Share

บทที่ 500

Author: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
ซ่างกวนอวิ๋นซีมองพินิจคูมู่และเย่ชางสิง ความประหลาดใจฉายผ่านดวงตาอันงดงามภายใต้ผ้าคลุม!

คูมู่และเย่ชางสิงเองก็มองไปยังซ่างกวนอวิ๋นซีด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตกตะลึง!

เย่ชางสิงอดถามมิได้ว่า "ท่านคือเจ้าสำนักหอดารารักษ์จริงหรือ? เป็นไปมิได้กระมัง?"

แม้ว่าในเวลานี้ซ่างกวนอวิ๋นซีจะสวมผ้าคลุมอยู่จนมิอาจมองเห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของนางได้ชัดเจน

แต่จากรูปร่างที่อ่อนช้อยสง่างาม และเสียงที่ไพเราะราวดนตรีสวรรค์ของนางก็สามารถบอกได้ชัดเจนแล้วว่านางเป็นสตรีเยาว์วัย!

เจ้าสำนักของหอดารารักษ์ กลับกลายเป็นหญิงสาวอายุน้อยเช่นนี้ได้อย่างไร?!

พวกเขามิเคยคาดคิดมาก่อน!

เพียะ!

เย่ชางสิงถูกฝ่ามือของหานฉีตบจนลอยกระเด็นออกไป

ร่างของเขายังมิทันตกลงพื้นก็สำลักเลือดข้นสีแดงสดออกมาเต็มปาก ใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษทันที!

เมื่อเห็นเช่นนั้น คูมู่ก็รีบโค้งคำนับและกล่าวอย่างนอบน้อม "ท่านผู้อาวุโส โปรดยกโทษให้ด้วย เย่ชางสิงผู้นี้หยาบคาย หากมีสิ่งใดล่วงเกิน ขอท่านโปรดเมตตาให้อภัยด้วยเถิด"

“ฮึ่ม เขาเป็นใคร? เป็นแค่มดปลวก กล้าดีอย่างไรมาตั้งคำถามกับเจ้าสำนักของเรา?”

คูมู่รีบตะโกนบอกเย่ชางสิง "เย่ชางสิง หากเจ้าย
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (2)
goodnovel comment avatar
udofree
แม่ม อ่านไป2ตอน ไม่คืบหน้าไปไหนเลยคุยกะเข้าสำนักได้ไม่กี่คำ กากจัด
goodnovel comment avatar
Sangsuriya Pukdee
มาที่ล่ะนิดชักจะเบื่อล่ะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 501

    “จิวโม๋คงคืออาจารย์อาของเจ้าหรือ?”เมื่อได้ยินคำพูดของซ่างกวนอวิ๋นซี คูมู่ชะงักไปครู่หนึ่งชื่อเดิมของอาจารย์อาเขาคือจิวโม๋คงจริง ๆ แต่ตั้งแต่เขาเข้าอารามลอยฟ้าเสวียนคงและปฏิบัติธรรมมาหลายสิบปี ไม่มีใครกล้าเรียกชื่ออาจารย์อาโดยตรง ต่างเรียกด้วยนามทางธรรมทั้งสิ้นซ่างกวนอวิ๋นซีถือเป็นคนแรกที่กล้าเรียกเช่นนี้!หลังจากได้สติกลับมา คูมู่รีบพยักหน้า “ใช่แล้ว ท่านเจ้าสำนัก อาจารย์อาท่านนั้นของข้าชื่อจิวโม๋คงจริง ๆ”“เห็นแก่เขา เรื่องยุ่งยากในร่างของพวกเจ้า ข้าจะช่วยสักครั้ง”ขณะที่พูด ซ่างกวนอวิ๋นซีก็สะบัดมือเบา ๆคูมู่และเย่ชางสิงพลันรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่จุดตันเถียนในทันทีจากนั้น มวลพลังใสโปร่งแสงก็หลุดออกจากร่างและลอยไปที่ฝ่ามือของซ่างกวนอวิ๋นซีในพริบตาเดียวเมื่อเห็นภาพนี้ คูมู่และเย่ชางสิงก็ต่างตกตะลึงจนพูดอะไรมิออก!โดยเฉพาะคูมู่ เขารู้ดีถึงพลังของอาจารย์อาของตน แต่ท่านผู้นั้นก็ยังมิสามารถจัดการกับพลังลี้ลับนี้ได้ทว่าบัดนี้ เพียงแค่ซ่างกวนอวิ๋นซีขยับนิ้วเบา ๆ พลังปราณอันยุ่งยากนี้ก็ถูกดูดออกมาได้ นี่มันวิชาเซียนอันใดกัน!ซ่างกวนอวิ๋นซีเพียงจ้องมองมวลพลังสองสายตรงหน้า ก่อ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 502

