มันเจ็บไปทั้งกาย!เจ็บจนเธอแทบหายใจไม่ออก ความเจ็บปวดนั้นเหมือนกับว่าเธอกำลังจะตายในวินาทีถัดไป แต่เฉียวซุนก็ไม่เต็มใจที่จะยอมรับมัน... เธอยังคงมีเจ้าหนูลู่เหยียนอยู่ในท้องของเธอ!เจ้าหนูลู่เหยียนอายุได้เพียง 8 เดือนและยังไม่เคยเห็นโลกภายนอกมาก่อนเธอเกลียดความเย็นชาและความโหดเหี้ยมของลู่เจ๋อ แต่เธอรักเนื้อและเลือดในท้องของเธออย่างสุดซึ้ง เธอตั้งตารอคอยการกำเนิดของลูกอย่างสุดซึ้ง เธอไม่สามารถตายแบบนี้ได้...เธอตายไม่ได้!เธอตายไม่ได้!เฉียวซุนหายใจเข้าแรง ๆ ราวกับว่าจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดที่เกิดจากการหดตัวได้ เธอเงยหน้าขึ้นและกรีดร้องอย่างสุดกำลัง——“เข้ามาหน่อย...”“ช่วยลูกฉันด้วย...”......ไม่มีใครได้ยิน ไม่มีใครได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของเธอภายนอกยังคงมีพลุอยู่บนท้องฟ้าด้านล่างยังคงมีการบรรเลงเพลงรื่นเริงอยู่...เฉียวซุนดันมือเธอกับพื้น เธออดทนต่อความเจ็บปวดแสนสาหัสและคลานไปที่ประตูห้องนอน ใครอยู่ข้างนอก ใครก็ได้ ช่วยฉันด้วย ช่วยลูกของฉันด้วย...เลือดไหลจากพื้นถึงบันไดระหว่างขา มีเลือดอีกก้อนใหญ่ไหลลงมา หยดลงมาจากบันไดอันหรูหรา——ติ๋ง ติ๋ง ติ๋งเช่นเดียวก
“ใครกล้าเข้ามา ฉันจะบีบคอเธอให้ตาย!”“ฉันจะให้กลุ่มบริษัทสกุลู่ของคุณเป็นข่าว!"“ฉันจะทำลายชื่อเสียงของลู่เจ๋อ! พวกคุณสนใจเรื่องชื่อเสียงศักดิ์ศรีมากไม่ใช่เหรอ? ทำไมไม่เข้ามาช่วยล่ะ...ทำไมพวกคุณไม่ช่วยเธอ? พวกคุณมองเห็นเฉียวซุนเป็นคนเหมือนกันบ้างไหม...” ......ลู่จิ้นเซิงยืนมองหลินเซียวอย่างเงียบ ๆ ในระยะไกลเขามองดูท่าทางบ้าคลั่งของเธอ เขามองดูเธอที่ปกป้องเฉียวซุนอย่างสิ้นหวัง และเขาก็ตกอยู่ในอาการงุนงง...หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เดินไปหาเธอเขาดึงหลินเซียวออกจากตัวของคุณหญิงลู่ และกอดเธออย่างแรงเพื่อป้องกันไม่ให้เธอขยับได้อีกต่อไปหลินเซียวได้กลิ่นบุหรี่จากตัวเขาเธอตกตะลึง : เขาคือลู่จิ้นเซิง!เธอไม่หันกลับมามอง และพูดเบา ๆ กับคนที่อยู่ข้างหลังเธอ : "คุณต้องให้เธอช่วยชีวิตเฉียวซุน เฉียวซุนตายไม่ได้ เธอตายไม่ได้! ลู่จิ้นเซิง ถือว่าฉันขอร้องคุณเถอะ! ลู่จิ้นเซิง ฉันขอเด็กของฉันขอร้องคุณ! ได้หรือไม่?”ลู่จิ้นเซิงกอดเธอไว้แน่นเขามองไปที่คุณหญิงลู่และพูดด้วยน้ำเสียงแหบห้าว : "เก็บเฉียวซุนไว้! ไม่เช่นนั้นวันหนึ่งลู่เจ๋อจะเป็นบ้าไป แล้วคุณจะต้องเสียใจ!"คุณหญิงลู่ถึงกับตะลึง!
