Share

บทที่ 543

Author: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
ในขณะเดียวกัน

หวังฉือและเนี่ยหงกำลังเดินไปยังพระราชวัง

ในขณะนั้น เสนาธิการหลิวเว่ยแห่งศาลต้าหลี่ก็วิ่งตามมา และกระซิบข้างหูหวังฉือสองสามคำ!

หวังฉือถามด้วยสีหน้าประหลาดใจ "จริงหรือ?"

หลิวเว่ยพยักหน้าจริงจัง "จริงแท้แน่นอน คนผู้นั้นอยู่ที่ศาลต้าหลี่ของเรา!"

"ดี! เจ้าดูแลคนผู้นั้นให้ดี เตรียมพร้อมเข้าเฝ้าทุกเมื่อ!!"

หลิวเว่ยพยักหน้าแล้วหันหลังจากไป

เนี่ยหงที่อยู่ข้าง ๆ ถามด้วยความสงสัย "ใต้เท้าหวัง เกิดกระไรขึ้น?"

หวังฉือแสร้งทำเป็นมีลับลมคมใน กล่าวยิ้ม ๆ ว่า "ประเดี๋ยวท่านก็รู้ วันนี้ต้องมีคนเคราะห์ร้ายแน่นอน ฮ่าฮ่าฮ่า!"

คำพูดของเขาทำให้เนี่ยหงสงสัยมากขึ้น

มิว่าเนี่ยหงจะถามอย่างไร หวังฉือก็มิยอมบอก

ทำให้เนี่ยหงกระวนกระวายใจ มองด้วยสายตาขุ่นเคือง

หนึ่งชั่วยามต่อมา

พระตำหนักจินหลวน

ฉินอู๋ต้าวมองไปที่เฉาฉุนข้างกาย

เฉาฉุนจึงกล่าวเสียงดัง "ประกาศ องค์รัชทายาทเข้าเฝ้า!"

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ขุนนางทั้งหลายก็มองไปนอกประตู

สีหน้าของฉินหงและฉินหยางอึมครึมอย่างมาก

ฉินซูเดินเข้ามาอย่างองอาจ ท่ามกลางสายตาของทุกผู้ทุกนาม

ตอนนั้นเขาสวมชุดมังกรสี่กรงเล็บ สวมกวานทองคำสามง่ามประดับอัญมณี
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 544

    หวังฉือกล่าวโดยใช้เหตุผล “ท่านอ๋องซิ่น ข้าน้อยเพียงแต่ขอให้ฝ่าบาทประทานบำเหน็จแก่องค์รัชทายาท มิได้กล่าววาจาดูหมิ่นเบื้องสูงแต่อย่างใดแต่เป็นคำพูดของท่านเมื่อครู่ที่เป็นการยุยง ข้าน้อยเห็นว่าคนที่อยากให้บ้านเมืองวุ่นวายคงเป็นท่านเองมากกว่า!”ฉินหยางชี้ไปที่หวังฉือ มองอย่างโกรธเคือง “หวังฉือ เจ้าหมายความเยี่ยงไร เจ้าว่าข้ากำลังยุแหย่ความสัมพันธ์ระหว่างเสด็จพ่อและองค์รัชทายาทรึ?”“ข้าน้อยมิได้กล่าวเช่นนั้น แต่จริงหรือไม่ ท่านย่อมรู้แก่ใจพ่ะย่ะค่ะ!”คำพูดของหวังฉือ ทำให้ฉินหยางโกรธจัด!เขากล่าวอย่างโกรธเคือง “เสด็จพ่อ หวังฉือเป็นเพียงตุลาการศาลต้าหลี่ แต่กล้าพูดจาสามหาวในท้องพระโรง ซ้ำยังกล่าวหาว่าลูกยุยงปลุกปั่น สร้างความขัดแย้ง ลูกขอเสด็จพ่อโปรดลงโทษเขาสถานหนัก เพื่อเป็นเยี่ยงอย่างพ่ะย่ะค่ะ!”“ท่านอ๋องซิ่น ข้าน้อยเป็นขุนนางขั้นสอง ย่อมมีสิทธิ์ถวายฎีกา แต่ท่านกลับคอยขัดขวาง หรือว่าใครก็ตามที่พูดแทนองค์รัชทายาท ท่านก็จะให้ฝ่าบาทลงโทษสถานหนักหรือ?”เนี่ยหงเองก็สำทับอย่างมิพอใจ “ท่านอ๋องซิ่นช่างมีอำนาจยิ่งนัก คนภายนอกเห็นเข้าคงคิดว่าท่านเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในราชสำนักต้าเหยียน!”“พู

