้นแหละ
พิศลดาลอบมองมาร์ตินตามที่เพื่อนร่วมคณะเธอพูดขึ้นอยู่ๆ ทำไมอีตานั่นถึงทำท่าเหมือนอยากจะฆ่าใครขนาดนั้นด้วย น้ำเสียงที่ใช้พูดก็ห้วนสิ้นดีแถมมองมาทางเธอตาขวางๆ อีกด้วยท่าจะบ้าเธอไม่ได้ทำอะไรให้สักหน่อย
หลังจากที่มาร์ตินบรรยายเสร็จ พิศลดาก็ออกไปจากห้องทันที ไม่ได้รุมล้อมเขาเหมือนกับคนอื่น กว่าที่มาร์ตินจะแยกตัวออกจากวงล้อมได้ก็ต้องใช้เวลานานพอสมควร และก็ต้องหัวเสียเมื่อมองหาสาวน้อยของเขาไม่เจอเสียแล้ว เสียงห้วนเลยสบถคำหยาบคายออกมา เขาตั้งใจจะมาคุยกับเธอสักหน่อย ดันไม่ทันซะงั้น ก็ได้ วันนี้ไม่ทันไม่เป็นไร วันหน้ายังมี เขาไม่ยอมง่ายๆ หรอก
“ทำอะไรให้ลูกผัวกินจ๊ะวันนี้” มาร์ตินในวัยกลางคนทว่ายังดูหนุ่มกว่าอายุถามภรรยาคนสวยที่กำลังสาละวนอยู่หน้าเตา อ้อมแขนแข็งแรวสวมกอดรอบเอวบาง เกยคางบนไหล่เล็ก แล้วสูดความหอมจากแก้มนวล “ของโปรดป๋ากับลูกค่ะ” พิศลดาตอบสามีเสียงหวาน “ของโปรดป๋ายืนอยู่ตรงนี้ต่างหาก” มือใหญ่ลูบสะโพกเมียอย่างยั่วเย้า พลางพรมจูบต้นคอขาวอย่างรักใคร่ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีความหวานของทั้งคู่ก็ไม่เคยจืดจางลงเลย “ห้ามทะลึ่งนะคะ เดี๋ยวลูกก็กลับมาแล้ว เอามือออกไปเลยค่ะ” ตีมือซุกซนที่บีบแก้มก้นเธออยู่ “ลูกยังไม่มาตอนนี้หรอก ป๋าเพิ่งจะโทรหาลูกสาวคนสวยของเรา ยังพอมีเวลานะคะทูนหัวของผัว ถ้าทำเวลาน่าจะได้สักสองรอบก่อนอาหารเย็น” งึมงำชิดซอกคอหอมกรุ่น “แก่แล้วนะคะ เพลาๆ เรื่องนี้บ้างเถอะค่ะ” พูดอย่างอ่อนใจ ขนาดว่าลูกโตเป็นหนุ่มเป็นสาวแล้ว ตาเฒ่าของเธอยังไม่หยุดหื่นเลย ตอนหนุ่มๆ เป็นยังไงตอนนี้ก็เป็นอย่างนั้นไม่เปลี่ยนแปลง “ใครบอกว่าแก่ ป๋ายังหนุ่มยังแน่น แรงดีไม่มีตก ข้อนี้หนูรู้ดี ไม่งั้นหนูคงไม่ร้องครางทั้งคืนหรอก หนูเองก็สวยสะพรั่งไม่สร่าง ห่างไกลจากคำว่าแก่ สาวๆ บางคนยังสู้เมียป๋าไม่ได้เลย ไปไหนป๋าถึงต้องตามคุมเพราะ
จัสมินในวัยสิบเก้าปีกำลังโตเป็นสาวสวยสะพรั่ง รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น ผิวขาวอมชมพู ดวงตากลมโตหวานซึ้ง ริมฝีปากบางจิ้มลิ้ม เป็นที่หมายปองของบรรดาหนุ่มๆ ทั้งในและนอกมหาวิทยาลัย แต่ติดที่คุณพ่อหวงมากเลยไม่ค่อยมีใครกล้ามายุ่งด้วยสักเท่าไหร่ จัสมิน และซีลอนเรียนมหาวิทยาลัยแห่งเดียวกับที่คุณแม่เคยเรียน สองพี่น้องเรียนคณะเดียวกันเพียงแต่คนละชั้นปี ดีกรีความหล่อของซีลอนไม่น้อยไปกว่าคุณพ่อแม้แต่น้อย ด้วยวัยเพียงสิบแปดปี มีสาวๆ มาล้อมหน้าล้อมหลัง เรื่องนี้จึงทำให้คุณแม่ และพี่สาวต้องปวดหัวอยู่บ่อยๆ “พี่จัสมินวันนี้ให้อาลีโอมารับกลับบ้านก่อนได้ไหม เย็นนี้ผมมีนัดทำรายงานกับเพื่อน” ซีลอนบอกพี่สาวก่อนจะลงจากรถจัสมินมองหน้าน้องชายที่ถอดแบบมาจากคุณพ่อยิ้มๆ “ได้สิ ซีลอนไม่ต้องห่วง ไปทำงานของเราอย่างสบายใจเถอะ” และอีกหนึ่งอย่างที่ซีลอนเหมือนป๋า ก็คือเรื่องความหวงเธอ หวงมามี๊“ยังไงผมจะโทรหาพี่อีกทีนะ ห้ามปิดเครื่องนะครับคนสวย”“จ้ะสุดหล่อ แล้วเจอกันที่บ้านนะ” เปิดประตูรถลงไปแล้วจัสมินโบกมือให้น้องชายที่นับวันทำตัวเหมือนพี่ชายยังคงมองเธออยู่อย่างน่ารักจัสมินกำลังเดินขึ้นตึกเรียนระหว
“ไม่ได้ค่ะ ลูกหลับอยู่ในห้อง เกิดพวกแกเปิดประตูออกมาแย่เลยนะคะ เลิกคิดค่ะ อื้อ ป๋า อย่าบีบหน้าอก จะหื่นอะไรนักหนา”“ลูกหลับนานหนูก็รู้ มีเวลาให้เรารักกันสักรอบสองรอบ ยอมป๋าดีๆ จะได้จบไวๆ”“ป๋า อื้ม” ประท้วงเสียงอู้อี้ ผลักหน้าหล่อออกแต่คนหื่นไม่ยอม“แงๆ มามี๊ค้าบ ป๋าค้าบ หาซีลอนหน่อย ฮือๆ”เสียงร้องไห้จ้าดังออกมาจากในห้องนอนราวกับรู้ว่าพ่อกับแม่กำลังจะทำอะไร มาร์ติน พิศลดากำลังจูบกันดูดดื่มผละกันออกจากกันอย่างรวดเร็ว“มั่นใจมากไม่ใช่เหรอคะว่าลูกไม่ตื่นง่ายๆ รีบปล่อยเลยค่ะ จะรีบไปดูลูก” มองค้อนสามีมาร์ตินยิ้มอ่อน ยอมปล่อยเมียรักเมื่อเสียงร้องดังขึ้นเรื่อยๆ ลุกได้พิศลดาก็รีบเดินเข้าไปในห้องนอนโดยมีร่างสูงตามมาติดๆ“มามี๊มาแล้วครับ เลิกร้องนะครับคนดีของมามี๊” พิศลดาอุ้มลูกน้อยมากอดไว้แนบอก ลูบหลังเล็กๆ ปลอบประโลม“มามี๊หาซีลอนแล้ว” ใบหน้าเล็กๆ ซบลงบนอกนุ่มๆ ด้วยความคิดถึง“ครับลูก มามี๊กลับมาแล้ว คิดถึงหนูกับพี่จัสมินมากเลย” ริมฝีปากประทับแนบศีรษะลูกชายด้วยความเอ็นดู ไม่ว่าสามีหรือลูกก็อ้อนพอกัน เรียกว่าไม่มีใครน้อยหน้าใคร“ฮื้อ” คราวนี้เป็นลูกสาวคนสวยที่ลืมตาตื่น คุณพ่อยิ้มอบอุ่น ช้อนลู
“พาลูกเมียออกมาได้แล้วเหรอไอ้ฝรั่ง” พ่อสุชาติกำลังนั่งดื่มกาแฟมองค้อนลูกเขยตาคว่ำ“คุณพ่ออย่างอนผมสิครับ ผมก็พาออกมาแล้วนี่ไง เมื่อคืนก็ยึดจัสมินกับซีลอนไปนอนกอดไว้ทั้งคืน เช้านี้ผมก็ต้องใช้เวลากับลูกๆ บ้าง คุณพ่อจะยึดไว้คนเดียวไม่ได้หรอกนะครับ” มาร์ตินปล่อยลูกลงยืนเพื่อให้ไปหาคุณตา“แกอยู่กับลูกทุกวันนานๆ ฉันจะมีโอกาสได้เลี้ยงหลาน มาที่นี่แกก็ต้องให้เวลาฉัน และแม่นวลอยู่กับลูกหลานเยอะๆ”“เถียงกันไปก่อนนะคะ หนูจะไปดูข้าวให้ลูก จัสมินกับซีลอนไปกับมามี๊ไหมคะ”สาวน้อยกับหนุ่มน้อยพยักหน้าถี่ วิ่งมาเกาะขาคุณแม่คนละข้าง พิศลดาพาเด็กๆ แยกตัวออกมา ส่วนหนึ่งเพราะไม่อยากฟังสองหนุ่มโต้กันไปมา ไม่มีใครยอมใครจริงๆ นิสัยก็คล้ายกันมาก ขึ้นชื่อเรื่องความหวง“ไปนั่งไกลๆ ฉันเลยไอ้ฝรั่ง ที่นั่งมีตั้งเยอะ จำเป็นต้องมานั่งตรงนี้ไหม” เหล่ตามองพ่อของหลาน“ผมพอใจจะนั่งตรงนี้ครับคุณพ่อ เราสองคนมาสงบศึกกันดีกว่าไหมครับ คุณพ่อไม่เหนื่อยบ้างเหรอครับหาเรื่องผมได้ตลอดเวลาเลย” เจอหน้ากันทีไรลับฝีปากกันตลอด“ถามมาได้ว่าเหนื่อยไหม มันก็ต้องเหนื่อยสิวะ ถ้าไม่อยากให้ฉันเหนื่อยแกก็เลิกกวนอารมณ์ฉันเสียสิ!” พ่อสุชาติพูดเสี
