จางไป่เจิงไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าองค์ชายเจ็ดจะดื้อรั้นหัวแข็งถึงเพียงนี้!เขาตวาดใส่ทหารที่มารายงานเสียงกร้าว “ทำไมเจ้าไม่ห้ามเขาไว้ในตอนนั้น!”จางไป่เจิงรู้ดีแก่ใจว่าเรื่องนี้ร้ายแรงเพียงใด!ถึงแม้องค์ชายเจ็ดจะเป็นเพียงแม่ทัพยศรองในกองทัพตำแหน่งไม่ได้สูงส่งอะไรแต่เขาก็คือสายเลือดของฮ่องเต้หวู่!ถึงแม้ฮ่องเต้หวู่จะทรงอนุญาตให้องค์ชายเจ็ดติดตามเขามาฝึกฝนในสนามรบแต่นั่นก็เป็นเพราะทรงไว้วางใจเขา!ทรงทราบดีว่าองค์ชายเจ็ดจะไม่เกิดเรื่องไม่คาดฝันใดๆ ในกองทัพไม่ได้หมายความว่าฮ่องเต้หวู่จะไม่สนพระทัยความเป็นความตายขององค์ชายเจ็ดฮ่องเต้หวู่เพิ่งจะประสบกับความเจ็บปวดจากการสูญเสียพระโอรส ยังไม่ทันได้ก้าวออกจากเงามืดนั้นเลยหากในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ จางไป่เจิงยังจะเอาเกลือไปทาแผลของฮ่องเต้หวู่ซ้ำอีกฮ่องเต้หวู่จะต้องทรงพระพิโรธอย่างแน่นอน!ถึงเวลานั้น จางไป่เจิงผู้นี้คือผู้รับผิดชอบคนแรก!พิชิตชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือไม่ได้ก็ไม่เป็นไรแผ่นดินต้าเซี่ยยังคงอยู่ สักวันหนึ่งย่อมต้องพิชิตชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือได้แต่หากองค์ชายเจ็ดต้องมาตายในสนามรบต่อให้จางไป่เจิงมีอิทธิฤทธิ์ป
จางไป่เจิงยิ้มเย็นชาแล้วกล่าวว่า “นี่แหละคือส่วนที่อำมหิตที่สุดของแผนการนี้!”ซูเฟิ่งหลิงมีสีหน้าไม่เข้าใจจางไป่เจิงอธิบายว่า “อันที่จริง ความเป็นความตายของคนแก่ เด็ก และสตรีเหล่านี้ไม่ได้สำคัญอะไรกับต้าเซี่ยเลย”“ความเป็นความตายของพวกเขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลของสงครามได้”“แต่หากราชสำนักชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ชัยชนะและความพ่ายแพ้ก็จะถูกตัดสินทันที!”“ชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือจะต้องพ่ายแพ้ ไม่มีทางชนะได้อย่างแน่นอน”ซูเฟิ่งหลิงเบิกตากว้าง “ทำไมหรือ?”จางไป่เจิงยิ้มเย็นชา “เพราะแผนการนี้เป็นการวางกับดักชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือตั้งแต่ต้น ไม่ว่าพวกเขาจะเลือกเดินหมากตาไหน ผลลัพธ์ก็เหมือนกัน”“ในกองทัพชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือมีเสบียงอาหารน้อยอยู่แล้ว หากดึงดันที่จะช่วยคนแก่ เด็ก และสตรีมากมายขนาดนี้กลับไปอีก สถานการณ์ขาดแคลนอาหารจะยิ่งเลวร้ายลง ถึงเวลานั้นไม่ใช่แค่คนเหล่านี้ที่จะต้องอดตาย แม้แต่เหล่าทหารก็จะไม่มีอะไรกิน”“คนแก่ เด็ก และสตรีเหล่านี้ นอกจากจะมีปากไว้กินข้าวแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์อื่นใดอีก”“จะให้บุกตะลุยฝ่าแนวข้าศึกก็ทำไม่ได้ จะให้ออกรบก็ย