    คูมู่พูดอย่างช้า ๆ "หากท่านพูดเช่นนี้ ก็มีความเป็นไปได้มาก เพราะทุกคนในเมืองหลงเฉิงต่างก็พูดกันว่า เบื้องหลังรัชทายาทไร้ค่ามียอดฝีมือคอยช่วยเหลืออยู่"เย่ชางสิงพยักหน้ารับอย่างต่อเนื่อง "ถูกต้อง คงเป็นยอดฝีมือคนนั้นปลอมตัวเป็นเขาเพื่อกระทำการแทน และด้วยวิธีนี้ เขาก็สามารถยืมอำนาจจากผู้อื่นมาใช้อวดเบ่งได้"“หากมียอดฝีมือระดับสวรรค์อยู่เบื้องหลังรัชทายาทไร้ค่านั่นจริง ๆ เป็นไปได้หรือไม่ที่… ผู้ที่สังหารบุตรแห่งนักปราชญ์กับผู้อาวุโสซือคงคือยอดฝีมือระดับสวรรค์คนนั้น?”คำพูดของหานฉีดึงดูดความสนใจของทุกคนในหอดารารักษ์คูมู่และเย่ชางสิงมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง!เห็นได้ชัดว่าพวกเขายังมิรู้เรื่องนี้เมื่อเห็นดังนั้นซ่างกวนอวิ๋นซีจึงเลิกคิ้วถามว่า "พวกเจ้าสองคนมาจากต้าเหยียน แต่กลับมิรู้เรื่องนี้เลยงั้นรึ?"เย่ชางสิงรีบอธิบายว่า "ท่านเจ้าสำนัก เราสองคนเร่งเดินทางทั้งวันทั้งคืน ช่วงหลายวันที่ผ่านมาแทบมิได้พักผ่อนเลย ดังนั้นจึงมิได้ยินเรื่องนี้จริง ๆ ขอรับ"คูมู่พูดอย่างระมัดระวัง "แต่อย่างไรก็ตาม หากเบื้องหลังรัชทายาทไร้ค่ามีจอมยุทธ์ระดับสวรรค์อยู่จริง ๆ บุตรแห่งนักปราชญ์และผู้อาวุโสซือค

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 503

    หลังจากนั้น ทั้งสองถูกพาออกไปจากห้องเมื่อไปถึงข้างนอก พวกเขาถูกบังคับให้กลืนยาเม็ดหนึ่งนั่นคือโอสถเซียวเหยาสูตรลับของหอดารารักษ์ ซึ่งต้องกินยาแก้พิษทุกๆ เดือน มิเช่นนั้นปราณบริสุทธิ์ทั่วกายจะมลายหายสิ้น และกลายเป็นคนที่ไร้ความสามารถโดยสิ้นเชิงคูมู่และเย่ชางสิงอยากจะร้องไห้แต่ก็ไม่มีน้ำตาพลังปราณที่ถูกฉินซูฝังเข้าในร่างเพิ่งถูกกำจัดออกไป เพียงพริบตาเดียวก็ถูกบังคับให้ทำงานที่หอดารารักษ์แทนเพิ่งหลุดจากปากเสือ ก็เข้าถ้ำหมาป่าจริง ๆ!หลังจากนั้นมินานซ่างกวนอวิ๋นซีก็เดินออกมาจากหอดารารักษ์ สายตาที่มองไปนั้นมุ่งหน้าไปสู่เมืองหลงเฉิงแห่งต้าเหยียน!……ลานหินแตกนอกเมืองอำเภอเหรากู่ในเวลานี้ ฉินซูได้กลับไปนานแล้วทันใดนั้น เงาร่างหนึ่งก็พุ่งลงมาจากที่สูง!ชายผู้นั้นสวมเสื้อคลุมสีดำทั้งตัว ในมือถือตลับที่ฝังด้วยอัญมณีเจ็ดเม็ดเรียงกันเป็นรูปกลุ่มดาวหมีใหญ่เขาก็คือคนจากสำนักหอดูดาวหลวง!เมื่อเขามาถึงลานหินแตก สายตาคมดุจเหยี่ยวก็กวาดไปทั่วบริเวณอย่างรวดเร็วจากนั้นสายตาก็หยุดลงที่แอ่งเลือดแห่งหนึ่งที่อยู่มิไกลเขาเดินเข้าไป ยื่นมือไปแตะมันเบา แล้วพึมพำ "เลือดยังมิแข็งตัวดี กา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 504

