เฉียวซุนคิดอย่างง่ายดายรักษาอาการป่วยของพ่อ เพื่อช่วยน้องชายเพื่อที่จะช่วยน้องชายออกมาทำให้คนในครอบครัวได้เริ่มต้นชีวิตใหม่แต่แน่นอนว่าโชคชะตาจะไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆอย่างแน่นอน...ลู่เจ๋อก็คงไม่ยอมปล่อยเธอไปเช่นกัน!คืนนั้นตอนเธอแสดงที่รอยัล เธอได้รับสายจากหลินเซียว น้ำเสียงของหลินเซียวรีบร้อน “เฉียวซุน เธอรีบมาโรงพยาบาลเร็ว! เกิดเรื่องแล้ว!”เฉียวซุนตกใจมากเธอรีบถามกลับ “เกิดอะไรขึ้น?”หลินเซียวหยุดครู่หนึ่งแล้วพูดเสียงเบา ๆ “คุณป้าเสิ่นกับไป๋เซียวเซียวทะเลาะกัน เหมือนจะเป็นปัญหาใหญ่ด้วย ตำรวจส่งคนมาแล้ว เฉียวซุนเธอต้องเตรียมจิตใจให้พร้อมนะ...คุณป้าเสิ่นน่าจะถูกพาตัวไป”โทรศัพท์หลุดจากมือของเฉียวซุนสุดท้าย ลู่จิ้นเซิงขับรถไปส่งหลินเซียวที่โรงพยาบาล ยังดีที่ไม่ค่อยไกลนักไม่ถึงครึ่งชัวโมงก็ถึงแล้ว แต่ก็ยังมาช้ากว่าเฉียวซุนไปหนึ่งก้าวเมื่อเธอมาถึงเสิ่นชิงก็ถูกพาตัวไปแล้วตอนนั้นก็เกิดความวุ่นวายเกิดขึ้น ตระกูลไป๋ทุกคนก็อยู่ที่นั่นด้วย คุณแม่ตระกูลไป๋จับแขนที่บาดเจ็บเพราะโดนลวกของลูกสาว เธอเอาแต่ร้องไห้แล้วบอกว่าลูกสาวเธอถูกทำให้เสียโฉม พร้อมกับร้องตะโกนบอกให้เสิ่นชิงเข้าคุก
ไป๋เซียวเซียวรู้สึกภูมิใจนะ แต่ก็ไม่มีความสุขแล้วล่ะ: “พ่อค่ะ!”ลู่เจ๋อพูดเสียงเรียบเฉย :“เอาล่ะ!”ทันทีที่คลายมือออก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะพ่อไป๋รับเอาไว้ไม่ดีมั้ย ทำให้ไป๋เซียวเซียวจึงล้มลงไปบนพื้น ขาที่ได้รับการผ่าตัดก็ได้หักซ้ำอีกครั้ง ผิวหนังที่โดนลวกบริเวณแขนก็เสียดสีไปกับพื้นทำให้หนังหลุดลอกออกมา.....ทั้งเลือดและเนื้อหนังที่ไม่ชัดเจนไป๋เซียวเซียวรู้สึกเจ็บมากจนหน้าผากของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อ พ่อไป๋มือไม้อ่อนจนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่กอดลูกสาวเอาไว้......ลู่เจ๋อมองแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา : “ที่บริษัทยังมีเรื่องที่ต้องจัดการ ผมขอตัวก่อนนะครับ!”เมื่อประตูลิฟต์เปิด เขาก็ออกไปแล้วเลขาฉินรีบตามเขาไปทันทีไป๋เซียวเซียวที่อยู่ด้านหลังส่งเสียงแง่งอน “คุณชายลู่คะ! คุณชายลู่......”พ่อไป๋ที่กอดลูกสาวนั้นก็ถอนหายใจเบาๆ “ลูกพ่อ พวกเราทำเกินไปหรือเปล่า ลูกไม่เพียงแต่ใส่ร้ายคุณนายตระกูลเฉียว แม่ลูกยังทุบตีเขาอีกด้วย......ถ้าหลังจากนี้คุณชายลู่เขาไม่แต่งงานกับลูกล่ะ ลูกจะทำยังไง ? ”ไป๋เซียวเซียวกัดฟันด้วยความโกรธแค้นเธอกัดริมฝีปากแล้วพูดว่า : “หนูไม่เชื่อว่าหนูจะมัดใจลู่เจ๋อไม่ได้”
