Share

บทที่ 13

Author: เฟเธอร์ในลมอ่อน
สภาพของเฉียวซุนดูแทบจะไม่ได้

แต่ลู่เจ๋อกลับยังคงแต่งตัวดูดี มีเพียงกางเกงสแล็คขายาวสีเข้มที่เปื้อนความชื้นเล็กน้อย

แสดงออกถึงการเสพสุขที่หวานซึ้งอยู่หลายส่วน

มือของเฉียวซุนสั่นอย่างไม่เข้าท่า หลายครั้งที่เธอไม่สามารถควบคุมปุ่มที่งดงามและละเอียดอ่อนขนาดเท่าเมล็ดข้าวนั่นได้

ลู่เจ๋อยืนมองด้วยสายตาเหยียดอยู่ข้าง ๆ ไม่แสดงการช่วยเหลือใด ๆ

เขาชอบสัมผัสกระดุมข้อมือจนเป็นนิสัย แต่กลับไม่ได้สัมผัสมัน ขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้

กระดุมข้อมือคู่นั้น เขายังหาไม่เจอ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะก้มหน้าถามในเวลานี้

เป็นเวลานาน ในที่สุดเฉียวซุนก็แต่งตัวเรียบร้อย

เธอเงยหน้ามองลู่เจ๋อ ลู่เจ๋อกำลังมองเธออยู่เช่นกัน สายตาที่ล้ำลึกเกินกว่าที่จะทำให้เธอเข้าใจ แต่เฉียวซุนก็ไม่อยากที่จะเข้าใจด้วย น้ำเสียงของเธอเจือความท้อแท้เล็กน้อย “ลู่เจ๋อ ฉันเหนื่อยจริง ๆ นะ! เราเจอกันด้วยดีก็ขอให้จากกันด้วยดีเถอะ!”

พูดจบ เธอก็เปิดประตูแล้วเดินออกไป

ครั้งนี้ ลู่เจ๋อไม่ได้รั้งเธอไว้

เขายืนอยู่ตรงนั้น มองดูร่างที่จากไปของเฉียวซุน เป็นเวลานาน เขาหลับตาลงและยิ้มเย็นชาบาง ๆ

สามีภรรยาหย่ากัน ส่วนใหญ่ต่างคนต่างก็ต้องเจ็บปวด

มีเรื่องอะไรให้เจอกันด้วยดีแล้วจากกันด้วยดีมากมายขนาดนั้น!

*

ในตอนที่เฉียวซุนออกจากตึกลู่ซื่อ ขาก็ยังคงสั่นอยู่

ผิวที่ถูกลู่เจ๋อสัมผัสยังคงร้อนราวกับไฟแผดเผาเหมือนเดิม ราวกับว่าการสัมผัสจากฝ่ามือของลู่เจ๋อยังคงอยู่...... ในหัวของเธอมีคำพูดของลู่เจ๋อดังก้องอยู่อย่างต่อเนื่อง

[กลับบ้านกับฉัน เธอจะยังเป็นคุณนายลู่เหมือนเดิม!]

[เธอคิดว่าประตูบ้านของตระกูลลู่นึกจะเข้าก็เข้า นึกจะออกก็ออกตามใจ หรือคิดว่าคนอย่างลู่เจ๋อเป็นคนนิสัยดี จะปล่อยให้คนอื่นมาบงการง่าย ๆ งั้นเหรอ!]

……

คำพูดเหล่านั้นทำให้เฉียวซุนหอบหายใจไม่ทัน

เธอผ่อนคลายอยู่ข้างนอกเป็นเวลานาน ถึงได้กลับไปที่บ้านเช่า

ชุมชนเก่าคร่ำครึขนาดหกสิบตารางเมตร มีเพียงเฟอร์นิเจอร์งานหยาบที่สุดเท่านั้น เมื่อเทียบกับวิลล่าของตระกูลเฉียวแต่ก่อน แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน แล้ววันนั้นป้าเสิ่นยืนเงียบ ๆ ในห้องโถงแคบ ๆ เป็นเวลานานมาก

เฉียวซุนรู้ว่าเธอไม่ชิน แต่ตอนนี้ เธอเองก็มีความสามารถได้เพียงเท่านี้

ในห้องครัว ป้าเสิ่นกำลังทำซุปอีกแล้ว

เมื่อเห็นเฉียวซุนกลับมา เธอก็วางมือจากสิ่งที่ทำอยู่ “พี่ชายแกเป็นยังไงบ้าง?”

