LOGIN"ข้าเคยบอกไปแล้วว่าผู้หญิงคนนี้มันเป็นตัวกาลกิณี ฤกษ์แต่งไม่มีหรอก!"
ยายนวลมองแม่หมอที่พูดจบแล้วหันไปยิ้มกับกะทิอย่างมีเลศนัย สองแม่ลูกนี่อยากจะจับหลานชายให้อยู่หมัดทำไมยายนวลจะไม่รู้ ไอเรื่องตัวกาลกิณีกับฤกษ์ยามที่หาไม่ได้ก็คงตั้งใจพูดขึ้นมาก็เท่านั้น
"ดีเลยค่ะ ไม่มีฤกษ์ งั้นไม่ต้องแต่งหรอกนะคะ" แทนที่หวานใจจะเสียใจแต่กลับยิ้มร่าจนเสือหาญกลายเป็นคนหงุดหงิดกับรอยยิ้มนั้นซะเอง การไม่ได้แต่งกับผู้ชายอย่างเขาหวานใจควรจะต้องเสียใจถึงจะถูก แต่ไอท่าทางโล่งอกโล่งใจแล้วยังหันไปยิ้มกับเสือมิ่งนี่มัน อยากจับมาหักคอเสียจริง
"ไม่ได้ ยังไงก็ต้องแต่ง ถึงแม่หมอจะไม่มีฤกษ์ก็ไม่เป็นไร แต่ข้ามี"
หวานใจหันไปมองเสือหาญแล้วอ้าปากค้าง อุตส่าห์ดีใจแต่ยิ้มได้ไม่ถึงสองนาทีก็ต้องกลับมากลุ้มอีกแล้ว
"ในเมื่อเป็นอย่างนี้ก็เอาฤกษ์สะดวก วันอาทิตย์หน้าเลยเป็นยังไง"
"อะไรนะ!?"
เสือหาญอุทานลั่นกำลังจะเอ่ยปากคัดค้านแต่ยายนวลยกมือปามเอาไว้ ก็อย่างที่บอกยายนวลอยู่เหนือเสือหาญทุกสิ่ง ไม่เคยมีสักเรื่องที่ยายนวลต้องการแล้วเสือหาญจะขัดใจ สุดท้ายก็เลยได้แต่เดินหนีออกไปจากตรงนี้ก่อนที่จะหัวเสียมากกว่าเก่า
กะทิลุขึ้นมองตามเสือหาญไปแล้วกำมือแน่นก่อนจะกระทืบเท้าลงที่พื้นอย่างคนโดนขัดใจจนแม่หมอลุกขึ้นมาลูบหัว ยายนวลเอ่ยปากสั่งเพ้งห้เดินพาหวานใจไปส่งที่บ้านก่อน แล้วหันมาจ้องสองแม่ลูกตาเขม็ง
"เอ็งอย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเอ็งทำอะไรนะ ความสามารถที่เอ็งมี หากใช้ในทางที่ถูกมันก็จะดีกับตัวเอ็งเอง"
"ยายพูดอะไรจ๊ะ แม่ฉันพูดไปตามจริง"
"เอ็งรู้ดีแก่ใจว่าแม่เอ็งพูดจริงหรือไม่จริง อย่าลืมว่าข้าเองก็ร่ำเรียนมาครูเดียวกับเอ็งนะนังก้อน แล้วก็เรียนมาก่อนเอ็งด้วยซ้ำ"
ยายนวลชี้หน้าคนไม่รู้จักความแล้วเดินออกไป ไม่ได้สนใจแม่หมอที่ยืนกำมือแน่นโกรธเคืองกับท่าทีถือดีนั่นที่ทำใส่กัน ยายนวลมีวิชาติดตัวมากกว่าแม่หมออยู่มากโข แต่ไม่ชอบความวุ่นวายถึงได้ไม่บอกใคร ปกติไม่เคยมายุ่งต่อให้แม่หมอจะพูดเรื่องที่ไม่จริงออกมาแค่ไหน แต่ครั้งนี้ดูท่าแล้วยายนวลน่าจะอยากได้นังผู้หญิงคนนั้นมาเคียงคู่กับเสือหาญจริงๆ
