ท้องฟ้ากว้างใหญ่ ทุ่งหญ้าทอดยาวไปสุดลูกหูลูกตาบนทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ไร้ขอบเขตลมหนาวอันเยือกเย็นพัดผ่านค่ายพักของชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ พัดกระโจมขนสัตว์หลายร้อยหลังให้ไหวเอนเสิ่นชิงโจว บัดนี้ดำรงตำแหน่งราชครูแห่งตงอิ๋ง เดินทางมาเป็นทูตที่ชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ พอมาถึงค่ายพักก็ถูกท่านข่านนำไปยังกระโจมที่ใหญ่ที่สุดภายในกระโจมอบอุ่นราวฤดูใบไม้ผลิ เหล่านางระบำจากแดนตะวันตกผู้เย้ายวนกำลังร่ายรำอย่างงดงาม ท่วงท่าอ่อนช้อย มีเสน่ห์อย่างยิ่งข่านยกชามเงินขึ้น “ทุกท่าน ราชครูเสิ่นเดินทางมาไกลพันลี้ เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง มายังชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ นับเป็นการสร้างคุณูปการอันไม่อาจลบเลือนให้แก่สะพานมิตรภาพระหว่างตงอิ๋งและชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ ขอให้พวกเราดื่มสุราจอกนี้ให้หมด เพื่อต้อนรับราชครูเสิ่น!”ทุกคนต่างยกจอกสุราตรงหน้าขึ้น ดื่มสุราเลิศรสจนหมดสิ้นเสิ่นชิงโจววางชามเงินในมือลง “ท่านข่าน การที่ข้าได้เป็นตัวแทนตงอิ๋งมายังชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือถือเป็นเกียรติของข้า”“แต่การมาครั้งนี้ของข้า ไม่ใช่เพียงเพื่อสร้างสัมพันธ์อันดีระหว่างตงอิ๋งและชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหน
“สิ่งที่เจ้ามีก็เป็นเพียงรูปโฉมภายนอกที่งดงามเท่านั้น จะแตกต่างอะไรกับเกอิชาพวกนี้?”“อย่างน้อยพวกนางก็เชื่อฟังมากกว่าเจ้า!”“ผู้หญิงที่เชื่อฟัง ย่อมน่ารักเสมอ!”จักรพรรดิพูดพลางยื่นมือไปตบก้นเกอิชาเบาๆ ด้วยรอยยิ้มยิ่งดูเจ้าเล่ห์องค์หญิงใหญ่รู้สึกว่าตนถูกลบหลู่ สีหน้าย่ำแย่ถึงขีดสุด ก่อนจะกล่าวด้วยความโกรธว่า “จักรพรรดิ ท่านพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร? อย่างไรเสีย ข้าก็เป็นถึงองค์หญิงแห่งต้าเซี่ย เป็นกิ่งทองใบหยก...”ต้องรู้ว่า ก่อนหน้านี้องค์หญิงใหญ่เดินทางมาแคว้นตงอิ๋งในฐานะทูตแห่งต้าเซี่ย ได้รับการต้อนรับอย่างสูงส่งแต่ตอนนี้ จักรพรรดิกลับนำนางไปเปรียบเทียบกับเกอิชาชั้นต่ำเหล่านั้นนี่เป็นการดูหมิ่นกันเพียงใด!จักรพรรดิส่ายหน้าอีกครั้ง “หากเจ้ายังเป็นองค์หญิงแห่งต้าเซี่ย แน่นอนว่าจะได้รับการต้อนรับเยี่ยงแขกผู้มีเกียรติ! แต่ตอนนี้ เจ้าไม่ใช่ใครทั้งนั้น! พูดให้ถูกก็คือ องค์หญิงใหญ่แห่งต้าเซี่ยสิ้นพระชนม์ไปแล้ว!”องค์หญิงใหญ่ยืนตะลึงงันอยู่ตรงนั้น สีหน้าตกตะลึงข้าตายแล้ว?คำพูดของจักรพรรดิหมายความว่าอย่างไรกันแน่?จักรพรรดิไม่พูดพร่ำทำเพลง สั่งให้คนนำหนังสือพิมพ์วิชาการต