เขาทำให้เธอเจ็บปวดอย่างโหดร้ายหลินเซียวถูกเขากระทำจนส่งเสียงร้องและเสียงคราง แต่เธอดันเป็นคนที่ร้อนแรงซะงั้นแขนแกร่งของลู่จิ้นเซิงเต็มไปด้วยรอยขีดข่วนจากหลินเซียวเธอตวาดใส่โดยไม่ลังเลเลย “ก็เอาสิ! พวกเราเลิกกันเถอะ ฉันก็แค่หาผู้ชายคนใหม่ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าคนแบบฉันหลินเซียวคนนี้จะหาผู้ชายที่มานอนด้วยไม่ได้ ลู่จิ้นเซิงนายมันก็แค่ของไร้ค่า นายน่ะเทียบกับผู้ชายคนอื่นแล้วเหมือนโจ๊กกบอะไรอย่างนี้”ยิ่งเธอกรีดร้องมากเท่าไหร่ ลู่จิ้นเซิงก็ยิ่งย่ำยีเธอรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ“ยังกล้าพูดอีกเหรอ! อยากจะทำให้เธอตายคาอกฉัน!”ทั้งคืนนั้น แทบจะไม่มีเวลาใดเลยที่ไม่ได้ยินเสียงร้องครางของเซียวหลิน แม่บ้านในคฤหาสน์หลังงามก็ต่างทำเป็นหูทวนลม...... เมื่อได้ยินแล้วใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงและใจก็เต้นแรง ทุกครั้งที่คุณชายพาคุณหนูหลินกลับมาก็จะพาเข้าไปในห้องนั้นทุกครั้ง ราวกับว่าต้องการให้เธอถูกทรมานยังไงอย่างงั้น……ในที่สุดลู่จิ้นเซิงก็ต้องการพอแล้ว เขาผละตัวออกแล้วไปห้องน้ำเพื่ออาบน้ำเมื่อออกมาจากห้องน้ำก็พบว่าหลินเซียวยังอยู่เธอใส่เสื้อเชิ้ตของเขาแล้วติดกระดุมไว้ลวกๆ เธอเอนตัวพิงตรงหัวเตียงพร้อมยื่น
เฉียวซุนปกปิดเรื่องของคุณป้าเสิ่นเอาไว้คุณพ่อเฉียวคิดว่าเสิ่นซิงไปทำธุระสองวัน จึงต้องเปลี่ยนพยาบาลมาดูแลแทนไม่กี่วัน เขาเห็นเฉียวซุนนั่งเหม่อลอย : “ลูกกลับไปก่อนเถอะ! ที่นี่มีพยาบาลอยู่ด้วย!”เฉียวซุนส่ายหน้าตอนนี้ไม่ว่าที่ไหนเธอก็ไม่อยากไปทั้งนั้น เธอแค่อยากอยู่ที่นี่!ค่ำคืนที่เงียบสงัดคุณพ่อเฉียวเป็นคนป่วย ทนอยู่ได้ไม่นานก็ผล็อยหลับไปในที่สุดเฉียวซุนนั่งอยู่อย่างโดดเดี่ยวบนเก้าอี้ธรรมดา ๆ จมดิ่งไปกับความคิดของตัวเอง บนใบหน้าของเธอยังมีรอยสีแดงจาง ๆ จากฝีมือแม่ของไป๋เซียวเซียวอยู่เลยด้านนอกของห้องผู้ป่วย ซึ่งถูกคั่นด้วยกระจกใสบานใหญ่ลู่เจ๋อยืนอยู่นิ่ง ๆ ตรงนั้นเขาลอบมองใบหน้าที่มีรอยแดงของหญิงสาว เขามองเธอที่กำลังเหม่อลอยนั้น เขาเห็นแววตาที่หม่นหมองของเธอ......เขาคิดถึงวันที่เธอออกจากบ้านของคุณนายหลี่อีกครั้ง แม้ว่าเธอจะยืนกรานด้วยสีหน้าที่เหน็ดเหนื่อย [ ที่จริงแล้วในอดีต ฉันก็เป็นคนแบบนี้ แต่แค่ลู่เจ๋อคุณไม่เคยระวังก็เท่านั้นเอง ] [ ลู่เจ๋อ เงินสิบล้านนั้นไม่ได้รวมกับที่นอนกับคุณหรอกนะ! ฉันจำได้ว่าคุณแยกแยะเรื่องส่วนรวมกับเรื่องส่วนตัวได้ ]……เฉียวซุนในตอนนั้
