แชร์

บทที่ 448

ผู้เขียน: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
เมื่อเห็นชายหนุ่มชุดขาวขู่ว่าจะล้างบางค่ายป้องกันไป๋หยาง ชายอารมณ์ร้อนคนหนึ่งก็ตะโกนขึ้นทันที

“ลูกพี่ พวกเราสู้กับเขาเถอะ!”

“นั่นสิ พวกเรามีกันตั้งหลายร้อยคน ยังจะต้องกลัวเขาอีกรึ!”

“มาช่วยกันสับมันให้สิ้นเสีย!”

ทุกคนต่างออกความคิดเห็นอย่างกระตือรือร้น

ชายหนุ่มชุดขาวมองอีกฝ่ายอย่างเย็นชา ขณะนั้นก็มีจิตสังหารพุ่งออกมาจากตัวเขา!

เมื่อเห็นสถานการณ์ตรงหน้า หยางอวิ๋นก็รีบตะโกน “พวกเจ้าทุกคนหุบปากเดี๋ยวนี้!”

เขาแอบวิตกกังวลอยู่ในใจ ชายหนุ่มชุดขาวผู้นี้เป็นผู้แข็งแกร่งระดับปฐพีอย่างแท้จริง หากเขาทำให้อีกฝ่ายโมโหขึ้นมา ค่ายป้องกันไป๋หยางคงจะถูกล้างบางจนนองเลือดจริง ๆ

คนที่ถูกเขาตวาดใส่ก็รีบปิดปากอย่างเชื่อฟัง

หยางอวิ๋นยกมือคำนับไปทางชายหนุ่มและถามอย่างระมัดระวัง “ท่านจอมยุทธ ข้าขอบังอาจถามว่าในเมื่อท่านมิได้คิดจะปล้นเสบียง เหตุใดท่านจึงประสงค์ให้พวกเราทำการสังหารหมู่กองกำลังขนส่งเสบียง ท่านมีความแค้นกับพวกเขาหรือ?”

“เจ้านี่พูดมากนัก!”

ชายหนุ่มชุดขาวชักกระบี่ออกมาอย่างเหลืออด

ปราณแห่งกระบี่อันเฉียบคมรุนแรงพุ่งผ่านอากาศ

ช่วงเวลาต่อมา ก็มีเสียงกรีดร้องดังก้องในหูของหยางอวิ๋น

เมื่อทุ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 449

    “แล้วหากเขามิพอใจเล่า?”“เช่นนั้นก็ต้องลงมืออย่างเด็ดขาดแล้ว อย่างไรก็ต้องพูดคำเดิม พวกเราไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว”เมื่อได้ยินเช่นนั้นทุกคนก็เงียบไปพวกเขามิใช่โจรชั่วและพวกเขาก็มิเคยทำเรื่องที่ทำลายจิตสำนึกของตัวเองแต่วันนี้กลับมีคนหน้ามิอายบางคนใช้สตรี เด็กและคนชราในค่ายป้องกันมาบีบบังคับพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้แค่ยอมกล้ำกลืนฝืนทนแต่โดยดีเมื่อหยางอวิ๋นโบกมือเป็นสัญญาณ ทุกคนก็รีบซุ่มอยู่บนเนินเขาทันทีขณะเดียวกันในป่าที่อยู่มิไกล มู่หรงจื่อเยียนกำลังรออย่างกระวนกระวายทันใดนั้น เงาร่างสีขาวก็ตกลงมาจากท้องฟ้า!นางรีบไปรับเขาแล้วถามว่า “ท่านพี่จื่อชิน เป็นอย่างไรบ้าง?”หนานกงจื่อชินยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “มิต้องกังวล ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุม จากนี้ไป พวกเราแค่ต้อง.ใช้กลยุทธ์ดูไฟชายฝั่งและรอโอกาสลงมือ”มู่หรงจื่อเยียนพยักหน้าเบา ๆ พลางมองออกไปนอกป่าด้วยความมิสบายใจไกลออกไปฉินซูที่นำอยู่ด้านหน้าขบวนก็หยุดม้ากะทันหันเมื่อเห็นสถานการณ์ กู้เสวี่ยเจี้ยนก็เลิกคิ้วแล้วถามว่า “หยุดด้วยเหตุใดหรือเพคะ?”ฉินซูจ้องมองทางข้างหน้าและพูดเสียงเรียบ “ทางข้างหน้าด้านหนึ่งเป็นป่าและอ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 450