"อย่างนั้นมันจะได้พี่เสือหาญของฉันไป ตามดวงสมพงศ์หรอจ๊ะแม่"
"เอ็งเป็นลูกสาวคนเดียวของข้า เอ็งอยากได้อะไร เอ็งก็ต้องได้"
หวานใจขอแยกกับเพ้งเพื่อออกมาเดินเล่นคลายเครียดหน่อย ใจจริงตั้งใจมาหาเสือหาญให้เจอเพื่อคุยกันนั่นแหละ เธอเดินมาเรื่อยๆจนถึงท้ายหมู่บ้านเพราะคิดว่าน่าจะเป็นที่ที่เสือหาญหลบมาอยู่ มองซ้ายทีขวาทีก่อนจะเดินไปใกล้กับลานฝึกมวย หยุดยืนมองเสือหาญที่ยืนหันหลังกำลังเตะต้นกล้วยอยู่ เตะเข้าไปทีเดียวก็หักเลยหรอ นี่ถ้าเธอโดนเสือหาญเตะเข้าละก็ไส้ต้องแตกแน่เลย
ค่อยเดินก้าวเข้าไปหาหวังจะได้พูดคุยกับเขา แต่คงเพราะเธอเข้าไปไม่ให้สุ้มให้เสียงเสือหาญก็เลยหันมาทั้งกำปั้นที่เกือบจะอัดเข้าที่หน้าเธอ หวานใจหลับตาปี๋เตรียมตั้งรับก่อนจะลืมมามองอีกครั้งแล้วเห็นหมัดของเสือหาญอยู่ห่างจากหัวแค่คืบเดียว
"เข้ามาไม่ให้สุ้มให้เสียง"
เสือหาญก้มหน้าดึงผ้าพันมือแล้วพูดไปด้วยก่อนจะขมวดคิ้วแล้วเงยมามองเพราะเห็นว่าหวานใจไม่พูดอะไรตอบกลับมา เห็นอีกคนยืนนิ่งดวงตากลมมองต่ำอยู่ช่วงท้องของเขา ลำคอที่กลืนน้ำลายลงทำให้เขาแอบขำใน เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นเขาถอดเสื้อละสิ
"เอ็งมองพอรึยัง?"
"ยัง เอ้ย ไม่ ไม่ใช่แบบนั้นนะ"
"น้ำลายเอ็งไหลแล้ว"
มือเล็กรีบยกขึ้นจับที่ปากของตัวเองถึงได้รู้ว่าเสือหาญแค่พูดแกล้งกัน แสร้งเสมองไปทางอื่นแล้วพรูลมหายใจออก
"อยากดูก็ดูเถอะ ข้าไม่ได้หวง"
"ฉันไม่ได้ดูสักหน่อย!"
"เรื่องแต่งงานเอ็งว่ายังไง?"
"คุณคิดยังไง ฉันก็คิดแบบนั้นแหละ"
"งั้นถ้าข้าบอกว่าอยากแต่ง เอ็งก็จะแต่งงั้นสิ"
หวานใจเบิกตากว้าง เมื่อกี้ได้ยินไม่ผิดใช่ไหม เสือหาญนี่แกล้งผิดที่ผิดเวลาเกินไปแล้ว
"คำสั่งยายนวลข้าขัดไม่ได้"
"ฉันก็ไม่กล้าขัดเหมือนกัน"
"งั้นก็แต่ง"
เสือหาญพูดออกมาได้หน้าตาเฉย ทั้งที่ก่อนหน้ายังดูหงุดหงิดมากแท้ๆ ดูแล้วยังไงอีกคนน่าจะไม่ได้ยอมแต่งแบบเสียเปล่า น่าจะคิดอะไรเอาไว้แล้วมากกว่า
"แต่งไปก่อน แล้วก็ทำให้ยายเห็นว่าข้ากับเอ็งไม่มีวันอยู่ด้วยกันได้ ถึงตอนนั้นยายก็คงไม่ขัด"
"ฟังเข้าท่าดี คุณก็ไปบอกเมียคุณด้วยสิ จะได้ไม่มาวีนใส่ฉันอีก"
"ใคร?"