“เมียจ๋า ผัวอยากรักหนูรับแสงวันใหม่ จะได้กระปรี้กระเปร่ากระชุ่มกระชวยตลอดวัน” เสียงอ้อนดังชิดใบหูขาวผ่อง ขบเม้มติ่งหูเมียจนเธอขนลุก “จะนอน ไม่อยากกนะชุ่มกระชวยค่ะ” ใบหน้างามเริ่มยุ่งเมื่อถูกรุกรานหนักเข้า ทว่าก็ยังไม่ยอมลืมตา “ไม่นอนแล้วทูนหัว ตื่นมาให้ผัวอึ๊บซะดีๆ ผัวหิวเมียจะแย่แล้ว” เอื้อมมือบีบเคล้นอกอวบที่ยังคงเต่งตึงเหมือนครั้งแรกที่เคยสัมผัส ทั้งลูกทั้งผัวดูดมันก็ยังไม่หย่อนคล้อยแม้แต่น้อย “หนูง่วง อย่าเพิ่งกวน จะหิวอะไรนักหนาล่ะคะ กว่าจะได้นอนก็ตีสาม ถ้าตื่นแล้วก็ไปดูลูกค่ะ” พูดเสียงแข็งด้วยความรำคาญ “ป่านนี้ลูกคงเล่นอยู่กับคุณตา คุณยาย มีคนช่วยดูแล้วเราควรทำกิจกรรมระหว่างผัวเมียต่อนะทูนหัว” พรมจูบที่ซอกคอขาว “ของหนูมันไม่ได้เสริมด้วยเหล็กนะคนบ้า ถึงได้หื่นไม่กลัวพัง หนูยังต้องใช้ไปตลอดชีวิตนะคะ” พิศลาลืมตาขึ้นมาด้วยความโมโห “ป๋ารู้ว่าของเมียไม่ได้เสริมด้วยเหล็ก เพราะมันทั้งดูด ทั้งตอด ทั้งอ่อนนุ่ม แล้วป๋าเองก็ต้องใช้ของหนูไปอีกแสนนานเหมือนกัน ไม่มีทางปล่อยให้พังเด็ดขาด” ลูบฝ่ามือบนเนินอวบแผ่วๆ “แต่หนูกลัวค่ะ!” “ไม่ต้องกลัว เพราะถ้ามันพังมันคงพังไปนานแล้ว” มาร์ตินพลิกร่
มาร์ตินพาลูกมาทานเค้กตามความต้องการ ลูกค้าภายในร้านให้ความสนใจกับสามคนพ่อลูกที่มักจะมีภาพน่ารักๆ ออกมาให้เห็นผ่านโซเชียลเป็นประจำ คนหวงลูกเกิดอาการไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่ต้องตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่น ถ้าไม่ติดว่าลูกกำลังทานกันเอร็ดอร่อยเขาจะอุ้มกลับบริษัทซะเดี๋ยวนี้เลย“ป๋ากินเค้กค่า” จัสมินตักเค้กช็อกโกแลตเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วมาจ่อปากคุณพ่อที่นั่งหน้าบึ้งอยู่ข้างๆ อย่างเอาใจ เพราะคิดว่าพ่อคงอยากกินบ้างมาร์ตินมองช้อนเล็กๆ ในมือลูกพลางอมยิ้ม ยอมอ้าปากทานเค้กที่ลูกสาวคนสวยป้อน ยกมือขึ้นลูกศีรษะทุยเบาๆ “อร่อยมากเลยค่ะจัสมิน”“ป๋ากินอีกนะคะ” สาวน้อยตักป้อนอีก“ป๋ากินของซีลอนด้วยนะค้าบ” หนุ่มน้อยก็ไม่ยอมน้อยหน้าพี่สาว รีบตักของตัวเองมาจ่อปากคุณพ่อบ้างมาร์ตินมองลูกรักสองคนที่แย่งกันป้อนขนมเขาอย่างมีความสุข สลับกับป้อนใส่ปากตัวเอง จนกินไม่ไหว ลูบพุงน้อยๆ ของตัวเองกันทั้งคู่“อิ่มแล้วเหรอลูก” มาร์ตินหยิบทิชชู่มาเช็ดปากเลอะๆ ของลูกๆ อย่างอ่อนโยน มองดูพุงป่องๆ อย่างชอบใจ“ค่าอิ่มแล้ว ป๋าอิ่มยังคะ” จัสมินปีนขึ้นมานั่งตักคุณพ่อ เอาแขนเล็กๆ คล้องคอ แนบใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มลงบนไหล่แกร่งอย่างออดอ้อนเลยได