    ก้อนหินไหลลงมาตามเชิงเขาเงาดำสูงใหญ่เดินขวักไขว่อยู่ท่ามกลางต้นไม้ในป่าเนื่องจากเงาดำเหล่านี้สูงใหญ่มาก ต้นไม้จำนวนมากจึงถูกทับและล้มลงส่งผลให้ในป่าเต็มไปด้วยความสับสนอลเวง“ปีศาจภูเขา! นั่นมันปีศาจภูเขา!!”เจ้าหน้าที่ของที่ว่าการอำเภอฉงซานคนหนึ่งที่อยู่ในกองกำลังขนส่งเสบียงอุทานขึ้นเมื่อเงาร่างสูงใหญ่สีดำเหล่านั้นเข้ามาใกล้ ฉินซูก็สามารถมองเห็นรูปร่างหน้าตาของพวกมันได้อย่างชัดเจน!ปีศาจภูเขาเหล่านี้มีเบ้าตาสีเข้ม คิ้วสีดำสลับขาว สันจมูกสีแดง และมีหนวดยาวที่บริเวณจมูกทั้งสองข้าง!แก้มทั้งสองข้างขาวราวหิมะ มองแวบแรกดูเหมือนใบหน้าของผีร้ายทั้งตัวของพวกมันยังถูกปกคลุมไปด้วยขนสีดำยาว แขนสองข้างหนากว่าถังน้ำ และยาวกว่าหัวเข่า รูปร่างของมันสูงใหญ่และแข็งแกร่งกว่าชิมแปนซีมากโดยเฉพาะเขี้ยวทั้งสองคู่ที่มุมปากนั้นแลดูน่าหวาดกลัวเมื่อเห็นสัตว์ประหลาดขนยาวที่สูงกว่าคนสองคนยืนต่อตัวกัน ทันใดนั้น ฉินซูก็มีสีหน้ามิพอใจ!นี่พวกเจ้าเรียกเจ้ายักษ์ใหญ่พวกนี้ว่าปีศาจภูเขารึ?!เขาไม่มีเวลาพอที่จะพูดบ่น และตะโกนใส่ทหารที่กำลังหวาดกลัวเสียงดัง “ยังจะยืนตะลึงกันอยู่อีก รีบหนีไปสิ!”“คุ้ม

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 451

    บนหน้าผากของมันมีรูแผลขนาดเท่านิ้วมือที่มิรู้ว่าปรากฏขึ้นตั้งแต่เมื่อไรและเลือดสีแดงในหัวของมันก็พุ่งออกมาจากรูแผลนั้นเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ถานเหวยก็ตกตะลึงและมิรู้ว่าใครช่วยชีวิตเขาเอาไว้ในช่วงเวลาวิกฤตินี้“ถานเหวย จะยืนตะลึงอะไรอยู่อีก รีบบังคับรถม้าพาเซี่ยหลานไปที่เนินเขาลั่วเยี่ยนทางนั้นสิ!”เมื่อได้ยินเสียงเร่งเร้าของฉินซู ถานเหวยก็ได้สติเขาพยักหน้ารัว ๆ “องค์รัชทายาทรีบขึ้นรถม้าเถิดพ่ะย่ะค่ะ เร็วเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”“เจ้าพาเซี่ยหลานไปก่อน ข้ามียอดฝีมือคอยคุ้มกันอยู่ มิเป็นอะไรหรอก เจ้ารีบไปเร็วเข้า”“ข้าน้อย… เอ่อ..."ถานเหวยลังเลเมื่อฉินซูเห็นสถานการณ์ เขาก็สบถในใจ พลางเตะถานเหวยลอยเข้าไปในรถม้าแล้วฟาดแส้ที่ก้นม้า!ม้าควบออกไปด้วยความรู้สึกเจ็บปวดเซี่ยหลานที่อยู่บนรถม้าเห็นเช่นนั้นก็เป็นกังวลมากจนเกือบจะร้องไห้ “องค์รัชทายาท ท่านรีบหนีเถิดเพคะ”“ไปรอข้าอยู่ในที่ปลอดภัย เดี๋ยวข้าจะไปหาเจ้า”หลังจากที่ฉินซูพูดจบ เขาก็คว้าหอกยาวจากมือทหารแล้วเหวี่ยงไปข้างหน้าเป็นครึ่งวงกลม ปราณวายุที่รุนแรงดุดันบีบบังคับให้ปีศาจภูเขาหลายตัวเหล่านั้นถอยหลังทหารเหล่านั้นถึงกับอึ้ง!องค

