แชร์

บทที่ 12

ผู้เขียน: จันทร์กระจ่างภูผา
พรึ่บ!

ม่านฉีกขาดโบกพลิ้วตามสายลมยามค่ำคืน ทว่าหลังม่านกลับว่างเปล่าไม่มีผู้ใด!

หลี่เซวียนขมวดคิ้วเป็นปม!

หรือตนคิดผิดแล้ว?

เมื่อครู่รู้สึกได้อย่างชัดเจน มีคนซ่อนตัวอยู่หลังม่าน!

หรือว่า อาศัยจังหวะตอนที่ตนส่งหลี่หลงหลินเพียงครู่หนึ่ง คนๆ นั้นหนีไปแล้ว?

หลี่เซวียนหัวใจหล่นวูบ เดินไปที่โต๊ะหนังสือทันที พบว่าจดหมายมีร่องรอยถูกรื้อค้น

“แย่แล้ว!”

“ตกหลุมพรางแล้ว!”

หลี่เซวียนรู้สึกคล้ายโลกหมุน รีบคว้าโต๊ะ ไม่ได้ล้มลง

หลังจากผ่านไปนาน

ในที่สุดหลี่เซวียนก็ตั้งสติได้ รีบเรียกพบซุนกวางเสี้ยวคนสนิทของตน

ซุนกวางเสี้ยวคุกเข่าทำความเคารพ “องค์ชาย องค์ชายมีอะไรให้รับใช้พ่ะย่ะค่ะ?”

หลี่เซวียนพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ทหารหน่วยกล้าตายเตรียมไปถึงไหนแล้ว?”

ซุนกวางเสี้ยวตอบ “ทหารหน่วยกล้าตายแปดร้อยนายเตรียมพร้อมแล้วพ่ะย่ะค่ะ! เคลื่อนกำลังพลได้ทุกเมื่อ!”

หลี่เซวียนพยักหน้า “เยี่ยม! จางไป่เจิงนำทหารรักษาพระองค์หนึ่งแสนนาย เดินทางข้ามคืนออกนอกเมืองหลวงไปแล้ว เพื่อรบกับชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ! รุ่งสางวันพรุ่งนี้ เราเคลื่อนกำลังพลก่อกบฏ เปลี่ยนราชวงศ์!”

ซุนกวางเสี้ยวได้ยินเช่นนั้น ตะลึงงัน “องค์ชาย! เคลื่อนกำลังพลรุ่งสางวันพรุ่งนี้หรือพ่ะย่ะค่ะ? เร่งด่วนเกินไปหรือไม่? เวลานั้น อย่างมากทหารรักษาพระองค์ก็อยู่ไกลออกไปเพียงร้อยลี้เท่านั้น! หากพวกเขานำทัพกลับมา แผนการที่เราวางมาหลายปี จะสูญเปล่าพ่ะย่ะค่ะ!”

“ยังมีทหารพันกว่านายของตระกูลซูอีก เรายังไม่อาจทำให้พวกเขาแปรพักตร์...”

หลี่เซวียนสีหน้าเคร่งขรึม “ข้าย่อมรู้ดีว่า เร่งด่วนเกินไป! หากเตรียมการอีกสามสี่วัน ทำให้ทหารตระกูลซูแปรพักตร์มาได้ จะไม่มีข้อผิดพลาด! แต่ว่า...”

“ไม่ทันการแล้ว!”

“มีคนลักลอบเข้ามาในห้องหนังสือของข้า ขโมยจดหมายระหว่างข้ากับเผ่าหมาน!”

“พรุ่งนี้ในราชสำนัก คนๆ นี้ต้องรายงานเรื่องของข้าอย่างแน่นอน!”

“นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการเคลื่อนกำลังพลของข้า!”

“ชนะเป็นราชัน แพ้เป็นโจร ก็ขึ้นอยู่กับเรื่องนี้!”

ซุนกวางเสี้ยวตระหนักถึงความรุนแรงของเรื่องที่เกิดขึ้น พูด “เช่นนั้นจะรายงานใต้เท้าคนนั้นหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ...”