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 545

    หากเป็นเช่นนั้น ในวันชุนเฟินปีหน้า องค์รัชทายาทคงมิถูกปลดแน่!ทั้งสองรีบสบตากัน ครุ่นคิดหาทางรับมือฉินอู๋ต้าวขมวดคิ้ว จากนั้นจึงมองไปทางเหลยเจิ้นอย่างไร้สุ้มเสียง “ขุนนางเหลย เสวี่ยเจี้ยนเป็นศิษย์ของเจ้า เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”เหลยเจิ้นกล่าวอย่างจนใจ “ทูลฝ่าบาท หากเสวี่ยเจี้ยนเต็มใจข้าน้อยก็ยินดีกับนางพ่ะย่ะค่ะ”“เช่นนั้น เจ้าก็มิได้คัดค้าน?”“เสวี่ยเจี้ยนได้รับความโปรดปรานจากองค์รัชทายาท ข้าน้อยจะคัดค้านได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ”“เช่นนั้นก็ดี ในเมื่อขุนนางเหลยมิคัดค้าน เรื่องที่องค์รัชทายาทขอ ข้าก็อนุญาต!”ฉินซูทำความเคารพอีกครั้ง “ลูกขอบพระทัยเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินหงประสานมือกล่าว “เสด็จพ่อ ลูกคิดว่าเรื่องนี้ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ มิควรด่วนตัดสินพระทัยพ่ะย่ะค่ะ”“โอ้? เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”“ทูลเสด็จพ่อ องค์รัชทายาทคือผู้สืบราชสมบัติ การอภิเษกสมรสขององค์รัชทายาทมิใช่เรื่องล้อเล่น แม้ว่ากู้เสวี่ยเจี้ยนจะเป็นศิษย์ของหัวหน้าโหรหลวง แต่เป็นเด็กกำพร้า ลูกคิดว่านางมิเหมาะสมที่จะเป็นชายาขององค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อฉินหงพูดจบ หวังฉือก็ถามด้วยรอยยิ้ม “ท่านอ๋องฉี ท่านหมายความว่าศิษย์

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 546

    เว่ยเจิงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เผยสีหน้าสงสัย ประสานมือให้กับฉินซู และเอ่ยถาม "มิทราบว่าองค์รัชทายาททรงมีสิ่งใดจะชี้แนะหรือพ่ะย่ะค่ะ?"ฉินซูถามด้วยความจริงจัง "ขุนนางอาวุโสเว่ยมีความรู้มากมาย คงจะเคยศึกษาอักษรและภาพวาดของปรมาจารย์มาบ้างใช่หรือไม่? หากมีภาพวาดของปรมาจารย์อยู่ตรงหน้า ขุนนางอาวุโสเว่ยจะแยกออกหรือมิว่าเป็นของจริงหรือปลอม?"เว่ยเจิงมิทราบว่าฉินซูมีเจตนาใด ได้แต่พยักหน้าน้อย ๆ"ข้าน้อยได้รับมอบหมายให้ดูแลสำนักขุนนางใหญ่ มีความรู้ด้านอักษรและภาพวาด หากเป็นภาพวาดที่ผู้อื่นลอกเลียนมา ข้าน้อยมั่นใจแปดส่วนว่าจะแยกแยะออกพ่ะย่ะค่ะ""ดีมาก! ขุนนางอาวุโสเว่ยแยกแยะภาพวาดของปรมาจารย์ได้ เช่นนั้นลายมือของขุนนางทั้งหลาย ท่านก็คงรู้จักดีใช่หรือไม่?"เว่ยเจิงขมวดคิ้ว ถามด้วยความสงสัย "ข้าน้อยมิเข้าใจ องค์รัชทายาทตรัสเช่นนี้ หรือว่ามีขุนนางลอกเลียนภาพวาดของปรมาจารย์ และองค์รัชทายาทต้องการให้ข้าน้อยตรวจสอบหรือพ่ะย่ะค่ะ?""เกือบจะใช่ หากให้ท่านแยกแยะ ท่านจะทำได้หรือไม่?"เว่ยเจิงครุ่นคิดแล้วพยักหน้าช้า ๆ "ปกติข้าน้อยจะจัดการงานราชสำนักแทนฝ่าบาท จึงรู้จักลายมือของขุนนางอยู่บ้าง เช่นนั้นก็น