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 452

    ขณะที่หนานกงจื่อชินกำลังพูด เขาก็ทะยานตามอีกฝ่ายเข้าไปในป่ามู่หรงจื่อเยียนกระทืบเท้าด้วยความร้อนใจและไล่ตามไปอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันนางก็รีบพูดโน้มน้าว “พี่จื่อชิน อย่าเลย!”หนานกงจื่อชินหันไปจ้องนางแล้วถามว่า “จื่อเยียน ท่านหมายความว่าอย่างไร?”“ข้า… ข้าก็แค่…”มู่หรงจื่อเยียนอึกอักและอธิบายเหตุผลมิได้เมื่อเห็นเช่นนั้น หนานกงจื่อชินก็โกรธและพูดพาลใส่ “ดูเหมือนว่าข้าจะเดามิผิด ท่านชอบเจ้าสวะฉินซูนั่น หนานกงจื่อชินด้อยกว่าเขาตรงไหน ท่านถึงได้เลือกเขาแทนที่จะเป็นข้า?”“ข้า… ข้ามิรู้”คำพูดของมู่หรงจื่อเยียนได้ยืนยันสิ่งที่หนานกงจื่อชินคาดเดาไว้อย่างมิต้องสงสัยเขาโกรธมากจนกำหมัดแน่นและกัดฟันดังกรอดฉินซูสับสนงุนงง เขามองไปที่มู่หรงจื่อเยียนด้วยสีหน้าตกตะลึง และในใจของเขาก็มีความประหลาดใจขึ้นมาตัวเขามีเสน่ห์ถึงเพียงนี้เลยหรือ? แม้แต่มู่หรงจื่อเยียนที่เป็นท่านหญิงจากต่างแคว้นผู้นี้ก็ยังหลงใหลในตัวเขาอย่างนั้นหรือ?ขณะนั้น หนานกงจื่อชินระงับความโกรธและพูดว่า “จื่อเยียน ท่านไปรอข้าที่ด้านนอก ขอเพียงท่านออกไปตอนนี้ ข้าก็จะทำเหมือนว่าเรื่องเมื่อครู่มิเคยเกิดขึ้น มิเช่นนั้นเมื่อก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 453

    “บุตรแห่งนักปราชญ์หนานกง เจ้ารู้หรือไม่ว่าในใต้หล้าใบนี้ใครสามารถเก็บความลับได้นานที่สุด?” ฉินซูถามกลับด้วยท่างสบาย ๆหนานกงจื่อชินโพล่งถามออกมา “ใครกัน?”คำพูดของฉินซูสั้นแต่ได้ใจความ “คนตาย!”ม่านตาของหนานกงจื่อชินหดตัวลงอย่างรวดเร็ว หัวใจของเขาสั่นสะท้านขึ้นมากะทันหัน และบนใบหน้าฉายแววตื่นตระหนกเขากลืนน้ำลายอย่างยากลำบากพลางถอยหลังไปหลายก้าวโดยมิรู้ตัว“อย่า อย่าฆ่าข้านะ”ฉินซูค่อย ๆ เหยียดฝ่ามือออกพลางพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ต้องขออภัยด้วย เจ้ารู้มากเกินไปแล้ว!”สิ้นคำพูด ลมรุนแรงที่แสนบ้าคลั่งก็พัดออกมาจากฝ่ามือของเขา!หนานกงจื่อชินหวาดกลัวมากจนหันหลังวิ่งหนีไปอย่างมิลังเลเขาได้เปิดใช้งานปราณบริสุทธิ์ในร่างกายจนถึงขีดสุด และยังใช้วิชาตัวเบาขั้นสูงสุดอีกด้วย!แต่เขายังคงสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่ากระแสพลังฝ่ามืออันบ้าคลั่งที่อยู่ข้างหลังเขานั้นเหมือนกับเคียวของยมทูตที่เข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ“ไม่!!”เสียงที่สิ้นหวังของหนานกงจื่อชินที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังหยุดลงทันที ‘พรึ่บ’ ร่างกายของเขาถูกตบจนกลายเป็นหมอกเลือดในทันใด บุตรแห่งนักปราชญ์จากหอดารารักษ์รุ่นหนึ่งได้สลายหา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 454

    หนี!ฉินซูตัดสินใจในใจทันที เขารีบทะยานออกจากป่าโดยอุ้มมู่หรงจื่อเยียนไว้ในอ้อมแขนจนเงาร่างของเขาได้กลายเป็นภาพค้างอยู่กับที่พลังยุทธ์ของสัตว์ร่างใหญ่นี้ยังมิเป็นที่ชัดเจน เขาจึงมิแน่ใจว่าจะสามารถโค่นคู่ต่อสู้ได้ในเวลาอันสั้นหากต่อสู้อย่างหุนหันพลันแล่น ยังมิต้องพูดถึงว่าตนจะเสียเปรียบหรือไม่แต่กู้เสวี่ยเจี้ยนจะต้องสังเกตเห็นพลังวรยุทธ์ของเขาแน่นอนใครจะไปรู้ว่า กู้เสวี่ยเจี้ยนจะนำเรื่องนี้ไปบอกหัวหน้าโหรหลวงหรือไม่ และเขาก็มิสามารถฆ่ากู้เสวี่ยเจี้ยนได้เช่นกัน เพราะถึงอย่างไรการเป็นสามีภรรยาเพียงแค่คืนเดียว แต่ก็มีความสัมพันธ์และความรักที่ยาวนานเหมือนร้อยคืนคิดไปคิดมา การหนีถึงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดทันทีที่ออกมาจากป่า เขาก็ตะโกนเสียงดัง “กู้เสวี่ยเจี้ยน หากสลัดพ้นแล้วจงไปเจอกันที่เชิงเขาลั่วเยี่ยน ถานเหวยและคนอื่น ๆ กำลังรออยู่ที่นั่น”เขาตะโกนเสียงดังเพื่อมิให้ปีศาจภูเขายักษ์ที่อยู่ข้างหลังเขาโจมตีกู้เสวี่ยเจี้ยน จากนั้นเขาก็หันหลังกลับมาปล่อยกระแสพลังฝ่ามือสองสายใส่คู่ต่อสู้“โฮก โฮก!!”ปีศาจภูเขายักษ์คำรามสองครั้งและทำให้กระแสพลังฝ่ามือของฉินซูสลายไปได้อย่างง่ายดาย

