ตอนเช้า
“ทำไมปวดหัวแบบนี้นะ” ร่างบางค่อย ๆ ขยับเปลือกตาขึ้นเมื่อแสงแดดแยงตา ส่องกระทบเข้าที่ใบหน้าหวาน รู้สึกปวดหัวอย่างที่เธอไม่เคยปวดมากแบบนี้มาก่อน
“เมื่อคืน” มันเหมือนจะจำอะไรได้แต่ก็จำอะไรไม่ได้
พรึบ!!
“ว่าแต่” เธียร ดีดตัวลุกขึ้นมองไปรอบ ๆ ห้อง
“ที่นี่ที่ไหน? ห้องใคร? แล้วมาอยู่ที่นี่ได้ไง?” คำถามนับร้อยพุ่งเข้ามาในหัว
“เสื้อผ้า” พร้อมก้มสำรวจร่างกายตัวเอง
“เฮ้อ” หญิงสาวถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เธอยังใส่ชุดเดิม ร่างกายไม่มีอะไรบุบสลาย ไม่เจ็บไม่ปวด
“แล้วที่นี่มันที่ไหน?” เด็กสาวในชุดคอสเพลย์สุดเซ็กซี่ ค่อย ๆ ก้าวขาเดินสำรวจห้องที่ถูกตกแต่งอย่างเรียบหรู ในโทนแดงดำ มันดูแปลก ๆ แต่ก็ดูสวยมันดูลึกลับน่าค้นหา
สองขาเรียวยังคงก้าวเดินสำรวจห้องไปเรื่อย ๆ อย่างเพลิดเพลิน
พรึบ!!
โครม!
เพล้ง!!
“เฮือก!!” เธอสะดุ้งตกใจจนมือเธอเผลอไปปัด โมเดลจำลองเรือ Costa neoromantic มูลค่าหลายสิบล้านที่ทำจากคคริสตัลแท้ ตกลงแตกละเอียด เพราะมัวแต่เดินเหม่อมองนี่นั่นไม่ดูทาง ร่างบางชนเข้ากับแผงอกแกร่งไร้เสื้อผ้าปกคลุมของเจ้าของห้องเข้าอย่างจัง
“…..” คนตัวเล็กในอ้อมแขนคนตัวโตตาเบิกกว้างตกตะลึงกับใบหน้าหล่อคม มือเล็กนุ่มที่ลูบจับหน้าอกเขาอย่างเผลอตัว สายตาเย็นชาดุดันจ้องใบหน้าหวานไม่กะพริบตา ใช่เขากำลังโมโหจนพูดอะไรไม่ออก
“จะลูบอีกนานมั้ย”
พรึบ!
ร่างเล็กถูกผลักเซถลาจนเกือบล้ม
‘ฉิบหายแล้วเธียร เธอทำอะไรลงไปเนี่ย’ พอตั้งสติได้มองดูความเสียหายที่เกิดขึ้นเธอถึงกับเข่าทรุด อายุยังไม่ทันจะเต็ม 18 ปีบริบูรณ์ เรียนก็ยังไม่จบจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าเสียหาย ดูท่าแล้วคงจะหลายหมื่น กับแค่เงินพันกว่าจะได้มาแต่ละบาทเลือดตาแทบกระเด็นนับประสาอะไรกับเงินหมื่น แล้วอีกไม่กี่เดือนก็จะจบ ม. 6 เงินค่าเทอมที่จะเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยยังไม่มีสักบาท ตายแน่ เธอตายแน่ ธีรดา
“ออกไปจากห้องฉันก่อนที่ฉันจะฆ่าเธอ”
“เฮือก” แล้วต้องตกใจกับน้ำเสียงเย็นยะเยือกที่เอ่ยขึ้นจากด้านหลัง แค่น้ำเสียงยังน่ากลัวขนาดนี้ไม่อยากจะคิดเลยว่าหน้าเขาจะดุขนาดไหน