"กะทิไง"
"เอ๊ะ ข้าพูดกี่รอบแล้วว่ามันไม่ใช่เมียข้า" เขาเริ่มจะหัวเสียกับหวานใจเรื่องที่บอกว่ากะทิเป็นเมียเขาซะแล้ว บอกไปไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบก็ไม่จำ ว่าเขากับกะทิไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย
หวานใจยักไหล่ไม่รู้สึกรู้สาหมุนตัวเตรียมเดินออกไปแต่โดนเสือหาญรั้งแขนไว้ ขาเรียวเซไปด้านหลังเหมือนจะล้มลงแต่แขนของเสือหาญรับเอาไว้ได้ซะก่อน
ไม่รู้ทำไมยามที่ได้สบตากันอย่างนี้ ทุกอย่างถึงหยุดนิ่งไปเสียหมด จนลืมตัวเลยว่าต้องผละออกจากกันถ้าเสือมิ่งไม่เดินเข้ามาก็คงจะยังมองกันอยู่อย่างนั้น
"เอ็งมาอยู่นี่เอง ข้าตามหาอยู่"
"เสือมิ่งมีอะไรกับฉันหรอคะ?"
"ฉันขอตัวคุณหวานใจก่อนนะจ๊ะพี่หาญ ไว้จะพาไปส่งที่บ้าน"
เสือหาญรั้งแขนหวานใจเอาไว้ไม่ให้เดินตามคนที่พึ่งขออนุญาตเขาเมื่อครู่ ก็ไม่รู้ทำไมถึงต้องทำแบบนี้ แต่แค่รู้สึกไม่อยากป่อยให้หวานใจไปกับเสือมิ่งก็เท่านั้น สุดท้ายไม่พูดอะไรก็ลากหวานใจไปด้วยกันปล่อยให้ใครอีกคนมองตามทั้งยิ้มมุมปาก
หวานใจถูกลากกลับมาจนถึงบ้านเสือหาญทั้งที่อีกคนไม่พูดไม่จาสักคำ ก่อนจะเจอเข้ากับยายนวลที่ยืนรออยู่หน้าบ้าน เหมือนกำลังจะเตรียมออกไปหาสมุนไพรอย่างทุกที
"จะไปหาสมุนไพรหรอคะ หนูขอไปด้วยได้ไหม?"
"อย่างเอ็งจะไปทำไม เกะกะยายเปล่าๆ"
"ได้สินังหนู เอ็งก็ไปด้วยกันเสือหาญ ไปช่วยข้า"
รอบมองรอยยิ้มหวานของหญิงสาวที่ดูจะดีอกดีใจที่ได้ไปเดินหาสมุนไพรกับยาย ยิ้มเข้าไปเถอะ ในตอนที่ได้ลิ้มรสความลำบากก็จะรู้เอง
หวานใจเดินประคองยายนวลไม่ห่าง แถมตลอดทางเสือหาญยังได้ยินเสียงเล็กเอ่ยคุยกับยายนวลไม่หยุด ทีตอนอยู่กับเขาไม่เห็นจะพูดเก่งอย่างนี้
"เอ็งนี่พูดมากจัง"
"คุณก็ขี้บ่นมากเหมือนกัน"
"นังหวานใจ!"
"พอๆ อีกนิดก็จะแต่งงานกันแล้ว อย่าตีกันมากนัก" ยอมสงบปากสงบคำลงก็เพราะคำพูดของยายนวลหรอกนะ ไม่งั้นนังหวานใจตัวดีโดนเขาจัดการแน่
"อันนั้นกล้วยไม้ป่าหรือเปล่าคะ?"