หลี่เซวียนกำหมัดแน่น ส่ายหน้า “ไม่ต้อง! ถึงอย่างไรเขาก็ดูแคลนข้ามาโดยตลอด คิดว่าข้าไม่อาจทำการใหญ่ได้! ครั้งนี้ หากข้าทำเสร็จ เขาต้องยอมศิโรราบใต้ฝ่าเท้า ก้มหัวให้ข้าแน่นอน!”

“จริงด้วย! เจ้าส่งคนไปซุ่มโจมตีระหว่างทางออกจากเมืองหลวงด้วย! เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดข้อผิดพลาด!”

ซุนกวางเสี้ยวโค้งคำนับ “พ่ะย่ะค่ะ!”

อีกด้านหนึ่ง

ซูเฟิ่งหลิงกลับถึงตระกูลซู ด้วยสภาพน่าเวทนา

หลี่หลงหลินถึงก่อนแล้ว สีหน้าฉายความผ่อนคลาย จิบน้ำชากับฮูหยินผู้เฒ่าซู

ซูเฟิ่งหลิงโมโห พุ่งตัวไปใกล้ ชี้หน้าด่าหลี่หลงหลิน “คนสารเลว! ท่านรู้หรือไม่ ท่านทำให้ข้าเกือบตาย! หากไม่ใช่เพราะข้าหนีออกมาได้ทันเวลา ข้าคงถูกองค์ชายหกจับตัวไปแล้ว!”

หลี่หลงหลินวางถ้วยน้ำชาลง พูดด้วยรอยยิ้ม “หากไม่ใช่เพราะข้าปรากฏตัวทันเวลา เจ้าอยู่ในกำมือขององค์ชายหกไปแล้ว! เจ้าควรขอบคุณข้าต่างหาก ตำหนิข้าได้อย่างไร?”

ซูเฟิ่งหลิงเดือดดาล “ขอบคุณกับผีหน่ะสิ! ท่านยังบอกอีกว่าจะหย่ากับข้า ท่านๆๆ...น่าโมโหจริงๆ!”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูพูดไกล่เกลี่ย “หลานรัก อย่าเพิ่งทะเลาะกัน! จดหมายการติดต่อระหว่างองค์ชายหกกับเผ่าหมานล่ะ? หลานเอามาได้หรือไม่?”

พวงแก้มของซูเฟิ่งหลิงแดงก่ำ ก้มหน้าลง “ไม่ได้เจ้าค่ะ ข้าเพิ่งแอบเข้าไปในห้องหนังสือ องค์ชายหกก็ปรากฏตัวแล้ว ทั้งยังเกือบจับข้าได้ ตอนหลังข้ารีบเผ่นหนี จึงลืมเรื่องจดหมายไปเสียสนิท”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูทอดถอนหายใจ “เฮ้อ! เจ้าหนอ ฝึกวรยุทธ์จนโง่เขลา! ในหัวเต็มไปด้วยเรื่องฆ่าแกง เรื่องเล็กแค่นี้ก็ทำไม่สำเร็จ...”

พู่...

หลี่หลงหลินได้ยินซูเฟิ่งหลิงถูกด่อทอ อดไม่ได้ที่จะพ่นน้ำชาในปากออกมา

ซูเฟิ่งหลิงน้อยอกน้อยใจ เห็นหลี่หลงหลินหัวเราะเยาะตนเอง ยิ่งโมโห “หัวเราะ! ท่านยังมีหน้ามาหัวเราะอีก! ทั้งหมดเป็นเพราะท่านเป็นตัวถ่วง มิเช่นนั้น ข้าคงไม่ถูกท่านย่าดุด่า...”

หลี่หลงหลินหยิบจดหมายออกมาหนึ่งฉบับจากแขนเสื้อ วางไว้บนโต๊ะ “เจ้าอย่าโยนความผิดให้ผู้อื่น! เจ้าทำพลาด เป็นเพราะตัวเจ้าโง่เขลา! แต่ข้าทำสำเร็จ!”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูและซูเฟิ่งหลิงมองไปทางเดียวกัน เห็นจดหมายมีลายมือของ ‘องค์ชายหก’ มีการลงนามของแม่ทัพจาเอ๋อร์ปาแห่งเผ่าหมาน

ซูเฟิ่งหลิงเบิกตากว้าง พูดด้วยความตกตะลึง “เป็นไปได้อย่างไร? ท่านเอามาเมื่อใด?”