    ใบหน้าของฉินซูเต็มไปด้วยความประหลาดใจจากนั้นเขาก็ดูเหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้ ก่อนจะถามด้วยความสงสัย "กู้เสวี่ยเจี้ยน เจ้าคงมิได้พูดเกินจริงไปใช่ไหม? เรื่องที่หนานกงจื่อชินตายด้วยน้ำมือข้า ข้าบอกเจ้าคนเดียวเท่านั้น ส่วนซือคงเหยียนก็ตายไปแล้ว เขาไม่มีทางเอาเรื่องนี้ไปแพร่งพรายได้"“พูดเช่นนี้ แปลว่าท่านคิดว่าเป็นหม่อมฉันที่ปล่อยข่าวนี้งั้นหรือ?" กู้เสวี่ยเจี้ยนสีหน้าบูดบึ้ง รู้สึกมิพอใจเล็กน้อยฉินซูพึมพำ "คนที่รู้เรื่องนี้ นอกจากตัวข้าก็มีแค่เจ้า หากมิใช่เจ้าแล้วจะเป็นใครได้อีกเล่า"“หึ หากหม่อมฉันเป็นคนปล่อยข่าวจริง เรื่องนี้จะกระจายไปเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร? จากที่พ่อค้าและคนใช้บอกมา ตั้งแต่เมืองหลงเฉิงจนถึงเหลียงโจว เรื่องนี้ถูกเล่าขานกันจนทุกคนรู้กันหมดแล้ว”“เจ้าแน่ใจรึ? มิได้พูดเกินจริงไปใช่หรือไม่?”จนถึงตอนนี้ ฉินซูยังคงมิอยากจะเชื่อเพราะถึงอย่างไรเขาก็มั่นใจมากว่า ตอนที่สังหารหนานกงจื่อชิน ไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เลยดังนั้นหากเขามิพูดเรื่องนี้ ย่อมไม่มีใครรู้แต่ตอนนี้กู้เสวี่ยเจี้ยนกลับบอกว่า เรื่องนี้แพร่กระจายออกไปแล้ว เขาจะมิตกใจได้อย่างไรกู้เสวี่ยเจี้ยนกล่าวด้วยสีหน้าจร

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 505

    กู้เสวี่ยเจี้ยนแค่นหัวเราะเบา ๆ "หึ ท่านก็พูดง่ายสิ ถานเหวยกับเซี่ยหลานมีพระราชโองการติดตัว จะกลับหลงเฉิงก่อนท่านได้อย่างไร หากองค์จักรพรรดิพิโรธขึ้นมา พวกเขาจะชี้แจงอย่างไร อย่างไรเสียท่านจะทำตามวิธีของหม่อมฉัน หรือพวกเราจะไปเป่ยเซียงด้วยกันทั้งแบบนี้ ท่านก็ตัดสินใจเอาแล้วกัน”เมื่อเห็นว่ากู้เสวี่ยเจี้ยนยืนกรานเช่นนี้ ฉินซูจึงจำต้องยอม“ก็ได้ ทำตามที่เจ้าว่า เจ้าส่งพวกเขากลับเหลียงโจวก่อน แล้ววันพรุ่งเราค่อยไปเป่ยเซียงด้วยกัน”เมื่อเห็นฉินชูตอบตกลง กู้เสวี่ยเจี้ยนจึงพยักหน้าอย่างพอใจ“เช่นนั้นก็มิควรรอช้า หม่อมฉันจะกลับไปแจ้งพวกเขาเดี๋ยวนี้”กู้เสวี่ยเจี้ยนกระโดดขึ้นหลังม้าและเตรียมจะจากไปฉินซูก็ถามขึ้นมาอย่างกะทันหัน "เจ้าไม่มีอะไรจะถามข้าอีกแล้วหรือ?"กู้เสวี่ยเจี้ยนชะงักไปเล็กน้อย ก่อนนึกอะไรบางอย่างได้ แล้วตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา "เรื่องวุ่นวายระหว่างท่านกับเซี่ยหลาน หม่อมฉันไม่มีความสนใจจะรู้"พูดจบ นางก็ขี่ม้าจากไปโดยมิเหลียวหลังเมื่อนึกถึงตอนที่ฉินซูยอมรับออกมาที่ลานหินแตกว่าเซี่ยหลานเป็นผู้หญิงของเขา ในใจของกู้เสวี่ยเจี้ยนก็รู้สึกขมขื่นยิ่งนางมิเคยคาดคิดเลยว่า ทั้งส

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 506

    สวีหลายเอ่ยถาม “มีเรื่องอันใด?”เฉิงผิงครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะค่อย ๆ ตอบ “มินานมานี้ทั้งในและนอกราชสำนักต่างร่ำลือกันว่า องค์จักรพรรดิจะทรงปลดองค์รัชทายาทออกจากตำแหน่งหลังจากวันชุนเฟินปีหน้า ข่าวลือนี้เป็นจริงหรือเท็จ?”“จริงแท้แน่นอน”“แต่ข้ามิเข้าใจ หากองค์รัชทายาทจะถูกปลดในปีหน้า เหตุใดอ๋องฉีและอ๋องซิ่นต้องเสียเวลาหาเรื่องใส่ร้ายองค์รัชทายาทด้วย? แค่รอให้ถึงวันชุนเฟินปีหน้าก็พอแล้วมิใช่หรือ?”เฉิงอิงกล่าว “คงเป็นเพราะช่วงนี้องค์รัชทายาททรงโดดเด่นขึ้นมา พวกเขาจึงอยู่เฉยมิได้กระมัง”สวีหลายพยักหน้าเล็กน้อย “ถูกต้อง สถานการณ์ในราชสำนักเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในพริบตา แม้ว่าฝ่าบาทจะทรงตัดสินพระทัยปลดองค์รัชทายาทออกจากตำแหน่งรัชทายาทหลังจากวันชุนเฟินปีหน้า ทว่าตราบใดที่วันนั้นยังมิมาถึง ทุกอย่างย่อมมีโอกาสพลิกผัน อ๋องซิ่นและอ๋องฉีจะร้อนใจก็เป็นเรื่องปกติ”เฉิงผิงขมวดคิ้วบ่นพึมพำ “แต่ข้ายังสงสัยอยู่ดี เหตุใดฝ่าบาทถึงทรงตัดสินพระทัยปลดองค์รัชทายาทในวันชุนเฟินปีหน้า? ในเมื่อทรงมีพระประสงค์เช่นนั้นแล้ว เหตุใดต้องรอถึงปีหน้า?”“ความคิดในพระทัยขององค์จักรพรรดิ ใครเลยจะคาดเดาได้”สวีหลายเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 507