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 455

    “ยังน่ะสิ เขาสั่งให้พวกข้ามากันก่อน ทั้งยังบอกอีกว่ามียอดฝีมือคอยคุ้มกันเขาอยู่ จะมิเป็นอะไรแน่นอน...”“แย่แล้ว!!”ใบหน้าที่งดงามของกู้เสวี่ยเจี้ยนซีดลง นางทะยานขึ้นหลังม้าและควบไปทางหน้าผาที่พังทลายเมื่อเห็นสถานการณ์ เซี่ยหลานก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ และคิดจะควบม้าตามไปถายเหวยที่อยู่ด้านข้างเห็นเช่นนั้นจึงรีบห้าม “ท่านใต้เท้าเซี่ยอย่าเพิ่งวู่วาม ยอดฝีมือท่านนั้นที่อยู่เบื้องหลังองค์รัชทายาทมีวรยุทธ์แก่กล้า มีเขาคอยคุ้มกันอยู่ องค์รัชทายาทจะมิทรงเป็นอะไรแน่นอนขอรับ”“แต่ดูกู้เสวี่ยเจี้ยนมีท่าทางรีบร้อนเช่นนั้น ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นกับองค์รัชทายาทแน่ ข้ามิอาจวางใจได้”“คนดีเช่นองค์รัชทายาทสวรรค์ย่อมคุ้มครอง กว่าพวกเราจะหนีพ้นมาได้นั้นมิใช่เรื่องง่าย หากท่านกลับไปอย่างเร่งรีบในตอนนี้ แล้วตกไปอยู่ในมือของปีศาจภูเขาเหล่านั้นอีกครั้ง จะมิเป็นการสร้างปัญหาให้องค์รัชทายาทหรอกหรือขอรับ”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซี่ยหลานก็ล้มเลิกความคิดที่จะไล่ตามไป นางสวดภาวนาในใจอย่างเงียบ ๆ และหวังว่าฉินซูจะกลับมาอย่างปลอดภัยเมื่อกู้เสวี่ยเจี้ยนกลับมาที่หน้าผา นางก็ตะโกนเสียงดัง“องค์รัชทายา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 456

    ฉินซูดีดนิ้วปล่อยพลังใส่ค้างคาวเหล่านั้นร่วงลงไปที่พื้นเขาพูดอย่างมิสบอารมณ์ “แค่ค้างคาวเท่านั้นเอง กลัวปานนั้นเลยรึ?”มู่หรงจื่อเยียนมองเขาอย่างขุ่นเคือง “เป็นสตรีก็ต้องกลัวเป็นธรรมดาอยู่แล้ว แถมที่นี่ก็ยังมืดและน่ากลัว หม่อมฉันขนลุกไปหมดแล้ว”“เจ้าขี้กลัวเช่นนี้แต่ก็ยังมากับหนานกงจื่อชินเพื่อสกัดกั้นและสังหารข้าน่ะรึ?”“ท่านเข้าใจผิดแล้ว จริง ๆ แล้วข้า… ข้าคิดจะเกลี้ยกล่อมเขามิให้ลงมือทำร้ายท่านต่างหากเล่า”ฉินซูยิ้มเจ้าเล่ห์ร้ายกาจและถามหยอกเย้า “ที่หนานกงจื่อชินบอกว่าเจ้าชอบข้านั่นคงมิใช่เรื่องจริงหรอกกระมัง?”ใบหน้าที่งดงามของมู่หรงจื่อเยียนเปลี่ยนเป็นสีแดง พลางหลบเลี่ยงมิกล้าจ้องตาของฉินซูตรง ๆนางก้มหน้าขยำชายเสื้อแน่นและมิพูดอะไรเมื่อเห็นเช่นนั้นแล้ว ฉินซูก็มองความคิดของนางออกแต่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาไม่มีอารมณ์จะมาพูดเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ จึงเปลี่ยนเรื่อง “ไปเถิด หาทางออกก่อนแล้วค่อยว่ากันทีหลัง”จากนั้นเขาก็หยิบพับไฟพกพามาจากอ้อมอกพลางจุดไฟแล้วมองไปรอบ ๆ“ท่านรอหม่อมฉันด้วย!”มู่หรงจื่อเยียนตามไปด้วยสีหน้าเขินอาย จากนั้นก็กอดแขนของฉินซูอย่างแน่นหนาโดยมิเอ่ยคำอธิบา