หลี่หลงหลินยิ้มบางๆ “เจ้าอย่ายุ่ง! ถึงอย่างไร ก็มีหลักฐานแน่นหนาแล้ว โค่นองค์ชายหกได้แน่นอน!”

เสียงของฮูหยินผู้เฒ่าซูสั่นเทา “เปิดจดหมาย ข้าอยากดูสิว่า องค์ชายหกทำร้ายตระกูลซูอย่างไร!”

หลี่หลงหลินส่ายหน้าแล้วพูด “ไม่จำเป็น! เนื้อความในใจจดหมาย ข้าอ่านแล้ว เป็นหลักฐานการขายชาติขององค์ชายหกจริงๆ!”

“สำหรับต้าเซี่ย เป็นเรื่องอื้อฉาว ยิ่งมีคนรู้น้อยเท่าใดก็ยิ่งดี”

“หากตระกูลซูรู้เนื้อความในจดหมาย เกรงว่าเสด็จพ่อจะเกลียดแค้น!”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูได้ยินเช่นนั้น เหงื่อท่วมตัวทันที “องค์ชายเก้าพูดถูก! เนื้อความในจดหมายฉบับนี้ พวกข้าไม่อ่านจะเป็นการดีที่สุด!”

หลี่หลงหลินกดเสียงลงต่ำ พูด “แต่ว่า! พี่หกเป็นคนร้ายกาจ! เขาต้องเห็นความผิดปกติแล้ว เกรงว่าจะเป็นสุนัขจนตรอก เช้าวันพรุ่งนี้ เคลื่อนกำลังทหารก่อกบฏก็เป็นได้!”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูตกตะลึง “ก่อกบฏ? องค์ชายหกใจกล้ายิ่งนัก แต่ว่า ทหารรักษาพระองค์เดินทางออกจากเมืองหลวงแล้ว เมืองหลวงไร้กำลังทหาร ในวังหลวงเหลือทหารรักษาการณ์ไม่กี่ร้อยนายเท่านั้น!”

“หากองค์ชายหกอาศัยโอกาสนี้ก่อกบฏ แล้วจะทำอย่างไร?”

ดวงตาของหลี่หลงหลินทอประกาย “เหล่าไท่จวิน ตราพยัคฆ์ทหารตระกูลซูอยู่กับท่านหรือไม่?”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูตกใจ “ตราพยัคฆ์อยู่กับข้า! แต่ท่านจะเอาตราพยัคฆ์ไปทำอะไร? หรือว่า...”

หลี่หลงหลินพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน “ถูกต้อง! ตราพยัคฆ์นี้ เป็นกุญแจสำคัญในการพลิกสถานการณ์!”
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Wisarat Taythong
นิยายสนุกมากๆๆ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1464