แคว้นตงอิ๋ง เมืองหลวงผิงอันหมู่มวลซากุระเบ่งบานสะพรั่ง เหล่าโรนินเหน็บดาบซามูไรไว้ข้างเอว ย่ำเกี๊ยะไม้ท่องราตรี เดินทอดน่องไปตามเส้นทางหินแคบๆเมืองหลวงผิงอันทั้งมวล ล้วนสร้างจำลองมาจากนครหลวงแห่งต้าเซี่ย เพียงแต่มีขนาดเล็กกว่ามาก ทุกหนแห่งจึงเผยให้เห็นความคับแคบและอึดอัดแม้แต่พระราชวังซึ่งเป็นที่ประทับขององค์จักรพรรดิ ก็ยังคงอบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งความขัดสนในยามนี้ภายในพระราชวัง มีเสียงซามิเซ็นแว่วดังออกมาเกอิชาในชุดกิโมโน ใบหน้าขาวผ่อง กำลังโบกสะบัดพัดอันจิ๋ว ขับร้องร่ายรำอย่างงดงามองค์จักรพรรดิทรงเมามายได้ที่แล้ว กำลังสั่นศีรษะโยกไปมา มือเคาะจังหวะอย่างไม่เป็นส่ำเขาเป็นบุรุษร่างเล็ก โกนผมกลางศีรษะไว้หนวดเรียวเล็ก ดวงตาจับจ้องไปยังนางเกอิชา พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แฝงความหื่นกระหายขุนนางคนสนิทผู้หนึ่งในชุดโชอิสีขาว สวมหมวกอูโบชิสีดำ ก้าวเท้าถี่ๆ เข้ามา กระซิบกระซาบข้างหูขององค์จักรพรรดิองค์จักรพรรดิเงยพระพักตร์ขึ้น แววตาเป็นประกาย “องค์หญิงใหญ่ยังไม่สิ้นชีพ! พานางเข้ามาเฝ้า!”แม้ว่าแคว้นตงอิ๋งจะเป็นประเทศราชของแคว้นต้าเซี่ย และจักรพรรดิแคว้นตงอิ๋งก็เป็นเพียงเจ้าแคว้น
มีเรื่องวุ่นวายอะไรอีก?หนิงชิงโหวกล่าวเสียงเรียบ “เพิ่งมีข่าวจากตงไห่มาว่า องค์หญิงใหญ่สิ้นพระชนม์แล้ว! ฝ่าบาททรงโศกเศร้าอย่างสุดซึ้ง ทรงมีพระประสงค์จะสร้างสุสานอย่างใหญ่โตที่ตงไห่ เพื่อถวายแด่นาง”ทุกคนตกตะลึง ภายในหอคัมภีร์เหวินยวน เงียบจนได้ยินเสียงเข็มตกเหล่าขุนนางชั้นสูงต่างเบิกตากว้าง อ้าปากค้าง สีหน้าตกตะลึงองค์หญิงสิ้นพระชนม์ ไม่ว่าในราชวงศ์ใด ล้วนเป็นข่าวร้ายยิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่สิ้นพระชนม์คือองค์หญิงใหญ่ที่ฝ่าบาททรงโปรดปรานที่สุดฝ่าบาททรงโศกเศร้าเสียพระทัยอย่างยิ่ง เหล่าขุนนางก็ควรจะร้องไห้ตามอย่างไรก็ตามเมื่อเหล่าขุนนางได้ยินข่าวนี้ สิ่งแรกคือความตกตะลึง ตามมาด้วยความดีใจอย่างบ้าคลั่ง!องค์หญิงใหญ่สิ้นพระชนม์แล้ว!มีเพียงคนตายเท่านั้น ที่จะไม่เอ่ยปากพูด!เรื่องการกบฏของตระกูลหลู่ที่ตงไห่ก็จบลงเพียงเท่านี้ ตนเองจะไม่ถูกพัวพัน!ชีวิตและตำแหน่งราชการของตนเอง ล้วนปลอดภัยแล้ว!นี่เป็นเรื่องดี!เป็นเรื่องดีอย่างยิ่ง!“ฮ่าๆๆ...”เหล่าขุนนางล้วนเป็นจิ้งจอกเฒ่าในวงราชการ ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี ไม่แสดงสีหน้าดีใจหรือโกรธแต่เมื่อได้ยินข่าวดีนี้ พวกเขากลับควบคุมอา