หวานใจชี้ไปที่ดอกไม้บนกิ่งต้นไม้สูงใหญ่ตรงหน้าแล้ววิ่งเข้าไปดู มันออกดอกสวยมากแสดงให้เห็นว่าในป่าของธาราวิหคอุดมสมบูรณ์แค่ไหน ริมฝีปากบางเม้มลงด้วยความอยากได้ แต่มันดูจะอยู่สูงเกินไป
"คุณหวานใจอยากได้หรอจ๊ะ เดี๋ยวเพ้งขึ้นไปเก็บให้"
"มันหน้าที่มึงหรือไงไอเพ้ง เดินตามยายไปนู่น ใครอยากได้ก็ให้เก็บเอาเอง" รอยยิ้มบนใบหน้าหายไปทันที เสือหาญนี่ชอบทำลายความสุขของหวานใจอยู่เรื่อย เธอได้แต่มุ่ยหน้าแล้วเดินตามยายนวลไปอีกคน
ก้าวเดินไปแล้วช่วยยายนวลเก็บสมุนไพรที่ยายนวลเคยสอนให้รู้จัก เดินเก็บอยู่นานก็ต้องเงยหน้ามาในตอนที่ยายนวลถามหาใครอีกคน เสือหาญหายไปสักพักแล้ว แต่ก็ช่างเถอะ ถึกซะขนาดนั้น ใครจะไปทำอะไรได้
"นังหนูเก็บตรงนั้นเสร็จแล้วตามไปทางนี้นะ"
"ค่ะ"
หวานใจก้มหน้าง่วนอยู่กับสมุนไพรโดยไม่ได้สนใจใครที่ก้าวเดินเข้ามา กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนดอกกล้วยไม้ป่ายื่นมาให้ตรงหน้า เผยรอยยิ้มออกมาทันที่เห็นพอหันไปก็เห็นว่าเป็นเสือหาญยืนอยู่ อย่าบอกว่าเขาไปเก็บให้นะ น้ำต้องท่วมโลกแหง
"ให้ฉันหรอ?"
"ข้าคงไม่เก็บมาให้ตัวเองหรอกมั้ง"
"เก็บให้ฉันจริงๆด้วย ขอบคุณนะ"
ยิ้มมีความสุขขนาดนั้นเชียว กะอีแค่ดอกกล้วยไม้แค่นี้เนี่ยนะ ก็พึ่งรู้ว่าผู้หญิงมีความสุขได้จากเรื่องเล็กๆพวกนี้
มือเล็กเด็ดออกมาดอกหนึ่งแล้วพยายามจะเสียบที่มวยผมแต่ก็ทำได้ลำบาก ความขัดใจทำให้เสือหาญหยิบมันมาจากมือแล้วค่อยๆเสียบเข้าไปให้ พอผละออกมาก็เห็นใบหน้าเปื้อนยิ้มนั่น
"สวยไหม?"
เหมือนหูจะอื้อไปพักใหญ่ในตอนที่ได้ยินคำถาม เสือหาญเอาแต่มองจ้องใบหน้าหวานใจนิ่ง ไม่รู้ว่าสวยจนหยุดมองไม่ได้ หรือเพราะหาคำตอบให้คำถามเมื่อครู่ไม่ได้กันแน่
ป็อก!
"โอ๊ย! มาดีดหน้าผากทำไมเนี่ย!"