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 547

    “ข้าน้อยก็เห็นด้วย…”ในชั่วพริบตา ขุนนางที่ออกมาขอประทานบำเหน็จให้องค์รัชทายาทต่างก็แสดงท่าทีกันออกมาแม้แต่ขุนนางคนสนิทของฉินหงและฉินหยางก็ออกมาสนับสนุนด้วยการส่งสัญญาณของทั้งสองท้ายที่สุดแล้วการโค่นฉินเซียวลงอย่างราบคาบย่อมเป็นประโยชน์ใหญ่หลวงต่อทั้งสอง และยังลดคู่แข่งที่แข็งแกร่งลงไปอีกคน!ฉินอู๋ต้าวในตอนนี้กำลังเดือดดาล!เขาปล่อยให้อ๋องหนิงและพรรคพวกแย่งชิงตำแหน่งรัชทายาทได้ และยินดีจะเพิกเฉยตราบใดที่ยังมิน่าเกลียดเกินไปแต่อ๋องหนิงกล้าสมคบคิดกับหัวหน้าชนเผ่าเพื่อโค่นองค์รัชทายาทในวันนี้ วันหน้าย่อมกล้าลุกขึ้นมาก่อกบฏเพื่อยึดอำนาจ!ถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาจะโปรดปรานฉินเซียวเพียงใด แต่ตอนนี้เห็นจะยอมให้เขาทำเช่นนั้นมิได้!เขาจึงกล่าวกับเว่ยเจิงด้วยเสียงหนักแน่น “เว่ยเจิง เจ้าดูจดหมายฉบับนี้อย่างละเอียด ดูว่าจริงดังที่องค์รัชทายาทกล่าวหรือไม่ เป็นอ๋องหนิงเขียนหรือไม่!”เว่ยเจิงรับคำสั่ง นำจดหมายมาตรวจสอบอย่างละเอียดแต่แล้วจู่ ๆ หวังฉือก็เอ่ยขึ้น “ฝ่าบาท เมื่อสองวันก่อนเผยหยวนหัวหน้าฝ่ายกรมอาญาถวายจดหมายส่วนตัวให้พระองค์ด้วยมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ พระองค์นำจดหมายฉบับนั้นให้ขุนนางอา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 548

    ฉินเซียวรีบอธิบาย “เสด็จพ่อ ลูกขอความเป็นธรรมในเรื่องเมื่อสองวันก่อน จดหมายดูหมิ่นเบื้องสูงเหล่านั้นลูกมิได้เขียน ขอเสด็จพ่อทรงพิจารณาด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินอู๋ต้าวแค่นเสียงเย็น “ลูกทรพี ที่ข้าเรียกเจ้ามา มิใช่เรื่องจดหมายเมื่อสองวันก่อน แต่เป็นเรื่องที่เจ้าสมคบกับหัวหน้าชนเผ่าโครยอ!”“พ่ะย่ะค่ะ? เสด็จพ่อ ลูกสมคบกับหัวหน้าชนเผ่าโครยอเมื่อใด ผู้ใดปล่อยข่าวลือ? ลูกขอเผชิญหน้ากับมันผู้นั้น!”ฉินเซียวทำท่าทางงุนงง ราวกับมิรู้เรื่องรู้ราวฉินซูเอามือไพล่หลัง กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ฉินเซียว เจ้านี่ช่างวางแผนตบตาดีเหลือเกิน จดหมายที่เจ้าเขียนถึงทั่วป๋าชื่อถูกข้านำกลับมาแล้ว เจ้ายังจะปฏิเสธอีกหรือ?”“กระหม่อมมิรู้ว่าท่านพูดเรื่องอันใด กระหม่อมเขียนจดหมายถึงทั่วป๋าชื่อตั้งแต่เมื่อใด?”ฉินเซียวพูดจบก็ขอร้องฉินอู๋ต้าว “เสด็จพ่อ ลูกขอวิงวอนร้องให้เสด็จพ่อให้ขุนนางอาวุโสเว่ยและคนอื่น ๆ ตรวจสอบโดยละเอียด แม้ว่าจดหมายเหล่านั้นจะคล้ายลายมือของลูกก็จริง แต่ขุนนางอาวุโสเว่ยผู้มากความสามารถย่อมมองออกว่าเป็นลายมือที่ผู้อื่นเลียนแบบ! ส่วนจดหมายที่องค์รัชทายาทพูดถึงนั้นก็คงเป็นของปลอม ขอเสด็จพ่อทรงพิจารณาด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 549

    ฉินอู๋ต้าวขมวดคิ้ว แล้วกล่าว "ไหนอ๋องจิ้นบอกว่าหลังจากนี้จะมิยุ่งเรื่องราชสำนัก ตั้งใจจะเป็นเพียงอ๋องที่เที่ยวเล่นสำราญมิใช่หรือ? ตอนนี้มาทำกระไร?""ฝ่าบาท อ๋องจิ้นตรัสว่า เมื่อสองวันก่อนเขาบังเอิญช่วยคนสามคนไว้ นำไปสู่เรื่องใหญ่..."เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินอู๋ต้าวก็โบกมือ "ให้เขาเข้ามา""รับพระบัญชา!"หลังจากนั้นมินานฉินเหยี่ยนก็เดินเข้ามาเขามองฉินเซียวด้วยสายตาซ้ำเติม!เมื่อเห็นสายตานั้น ฉินเซียวก็ใจหายวาบ เกิดลางสังหรณ์ร้ายขึ้นหลังจากที่ฉินเหยี่ยนทำความเคารพ ฉินอู๋ต้าวก็กล่าวด้วยเสียงเรียบเฉย "ฉินเหยี่ยน บอกมาว่าเจ้ามาด้วยเหตุใด"ฉินเหยี่ยนกล่าวอย่างจริงจัง "เสด็จพ่อ เมื่อสองวันก่อนลูกพบองครักษ์จวนอ๋องหนิงกำลังจะสังหารอาจารย์สอนหนังสือสามคน ลูกจึงช่วยพวกเขาไว้เมื่อสอบถามจึงรู้ว่า คนทั้งสามถูกอ๋องหนิงบังคับให้เลียนแบบลายมือ เขียนจดหมายหมิ่นเบื้องสูง อ๋องหนิงจึงต้องการฆ่าปิดปาก!"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินเซียวก็ตกใจ รีบแก้ตัว "เสด็จพ่อ ลูกถูกใส่ความ ลูกถูกใส่ความ!""หึ อ๋องหนิง ผิดหรือไม่ รอข้านำพยานมาก็รู้!"ฉินเหยี่ยนกล่าวต่อ "เสด็จพ่อ อาจารย์สอนหนังสือทั้งสามคนกำลังรออยู่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 550