บทล่าสุด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 716

    กู้เสวี่ยเจี้ยนถามด้วยความประหลาดใจอย่างยิ่ง “ท่านว่ากระไรนะ? หนานเยวี่ยถูกทำลายแล้วหรือ?”“ใช่ เพิ่งได้รับข่าวเมื่อมินานมานี้ ฉินซูใช้กลอุบายเล็กน้อยก็บีบบังคับให้ทหารหนานเยวี่ยแสนนายยอมจำนน จากนั้นยังนำทหารชั้นยอดเพียงหมื่นนายบุกเข้ายึดเมืองหลวงของหนานเยวี่ย และสังหารเชื้อพระวงศ์หนานเยวี่ยจนหมดสิ้น”“มิจริงกระมัง? ท่านแน่ใจหรือว่าข่าวนั้นเป็นความจริง?” กู้เสวี่ยเจี้ยนแสดงสีหน้าเหลือเชื่อซ่างกวนอวิ๋นซีกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ข่าวนี้เป็นความจริงทุกประการ ต้องยอมรับว่าองค์รัชทายาทผู้รอวันปลดแห่งต้าเหยียนผู้นี้พอมีฝีมืออยู่บ้าง หากเขามา บางทีอาจจะช่วยข้าได้”“ท่านต้องการให้ฉินซูช่วยท่านทำกระไรหรือ?” กู้เสวี่ยเจี้ยนมองซ่างกวนอวิ๋นซีด้วยความหวาดระแวง“ถึงเวลานั้นเจ้าก็จะรู้เอง เอาเถอะ เจ้าลงไปได้แล้ว ข้าจะฝึกวิชา”ซ่างกวนอวิ๋นซีออกคำสั่งไล่แขกดื้อ ๆกู้เสวี่ยเจี้ยนเบะปากแล้วหันหลังเดินลงบันไดไปซ่างกวนอวิ๋นซีกลับไปยังห้องฝึกตน จากนั้นก็ร่ายเวทด้วยสองมือ ตวัดนิ้วส่งพลังปราณไปยังกระจกทองเหลืองบานหนึ่งในเวลาเดียวกันภายในสำนักหอดูดาวหลวงแห่งต้าเหยียนเหลยเจิ้นกำลังนั่งสมาธิบำเพ็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 715

    มู่หรงเซี่ยวเทียนอธิบายว่า “คุณชายหยวน เทพธิดาซ่างกวนกำลังกักตนบำเพ็ญเพียรอยู่จริง ๆ หากท่านมิเชื่อ ท่านสามารถไปดูที่หอดารารักษ์ได้”“ข้าต้องไปแน่ ข้าขอพูดตามตรง ครั้งนี้ที่ข้ามาก็เพื่อสู่ขอนาง เทพธิดาซ่างกวน ข้าจะต้องแต่งกับนางให้ได้!”“การได้รับความเมตตาจากคุณชายหยวนนับเป็นบุญของเทพธิดาซ่างกวน คุณชายหยวนโปรดวางใจ เมื่อนางออกจากด่านกักตนบำเพ็ญเพียรแล้ว ข้าจะทำหน้าที่เป็นพ่อสื่อให้ท่านด้วยตนเอง”หยวนหัวยิ้มประสานมือคารวะมู่หรงเซี่ยวเทียน “เช่นนั้น ก็ขอบพระทัยฝ่าบาทแห่งเป่ยเยี่ยนยิ่งนัก”"คุณชายหยวนเกรงใจเกินไปแล้ว เชิญเถิด"จากนั้น มู่หรงเซี่ยวเทียนก็นำคณะของแคว้นฉีเข้าเมืองในหมู่เชื้อพระวงศ์แห่งเป่ยเยี่ยน หญิงสาววัยสิบแปดสิบเก้าปีคนหนึ่งแค่นเสียงเบา ๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเคือง ว่า “หึ แคว้นฉีพูดเสียดิบดีว่าจะส่งองค์รัชทายาทมาตรวจราชการ เสด็จพ่อจึงเสด็จออกไปต้อนรับด้วยพระองค์เอง ใครจะคิดว่าคนที่มาจะเป็นเพียงบุตรชายของอ๋องเซียงหยาง ช่างมิเห็นหัวคนเสียนี่กระไร”“ใครว่ามิจริงเล่า ข้าเองก็รู้สึกแย่พอกัน หากเป็นอ๋องเซียงหยางเสด็จมาด้วยตนเอง เสด็จพ่อเสด็จออกไปต้อนรับก็ยังพอว่า แต