“นะ...หนูขอโทษเดี๋ยวหนูจะจ่ายค่าเสียหายให้นะคะ” เด็กสาวค่อย ๆ หมุนตัวหันหน้าไปสบตาคู่ดุดันที่มองเธออย่างกับจะฆ่าคู่นั้น แล้วต้องกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ลงคอ เมื่อร่างสูงโปร่งผิวขาวเนียน มีแค่ผ้าขนหนูพันช่วงล่างเดินเข้ามาใกล้
“ฮึ จะเอาปัญญาที่ไหนมาจ่าย” เขาเหยียดยิ้มอย่างเย้ยหยัน
“หนูทำพังยังไงหนูก็ต้องจ่ายอยู่แล้ว แต่ขอเวลาหนูหน่อย 1 เดือน ขอเวลา 1 เดือนเงินหมื่นหนึ่งมันไม่ใช่น้อย ๆ นะ” ถึงไม่รู้จะไปหามาจากไหน แต่ทำของคนอื่นเสียหายยังไงก็ต้องชดใช้ ถึงจะไม่มีพ่อมีแม่สอนเรื่องพวกนี้แต่เด็กอย่างเธอก็มีจิตสำนึกมากพอ
“ฮึ...หน้าอย่างเธอจะเอาปัญญาที่ไหนมาจ่ายออกไปจากห้องฉันได้แล้ว! น่ารำคาญ!” เขาพูดแค่นั้นแล้วเดินเข้าไปในห้องนอนทันที
“ยังไงหนูก็จะหาเงินมาคืนพี่ให้ได้!” เสียงใสตะโกนตามหลังเขาอย่างหนักแน่นจริงจัง
“แล้วจะกลับยังไง เงินก็ไม่มีกระเป๋าก็อยู่ที่ไหนไม่รู้” แต่พอจะก้าวขาออกจากห้องก็นึกขึ้นได้ เงินเมื่อคืนก็ไม่ได้สักบาทไม่รู้ว่าใครเอาไปแล้วกระเป๋าก็อยู่ที่ร้าน ถึงจะมีเงินในนั้นแค่สองร้อยแต่สองร้อยสำหรับเธอมันมีค่าต่อชีวิตได้หลายวันเลยนะ
“พี่คะ” ธีรดากลั้นใจเดินตรงเข้าไปหาเขาที่เดินออกมาจากห้องนอนในชุดสูท เขาดูหล่อเรียบหรูดูแพงมาก แต่น่ากลัวไปหน่อยตรงที่สายตาคู่นั้นที่มองมามันดูเย็นเยือกจนน่าขนลุก มองมาทีทำเอาแทบหายใจไม่ออก
“คือว่าหนูขอยืมเงินพี่ได้มั้ยคะ สองร้อย” หญิงสาวฉีกยิ้มหวานชูนิ้วสองนิ้ว แต่ต้องหุบยิ้มเมื่อถูกสายตาพิฆาตคู่นั้นจ้องหน้าจนต้องรีบก้มหน้าหลบ
“มะ...ไม่เป็นไรค่ะ หนูขอตัวนะคะ ขอบคุณที่พี่ช่วยหนูไว้” ก็ไม่รู้เหมือนกันทำไมเธอถึงคิดว่าเขาช่วยเธอจากไอ้บ้ากามที่มันหลอกให้ดื่มเหล้าเมื่อคืนไว้ แต่ความรู้สึกเธอมันบอกว่าเขาเป็นคนดีถึงจะดูน่ากลัวก็เถอะ
ร่างเล็กในชุดน้อยชิ้นเดินก้มหน้าออกจากห้อง เฮ้อ...กว่าจะเดินถึงห้องคงสาย ๆ ถ้าไม่ได้อยู่ในชุดนี้คงไม่ต้องกลัว จะขอยืมเสื้อคลุมเขาก็คงจะไม่ได้ใครล่ะจะกล้าให้คนแปลกหน้ายืมของ
พรึบ!!!