    ฉินเซียวเสียงสั่นเครือ “เสด็จพ่อ ลูกถูกใส่ความ ลูกถูกใส่ความจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ”“ชั่วช้าสามานย์ ถึงที่ตายแล้วยังมิยอมรับผิด วันนี้ตัวข้ามิไว้ชีวิตเจ้าเป็นแน่!”ฉินอู๋ต้าวหยุดชะงัก แล้วกล่าวต่อด้วยโทสะ “อ๋องหนิงสมคบกับหัวหน้าชนเผ่าโครยอคิดก่อการกบฏ โทษประหาร ตัวข้าขอถอดตำแหน่งอ๋อง ลดบรรดาศักดิ์เป็นสามัญชน เข้าคุกแดนประหาร กำหนดวันตัดหัวประจาน!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนก็ตกตะลึง!ไม่มีใครคิดว่าฉินอู๋ต้าวจะจัดการเรื่องนี้อย่างเด็ดขาดฉินเซียวเมื่อได้สติก็ร้องขอความเมตตา“ไม่นะ เสด็จพ่อ...”เขากลัวจนน้ำหูน้ำตาไหล พยายามคลานไปหาฉินอู๋ต้าวบนบันไดหยกแต่ก็ถูกทหารสองคนจับตัวไว้เว่ยเจิงประสานมือให้ฉินอู๋ต้าว กล่าวด้วยความใจร้อน “ฝ่าบาท แม้อ๋องหนิงจะมีความผิด แต่โทษก็ยังมิถึงขั้นประหาร ขอฝ่าบาททรงเมตตาให้โอกาสอ๋องหนิงอีกครั้งด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”“ขอฝ่าบาททรงเมตตา”ขุนนางคนอื่น ๆ ต่างส่งเสียงร้องขอความเมตตาฉินอู๋ต้าวตะโกน “หุบปาก ไม่มีอ๋องหนิง มีแต่ฉินเซียว!”“ฝ่าบาท ถึงอย่างไรฉินเซียวก็เป็นพระโอรสของพระองค์ เพียงเนรเทศเขาออกจากเมืองหลวงก็พอแล้ว ขอฝ่าบาททรงไว้ชีวิตด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 551

    ฉินซูยิ้มเยาะ “น่าขัน เป็นข้าหรือที่สั่งให้อ๋องหนิงสมคบกับทั่วป๋าชื่อ? ที่วันนี้เขาต้องเป็นเช่นก็เพราะเขาทำตัวเอง!”เผยหยวนต้องการพูดอะไรบางอย่าง ทว่าฉินอู๋ต้าวโบกมือ เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “องค์รัชทายาท ท่านบอกว่าเสียนเฟยสมคบกับขันที มีหลักฐานหรือไม่? หากใส่ความโดยไร้หลักฐาน ข้าน้อยก็สามารถลงโทษท่านสถานหนักโดยมิละเว้นได้นะพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินซูกล่าวโดยมิเปลี่ยนสีหน้า “เสด็จพ่อ เมื่อลูกกล้ากล่าวหาเสียนเฟยในท้องพระโรง ย่อมมีหลักฐาน คนร้ายที่ลอบทำร้ายลูกถูกคุมตัวอยู่นอกประตูวัง เสด็จพ่อเรียกตัวมาสอบถามก็จะทราบได้พ่ะย่ะค่ะ”“ใครก็ได้ นำตัวมา!”“รับพระบัญชา!”ฉินอู๋ต้าวนั่งบนบัลลังก์มังกรพร้อมสีหน้ามืดครึ้ม ดวงตาลุกโชนด้วยความโกรธา!วันนี้เขาจะได้เห็นว่าองค์รัชทายาทปั้นเรื่องใส่ความคน หรือคนในวังกล้าสมคบกับขันทีกันแน่!คนอื่น ๆ ก็มีสีหน้าต่างกัน ส่วนใหญ่มีท่าทีเฉยชา เพียงจ้องมองเพื่อความสำราญบันเทิงเท่านั้นถึงแม้เสียนเฟยจะถูกปลด ก็มิได้กระทบต่อผลประโยชน์ของพวกเขานักผ่านไปครู่หนึ่ง คนชุดดำก็ถูกนำตัวมาเมื่อเห็นหน้าคนที่เดินนำหน้ามา ฉินอู๋ต้าวก็ต้องประหลาดใจ!เขากล่าวเสียงเคร่งข