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 714

    เป่ยเยี่ยนทั่วทั้งเมืองจินหลิงตกอยู่ภายใต้การวางกำลังที่เข้มงวดภายในเมืองหลวงอันกว้างใหญ่ไพศาลของเป่ยเยี่ยนแห่งนี้ สามารถพบเห็นทหารกองรักษาการณ์พร้อมอาวุธได้ทุกหนทุกแห่งบริเวณประตูเมืองทางเหนือมีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด โดยมีกองทัพทหารม้าเกราะหนักซึ่งเป็นกองกำลังที่มีกำลังรบแข็งแกร่งที่สุดของเป่ยเยี่ยนเป็นผู้รักษาการณ์พรมแดงที่โดดเด่นสะดุดตาผืนหนึ่งทอดยาวจากถนนสายหลักเมืองทางฝั่งเหนือ ไปจนถึงนอกประตูเมืองทางทิศเหนือขุนนางทั้งบู๊และบุ๋นของเป่ยเยี่ยนต่างมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ราชรถหรูหราโอ่อ่าของจักรพรรดิจอดอยู่ภายนอกประตูเมืองทางเหนือมู่หรงเซี่ยวเทียนในชุดลายมังกรที่ยืนอยู่สุดปลายพรมแดงกำลังมองไปยังทิศทางอันห่างไกลเบื้องหลังของเขาคือเหล่าพระโอรสและพระธิดามิว่าจะเป็นขุนนางข้าราชบริพาร หรือมู่หรงเซี่ยวเทียน หรือแม้แต่เชื้อพระวงศ์ ต่างก็ตั้งตารอคอยราวกับกำลังรอคอยบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ก็มิปาน“ฝ่าบาท พวกเขากำลังมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”ในขณะนั้นเอง เสียงหนึ่งดังมาจากกำแพงเมืองมู่หรงเซี่ยวเทียนและคนอื่น ๆ มองออกไป เห็นขบวนหนึ่งกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาอย่างช้า ๆ บนถนนหลวงที่อยู่ไกลออกไป

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 713

    "บัดนี้องค์รัชทายาทยังได้แสดงวรยุทธ์อันน่าตื่นตะลึงออกมา ข้าน้อยเห็นว่าก็สามารถใช้ประโยชน์จากองค์รัชทายาทได้ในด้านการประลองยุทธ์พ่ะย่ะค่ะหากมีองค์รัชทายาทเข้าร่วมโดยไม่มีสิ่งใดผิดพลาด ราชวงศ์ต้าเหยียนน่าจะสามารถก้าวเข้าสู่สามสิบอันดับแรกได้และหากแสดงฝีมือได้ดี บางทีอันดับของต้าเหยียนในกลุ่มแคว้นลำดับรองอาจจะขยับขึ้นได้อีกด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ฉินอู๋ต้าวโบกมือ กล่าวด้วยสุรเสียงจริงจังว่า “เรื่องอันดับนั้นมิสำคัญ จุดประสงค์ที่เราเข้าร่วมการประชุมระหว่างแคว้นคือการเข้าสู่สามสิบอันดับแรก แล้วชิงสิทธิ์ในการเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียน”“เช่นนั้นก็ง่ายดาย ข้าน้อยเตรียมพร้อมทุกประการแล้ว ตราบใดที่พวกเขาสามารถเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียนได้ ย่อมต้องพบเทพศาสตราวุธในตำนานและเมล็ดพันธุ์พืชอันล้ำค่า ถึงยามนั้น การที่ต้าเหยียนจะก้าวขึ้นเป็นแคว้นผู้นำก็อยู่แค่เอื้อม”เหลยเจิ้นกล่าวแล้วก็อดตื่นเต้นมิได้ดังที่เคยกล่าวไว้แต่ต้น เมื่อสองร้อยปีก่อน ในแผ่นดินเฉินโจว ต้าเหยียนนั้นเป็นเพียงแคว้นเล็ก ๆ ที่ไม่มีผู้ใดสนใจต่อมาหลังจากได้เข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียน ก็บังเอิญได้ครอบ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 712