เฉียวซุนเม้มปากครุ่นคิด “ฉันอยากคุยเรื่องของคุณป้าเสิ่น”ลู่เจ๋อเอ่ยถามเสียงเบาลง “งั้นเหรอ? มาคุยที่บริษัทฉันสิ!” พูดจบเขาก็กดวางสาย ให้เวลาคิดสักนิดก็ไม่มี!ถนนในปลายฤดูใบไม้ผลิ ส่งผลให้เฉียวซุนรู้สึกหนาวสั่นสมกับเป็นลู่เจ๋อ!ตั้งแต่วันนั้นผ่านไป การกระทำที่ดูอบอุ่นของเขานั้น แค่เพื่อเกลี้ยกล่อมให้เธอกลับบ้านแต่โดยดีแค่นั้นแหละ แล้วถ้ามันใช้ไม่ได้ผล เขาก็พร้อมที่จะเปลี่ยนร่างกายเป็นลู่เจ๋อคนเดิมทันทีเย็นชา ไร้มนุษยธรรมที่สุด!เธอเก็บโทรศัพท์ลง และเลือกที่จะนั่งรถบัสไปโดยไม่ลังเลต่อรถบัสมาสองสถานี ในที่สุดก็คือตึกของลู่เฉียวพนักงานของบริษัทกลุ่มลู่เฉียวล้วนรู้จักเธอกันทั้งนั้นว่าเธอคือคุณนายลู่ แต่ไม่รู้เลยว่าเป็นคุณนายลู่ที่ลำบากเพียงใด!เลขาฉินลงมารับเธอเมื่อถึงชั้นบนสุดของตึกสูง เลขาฉินเปิดประตูห้องประธานบริษัทให้ เธอเอ่ยบอกด้วยท่าทางไม่ยินดียินร้าย: “ประธานลู่ออกไปทำธุระด้านนอก คุณนายลู่กรุณารอสักครู่นะคะ เดี๋ยวดิฉันจะไปชงกาแฟมาให้ค่ะ”ในห้องกว้างมีเฉียวซุนยืนอยู่คนเดียวเงียบๆเธอมองไปยังเปียโนหลังหนึ่ง มันถูกวางไว้เหมือนสมบัติล้ำค่าอยู่ด้านหลังตู้หนังสือของประธานล
เฉียวซุนที่ไม่ทันได้เอ่ยปากตอบ เธอถูกลู่เจ๋อดันร่างของเธอไปชนกระจกบานใหญ่และทาบกายลงบนแผ่นหลังของเธอเหมือนเป็นการบังคับให้เธอมองวิวนอกหน้าต่างตรงหน้าเขาเปล่งเสียงที่เต็มไปด้วยความอัปยศอดสู “ถ้าเดาไม่ผิด เธอยินดีพลีกายให้ฉันแลกกับการปล่อยให้ป้าเสิ่นเป็นอิสระใช่ไหม? แต่ทำไงดีล่ะ ร่างกายของเธอผ่านมือฉันมากี่รอบต่อกี่รอบ แล้วเธอยังคิดว่ามันยังมีค่าจนสามารถตีเป็นราคาได้อีกหรือไง? หรือว่าเธอจะยอมขายผ้าเอาหน้ารอดกับผู้ชายอย่างฉันอยู่ที่นี่ แต่ไม่ยอมกลับไปเป็นคุณนายลู่ที่มีเกียรติงี้เหรอ?”คำพูดขวานผ่าซากของเขา ทำให้เฉียวซุนแทบไปต่อไม่เป็นแล้วเฉียวซุนเธอจะสู้ได้ยังไงกันล่ะ?ถ้าจะให้พูด ลู่เจ๋อน่ะรู้จักร่างกายของเธอดีมาก ๆ แม้กระทั่งตอนที่เขาพูดนิ้วของเขาก็หยอกล้อกับร่างกายของเธอไม่หยุด “อดทนไว้ล่ะสาวน้อย เก็บความอยากของเธอไว้ให้มิดแล้วอย่าทำให้กางเกงฉันเลอะอะไรเด็ดขาด!”เหงื่อเม็ดใหญ่ประปรายไปตามหน้าผากสวยของเฉียวซุน เหงื่อเม็ดเล็กแทรกซึมอยู่ทั่วไรผม ชั่วขณะเฉียวซุนเอ่ยเสียงสั่นเครือออกมา “พอแล้วลู่เจ๋อ!”“พออะไรกันล่ะ? เธอเองไม่ใช่เหรอที่อยากนอนกับฉันน่ะ?”ลู่เจ๋อเผยแววความโกร