Latest chapter

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 716

    กู้เสวี่ยเจี้ยนถามด้วยความประหลาดใจอย่างยิ่ง “ท่านว่ากระไรนะ? หนานเยวี่ยถูกทำลายแล้วหรือ?”“ใช่ เพิ่งได้รับข่าวเมื่อมินานมานี้ ฉินซูใช้กลอุบายเล็กน้อยก็บีบบังคับให้ทหารหนานเยวี่ยแสนนายยอมจำนน จากนั้นยังนำทหารชั้นยอดเพียงหมื่นนายบุกเข้ายึดเมืองหลวงของหนานเยวี่ย และสังหารเชื้อพระวงศ์หนานเยวี่ยจนหมดสิ้น”“มิจริงกระมัง? ท่านแน่ใจหรือว่าข่าวนั้นเป็นความจริง?” กู้เสวี่ยเจี้ยนแสดงสีหน้าเหลือเชื่อซ่างกวนอวิ๋นซีกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ข่าวนี้เป็นความจริงทุกประการ ต้องยอมรับว่าองค์รัชทายาทผู้รอวันปลดแห่งต้าเหยียนผู้นี้พอมีฝีมืออยู่บ้าง หากเขามา บางทีอาจจะช่วยข้าได้”“ท่านต้องการให้ฉินซูช่วยท่านทำกระไรหรือ?” กู้เสวี่ยเจี้ยนมองซ่างกวนอวิ๋นซีด้วยความหวาดระแวง“ถึงเวลานั้นเจ้าก็จะรู้เอง เอาเถอะ เจ้าลงไปได้แล้ว ข้าจะฝึกวิชา”ซ่างกวนอวิ๋นซีออกคำสั่งไล่แขกดื้อ ๆกู้เสวี่ยเจี้ยนเบะปากแล้วหันหลังเดินลงบันไดไปซ่างกวนอวิ๋นซีกลับไปยังห้องฝึกตน จากนั้นก็ร่ายเวทด้วยสองมือ ตวัดนิ้วส่งพลังปราณไปยังกระจกทองเหลืองบานหนึ่งในเวลาเดียวกันภายในสำนักหอดูดาวหลวงแห่งต้าเหยียนเหลยเจิ้นกำลังนั่งสมาธิบำเพ็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 715

    มู่หรงเซี่ยวเทียนอธิบายว่า “คุณชายหยวน เทพธิดาซ่างกวนกำลังกักตนบำเพ็ญเพียรอยู่จริง ๆ หากท่านมิเชื่อ ท่านสามารถไปดูที่หอดารารักษ์ได้”“ข้าต้องไปแน่ ข้าขอพูดตามตรง ครั้งนี้ที่ข้ามาก็เพื่อสู่ขอนาง เทพธิดาซ่างกวน ข้าจะต้องแต่งกับนางให้ได้!”“การได้รับความเมตตาจากคุณชายหยวนนับเป็นบุญของเทพธิดาซ่างกวน คุณชายหยวนโปรดวางใจ เมื่อนางออกจากด่านกักตนบำเพ็ญเพียรแล้ว ข้าจะทำหน้าที่เป็นพ่อสื่อให้ท่านด้วยตนเอง”หยวนหัวยิ้มประสานมือคารวะมู่หรงเซี่ยวเทียน “เช่นนั้น ก็ขอบพระทัยฝ่าบาทแห่งเป่ยเยี่ยนยิ่งนัก”"คุณชายหยวนเกรงใจเกินไปแล้ว เชิญเถิด"จากนั้น มู่หรงเซี่ยวเทียนก็นำคณะของแคว้นฉีเข้าเมืองในหมู่เชื้อพระวงศ์แห่งเป่ยเยี่ยน หญิงสาววัยสิบแปดสิบเก้าปีคนหนึ่งแค่นเสียงเบา ๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเคือง ว่า “หึ แคว้นฉีพูดเสียดิบดีว่าจะส่งองค์รัชทายาทมาตรวจราชการ เสด็จพ่อจึงเสด็จออกไปต้อนรับด้วยพระองค์เอง ใครจะคิดว่าคนที่มาจะเป็นเพียงบุตรชายของอ๋องเซียงหยาง ช่างมิเห็นหัวคนเสียนี่กระไร”“ใครว่ามิจริงเล่า ข้าเองก็รู้สึกแย่พอกัน หากเป็นอ๋องเซียงหยางเสด็จมาด้วยตนเอง เสด็จพ่อเสด็จออกไปต้อนรับก็ยังพอว่า แต