เจ้าหนูลู่เหยียนคลอดแล้วคุณหมอบอกเธอว่า : “ลูกสบายดี! อยู่ในตู้อบหนึ่งสัปดาห์ก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว”เฉียวซุนล้มตัวลงบนหมอน ริมฝีปากของเธอสั่นเทาคืนนี้เธอพบกับความสุข ความเศร้า และทนทุกข์ทรมานมากเกินไป ตอนนี้เธออ่อนแอเกินกว่าจะพูดอะไรสักคำหลินเซียวจับมือของเธอ ทั้งหัวเราะและร้องไห้ในเวลาเดียวกัน : "เฉียวซุน ได้ยินไหมว่าเด็กสบายดีมาก! เด็กสบายดีมาก!"เฉียวซุนพยายามยิ้มอย่างเต็มที่แต่วินาทีต่อมา น้ำตาก็ไหลลงมาจากหางตาของเธออีกครั้ง.........เจ้าหนูลู่เหยียนเข้าไปอยู่ในตู้อบคุณหญิงลู่กำลังมองดูอยู่ข้างนอกอย่างมีความสุขมาก นี่คือลูกของลู่เจ๋อ...เธอกำลังจะได้เป็นคุณย่าแล้ว!เมื่อมองดูคิ้วเหล่านั้น อีกทั้งสันจมูกโด่งรับกับใบหน้า โครงหน้าที่เหมือนกับลู่เจ๋อคุณหญิงลู่มองดูอยู่เป็นเวลานานเหมือนกับว่ารักใครก็ต้องรักคนของเขาด้วย เธอเริ่มนึกถึงเฉียวซุนขึ้นมา กลางดึกเธอจึงถามคนรับใช้ : "ตอนนี้เฉียวซุนเป็นยังไงบ้าง? ตุ๋นซุปไก่เสร็จแล้ว ฉันจะเอาไปให้เธอ...เธอพึ่งพ้นช่วงหลังคลอดมาไม่นาน ยังไงก็ต้องดูแลให้ดี” คนรับใช้ลังเลที่จะพูดคุณหญิงลู่ขมวดคิ้ว: "เธอเป็นอะไรไป?"บั
เธอแบกสังขารหลังคลอดมาช่วยดูแลงานศพของพ่อในขณะที่เมิ่งเยียนหุยเคารพศพเขาทั้งเสียใจและรู้สึกผิด เขาจึงเข้าไปขอโทษเฉียวซุนเฉียวซุนยืนอยู่หน้าห้องโถงไว้ทุกข์ พลางมองรูปถ่ายของพ่อ แล้วยิ้มอย่างเศร้าสร้อย : "ทนายเมิ่ง ฉันรู้ว่าคุณพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว! ตอนนี้ที่ครอบครัวเฉียวเป็นแบบนี้เพราะว่าลู่เจ๋อมาทวงคืน ในตอนที่เขาชอบคุณ ไม่มีอะไรเป็นปัญหา แต่ในตอนที่เขาไม่ชอบและไม่สนใจคุณแล้ว คุณจะเป็นจะตายยังไง คุณจะเสียใจหรือไม่ ก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาอีกต่อไปแล้วแล้ว!”เธอหลั่งน้ำตาเบาๆ : “เมื่ออยู่ข้างกายเขา ฉันจะต้องเป็นเหมือนคนที่ไม่มีความภาคภูมิใจในตัวเอง ขอร้องเขา เอาใจเขา…แต่มันคงไม่ได้ผล! สุดท้ายจึงมีจุดจบแบบนี้!”ลู่เจ๋อเคยบอกว่า นอกจากเธอขอร้องเขาก็ไม่มีอะไรอีกแล้ว!เธอจะไม่ขอร้องเขาอีกตั้งแต่นี้ไปเพราะเธอแทบไม่ได้อะไรเลย!กระแสลมพัดเข้ามาในห้องโถงเฉียวซุนยืนอยู่ในห้องไว้ทุกข์ในเวลากลางคืนด้วยร่างกายที่ซูบผอม เธอยืนไว้อาลัยอย่างเงียบ ๆ จากนั้นค่อย ๆ ก้มตัวลงและกล่าวอำลาครั้งสุดท้ายกับเฉียวต้าซวิน...*หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ณ สนามบินนานาชาติเมือง B ลู่เจ๋อลงจากเครื่องบินส่