    ม่านราตรีมาเยือน ความมืดมิดเข้าครอบคลุมทั่วปฐพีณ ภูเขาทิศเหนือนอกเมือง เหลือเพียงจันทร์เพ็ญดวงกลมลอยเด่นอยู่บนฟากฟ้ายามราตรีหลังจากจางอี้ได้รับคำสั่งของหลี่หลงหลินแล้ว ก็นำหน่วยองครักษ์เสื้อแพรหลายร้อยนายเข้าล้อมกระท่อมมุงฟางไว้กระท่อมมุงฟางนั้นดูธรรมดาสามัญ ด้านหลังมีป่าไผ่ผืนใหญ่รถม้าอันหรูหราคันหนึ่งค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้าสู่ภูเขาทิศเหนือหลี่หลงหลินนั่งอยู่ในรถม้า ขมวดคิ้วมุ่น จมอยู่ในภวังค์ความคิดภาพขององค์ชายห้าหลี่ชิงเฟิงปรากฏขึ้นในห้วงความคิด ใบหน้าซีดขาว ร่างกายผ่ายผอมเขาไม่อาจเชื่อมโยงภาพขององค์ชายห้าเข้ากับยอดฝีมือยุทธภพที่องค์ชายเจ็ดกล่าวถึงได้เลยคนขี้โรคเช่นนี้จะเป็นยอดฝีมือยุทธภพได้อย่างไร?หรือว่าองค์ชายเจ็ดกำลังโกหก?หลี่หลงหลินส่ายหน้าด้วยท่าทางหัวทึบแต่ร่างกายกำยำขององค์ชายเจ็ด ย่อมไม่สามารถแต่งเรื่องโกหกเช่นนี้ได้เรื่องนี้แปดเก้าส่วนคงเป็นความจริงแต่องค์ชายห้าในฐานะองค์ชาย การเคลื่อนไหวถูกจำกัดอย่างยิ่ง แล้วเขาไปเรียนวิชาฝีมือเหล่านี้มาจากที่ใด? และยังสามารถปิดบังทุกคนได้อย่างแนบเนียนโดยที่ไม่มีใครล่วงรู้?หลี่หลงหลินคิดเท่าไรก็คิดไม่ออกปริศนาข

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1463

    องค์ชายเจ็ดเหลือบมององค์ชายแปดอย่างดุดันองค์ชายแปดก็เข้าใจในทันที รีบหลบฉากออกไป “องค์รัชทายาท ไม่ทราบว่าเป็นอันใด จู่ๆ ข้าก็ปวดท้องขึ้นมา ขอตัวไปจัดการธุระส่วนตัวสักครู่...”แม้องค์ชายแปดจะเป็นคุณชายเสเพล แต่ก็มีไหวพริบไม่น้อยในเมื่อกล่าวว่าเป็นความลับสุดยอดในบรรดาความลับสุดยอด ย่อมเป็นเรื่องที่ตนเองไม่ควรได้ยินเมื่อเห็นองค์ชายแปดจากไปแล้ว องค์ชายเจ็ดจึงลดความระแวดระวังลง “องค์รัชทายาท ท่านอาจไม่ทรงทราบ พี่ห้าแม้ภายนอกจะดูเหมือนบัณฑิตที่อ่อนแอ แต่แท้จริงแล้ววรยุทธ์สูงส่งยิ่งนัก ไม่ใช่ดังที่เห็นภายนอกเลยแม้แต่น้อย...”“โดยเฉพาะวิชาตัวเบาของเขา มาไร้เงาไปไร้ร่องรอย!”หลี่หลงหลินขมวดคิ้วเล็กน้อย “จริงรึ?”องค์ชายเจ็ดกล่าวเสียงหนักแน่น “จริงแท้แน่นอน ครั้งหนึ่งข้าเคยไม่เชื่อเรื่องเหลวไหลนี้ และเคยประลองกับองค์ชายห้าหลายครั้ง อาจกล่าวได้ว่า ฝีมือของข้าเมื่ออยู่ต่อหน้าองค์ชายห้า ก็เปรียบดุจทารก ไม่อาจต้านทานได้เลยแม้แต่น้อย”หลี่หลงหลินกล่าวเสียงหนักแน่น “เช่นนั้นเจ้าหมายความว่า ฝีมือขององค์ชายห้ายังจะเหนือกว่าพระชายาอีกหรือ?”องค์ชายเจ็ดครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “เกรงว่าจะเ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1462

