“เฟิร์นฉันว่าฉันไปขอถ่ายรูปกับคุณมาร์ตินดีกว่า ไหนๆ ก็ได้เจอตัวแล้ว” ลิลลี่พูดจบก็ลุกขึ้นเดินไปหามาร์ตินทันที ลิลลี่เข้าไปคุยกับมาร์ตินก่อนจะเดินกลับมาที่โต๊ะ
“อ้าวทำไมไม่ถ่ายละเขาไม่ถ่ายด้วยเหรอ” พิศลดาถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนเดินกลับมาทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ถ่ายรูปเลย
“เปล่าแต่คุณมาร์ตินบอกว่าให้แกช่วยถ่ายให้จะดีกว่าเพราะเขาไม่อยากจะเซลฟี่นะแกไปถ่ายให้หน่อยนะนะ” ลิลลี่ดึงแขนเพื่อนให้ลุกไปถ่ายรูปให้
“เรื่องมากจริงเชียว” พิศลดาบ่นใบหน้าสวยงอง้ำแต่ก็ยอมเดินมาถ่ายให้เพื่อนแต่โดยดี
“ถ่ายได้เลยครับ” มาร์ตินนั่งอมยิ้มน้อยๆ ที่เขายิ้มไม่ใช่ยิ้มให้กล้องแต่ยิ้มให้ช่างภาพจำเป็นต่างหาก
“เสร็จแล้วฉันกลับไปนั่งรอที่โต๊ะนะ” พิศลดาส่งโทรศัพท์คืนให้เพื่อนแล้วหมุนตัวจะเดินกลับไปนั่งแต่ก็ถูกเรียกไว้ก่อน
“เดี๋ยวก่อนสิเธอไม่ถ่ายรูปกับฉันเหรอ” มาร์ตินถามยิ้มๆ เห็นแก้มป่องแล้วอยากจะจับมาหอมแก้มนัก
“ไม่ค่ะคุณไม่ใช่ดาราสักหน่อย” พิศลดาปฏิเสธทันควันทำไมเธอต้องอยากถ่ายรูปกับเขาด้วย
“ถ้าเป็นดาราเธอถึงจะถ่ายรูปด้วยใช่ไหม” มาร์ตินถามเสียงห้วนไอดาราเจ้าบทบาทพวกนั้นจะมาสู้คนอย่างเขาได้ยังไง
“เปล่าแค่เปรียบเทียบเฉยๆ แล้วทำไมคุณต้องไม่พอใจฉันด้วย” พิศลดาถามเสียงสะบัดอย่างไม่พอใจที่คนตรงหน้ารวนใส่เธอโดยไม่ทราบสาเหตุ
“เอ่อฉันว่าเราไปกันเถอะขอตัวก่อนนะคะคุณมาร์ติน” ลิลลี่เอ่ยขอตัวจากมาร์ติน
“เดี๋ยวก่อน เธอชื่ออะไรสาวน้อย” มาร์ตินชี้มาที่พิศลดาแต่เธอไม่ตอบเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ
“เอ่อเพือ่นหนูชื่อพิศลดาค่ะชื่อเล่นว่าใบเฟิร์น” ลิลลี่เป็นฝ่ายตอบแทนเพื่อนก่อนจะเดินตามพิศลาไป
“ใบเฟิร์นงั้นเหรอชื่อน่ารักสมกับตัวเลย” มาร์ตินพึมพำเบาๆ
“คุณมาร์ตินมานานรึยังคะเนี่ย ถ้าอรรู้ว่าคุณมาแล้วจะรีบมาหาเลยค่ะ ถ้าไม่ออกมาหากาแฟดื่มก็คงไม่รู้ว่าคุณถึงแล้ว” สาวสวยในชุดเดรสสีแดงสดกับรองเท้าส้นสูงสีเดียวกันเดินเข้ามาหามาร์ตินแล้วทรุดกายเย้ายวนลงข้างๆ ชายหนุ่มมือขาวจับที่ท่อนแขนแกร่งหน้าอกหน้าใจถูไถไปที่แขนเขาอย่างยั่วยวน
“ผมเพิ่งมาถึงนะครับ” มาร์ตินตอบเสียงเรียบไม่สนใจการยั่วยวนของอาจารย์สาวที่เขาเคยมีสัมพันธ์ด้วย
“ค่ะ” อรนุชอาจารย์สาวคนสวยของมหาวิทยาลัยแสดงท่าทางสนิทสนมกับมาร์ตินอย่างออกนอกหน้าจนพิศลดากับลิลลี่ต้องเบ้ปาก