“ตัวภาระ” ร่างเล็กเซถลาเมื่อถูกแจ็กเกตตัวใหญ่โยนใส่ตัว เสียงเข้มเอ่ยขึ้นอย่างหงุดหงิด เขาไม่ได้นึกพิศวาสหรือสงสารอะไรแค่เห็นแล้วมันรำคาญลูกตา ไม่น่าช่วยเด็กใจแตกนี้ไว้ตั้งแต่เมื่อคืน
น่าจะปล่อยให้ถูกลากไปข่มขืนเสียให้เข็ด อายุยังไม่ถึง 18 ด้วยซ้ำกลับทำตัวเหลวแหลก
“ตามมา”
“พี่จะไปส่งหนูเหรอคะ?” ขนาดเขาทำหน้ายักษ์ใส่ยังจะไปยิ้มให้อีก
“…….” แต่ก็ต้องเม้มปากแน่น สองเท้าเดินตามร่างสูงไปขึ้นรถ ก่อนรถ BM คันหรูจะขับออกไปด้วยความไว
“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง” สองมือยกมือไหว้ พร้อมรอยยิ้มที่จริงใจ แต่กลับได้แต่ความเงียบและความเฉยชา ก่อนสองขาจะก้าวลงจากรถ
“คนอะไรดุแต่หล่อ แล้วยังใจดีมาส่งด้วย” เธียรได้แต่มองตามรถหรูที่วิ่งออกไปด้วยความเร็ว ยิ่งนึกถึงใบหน้าหล่อคม สายตาเย็นชาแทนที่เธอจะกลัวแต่กลับยิ้มแสดงความชื่นชมเขา เพราะถ้าเป็นคนอื่นไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่นี่ร่างกายเธอมันยังปลอดภัยดีทุกอย่าง
“ตายแล้ว ทำไมขี้ลืมแบบนี้นะ” แต่ก็ต้องตีหัวตัวเองเมื่อนึกขึ้นได้ว่าลืมเอาเสื้อคืนเขาไป
“ไว้ค่อยเอาไปคืน คนอะไรตัวหอม ๆ” ไม่พูดเปล่ามือเล็กจับปกเสื้อขึ้นมาดม
“เธอทำบ้าอะไรของเธอเธียร ทำตัวเป็นโรคจิตไปได้!” ถึงจะบ่นให้ตัวเองแต่ก็ยังสูดดมเสื้อ กลิ่นนี้มันกลิ่นผู้ชายชัด ๆ กลิ่นมันหอมมันมาดแมนแฮนด์ซัม อดที่จะดมไม่ได้ ดมแล้วก็ต้องดมอีก
ก่อนร่างเล็กจะเดินยิ้มบิดตัวเขินอายเดินขึ้นไปบนห้องเช่าเล็ก ๆ เท่ารูหนูของเธอ จะทำไงได้ล่ะ เด็กที่ไม่มีพ่อมีแม่ อายุก็แค่นี้มีปัญญาเช่าห้องถูก ๆ แบบนี้อยู่ก็ดีเท่าไร ดีกว่าต้องไปนอนข้างถนนเหมือนตอนเด็ก ๆ
ที่เธอยอมไปทำงานแทนพี่สาว เพราะถ้าพี่สาวไม่ช่วยเด็กน้อยที่นอนตากฝนอยู่ข้างถนนวันนั้นไว้ก็คงไม่มีเธียร เด็กสาวที่มองโลกในแง่บวกไม่เคยคิดร้ายกับใคร ผู้ที่หัวใจมีแต่ศิลปะและมีความใฝ่ฝันที่จะเป็นจิตรกร
อยากสร้างสรรค์ผลงานอยากให้ทุกคนได้ยิ้มไปกับสิ่งที่เธอสื่อออกมา
“พี่พาร์ท” ตอนนี้เราสองคนอยู่หน้างาน และมือเท้ามันก็เย็นเฉียบรู้สึกประหม่าจนก้าวขาไม่ออก“กลัวอะไรฉันอยู่ตรงนี้ทั้งคน” เขาหอมที่หัวหนัก ๆ หนึ่งทีแล้วเดินโอบเอว พาฉันเดินเข้าไปในงาน และพอเราสองคนเดินเข้าไปทุกสายตาก็มองมาที่ฉันเป็นตาเดียว“ไม่ต้องเกร็ง ทำตัวปกติ” พี่พาร์ทพูดปลอบและพาฉันเดินตรงเข้าไปหากลุ่มนักธุรกิจกลุ่มหนึ่ง“สวัสดีครับ” พี่พาร์ททักทายพวกเขาอย่างนอบน้อม