    เซี่ยหลานตกใจลนลาน รีบแก้ตัวว่า “มิใช่อย่างนั้น ชูโม่ เจ้าคิดมากไปแล้ว ข้าจะกอดพระองค์ได้อย่างไร เจ้าก็รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาทำกับข้าเช่นไร”ฉงชูโม่จึงนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้เซี่ยหลานเคยถูกฉินซูฉีกอาภรณ์และทำให้อับอายนางจึงคลายความสงสัยในใจ “ข้าแค่ล้อเจ้าเล่นเท่านั้นเอง จะตกใจไปไยเล่า”“หึ กล้าล้อข้ารึ ข้ามิคุยกับเจ้าแล้ว” เซี่ยหลานแสร้งทำเป็นโกรธแล้วหันหลังเดินไปฉงชูโม่เห็นดังนั้นจึงรีบตามไป “เซี่ยหลาน ข้าผิดไปแล้ว เจ้าอย่าใจน้อยนักเลย”มองดูทั้งสองคนที่ทำราวกับว่าตนเป็นอากาศธาตุ ฉินซูก็จนคำจะกล่าวโชคดีที่ในเวลานั้นหลินชิงเหยาเดินเข้ามานางคล้องแขนฉินซูพลางกล่าวด้วยความนัยลึกซึ้งว่า “องค์รัชทายาท อากาศหนาวเย็นเช่นนี้อย่าประทับอยู่ข้างนอกเลยเพคะ ข้างนอกแม้จะเย็น แต่ดีที่ตำหนักบูรพาของเรามีบ่อน้ำพุร้อน องค์รัชทายาทจะเสด็จลงไปแช่เพื่อคลายความหนาวเหน็บหรือไม่เพคะ?”“ไปสิ ไยจึงมิไป!”ฉินซูเข้าใจความหมายในทันที จึงจับมือหลินชิงเหยาแล้วรีบเข้าไปในโรงอาบน้ำอย่างใจจดใจจ่อจากนั้นเขาก็ได้รำลึกถึงความหลังกับหลินชิงเหยาอีกครั้งในขณะเดียวกันเหลยเจิ้นได้รับพระบัญชาให้มายังห้องทรงอัก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 711

    “อืม เพราะหากเป็นเช่นนั้น ก็อธิบายหลายสิ่งหลายอย่างได้”ฉงชูโม่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คนที่สามารถสั่งการยอดฝีมือจากวังหลวงได้ ตำแหน่งของเขาต้องมิธรรมดาอย่างแน่นอน หากคนเช่นนั้นลอบให้การช่วยเหลืออ๋องฉู่ ก็อาจจะปิดบังสายตาของสำนักโหรหลวงได้จริง ๆ”ฉินซูยักไหล่อย่างจนใจ “ดูเหมือนว่าการจะสาวถึงตัวคนที่อยู่เบื้องหลังอ๋องฉู่จะเป็นเรื่องยาก”“ถูกต้องแล้วเพคะ ครั้งนี้อ๋องฉู่ก่อกบฏมิสำเร็จ ต่อไปคงต้องระมัดระวังตัวยิ่งขึ้น พวกเราคงจะจับจุดอ่อนของเขาได้ยากขึ้นด้วย” ฉงชูโม่เองก็รู้สึกเสียดายอย่างยิ่ง“ช่างเถอะ พักเรื่องนี้ไว้ก่อน หากสืบสวนต่อไป เกรงว่าเสด็จพ่อจะทรงสงสัยว่าพวกเราสมคบคิดกันใส่ร้ายอ๋องฉู่”“แต่พวกเราจะปล่อยเรื่องนี้ไปเฉย ๆ หรือเพคะ? ในเมื่อที่อ๋องฉู่ตั้งใจจะก่อกบฏก็เป็นเรื่องจริง”ฉินซูกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “มิอาจปล่อยไปง่าย ๆ แน่นอน สิ่งที่เราทำได้ในยามนี้คือรอ รอให้ฉินอวี่ทำผิดพลาดอีกครั้ง ข้าเชื่อว่าเมื่อเรื่องนี้ซาลงไปแล้ว เขาจะต้องเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน เมื่อใดที่มีการเคลื่อนไหว ก็จะต้องมีพิรุธเป็นแน่”ฉงชูโม่ถามว่า “ให้หม่อมฉ้นแอบจับตาดูเขาดีหรือไม่?”

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 710

    ฉินซูขมวดคิ้วกล่าวว่า “ตอนนี้ข้าก็แค่คาดเดา ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด จะสอบสวนเลยได้อย่างไร? ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังเป็นศิษย์เอกของท่านทั้งสิ้น หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เกรงว่าจะส่งผลเสียได้”เหลยเจิ้นส่ายหน้าอย่างจนใจ กล่าวว่า “ที่แท้องค์รัชทายาทก็แค่คาดเดาไปเอง แต่ข้าน้อยบอกท่านได้เต็มปากว่า นอกจากเสวี่ยเจี้ยน โฉ่วเยวี่ยและจีอันแล้ว ข้าน้อยล้วนจับศิษย์คนอื่น ๆ ขังแยกกันไว้ในห้องลับของสำนักหอดูดาวหลวงตั้งแต่ครึ่งปีก่อน พวกเขาไม่มีรอดพ้นจากสายตาข้าน้อยได้อย่างเงียบเชียบแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”“อ้อ? ถูกท่านขังไว้หมดเลยหรือ?”ต่อมความอยากรู้อยากเห็นของฉินซูถูกกระตุ้นขึ้นมาทันที เขาถามต่อว่า “ท่านหัวหน้าโหรหลวงขังพวกเขาไว้ด้วยเหตุผลใดหรือ?”กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเหลยเจิ้นกระตุกสองสามครั้ง เขายกมือขึ้นลูบหน้าผากแล้วตอบว่า “ช่างเถิด ข้าน้อยมิกลัวองค์รัชทายาทจะหัวเราะเยาะอยู่แล้ว ศิษย์เอกของข้าน้อยแต่ละคนล้วนมีสันดานทรยศ ข้าน้อยแน่ใจว่าท่านก็พอจะรู้นิสัยใจคอของโฉ่วเยวี่ยและจีอันอยู่บ้าง ดังนั้นข้าน้อยจึงทำได้เพียงปล่อยให้พวกเขาไตร่ตรองถึงความผิดพลาดของตนเท่านั้น”“เช่นนั้น ศิษย์เอกทั้งเจ็ดคนของท