“อาจารย์อรนุชแทบจะสิงคุณมาร์ตินแล้วนะนั่นเป็นถึงอาจารย์แต่ดันทำตัวไม่เหมาะสมซะเอง” ลิลลี่กระซิบกับพิศลดาอย่างไม่ชอบใจ
“ฉันว่าก็พอกันทั้งคู่แหละ” พิศลดาพูดเสียงไม่เบานักแต่ก็ไม่ได้เอ่ยชื่อใครออกมาแค่พูดลอยๆแต่มาร์ตินที่ได้ยินและรู้ดีว่าสาวน้อยนั้นหมายถึงเขาอย่างแน่นอนมีแต่อรนุชเท่านั้นที่ไม่ได้สนใจอะไรและไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรทั้งสิ้น
“ผมว่าคุณนั่งดีๆ ดีกว่านะคุณเป็นถึงอาจารย์มานั่งกอดแขนเบียดผมแบบนี้มันไม่เหมาะเท่าไหร่” มาร์ตินจับมือของอรนุชออกจากท่อนแขนของเขาถึงแม้ว่าเขากับอรนุชจะเคยมีสัมพันธ์กันแต่มันก็แค่เขาต้องการปลดปล่อยอารมณ์ของบุรุษเพศไม่ใช่ความเสน่หาหรือรักใคร่ใดๆ ทั้งสิ้นและที่สำคัญเขาไม่อยากจะให้สาวน้อยที่ของเขามองเขาในทางที่ไม่ดีมากไปกว่านี้เพราะดูท่าทางแล้วคงจะไม่ชอบหน้าเขาเอามากๆ เลย
“คุณนี่น่ารักจังเลยค่ะ ห่วงภาพลักษณ์ของอรด้วย” อรนุชที่เข้าใจผิดคิดไปอีกทางนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อคิดว่ามาร์ตินเป็นห่วงภาพพจน์ความเป็นอาจารย์ของเธอเธอจึงโน้มหน้าเข้าไปหวังจะหอมแก้มเขาแต่เขาก็เบี่ยงใบหน้าหลบ
“ผมไม่ได้ห่วงคุณกรุณาอย่าเข้าใจผิดและที่สำคัญผมไม่ชอบให้ใครมาจูบมาหอมคุณก็น่าจะรู้ดีอย่ามาสำคัญตัวเองระหว่างเรามันก็เป็นแค่เพียงข้อตกลงไม่มีอย่างอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง” มาร์ตินพูดเสียงเรียบเขาไม่จำเป็นที่จะต้องไว้หน้าใครแล้วไม่สนใจด้วยว่าอรนุชจะรู้สึกยังไง อรนุชที่ได้ยินดังนั้นก็นั่งเงียบไม่กล้าจะเอ่ยอะไรออกมาเพราะเสียงที่เขาพูดกับเธอไม่ได้เบาเลยทำให้ตอนนี้เธออายมากปากบางเม้มเข้าหากันแน่น เสียงซุบซิบนินทาดังขึ้น แล้วมองมายังอรนุชกับมาร์ติน คนที่โดนหนักก็คงจะเป็นอรนุชที่ทำตัวไม่เหมาะสม แถมยังโดนฝ่ายชายพูดแบบไม่ไว้หน้าอีกท่าทางเชิดๆ หยิ่งๆ จึงไม่หลงเหลืออยู่เลย
“ทำอะไรให้ลูกผัวกินจ๊ะวันนี้” มาร์ตินในวัยกลางคนทว่ายังดูหนุ่มกว่าอายุถามภรรยาคนสวยที่กำลังสาละวนอยู่หน้าเตา อ้อมแขนแข็งแรวสวมกอดรอบเอวบาง เกยคางบนไหล่เล็ก แล้วสูดความหอมจากแก้มนวล “ของโปรดป๋ากับลูกค่ะ” พิศลดาตอบสามีเสียงหวาน “ของโปรดป๋ายืนอยู่ตรงนี้ต่างหาก” มือใหญ่ลูบสะโพกเมียอย่างยั่วเย้า