หลี่หลงหลินกล่าวว่า “ถึงแม้กองกำลังหลักของชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือจะไม่ออกมาช่วยเหลือคนแก่ เด็ก และสตรีที่ไร้บ้านเหล่านี้ พวกเขาก็จะมุ่งหน้าไปยังทิศทางของราชสำนักชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือด้วยตนเอง”อย่างไรเสีย กองกำลังหลักของชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือก็ล้วนมาจากเมืองต่างๆ เหล่านี้คนแก่ เด็ก และสตรีเหล่านี้มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นแม่ ภรรยา หรือลูกของพวกเขาพวกเขาไม่มีทางนิ่งเฉยดูดายได้อย่างแน่นอนแม้จะเป็นเผ่าหมาน พวกเขาก็ยังมีความเป็นมนุษย์พวกเขาไม่ใช่เครื่องจักรที่เย็นชาไร้ความรู้สึกซูเฟิ่งหลิงเผยสีหน้าประหลาดใจ “องค์รัชทายาท แต่ทำเช่นนี้จะหาราชสำนักชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือพบจริงๆ หรือเพคะ?”“ในทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ไพศาลเช่นนี้ ลำพังคนแก่ เด็ก และสตรีเหล่านี้คงเดินไปได้ไม่ไกลนัก”“ราชสำนักชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือในตอนนี้เกรงว่าจะยังอยู่ห่างจากเราพอสมควร”ในมุมมองของซูเฟิ่งหลิงเชลยเหล่านี้เกรงว่าแม้แต่จะเดินออกจากเมืองซงหลินยังลำบากยิ่งไม่ต้องพูดถึงการตามหาราชสำนักชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือที่อยู่ลึกเข้าไปในทุ่งหญ้าในทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่นี้ ต้าเซี่ยส่งทหารชั้
จางไป่เจิงเอ่ยขึ้นช้าๆ “องค์รัชทายาท ทำเช่นนี้เกรงว่าจะไม่เหมาะกระมัง... อย่างไรเสียกฎหมายต้าเซี่ยก็มีคำสั่งห้ามมิให้เกิดเรื่องเช่นนี้อย่างชัดเจน”“อีกอย่าง ข้ารบมาทั้งชีวิต ยังไม่เคยเจอสถานการณ์เช่นที่องค์รัชทายาทตรัสมาก่อน”หลี่หลงหลินกล่าวว่า “ท่านแม่ทัพจาง ท่านไม่เคยเจอไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีเหตุผล”“อย่างไรเสีย ต่อให้แม่ทัพในกองทัพจะวางแผนเก่งกาจเพียงใด หากไม่มีเหล่าทหารสู้ตายอยู่ที่แนวหน้า ก็ไม่อาจคว้าชัยชนะมาได้”“บัดนี้เหล่าทหารรบชนะมาหลายครั้งแล้ว ย่อมต้องให้รางวัลปลอบขวัญอย่างงาม”“ส่วนเรื่องที่ท่านแม่ทัพกังวล หากเสด็จพ่อทรงตำหนิลงมา ข้าจะรับไว้เอง จะไม่ให้โทษไปถึงท่านอย่างแน่นอน”จางไป่เจิงคิดแล้วคิดอีก ในที่สุดก็ยอมตกลงในเมื่อเป็นสิ่งที่หลี่หลงหลินต้องการจะทำ เกรงว่าคงไม่มีใครหยุดเขาได้จางไป่เจิงกล่าวว่า “ในเมื่อองค์รัชทายาทตรัสเช่นนี้แล้ว ก็จงทำตามที่องค์รัชทายาทตรัสเถิด!”“ไม่ว่าอย่างไร ครั้งนี้เหล่าทหารก็ลำบากกันมากจริงๆ สมควรให้รางวัลแก่พวกเขาบ้าง”จางไป่เจิงมองไปยังซูเฟิ่งหลิง “จงนำคำสั่งของข้าไปประกาศ นำของที่ริบได้ทั้งหมดนี้แจกจ่ายให้เหล่าทหาร!”ซูเฟิ่