ลู่เจ๋อตะลึงทันทีที่ได้ยินร่างกายของเฉียวซุนอยู่ในเกณฑ์ดีมาตลอด ทำไมถึงคลอดก่อนกำหนด?เลขาฉินกดเสียงต่ำเล็กน้อย พูดต่อ : “หลังจากที่ประธานลู่เดินทางได้สองวัน คดีของเฉียวสือเยี่ยนก็ถูกยกขึ้นมาตัดสิน เขาถูกตัดสินให้จำคุก 6 ปี ในช่วงกลางคืนคุณพ่อเฉียวมีอาการหัวใจกำเริบ…และจากไป คุณนายลู่เมื่อได้ยินข่าวก็เสียใจจนลูกต้องคลอดก่อนกำหนด”เธอพูดแค่ไม่กี่คำทว่ามันทำให้ลู่เจ๋อรู้สึกหูหนวกไปชั่วขณะเฉียวสือเยี่ยนถูกตัดสินจำคุก 6 ปี เฉียวต้าซวินเสียชีวิต และลูกของเขาคลอดก่อนกำหนด... เมื่อรวมเรื่องพวกนี้เข้าด้วยกัน เขานึกภาพความเจ็บปวดที่เฉียวซุนต้องทนไม่ออกเลย และเขาแทบไม่กล้านึกถึงภาพอนาคตระหว่างตนกับเฉียวซุน หลังจากที่ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เขาจึงถามต่อ : “ลูกอยู่ที่ไหน?”น้ำเสียงของเลขาฉินเบาลงเล็กน้อย : "เด็กสบายดีค่ะ พรุ่งนี้จะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว! ประธานลู่ ตอนนี้เราควรไปที่ไหนก่อนดีคะ?” ......รถโรลส์-รอยซ์ แฟนทอมสีดำฉายความหรูหราและแวววาวถูกจอดอยู่ในลานจอดรถคนขับเหลือบมองกระจกหน้ารถเขาเห็นได้ชัดว่าฝ่ามือของประธานลู่สั่นเล็กน้อย และยังเห็นสีหน้าเศร้าหมองของประธานลู่ที่เขาไม่สา
ในวอร์ดเกิดความเงียบขึ้นคุณหญิงลู่คิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดต่อ : "เดี๋ยวแม่ดูแลหลานให้ก่อนแล้วกัน! ตอนนี้สภาพจิตใจของเธอยังไม่เหมาะกับการดูแลเด็ก!"ขณะที่เขากำลังจะพูด ประตูวอร์ดก็ถูกผลักเข้ามา ป้าหลี่ร้องไห้อยู่ที่ประตู เมื่อเธอเข้ามา เธอก็คุกเข่าลงต่อหน้าลู่เจ๋อเธอหลั่งน้ำตา : "คุณชายคะ มันเป็นความผิดของฉันเอง วันนั้นฉันได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังอยู่ในห้องหนังสือ กลัวว่าจะรบกวนการนอนของคุณนาย ฉันเลยเป็นคนรับให้ แต่ว่าฉันฟังไม่เข้าใจว่าคนในสายพูดอะไร พอดีกับมีธุระก็เลยวางสายไป ตอนหลังก็ลืมบอกคุณนาย...สายนั้น ฉันเป็นคนรับเองค่ะ ไม่ใช่ว่าคุณนายตั้งใจไม่บอกคุณ เธอแค่ไม่รู้ ฉันสมควรตายค่ะ!”ป้าหลี่เป็นคนเก่าคนแก่ในคฤหาสน์ เฉียวซุนดีกับเธอมาโดยตลอด แต่ตอนนี้เธอเริ่มวิตกกังวลและตบหน้าตัวเองแรง ๆ จากซ้ายไปขวา พลางร้องไห้ไปด้วยและพูดว่า: "ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน คุณชายคงไม่เข้าใจคุณนายผิด คุณนายคงจะไม่ต้องมาเจอกับชะตากรรมแบบนี้!”เธอไม่มีกำลังมืออีกแล้วการตบหน้าซ้ำ ๆ ทำให้ใบหน้าเธอบวมแดง...ลู่เจ๋อยืนอยู่ใต้โคมไฟ ใบหน้าซีดเซียวจนแทบไม่เห็นสีเลือด!เขายอมรับความจริงข้อนี้ไม่ได้ เขายอมรับไม