เฉียวซุนไม่ได้พูดถึงเหตุการณ์นั้นของลู่เจ๋อ เธอก้มศีรษะเปลี่ยนรองเท้าอยู่ที่ทางเข้าและเอ่ยเบา ๆ ว่า “พี่ขอให้ฉันตามหาทนายที่ชื่อเมิ่งเยียนหุย บอกว่าเขาช่วยเรื่องคดีให้เราได้"

“เมิ่งเยียนหุย?”

ป้าเสิ่นทำหน้าครุ่นคิด “เหมือนจะเคยได้ยินชื่อนี้นะ! ไม่ว่าจะยังไงก็แล้วแต่ ต้องหาทางตามหาคน ๆ นี้ให้เจอ ถ้าเขามีความสามารถจริง ๆ พี่ชายแกก็สามารถออกมาได้นั่นแหละ”

เฉียวซุนส่งเสียงตอบรับ “เมื่อกี้เพิ่งโทรคุยกับหลินเซียว ขอให้เธอช่วยฉันถามดู”

เธอรู้จักหลินเซียวมาตั้งแต่เด็ก

หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยหลินเซียวก็มาเป็นนางแบบ เดินทางไปทั่วโลก มีคอนเนคชั่นและลู่ทางที่กว้างขวางมาก

เมื่อได้ยินชื่อของหลินเซียว ป้าเสิ่นก็ทำสีหน้าซับซ้อน

แต่ก่อนเธอไม่ชอบการคบหาของเฉียวซุนกับหลินเซียว รู้สึกว่าหลินเซียวเป็นคนในวงการบันเทิง มีความซับซ้อน......คิดไม่ถึงว่าตอนนี้ถึงคราวที่ต้องใช้ประโยชน์จากเธอ

ป้าเสิ่นเงียบไปสักพัก

เธอตักซุปให้เฉียวซุน “ทานบำรุงสักหน่อย ช่วงนี้แกดูผอมไปหมดแล้ว อาทิตย์หน้าแกต้องไปทำงานที่สถาบันฝึกอบรมใช่ไหม?”

เฉียวซุนก้มศรีษะมองดูซุปและเอ่ยเบา ๆ ว่า “ไม่ไปแล้วค่ะ จะหางานใหม่”

เสิ่นชิงนั่งลง “เกิดอะไรขึ้น?”

เฉียวซุนไม่อยากให้เธอกังวล จึงแกล้งทำเป็นผ่อนคลาย “เพราะลู่เจ๋อ! เขาไปทักทายพวกเขาไว้...... ทางนั้นเลยปฏิเสธฉัน! ไม่เป็นไรหรอกป้าเสิ่น ฉันยังหางานอื่นได้อีก ในหนังสือพิมพ์ก็มีข่าวเปิดรับสมัครตั้งมากมาย มันต้องหาได้บ้างสิ”

เธอคิดว่าเสิ่นชิงจะตำหนิเธอเสียอีก

แต่เสิ่นชิงเงียบไปนาน เอ่ยออกมาหนึ่งประโยคว่า “คงจะดีถ้าพี่ชายแกออกมาได้”

เธอยัดตัวขึ้นแล้วไปที่ห้องครัว

แต่สักพัก เสียงของเสิ่นชิงก็ดังออกมาจากในห้องครัว เจือด้วยการข่มอารมณ์ไว้เล็กน้อย “เฉียวซุน แกคิดว่าฉันใจร้ายขนาดนั้นเลย บังคับให้แกไปใช้ชีวิตกับลู่เจ๋อ เขาเป็นคนแบบไหน มีหรือที่พ่อแกกับฉันจะไม่รู้ แต่จะทำยังไงได้! ถ้าพี่ชายแกออกมาไม่ได้ แล้วจากนี้แกจะเอายังไงต่อ?”

เสิ่นชิงพูดไปพูดมาก็ร้องไห้

ภายในใจของเฉียวซุนก็เป็นทุกข์เช่นกัน แต่เธอยังคงข่มอารมณ์ไว้ เดินมาด้านหลังเสิ่นชิงแล้วพิงไหล่ของเธอเบา ๆ “ป้าเสิ่น ฉันโตแล้ว! ไม่มีพี่ ฉันก็สามารถดูแลครอบครัวได้เหมือนกัน”

เสิ่นชิงร้องไห้โฮ......