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 714

    เป่ยเยี่ยนทั่วทั้งเมืองจินหลิงตกอยู่ภายใต้การวางกำลังที่เข้มงวดภายในเมืองหลวงอันกว้างใหญ่ไพศาลของเป่ยเยี่ยนแห่งนี้ สามารถพบเห็นทหารกองรักษาการณ์พร้อมอาวุธได้ทุกหนทุกแห่งบริเวณประตูเมืองทางเหนือมีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด โดยมีกองทัพทหารม้าเกราะหนักซึ่งเป็นกองกำลังที่มีกำลังรบแข็งแกร่งที่สุดของเป่ยเยี่ยนเป็นผู้รักษาการณ์พรมแดงที่โดดเด่นสะดุดตาผืนหนึ่งทอดยาวจากถนนสายหลักเมืองทางฝั่งเหนือ ไปจนถึงนอกประตูเมืองทางทิศเหนือขุนนางทั้งบู๊และบุ๋นของเป่ยเยี่ยนต่างมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ราชรถหรูหราโอ่อ่าของจักรพรรดิจอดอยู่ภายนอกประตูเมืองทางเหนือมู่หรงเซี่ยวเทียนในชุดลายมังกรที่ยืนอยู่สุดปลายพรมแดงกำลังมองไปยังทิศทางอันห่างไกลเบื้องหลังของเขาคือเหล่าพระโอรสและพระธิดามิว่าจะเป็นขุนนางข้าราชบริพาร หรือมู่หรงเซี่ยวเทียน หรือแม้แต่เชื้อพระวงศ์ ต่างก็ตั้งตารอคอยราวกับกำลังรอคอยบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ก็มิปาน“ฝ่าบาท พวกเขากำลังมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”ในขณะนั้นเอง เสียงหนึ่งดังมาจากกำแพงเมืองมู่หรงเซี่ยวเทียนและคนอื่น ๆ มองออกไป เห็นขบวนหนึ่งกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาอย่างช้า ๆ บนถนนหลวงที่อยู่ไกลออกไป

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 713

    "บัดนี้องค์รัชทายาทยังได้แสดงวรยุทธ์อันน่าตื่นตะลึงออกมา ข้าน้อยเห็นว่าก็สามารถใช้ประโยชน์จากองค์รัชทายาทได้ในด้านการประลองยุทธ์พ่ะย่ะค่ะหากมีองค์รัชทายาทเข้าร่วมโดยไม่มีสิ่งใดผิดพลาด ราชวงศ์ต้าเหยียนน่าจะสามารถก้าวเข้าสู่สามสิบอันดับแรกได้และหากแสดงฝีมือได้ดี บางทีอันดับของต้าเหยียนในกลุ่มแคว้นลำดับรองอาจจะขยับขึ้นได้อีกด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ฉินอู๋ต้าวโบกมือ กล่าวด้วยสุรเสียงจริงจังว่า “เรื่องอันดับนั้นมิสำคัญ จุดประสงค์ที่เราเข้าร่วมการประชุมระหว่างแคว้นคือการเข้าสู่สามสิบอันดับแรก แล้วชิงสิทธิ์ในการเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียน”“เช่นนั้นก็ง่ายดาย ข้าน้อยเตรียมพร้อมทุกประการแล้ว ตราบใดที่พวกเขาสามารถเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียนได้ ย่อมต้องพบเทพศาสตราวุธในตำนานและเมล็ดพันธุ์พืชอันล้ำค่า ถึงยามนั้น การที่ต้าเหยียนจะก้าวขึ้นเป็นแคว้นผู้นำก็อยู่แค่เอื้อม”เหลยเจิ้นกล่าวแล้วก็อดตื่นเต้นมิได้ดังที่เคยกล่าวไว้แต่ต้น เมื่อสองร้อยปีก่อน ในแผ่นดินเฉินโจว ต้าเหยียนนั้นเป็นเพียงแคว้นเล็ก ๆ ที่ไม่มีผู้ใดสนใจต่อมาหลังจากได้เข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียน ก็บังเอิญได้ครอบ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 712