แต่ว่าทำไมทักทายภาษาไทยล่ะ“เอาคุณปรมินทร์ นึกว่าจะไม่มางานนี้ซะแล้ว” เขาพูดและยิ้มอย่างเป็นกันเองกับพี่พาร์ทและมองมาที่ฉัน“ธีรดา ภรรยาผมครับ” ก่อนพี่พาร์ทจะแนะนำให้ฉันที่ได้แต่ยืนอึ้งให้ทุกคนรู้จัก ที่อึ้งคือแล้วที่เขาให้เรียนหัดพูดภาษาจีนเพื่ออะไร เท่าที่มองดูในงานมีแต่คนไทยและเขาก็ใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกัน“ภรรยา!!” ทุกคนอุทานเป็นเสียงเดียวกัน“สวัสดีค่ะ” สองมือยกขึ้นไหว้ผู้ใหญ่ทุกคน พร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าแต่ต้องแอบจิกตากัดคนข้าง ๆ“พี่แกล้งหนูอีกแล้วนะ” ฉันพูดกระซิบกระซาบบิดเอวหนาแรง ๆ อย่างหมั่นไส้“......” พี่พาร์ทไม่พูดอะไรแค่ปรายตามอง และหันไปพูดคุยเรื่องธุรกิจแต่มือเขามันอยู่นิ่งเสียที่ไหน ลูบไล้แผ่นหลังสัมผัสมันชว
และแล้ววันที่ฉันกลัวก็มาถึง วันนี้เป็นวันที่จะต้องออกงานคู่กับพี่พาร์ทเป็นครั้งแรก และเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้ออกงานสังคมแบบนี้ เฮ้อ.....“เธอต้องทำได้สิธีรดา” ร่างเล็กในชุดคลุม จ้องหน้าตัวเองในกระจก พูดให้กำลังใจตัวเองก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำส่วนพี่พาร์ทไปไหนไม่รู้ตั้งแต่เช้า จนป่านนี้ยังไม่กลับมาอีก แค่โทรมาบอกให้แต่งตัวรอแล้วจะมารับ ดีนะที่แม่กับพี่ฟองเบียร์อยู่เลยปลีกตัวออกจากตัวเล็กได้ เหมือนน้องจะรู้ว่าคืนนี้ต้องกลับดึกงอแงไม่ยอมห่างอกทั้งวัน แต่พอพี่พอร์ช มาอุ้มไปเล่นไปกับคุณอาเฉย ลูกสาวใครนะ เห็นคนหล่อเป็นไม่ได้...“ว่าแต่จะทำไงล่ะเนี่ย” แต่งหน้าก็พอไหวแต่ทำผมจะทำทรงไหนดีถึงจะเข้ากับชุดที่พี่ญี่ปุ่นเตรียมไว้ให้ มันเป็นชุดราตรียาวสีดำดูเรียบ ๆ แต่แอบเซ็กซี่นิด ๆ หวังว่าใส่แล้วพี่พาร์ทคงจะไม่ฆ่าฉันทิ้งนะก๊อก ก๊อก ก๊อก“ใครคะ” ฉันที่กำลังแต่งหน้าเดินไปเปิดประตู“พี่พาร์ท” พร้อมกับส่งรอยยิ้มหวานให้กับคนตรงหน้าที่มาพร้อมกล่องสีแดงขนาดใหญ่ในมือสองกล่อง“........” พี่พาร์ทเงียบไม่พูดอะไรเดินเอากล่องไปวางไว้บนเตียง แล้วเดินออกไปนอกห้องท่ามกลางความงุนงงของฉันที่ได้แต่มองตามแล้วเกาหัว