    องค์ชายเจ็ดผู้มีร่างสูงใหญ่กลับถูกซัดจนกระเด็นปลิวไปทั้งอย่างนั้นองค์ชายเจ็ดเสียหลัก ล้มลงไปนั่งกองกับพื้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ “นี่...นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?”พรวด! โลหิตสีแดงฉานคำหนึ่งพลันถูกกระอักลงบนพื้นซูเฟิ่งหลิงก้าวเข้าไปใกล้ ใช้ปลายทวนเงินชี้ไปยังองค์ชายเจ็ด “เจ้ายอมหรือไม่!”ใบหน้าขององค์ชายเจ็ดแดงก่ำ ชั่วขณะหนึ่งถึงกับพูดไม่ออกเขาพ่ายแพ้แก่สตรีธรรมดานางหนึ่ง!ความแข็งแกร่งที่เคยภาคภูมิใจนักหนา พลันมลายสิ้นในพริบตา!แม้องค์ชายเจ็ดจะไม่เต็มใจอย่างที่สุด แต่แพ้ก็คือแพ้เขายกมือขึ้นประสานหมัด กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “พระชายา ข้าน้อยยอมแล้ว! แพ้อย่างหมดใจ ขอยอมศิโรราบ!”“ท่านทำให้ข้าได้ประจักษ์แล้วว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน”ซูเฟิ่งหลิงเก็บทวนเงินกลับ แค่นเสียงเย็นชาคราหนึ่ง “ตอนนี้เจ้าควรขอบคุณแม่ทัพจางที่มิได้ลงมือกับเจ้าในครานั้น มิเช่นนั้นชีวิตของเจ้าคงยากจะรักษาไว้ได้!”“ฝีมือของแม่ทัพจางนั้นทัดเทียมกับข้า หากมิใช่องค์รัชทายาทเพิ่งจะกำชับให้ข้าออมมือไว้ เพื่อมิให้ทำอันตรายถึงชีวิตเจ้า ป่านนี้เจ้าคงกลายเป็นศพภายใต้ทวนของข้าไปแล้ว!”องค์ชาย

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1461

    องค์ชายเจ็ดพลันเดือดดาลขึ้นมาทันที “องค์รัชทายาท เจ้าคงจะดูแคลนข้าเกินไปแล้วกระมัง!”หลี่หลงหลินแค่นเสียงเย็นชา “มิใช่ข้าดูแคลนเจ้า ด้วยความสามารถของเจ้าในตอนนี้ แม้แต่พระชายาองค์รัชทายาทก็ยังเอาชนะไม่ได้ ยิ่งมิต้องพูดถึงจางไป่เจิง เจ้ามิใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลยแม้แต่น้อย”องค์ชายเจ็ดพลันเดือดดาลอีกครา “องค์รัชทายาท เจ้าดูแคลนข้าเกินไปแล้ว!”หลี่หลงหลินยังคงแค่นหัวเราะ “มิใช่ข้าดูแคลนเจ้า ด้วยฝีมือของเจ้าในยามนี้ แม้แต่พระชายาเจ้าก็ยังสู้ไม่ได้ อย่าว่าแต่จะไปคิดต่อกรกับจางไป่เจิงเลย”องค์ชายเจ็ดเหลือบมองซูเฟิ่งหลิงแวบหนึ่งแล้วแค่นเสียงเย็นชา “สตรีธรรมดานางหนึ่ง ข้าไม่ลดตัวไปสู้กับนางหรอก”ซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วเล็กน้อย “องค์ชายเจ็ด เจ้าพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”ซูเฟิ่งหลิงฝึกยุทธ์มาตั้งแต่เยาว์วัย จิตใจรักการเอาชนะและไม่ยอมคนอย่างยิ่งนางย่อมไม่อาจทนให้ใครมาดูแคลนตนเองได้!องค์ชายเจ็ดกล่าวว่า “พระชายา แม้กองทัพตระกูลซูของเจ้าจะห้าวหาญเก่งกาจในการรบ แต่นั่นก็ไม่เกี่ยวกับเจ้า สตรีธรรมดาเช่นเจ้าอย่าได้อวดดีแถวนี้ ประเดี๋ยวจะหาว่าข้าไม่เตือนหากต้องเจ็บเนื้อเจ็บตัว!”ซูเฟิ่งหลิงพลัน