    เหลยเจิ้นส่ายหน้าเบา ๆ “ขออภัย ทว่าคงทำเช่นนั้นมิได้”ใบหน้างดงามของซ่างกวนอวิ๋นซีเย็นชาลง นางกล่าวเสียงต่ำ “เจ้าจะบังคับให้ข้าลงมือใช่หรือไม่?”“ข้าเพียงต้องการเกลี้ยกล่อมให้เจ้ากลับไป หากเจ้าต้องการลงมือ ข้าก็พร้อมจะเป็นคู่มือ!”“ดี ถ้าเช่นนั้นข้าจะดูว่า วรยุทธ์ของเจ้าก้าวหน้าไปมากเพียงใดเมื่อเทียบกับห้าสิบปีก่อน!”เมื่อซ่างกวนอวิ๋นซีกล่าวจบ ก็ยื่นนิ้วเรียวสวยชี้ไปยังเหลยเจิ้นที่อยู่กลางเวหา!ทันใดนั้นพื้นที่โดยรอบก็ถูกบีบเข้าหากันอย่างกะทันหัน คล้ายกับกรงที่หดตัวเข้าหาเหลยเจิ้น“กลอุบายตื้น ๆ!”เหลยเจิ้นหัวเราะเยาะ เหยียบพื้นเบา ๆ ด้วยฝ่าเท้า“เคร้ง!”เสียงแตกดังขึ้น กรงไร้รูปธรรมของซ่างกวนอวิ๋นซีแตกสลายในทันใดเมื่อเห็นดังนั้น ดวงตาคู่งามของซ่างกวนอวิ๋นซีก็ฉายแววเคร่งขรึม ฉับพลันร่างของนางสั่นไหว กลายเป็นแสงพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า!หลังจากหมุนตัวหนึ่งตลบ ก็พุ่งไปทางใต้เหลยเจิ้นส่งเสียงหึ ร่างของเขาก็กลายเป็นแสงวาบไล่ตามไปอย่างมิลดละ!บนห้วงเวหายามราตรีแสงสองสายคล้ายดาวตกไล่ตามดวงจันทร์พาดผ่านท้องฟ้าระหว่างนั้น แสงนุ่มนวลหลายสายพลันพุ่งออกมาจากแสงดาวตกสองสาย จากนั้นก็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 508

    ซ่างกวนอวิ๋นซีร่ายมือ โล่สีเขียวอ่อนก่อตัวรวมกันอยู่ตรงหน้านางในทันใดทว่าปราณดัชนีที่เหลยเจิ้นปล่อยออกมา กลับมิสนใจโล่ตรงหน้านาง พลันผ่าทะลุเข้าไปภายใต้สายตาตกตะลึงของซ่างกวนอวิ๋นซี ปราณดัชนีนั้นหายวับเข้าไปในร่างของนางในพริบตาในชั่วพริบตาต่อมานั้น ซ่างกวนอวิ๋นซีก็รู้สึกว่ามีพลังต้องห้ามบางอย่างเพิ่มเข้ามาในร่างเมื่อได้สติกลับคืนมา นางก็กระทืบเท้าด้วยโทสะ "เหลยเจิ้น เจ้าเฒ่าไร้สัจจะ ปลิ้นปล้อนกลับกลอก!""ข้าเพียงแต่สะกดการบ่มเพาะตนของเจ้าไว้เท่านั้น มิได้บอกว่าจะมิให้เจ้าไปหาองค์รัชทายาท แล้วจะหาว่าข้ากลับกลอกได้อย่างไร?""เจ้า!!"ซ่างกวนอวิ๋นซีโมโหจนแทบจะระเบิดอารมณ์ ดวงตาเบิกกว้างจ้องมองเหลยเจิ้นเหลยเจิ้นยักไหล่ "แม้การบ่มเพาะตนของเจ้าจะถูกข้าสะกดไว้ แต่อย่างน้อยก็ยังสามารถใช้วรยุทธ์ระดับสวรรค์ได้ เท่านี้ก็เพียงพอให้เจ้าจัดการกับผู้ฝึกยุทธ์ระดับสวรรค์ที่อาจปรากฏตัวในต้าเหยียนได้แล้ว""แล้วองค์รัชทายาทผู้รอวันถูกปลดของพวกเจ้าเล่า? เขาอยู่ในระดับใดกันแน่?"เหลยเจิ้นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหน้าซ่างกวนอวิ๋นซีขมวดคิ้ว ถามอย่างมิพอใจ "เจ้าส่ายหน้าหมายความว่าอย่างไร?"