    เซี่ยหลานตกใจลนลาน รีบแก้ตัวว่า “มิใช่อย่างนั้น ชูโม่ เจ้าคิดมากไปแล้ว ข้าจะกอดพระองค์ได้อย่างไร เจ้าก็รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาทำกับข้าเช่นไร”ฉงชูโม่จึงนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้เซี่ยหลานเคยถูกฉินซูฉีกอาภรณ์และทำให้อับอายนางจึงคลายความสงสัยในใจ “ข้าแค่ล้อเจ้าเล่นเท่านั้นเอง จะตกใจไปไยเล่า”“หึ กล้าล้อข้ารึ ข้ามิคุยกับเจ้าแล้ว” เซี่ยหลานแสร้งทำเป็นโกรธแล้วหันหลังเดินไปฉงชูโม่เห็นดังนั้นจึงรีบตามไป “เซี่ยหลาน ข้าผิดไปแล้ว เจ้าอย่าใจน้อยนักเลย”มองดูทั้งสองคนที่ทำราวกับว่าตนเป็นอากาศธาตุ ฉินซูก็จนคำจะกล่าวโชคดีที่ในเวลานั้นหลินชิงเหยาเดินเข้ามานางคล้องแขนฉินซูพลางกล่าวด้วยความนัยลึกซึ้งว่า “องค์รัชทายาท อากาศหนาวเย็นเช่นนี้อย่าประทับอยู่ข้างนอกเลยเพคะ ข้างนอกแม้จะเย็น แต่ดีที่ตำหนักบูรพาของเรามีบ่อน้ำพุร้อน องค์รัชทายาทจะเสด็จลงไปแช่เพื่อคลายความหนาวเหน็บหรือไม่เพคะ?”“ไปสิ ไยจึงมิไป!”ฉินซูเข้าใจความหมายในทันที จึงจับมือหลินชิงเหยาแล้วรีบเข้าไปในโรงอาบน้ำอย่างใจจดใจจ่อจากนั้นเขาก็ได้รำลึกถึงความหลังกับหลินชิงเหยาอีกครั้งในขณะเดียวกันเหลยเจิ้นได้รับพระบัญชาให้มายังห้องทรงอัก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 711

    “อืม เพราะหากเป็นเช่นนั้น ก็อธิบายหลายสิ่งหลายอย่างได้”ฉงชูโม่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คนที่สามารถสั่งการยอดฝีมือจากวังหลวงได้ ตำแหน่งของเขาต้องมิธรรมดาอย่างแน่นอน หากคนเช่นนั้นลอบให้การช่วยเหลืออ๋องฉู่ ก็อาจจะปิดบังสายตาของสำนักโหรหลวงได้จริง ๆ”ฉินซูยักไหล่อย่างจนใจ “ดูเหมือนว่าการจะสาวถึงตัวคนที่อยู่เบื้องหลังอ๋องฉู่จะเป็นเรื่องยาก”“ถูกต้องแล้วเพคะ ครั้งนี้อ๋องฉู่ก่อกบฏมิสำเร็จ ต่อไปคงต้องระมัดระวังตัวยิ่งขึ้น พวกเราคงจะจับจุดอ่อนของเขาได้ยากขึ้นด้วย” ฉงชูโม่เองก็รู้สึกเสียดายอย่างยิ่ง“ช่างเถอะ พักเรื่องนี้ไว้ก่อน หากสืบสวนต่อไป เกรงว่าเสด็จพ่อจะทรงสงสัยว่าพวกเราสมคบคิดกันใส่ร้ายอ๋องฉู่”“แต่พวกเราจะปล่อยเรื่องนี้ไปเฉย ๆ หรือเพคะ? ในเมื่อที่อ๋องฉู่ตั้งใจจะก่อกบฏก็เป็นเรื่องจริง”ฉินซูกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “มิอาจปล่อยไปง่าย ๆ แน่นอน สิ่งที่เราทำได้ในยามนี้คือรอ รอให้ฉินอวี่ทำผิดพลาดอีกครั้ง ข้าเชื่อว่าเมื่อเรื่องนี้ซาลงไปแล้ว เขาจะต้องเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน เมื่อใดที่มีการเคลื่อนไหว ก็จะต้องมีพิรุธเป็นแน่”ฉงชูโม่ถามว่า “ให้หม่อมฉ้นแอบจับตาดูเขาดีหรือไม่?”

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 710

    ฉินซูขมวดคิ้วกล่าวว่า “ตอนนี้ข้าก็แค่คาดเดา ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด จะสอบสวนเลยได้อย่างไร? ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังเป็นศิษย์เอกของท่านทั้งสิ้น หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เกรงว่าจะส่งผลเสียได้”เหลยเจิ้นส่ายหน้าอย่างจนใจ กล่าวว่า “ที่แท้องค์รัชทายาทก็แค่คาดเดาไปเอง แต่ข้าน้อยบอกท่านได้เต็มปากว่า นอกจากเสวี่ยเจี้ยน โฉ่วเยวี่ยและจีอันแล้ว ข้าน้อยล้วนจับศิษย์คนอื่น ๆ ขังแยกกันไว้ในห้องลับของสำนักหอดูดาวหลวงตั้งแต่ครึ่งปีก่อน พวกเขาไม่มีรอดพ้นจากสายตาข้าน้อยได้อย่างเงียบเชียบแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”“อ้อ? ถูกท่านขังไว้หมดเลยหรือ?”ต่อมความอยากรู้อยากเห็นของฉินซูถูกกระตุ้นขึ้นมาทันที เขาถามต่อว่า “ท่านหัวหน้าโหรหลวงขังพวกเขาไว้ด้วยเหตุผลใดหรือ?”กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเหลยเจิ้นกระตุกสองสามครั้ง เขายกมือขึ้นลูบหน้าผากแล้วตอบว่า “ช่างเถิด ข้าน้อยมิกลัวองค์รัชทายาทจะหัวเราะเยาะอยู่แล้ว ศิษย์เอกของข้าน้อยแต่ละคนล้วนมีสันดานทรยศ ข้าน้อยแน่ใจว่าท่านก็พอจะรู้นิสัยใจคอของโฉ่วเยวี่ยและจีอันอยู่บ้าง ดังนั้นข้าน้อยจึงทำได้เพียงปล่อยให้พวกเขาไตร่ตรองถึงความผิดพลาดของตนเท่านั้น”“เช่นนั้น ศิษย์เอกทั้งเจ็ดคนของท