พลางพรมจูบต้นคอขาวอย่างรักใคร่ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีความหวานของทั้งคู่ก็ไม่เคยจืดจางลงเลย “ห้ามทะลึ่งนะคะ เดี๋ยวลูกก็กลับมาแล้ว เอามือออกไปเลยค่ะ” ตีมือซุกซนที่บีบแก้มก้นเธออยู่ “ลูกยังไม่มาตอนนี้หรอก ป๋าเพิ่งจะโทรหาลูกสาวคนสวยของเรา ยังพอมีเวลานะคะทูนหัวของผัว ถ้าทำเวลาน่าจะได้สักสองรอบก่อนอาหารเย็น” งึมงำชิดซอกคอหอมกรุ่น “แก่แล้วนะคะ เพลาๆ เรื่องนี้บ้างเถอะค่ะ” พูดอย่างอ่อนใจ ขนาดว่าลูกโตเป็นหนุ่มเป็นสาวแล้ว ตาเฒ่าของเธอยังไม่หยุดหื่นเลย ตอนหนุ่มๆ เป็นยังไงตอนนี้ก็เป็นอย่างนั้นไม่เปลี่ยนแปลง “ใครบอกว่าแก่ ป๋ายังหนุ่มยังแน่น แรงดีไม่มีตก ข้อนี้หนูรู้ดี ไม่งั้นหนูคงไม่ร้องครางทั้งคืนหรอก หนูเองก็สวยสะพรั่งไม่สร่าง ห่างไกลจากคำว่าแก่ สาวๆ บางคนยังสู้เมียป๋าไม่ได้เลย ไปไหนป๋าถึงต้องตามคุมเพราะ
จัสมินในวัยสิบเก้าปีกำลังโตเป็นสาวสวยสะพรั่ง รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น ผิวขาวอมชมพู ดวงตากลมโตหวานซึ้ง ริมฝีปากบางจิ้มลิ้ม เป็นที่หมายปองของบรรดาหนุ่มๆ ทั้งในและนอกมหาวิทยาลัย แต่ติดที่คุณพ่อหวงมากเลยไม่ค่อยมีใครกล้ามายุ่งด้วยสักเท่าไหร่ จัสมิน และซีลอนเรียนมหาวิทยาลัยแห่งเดียวกับที่คุณแม่เคยเรียน สองพี่น้องเรียนคณะเดียวกันเพียงแต่คนละชั้นปี ดีกรีความหล่อของซีลอนไม่น้อยไปกว่าคุณพ่อแม้แต่น้อย ด้วยวัยเพียงสิบแปดปี มีสาวๆ มาล้อมหน้าล้อมหลัง เรื่องนี้จึงทำให้คุณแม่ และพี่สาวต้องปวดหัวอยู่บ่อยๆ “พี่จัสมินวันนี้ให้อาลีโอมารับกลับบ้านก่อนได้ไหม เย็นนี้ผมมีนัดทำรายงานกับเพื่อน” ซีลอนบอกพี่สาวก่อนจะลงจากรถจัสมินมองหน้าน้องชายที่ถอดแบบมาจากคุณพ่อยิ้มๆ “ได้สิ ซีลอนไม่ต้องห่วง ไปทำงานของเราอย่างสบายใจเถอะ” และอีกหนึ่งอย่างที่ซีลอนเหมือนป๋า ก็คือเรื่องความหวงเธอ หวงมามี๊“ยังไงผมจะโทรหาพี่อีกทีนะ ห้ามปิดเครื่องนะครับคนสวย”“จ้ะสุดหล่อ แล้วเจอกันที่บ้านนะ” เปิดประตูรถลงไปแล้วจัสมินโบกมือให้น้องชายที่นับวันทำตัวเหมือนพี่ชายยังคงมองเธออยู่อย่างน่ารักจัสมินกำลังเดินขึ้นตึกเรียนระหว