Latest chapter

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 716

    กู้เสวี่ยเจี้ยนถามด้วยความประหลาดใจอย่างยิ่ง “ท่านว่ากระไรนะ? หนานเยวี่ยถูกทำลายแล้วหรือ?”“ใช่ เพิ่งได้รับข่าวเมื่อมินานมานี้ ฉินซูใช้กลอุบายเล็กน้อยก็บีบบังคับให้ทหารหนานเยวี่ยแสนนายยอมจำนน จากนั้นยังนำทหารชั้นยอดเพียงหมื่นนายบุกเข้ายึดเมืองหลวงของหนานเยวี่ย และสังหารเชื้อพระวงศ์หนานเยวี่ยจนหมดสิ้น”“มิจริงกระมัง? ท่านแน่ใจหรือว่าข่าวนั้นเป็นความจริง?” กู้เสวี่ยเจี้ยนแสดงสีหน้าเหลือเชื่อซ่างกวนอวิ๋นซีกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ข่าวนี้เป็นความจริงทุกประการ ต้องยอมรับว่าองค์รัชทายาทผู้รอวันปลดแห่งต้าเหยียนผู้นี้พอมีฝีมืออยู่บ้าง หากเขามา บางทีอาจจะช่วยข้าได้”“ท่านต้องการให้ฉินซูช่วยท่านทำกระไรหรือ?” กู้เสวี่ยเจี้ยนมองซ่างกวนอวิ๋นซีด้วยความหวาดระแวง“ถึงเวลานั้นเจ้าก็จะรู้เอง เอาเถอะ เจ้าลงไปได้แล้ว ข้าจะฝึกวิชา”ซ่างกวนอวิ๋นซีออกคำสั่งไล่แขกดื้อ ๆกู้เสวี่ยเจี้ยนเบะปากแล้วหันหลังเดินลงบันไดไปซ่างกวนอวิ๋นซีกลับไปยังห้องฝึกตน จากนั้นก็ร่ายเวทด้วยสองมือ ตวัดนิ้วส่งพลังปราณไปยังกระจกทองเหลืองบานหนึ่งในเวลาเดียวกันภายในสำนักหอดูดาวหลวงแห่งต้าเหยียนเหลยเจิ้นกำลังนั่งสมาธิบำเพ็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 715

    มู่หรงเซี่ยวเทียนอธิบายว่า “คุณชายหยวน เทพธิดาซ่างกวนกำลังกักตนบำเพ็ญเพียรอยู่จริง ๆ หากท่านมิเชื่อ ท่านสามารถไปดูที่หอดารารักษ์ได้”“ข้าต้องไปแน่ ข้าขอพูดตามตรง ครั้งนี้ที่ข้ามาก็เพื่อสู่ขอนาง เทพธิดาซ่างกวน ข้าจะต้องแต่งกับนางให้ได้!”“การได้รับความเมตตาจากคุณชายหยวนนับเป็นบุญของเทพธิดาซ่างกวน คุณชายหยวนโปรดวางใจ เมื่อนางออกจากด่านกักตนบำเพ็ญเพียรแล้ว ข้าจะทำหน้าที่เป็นพ่อสื่อให้ท่านด้วยตนเอง”หยวนหัวยิ้มประสานมือคารวะมู่หรงเซี่ยวเทียน “เช่นนั้น ก็ขอบพระทัยฝ่าบาทแห่งเป่ยเยี่ยนยิ่งนัก”"คุณชายหยวนเกรงใจเกินไปแล้ว เชิญเถิด"จากนั้น มู่หรงเซี่ยวเทียนก็นำคณะของแคว้นฉีเข้าเมืองในหมู่เชื้อพระวงศ์แห่งเป่ยเยี่ยน หญิงสาววัยสิบแปดสิบเก้าปีคนหนึ่งแค่นเสียงเบา ๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเคือง ว่า “หึ แคว้นฉีพูดเสียดิบดีว่าจะส่งองค์รัชทายาทมาตรวจราชการ เสด็จพ่อจึงเสด็จออกไปต้อนรับด้วยพระองค์เอง ใครจะคิดว่าคนที่มาจะเป็นเพียงบุตรชายของอ๋องเซียงหยาง ช่างมิเห็นหัวคนเสียนี่กระไร”“ใครว่ามิจริงเล่า ข้าเองก็รู้สึกแย่พอกัน หากเป็นอ๋องเซียงหยางเสด็จมาด้วยตนเอง เสด็จพ่อเสด็จออกไปต้อนรับก็ยังพอว่า แต