เฉียวซุนหางานอยู่หลายวันก็ไม่เจองานที่เหมาะ

เธอรู้อยู่แก่ใจ สถาบันระดับสูงพวกนั้นน่าจะถูกโทรไปทักทายไว้แล้ว ไม่มีทางที่จะรับเธอ

ด้วยเหตุนี้ เธอลดมาตรฐานลงแล้วยื่นความต้องการไปที่บริษัทการแสดงแห่งหนึ่ง บอกว่าเป็นบริษัท แต่จริง ๆ แล้วเป็นการวิ่งงานตามสถานที่เพื่อจัดงานฉลองครบรอบและรับเงินตามจำนวนการแสดง
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 445

    ใบหน้าของเมิ่งเยียนซีดลงเธอก้มศีรษะลง นิ้วเรียวเล็กสีขาวของเขาแตะท้องตัวเองเบา ๆ เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าในนี้จะมีเด็กแล้วจริง ๆ แต่สามีของเธอกลับถามเธอ......ถามเธอว่าใครคือพ่อของเด็กนอกจากเขาแล้ว ยังจะเป็นใครไปได้อีกกัน?ลูกของเหอโม่รึไง?ในอดีต ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เหมือนกับว่าเมิ่งเยียนจะเป็นฝ่ายที่ตกหลุมรักเขาก่อน แต่เมื่อเวลาผ่านไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอเห็นรูปถ่ายของเขาที่จูบกับผู้หญิงคนอื่น เธอรู้ดี......เขาไม่ได้รักเธอเธอเองก็ไม่ได้โง่ เธอเคยแอบตรวจสอบมาบ้างแล้วเหมือนกันเลขาของพี่ชายพยายามบอกเธออย่างคลุมเครือว่าอย่ายั่วยุเฉียวสือเยี่ยน บอกว่าเขาไม่ใช่คนดีอะไร บอกว่าเขากับพี่ชายไม่ลงรอยกัน แต่เธอไม่ใช่แค่ยั่วยุเขา เมื่อหนึ่งปีที่แล้วเธอถึงขั้นแต่งงานกับเขาเลยด้วยซ้ำเมิ่งเยียนไม่ได้อธิบายอะไรเธองอเรือนร่างเพรียวบางของเธอ และโค้งเอวลงเล็กน้อย ราวกับพยายามปกป้องทารกตัวน้อยในครรภ์ของเธอ เธอบ่นพึมพำกับเฉียวสือเยี่ยนว่า “คุณยังต้องการเด็กคนนี้อยู่ไหม? ”เป็นคำถามที่ยากจะให้คำตอบ......หลังจากนั้นไม่นาน เฉียวสือเยี่ยนก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา จึงทำให้เมิ่งเยียนเข้าใจได้ในท

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 444

    เมิ่งเยียนขดตัวอยู่ตรงมุมมุมหนึ่งหากเป็นเมื่อก่อน เธออาจจะถูกเขาทำให้ตกใจจนร้องไห้ไปแล้ว แต่วันนี้เธอกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น เธอถึงขั้นกล้ามองมองตาเขา แล้วถามกลับ “คุณไม่รักฉัน! คุณมาขอฉันแต่งงานทำไม? ”อันที่จริงคำตอบนั้นง่ายมากหากต้องการแก้แค้น บางครั้งก็ควรที่จะบอกเรื่องจริงกับเธอ จากนั้นก็รอดูสีหน้าที่ตกตะลึงของเธอแต่เฉียวสือเยี่ยนกลับไม่ได้ทำแบบนั้น กลับกัน ในใจเขารู้สึกหงุดหงิดมากกว่า เขาใช้แรงที่มีดูดบุหรี่ที่เหลืออยู่จนหมดในคราวเดียว จากนั้นก็ดับบุหรี่ลง......ต่อมา เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเขาไม่แม้แต่จะมองเธอด้วยซ้ำแต่เมื่อกลับมาถึงบ้านพักที่เปรียบเสมือนคุกหลังนั้น หลังจากที่เขาก็ปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้ว เขาก็คว้าข้อมือของเธอเอาไว้ แล้วลากเธอเข้าไปในบ้านพัก...... เมิ่งเยียนตระหนักได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง เธอจึงปฏิเสธด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นแต่เฉียวสือเยี่ยนเป็นคนใจแข็งเขาอุ้มเธอขึ้นมา แล้วพาเธอไปที่ห้องนอนหลักบนชั้นสอง เขาโยนเธอลงบนเตียงนุ่ม ๆ แล้วเริ่มลงโทษเธอ เขาถอดเสื้อผ้าของเธอออก ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของการกบฏในใจเธอเขากดศักดิ์ศรีของเธอลงจนจมดินร่างกายของเธอเ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 443