“ไม่ได้ค่ะ ลูกหลับอยู่ในห้อง เกิดพวกแกเปิดประตูออกมาแย่เลยนะคะ เลิกคิดค่ะ อื้อ ป๋า อย่าบีบหน้าอก จะหื่นอะไรนักหนา”“ลูกหลับนานหนูก็รู้ มีเวลาให้เรารักกันสักรอบสองรอบ ยอมป๋าดีๆ จะได้จบไวๆ”“ป๋า อื้ม” ประท้วงเสียงอู้อี้ ผลักหน้าหล่อออกแต่คนหื่นไม่ยอม“แงๆ มามี๊ค้าบ ป๋าค้าบ หาซีลอนหน่อย ฮือๆ”เสียงร้องไห้จ้าดังออกมาจากในห้องนอนราวกับรู้ว่าพ่อกับแม่กำลังจะทำอะไร มาร์ติน พิศลดากำลังจูบกันดูดดื่มผละกันออกจากกันอย่างรวดเร็ว“มั่นใจมากไม่ใช่เหรอคะว่าลูกไม่ตื่นง่ายๆ รีบปล่อยเลยค่ะ จะรีบไปดูลูก” มองค้อนสามีมาร์ตินยิ้มอ่อน ยอมปล่อยเมียรักเมื่อเสียงร้องดังขึ้นเรื่อยๆ ลุกได้พิศลดาก็รีบเดินเข้าไปในห้องนอนโดยมีร่างสูงตามมาติดๆ“มามี๊มาแล้วครับ เลิกร้องนะครับคนดีของมามี๊” พิศลดาอุ้มลูกน้อยมากอดไว้แนบอก ลูบหลังเล็กๆ ปลอบประโลม“มามี๊หาซีลอนแล้ว” ใบหน้าเล็กๆ ซบลงบนอกนุ่มๆ ด้วยความคิดถึง“ครับลูก มามี๊กลับมาแล้ว คิดถึงหนูกับพี่จัสมินมากเลย” ริมฝีปากประทับแนบศีรษะลูกชายด้วยความเอ็นดู ไม่ว่าสามีหรือลูกก็อ้อนพอกัน เรียกว่าไม่มีใครน้อยหน้าใคร“ฮื้อ” คราวนี้เป็นลูกสาวคนสวยที่ลืมตาตื่น คุณพ่อยิ้มอบอุ่น ช้อนลู
“พาลูกเมียออกมาได้แล้วเหรอไอ้ฝรั่ง” พ่อสุชาติกำลังนั่งดื่มกาแฟมองค้อนลูกเขยตาคว่ำ“คุณพ่ออย่างอนผมสิครับ ผมก็พาออกมาแล้วนี่ไง เมื่อคืนก็ยึดจัสมินกับซีลอนไปนอนกอดไว้ทั้งคืน เช้านี้ผมก็ต้องใช้เวลากับลูกๆ บ้าง คุณพ่อจะยึดไว้คนเดียวไม่ได้หรอกนะครับ” มาร์ตินปล่อยลูกลงยืนเพื่อให้ไปหาคุณตา“แกอยู่กับลูกทุกวันนานๆ ฉันจะมีโอกาสได้เลี้ยงหลาน มาที่นี่แกก็ต้องให้เวลาฉัน และแม่นวลอยู่กับลูกหลานเยอะๆ”“เถียงกันไปก่อนนะคะ หนูจะไปดูข้าวให้ลูก จัสมินกับซีลอนไปกับมามี๊ไหมคะ”สาวน้อยกับหนุ่มน้อยพยักหน้าถี่ วิ่งมาเกาะขาคุณแม่คนละข้าง พิศลดาพาเด็กๆ แยกตัวออกมา ส่วนหนึ่งเพราะไม่อยากฟังสองหนุ่มโต้กันไปมา ไม่มีใครยอมใครจริงๆ นิสัยก็คล้ายกันมาก ขึ้นชื่อเรื่องความหวง“ไปนั่งไกลๆ ฉันเลยไอ้ฝรั่ง ที่นั่งมีตั้งเยอะ จำเป็นต้องมานั่งตรงนี้ไหม” เหล่ตามองพ่อของหลาน“ผมพอใจจะนั่งตรงนี้ครับคุณพ่อ เราสองคนมาสงบศึกกันดีกว่าไหมครับ คุณพ่อไม่เหนื่อยบ้างเหรอครับหาเรื่องผมได้ตลอดเวลาเลย” เจอหน้ากันทีไรลับฝีปากกันตลอด“ถามมาได้ว่าเหนื่อยไหม มันก็ต้องเหนื่อยสิวะ ถ้าไม่อยากให้ฉันเหนื่อยแกก็เลิกกวนอารมณ์ฉันเสียสิ!” พ่อสุชาติพูดเสี