หลายวันต่อมาข่าวชัยชนะอันยิ่งใหญ่ที่ตงไห่ แพร่สะพัดมาถึงเมืองหลวงภายในหอคัมภีร์เหวินยวน บรรยากาศหนักอึ้งอย่างยิ่ง ขุนนางทุกคนต่างก้มหน้าเงียบงันหนิงชิงโหวในชุดขุนนาง ก้าวเข้ามาในหอคัมภีร์เหวินยวน เมื่อเห็นภาพนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ฝ่าบาท องค์รัชทายาท ได้รับชัยชนะที่ตงไห่ ทำลายล้างโจรสลัดแคว้นโวกั๋ว นี่เป็นเรื่องน่ายินดียิ่งนัก!”“เหตุใดท่านทั้งหลายจึงหน้าตาอมทุกข์ หดหู่ใจเช่นนี้?”“หรือว่า พวกท่านไม่อยากเห็นฝ่าบาทได้รับชัยชนะ?”เหล่าขุนนางเมื่อเห็นหนิงชิงโหว ก็รีบลุกขึ้นคำนับ ใบหน้าเจือด้วยความประจบสอพลอเล็กน้อยตามหลักแล้ว หนิงชิงโหวเพิ่งจะมาถึง เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นปราชญ์มหาสำนักในสำนักเลขาธิการ ในมือยังไม่มีอำนาจที่แท้จริงในสายตาของเหล่าจิ้งจอกเฒ่าที่คร่ำหวอดในวงราชการมานานปี กุมอำนาจอยู่ในมือ หนิงชิงโหวที่เป็นเพียงบัณฑิตหยิ่งยโสผู้นี้ จะนับเป็นอะไรได้?ไม่ใช่ว่าเป็นเพียงสุนัขตัวหนึ่งภายใต้บัญชาขององค์รัชทายาทหรอกหรือ?เขามีสิทธิ์ที่จะก้าวหน้าเฟื่องฟู เข้าสู่สำนักฮั่นหลิน สวมชุดปราชญ์มหาสำนัก เทียบเท่ากับตนเองเชียวหรือ?ช่างเป็นการหยามเกียรตินักปราชญ์โดยแท้!
ฮ่องเต้หวู่ไม่ลังเลที่จะเห็นแก่ความถูกต้อง ยอมสละญาติ เพื่อรักษาเกียรติยศของพระองค์ในฐานะฮ่องเต้ การกระทำเช่นนี้ไม่ถือว่าผิดผู้เป็นฮ่องเต้ ควรเด็ดขาดในการสังหารและปกครอง ให้ความสำคัญกับสถานการณ์โดยรวมและราษฎรเป็นหลักห้ามมีความใจอ่อนแบบสตรี หรือความรักใคร่ส่วนตัวเด็ดขาด“แต่เสด็จพ่อ...”หลี่หลงหลินกล่าวอย่างจนใจ “ลูกก็อยากจะแบ่งเบาภาระ! แต่ทะเลกว้างใหญ่ไพศาล การจะตามหาองค์หญิงใหญ่นั้น ไม่ต่างอะไรกับการงมเข็มในมหาสมุทร!”เขาเข้าใจความรู้สึกของฮ่องเต้หวู่ปัญหาคือ การตามหาองค์หญิงใหญ่ในทะเลอันกว้างใหญ่ และกำจัดนางเรื่องนี้เกินความสามารถของเขาจริงๆเขาเป็นคน ไม่ใช่เทพเซียนเป็นไปไม่ได้ที่จะรู้ทุกอย่าง ทำได้ทุกอย่าง“แม้แต่เจ้าก็ทำไม่ได้หรือ?”ฮ่องเต้หวู่ราวกับแก่ลงไปสิบปีในทันที ทรงเหม่อลอยไปชั่วขณะ “เช่นนั้นชื่อเสียงอันเกรียงไกรตลอดชีวิตของข้า จะไม่พังทลายลงในพริบตาหรือ?”หลี่หลงหลินยังคงสงบนิ่งดุจเมฆาลอยลม ยิ้มเล็กน้อย “เสด็จพ่อ ลูกกลับมีวิธีหนึ่งที่ง่ายและได้ผลพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หวู่ราวกับคว้าฟางเส้นสุดท้ายได้ แววตาเป็นประกาย รีบกล่าวขึ้นมาว่า “เจ้ารีบพูดมาดูสิ ว่าเป็นว