“มีอะไรหรือเปล่าคะ” และก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไปเมื่อพี่พาร์ทมีท่าทีแปลก ๆ เขาดูเงียบและกังวลมาก“พี่ไม่สบายหรือเปล่า” มือเล็กเอื้อมขึ้นไปแตะหน้าผากคนตัวโต“......” พี่พาร์ทเงียบ เอาแต่จ้องหน้ามอง เหมือนกับจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่พูด“ดึกแล้วหนูว่าเรากลับกันมั้ย” ตัวเล็กหาว ไปหลายรอบแล้ว ตาหวานเยิ้มแล้วตอนนี้“คือ...ฉัน”“คือ...คืออะไรพี่ก็พูดมาสิคะ” ฉันพูดยิ้ม ๆ เดินเข้าไปกอดเขา“พี่จะขอหนูแต่งงานเหรอ? เมื่อวานที่ชายหาดพี่กำลังจะขอหนูแต่งงานแต่โดนขัดก่อนใช่มั้ย”“.......” เขาเงียบ แสดงว่าฉันพูดถูก“ทำไมคะ เขินเหรอ แค่ขอแต่งงานเอง”“เธอนี่ไม่มีความโรแมนติกเลยนะธีรดา” พี่พาร์ททำเสียงดุ“เอ้า อะไร มาดุหนูทำไมคะ ก็ตัวเองจะพูดก็ไม่พูด แค่ขอแต่งงานเองมันพูดยากตรงไหน ถ้าพี่เขินเดี๋ยวหนูขอพี่เองก็ได้ แต่สินสอด?” ฉันทำหน้าครุ่นคิดมองหน้าพี่พาร์ทแล้วยิ้มกริ่ม“เอาตัวหนูเป็นสินสอดแทนได้มั้ย” พร้อมทำท่าทางเหนียมอายเมื่อเขาเอาแต่มองหน้าพร้อมรอยยิ้มที่อบอุ่น“ตะ....”“ชู่ว...เบา ๆ ค่ะตัวเล็กกำลังจะหลับ” ฉันพูดเสียงเบาเอามือลูบหลังตัวเล็กที่ค่อย ๆ โน้มหน้าซบลงที่ไหล่พ่อ ดวงตากลมโตคู่เล็กปรือตามองหน้
“ทำอะไรทำไมไม่ไปอาบน้ำแต่งตัว”“จะไปไหนได้พี่ก็ดูสิ”พรึบ!!ฉันเปิดผ้าห่มให้พี่พาร์ทที่เพิ่งเดินเข้ามาดูลูกสาวตัวน้อยสุดที่รักของเขา นอนอยู่บนตัวแม่ปากก็ดูดนม อีกมือก็จับเต้า สองขาเต้นขย่ม เฮ้อ...เด็กหญิงพลอยชมพูจอมแสบ“ไม่ต้องมายิ้มเลย แม่เจ็บนะ” ตัวเล็กผละริมฝีปากจากเต้าส่งยิ้มหวานให้พ่อและแม่แล้วอ้าปากงับดูดนมต่อ แล้วคุณเธอก็เล่นอยู่แบบนั้นนานเป็นชั่วโมง กว่าจะยอมลงจากตัวแม่ เฮ้อ...ถึงจะเหนื่อยจะเจ็บบ้างแต่มันก็คือความสุข อีกหน่อยน้องโตเขาก็จะค่อย ๆ ห่างจากเราไปเรื่อย ๆ เลยอยากอยู่ใกล้ชิด มอบความรักให้ลูกเท่าที่แม่คนหนึ่งจะทำได้“ตัวเล็กมาหาป๊า ให้แม่ไปแต่งตัว” พี่พาร์ทรับตัวเล็กที่เพิ่งอาบน้ำแต่งตัวเสร็จที่ยิ้มหัวเราะอย่างอารมณ์ดี หลังจากที่ได้แกล้งแม่“ไปอาบน้ำฉันพาลูกไปเดินเล่นรอ” มือหนาลูบมาที่หัวพร้อมดึงร่างเล็กเข้าไปกอด“เจ้าค่ะ หนูจะรีบอาบน้ำแต่งตัว ทุกคนจะได้ไม่ต้องรอนาน” สองแขนกอดเอวหนาไว้แน่น ก่อนจะหอมแก้มพ่อลูกคนละหนึ่งฟอดใหญ่แล้ววิ่งแจ้นเข้าห้องน้ำฉันใช้เวลาอาบน้ำไม่นานเท่าไร แต่ต้องมาหนักใจจะใส่ชุดไหนดี?“เสร็จแล้วค่ะ” ฉันรีบวิ่งออกจากห้องไปหาพี่พาร์ทและคนอื่น ๆ ที่รอ