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 709

    ทันทีที่เขาลงบันไดมา จีอันก็ถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ว่า “ศิษย์พี่รอง โดนดุมาหรือไร?”“ไป ๆ ๆ หัวโขกจนปูดไปหมด เรื่องนี้ข้ายังมิได้คิดบัญชีกับเจ้าเลย!”“ดูเถอะ ขี้ใจน้อยเหมือนสตรีไปได้”“นี่ เจ้าอยู่ดี ๆ มิชอบใช่หรือไม่? ข้าจะฟาดเจ้าคอยดูเถอะ!” ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยไปหาแส้ยาวมาจากไหนก็มิทราบจีอันแคะขี้มูกแล้วกล่าวอย่างมิได้ยี่หระว่า “ข้ามิกลัวเจ้าหรอก ถึงอย่างไรท่านก็สู้ข้ามิได้”“ข้า… เจ้ามันร้ายกาจ ข้ายอมแพ้!”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยหมดความอดทนใดทันที จีอันผู้นี้ขึ้นชื่อเรื่องหนังหนา อีกทั้งยังเก่งกาจจนน่าขนลุก สู้มิได้ เขาหลบดีกว่าพูดจบเขาก็หันหลังเดินออกไปครู่ต่อมา ฉินซูและฉงชูโม่ก็มาถึงเมื่อเห็นฉินซู จีอันก็อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “โอ้โหแฮะ องค์รัชทายาท มิไปประกาศศักดาที่ใดหรือ ไฉนจึงมาเยือนสำนักหอดูดาวหลวงของเราได้?”ฉินซูงงงวยเล็กน้อย จึงถามกลับว่า “ตัวข้าต้องไปประกาศศักดาที่ใดเล่า? อวดอ้างกระไร?”“ท่านมิทรงทราบหรือ? ยึดครองแคว้นหนานเยวี่ยง่ายเหมือนปอกกล้วยเช่นนี้ ผลงานระดับนี้ไยมิไปประกาศให้ทั่วเล่า? หากเป็นข้าน้อย ข้าน้อยจะร้องแรกแหกกระเชอคุยโวไปสามวันสามคืนเต็ม ๆ ท่านนี่ช่าง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 708

    ชิวก่วนกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมองว่า “หาได้มีโจรผู้ร้ายบุกรุกเข้ามาไม่พ่ะย่ะค่ะ หูก่วงเซิงและพวกตายไปโดยไร้สาเหตุ ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีความผิดปกติใด ๆ พ่ะย่ะค่ะ”“ว่ากระไรนะ? หูก่วงเซิงและพวกตายแล้วรึ?”ฉงชูโม่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าประหลาดใจฉินซูกล่าวอย่างมิสบอารมณ์ว่า “มิใช่แค่พวกเขา แม้แต่กองทัพส่วนตัวห้าหมื่นนายของอ๋องฉู่ก็ถูกคนช่วยออกไปแล้ว”“ว่ากระไรนะเพคะ?”ฉงชูโม่ตกตะลึงอ้าปากค้าง!เมื่อได้สติกลับมา นางก็ขมวดคิ้วกล่าวว่า “ด้วยกำลังของอ๋องฉู่เพียงลำพัง ไม่มีทางทำเรื่องเหล่านี้ได้แน่ ดังนั้นเบื้องหลังของเขาต้องมียอดฝีมือคอยช่วยเหลือเป็นแน่เพคะ!”ฉินซูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ศพของหูก่วงเซิงและพวกอยู่ที่ใด?”“ตอนนี้อยู่ที่ศาลต้าหลี่พ่ะย่ะค่ะ”“ไปดูกัน”ฉินซูกล่าวจบก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วหวังฉือเห็นเขาออกมาก็คำนับแล้วกำลังจะกล่าวทว่าฉินซูกลับพูดแทรกขึ้นก่อนว่า “ใต้เท้าหวัง ไปกันเถิด ไปศาลต้าหลี่ของท่านด้วยกัน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังฉือก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็รีบพยักหน้าหนึ่งชั่วยามต่อมาพวกเขาก็มาถึงศาลต้าหลี่เมื่อมองดูร่างไร้วิญญาณของหูก่วงเซิงและพวก ฉ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status