เบื้องหน้าเมืองซงหลินใบหน้าของเหล่าทหารเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มแห่งชัยชนะ เผยให้เห็นความซื่อตรงอันเป็นเอกลักษณ์ของชายชาวต้าเซี่ยเมื่อเหล่าทหารได้เห็นหลี่หลงหลิน ต่างก็ชูแขนขึ้นโห่ร้องหากมิใช่เพราะหลี่หลงหลินช่วยรักษาอาการตาบอดกลางคืนของพวกเขาในครั้งนั้น สงครามครั้งนี้คงไม่ราบรื่นและสะใจถึงเพียงนี้!“องค์รัชทายาททรงพระปรีชา!”“องค์รัชทายาททรงเกรียงไกร!”“...”หลี่หลงหลินแย้มยิ้มเล็กน้อย พลางโบกมือให้เหล่าทหารหลังจากรักษาอาการตาบอดกลางคืนแล้ว พลังรบของทหารม้าเหล็กต้าเซี่ยก็เพิ่มขึ้นอย่างน้อยหนึ่งระดับในอนาคต ความเร็วในการยึดเมืองจะยิ่งรวดเร็วยิ่งขึ้น!รอยยิ้มบนใบหน้าของเหล่าทหารก็จะยิ่งมีมากขึ้นหลี่หลงหลินเดินฝ่าเหล่าทหารมายังเบื้องหน้าเมืองซงหลินก็เห็นทรัพย์สมบัติเงินทองที่ยึดมาได้จากในเมืองกองอยู่หน้าประตูเมือง และยังมีม้าชั้นดีอันเป็นเอกลักษณ์ของชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนืออีกหลายตัวซูเฟิ่งหลิงมองไปยังจางไป่เจิงแล้วกล่าวว่า “ท่านแม่ทัพจาง ทรัพย์สินเงินทองและม้าเหล่านี้ล้วนเป็นของที่ยึดมาได้จากในเมืองซงหลินหลังจากตีเมืองสำเร็จ ข้าให้ทหารนำทั้งหมดมากองไว้ที่นี่แล้ว”“ท่าน
ขวานผ่าภูเขาขนาดมหึมาฟาดฟันเข้าใส่ซูเฟิ่งหลิงราวกับพายุคลั่งซูเฟิ่งหลิงไม่ลังเลแม้แต่น้อย นางยกทวนขึ้นรับนางรู้ดีว่ายิ่งเป็นสถานการณ์เช่นนี้ ยิ่งไม่อาจหลบหนีต้องใช้กำลังหักล้างด้วยกำลัง!เสียงขวานและทวนปะทะกันราวกับเสียงตีเหล็ก จนถึงขั้นมีประกายไฟกระเด็นออกมาการต่อสู้ระหว่างซูเฟิ่งหลิงและเซียวลี่นั้นรวดเร็วจนน่าตื่นตาตื่นใจภายใต้กระแสลมที่รุนแรงแผ่กระจายออกไปทหารชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือนายหนึ่งหลบไม่ทัน ถูกทวนยาวของซูเฟิ่งหลิงแทงทะลุศีรษะจนระเบิด!หากขวานผ่าภูเขาของเซียวลี่คือกระทิงที่มิอาจต้านทานทวนยาวของซูเฟิ่งหลิงก็คือมังกรวารีในสายน้ำ พลิกแพลงนับพันหมื่น ใช้ความอ่อนโยนสยบความแข็งกร้าว คอยหาโอกาสแทงเข้าใส่ร่างของเซียวลี่ ทำให้ร่างกายกำยำของเขาพรุนไปด้วยบาดแผลเกิดเป็นดอกไม้โลหิตเบ่งบานขึ้นทีละดอก ทีละดอกแกร็ก!ซูเฟิ่งหลิงหาจังหวะได้เหมาะเจาะ นางไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย ออกแรงตวัดเพียงครั้งเดียวก็ส่งขวานผ่าภูเขาในมือของเซียวลี่ลอยกระเด็นออกไปขวานผ่าภูเขาหนักร้อยชั่งในมือของเซียวลี่หล่นลงมาทับทหารชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือนายหนึ่งตายทันทีเขามองไปยังขวานที่อยู่ไก