“เป็นอะไรคะ ทำไมทำหน้าแบบนั้น” ฉันก็ไม่น่าถามพี่พาร์ทเลย หน้าบึ้งแบบนี้จะมีอะไรนอกจากงอนลูก ตอนนี้ตัวเล็กไม่สนใจป๊าเลย เล่นสนุกอยู่กับเหล่าอา ๆ ที่ดูจะหลงหลานสาวตัวน้อย โดยเฉพาะขุนศึกที่น้องพลอยติดมากกว่าคนอื่น ห่างกันเป็นไม่ได้ร้องตามตลอด“........” พี่พาร์ทไม่พูดอะไร กลับหันมามองค้อน เสียอย่างนั้น“เกี่ยวอะไรกับหนู หนูจะไปรู้ได้ไงว่าน้อง ๆ พี่จะตามมา” น่าขำจริง ๆ เวลาที่พี่พาร์ทงอน งอแงกว่าน้องพลอยอีก“ถือว่าได้พักผ่อนค่ะ มีคนช่วยดูลูกก็ดีแล้ว หนูดีใจนะ ที่ทุกคนรักและเอ็นดูน้องพลอย พี่รู้มั้ยตอนที่น้องเกิดวันแรก พยาบาลที่ทำคลอดอุ้มน้องไม่ยอมวางเลย”“พี่รู้มั้ยว่าหนูรู้สึกดีมากแค่ไหนที่ทุกคนไม่รังเกียจน้อง” ความรู้สึกวันนั้นที่คลอดตัวเล็กมันยังจำไม่เคยลืม มันเป็นความเจ็บปวดที่สวยงาม มันเป็นความทรงจำที่จะไม่มีวันลืม“รักตั้งแต่แรกเจอ รักทั้ง ๆ ที่ยังไม่เคยได้เจอหน้า ครั้งแรกที่ได้อุ้มลูกมือหนูสั่น จนพี่ณัฐต้องช่วยอุ้ม” ฉันพูดไปยิ้มไปพร้อมน้ำตาเม็ดใสที่มันไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว“หนูเข้าใจว่าพี่หวงลูก แต่นั่นมันน้องพี่นะคะ คุณป๊าขี้หวงไม่งอแงสิ เห็นมั้ยตัวเล็กสนุกใหญ่เลย” ฉันรีบเปลี่ยนเ
“พี่พาร์ท! ตื่นได้แล้วสายแล้วนะ”“ตื่น!! หิวข้าว!!”“......” เงียบไร้ซึ่งคำตอบจากคนตัวโตที่นอนนิ่งไม่ขยับตัว ฉันกับตัวเล็กอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเป็นชั่วโมงแล้วแต่พี่พาร์ท กลับไม่ยอมตื่น“พี่พาร์ทหนูหิว...ตื่นมาทำอาหารให้กินก่อน แล้วค่อยนอนต่อ”“......” เขายังคงเงียบและค่อย ๆ ลืมตา มองหน้าฉันกับลูก สมน้ำหน้าเมื่อคืนแกล้งฉันดีนัก พอตอนเช้ามาตัวเองตื่นสายเอง“ไปเลยค่ะ หนูหิวแล้ว กินข้าวเสร็จพาไปเดินเล่นด้วย หนูอยากพาน้องไปเดินริมชายหาดฝั่งโน้น” ฉันพูดและยิ้มให้พี่พาร์ทที่ยังทำหน้างัวเงีย“ฉันเป็นผัวเธอนะเธียร ไม่ใช่คนรับใช้ที่จะต้องมาคอยทำอาหารให้เธอกิน” บ่นเป็นตาแก่ไปได้“ก็เป็นผัวนั่นแหละหนูถึงใช้ อยากกินฝีมือพี่ พี่ทำอร่อย นะคะ ไปทำให้หน่อยหิว” ฉันยิ้มตาหยีให้พี่เขาที่เอาแต่ส่ายหัว ก่อนร่างหนาจะค่อย ๆ ลุกออกจากเตียง“รอป๊าก่อนนะครับ ป๊าไปทำอาหารให้แม่หนูก่อนแล้วเราไปเดินเล่นกัน” เขาพูดยิ้มกับลูกอย่างอารมณ์ดี ตัวเล็กก็อ้อนเอาใจยิ้มหวานให้พ่อ“ส่วนเธอใช้งานฉันหนักไปแล้วนะ เดี๋ยวเถอะ”ฟอด“แหวะ...เหม็นไม่ต้องมาหอมหนูเลยไปทำอาหารก่อนหิวจนจะกินพี่ เข้าไปได้ทั้งตัวอยู่แล้ว” ทำเป็นมาหอม ก่อนหน้