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 709

    ทันทีที่เขาลงบันไดมา จีอันก็ถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ว่า “ศิษย์พี่รอง โดนดุมาหรือไร?”“ไป ๆ ๆ หัวโขกจนปูดไปหมด เรื่องนี้ข้ายังมิได้คิดบัญชีกับเจ้าเลย!”“ดูเถอะ ขี้ใจน้อยเหมือนสตรีไปได้”“นี่ เจ้าอยู่ดี ๆ มิชอบใช่หรือไม่? ข้าจะฟาดเจ้าคอยดูเถอะ!” ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยไปหาแส้ยาวมาจากไหนก็มิทราบจีอันแคะขี้มูกแล้วกล่าวอย่างมิได้ยี่หระว่า “ข้ามิกลัวเจ้าหรอก ถึงอย่างไรท่านก็สู้ข้ามิได้”“ข้า… เจ้ามันร้ายกาจ ข้ายอมแพ้!”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยหมดความอดทนใดทันที จีอันผู้นี้ขึ้นชื่อเรื่องหนังหนา อีกทั้งยังเก่งกาจจนน่าขนลุก สู้มิได้ เขาหลบดีกว่าพูดจบเขาก็หันหลังเดินออกไปครู่ต่อมา ฉินซูและฉงชูโม่ก็มาถึงเมื่อเห็นฉินซู จีอันก็อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “โอ้โหแฮะ องค์รัชทายาท มิไปประกาศศักดาที่ใดหรือ ไฉนจึงมาเยือนสำนักหอดูดาวหลวงของเราได้?”ฉินซูงงงวยเล็กน้อย จึงถามกลับว่า “ตัวข้าต้องไปประกาศศักดาที่ใดเล่า? อวดอ้างกระไร?”“ท่านมิทรงทราบหรือ? ยึดครองแคว้นหนานเยวี่ยง่ายเหมือนปอกกล้วยเช่นนี้ ผลงานระดับนี้ไยมิไปประกาศให้ทั่วเล่า? หากเป็นข้าน้อย ข้าน้อยจะร้องแรกแหกกระเชอคุยโวไปสามวันสามคืนเต็ม ๆ ท่านนี่ช่าง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 708

    ชิวก่วนกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมองว่า “หาได้มีโจรผู้ร้ายบุกรุกเข้ามาไม่พ่ะย่ะค่ะ หูก่วงเซิงและพวกตายไปโดยไร้สาเหตุ ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีความผิดปกติใด ๆ พ่ะย่ะค่ะ”“ว่ากระไรนะ? หูก่วงเซิงและพวกตายแล้วรึ?”ฉงชูโม่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าประหลาดใจฉินซูกล่าวอย่างมิสบอารมณ์ว่า “มิใช่แค่พวกเขา แม้แต่กองทัพส่วนตัวห้าหมื่นนายของอ๋องฉู่ก็ถูกคนช่วยออกไปแล้ว”“ว่ากระไรนะเพคะ?”ฉงชูโม่ตกตะลึงอ้าปากค้าง!เมื่อได้สติกลับมา นางก็ขมวดคิ้วกล่าวว่า “ด้วยกำลังของอ๋องฉู่เพียงลำพัง ไม่มีทางทำเรื่องเหล่านี้ได้แน่ ดังนั้นเบื้องหลังของเขาต้องมียอดฝีมือคอยช่วยเหลือเป็นแน่เพคะ!”ฉินซูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ศพของหูก่วงเซิงและพวกอยู่ที่ใด?”“ตอนนี้อยู่ที่ศาลต้าหลี่พ่ะย่ะค่ะ”“ไปดูกัน”ฉินซูกล่าวจบก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วหวังฉือเห็นเขาออกมาก็คำนับแล้วกำลังจะกล่าวทว่าฉินซูกลับพูดแทรกขึ้นก่อนว่า “ใต้เท้าหวัง ไปกันเถิด ไปศาลต้าหลี่ของท่านด้วยกัน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังฉือก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็รีบพยักหน้าหนึ่งชั่วยามต่อมาพวกเขาก็มาถึงศาลต้าหลี่เมื่อมองดูร่างไร้วิญญาณของหูก่วงเซิงและพวก ฉ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status