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 714

    เป่ยเยี่ยนทั่วทั้งเมืองจินหลิงตกอยู่ภายใต้การวางกำลังที่เข้มงวดภายในเมืองหลวงอันกว้างใหญ่ไพศาลของเป่ยเยี่ยนแห่งนี้ สามารถพบเห็นทหารกองรักษาการณ์พร้อมอาวุธได้ทุกหนทุกแห่งบริเวณประตูเมืองทางเหนือมีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด โดยมีกองทัพทหารม้าเกราะหนักซึ่งเป็นกองกำลังที่มีกำลังรบแข็งแกร่งที่สุดของเป่ยเยี่ยนเป็นผู้รักษาการณ์พรมแดงที่โดดเด่นสะดุดตาผืนหนึ่งทอดยาวจากถนนสายหลักเมืองทางฝั่งเหนือ ไปจนถึงนอกประตูเมืองทางทิศเหนือขุนนางทั้งบู๊และบุ๋นของเป่ยเยี่ยนต่างมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ราชรถหรูหราโอ่อ่าของจักรพรรดิจอดอยู่ภายนอกประตูเมืองทางเหนือมู่หรงเซี่ยวเทียนในชุดลายมังกรที่ยืนอยู่สุดปลายพรมแดงกำลังมองไปยังทิศทางอันห่างไกลเบื้องหลังของเขาคือเหล่าพระโอรสและพระธิดามิว่าจะเป็นขุนนางข้าราชบริพาร หรือมู่หรงเซี่ยวเทียน หรือแม้แต่เชื้อพระวงศ์ ต่างก็ตั้งตารอคอยราวกับกำลังรอคอยบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ก็มิปาน“ฝ่าบาท พวกเขากำลังมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”ในขณะนั้นเอง เสียงหนึ่งดังมาจากกำแพงเมืองมู่หรงเซี่ยวเทียนและคนอื่น ๆ มองออกไป เห็นขบวนหนึ่งกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาอย่างช้า ๆ บนถนนหลวงที่อยู่ไกลออกไป

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 713

    "บัดนี้องค์รัชทายาทยังได้แสดงวรยุทธ์อันน่าตื่นตะลึงออกมา ข้าน้อยเห็นว่าก็สามารถใช้ประโยชน์จากองค์รัชทายาทได้ในด้านการประลองยุทธ์พ่ะย่ะค่ะหากมีองค์รัชทายาทเข้าร่วมโดยไม่มีสิ่งใดผิดพลาด ราชวงศ์ต้าเหยียนน่าจะสามารถก้าวเข้าสู่สามสิบอันดับแรกได้และหากแสดงฝีมือได้ดี บางทีอันดับของต้าเหยียนในกลุ่มแคว้นลำดับรองอาจจะขยับขึ้นได้อีกด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ฉินอู๋ต้าวโบกมือ กล่าวด้วยสุรเสียงจริงจังว่า “เรื่องอันดับนั้นมิสำคัญ จุดประสงค์ที่เราเข้าร่วมการประชุมระหว่างแคว้นคือการเข้าสู่สามสิบอันดับแรก แล้วชิงสิทธิ์ในการเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียน”“เช่นนั้นก็ง่ายดาย ข้าน้อยเตรียมพร้อมทุกประการแล้ว ตราบใดที่พวกเขาสามารถเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียนได้ ย่อมต้องพบเทพศาสตราวุธในตำนานและเมล็ดพันธุ์พืชอันล้ำค่า ถึงยามนั้น การที่ต้าเหยียนจะก้าวขึ้นเป็นแคว้นผู้นำก็อยู่แค่เอื้อม”เหลยเจิ้นกล่าวแล้วก็อดตื่นเต้นมิได้ดังที่เคยกล่าวไว้แต่ต้น เมื่อสองร้อยปีก่อน ในแผ่นดินเฉินโจว ต้าเหยียนนั้นเป็นเพียงแคว้นเล็ก ๆ ที่ไม่มีผู้ใดสนใจต่อมาหลังจากได้เข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียน ก็บังเอิญได้ครอบ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 712