"หน้าตาขี้เหร่ปานนี้ กล้าถามมาได้ว่าสวยไหม"
เสือหาญทิ้งตัวคุกเข่าลงอย่างไม่นึกห่วงคำว่าศักดิ์ศรี เขาตะโกนขอร้องเสียงดังลั่นให้เธอไม่ก้าวต่อไปอีก น้ำตาถูกปลดปล่อยออกมาจนนองหน้า เสือหาญคนนี้ไม่เคยเสียน้ำตาเพราะใครมาก่อน แต่ในครั้งนี้เขาไม่อาจต้านทานความเจ็บปวดในใจได้แม้เพียงสักนิด“พี่ยอมแล้ว พี่ยอม…แล้ว” เขาเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงสั่น แขนแกร่งพยายามอ้าออกหวังเพียงให้คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นเดินกลับมาหาอ้อมกอดของเขา แต่หวานใจยังคงยืนนิ่ง“หวานจะมั่นใจได้ยังไง ฮึก ว่าพี่จะไม่หลอกกันอีก” เสือหาญได้ยินสิ่งที่หวานใจถามแล้วก็ได้แต่นั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง เขามองเท้าของหวานใจที่หมิ่นอยู่ตรงผาน้ำตก ถ้าขยับแค่เพียงนิดเดียวหรือพลาด อีกคนคงจะตกลงไปในทันที“หวานใจเข้ามานะลูก แม่จะช่วยคุยกับพ่อให้ ฮึก อย่าทำแบบนี้นะลูก” วารินเองก็ร้องปานจะขาดใจ แต่เธอไม่นึกโกรธเคืองลูกสาวที่ตัดสินใจทำอย่างนี้เลย จะมีใครเข้าใจความเจ็บปวดของลูกมากเท่าคนเป็นแม่ และในตอนนี้หวานใจกำลังท้อง ในใจดวงน้อยคงจะอ่อนไหวมาก“กลับมาหาพี่เถอะ พี่ขอร้อง”“พี่หาญ….”&ldqu
หวานใจรอบสังเกตเสือหาญที่เอาแต่หันมามองเธอเป็นระยะ แม้จะแปลกใจนิดหน่อยที่ยายนวลไม่ออกมาหาสมุนไพรครั้งนี้ด้วย แต่ก็ไม่อยากคิดมากเกินไป เธอพยายามก้าวเดินอย่างระวัง แต่ก็ยังพลาดเกือบล้มลงแต่เสือหาญโอบรับเอาไว้แน่นดวงตาคมมองดุจนหวานใจยู่ปากแล้วก้มหน้าหนี ครั้งนี้เสือหาญดึงมือของหวานใจมากุมเอาไว้ ดวงตากลมมองดูมือที่ถูกเขากอบกุมแล้วยิ้มกว้าง ก่อนจะหุบยิ้มเมื่อเงยหน้ามองไปข้างหน้าแล้วเห็นคนที่เธอไม่ควรเจออยู่ที่นี่“คุณแม่” หวานใจพูดขึ้นมาเสียงสั่น หันมองเสือหาญด้วยดวงตาเอ่อคลอน้ำตา กว่าเธอจะเข้าใจทุกอย่างก็สายเกินไปแล้ว ที่เขาทำเป็นดีกับเธอเมื่อวาน ทั้งยังชวนเธอออกมาที่นี่ แค่เพราะต้องการจะส่งเธอกลับไปเท่านั้น“หวานใจ….” เธอสะบัดมือที่เขาเกาะกุมอยู่ออก น้ำตาที่เอ่อคลอมานานไหลอาบแก้ม ที่แท้แล้วแม้เธอจะมีลูกของเขาอยู่ในท้อง นั่นก็ไม่มีประโยชน์ที่จะทำให้เขาอยู่ด้วยกัน“ทำไมทำอย่างนี้ลูก แม่กับพ่อเป็นห่วงมากนะ” วารินเดินเข้ามากอดลูกสาวแน่น หวานใจร้องไห้ออกมาหนักขึ้นแล้วโอบกอดแม่เธอเอาไว้“หวานใจ พี่….&