    ร้านอาหารสุดหรู แจกันฝรั่งเศสสีน้ำเงิน เชิงเทียนเงินสเตอร์ลิงเมิ่งเยียนจ้องมองดูหนังสือพิมพ์อยู่นานมากทันใดนั้นโทรศัพท์ของเธอก็มีข้อความไลน์เด้งขึ้นมา เป็นคนแปลกหน้าที่ส่งเข้ามา [สวัสดีนักเรียนเมิ่ง! ผมชื่อว่าเหอโม่ ผมอยากรู้จักคุณ ได้ไหม? ] ประโยคประโยคนั้น เมิ่งเยียนจ้องมองอยู่พักใหญ่จู่ ๆ เธอก็อยากรู้ว่าการที่ได้รับความรักที่แท้จริงมันรู้สึกยังไง จากนั้นเธอก็หน้ามืดตามัวตอบออกไปว่า [ตกลง]......สามวันต่อมา คนรับใช้ในคฤหาสน์ก็โทรหาเฉียวสือเยี่ยน บอกว่าหลังจากที่คุณนายเลิกเรียน ก็มักจะขึ้นรถบัสกลับบ้านเสมอคำพูดของคนรับใช้เหมือนมีนัยบางอย่างอยู่ด้วย “คุณนายอารมณ์ดีมากเลยค่ะ”เฉียวสือเยี่ยนพูดอย่างใจเย็น “รู้แล้ว! ”หลังจากที่เขาวางสายโทรศัพท์ เขาก็โน้มตัวไปกดโฟนอินภายในทันที “เลขาจิน มานี่หน่อย”สักพัก เลขาจินคนสวยก็เดินเข้ามา “ประธานเฉียวคะ มีเรื่องอะไรจะสั่งเหรอคะ? ”เฉียวสือเยี่ยนเอนหลังพิงเก้าอี้ เขาเอื้อมมือไปลูบผมสีดำที่หวีเรียบร้อย แล้วมองขึ้นไปที่แสงไฟด้านบน จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ไปตรวจสอบตารางเรียนวันนี้ของคุณนายที”เลขาจินยิ้ม “ได้ค่ะ ประธานเฉียว”เธอจัดการไ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 442

    เขามองดูใบหน้าที่แดงระเรื่อของเธอเธอยังเด็ก และไม่มีประสบการณ์มาก่อน เธอไม่สามารถเก็บซ่อนหรือควบคุมอะไรได้......แค่ครั้งเดียวเขาก็แทบจะครอบครองทุกอย่างที่มีในตัวเธอ แต่เฉียวสือเยี่ยนกำลังอยู่ในช่วงวัยที่ต้องการเรื่องพวกนี้มากที่สุด แค่นี้มันจะไปพอได้ยังไง?อีกอย่าง เขาเองก็ไม่ได้กลับบ้านมาเป็นอาทิตย์แล้วด้วย!หลังจากที่ทำกับเธอไปจนถึงตอนสุดท้าย ทุกอย่างมันก็ยุ่งเหยิงไปหมด เมิ่งเยียนก็เหนื่อยหอบจนหมดสติไป......เฉียวสือเยี่ยนก้มศีรษะลง และจ้องมองไปยังหญิงสาวที่อยู่บนโซฟาเธอช่างน่าสังเวชจริง ๆสักพัก เขาก็เช็ดเธอด้วยเสื้อเชิ้ตของเขา จากนั้นก็อุ้มเธอไปที่เตียงในห้องนอนชั้นสอง แน่นอนว่าเขาจะไม่ช่วยเธออาบน้ำ แล้วก็ไม่มีความรักระหว่างสามีภรรยาอะไรแบบนั้นด้วยเช่นกันเขาห่มผ้าห่มให้เธอ แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายหลังจากที่ได้ระบายออกไป เขาก็ไม่ได้มีความคะนึงหาอยู่เลยแม้แต่น้อยพอเมิ่งเยียนตื่นขึ้นมา เฉียวสือเยี่ยนก็แต่งตัวเสร็จแล้ว และกำลังเตรียมตัวออกไปข้างนอก......เธอลุกขึ้นจากเตียงทันที และถามเขาอย่างระมัดระวัง “คุณจะไปอีกแล้วเหรอ? ”เฉียวสือเยี่ยนบีบแก้มเธอเบา ๆ ด้