    เซี่ยหลานตกใจลนลาน รีบแก้ตัวว่า “มิใช่อย่างนั้น ชูโม่ เจ้าคิดมากไปแล้ว ข้าจะกอดพระองค์ได้อย่างไร เจ้าก็รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาทำกับข้าเช่นไร”ฉงชูโม่จึงนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้เซี่ยหลานเคยถูกฉินซูฉีกอาภรณ์และทำให้อับอายนางจึงคลายความสงสัยในใจ “ข้าแค่ล้อเจ้าเล่นเท่านั้นเอง จะตกใจไปไยเล่า”“หึ กล้าล้อข้ารึ ข้ามิคุยกับเจ้าแล้ว” เซี่ยหลานแสร้งทำเป็นโกรธแล้วหันหลังเดินไปฉงชูโม่เห็นดังนั้นจึงรีบตามไป “เซี่ยหลาน ข้าผิดไปแล้ว เจ้าอย่าใจน้อยนักเลย”มองดูทั้งสองคนที่ทำราวกับว่าตนเป็นอากาศธาตุ ฉินซูก็จนคำจะกล่าวโชคดีที่ในเวลานั้นหลินชิงเหยาเดินเข้ามานางคล้องแขนฉินซูพลางกล่าวด้วยความนัยลึกซึ้งว่า “องค์รัชทายาท อากาศหนาวเย็นเช่นนี้อย่าประทับอยู่ข้างนอกเลยเพคะ ข้างนอกแม้จะเย็น แต่ดีที่ตำหนักบูรพาของเรามีบ่อน้ำพุร้อน องค์รัชทายาทจะเสด็จลงไปแช่เพื่อคลายความหนาวเหน็บหรือไม่เพคะ?”“ไปสิ ไยจึงมิไป!”ฉินซูเข้าใจความหมายในทันที จึงจับมือหลินชิงเหยาแล้วรีบเข้าไปในโรงอาบน้ำอย่างใจจดใจจ่อจากนั้นเขาก็ได้รำลึกถึงความหลังกับหลินชิงเหยาอีกครั้งในขณะเดียวกันเหลยเจิ้นได้รับพระบัญชาให้มายังห้องทรงอัก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 711

    “อืม เพราะหากเป็นเช่นนั้น ก็อธิบายหลายสิ่งหลายอย่างได้”ฉงชูโม่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คนที่สามารถสั่งการยอดฝีมือจากวังหลวงได้ ตำแหน่งของเขาต้องมิธรรมดาอย่างแน่นอน หากคนเช่นนั้นลอบให้การช่วยเหลืออ๋องฉู่ ก็อาจจะปิดบังสายตาของสำนักโหรหลวงได้จริง ๆ”ฉินซูยักไหล่อย่างจนใจ “ดูเหมือนว่าการจะสาวถึงตัวคนที่อยู่เบื้องหลังอ๋องฉู่จะเป็นเรื่องยาก”“ถูกต้องแล้วเพคะ ครั้งนี้อ๋องฉู่ก่อกบฏมิสำเร็จ ต่อไปคงต้องระมัดระวังตัวยิ่งขึ้น พวกเราคงจะจับจุดอ่อนของเขาได้ยากขึ้นด้วย” ฉงชูโม่เองก็รู้สึกเสียดายอย่างยิ่ง“ช่างเถอะ พักเรื่องนี้ไว้ก่อน หากสืบสวนต่อไป เกรงว่าเสด็จพ่อจะทรงสงสัยว่าพวกเราสมคบคิดกันใส่ร้ายอ๋องฉู่”“แต่พวกเราจะปล่อยเรื่องนี้ไปเฉย ๆ หรือเพคะ? ในเมื่อที่อ๋องฉู่ตั้งใจจะก่อกบฏก็เป็นเรื่องจริง”ฉินซูกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “มิอาจปล่อยไปง่าย ๆ แน่นอน สิ่งที่เราทำได้ในยามนี้คือรอ รอให้ฉินอวี่ทำผิดพลาดอีกครั้ง ข้าเชื่อว่าเมื่อเรื่องนี้ซาลงไปแล้ว เขาจะต้องเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน เมื่อใดที่มีการเคลื่อนไหว ก็จะต้องมีพิรุธเป็นแน่”ฉงชูโม่ถามว่า “ให้หม่อมฉ้นแอบจับตาดูเขาดีหรือไม่?”

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 710

    ฉินซูขมวดคิ้วกล่าวว่า “ตอนนี้ข้าก็แค่คาดเดา ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด จะสอบสวนเลยได้อย่างไร? ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังเป็นศิษย์เอกของท่านทั้งสิ้น หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เกรงว่าจะส่งผลเสียได้”เหลยเจิ้นส่ายหน้าอย่างจนใจ กล่าวว่า “ที่แท้องค์รัชทายาทก็แค่คาดเดาไปเอง แต่ข้าน้อยบอกท่านได้เต็มปากว่า นอกจากเสวี่ยเจี้ยน โฉ่วเยวี่ยและจีอันแล้ว ข้าน้อยล้วนจับศิษย์คนอื่น ๆ ขังแยกกันไว้ในห้องลับของสำนักหอดูดาวหลวงตั้งแต่ครึ่งปีก่อน พวกเขาไม่มีรอดพ้นจากสายตาข้าน้อยได้อย่างเงียบเชียบแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”“อ้อ? ถูกท่านขังไว้หมดเลยหรือ?”ต่อมความอยากรู้อยากเห็นของฉินซูถูกกระตุ้นขึ้นมาทันที เขาถามต่อว่า “ท่านหัวหน้าโหรหลวงขังพวกเขาไว้ด้วยเหตุผลใดหรือ?”กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเหลยเจิ้นกระตุกสองสามครั้ง เขายกมือขึ้นลูบหน้าผากแล้วตอบว่า “ช่างเถิด ข้าน้อยมิกลัวองค์รัชทายาทจะหัวเราะเยาะอยู่แล้ว ศิษย์เอกของข้าน้อยแต่ละคนล้วนมีสันดานทรยศ ข้าน้อยแน่ใจว่าท่านก็พอจะรู้นิสัยใจคอของโฉ่วเยวี่ยและจีอันอยู่บ้าง ดังนั้นข้าน้อยจึงทำได้เพียงปล่อยให้พวกเขาไตร่ตรองถึงความผิดพลาดของตนเท่านั้น”“เช่นนั้น ศิษย์เอกทั้งเจ็ดคนของท