เสือหาญกำลังซ้อมยิงปืนอย่างตั้งใจ ฝีมือของเขายังคงดีไม่มีตก ในครั้งนี้ทันทีที่เห็นเป้าแสนคุ้นตากลับนึกถึงใครบางคน นึกถึงวันนั้นที่บ้าบิ่นให้หวานใจไปเป็นเป้าแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ ผ่านมาร่วมเดือนแล้ว แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่เขาจะหยุดคิดถึง"พี่หาญจ๊ะ""ไอโชคมาพอดี ข้ากำลังเบื่อๆ มาแข่งยิ่งปืนกัน""พี่หาญ คือ...ฉันพาคนมาหาพี่""ใคร?" เสือหาญถามแล้วหันมามอง ทันทีที่เสือโชคเบี่ยงตัวหลบก็ทำให้เขานิ่งไป นี่ไม่ใช่ว่าเขาคิดถึงหวานใจจนเพี้ยนไปแล้วใช่ไหมราวกับมีบางอย่างดึงดูดให้เดินเข้าหากัน เสือหาญมองหวานใจตั้งแต่หัวจรดเท้า ชายกระโปรงกับรองเท้าที่เลอะเทอะ ไหนจะใบหน้าที่เปื้อนดำปะปนกับหยาดน้ำตา ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะยกมือไปเช็ดให้"ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่?""เพราะพี่อยู่ที่นี่" เสือหาญลูบแก้มเนียนแผ่วเบา เขาพึ่งได้เข้าใจว่าความคิดถึงมันทรมานขนาดนี้ อยากกอดคนตรงหน้าเอาไว้แน่นๆ แต่ก็หยุดชะงักและหยุดความคิดที่จะโอบกอดเอาไว้ได้"กลับไปเถอะ อย่าอยู่ที่นี่เลย""ไล่หรอ? ทำไม ฮึก ทำไมถึงใจร้ายขนาดนี้""ไอโชค กูฝากไปส่งหวานใจออกไปจากที่นี่ด
แสงแดดอุ่นสาดมารบกวนคนที่นอนอยู่บนเตียงนุ่ม มือเล็กควานหาใครบางคนที่ควรจะนอนอยู่บนเตียงด้วยกันหลังจากที่ผ่านบทรักอย่างหนักหน่วงมาตลอดคืนแต่ก็ไม่เจอใคร ดวงตากลมลืมขึ้นมองดู สัมผัสที่นอนข้างกายเย็นเฉียบราวกับว่าไม่ได้มีใครนอนอยู่ข้างกายมาตลอดทั้งคืน"หายไปไหนแต่เช้านะ" หวานใจรู้สึกใจโหวงขึ้นมาจนน่าแปลกใจกับการตื่นมาแล้วไม่เจอเขาในครั้งนี้ เธอก้าวลงจากเตียงนอนด้วยความร้อนใจ แต่ไม่ทันได้ไปไหนก็เหลือบไปเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งกับสร้อยแสนคุ้นตาวางอยู่มือบางสั่นเทายามที่เอื้อมไปหยิบมันขึ้นมา แม้จะไม่อ่านมันก็สามารถเข้าใจได้ในสถานการณ์ เขาหายไปทั้งทิ้งจดหมายกับสร้อยเอาไว้ที่นี่ จะมีอะไรได้ นอกจากเขาจะทิ้งเธอไปโดยไม่บอกกล่าว"หวานใจคนดีของพี่ ในตอนนี้พี่ดีใจที่เราต่างก็จำทุกอย่างได้ พี่มีสิ่งหนึ่งที่พี่ตระหนักได้และพี่ควรบอกหวานให้รับรู้คือพี่หาญคนนี้รักหวานใจสุดหัวใจ แต่พี่คงไม่สามารถทิ้งคนที่ธาราวิหคเพื่ออยู่กับหวานที่นี่ได้ หรือแม้แต่หวานเองก็ไม่สามารถทิ้งชีวิตที่ดีของหวานไป ดังนั้นตอนนี้พี่ตัดสินใจแล้วว่าเราแค่ต้องอยู่ในที่ที่ตัวเองควรอยู่หวานต้อง