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 441

    หลังจากนั้นไม่นาน เฉียวซุนก็พูดขึ้นว่า “พี่คะ นี่พี่บ้าไปแล้วเหรอ!”เธอไม่เคยพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงแบบนี้มาก่อนเฉียวสือเยี่ยนเองก็ตกตะลึงเช่นกันในเวลานี้ เขาพักอยู่ที่คฤหาสน์สุดหรูในเมืองเซียง คฤหาสน์ทั้งหลังตกแต่งด้วยงาช้างและของตกแต่งที่ทำมาจากทองคำ แลดูฟุ่มเฟือยเป็นอย่างมาก และนี่ก็เป็นบ้านสีทองที่เฉียวสือเยี่ยนมีไว้เพื่อเก็บซ่อนของสวย ๆ งาม ๆ เอาไว้เมิ่งเยียน น้องสาวของเมิ่งเยียนหุยในตอนที่เมิ่งเยียนอายุได้ 20 ปี เธอก็ได้กลายเป็นคุณนายไปแล้ว หลังจากแต่งงาน เธอก็ถูกเฉียวสือเยี่ยนจัดแจงให้อาศัยอยู่ที่คฤหาสน์แห่งนี้ ทุก ๆ วันเธอจะนั่งรถสุดหรูส่วนตัวไปเรียนที่สถาบันวิจิตรศิลป์ พอเลิกเรียน เธอก็จะละทิ้งการเข้าสังคมทั้งหมด และกลับมาที่บ้านพักแห่งนี้ หลังจากผ่านไปหนึ่งปี ข้างกายเธอก็ไม่มีเพื่อนเหลืออยู่อีกเลย ราวกับว่าเธอเพิ่งจะถูกตัดแขนขาออก และกลายเป็นภรรยาตัวน้อยของเขาเท่านั้นเขาแทบไม่อยากจะให้เธอเรียนรู้อะไรเลยเขายิ่งไม่ต้องการให้เธอทำงานบ้าน และไม่ต้องการให้เธอเรียนรู้อะไรจากคุณนายคั่วเลยด้วยซ้ำ เขาแค่อยากเป็นคนเลี้ยงดูเธอ เธอต้องการที่จะเลี้ยงดูเธอให้กลายเป็นคนที่นอกจากเ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 440

    เฉียวซุนเต็มใจที่จะให้อภัย แต่เขาไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้......ในช่วงกลางดึก ลู่เจ๋อลงมายังชั้นล่างจางหยวนยังคงอยู่ที่นั่นเธอเพิ่งทำสิ่งที่น่าละอาย และด้วยความรู้สึกผิด ทันทีที่เธอเห็นลู่เจ๋อกำลังลงมา เธอก็เริ่มพูดใส่ร้ายทันที “ประธานลู่คะ คุณเฉียวล้ำเส้นเกินไปแล้วนะคะ เรื่องในคฤหาสน์เดิมทีเธอไม่ควรเข้ามายุ่งเลยด้วยซ้ำ”“ไม่งั้นจะให้ใครจัดการ? ”เสียงของลู่เจ๋อดูเย็นชา เขามองดูหมอสาวที่อยู่ตรงหน้า แม้ว่าเขาต้องการที่จะไล่เฉียวไป แต่เขาก็ไม่เคยมีความรู้สึกที่คลุมเครือกับผู้ดูแลสาวคนนี้เลย และเขาก็ไม่เคยบอกใบ้ให้ท่าอะไรกับเธอด้วยจางหยวนตกตะลึงลู่เจ๋อบอกเธอไปตรง ๆ ว่าเขาจะใช้เส้นสายของเขาเพื่อเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของเธอ ซึ่งหมายความว่าเธอจะไม่สามารถเป็นหมอได้อีกต่อไป“นอกจากนี้...... ”ลู่เจ๋อพูดออกไปด้วยความเย็นชา “ออกจากเมือง B ภายในสองวัน! อย่าคิดที่จะหลีกเลี่ยง ผมจะให้คนไปเก็บกระเป๋าเดินทางของคุณ และส่งคุณไปยังเมืองซีเป่ย......ต่อไป พวกเขาจะคอยจับตาดูคุณเอาไว้! ”“ตอนที่คุณกินข้าว พวกเขาก็จะอยู่ข้าง ๆ”“ตอนคุณนอน หรือเข้าห้องน้ำ พวกเขาก็จะคอยดูแลคุณ”“หมอจาง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status