จอภาพที่ค่อย ๆ ปรากฏภาพขึ้น....วิดีโอที่สั่นเล็กน้อย เห็นเป็นหญิงสาวร่างเพรียวระหงเปิดประตูเข้ามา ไฟในห้องรับแขกสว่างจ้าทำให้เห็นใบหน้าของเฉียวซุนอย่างชัดเจนร่างของเฉียวซุนเย็นยะเยือกไปทั้งร่างลู่เจ๋อบีบคางเธอเบาๆ “ไม่กล้าดูงั้นสิ?” หลังจากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงยิ้มเยาะ “ก็เธอยืนยันเองไม่ใช่เหรอว่าเปิดประตูห้อง 6201 งั้นก็ดูให้ถึงที่สุดสิ ดูให้มันชัด ๆ ว่าแท้จริงแล้วห้องที่เธอเปิดมันคือ 6201 หรือห้อง 6202!” ในวิดีโอ เฉียวซุนเดินตรงไปยังเตียงหลังใหญ่ เตียงหลังใหญ่หรูหราสีขาว ลู่เจ๋อเอนหลังดื่มเหล้าพักผ่อนอยู่อย่างเงียบ ๆ ด้วยฤทธิ์ที่รุนแรงของแอลกอฮอล์นอกจากอาการเมาค้าง ยังมีความรู้สึกอย่างหนึ่งที่ทำให้เขาลนลานจะหาผู้หญิงมาช่วยปลดปล่อยอารมณ์นั้น แต่ว่าเขาก็เป็นคนที่จิตใจดีคนหนึ่ง แม้ว่าจะอยู่ในแวดวงธุรกิจมานาน แต่เขาไม่เคยคิดจะสานสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนกับหญิงสาวคนไหนเลยลูกกระเดือกของลู่เจ๋อขยับขึ้นลงเบา ๆ ทันใดนั้น มือเรียวคู่หนึ่งค่อย ๆ ลูบใบหน้าของเขา ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายขึ้นลู่เจ๋อค่อย ๆ ลืมตาสีแดงก่ำ ใบหน้าแดงซ่านของหญิงสาวที่ค่อย ๆ เอนตัวลงจูบที่ริมฝีปากของเขา
เฉียวซุนรู้สึกอับอายอย่างมากลู่เจ๋อทำให้เธอรู้สึกว่า แม้ว่าเธอจะมีฐานะเป็นคุณนายลู่ แต่เธอเป็นแค่ผู้หญิงที่เขาเล่นด้วย เป็นได้เพียงแค่ของเล่นของเขาแต่เพียงผู้เดียวตั้งแต่เมื่อก่อนจนถึงตอนนี้ เขาไม่เคยให้เกียรติเธอเลยสักครั้งในใจของเขา เธอก็เหมือนกับโสเภณีราคาถูก!ในห้องโสตทัศนูปกรณ์มีพื้นที่ประมาณหนึ่งร้อยตารางเมตร เสียงขอร้องอ้อนวอนแสนหดหู่ของเฉียวซุนและเสียงหอบพักหายใจอย่างมีความสุขของลู่เจ๋อดังกึกก้องไปทั้งห้อง……เขาไม่ได้รู้สึกสบายแบบนี้มานานแล้ว!ลู่เจ๋อก้มหน้ามองเฉียวซุนเขามองไม่เห็นสีหน้าเธอ ทำให้รู้สึกไม่พอใจอย่างเลี่ยงไม่ได้ เขาจับผมสีดำของเธอเบา ๆ และเอียงศีรษะจูบเธอเฉียวซุนถูกเขาครอบครองด้วยความมึนงงเธอคว้ามีดปอกผลไม้ไว้ได้ด้ามหนึ่ง เพิ่งควานหาได้ในตอนที่กำลังต่อสู้ดิ้นรนเธอรู้สึกเศร้าเสียใจและรู้สึกไร้สาระในเวลาเดียวกันเธอรู้ดีว่าเมื่อเดินออกไปจากห้องนี้แล้วเธอก็จะต้องกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม......เมื่อนั้นอาจดูเหมือนมีเกียรติ แต่กลับไม่มีร่องรอยความเป็นคุณนายลู่ของฉันเลย บางทีลู่เจ๋ออาจขังเธอไว้ในบ้าน ทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงที่น่าอับอายเฉียวซุนไม่อยากให้เป็