“เมียจ๋า ผัวอยากรักหนูรับแสงวันใหม่ จะได้กระปรี้กระเปร่ากระชุ่มกระชวยตลอดวัน” เสียงอ้อนดังชิดใบหูขาวผ่อง ขบเม้มติ่งหูเมียจนเธอขนลุก “จะนอน ไม่อยากกนะชุ่มกระชวยค่ะ” ใบหน้างามเริ่มยุ่งเมื่อถูกรุกรานหนักเข้า ทว่าก็ยังไม่ยอมลืมตา “ไม่นอนแล้วทูนหัว ตื่นมาให้ผัวอึ๊บซะดีๆ ผัวหิวเมียจะแย่แล้ว” เอื้อมมือบีบเคล้นอกอวบที่ยังคงเต่งตึงเหมือนครั้งแรกที่เคยสัมผัส ทั้งลูกทั้งผัวดูดมันก็ยังไม่หย่อนคล้อยแม้แต่น้อย “หนูง่วง อย่าเพิ่งกวน จะหิวอะไรนักหนาล่ะคะ กว่าจะได้นอนก็ตีสาม ถ้าตื่นแล้วก็ไปดูลูกค่ะ” พูดเสียงแข็งด้วยความรำคาญ “ป่านนี้ลูกคงเล่นอยู่กับคุณตา คุณยาย มีคนช่วยดูแล้วเราควรทำกิจกรรมระหว่างผัวเมียต่อนะทูนหัว” พรมจูบที่ซอกคอขาว “ของหนูมันไม่ได้เสริมด้วยเหล็กนะคนบ้า ถึงได้หื่นไม่กลัวพัง หนูยังต้องใช้ไปตลอดชีวิตนะคะ” พิศลาลืมตาขึ้นมาด้วยความโมโห “ป๋ารู้ว่าของเมียไม่ได้เสริมด้วยเหล็ก เพราะมันทั้งดูด ทั้งตอด ทั้งอ่อนนุ่ม แล้วป๋าเองก็ต้องใช้ของหนูไปอีกแสนนานเหมือนกัน ไม่มีทางปล่อยให้พังเด็ดขาด” ลูบฝ่ามือบนเนินอวบแผ่วๆ “แต่หนูกลัวค่ะ!” “ไม่ต้องกลัว เพราะถ้ามันพังมันคงพังไปนานแล้ว” มาร์ตินพลิกร่
มาร์ตินพาลูกมาทานเค้กตามความต้องการ ลูกค้าภายในร้านให้ความสนใจกับสามคนพ่อลูกที่มักจะมีภาพน่ารักๆ ออกมาให้เห็นผ่านโซเชียลเป็นประจำ คนหวงลูกเกิดอาการไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่ต้องตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่น ถ้าไม่ติดว่าลูกกำลังทานกันเอร็ดอร่อยเขาจะอุ้มกลับบริษัทซะเดี๋ยวนี้เลย“ป๋ากินเค้กค่า” จัสมินตักเค้กช็อกโกแลตเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วมาจ่อปากคุณพ่อที่นั่งหน้าบึ้งอยู่ข้างๆ อย่างเอาใจ เพราะคิดว่าพ่อคงอยากกินบ้างมาร์ตินมองช้อนเล็กๆ ในมือลูกพลางอมยิ้ม ยอมอ้าปากทานเค้กที่ลูกสาวคนสวยป้อน ยกมือขึ้นลูกศีรษะทุยเบาๆ “อร่อยมากเลยค่ะจัสมิน”“ป๋ากินอีกนะคะ” สาวน้อยตักป้อนอีก“ป๋ากินของซีลอนด้วยนะค้าบ” หนุ่มน้อยก็ไม่ยอมน้อยหน้าพี่สาว รีบตักของตัวเองมาจ่อปากคุณพ่อบ้างมาร์ตินมองลูกรักสองคนที่แย่งกันป้อนขนมเขาอย่างมีความสุข สลับกับป้อนใส่ปากตัวเอง จนกินไม่ไหว ลูบพุงน้อยๆ ของตัวเองกันทั้งคู่“อิ่มแล้วเหรอลูก” มาร์ตินหยิบทิชชู่มาเช็ดปากเลอะๆ ของลูกๆ อย่างอ่อนโยน มองดูพุงป่องๆ อย่างชอบใจ“ค่าอิ่มแล้ว ป๋าอิ่มยังคะ” จัสมินปีนขึ้นมานั่งตักคุณพ่อ เอาแขนเล็กๆ คล้องคอ แนบใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มลงบนไหล่แกร่งอย่างออดอ้อนเลยได