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1460

    จวนอ๋ององค์ชายเจ็ดหลี่หยวนกำลังฝึกยิงธนูอยู่ภายในลานฝึกเขาอายุไล่เลี่ยกับองค์ชายแปด แต่เพราะตากแดดตากลมอยู่เสมอ เห็นได้ชัดว่าเป็นผู้ใหญ่อย่างมาก ผิวพรรณดำมืด ไว้หนวดเครา สวมใส่เกราะทั้งตัว ขับเน้นให้องอาจยิ่งขึ้นบ่าวจวนอ๋องวิ่งเหยาะๆ มาหยุดข้างกายองค์ชายเจ็ด พูดรายงานว่า “ท่านอ๋อง รัชทายาทมาเยี่ยม พูดว่ามีเรื่องต้องการพบท่าน...”องค์ชายเจ็ดไม่ตอบ ปล่อยลูกธนูออกจากคันศรแล้วสวบ!ยิงตรงกลางเป้าพอดีองค์ชายเจ็ดพูดเสียงเคร่งขรึม “ให้เขาเข้ามาเถอะ”หลังเวลาครึ่งก้านธูปผ่านไปองค์ชายแปดพาหลี่หลงหลิเข้าลานฝึกเขาก้าวเดินด้วยท่าทางยโสโอหัง ร้องตะโกนว่า “พี่เจ็ด ข้าพารัชทายาทมาเยี่ยมท่าน!”องค์ชายเจ็ดวางธนูในมือลง กล่าวทักทาย “กระหม่อมคารวะรัชทายาท”หลี่หลงหลินพูดเสียงเคร่งขรึม “ลุกขึ้นเถอะ”องค์ชายเจ็ดลุกขึ้น จัดเกราะให้เรียบร้อยแล้วเอ่ยถาม “องค์ชาย วันนี้ลมอะไรหอบท่านมาได้เล่า?”องค์ชายเจ็ดและหลี่หลงหลินไม่เคยติดต่อกันมาก่อนต่อให้พูดว่าล้วนเป็นองค์ชาย แต่หลี่หลงหลินคนเสเพลคนนี้มีเพียงองค์ชายแปดยอมขลุกอยู่กับเขาต่อให้สุดท้ายเขาได้เป็นรัชทายาท แต่ก็ทำเรื่องเหลวเหลวมากมายอ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1459

    องค์ชายแปดแปลกใจ พูดล้อเล่นขึ้นมา “องค์ชาย ท่านถามละเอียดเพียงนี้ คงไม่ใช่ต้องการช่วยจางไป่เจิงพลิกคดีหรอกกระมัง?”“ตอนนี้เขาเป็นคนใกล้ตายแล้ว ขวัญกล้าล่วงเกินเสด็จแม่ ได้รับโทษก็สมควรแล้ว ใครช่วยพูดแทนเขาก็ไม่มีประโยชน์ ท่านอย่าเสียแรงเปล่าเลย ยังไม่สู้คิดเรื่องหาความสำราญ เหตุใดต้องเสียเวลาอยู่กับคนตายคนหนึ่งด้วยเล่า?”หลี่หลงหลินพูดเสียงเครียด “ไม่ ตอนนี้ข้าสงสัยว่าจางไป่เจิงกำลังถูกปรักปรำ เหล้าของเขาถูกวางยาพิษ”“เหล้าของเขาถูกวางยาพิษ?!” เหงื่อเย็นผุดบนแผ่นหลังองค์ชายแปด “นึกถึงการกระทำของจางไป่เจิงในวันนั้นก็ผิดปกติอยู่บ้างจริงๆ ด้วยความคอแข็งของเขาดื่มเหล้าเพียงสองสามจอกย่อมไม่เมามายถึงขั้นนั้น”แววตาหลี่หลงหลินทอประกาย สบมององค์ชายแปด “ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ข้ายังกล้ายืนยัน ตอนนี้คนร้ายก็คือหนึ่งในพวกเจ้าบรรดาองค์ชายทั้งสาม”องค์ชายแปดชะงักไป สีหน้าเผือดซีด รีบอธิบาย “องค์ชาย ต่อให้มอบความกล้าให้ข้ามากเพียงใด ข้าก็ไม่กล้าวางแผนปรักปรำจางไป่เจิง ต่อให้ข้าไม่อยากออกรบ ก็ไม่มีความคิดปรักปรำทำลายเขา...”หลี่หลงหลินพูดเสียงเคร่งขรึม “ข้าไม่ได้พูดว่าเป็นเจ้าเสียหน่อย ตลอดงานเลี้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status