เฉียวซุนหันมามองเขาอย่างเงียบ ๆหลังจากนั้นไม่นานเธอก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเหนื่อยล้า : "ไม่ต้องแล้วล่ะ! พี่ชายของฉันยอมแพ้แล้ว!... ลู่เจ๋อ คุณบอกว่าเราจะหย่ากันหลังจากลูกเกิด ฉันไม่อยากได้อะไรนอกจากลู่เหยียน”ลมพัดยามค่ำคืนลู่เจ๋อจ้องมองเธอในคืนที่มืดมิดครั้งหนึ่งเธอเคยรักเขาเหมือนไฟที่ลุกโชน แต่ตอนนี้มันมอดไหม้ลงสู่พื้นแล้ว โดยไม่เหลือร่องรอยเลยสักนิดเสียงของลู่เจ๋อแหบแห้งเล็กน้อย เขาขอโทษเธอ และบอกว่าเขายอมแพ้ไม่ได้ เขายังบอกอีกว่า เขาตำหนิเธออย่างผิด ๆ ในวันนั้น ที่แท้ป้าหลี่เป็นคนรับสายโทรศัพท์เฉียวซุนยิ้มเศร้า: "ลู่เจ๋อ พูดเรื่องนี้แล้วจะได้อะไร?” เธอและพี่ชายสูญเสียพ่อไปในชั่วข้ามคืนป้าเสิ่นก็เพิ่งสูญเสียสามีไปคืนนั้น ใบหน้าของเธอแทบไม่มีชีวิตชีวา คืนนั้นเจ้าหนูลู่เหยียนก็เกือบจะจากไปก่อน...เรื่องทั้งหมดนี้ จะช่วยแก้ไขอะไรได้เพียงเพราะคำขอโทษของลู่เจ๋อได้อย่างไร ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าควรจะโทษใคร หรือเกลียดใคร สิ่งเดียวที่เธอรู้ก็คือ เธอไม่ต้องการพบเขา หรือพูดคุยกับเขาเธอกำลังจะเดินต่อ แต่ลู่เจ๋อก็ก้าวมาอุ้มตัวเธอขึ้นรถไป เฉียวซุนจะยอมได้อย่างไร?เธอทุบร่างกาย
ลู่เจ๋อพยักหน้าให้เธออกไปมีเปลเล็กๆ เพิ่มเข้ามาในห้องนอนที่เงียบสงบ ขณะนี้เจ้าหนูลู่เหยียนกำลังนอนอยู่บนเปล ขณะที่กำลังหลับ ลมหายใจที่พ่นผ่านออกมาช่างหอมหวานและสวยงามอย่างเหลือล้นตั้งแต่เธอเกิด เฉียวซุนได้ออกไปนอกบ้านและแทบไม่ได้เจอเธอเลยเมื่อเห็นเจ้าตัวเล็กที่กำลังนอนหลับอย่างสงบ มันกระตุ้นหัวใจเธอทันที นี่คือเด็กที่เธออุ้มท้องมา 8 เดือน เธอเจ็บระหว่างคลอดและเด็กก็เจ็บปวดเช่นกันร่างกายของเฉียวซุนหยุดนิ่ง เธอไม่ได้รบกวนเด็ก แต่เพียงสัมผัสใบหน้าอันอบอุ่นของเธอเบา ๆ !เธอจะไม่คิดถึงได้อย่างไร!นี่คือเจ้าหนูลู่เหยียนของเธอ ซึ่งเป็นเด็กที่เธอใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อให้กำเนิดออกมาลู่เจ๋อก็รู้สึกสะเทือนใจเช่นกัน เขาอดไม่ได้ที่จะกอดเธอจากด้านหลัง พลางพูดด้วยน้ำเสียงต่ำ : "เฉียวซุน ขอให้ผมดูแลคุณและลูกเถอะนะ... เรื่องของเรา ไว้คุยกันทีหลังได้ไหม?”เฉียวซุนยังไม่ทันตอบเจ้าหนูลู่เหยียนก็เริ่มร้องไห้บนเปล เด็กน้อยเกิดก่อนกำหนด และเสียงร้องของเขาก็อ่อนเบามาก จนฟังดูเหมือนเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ...ลู่เจ๋อจับไหล่เฉียวซุนเบา ๆ : “ลูกหิวแล้ว หาอะไรให้ลูกกินก่อนเถอะ!”ช่วงนี้ลู่เหยียนด