"แม่เห็นพี่หาญบ้างไหมคะ?" หวานใจเอ่ยปากถามแม่ที่กำลังนั่งป้อนมื้อเที่ยงให้เธอ ดวงตากลมเฝ้ามองประตูด้วยความสงสัยเสือหาญหายไปตั้งแต่เมื่อเช้า จนกระทั่งตอนนี้เธอก็ยังไม่เห็นเขาเลย"อาจจะกลับไปทำธุระที่บ้านก็ได้ลูก""หรอคะ" ไม่รู้ทำไมแต่ในใจเธอกับรู้สึกว้าวุ่นไปหมด ความรู้สึกในตอนนี้มันโหวงราวกับว่าไม่อยากให้เขาอยู่ห่างกาย กลัวว่าเขาจะหายไปไหน แล้วต้องแยกจากกันอีก"นั่นไงมาแล้ว" เป็นเสือหาญที่เดินเข้ามาพร้อมกับดอกไม้ดอกหนึ่งที่เธอคิดว่าน่าจะเด็ดทันมาจากสวนที่บ้านเธอ หวานใจส่งยิ้มให้เขา แม้เขาจะส่งกลับมาแต่เธอกลับรู้ว่ารอยยิ้มนั้นมันฝืนเหลือเกินวารินหลีกทางให้เสือหาญกับลูกสาวได้อยู่ด้วยกันตามเคย แม้เรื่องที่พ่อเลี้ยงหิรัญพูดจะน่าคิด แต่ยิ่งเห็นว่าทั้งสองมีความรู้สึกที่ดีต่อกันมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งยากที่จะแยกสองคนให้ห่างจากกันเสือหาญยื่นดอกไม้ในมือให้หวานใจ เขาพยายามเผยรอยยิ้มให้อีกคนได้เห็น หวานใจจะได้ไม่รอบสังเกตถึงสิ่งที่เขากำลังคิดอยู่ในใจจู่ๆ มือหนาก็ลูบหัวจนหวานใจต้องเงยหน้ามา เธอหรี่ตาทั้งจ้องตากับเขาจนเขาต้องเป็นคนหลบตาไปเอง มือเล็กสองข้าง
“ตอนนี้หวานจำได้แล้ว วันนั้นที่พี่พยายามจะทำร้ายหวาน มันเป็นเพราะพี่ถูกฉีดยา แต่พี่ก็สู้เต็มที่ พยายามเต็มที่เพื่อให้ตัวเองมีสติจนต้องทำร้ายตัวเองเพราะพี่อยากให้สติของพี่กลับมา”“……” เสือหาญหยุดเงียบเพื่อฟังในสิ่งที่อีกคนเล่าอย่างไม่เข้าใจ หรือว่าที่เขาจำในช่วงที่อีกคนเล่าไม่ได้ ไม่ใช่เพราะเขาความจำเสื่อมเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะเขาทำทุกอย่างด้วยฤทธิ์ยา“พี่เลือกที่จะหนีไปไกล เพื่อทำให้ทุกอย่างชุลมุน ตำรวจถึงหาหวานเจอได้ทันเวลาไง”“จะ จริงหรอ?” เขาถามอย่างคาดคั้นและในใจก็หวังให้เป็นความจริง อย่างน้อยเมื่อได้รับรู้ว่าตัวเองไม่ได้ทำร้ายหวานใจก็ทำให้เขาสบายใจขึ้นมาก“อื้ม แล้วอย่างนี้ หวานจะไปเกลียดพี่ได้ยังไง”“ละ แล้วทำไมหวานถึงลืมพี่ละ?” เอ่ยถามคำถามที่ต้องการอยากรู้มากที่สุด ถ้าเกิดเขาไม่ได้ทำร้ายเธออย่างที่เราเข้าใจกันไปในตอนแรก แล้วทำไมหวานใจถึงเลือกที่จะลืมเขา“ที่หวานลืมพี่ ไม่ใช่เพราะหวานเคยถูกพี่ทำร้าย แต่มันเพราะหวานเห็นว่าพี่