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 709

    ทันทีที่เขาลงบันไดมา จีอันก็ถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ว่า “ศิษย์พี่รอง โดนดุมาหรือไร?”“ไป ๆ ๆ หัวโขกจนปูดไปหมด เรื่องนี้ข้ายังมิได้คิดบัญชีกับเจ้าเลย!”“ดูเถอะ ขี้ใจน้อยเหมือนสตรีไปได้”“นี่ เจ้าอยู่ดี ๆ มิชอบใช่หรือไม่? ข้าจะฟาดเจ้าคอยดูเถอะ!” ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยไปหาแส้ยาวมาจากไหนก็มิทราบจีอันแคะขี้มูกแล้วกล่าวอย่างมิได้ยี่หระว่า “ข้ามิกลัวเจ้าหรอก ถึงอย่างไรท่านก็สู้ข้ามิได้”“ข้า… เจ้ามันร้ายกาจ ข้ายอมแพ้!”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยหมดความอดทนใดทันที จีอันผู้นี้ขึ้นชื่อเรื่องหนังหนา อีกทั้งยังเก่งกาจจนน่าขนลุก สู้มิได้ เขาหลบดีกว่าพูดจบเขาก็หันหลังเดินออกไปครู่ต่อมา ฉินซูและฉงชูโม่ก็มาถึงเมื่อเห็นฉินซู จีอันก็อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “โอ้โหแฮะ องค์รัชทายาท มิไปประกาศศักดาที่ใดหรือ ไฉนจึงมาเยือนสำนักหอดูดาวหลวงของเราได้?”ฉินซูงงงวยเล็กน้อย จึงถามกลับว่า “ตัวข้าต้องไปประกาศศักดาที่ใดเล่า? อวดอ้างกระไร?”“ท่านมิทรงทราบหรือ? ยึดครองแคว้นหนานเยวี่ยง่ายเหมือนปอกกล้วยเช่นนี้ ผลงานระดับนี้ไยมิไปประกาศให้ทั่วเล่า? หากเป็นข้าน้อย ข้าน้อยจะร้องแรกแหกกระเชอคุยโวไปสามวันสามคืนเต็ม ๆ ท่านนี่ช่าง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 708

    ชิวก่วนกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมองว่า “หาได้มีโจรผู้ร้ายบุกรุกเข้ามาไม่พ่ะย่ะค่ะ หูก่วงเซิงและพวกตายไปโดยไร้สาเหตุ ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีความผิดปกติใด ๆ พ่ะย่ะค่ะ”“ว่ากระไรนะ? หูก่วงเซิงและพวกตายแล้วรึ?”ฉงชูโม่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าประหลาดใจฉินซูกล่าวอย่างมิสบอารมณ์ว่า “มิใช่แค่พวกเขา แม้แต่กองทัพส่วนตัวห้าหมื่นนายของอ๋องฉู่ก็ถูกคนช่วยออกไปแล้ว”“ว่ากระไรนะเพคะ?”ฉงชูโม่ตกตะลึงอ้าปากค้าง!เมื่อได้สติกลับมา นางก็ขมวดคิ้วกล่าวว่า “ด้วยกำลังของอ๋องฉู่เพียงลำพัง ไม่มีทางทำเรื่องเหล่านี้ได้แน่ ดังนั้นเบื้องหลังของเขาต้องมียอดฝีมือคอยช่วยเหลือเป็นแน่เพคะ!”ฉินซูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ศพของหูก่วงเซิงและพวกอยู่ที่ใด?”“ตอนนี้อยู่ที่ศาลต้าหลี่พ่ะย่ะค่ะ”“ไปดูกัน”ฉินซูกล่าวจบก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วหวังฉือเห็นเขาออกมาก็คำนับแล้วกำลังจะกล่าวทว่าฉินซูกลับพูดแทรกขึ้นก่อนว่า “ใต้เท้าหวัง ไปกันเถิด ไปศาลต้าหลี่ของท่านด้วยกัน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังฉือก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็รีบพยักหน้าหนึ่งชั่วยามต่อมาพวกเขาก็มาถึงศาลต้าหลี่เมื่อมองดูร่างไร้วิญญาณของหูก่วงเซิงและพวก ฉ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status